พระสหธรรมิกราช และ โพธิสัตว์เถระ สรุปว่าคือใคร ครับ

หากมนุษย์กล้า คงไม่วิ่งหนีอย่างหวาดกลัว
หากเดรัจฉานกลัว คงไม่เอาชีวิตตัวปกป้องผู้ที่ตนรัก
หากเปรตหิว ทำไมถึงมีเปรตที่ไม่หิว
หากอสุรกายลามก แล้วพวกจอมปลอมเรียกว่าอะไร
หากนรกร้อน แล้วเรียกโลกันต์ว่าอะไร

 

นิทานหรือไม่นิทานผมก็ไม่รู้ แต่โดยส่วนตัวการดำเนินชีวิตก็ยังติดว่ามีจริงเป็นจริงเป็นจังอยู่
ในบางเรื่อง ยังมีถูกมีผิดอยู่ ยังมองอะไรๆเป็นนิทานไม่ได้ครับ ภูมิธรรมผมยังไม่ขนาดนั้น

 

ีถามหาผู้นำโพธิที่นำความเจริญมาสู่ชาติตามที่รู้มาท่านบอกเริ่มเข้าสู่การเมืองตอนอายุ32เริ่มเข้านะเเต่ยังไม่ได้เปนมโนมยิทได้เเล้ววาจาสิทธิ์ได้เเล้วเเละฤทธิ์เริ่มไหวตัวเเละถ้าท่านจะประกาศตัวฤทธิ์ต้องได้เต็มเเละคล่องไม่งั้นเอาตัวไม่รอดช่วงนี้รอไปก่อนจริงจริงท่านมาเเล้วหละเเต่ยังไม่ประกาศตัวอันนี้หลวงพ่อบอกครับ

 

เเล้วที่ว่าใครดูเเลท่านอยู่ก็ไม่ต้องถามหรอกครับถ้ายังไม่ประกาศตัวเเสดงว่ายังช่วยใครไม่ได้เเล้วมาคนเดียวเหรอเขามีทีมงานครับทำไมผมรู้เรื่องนี้ผมก็ติดตามเหมือนกันครับมโนก็ได้ดูเองถามพระเอาก็ได้ประมานนี้ครับคิดว่าซักวันคงได้อยู่ในทีมงานนั้นเหมือนกันเเละถ้าเปนจริงเลยเดาใจกันออกครับ

 

ึส่วนตัวผมเเม้ได้มโนก็ใช่สบายดูหวยง่ายขึ้นไปขอท่านย่าท่านไม่ให้ท่านบอกอยากได้เงินขยันเอาฝืนยังไงก็ไม่ได้ลองละอยากเข้าสู่การเมืองพี่ใหญ่สั่งให้เปนนายกเทศบาลก่อนตอนนี้โดนเตะตัดขาต้องหนีไปอยู่วัดกว่าจะลงสมัครได้ต้องรออีก6ปีเพราะอายุไม่ถึงตอนนี้อยู่วัดก็ซ้อมสมาธิไปพลางจนกว่าลูกพี่จะประกาศตัวนั่นละครับ

 

ส่วนเพื่อนเพื่อนโพธิก็อย่าถ้อสู้ต่อไปเราคือผู้นำต้องลำบากมากกว่าบริวารจึงรู้วิธีช่วยบริวารมันเปนสูตรของพวกเราครับ

 

ดูเอาๆ คลิกดูรูปที่ผมแนบมาเลยครับแล้วจะรู้

 

สรุปคือเป็นบุคคลในอนาคตครัับ อายุขัยพวกเราคงอยู่ไม่ถึงคงตายก่อนถ้าอยากเจออยากพบในสภาพที่ตนเองเป็นคนคงต้องมาเกิดใหม่เพราะท่านทั้งสองคงเป็นยุวชนคนรุ่นหลังพวกเราท่าน...55:z12

 

ความรู้แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ สุตมยปัญญา ความรู้ที่ได้มาจากการอ่าน การฟัง การค้นคว้าจากตำรา จินตมยปัญญา ความรู้ที่ได้จากความคิด โดยอาศัยสุตตมยปัญญา เช่นนักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และสุดท้ายคือ ภาวนามยปัญญา ความรู้ที่ได้จากการปฎิบัติธรรม ซึ่งน่าจะหมายความถึงการได้อภิญญาต่างๆ ในสมัยพุทธกาลคนทั่วไปเชื่อว่าโลกแบน เพราะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาอธิบาย พระพุทธองค์ท่านบอกไว้ว่าโลกมีรูปทรงคล้ายมะขามป้อม คนทั่วไปก็ยังไม่เชื่อ สิ่งที่มีคนทำนายเรื่องนี้ไว้ ในเมื่อยังไม่ถึงเวลาที่ได้ระบุว่าท่านจะมาปรากฎตัว ก็มีบางท่านใช้ช่วงนี้ประกาศตัวเองว่าเป็นพระยาธรรมิกราชบ้าง บางท่านก็คาดเดาไปว่าเป็นพระองค์นั้นบ้าง เป็นบุคคลผู้นั้นบ้าง บางท่านก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นจริง รอให้ถึงเวลาที่กำหนดคงจะรู้เองครับ ส่วนตัวผมเชื่อเรื่องนี้เพราะเคยพบผู้ที่ใช้ญานตรวจดูแล้วบอกว่าเป็นจริงตามนั้น และไม่ใช่คนที่ประกาศตัวว่าเป็นท่าน เป็นความเชื่อส่วนบุคคลครับ ต้องขออภัยทุกท่านถ้าความเห็นนี้ไปแย้งกับความคิดท่านครับ การจะพิสูจน์เรื่องแนวนี้ต้องใช้ภาวนามยปัญญาจากผู้ณู้จริง มิใช่อ่านจากเอกสารครับ

 

พระธัมเป็นของประณีต เห็นได้ยาก แม้ทิพย์จักษุก็ยังมิอาจจะเห็นได้ ต้องมีปัญญาจักษุเท่านั้น ผู้ที่จะเข้าถึงได้ ต้องมีพระพุทธเป็นสิ่งแรก เป็นที่พึ่งก่อนเพียงสิ่งเดียว ผู้นับถือลัทธิศาสนาอื่นไม่มีสิทธิ์ เมื่อเข้าถึงพระพุทธแล้ว จึงจะเห็นพระธรรม พญาธรรม คือผู้ถือธัมเป็นใหญ่ เพราะยึดตามหลักธรรม มีสัจจะ มีความซื่อตรงตามธรรม ปราศจากความทุจริตทางกาย วาจา ใจ บางคนบางพวก ทำตัวว่าปฏิบัติธรรมแต่ ประพฤติชั่ว แม้พื้นฐานมนุษย์ทั้งหลายในโลกนี้ส่วนมากยังไปตามกระแส ความดัง ความเด่น ความดี ของอาจารย์เท่านั้น บุคคลที่จะได้พบพญาธรรม ต้องมีพื้นฐานใน สติปัฏฐาน เท่านั้น เพราะเป็นทางเดียวในการบรรลุธรรม ต้องใช้กายในกายเท่าไร ทางอื่นไม่มี อย่าไปตามหาเลยพญาธรรมนะ ถ้าอยากเจอท่านต้องอบรมสติปัฐฐานอานาปานัสสติ ถึงเวลาท่านจะมาเอง