มีไครเป็นบ้างแค่หลับตาก็เห็นภาพขึ่นมา

จะเป็นช่วงเวลานอนหรือแค่หลับตา มันจะเห็นภาพสถานทีสิ่งของต่างๆในบางครั้งแต่ภาพที่เห็นก็ไม่ชัดเท่าไหร่ แต่พอพยายามเพ่งมองมันก็ค่อยๆหายไป

 

เคยครับ มันเลือนลาง จะเห็นแบบไม่ตั้งใจ ถ้ากำหนดดูจะหายไปครับ
ผมว่ามันคงเป็นภาพสัญญาเก่าๆ หรือ ภาพในสมองหรือเปล่าไม่รู้นะ หรืออาจจะเกืดจากการที่เคยฝึกกำหนดสติมาก็เป็นได้ เวลาฝันยิ่งชัดครับ

 

เห็นครับ ที่เห็นแบบไม่ต้องใช้ความพยายามมาก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องโลกียะ เห็นชัดจนตัวเอง
รู้สึกว่าเราสนใจเรื่องนี้มากไปหรือเปล่า

ส่วนสถานที่มักจะเห็นตอนนอน จนไม่แน่ใจว่าเรากำลังหลับตาอยู่หรือเปล่า ส่วนใหญ่เป็น
สถานที่ ๆ บอกไม่ได้ว่าเป็นที่ไหน

 

เป็นปรกติครับ
ช่วงก่อนนอน เป็นช่วงที่บุคคลส่วนใหญ่อยากจะหลับพักผ่อนแล้ว
เรื่องกังวลในสมองในความคิดจะไม่ค่อยมี
เวลาก่อนนอนจะเป็นช่วงที่มีสมาธิมากที่สุด ( สำหรับคนทั่วไป )
จิตใต้สำนึกจะผุดออกมาสร้างภาพสร้างนิมิตให้เราเห็น หรืออาจจะเป็นเสียงให้เรารู้สึกเหมือนได้ยินก็ได้
เป็นภาวะเหมือนฝันทั้งๆที่ยังไม่ทันหลับ มีสติ รู้ตัวว่านั่งหรือนอนอยู่
สภาวะที่จิตไม่ค่อยโต้ตอบกับสมองในส่วนของความทรงจำ เราจะเหมือนมองเห็น แต่เก็บรายละเอียดไม่ได้ เพราะไม่ได้ใช้สมองในส่วนความทรงจำมาประมวล
และเมื่อเริ่มคิดพิจารณา สติปรกติ จิตสำนึกจะปรากฏ ภาพหรือนิมิตดังกล่าวจะหายไปก่อน ไม่ทันได้รับรู้แน่ชัดว่าคืออะไร

สภาวะของผู้ทรงฌาน จะพยามคิดเท่าไรก็คิดไม่ออก เพราะมีแต่จิต สมองไม่ได้นำมาใช้ เห็นก็เลยแค่เห็น แต่คิดไม่ได้ เมื่อไรอยากคิด ฌานมันก็แตก

 

ทุกวันนี้ผมเหมือนจะ เป็นหนักกว่าอีกนะ แค่นอนๆกำลังมีสมาธิจะหลับ มันเหมือนมีคนมากระแอมส่งเสียง แกล้งผมต้องสะดุ้งลุกมาดูทุกครั้ง คิดอยู่ว่าเสียงพวกนี้ มาจากเราจริงหรือไม่

 

ไช่ๆๆ ชีวิตผมมันเหมือนจะอยู่ในฝันตลอดเลย อยู่ในอารมณ์เหมือนคนไม่ตื่นน่ะ
ไม่คิดอะไรมาก เฉยๆ แล้วแต่ความรู้สึกจะพาไปน่ะครับ

 

แต่เมื่อคืน ตีสองโน่นมั้ง ถึงจะหลับ เมื่อคืนใครนอนไม่ค่อยหลับบ้างครับ มันไม่ง่วงน่ะ

 

คืนก่อนนอนฝันไป เห็นเหมือนเงาใบหน้าผู้หญิง ทำเหมือนเงาวิญญาณ ผมเลยเอาด้ามไม้กวาดไล่ตีสักพักกลายร่างเป็น น้องชมพู่ กะว่าจะเข้าพระเข้านาง อิอิ เธอบอกว่า ไม่ทำอายคนอื่น ว่างั้น เฮ้อเสียดาย อิอิ

 

ทุกวันนี้ ผมยังพยายาม เอาคืนคนที่ชอบเข้ามาแกล้งผมในความฝันอยู่ครับ อิอิ ขัดความสุขผมตลอดเลย

แต่ที่ผ่านมา ผมถูกจิตอื่นเข้ามาสอนผมทางความฝันซะส่วนมากเลยนะครับ พระอาจารย์มั่น หลวงตามหาบัว และอื่นๆ รวมทั้ง เทพ ทั้งเทวดา ทั้งผี เขามาช่วยสอนเราได้นะครับ
ผมเรียนรู้ทางความฝันเยอะมากครับ ทั้งฝันเห็นคนอื่นตาย เห็นตนเองตาย สนุกดีครับ

 

ส่วนมากก็พญานาค มาบ่อย บางทีก็ฝันเห็นแต่ในป่าหิมพานต์ ว่าตนเองเป็นครุฑบ้าง
ไปดาวอื่นบ้าง ลอยไปสุดขอบจักรวาลบ้าง อึ๋ย สยอง ตรงที่ไปคนเดียวนี่แหละครับ ถ้ามีเพื่อนไปด้วย คงจะดีไม่น้อย

 

พูดถึงแล้วก็สนุกดีครับ เคยถามผู้เชี่ยวชาญเขาบอกว่า
ผมต้องไปกวาดล้างทุกภพภูมิ เพื่อให้มารวมกันในโลก เพื่อกลับคืนสู่จุดเริ่มต้น
ตอนนี้ก็เหลือเพียงโลกมนุษย์ กับมนุษย์ผู้ที่ยังผูกพันกับ สัญญาเก่าที่มีทั่งอดีตมากมายหลายตัวตน กับอนาคตที่หลงสร้างขึ้นมา รวมทั้งจิตวิญญาณอื่นที่เข้ามาแทรก เช่น จากนรกและสวรรค์ เพื่อคืนความเป็นมนุษย์ให้แก่มนุษย์อีกครั้งครับ

เรื่องของผม มันจะเว่อร์ไปหน่อยนะครับ ฟังเป็นเรื่องสนุกๆนะครับ

 

หลับตาปั๊บ เห็บปุ๊ปเลย ภาพขึ้นมา ไม่ใช่ภาพขึ่นมา

ก่อนจะมีอิธิฤทธิ์ เห็นนู้น เห็นนี่ มีอะไรเหนือธรมชาติ

พิมภาษาไทยง่ายๆ ให้ถูกก่อน ดีไหมอ่า

ฟันธง

 

เวลาตรึก วิธีตรึก อย่าไป ตรึกด้วยการ อยากจะรู้ให้ชัดๆ อยากเห็นให้ชัดๆ

ความ อยากเห็นให้ชัดๆ รู้ให้ชัด จะเป็น โลภะมูลจิต จิตจะเป็นอกุศล ทำให้ตกจาก
ตรึกที่ถูกวิธี ภาพมันก็เลยหาย

การตรึกให้ถูกวิธี เวลาเห็นภาพ จะชัด จะไม่ชัด ให้สาวไปหาเหตุ ลูกเดียวว่า
ทำไม ภาพจึงปรากฏเป็น "ผัสสะ" กระทบ อยานตนะ( ทางตาก็ได้ ทางหูก็ได้
ทางกาย ทางจมูก ทางลิ้น หรือ ทางใจก็ได้ )

เราก็จะ จำแนกได้ว่า เพราะมี ตา หู จมูก ลิ้น ในกรณีของเจ้าของกระทู้ ก็เรียกว่า ใจ

เพราะ มีใจ หรือ มโน จึงเกิด ผัสสะ ( รูปที่ชัดก็ได้ ไม่ชัดก็ได้ )

และเพราะมี ผัสสะ รูปที่ปรากฏขัด หรือ ไม่ชัด จึงมี เวทนา ความพอใจที่ได้เห็น
ไม่พอใจที่เห็นไม่ชัด หรือ เฉยๆ

พอเวทนาเป็นปัจจัย ทำให้เกิดการ อยากเห็นให้ชัดๆ ตัณหาจึงเกิด หรือ ทยานอยาก

หลังจากนั้น ก็ว่ากันไป ตามความสามารถในการ กำหนดรู้เห็น เหตุ ปัจจัย หรือว่า
จมไปกับการแสวงหาคำตอบอย่างคนไม่เคยสดับวิธีการ กำหนดรู้ การตรึกที่ถูกต้อง

ถ้าเราสามารถกำหนดรู้ได้อย่างถูกต้อง ก็จะ " เห็นตามความเป็นจริง "

เห็นชัด หรือ เห็นไม่ชัด ต่างแสดง ความเป็นจริง ให้เห็น เท่าๆ กัน

 

เป็นเหมือนกันนานๆครั้ง ชัดเจนจนต้องลืมตา แต่ตอนหลับแล้วชอบมีเสียงเหมือนยางรถระเบิด ทำให้ตื่นบ่อยครั้ง ถ้านั่งสมาธิจะมีเสียงดังเปรี๊ยะๆข้างหูตลอด

 

บางทีผมทำสมาธิกำลังจะหลับ มันเหมือนมีเสียงขึ้นตรงหน้าเลยครับ เอสงสัยว่า เสียงจากตนเองหรือเปล่า เพราะเราก็สงบอยู่ ทำไมเสียงนั้นทำเราตกใจได้
แต่ไม่คิดมากหรอกนะครับ เพราะเรื่องพิลึกๆ เจอมาเยอะละ ธรรมดา พวกมีตาทิพย์ กายทิพย์ จะมายุ่งกับเรา ห้ามไม่ได้

ได้แต่ ทำใจครับ เพราะ มันอะไรก็มี ก็เกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ต้องคิดมากว่าตนเอง วิเศษอะไร เพราะยุคนี้ อภิญญาเบ่งบาน ไม่หลงเป็นพอครับ

 

เบื่อแต่คนเก่งบางคนที่ถอดกายทิพย์ได้นั่นแหล่ะครับ ชอบมาแกล้ง
ส่วนจิตภพภูมิอื่น เราทำดีทำถูกต้องก็ไม่ต้องกลัวครับ
เอาเจตนาดีเป็นที่ตั้ง รักษาตนเองแทนศีลครับ

 

การช่วยเหลือจิตระดับผี สัมภเวสี น่ากลัวครับ บางวิญญาณ มาพร้อมความแค้น อิอิฉะหยองน่าดูชม ต้องฟัดกันก่อน ผู้แพ้ค่อยยอมรับผู้ชนะ เหนื่อยแบบสนุกเลยล่ะ
ถ้าไม่กลัวอ่ะนะ

 

ตาที่สามเปิดมั้งคะ ทำให้เห็นภาพในต่างมิติที่ซ้อนๆกันอยู่กับมิติที่เราอยู่

ส่วนของเราเนี่ย ไม่ได้ฝันนะเป็นเรื่องจริง เคยขับรถทะลุมิติเวลา แต่โชคดีที่เป็นการขับจากสถานที่หนึ่งไปโผล่สถานที่หนึ่ง เหตุเกิดที่ถนนวิภาวดี ขับมากับพี่สองคน หลังเสร็จธุระจากลำลูกการังสิต จะกลับบ้านที่ปากเกร็ดแจ้งวัฒนะ ได้ขับมาออกมาที่ถนนวิภาวดี ไปกลับรถตรงสะพานกลับรถเลยสี่แยกงามวงศ์วานไปกิโลนึง แล้วเลี้ยวกลับมาออกทางคู่ขนาน เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าแยกหลักสี่ ปรากฏว่าแยกที่เคยเลี้ยวเข้าหลักสี่หายไปเฉยๆ ซะงั้น หลักสี่พลาซาร์ตรงสี่แยกก็หายไป เห็นแต่ป้ายดอนเมือง ๆ ๆ เป็นระยะๆๆ เราก็ไม่รู้ว่าเลยแยกหลักสี่มาได้ยังงัย เลยขับมันไปเรื่อยๆ จนเจอป้ายเลี้ยวซ้ายไปลำลูกกา ก็เลยหาทางกลับรถย้อนมาทางเก่า

 

พอมาดูหนังเรื่อง นักรบอะไรจำไม่ได้ดับทัพอสูร ของ ทอมครูส เราเลยจินตนาการว่า
บางที อนาคตมันขึ้นอยู่กับความคิดของปัจจุบันก็อาจเป็นได้ ว่า

อิอิ มันพิลึกหน่อย เท่านั้นเองครับ อธิบายยากน่ะ

 

เรื่องจิต วิญญาณ ความฝัน ความคิด มิติ
เรื่องพวกนี้มันคือ อดีต ปัจจุบัน อนาคตที่ ทับซ้อนกันอยู่ อยู่ที่ว่า จิตปัจจุบันมันจะต้องไปแก้ไข ณ เวลาใด ทั้งหมดให้ยึดกับปัจจุบันให้ได้ ฝึกจิตก็เพื่อ เท่านี้เอง

ถ้าอยู่ รู้ กับปัจจุบันไม่ได้ เรียกว่า หลงออกจากตนเอง