เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

ขออนุญาตฝากคำถามไว้ทาง PM อีกครั้งนะคะ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือค่ะ

ขออนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลของคุณก้องด้วยค่ะ

 

กราบสวัสดีค่ะ อาจารย์ก้อง อนุโมทนาบุญด้วยน่ะค่ะ ขออวยพรย้อนหลังน่ะค่ะ ขอให้อาจารย์และครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปทั้งทางโลกและทางธรรม

...มีเรื่องรบกวนถามค่ะว่า
อาจารย์ได้แนะการทำสมาธิให้แล้ว ก็ยังปฏิบัติแบบทำบางเว้นบ้างไม่มีวินัย ...จนกระทั่งคืนหนึ่งจุดธูปตั้งใจอธิษฐานเรื่องการปฏิบัติไว้ แบบจริงๆจังๆได้แค่วันเดียวเท่านั้น พอเข้าวันที่สอง ปวดท้อง ปวดหัว ร่างกายไม่อำนวย อันนี้ไม่เท่าไร พ่อจากที่เมาอยู่ปกติ แกก็เมามากขึ้นผิดปกติ คุยกันยิ่งไม่เข้าใจ เมื่อคืนก็ประสบอุบัติเหตุจนได้ เจ็บไม่มากก็เมาต่อ ..
1...ที่สงสัยคือ สังเกตุหลายครั้งแล้ว ตั้งใจอะไรไว้ โดยเฉพาะเรื่องปฏิบัติ เจอรุ้มเราแบบนี้ตลอดเลยเจ้าค่ะ
2..ทุกครั้งที่มีเรื่องมากระทบจิตใจ หนูจะร้องไห้แล้วไปนั่งเงียบๆในห้องพระ เวลาจะสงบอารมณ์
นั่งปิดตา แล้วถามตัวเองว่า" เราทุกข์ที่สุดแล้วหรือ "
แล้วนึกถึงคนที่ลำบากกว่าเรา "ทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป" ภาวนาอยู่อย่างนี้เรื่อยๆ แต่จิตใจวิ่งวุ่น ไม่นิ่งเลย เหมือนแค่เอากรงมาครอบไว้ ไม่ให้หลุด แต่บังคับให้นิ่งให้ปลงไม่ได้เลย ..หนูควรวางอารมณ์ยังไงค่ะ

...
กราบขอบพระคุณล่วงหน้าน่ะค่ะ อาจารย์
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านด้วยน่ะค่ะไม่ว่าทุกข์มากทุกข์น้อย ของเขาของเรา ขึ้นชื่อว่าทุกขแล้ว เป็นสภาพที่ใครก็ไม่อยากประสพ เศร้า แต่ก็สู้ๆๆน่ะค่ะ[

 

=====================

ไม่เฉพาะคุณ เท่านั้น แม้ผมเองหรือ ท่านอื่นๆ เวลาที่เราพยายามทำความดีสร้างบารมี ย่อมมีมาร มีอุปสรรคเสมอ มากบ้างน้อยบ้าง

ดังนั้นผมอยากชี้ให้เห็นว่า แท้จริงแล้ว การจะทำอะไร มันเริ่มต้นที่ความตั้งใจดีอันแน่วแน่มั่นคง เพราะมารหรือวิบากกรรมไม่ดีที่ตามให้ผล มันก็ทำหน้าที่ของมันไป ตามวาระของมัน และหากเราพิจารณาให้ดีก็จะทราบว่า แท้จริงสิ่งภายนอกทั้งหลายความคุมได้ยากเกินกำลังของเรา สิ่งภายนอกที่ว่า คือรูปนามทั้งปวงที่อยู่ภายนอก ส่วนสิ่งที่ควบคุมแก้ไขได้ก็คือจิตของตนเท่านั้น แต่จิตของตนจะสามารถชำระได้ควบคุมบังคับได้ ก็ต้องอาศัยการปฏิบัติธรรม อาศัยสติปัญญารอบรู้นั่นเอง

ขอให้มีขันติความอดทนและความเพียร อันความดีเหล่าใดบารมีสิ่งใด ที่กระทำได้ยากยิ่ง นั่นคือต้องอาศัยพละกำลังหลายอย่าง ตลอดจนจิตใจที่ดีงามสะอาดบริสุทธิ์ ย่อมให้ผลที่วิเศษสุดแก่จิตใจเราเสมอ

เมื่อใดที่จิตเราฝึกมาดีแล้ว ย่อมมีความสงบดุจขุนเขาไม่หวาดหวั่นแม่พายุลมฝน หรือคลื่นที่ซัดเข้าหา ไม่มีอะไรให้หวาดกลั่วหรือหวั่นไหว เมื่อนั้นจิตท่านยอดเยี่ยมผ่านด่านพยามารน้อยใหญ่ได้มากแล้ว หนทางที่เหลือก็มีแต่งอกงามไพบูลย์ครับ สาธุ

อีกนิดครับสุดท้าย แม้การทำดีของเราปราถนาให้ผู้อื่นได้ดี แต่ในความเป็นจริงปัจจัยภายนอกทั้งหลายไม่เที่ยงควบคุมได้ยากเพราะมีหลายปัจจัยปรุงแต่ง ผลที่ได้รับอาจไม่เป็นดังปราถนา แม้เป็นแบบนี้ก็ไม่ควรท้อถอยอ่อนใจ แต่ควรสงบนิ่งปล่อยวาง เพราะนั่นถือว่านอกเหนืออำนาจความดีของเราที่เราทำหรือแผ่อุทิศให้เขา แต่อย่างน้อย ความดีที่เราทำสร้างไว้ ก็ไม่ได้สูญหายไปไหน ยังคงติดตามและให้ผลแก่เราเมื่อถึงเวลาอันสมควร นั่นเองครับ สาธุ

 

สวัสดีครับ คุณพี่ tjs ก่อนหน้านี้ผมเคยประกาศออกตัวว่าจะไม่เข้ามาเว็บนี้ที่นี่อีก แต่ก็นั่นแหละครับผมต้องยอมให้น้ำลายที่ตนเองถ่มขึ้นฟ้าออกไปกลับตกลงมารดหน้าตัวเองซะ เพราะมีเรื่องสำคัญจะมาบอกคุณพี่ tjs ให้รับรู้ด้วยครับ เพราะยังไงผมจะลืมพระคุณของคุณพี่ tjs ที่ได้แนะนำธรรมะให้กับผมในช่วงเวลาที่ผ่านมาแล้วไม่ได้ วันนี้ก็เลยขอแหกคำพูดตนเองที่ได้บอกไว้คราวก่อนมาเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาแล้วและกำลังที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้คุณพี่ tjs ได้รับรู้รับทราบครับ

จากคราวก่อนโน้นที่ผมเคยเล่าว่า “ผมได้ให้แม่ของผมไปถามเทวดาที่มาสร้างบารมีกับคนทรงเจ้า และได้คำตอบมาว่า เห็นจิตผมนุ่งขาวห่มขาวกำลังรอบวชอยู่นั้น” บัดนี้เรื่องที่ว่านี้มีเค้าว่าจะเป็นจริงในเวลาอันใกล้นี้แล้วครับ คือก่อนหน้านี้จากที่ผมได้ตั้งใจว่าจะไม่เข้ามาเล่นเว็บหรือมาเขียนตอบอะไรในเว็บนี้อีกแล้ว ซึ่งผลที่ได้ก็ถือว่าใช้ได้พอสมควรครับ เพราะตัดวิตก วิจารณ์ อารมณ์ฟุ้งเรื่องของคนอื่นไปได้เยอะเลย จิตใจเลยหันหวนเข้ามาหาเรื่องของตัวเองมากขึ้น แต่วิถีชีวิตทางโลกของผมก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ดีขึ้นเลย มิหนำซ้ำยังแย่มากขึ้นกว่าเดิมอีก เพราะตอนนี้ผมและภรรยาก็มีเหตุให้ต้องตกงานทั้งคู่ เงินก็จะหมดในอีกประมาณเดือนถัดไปนี้แล้ว

ผมจึงคิดทบทวนทุกสิ่งทุกอย่างในช่วงเวลาที่ผ่านมาแล้วทั้งหมด ตอนนี้ผมอายุ 25 กว่าจะ 26 เดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ ตั้งแต่ผมได้เริ่มทำงานมา ผมเปลี่ยนที่ทำงานมาแล้วประมาณ 7-8 ที่เข้าให้แล้ว ถ้าเป็นคนก็คงจะเป็นคนประเภทไม่เอาไหน ไม่เอาการเอางานอะไรเลย หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ไม่เอาอะไรเลย แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ผมมันก็มีนิสัยแบบนั้นจริงๆ คือไม่ชอบที่จะต้องเป็นลูกน้องคนอื่น เคยมีคนทรงเจ้าทักผมมาก่อนหน้านี้นานแล้ว ว่าดวงชตาผมนี้ทำงานเป็นลูกน้องใครก็ไม่เจริญ เพราะเป็นคนประเภทซื่อๆตรงๆ ไม่อ้อมไม่ค้อม สองหัวไม่เป็น อันไหนถูก ก็ว่าไปตามถูก อันไหนผิดก็ว่าไปตามผิด ถึงแม้ว่าจะกระทบกับหน้าที่การงาน จะผิดทะเลาะกับหัวหน้าก็เอา ถ้าสิ่งนั้นเป็นความถูกต้องชอบธรรม พูดง่ายๆว่าตรงฉินเลย ถ้าบ้านผมภาษาเหนือเขาเรียกคนแบบผมว่า “คนบักเดียว” 55 คือประเภทไม่ยอมเลียแข้งขาใครเลย

แต่นั่นมันก็อาจจะเป็นแค่เศษเสี้ยวส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมไม่ก้าวหน้าในหน้าที่การงานทางโลกเลยในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่เหตุสำคัญต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมันมาจากกฎของกรรมที่กำลังให้ผลแก่ชีวิตผมอยู่ในตอนนี้ พูดง่ายๆว่ามันเป็นเพราะกรรม จะชาติไหนเวลาใดผมไม่รู้ล่ะ แต่ผมเชื่ออย่างนี้

ผมพึ่งได้ออกจากงานพร้อมกับภรรยาในช่วงก่อนสงกรานต์นี้ครับ เหตุที่ให้ออกก็แบบงงๆเหมือนกัน คือภรรยามีปัญหากับที่บ้านแล้วเครียด พอเครียดแล้วตอนเช้ากลับไม่อยากไปทำงานเอาดื้อๆซะงั้น ไอ้ผมก็เครียดไปกับเธอด้วย ก็เลยพากันกอดคอไม่ไปทำงานทั้งคู่ เป็นแบบนี้ซ้ำซากอยู่ตั้ง 2 วัน และก็ไม่ได้โทรลาบริษัทล่วงหน้าอะไรเลย ขาดงานไปดื้อๆนั่นแหละ จนวันที่ 3 ผมและภรรยาก็พากันถอดใจไม่ไปทำงานกันแล้ว ก็ได้แต่เครียดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าทำไมถึงเอาเรื่องครอบครัวทางบ้านมาปนกับเรื่องงานด้วย ถ้าคิดไปอย่างผู้ที่ไม่เข้าใจอะไรลึกซึ้งก็คงจะดูเหมือนว่า ทั้งผมและภรรยา เป็นคนที่จิตใจอ่อนแอไม่เอาไหนซะเลย ซึ่งถ้าคิดแบบนี้ผมก็ไม่เถียง แต่ส่วนตัวแล้ว ผมมองว่ามันเป็นกฎของกรรมใหญ่มากๆ ซึ่งจู่ๆก็เข้าให้ผลทั้งคู่ให้อกอับทันทีแบบนี้ แต่ของอย่างนี้ก็แล้วแต่ใครจะตีความไปเป็นอย่างไรล่ะครับ และหลังจากต้องออกจากงานแบบขาดเอาดื้อจนครบ 3 วันทำงานแล้ว ผมก็พาภรรยา ไปทำบุญใส่บาตร ถวายสังฆทาน ถวายพระพุทธรูปหน้าตัก 5 นิ้ว ไปต่อชตา บังสกุลตาย บังสุกุลเป็นและปล่อยปลาที่เขาเตรียมฆ่าไว้ขายจำนวน 9 ตัว กันแล้วนั้น แต่สิ่งที่ผมกำลังคาใจอยู่ว่าผมจะเอายังไงกับชีวิตที่ดูเหมือนว่าจะไม่เจริญทางโลกนี้เลยอย่างไรดี ผมจึงชวนภรรยาไปหาคนเข้าทรงที่มีเทวดาบุญฤทธิ์ใหญ่ มาร่วมสร้างบารมีกับท่านด้วย เพื่อที่จะได้รู้กันเสียทีว่าตกลงชีวิตนี้จะไปทางไหนจะทำอะไรอย่างไรถึงจะดี

ได้ความมาว่า “ที่ผมทำอะไรก็ไม่เจริญรุ่งเรืองไม่ก้าวหน้าในหน้าที่การงานทางโลกเลย เป็นพระว่าชาติก่อนผมเคยได้เป็นแต่เจ้านายคน แต่ชาตินี้ด้วยเพราะผลของกรรมบางอย่างจึงทำให้ผมต้องได้กลับมาชดใช้โดยการต้องทนไปเป็นลูกน้องเขาให้โดนดุด่าโขกสับบ้าง แต่โดยอนุสัยเดิมในชาติก่อนๆที่ผมได้เคยเป็นแต่เจ้านายคนมานานนั้น จึงทำให้ผมไม่ชอบที่จะต้องทนอยู่ในสภาพของการเป็นลูกน้องคนเลย ซึ่งผมลองมาพิจารณาดูแล้ว มันก็ตรงกับความรู้สึกนึกคิดของผมจริงๆ ว่าผมไม่ชอบไปเป็นลูกน้องใคร และเรื่องที่สำคัญยิ่งกว่านั้น จนอันเป็นเหตุให้ผมต้องกลับเข้ามาที่นี่เพื่อมาเล่าบอกกับคุณพี่ tjs อีกครั้ง ทั้งๆที่บอกว่าจะไม่เข้ามาที่นี่อีกแล้วก็คือ เทวดาผู้ที่เข้าทรงท่านทักบอกว่า “กรรมในผ้าเหลืองของผมยังไม่หมด ตอนนั้นท่านใช้คำพูดบอกกับผมว่า หนี้ผ้าเหลืองยังไม่หมด ต้องได้ไปใช้หนี้อีก ผมก็มาคิดเอาว่าผมไปติดหนี้สงฆ์ตอนไหน เพราะผมก็ได้เคยบริจาคร่วมสร้างพระประธานขนาดหน้าตัก 4 ฉอกไปแล้ว และก็ตั้งใจบริจาคเพื่อชำระหนี้สงฆ์ที่ติดค้างกันมาทั้งหมดทุกภพชาติไปก่อนหน้านี้แล้วนี่ แต่พอคิดไปคิดมา เทวดาท่านน่าจะใช้ภาษาที่ทำให้เราเข้าใจคลาดเคลื่อนไป ถ้าเป็นความหมายในความรู้สึกของผม ผมคิดว่าน่าจะหมายถึงว่า ผมยังไม่หมดบุญผ้าเหลือง จะต้องได้กลับไปบวชต่ออีก อะไรประมาณนั้น แต่ก็เอาเถอะ จะหมายถึงยังไงก็ตามแต่ เรื่องของเรื่องคือผมจะต้องกลับไปบวชอีกครั้งชีวิตนี้ถึงจะดีขึ้น ท่านว่ามาอย่างนี้

และท่านก็บอกมาด้วยว่า บวชคราวก่อนนั้นใจไม่ได้เป็นพระได้เป็นแต่เณรเท่านั้น บุญผ้าเหลืองได้แค่แจ่งเดียว (ได้แค่ซีกเดียวเล็กๆเท่านั้น) ผมก็เลยถามว่า พระที่มาทำสังฆกรรมให้ผมตอนที่ผมบวชครั้งแรกนั้น มีพระที่มีอาบัติใหญ่รวมอยู่ในสังฆกรรมนั้นด้วยหรือครับ เทวดาท่านก็พยักหน้า ผมถึงอ๋อมิหน้าล่ะ เราตั้งใจบวชพระแต่ทำไมท่านถึงบอกว่าเราได้เป็นแค่เณรเท่านั้น และเมื่อวานก็ได้ฟังเสียงธรรมหลวงพ่อฤๅษีท่านพูดถึงเรื่องนี้พอดีว่า ถ้าสังฆกรรมบวชพระที่ไหนมีพระที่มีอาบัติศีลใหญ่ คือ ปราชิก และสังฆาทิเสธ ร่วมอยู่ในสังฆกรรมนั้นด้วย จะทำให้สังฆกรรมเขาเสียหมด คนที่บวชนั้นจะเป็นพระไม่ได้ ได้เป็นแค่เณรเท่านั้น พอได้ยินแบบนั้นแล้วก็โอ้โหเลย ผมลองนึกย้อนไปตอนที่ผมไปบวชครั้งก่อนว่าได้ร่วมฉันร่วมอยู่กับพระ แล้วอื้อหือเลย เพราะผมได้บาปมาเต็มๆ เป็นเณรแต่ไปร่วมฉันกับพระ โอ้โหบาปทุกคำกลืน นึกย้อนไปแล้วยังหวั่นๆอยู่เลย ที่เอามาเล่านี้ เล่าเพื่อจะได้เป็นอาทาหรณ์ให้แก่เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่กำลังคิดจะบวช ผมว่าควรจะไปบวชในวัดที่มีพระเคร่งๆ ที่สามารถได้เจโตปริยญาญ ได้ยิ่งดี เพราะท่านน่าจะคัดเอาพระที่เป็นพระแท้ๆเท่านั้นมาร่วมทำสังฆกรรมเวลาบวชให้เรา ไอ้ประเภทที่เราไปหานิมนต์ใส่ซองให้ท่านมางานบวชของเราเองโดยที่เราก็ไม่ได้รู้เลยว่า พระองค์นี้มีอาบัติหนักติดตัวอยู่หรือเปล่า ก็กลัวจะโดนแจ๊คพ๊อตเหมือนเดียวกันกับผม ที่บวชมาครั้งก่อน เพราะแทนที่จะได้บวชเป็นพระตามที่ประสงค์จริงๆกลับได้บวชเป็นเณร (โดยไม่รู้ตัวซะด้วย ข้อนี้ต้องระวังให้มากๆเลย)

กลับมาเรื่องเดิมใหม่ตามที่เทวดาที่ท่านเข้าทรงทักบอกผมมาว่าผมจะต้องกลับไปบวชในพระพุทธศาสนาอีก เพราะว่ากรรมเกี่ยวกับผ้าเหลืองยังไม่หมด เพราะถ้ายังอยู่ทางโลกแบบนี้ใจผมก็มีแต่จะวุ่นวาย เพราะใจผมชอบความสงบร่มเย็นในสมาธิ แต่กลับต้องไปอยู่ในที่ทำงานที่มีแต่ความวุ่นวาย ทั้งงานทั้งคน จึงทำให้ผมฟุ้งซ่าน ไม่เจริญ ท่านบอกว่าทำงานที่ไหน ทำได้สักพักก็อยากออก อยากย้าย มีอะไรเข้ามากระทบใจนิดๆหน่อยๆก็ บอกไม่เอาแล้วจะลาออกให้ได้ซะตอนนี้และเดี๋ยวนี้เลย นี่ท่านพูดบอกผมเองนะ ผมได้ยินท่านพูดบอกถึงเรื่องนิสัยของผมกับการทำงานอย่างนี้แล้วอดยิ้มไม่ได้เลย เพราะอยากจะบอกว่า “มันตรงเป๊ะ” โอ้โหท่านรู้ใจเราขนาดนี้เลยหรือนี่ และเทวดาท่านก็บอกอีกว่า ผมจะต้องได้กลับไปบวชที่วัดเดิม คือวัดที่ผมเคยไปปฏิบัติธรรมคราวก่อนนั้น คือวัดเวียงกาหลงจังหวัดเชียงราย และวัดหลวงราษฏ์เจริญธรรมจังหวัดเชียงราย ซึ่งสองวัดนี้เป็นวัดธรรมยุติที่พ่วงกันอยู่ เทวดาท่านบอกขนาดว่า หลวงพ่อธรรมสาธิตเจ้าอาวาสวัดเวียงกาหลงท่านรอเราอยู่ ผมก็เลยบอกกลับไปว่า ท่านรู้หรือว่ายังไงผมก็จะต้องได้กลับไปอีก แล้วตอนนั้นถ้าเป็นอย่างนั้นจริงตอนที่ผมอยากจะสึกทำไมหลวงพ่อท่านไม่ห้ามผมไว้ เทวดาท่านบอกว่า ท่านห้ามแบบพูดอ้อมๆแล้ว ว่าการไปทำงานทางโลกหรือการไปมีคู่ครองนั้นมันลำบากมันทุกข์นะ แต่ตอนนั้นเราไม่ฟังเอง ผมก็เลยมาย้อนนึกตามดูก็จริงแฮะ หลวงพ่อเคยถามผมว่าอยากจะไปมีครอบครัวหรือ ผมก็บอกยอมรับในตอนนั้น

เทวดาท่านก็บอกต่อไปว่า เคยรู้เรื่องท่านที่บวชแล้วต้องสึกไปแต่งงานแล้วกลับมาบวชใหม่ไหม ผมก็บอกว่าเคยได้ยินมาเหมือนกันครับ ท่านพูดประมาณว่า ของเราก็แบบนั้นแหละ ที่ได้ออกมาคราวก่อนก็เพราะต้องมาใช้กรรมเขา ก็คือว่าผมต้องได้มาใช้กรรมกับภรรยาคนปัจจุบันนี้ ถ้าหมดวาระกรรมเมื่อไรผมก็จะต้องได้กลับไปบวชอีก ผมได้ยินแล้วก็แปลกแฮะมีแบบนี้ด้วยหรือ ได้สึกออกมาแล้วแต่มาทำงานทางโลกอะไรก็ไม่เจริญ เพราะกรรมจะพาให้เห็นทุกข์อีกและดลบันดาลให้ต้องได้กลับไปบวชอีก ผมก็คิดว่าผมโชคดีหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆคือ ตอนนี้ครอบครัวผมกำลังจะแตก เพราะผมจะต้องห่างกับภรรยาเพื่อกลับไปบวชอีก ซึ่งก็ไม่แน่ว่า จะมีการหย่าร้างกันเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้หรือเปล่า ซึ่งเทวดาท่านพูดกับชับไว้กับผมว่า ถ้าผมไม่ไปบวชชีวิตทางโลกก็จะทรุดลงไปกว่านี้อีก ถึงขนาดกับว่าติดหนี้มีสินเลย พูดง่ายๆว่าชีวิตทางโลกผมไม่เจริญแล้ว ท่านบอกว่าเพราะกรรมของผ้าเหลืองนั้นแรงมากๆ ยังไงผมก็จะต้องไปทางนี้ และถ้าไปคราวนี้จะได้ไปนาน ถึงขนาดได้ไปธุดงค์ที่ น้ำตกในป่าแห่งหนึ่งด้วย ผมก็นึกในใจว่าขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ของอย่างนี้ไม่เชื่อก็ไม่ได้อีก เพราะที่ผ่านมาทุกอย่างท่านบอกตรงหมดไม่ผิดเพี้ยนจากความจริงที่เราได้เคยประสบพบเจอมาแม้แต่น้อยนิดเลย มิหนำซ้ำท่านยังทักบอกมาว่าคราวก่อนตอนสมัยที่ผมได้บวชอยู่นั้นได้ไปนั่งทำสมาธิที่ใต้ต้นไม้ใหญ่นั้นใช่ไหม ผมนึกภาพตามคำพูดแล้วก็ต้องยอมรับเลย เพราะตอนนั้นผมได้ไปนั่งสมาธิที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าวัดนั้นจริงๆ ที่นั่นเย็นกว่าที่อื่น เทวดาท่านบอกว่าที่นั่นมีเทวดาท่านอยู่ ท่านอยู่ที่ต้นไม้นั้น ตอนนี้ท่านกำลังรอเราให้กลับไปนั่งสมาธิที่ตรงนั้นอยู่ เราจะได้ไปที่นั่นอีก และก็พูดถึงผีที่มาหลอกผมตอนที่ผมนอนในป่าช้าข้างวัดนั้นด้วย ผมก็ยอมรับว่ามีจริง เพราะตอนนั้นผีมาหาผมเกือบทุกคืนเลย มาให้เห็นในนิมิตขณะใกล้หลับกับใกล้ตื่น ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นช่วงของจิตที่อยู่ระหว่างอุปจารสมาธิพอดี และผมก็ได้แผ่เมตตาให้เขาเหล่านั้นไป ท่านบอกผมว่าผีเหล่านั้นยังรอผมอยู่เพราะผมเคยสวดมนต์ให้เขาฟัง และเขาก็ได้อนุโมทนาบุญกุศลกับผม เฮ่อแบบนี้ก็มี พูดแล้วก็หวาดๆเหมือนกัน

สรุปแล้วคือ ตอนนี้ผมตั้งใจจะกลับไปบวชอีกครั้งตามที่เทวดาท่านทักบอกไว้ เพราะผมก็ได้พิจารณาตนเองแล้ว เรื่องทางโลกผมก็ไม่เจริญตามท่านว่ามาจริงๆด้วย และใจผมก็โหยหวนแต่ความสงบ พูดง่ายๆว่าวันๆไม่อยากทำงานทำการอะไรแล้ว อยากแต่จะนั่งที่สงบๆเย็นๆ นั่งภาวนาทำสมาธิ พิจารณาธรรมไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจกับโลกภายนอกเขาแล้วแบบนั้นแหละ และผมคาดว่าน่าจะได้กลับไปบวชที่วัดเดิมที่ผมเคยไปมาคือวัดเวียงกาหลงจังหวัดเชียงราย ซึ่งจากที่ดูรายละเอียดแล้ว ทางวัดจะจัดงานบวชพระเป็นประจำอยู่แล้วปีละ 3 รอบ รอบช่วงเดือนเมษานี้ได้ผ่านไปแล้ว ก็เหลือแต่รอบก่อนเข้าพรรษา และรอบวันที่ 5 ธันวา บวชถวายแก่ในหลวง ซึ่งตอนนี้ผมยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่าจะบวชช่วงก่อนเข้าพรรษานี้เลยหรือว่าจะบวชช่วงวันพ่อดี เพราะผมมาอ่านดูพระวินัยของพระแล้ว ต้องร้องโอ้โหเลย 227 ข้อ ที่ผมจะต้องรักษาให้ได้ รู้สึกว่ามันหนักอึ้งเลย เพราะทุกวันนี้เรามี 5 ข้อเราก็รู้สึกว่าสบายๆ แต่พอไปเจอ 227 ข้อแล้วหนาวเลย กลัวเผลอผิดศีลมากๆเลย ตอนนี้ผมก็กำลังหัดทั้งอ่านทั้งฟังทั้งจำ เรื่องพระวินัยของพระ ซึ่งผมบวชคราวนี้ผมจะตั้งใจทำใจของผมให้เป็นพระจริงๆให้ได้ นี่เป็นความตั้งใจลึกๆ แต่ที่แน่ๆตอนนี้เห็นศีลแล้วต้องร้องโอ้โหอย่างเดียวแหละเพราะเยอะมาจำไม่ได้เลย ละเอียดยิบมากๆ ผมนึกในใจเลยว่าพระท่านใดที่รักษาศีลได้ครบถ้วนบริบูรณ์โดยไม่ต้องถึงขนาดเป็นพระอริยเจ้าก็ได้ ถ้าผมเจอตอนนี้ผมจะกราบไหว้หมดใจเลย เพราะพอเห็นศีลของพระแล้วจริงต้องบอกว่าท่านที่ทำได้ครบนี่สุดยอดมากๆ แต่ถึงยังไงแล้วผมก็จะต้องพยามจำและรักษาให้ได้ครบทุกสิกขาบทให้ได้ เพราะผมก็ไม่อยากที่จะต้องลงอบายภูมิอีกแล้ว เรื่องกลัวนี่ก็กลัวมากๆเลยนะ ที่กลัวไม่ใช่ว่าจะได้ไปเจอกับผีอีก แต่กลัวจะลืมศีลและเผลอทำศีลขาดโดยไม่รู้ตัว นี่เป็นปัญหาใหญ่โตมากๆสำหรับผมตอนนี้เลยทีเดียว แต่ยังไงก็เอาละในเมื่อไม่มีทางเดินให้เลือกแล้วก็ต้องคลำกันไปล่ะ ศีลและพระวินัยคือหัวใจหลักของความเป็นพระ ถ้ารักษาศีลและพระวินัยไว้ไม่ได้แล้ว ก็มีทางเดียวเป็นที่ไปคือดิ่งลงอย่างเดียว ข้อนี้น่ากลัวมากๆเลยครับ และผมก็หวังไว้ลึกๆว่าสิ่งไม่ดีการผิดศีลผิดวัยทั้งปวงจะไม่เกิดขึ้นกับผม ผมตั้งใจว่าจะตัวตายดีกว่าศีลขาด(แต่กลัวมันจะลืมหรือจำไม่ได้นี่สิ ปัญหา ยุ่งเลย)


ก่อนจากผมขออนุญาตถามคำถามคุณพี่ tjs หน่อยนะครับ

- ผมไปบวชคราวนี้ไปยาวเลยหรือเปล่าครับ
- เทวดาท่านบอกว่าผมไปบวชครั้งนี้ ผมจะทำสมาธิจนสามารถรู้อดีตได้อนาคตได้มีทิพจักขุสามารถเป็นความเป็นทิพย์ทุกสิ่งทุกอย่างได้ ข้อนี้เป็นความจริงอย่างไรบ้างครับ
- ผมจะได้บำรุงพระพุทธศาสนาไปจนตายหรือไม่ครับ
- ชาตินี้เป็นชาติท้ายๆของผมแล้วใช่ไหมครับ
- ผมมีโอกาสพบและสนทนากับพระพุทธเจ้า และหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ครูบาอาจารย์ที่ผมเคารพรักหมดหัวใจ ได้ด้วยทิพย์อภิญญาของผมไหมครับ
- พระพุทธเจ้าหลวงพ่อฤๅษีลิงดำท่านจะเมตตามาช่วยสอนธรรมเพื่อความหมดทุกข์พ้นทุกข์ให้ผมในความเป็นทิพย์ไหมครับ
- แล้วทุกสิ่งทุกอย่างที่เทวดาท่านที่ทรงเจ้าทักมานั้นจะต้องเกิดขึ้นจริงในอนาคตอันใกล้นี้ใช่ไหมครับ
- ผมจะได้เจอคุณพี่ tjs ในเพศบรรชิตด้วยกันเพื่อสนทนาธรรมอันเนื่องด้วยความหลุดพ้นทั้งปวงอย่างเข้าใจกันทุกอย่างโดยไม่มีอะไรให้ต้องสงสัยกันอีก ในชาตินี้ไหมครับ

ขอขอบพระคุณ คุณพี่ tjs พี่ที่เคารพมากๆครับ ขอบพระคุณมากครับ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ดอกหอม อ่านข้อความ
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ดอกหอม อ่านข้อความ
กราบขอบพระคุณคุณ tjs มากมากคะที่ช่วยกรุณาตอบดวงให้พี่สาว
ขอรบกวนอีกนิดหนึ่งคะว่าเวลาบูชาเทพครูอาจารย์ที่เรียกว่าแม่พราหมฒ์และ นางไม้ที่ยังไม่ทราบชื่อ ต้องทำอย่างไรบ้างคะ และเครื่องหอมที่ต้องบูชาคุณ tjs ช่วยแนะนำด้วยคะว่ามีอะไรบ้าง ขออีกสักข้อหนึ่งนะคะต้องนี้ตัวเองเป็นทุกข์อยู่คะเพราะสุนัขชื่อ เฮงเฮงเป็นสุนัขของบุตรชายคะได้หายออกไปจากบ้านคะตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2558 บุตรชายก็เป็นทุกข์เพราะตอนนี้ยังหาไม่เจอคะเพราะรักและเป็นห่วงเขาคะขอรบกวนคุณ tjs ช่วยดูใหด้วยคะว่าจะได้คืนหรือไม่ เขายังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว(เพราะบุตรชายตามหาทุกวันประกาศหาว่าถ้าใครนำมาคืนจะให้รางวัล 10,000 บาท)บุตรชายเกิดวันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน 2525 ปีจอคะขอรบกวนด้วยนะคะ ขอให้คุณ tjsมีความสุขมากมากคิดปราถนาสิ่งใดไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรมขอให้สำเร็จทุกประการคะ
===============

ส่วนเรื่องสุนัขที่หายไป มีคนเอาไปเลี้ยงครับ และขังไว้ในบ้านครับ คงยากที่จะได้คืนกลับมาครับ เขาคงไม่กล้านำมาคืนและสุนัขก็เริ่มคุ้นกับบ้านหลังใหม่ครับ อยู่ไกลกันคนละจังหวัดครับ กับที่คุณอยู่ครับ

เรื่องบุตรชายเดี่ยวจะตรวจดูชะตาให้ ให้รอก่อนครับจะตอบกลับไปในสัปดาห์หน้าครับ ถ้าเลยเวลาให้ทักท้วงด้วยครับ เผื่อผิดพลาดในการส่งข้อความหรือลืมตรวจดูให้ครับ สาธุ

"""คุณ tjs รบกวนอย่าลืมดูให้บุตรชายนะคะ รบกวนด้วยคะ สาธุ """
======================
ในคราวอายุลงด้วย5,9 ควรทำบุญเสริมดวง ด้วยของ9อย่างอุทิสฬห้เทวดาที่ดูแลตน ของที่เป็นมงคล9อย่างเป็นปัจจัยสี่อะไรก็ได้ครับ เช่น เทียนพรรษา9 เล่มเป็นต้น ให้ลงด้วยเลข9ครับ แล้วจะก้าวหน้าสมปราถนาครับ

ให้บูชาพระราหูตามรอบของอายุไข คือตกช่วงเลข5,9 ด้วยพร้อมกับการเสริมดวงครับ พระราหูบูชาปีที่ว่าเพียงครั้งเดียว ก็ได้ครับ เพราะเป็นช่วงที่พระราหูเสวยเข้าแทรกอายุไขนั่นเองครับ

****ขอบพระคุณมากคะที่คุณ tjs ช่วยดูให้คะ แต่สงสัยนิดหนึ่งว่า "อายุลงด้วย 5,9" หมายถึง ลงท้ายอายุด้วยเลข 5 หรือ 9 เช่น 35 หรือ 39 อย่างนี้ใช้หรือเปล่าคะ และบูชาพระราหูควรทำอย่างไรบ้าง รบกวนอีกนิดนะคะว่าสุนัขของบุตรชายที่หายไปมีคนตั้งใจปล่อยเขาไปหรือเขาหลุดไปเองรบกวนคุณ tjs ดูให้ได้ไมคะเพราะยังคาใจอยู่คะ และเทวดาที่ปกปักรักษาบุตรชายอยู่มีท่านใดบ้างและนามท่านว่าอะไรบ้างรบกวนคุณ tjs นะคะ "คุณ tjs ช่วยดูบ้านของบุตรชายให้ด้วยคะว่าต้องแก้ไขอะไรหรือไม่ เพราะดูแล้วเขาจะมีปัญหาอยู่เป็นระยะตั้งแต่เขาเข้าไปอยู่เลี้ยงพระแล้วนะคะ อันแรกล้มในบ้าน อันที่สองสุนัขหาย อันที่สามทะเลาะกับลูกชายข้างบ้านทั้งๆที่เรื่องไม่เป็นเรื่องเลยคะ เขามีครอบครัวแล้วพึ่งแต่งงานตอนต้นเดือนธันวาคม 57 นี้เองคะก็มีเรื่องให้ทะเลาะกับแฟนเขาเป็นพักๆ บ้านของบุตรชายเป็นบ้านที่ดิฉันซื้อให้เขาเองคะ แต่เวลาดิฉันไปบ้านบุตรชายดิฉันก็มีความสุขและรู้สึกชอบบ้านหลังนี้คะ" ขอให้ผลบุญที่คุณ tjs ช่วยดูให้เป็นผลานิสงค์ให้คุณ tjs มีความสุขตลอดไปทั้งทางโลกและทางธรรม
**รบกวนดูเพ่ิมให้อีกนิดคะ ขอบพระคุณมากคะ**

 

สาธุค่ะ กราบขอบพระคุณมากๆเลยค่ะ

 

ครั้งหนึ่ง ผมเจอคำถามเกี่ยวกับ ความเป็นพระโพธิสัตว์ ว่า พระโพธิสัตว์เป็นพระอริยะบุคคลได้หรือไม่ ผมจึงได้ช่วยอธิบายไปว่า
ความเป็นพระโพธิสัตว์ กับความเป็นพระอริยะบุคคล หากว่ากันตามตำรา มันเป็นคนละส่วนกัน คือตำราแยกแยะชัดเจน ความเป็นพระอริยะบุคคลมีสี่จำพวกแปดบุรุษ คือมีสี่ระดับ ตั้งแต่พระโสดาบัน พระสกิทา พระอนาคา พระอรหันต์ ความเป็นพระอริยะอาศัย ความสามารถในการชำระกายใจ ที่สามารถหลุดพ้นทุกข์ ได้มากน้อยตามลำดับ มีเป้าหมายคือหลุดพ้นทุกข์ สู่พระนิพพาน อันเป็นเรื่องเฉพาะตนเท่านั้น มีอารมณ์เบื่อหน่ายการเวียนว่ายตายเกิด เบื่อหน่ายโลกแห่งมายาไม่ปราถนาจะเกิดอีก
ส่วนความเป็นพระโพธิสัตว์ อาศัยเจตนาในการปราถนาช่วยขนนำพาสรรพสัตว์ หลุดพ้นทุกข์ วิถีของพระโพธิสัตว์ จึงต้องสร้างบารมีธรรรมมากมายเพื่อเป็นเครื่องมือในการช่วยสรรพสัตว์ขนข้ามทะเลทุกข์ ต้องสั่งสมเสบียงบุญบารมีมาก คือยังมีสัญญาหรือปณิธาณ แห่งโพธิญาณจึงยังไม่เร่งรีบในการนำตนหลุดพ้นทุกข์
เมื่อเจตนาต่างกัน จึงส่งผลจึงแตกต่างกัน ความเป็นพระอริยะอ้างอิงเฉพาะส่วนเดียวคือผู้ปฏิบัติธรรมชำระจิตเพื่อความหลุดพ้นทุกข์
พระโพธิสัตว์ คือผู้ปฏิบัติมุ่งตรงต่อการสร้างบารมีเพื่อช่วยสรรพสัตว์ขนข้ามทะเลทุกข์
ดังนั้น จึงมีความต่างกันนั่นเอง
ในมุมมองที่มองแบบนอกตำราอันเป็นความเห็นเฉพาะตน เห็นว่า
1 แม้พระโพธิสัตว์ ไม่สามารถเป็นพระอริยะบุคคลสี่จำพวกได้ แต่พระโพธิสัตว์ก็ย่อมต้องเรียนรู้ หรือสามารถทรงอารมณ์ความเป็นพระอริยะบุคคลได้ เพื่อความรอบรู้ในการอบรมสั่งสอนผู้อื่นต่อไป
2พระอริยะเมื่อนำตนพ้นทุกได้แล้ว ก็สามารถเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร เป็นเนื้อนาบุญเพื่อโปรดสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้
3 พระโพธิสัตว์ และพระอริยะแม้มีคุณความดีที่มีเจตนาต่างกัน แต่ขึ้นชื่อว่า พระ ย่อมหมายถึงผู้มีจิตใจสูง ผู้มีจิตใจสูงด้วยคุณความดี จึงควรแก่การสักการะบูชา ควรแก่การกราบไหว้ เสมอกันครับ สาธุ

 

===================

1 ตามชะตามีวิบากกรรมเป็นตัวกำหนด เมื่อยังไม่ถึงเวลา ก็ไม่สามารถบวชได้ อันนี้ผมกล่าวตามวาสนาตามที่ผมเคยตรวจให้ แต่ถ้าจะบวช ผมแนะนำให้แบ่งเวลาในปีนี้ บวชพราหมเป็นช่วงๆ ก่อนจะบวชจริง แต่ถ้าปราถนาจะบวชพระเลยก็ทำได้ แต่ตามวาสนาบารมี ก็จะบวชได้ไม่นานเพราะมีวิบากรรมด้านครอบครัว ที่เหนี่ยวรั้ง ทำให้ต้องลาสิกขาออกมาอีกครับ
ดังนั้นให้ลองทบทวนดูความพร้อมและกำลังของตนในทุกๆด้านคิดให้รอบคอบตามเหตุผลแล้วจึงทำครับ

2 เป็นชาติสุดท้าย ครับแต่ต้องมีความเพียรและขันติมากเมื่อผ่านวิบากกรรมไปได้ ตามอายุไขที่ผมเคยบอกก็จะสำเร็จตามที่ปราถนาครับ

3 ทำได้ครับ แต่ต้องฝึกสมาธิและมีศีลบริสุทธิ์ หากเจริญสมถะและวิปัสสนาก้าวหน้ายิ่งขึ้นแล้วสามารถทำได้ครับ

4พระองค์ทุกพระองค์มีเมตตาเป็นล้นพ้น เมื่อนั้นคุณจะทราบด้วยจิตคุณเองอันเป็นเรื่องปัตจัตตังฌแพาะบุคคลครับ ท่านเมตตาต่อสรรพสัตว์ไม่มีประมาณครับ

5สิ่งที่เทพท่านทักมา เป็นความจริง แต่สิ่งที่จะเกิดกระทบหนักเบา ขึ้นอยู่กับความดี ผลบุญบารมีที่คุณสั่งสม อย่าได้กังวล และขอให้มีจิตใจหนักแน่นมั่นคง ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ

6 มีวาสนาต่อกัน ย่อมได้พบกันแน่นอนครับ สาธุ

 

ขอขอบพระคุณพี่ tjs มากครับที่ดูให้ผมครับ

1 ตามชะตามีวิบากกรรมเป็นตัวกำหนด เมื่อยังไม่ถึงเวลา ก็ไม่สามารถบวชได้ อันนี้ผมกล่าวตามวาสนาตามที่ผมเคยตรวจให้ แต่ถ้าจะบวช ผมแนะนำให้แบ่งเวลาในปีนี้ บวชพราหมเป็นช่วงๆ ก่อนจะบวชจริง แต่ถ้าปราถนาจะบวชพระเลยก็ทำได้ แต่ตามวาสนาบารมี ก็จะบวชได้ไม่นานเพราะมีวิบากรรมด้านครอบครัว ที่เหนี่ยวรั้ง ทำให้ต้องลาสิกขาออกมาอีกครับ
ดังนั้นให้ลองทบทวนดูความพร้อมและกำลังของตนในทุกๆด้านคิดให้รอบคอบตามเหตุผลแล้วจึงทำครับ

ผมได้อ่านแล้วผมมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยครับ ผมตัดสินใจบวชครับ ถึงแม้ว่าจะเป็นเวลาอันสั้น และจะต้องได้กลับออกมาอีกก็ไม่เป็นไรครับ เพราะตอนนี้ผมก็ไม่มีกะจิตกะใจจะทำการทำงานอะไรทางโลกเลยเหมือนกันครับ ครอบครัวก็ง่อนแง่นจะพังแหล่ไม่พังแหล่ มันเป็นเพราะวิบากกรรมใหญ่ที่พาให้ผมต้องประสบพบเจออย่างนี้ใช่ไหมครับ

อย่างน้อยที่สุดผมไปคราวนี้ก็ถือว่าไปเพื่อปฏิบัติธรรมเพื่อสร้างสมบุญญาบารมีให้เข้มแข็งยิ่งๆขึ้นไป เพื่อที่จะเป็นประโยชน์ในอนาคตเบื้องหน้าอันใกล้นี้ต่อไปครับ

"โล่งใจมากขึ้นเยอะเลยครับ ที่พี่บอกว่าจะไม่ได้อยู่นาน"

ที่ว่าไม่นานคงไม่เกิน 1 ปีใช่ไหมครับ ขอบพระคุณครับ

 

=================

ใช่ครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ
อย่างน้อยการบวชเราก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการมีเวลาเตรียมตัวเตรียมพร้อมเพื่ออนาคต ตลอดจนเป็นการบวชเพื่ออุทิศให้ผู้มีพระคุณ ครูอาจารย์ เจ้ากรรมนายเวร ให้ท่านเมตตา ในภายหน้าหนทางแห่งการสร้างบารมีก็จะไม่มีอุปสรรคติดขัดอะไรมากนักจะได้ราบเรียบสะดวกครับ สาธุ

 

เมื่อมีความเจริญขึ้น ย่อมมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
อันเป็นของคู่กัน โลกนี้จึงถูกครอบงำด้วยโลกธรรมแปด คือมีลาภ มีเสื่อมลาภ มียศ มีเสื่อมยศ มีสรรเสริญ มีนินทา มีสุข มีทุกข์ เป็นของคู่กันเสมอ
พระโพธิสัตว์ ต้องหนักแน่นและมีสติปัญญารู้แจ้งในธรรมดาของโลก ไม่เอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จะสุขเราก็ไม่ยินดีจนเกินสุขคือไม่ประมาทในสุข แม้นมีทุกข์ก็มีสติปัญญารู้ทันไม่ทำจิตให้เคร้าหมองใช้สติปัญญาประคองจิตประคองตน ใช้สติปัญญาแก้ไขตนในสิ่งที่บกพร้่องให้ดีงาม
พระโพธิสัตว์ต้องเรียนรู้ผิดถูกดีชั่ว ทุกสิ่งที่วิ่งเข้ามากระทบตนย่อมสร้างสติปัญญาแก่ตนเสมอ ทุกข์สุขย่อมให้ผลแก่การพัตนาทางจิตด้วยกันทั้งสิ้น
พระโพธิสัตว์ย่อมต้องเป็นผู้มีสติปัญญาไม่ปล่อยทิ้งคว้างในสุขทุกข์ที่วิ่งเข้ามากระทบตน แต่ต้องต้องเป็นผู้ฉลาดในการน้อมนำสุขทุกข์ต่างๆเข้ามาพิจารณาตน เพื่อพัตนาจิตของตน เพื่อพัตนาการสร้างบารมีของตนให้ถูกต้องดีงามยิ่งๆขึ้นไปครับ

 

Rสวัสดีครับ ท่าน tjs

วันนี้ผมมีคำถามปรารถนาที่จะถามท่านดังนี้ครับ

เรื่องที่ 1 จากที่ผมได้ค้นหาใน google แล้วเกี่ยวกับคำว่า “ ทิพยจักขุญาณ , ทิพยจักษุญาณ , ตาทิพย์ , ญาณตาทิพย์ , ตาที่สาม หรือ ตาใน ” เนื่องจากตอนนี้ตัวผมไม่มีตาทิพย์ แต่สังเกตจากร่างกายของตนเอง ช่วงหลังๆ มานี้ ผมรู้สึกหน่วงๆ เป็นประจำที่กลางหน้าผาก ดังนั้น ผมจึงขอสอบถามความรู้ในส่วนนี้ด้วยครับว่า

1.1 ตาทิพย์มีกี่ประเภท? เกี่ยวกับโลกียะ,โลกุตระหรือเปล่า?

1.2 ความกว้างไกลระยะในการมองเห็นของตาทิพย์ เช่น มองเห็นแค่เฉพาะในประเทศไทย,ต่างประเทศ,ในโลกใบนี้,มองเห็นไปถึงดาวดวงอื่น,มองไปเห็นถึงจักรวาลอื่นได้ไหม? การมองที่ละเอียดกว้างไกลขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยใดครับ

1.3 ในทางฟิสิกส์มองเห็นเป็นปัจจุบันขณะ มองในธาตุหยาบจนถึงธาตุละเอียดสุดได้ไหม? มองเห็นหน้าตาของคนที่อยู่ยุโรป , มองเห็นโรคภัยเส้นเลือดอวัยวะของคนที่อยู่ต่างประเทศได้ไหม? มองเห็นหน้ามนุษย์ต่างดาวที่อยู่ดาวดวงอื่น หรือจักรวาลอื่นและพูดคุยกับมนุษย์ต่างดาวจักรวาลอื่นได้ไหม? คือ ผมปรารถนาจะรู้ว่า ญาณตาทิพย์ของคุณ tjs มองได้ถึงขนาดไหนครับ? อดีตย้อนไปกี่ชาติ , ปัจจุบันมองใกล้ไกล มองละเอียดถึงธาตุละเอียดสุด เช่น โมเลกุล,นิวเคลียส หรือธาตุละเอียดระดับใดครับ? ผมว่า คำถามที่ผมถามคงมีคนมากมายอยากจะทราบคำตอบในเชิงลึก ที่อ่านแล้วเห็นภาพถึงความสามารถหรือคุณวิเศษของญาณตาทิพย์

1.4 มองไปยังมิติอื่นๆ ได้ทุกมิติหรือไม่? มิติสวรรค์,นรก,นิพพาน รวมถึงมิติทับซ้อนต่างๆ

1.5 ญาณอะไรที่มีคุณวิเศษเหนือกว่าญาณตาทิพย์หรือไม่? ที่สามารถมองเห็นได้ทุกสรรพสิ่ง หรือว่าจริงๆ แล้วคำว่า “ญาณตาทิพย์” เป็นเพียงแค่ชื่อเรียกต่างกันแต่มีความหมายเดียวกันกับทิพยจักษุญาณ,ตาที่สาม,ตาใน รวมถึงชื่อเรียกอื่นๆ หรือเปล่าครับ?
จึงขอความรู้ที่ได้จากญาณตาทิพย์ของคุณ tjs ช่วยอธิบายให้ทุกคนและผมได้เข้าใจด้วยครับ

1.6 แล้วที่คุณ tjs ทักผมว่า ญาณตาทิพย์ผมใกล้จะเปิดนั้น มันมีเหตุปัจจัยใดที่จะส่งผลให้ญาณตาทิพย์เกิดขึ้นได้จริงครับ ก่อนเปิดญาณตาทิพย์จะมีสัญญาณใดบอกให้รู้ล่วงหน้าบ้างครับ? นอกจากอาการหน่วงๆ ที่กลางหน้าผาก แต่ผมว่าอาการหน่วงๆ อย่างเดียวมันคงไม่ได้บอกชัดว่ามันต้องเปิดตาทิพย์เสมอไปใช่ไหมครับ? ต้องมีเหตุปัจจัยใดถึงพร้อมจึงจะทำให้ญาณตาทิพย์เปิดได้จริงครับ? จากที่ผมอ่านตามเว็บและ Youtube แล้ว มีคนสอนเปิดตาทิพย์,ตาที่สาม,ตาใน คุณ tjs มีความเห็นว่า มันจะเปิดได้จริงๆ เหรอ? หรือมันเป็นเพียงการเปิดตาที่สามในระดับใดระดับหนึ่งเพียงเท่านั้น? การเปิดตาทิพย์มันมีแบบเปิดตาทิพย์อย่างเดียวแต่ตาทิพย์นั้นไม่ประกอบด้วยญาณหยั่งรู้ มันจึงรู้ไม่กว้างใช่ไหมครับ? มันก็รู้เห็นมิติแค่รัศมีรอบๆ กายเราใช่ไหมครับ?

เรื่องที่ 2 ในช่วงสงกรานต์ขณะที่ผมเดินทางกลับบ้าน ผมบังเอิญได้ผ่านวัดช่องแค หลวงพ่อพรหม ครับ ซึ่งก่อนหน้านี้หลายปีผมก็รู้สึกแปลกๆ กับหลวงพ่อพรหมท่านแล้ว ผมจึงปรารภนาให้คุณ tjs กรุณาช่วยดูให้ผมหน่อยครับว่า ผมมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับหลวงพ่อพรหมครับ? ขอบคุณมากครับ

เรื่องที่ 3 ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาผมบังเอิญได้มีโอกาสไปที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วครับ ผมจึงปรารภนาให้คุณ tjs กรุณาช่วยดูให้ผมหน่อยครับว่า การไปของผมในครั้งนี้มีเหตุปัจจัยใดที่นำพาผมไปที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว? และการไปนี้ส่งผลต่อชีวิตผมอย่างไรบ้างครับ?
** ตอนที่รถยนต์จอดสนิทที่ลานจอดรถของวัด ตาผมเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนรถยนต์ มันแสดงเป็นเวลา 3:33 pm. หลังจากกราบไหว้พระธาตุและเดินเที่ยวชมเสร็จ และตอนกลับตาผมก็เหลือบไปเห็นนาฬิกาบนรถยนต์อีกครั้งขณะที่ก้นผมนั่งแตะสัมผัสกับเบาะรถยนต์เพื่อออกรถกลับบ้าน นาฬิกาแสดงเป็นเวลา 4:44 pm. สรุปแล้ว ใช้เวลากราบไหว้พระธาตุและเดินเที่ยวชม เป็นเวลา 1:11 ชั่วโมง เหมือนมีสิ่งดลใจให้ตาผมเหลือบไปมองนาฬิกาบนรถยนต์ **

ขอบคุณมากครับ สาธุ !

 

======================

1 ทิพยจักขุญาณ , ทิพยจักษุญาณ , ตาทิพย์ , ญาณตาทิพย์ , ตาที่สาม หรือ ตาใน ” หมายถึงสิ่งเดียวกันคือ ตาทิพย์ มีหลายประเภท คือสามารถมองเห็นสิ่งที่เป็นทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ที่ไกล ใกล้ ที่มืด แสงสว่าง คน สัตว์ สิ่งของ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนวา่าฝึกมาทางไหนครับ ความชำนา่ญก็ต่างกัน

2 ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนความชำนาญ เมื่อทำได้ก็ทำได้ตามต้องการ ไกลแค่ไหนก็มองได้ เป็นความสามารถเฉพาะตน

3ตาทิพย์มีความสามารถมาก ท่านที่ฝึกมาดีและถ้าเป็นโลกุตระด้วยแล้ว รู้เห็นได้หมดครับ ส่วนตาทิพย์ของผมยังเป็นของเด็กๆครับ เวลาจะใช้ทียังต้องพึ่งพาครูอาจารย์ท่านช่วยครับ

4 สามารถมองเห็นได้หมด แต่ต้องฝึกมาถูกทา่งเฉพาะเรื่องนั้นๆชำนาญเรื่องนั้นๆครับ คือขึ้นอยู่กับกาสรฝึกฝนครับ ว่าฝึกฝนมาครบหรือเปล่า หรือเก่งเฉพาะด้าน ครับ

5 ญาณยอดเยี่ยมที่สุดคือญาณพระสัพพัญญุตญาณ ของพระพุทธเจ้าครับ รอบรู้ทุกอย่าง เป็นญาณบารมี ที่รวมทุกอย่างมาไว้ด้วยกัน มันจะปรากกฏรู้ทันที มีทั้งภาพทิพย์ เสียงทิพย์ประกอบ มีญาณใหญ่เป็นเครื่องกำกับคืออาสวักขยญาณ ครับ เป็นโลกุตระญาณ

6 อาการที่จะปรากฏล่วงหน้าให้รู้คือ ความสามารถทางสมาธิ ดีขึ้นมาก ปรากฏนิมิตแสง สี เป็นต้น และหากฝึกกสินจะได้กสินอุคหนิมิตปรากฏครับ
สภาวะทางกายก็มีบ้างตามหน้าผาก หรือฐานของจิตทั้ง7จุดครับ มีอาการ ตึงบ้าง ปวดบ้าง มึนบ้าง เป็นต้นแล้วแต่ครับตอบยาก แต่ให้ปล่อยวาง ให้หมั่นเจริญภาวนาทำสมาธิให้ทรงตัว เมื่อขึ้นฌาณได้แล้ว ตาทิพย์จะค่ยเปิดครับ


ส่วนอีกสองข้อที่ถามหลังสุดเดี่ยวจะช่วยตอบให้ครับ

 

อาจารย์ tjs รบกวนดูให้หน่อยครับ พลังหรือจิตวิญญาณ เป็นแบบไหน อย่างไร

 

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ดอกหอม อ่านข้อความ
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ดอกหอม อ่านข้อความ
กราบขอบพระคุณคุณ tjs มากมากคะที่ช่วยกรุณาตอบดวงให้พี่สาว
ขอรบกวนอีกนิดหนึ่งคะว่าเวลาบูชาเทพครูอาจารย์ที่เรียกว่าแม่พราหมฒ์และ นางไม้ที่ยังไม่ทราบชื่อ ต้องทำอย่างไรบ้างคะ และเครื่องหอมที่ต้องบูชาคุณ tjs ช่วยแนะนำด้วยคะว่ามีอะไรบ้าง ขออีกสักข้อหนึ่งนะคะต้องนี้ตัวเองเป็นทุกข์อยู่คะเพราะสุนัขชื่อ เฮงเฮงเป็นสุนัขของบุตรชายคะได้หายออกไปจากบ้านคะตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2558 บุตรชายก็เป็นทุกข์เพราะตอนนี้ยังหาไม่เจอคะเพราะรักและเป็นห่วงเขาคะขอรบกวนคุณ tjs ช่วยดูใหด้วยคะว่าจะได้คืนหรือไม่ เขายังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตไปแล้ว(เพราะบุตรชายตามหาทุกวันประกาศหาว่าถ้าใครนำมาคืนจะให้รางวัล 10,000 บาท)บุตรชายเกิดวันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน 2525 ปีจอคะขอรบกวนด้วยนะคะ ขอให้คุณ tjsมีความสุขมากมากคิดปราถนาสิ่งใดไม่ว่าทางโลกหรือทางธรรมขอให้สำเร็จทุกประการคะ
===============

ส่วนเรื่องสุนัขที่หายไป มีคนเอาไปเลี้ยงครับ และขังไว้ในบ้านครับ คงยากที่จะได้คืนกลับมาครับ เขาคงไม่กล้านำมาคืนและสุนัขก็เริ่มคุ้นกับบ้านหลังใหม่ครับ อยู่ไกลกันคนละจังหวัดครับ กับที่คุณอยู่ครับ

เรื่องบุตรชายเดี่ยวจะตรวจดูชะตาให้ ให้รอก่อนครับจะตอบกลับไปในสัปดาห์หน้าครับ ถ้าเลยเวลาให้ทักท้วงด้วยครับ เผื่อผิดพลาดในการส่งข้อความหรือลืมตรวจดูให้ครับ สาธุ

======================
ในคราวอายุลงด้วย5,9 ควรทำบุญเสริมดวง ด้วยของ9อย่างอุทิสฬห้เทวดาที่ดูแลตน ของที่เป็นมงคล9อย่างเป็นปัจจัยสี่อะไรก็ได้ครับ เช่น เทียนพรรษา9 เล่มเป็นต้น ให้ลงด้วยเลข9ครับ แล้วจะก้าวหน้าสมปราถนาครับ

ให้บูชาพระราหูตามรอบของอายุไข คือตกช่วงเลข5,9 ด้วยพร้อมกับการเสริมดวงครับ พระราหูบูชาปีที่ว่าเพียงครั้งเดียว ก็ได้ครับ เพราะเป็นช่วงที่พระราหูเสวยเข้าแทรกอายุไขนั่นเองครับ


****ขอบพระคุณมากคะที่คุณ tjs ช่วยดูให้คะ แต่สงสัยนิดหนึ่งว่า "อายุลงด้วย 5,9" หมายถึง ลงท้ายอายุด้วยเลข 5 หรือ 9 เช่น 35 หรือ 39 อย่างนี้ใช้หรือเปล่าคะ และบูชาพระราหูควรทำอย่างไรบ้าง รบกวนอีกนิดนะคะว่าสุนัขของบุตรชายที่หายไปมีคนตั้งใจปล่อยเขาไปหรือเขาหลุดไปเองรบกวนคุณ tjs ดูให้ได้ไมคะเพราะยังคาใจอยู่คะ และเทวดาที่ปกปักรักษาบุตรชายอยู่มีท่านใดบ้างและนามท่านว่าอะไรบ้าง คุณ tjs ช่วยดูบ้านของบุตรชายให้ด้วยคะว่าต้องแก้ไขอะไรหรือไม่ เพราะดูแล้วเขาจะมีปัญหาอยู่เป็นระยะตั้งแต่เขาเข้าไปอยู่เลี้ยงพระแล้วนะคะ อันแรกล้มในบ้าน อันที่สองสุนัขหาย อันที่สามทะเลาะกับลูกชายข้างบ้านทั้งๆที่เรื่องไม่เป็นเรื่องเลยคะ เขามีครอบครัวแล้วพึ่งแต่งงานตอนต้นเดือนธันวาคม 57 นี้เองคะก็มีเรื่องให้ทะเลาะกับแฟนเขาเป็นพักๆ บ้านของบุตรชายเป็นบ้านที่ดิฉันซื้อให้เขาเองคะ แต่เวลาดิฉันไปบ้านบุตรชายดิฉันก็มีความสุขและรู้สึกชอบบ้านหลังนี้คะ" ขอให้ผลบุญที่คุณ tjs ช่วยดูให้เป็นผลานิสงค์ให้คุณ tjs มีความสุขตลอดไปทั้งทางโลกและทางธรรม******


******รบกวนคุณ tjs ดูเพิ่มให้อีกนิดนะคะจะ3 อาทิตย์แล้วคะ รบกวนจริงๆคะเป็นพระคุณอย่างสูง*******************

 

=======================

มีพลังงานธาตุกายาสิทธิ์ครับ ดีครับ ป้องกันภัยอัตราย คุณไสยได้ครับ แคล้วคลาดปลอดภัยและคงกระพันชาตรีครับ

 

คุณก้องครับผมรบกวนช่วยตอบคำถามผมใน PM ได้ไหมครับ...
ถ้าคุณก้องไม่ว่างก็ไม่เป็นไรครับผม

 

ปกติจิตวิญญาณทั้งหลายไม่สามารถทำบุญ ได้ ยกเว้นบางจำพวกบางกรณีที่สามารถทำบุญได้
กรณีนี้ อย่างเปรตละทำบุญได้ไหม ถามว่าเป็นเปรตในชั้นไหน แต่ไม่ว่าชั้นไหน เปรต ไม่สามารถทำบุญได้ ทำได้เพียงการอนุโมทนาบุญที่ผู้อื่นอุทิศให้
นรกภูมิทั้ง18ขุม และรอบนอกน้อยใหญ่อีกมากมายก็เช่นกัน ทำได้คือการอนุโมทนาบุญเท่านั้น
กระผมสวดมนต์ภาวนาทุกวัน ได้แผ่อุทิศให้จิตทั้ง3ไตรภูมิทุกวัน ตลอดจนการแผ่อุทิศให้ ท่านพระยายมราช ยมบาล ยมทูต นายนิริยบาล ท่านสุวรรณ ท่านสุวาล ตลอดจนสรรพสัตว์ในนรก จากประสพการณ์ที่แผ่อุทิศ พบว่า เราแผ่ไป ได้ไม่ทั่วถึง การแผ่แต่ละครั้งที่กระผมทำทุกวัน ส่งให้ได้แค่ขุมหนึ่งๆ จุดหนึ่งๆ
เท่านั้น ยกเว้นว่า เรามีกำลังบุญหลายอย่างมารวมกัน เช่น
การทำทาน ถวายพระพุทธรูป สร้างวิหาร ทอดผ้าป่า กฐิน มหาสังฆทาน ช่วยชีวิตผู้อื่น ร่วมกับการรักษาศีล การสวดมนต์ภาวนาสมถะ ซึ่งมีอานิสงค์มาก กระแสบุญจะมีกำลังมาก แผ่ออกไปเป็นแสงสว่างเป็นดวงไฟสว่าง ทำให้สัตว์นรกมองเห็นและได้รับ เวลาที่กระแสบุญที่แผ่ส่งไปให้ จะมีแสงสว่าง เมื่อแสงสว่างแห่งบุญนั้นกระจายไปทั่ว ไฟโลกันต์นรกที่ลุกโชติช่วงจะหรี่ลงเบาลงชั่วขณะหนึ่งที่สัตว์เหล่านั้นอนุโมทนา แสงสว่างจะคงเหลือเพียงแสงสว่างจากกระแสบุญ ที่ผมแผ่อุทิศให้ จะเป็นเช่นนี้เสมอ ผมทำเช่นนี้มานานแล้ว เห็นแบบนี้เสมอ แต่ต่างสถานที่เท่านั้น เพราะสถานที่นั้นเราไม่ได้เจาะจงว่าต้องไปนรกขุมไหน แต่เราแค่แผ่ไปอยากช่วยทั้งหมดให้เขาได้ แต่บารมีเรายังไม่มาก ช่วยได้แค่จุดเล็กๆในรกภูมิเท่านั้น เพื่อให้เขาได้อนุโมทนาบุญเพื่อพ้นทุกข์แม้ชั่วครู่ก็ตาม ครับ
ผมทำแบบนี้นานแล้วจวบจนปัจจุบัน เพราะเห็นผลจากที่ครั้งหนึ่งท่านพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์เคยช่วยชีวิตผมไว้ และท่านก็ได้สั่งสอนแนะนำวิธีการแผ่อุทิศบุญให้แก่สัตว์นรกครับ ดังนั้น ผมจึงขอให้ทุกท่านมีเมตตาแต่สัตว์นรกด้วยไหนๆก็แผ่อุทิศบุญแล้ว ก็อย่าลืมแผ่อุทิศให้เขาเหล่านี้ด้วยนะครับ สาธุ

 

==================================

อายุตกเลข5,9 คือเช่น 15,19,25,29,35,39 ไปเรื่อยๆที่ลงท้ายด้วย5,9ครับ จะเกี่ยวกับปีนักกษัตครับเป็นปีที่ชงมากและชงน้อย นั่นคือควรต้องทำบุญแก้ไขให้ดีครับ

เรื่องสุนัข เป็นการหลุดไปเองครับ เห็นอย่างนี้ครับ ไม่มีใครปล่อยไปครับ เป็นเพราะความซุกซนของมันเองครับ

เรื่องลูกชาย ขอวันเดือนปีเกิดมาตรวจชะตาก่อนนะครับถึงจะตอบได้ แต่ชะตาเขาไม่ค่อยดีมีเคราะห์ครับทราบเบื้องต้นแค่นี้ครับ และอาจเกี่ยวกับเจ้าที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ครับ ต้องตรวจดูหลายอย่างครับ

 

ขอบคุณครับคุณก้องที่ตอบคำถามผมอย่างเร็วเลย...มีอีกข้อความนะครับใน PM เป็นเรื่องของญาติผู้ใหญ่ของผม ครอบครัวนี้ประสพปัญหาตลอดครับ คนในบ้านป่วยบ่อย ไม่รู้ว่าบ้านมีอะไรหรือเปล่า หรือ เป็นกรรมของเค้าเอง รบกวนคุณก้องด้วยนะครับผม
ขอบคุณมากครับที่ช่วยตอบผมตลอด

ขอผลบุญกุศลที่ผมได้ปฏิบัติมาได้กระทำมาส่งเสริมให้คุณก้องเจริญทั้งทางโลกและทั้งธรรมนะครับ ขอบคุณมากๆครับ