ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

วันนี้ 20/5/15 ผมและครอบครัว โอนร่วมบุญบูชาดวงแก้ว ดวงที่ 7 เรียบร้อยแล้วครับ จำนวน 1,400 บาท เวลา 13.17 น.
บุญที่เกิดจากการบูชาดวงแก้วครั้งนี้และบุญที่เกี่ยวเนื่อง เกิดอานิสงฆ์แก่ข้าพเจ้าเพียงใด ข้าพเจ้าขออุทิศถวายให้พระไภษัชยคุรุไวยฑูรยประภาตถาคต(ในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔) และ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจกเจ้าทุกพระองค์ พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ บิดา มารดาทุกภพทุกชาติ ครูบาอาจารย์ทุกภพทุกชาติ ปรมาจารย์เซียนพร้อมบริวาร จิตวิญญาณ กายสิทธิ์ พระภูมิเจ้าที่ ที่รักษาทรัพย์สินและวัตถุมงคลของข้าพเจ้าและบุคคลในครอบครัว ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน ยานพาหนะ ที่เกี่ยวเนื่องกับช้าพเจ้าและบุคคลในครอบครัว เจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติของข้าพเจ้า ของบิดา มารดา ภรรยาและบุตร ที่กำลังส่งผลและกำลังจะส่งผล ท่านท้าววิษณุกรรมเทวราชพร้อมบริวาร รัตนะทั้ง 7 พรหม เทวดาทุกชั้นฟ้า เหล่าพญาครุฑ เหล่าพญานาคราช เหล่าพญายักษ์ ทุกท่านที่รักษาพระพุทธศาสนา ทุกตน ท่านพระยายมราชและนายนิรยบาลทุกท่านพร้อมบริวาร จิตวิญญานที่เกี่ยวเนื่องกับข้าพเจ้าในอดีตทุกภพทุกชาติ เสมือนท่านทั้งหลายได้กระทำด้วยตัวท่านเอง และขอให้ท่านพระยายมราชได้โปรดเป็นพยานบุญ บอกกล่าว ให้ท่านทั้งหลายได้อนุโมทนา สาธุการ ในบุญกุศลครั้งนี้ด้วยเทอญ และขอให้บุญกุศลในครั้งจงเป็นปัจจัยให้ทุกท่านที่ได้อนุโมทนาสาธุการ มีความสุขทุกภพทุกชาติมีผลเป็นเหตุปัจจัยตราบเท่าท่านเหล่านั้นจะก้าวเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ

 

ครบแล้วครับ 49 ดวง

​

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมบุญและได้บูชาดวงแก้วครับ สาธุครับ

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ได้ร่วมบุญและได้บูชาดวงแก้วนะค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

เรียนพี่น้ำใสครับ

ดวงแก้วพระพุทธเจ้าชุดแรกที่ขึ้นมาก่อนหน้านี้ เป็นดวงแก้วบรมจักรพรรดิ์เช่นกันใช่มั้ยครับ ขอโมทนาในธรรมทานครับ

ขอบคุณครับ

 

ได้รับดวงแก้วแล้วครับ โมทนาสาธุๆๆ จะนำเข้าบรรจุในองค์พระประธานครับ พร้อมทั้งพระสารีริธาตุด้วยครับ

 

ได้รับดวงแก้วและพระบรมสารีริกธาตุแล้วครับ ขออนุโมทนา
ขอบคุณครับ

 

http:// <a href="http://www.uppic.org/share-B066_556003E1.html"><img src="http://www.uppic.org/image-B066_556003E1.jpg" border="0"></a>[/IMG

ผมได้รับดวงแก้วหมายเลข 4 พร้อมพระบรมสาริริกธาตุแล้วครับ

ขอบพระคุณมากครับ

 

สาธุๆๆๆๆ

 

ผมซูมใกล้ๆ ครับ อยากให้เห็นความใสของดวงแก้วครับ

 

พระคาถารวมทรัพย์ ของสมเด็จพระเรวัตตพุทธเจ้า

 

ถ้าคุณ am12 จะกรุณาแบ่งให้ผมบูชาอีกครั้ง สัก 1ดวง ก็ยินดีนะครับ ท่านอาจจำผมไม่ได้เพราะ... แต่คุณน้ำใสทราบแล้ว
ขออนุโมทนาบุญและยินดีกับทุกท่านครับ (จากผู้ร่วมเดินทางแห่งธรรม)

 

ประวัติดวงแก้วพระพุทธเจ้าทั้ง ๔๙ พระองค์..ตอน ๑

ดวงแก้วพระพุทธเจ้าทั้ง ๔๙ พระองค์ เคยปรากฏขึ้นมาให้มนุษย์ได้บูชาก่อนหน้านี้ ย้อนหลังไป ๑๑,๓๕๘ ปี ก่อนสมัยพุทธกาลของพระพุทธสุมังคลพุทธเจ้า มีเมืองหนึ่งนามว่า “สนทยาตรานคร” ปกครองโดยพระเจ้าวิรุฬโธทนะ(พญาอัสดรนาคราช) มีพระมเหสีนามว่า “พระสิตตาราเทวี” ขณะนั้นทรงมีพระโอรส-ธิดา ๘ พระองค์ นามว่า

๑.เจ้าชายวิโรจนโชติ(คุณ rarkmai1) –(พระราชบิดา พระเจ้าวิเวกทศราช)
๒.เจ้าชายศิรหมงคล(คุณanantapat)
๓.เจ้าชายวรเชษฐ์(คุณ intatatip)
๔.เจ้าศีรหเวทย์(คุณเศวตอุบล)
๕.เจ้าหญิงสินีนาท(เข้าพระนิพพานแล้ว)
๖.เจ้าหญิงวรรณกร(เข้าพระนิพพานแล้ว)
๗. เจ้าชายวรเวทย์(คุณ Smilerider)
๘.เจ้าชายศิรวรุตย์(คุณกึกก้อง)

พระเจ้าวิรุฬโธทนะได้ปกครองแบบพ่อปกครองลูกดูแลทุกข์สุขประชาชนด้วยดีตลอดมา ทรงมีพระสหาย ที่รักกันมากเป็นเจ้าเมืองครองนาคพิภพนามว่า “ท้าววาสกหรดีนาคราช”(พญาโภคนาคราช ) แม้ต่างเผ่าพันธุ์ มนุษย์และพญานาคราชในยุคนั้น ต่างมีศีล และไปมาหาสู่กันได้ตามปกติ

ท้าววาสกหรดีนาคราช ปกครองชาวนาคพิภพด้วยความสงบสุขเรื่อยมา ทุกวันขึ้น และแรม ๑ ค่ำของทุกเดือน ท้าว“ท้าววาสกหรดีนาคราช” ได้ขึ้นไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เข้าประชุมพร้อมกับเหล่าเทวดาทั้งหลาย า

หากมีเรื่องใดที่เป็นประโยชน์ และเจริญปัญญา ทรงมักจะนำธรรมะนั้นมาถ่ายทอดให้แก่พระเจ้าวิรุฬโธทนะได้รับฟังอยู่เสมอ ทำให้พระองค์ได้ทราบความเป็นไปใน ๓ ภพ ทั้งมนุษยโลก เทวโลก และนาคพิภพ

กาลต่อมาในการประชุมของเหล่าเทวดาทั้งหลาย ได้กล่าวถึงภัยอันจะเกิดขึ้นแก่มนุษย์ ๓ ประการ คือ
๑. ภัยจากการข้าวยากหมากแพง
๒. โจรภัย หรือภัยจากคนพาลทั้งหลาย
๓. ภัยจากอุทกภัย

เมื่อท้าววาสกหรดีนาคราชได้ทราบข่าวเช่นนั้น นึกถึงสหายผู้เป็นมนุษย์ด้วยความห่วงใย จึงได้กราบเรียนถามท้าวสักกเทวราช เพื่อเรียนถามถึงวิธีแก้ไขคราวเคราะห์แก่มนุษย์ทั้งหลาย
ท้าวสักกเทวราชได้กล่าวว่า กรรมคราวนี้หนักหนามากนัก แม้แต่เทวดาเองก็ไม่อาจจะช่วยเหลือได้ จึงได้แนะนำให้ท้าววาสกหรดีนาคราชได้เรียนถามพระฤาษีท่านหนึ่งมีนามว่า “พระโยชนเศรษฐีฤาษี” ผู้มีอายุยืน โดยพระฤาษีท่านนี้มักจะชอบจำศีลในป่าลึก

หากจะบอกกล่าวถึงท่านจะต้องมีการตั้งเครื่องบวงสรวงก่อนโดยบูชาด้วยดอกไม้หอม ๗ ชนิด น้ำผึ้ง และน้ำอ้อยอย่างละ ๗ กระบอก

จากนั้นได้ตั้งบวงสรวง วันขึ้น ๗ ค่ำของแต่ละเดือน เป็นเวลา ๓ เดือน
เมื่อท่านรับนิมนต์จะพบว่า ในเดือนที่ ๓ น้ำผึ้ง น้ำอ้อยดังกล่าวได้หายไป หมายถึงท่านจะมาบอกวิธีแก้ไขวิบากต่าง ๆ มาได้

เมื่อทราบความแล้ว ท้าววาสกหรดีนาคราชได้กราบลาท้าวสักกเทวราช นำความไปบอกแก่พระเจ้าวิรุฬโธทนะ พระเจ้าวิรุฬโธทนะทรงปิติที่พระสหายมีความห่วงใย จึงได้เรียกพราหมณ์นามว่า “สีหรชตพราหมณ์” (พระสีหบดินทร์ฤาษี ปัจจุบันเคลื่อนภพอยู่สวรรค์ชั้น ๖ สายปราบ) ให้ทำพิธีดังกล่าว จนสำเร็จ

“พระโยชนเศรษฐีฤาษี” ได้ปรากฏกาย และสอนให้พระเจ้าวิรุฬโธทนะ พระมเหสี พระโอรส-ธิดาได้รักษาอุโบสถศีล และสอนให้บำเพ็ญภาวนา ท่านได้กล่าวว่า....

“ลูกเอ๋ย..ภัยที่จะเกิดในอนาคตย่อมเกิดแน่นอน ผลบุญที่ลูกทั้งหลายได้กระทำนั้นจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา แต่จะช่วยได้เพียงใดนั้น ขึ้นอยู่กับบุญวาสนา แต่พ่อจะลองหาทางว่า มีทางใดที่จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้หรือไม่”

เวลาผ่านไป ๕ เดือน พระเจ้าวิรุฬโธทนะ พระมเหสี พระโอรส-ธิดาได้เคร่งครัดในการรักษาศีล และเจริญภาวนา ทำให้ภัยพิบัติที่จะเกิดได้ยืดระยะเวลาออกไป

กล่าวถึงท้าววาสกหรดีนาคราช เมื่อมีพระฤาษีมาอยู่ประจำยังเมือง“สนทยาตรานคร” ก็ได้มีโอกาสพาเหล่านาคานาคีทั้งหลายมาฟังธรรม และรักษาศีล ได้ทราบว่า ณ.นครบาดาลของตนมีพระฤาษีได้เข้าสมาบัติอยู่ ๕ ตน

พระโยชนเศรษฐีฤาษีได้ทราบด้วยญาณทัสสนะว่า จะต้องเชิญผู้มีบารมีลงมาเกิด เพื่อสามารถเรียกสมบัติจักรพรรดิ และทรัพย์แผ่นดินได้จากบุญของผู้นั้น จึงได้ให้จัดพิธีบวงสรวงพรหมเทวดาร้องขอผู้มีบุญลงมาเกิด
การบวงสรวงครั้งนั้น ถึงกับทำให้อาสนะของท้าวสักกเทวราชร้อน จึงตรวจดูว่า มีเรื่องใดทรงได้ทราบว่า เกิดจากการบวงสรวงขอผู้มีบุญมาเกิด เพื่อผ่อนภัยพิบัติจากหนักให้เป็นเบา

จึงได้ขออาสาเหล่าเทวดา-เทพธิดาทั้งหลาย ปรากฏว่า ทั้งสวรรค์หามีผู้ใดปรารถนาจะลงมาไม่ เนื่องจากการมาเกิดครั้งนี้ ต้องเผชิญทุกข์แสนสาหัส

ท้าวสักกเทวราชในยุคนั้นได้ปรึกษากับท้าวสหัมสบดีพรหม ทรงตรวจดูพบว่า มีพรหม ๒ องค์ถึงเวลาต้องลงมาจุติในโลกมนุษย์ จึงให้อธิษฐานให้พรหมทั้งสองออกจากสมาบัติ

 

ต้องขออภัยคุณจิรญาโณด้วยค่ะ เพิ่งส่งดวงแก้วเมื่อเช้าค่ะ เนื่องจากติดกิจไปต่างจังหวัดค่ะ

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

Numsai

 

ขอกล่าวถึงแดนพรหมโลก “โสสิรจนพรหม” (น้อง Marisa) หรืออดีตพระนางสิริมารตีเทวี(พระธิดาของพญาสิงหลนาคราช) ได้เคลื่อนออกจากสมาบัติ

เมื่อออกจากสมาบัติ ตรวจดูพบว่า เหตุที่ตนมาเกิดในพรหมโลก เป็นผลจากการทรงฌาน ตรวจดูบุพกรรมทราบว่า ตนจะเสวยสุขอยู่ในพรหมโลกไม่นาน จะต้องเคลื่อนภพไปตามกรรมของตน

จึงได้ไปเฝ้าท้าวสหัมสบดีพรหมในยุคนั้น พบว่ามีประภาศิรพรหม รออยู่ก่อนแล้ว เรื่องของประภาศิรพรหม ได้เห็นโทษแห่งการมีรักจึงอธิษฐานขอตัดรักการครองคู่กับคู่บารมี และตั้งใจว่า จะเข้าสมาบัติจนกว่าจะสิ้นอายุขัย

“ชาติหน้าเราขอเกิดเป็นมนุษย์ ได้ออกบวช บำเพ็ญธรรมตามคำสั่งสอนของผู้รู้ ขอให้ได้มีดวงตาเห็นธรรม เข้าถึงความบริสุทธิ์ได้ในที่สุด”

แต่ด้วยบุพกรรมที่เคยร่วมอธิษฐานกับคู่บารมีในอดีต และอธิษฐานบารมียังอ่อน ทำให้ไม่สามารถเป็นไปตามที่อธิษฐานได้ ขณะนั้นประภาศิรพรหมได้ขอท้าวสหัมสบดี เพื่อขอเกิดเป็นชาย

เมื่อ“โสสิรจนพรหม” (น้อง Marisa) ไปถึงได้ยินท้าวสหัมสบดีกล่าวกับประภาศิรพรหมว่า...

“การไปเกิดครั้งนี้ ลูกมั่นใจหรือว่าจะเกิดเป็นผู้ชาย ด้วยบุพกรรมของลูก ต้องเกิดเป็นหญิง หากมีร่างเป็นชาย หน้าตาจะละม้ายคล้ายหญิง ปัญหาจะเกิดขึ้นตามมา”

ประภาศิรพรหมด้วยยังมีมิจฉาทิฐิ ยึดมั่นในความตั้งใจของตน จึงกล่าวว่า...

“ข้าฯแต่ท่านผู้เป็นใหญ่ในพรหมโลก แม้อย่างไรลูกก็จะขอเป็นชายในชาตินี้ ด้วยจิตปรารถนาจะประพฤติพรหมจรรย์ ปรารถนาจะออกบวชแสวงหาธรรมะ เพื่อความหลุดพ้น หากได้อัตภาพความเป็นหญิงแล้ว ก็จะพึงมิสมปรารถนา ขอท่านได้โปรดเมตตาข้าฯด้วยเถิด”

ท้าวสหัมสบดีพิจารณาดูเกิดจากบุพกรรมที่จะต้องเกิดขึ้น จึงได้ตรัสว่า...

“ลูกเอ๋ย..บุญของเจ้า หาได้พ้นจากความเป็นสตรีไม่ เอาอย่างนี้ พ่อจะให้พรแก่เจ้าว่า แม้เป็นหญิง ขอให้ได้บวชเช่นดังชาย จนกว่าจะพบคู่แท้ ผู้นั้นจะทราบว่า เจ้าเป็นสตรีเพียงผู้เดียว”


จากนั้นท้าวสหัมสบดีได้มอบวัชระ และผ้าวิเศษสีทอง อันเป็นของคู่บารมีเพื่อใช้ในการเรียกสมบัติ ส่วน“โสสิรจนพรหม” ได้มอบดวงแก้วมณีให้เป็นของวิเศษ โดยทั้งสองได้ไปจุติคนละเมือง โดยต่างก็เกิดมาเป็นสตรีทั้งคู่
กล่าวถึงประภาศิรพรหมมาเกิดเป็นธิดาของ“สีหรชตพราหมณ์” ในเมืองโดยเป็นธิดาคนที่ ๔ ให้ชื่อว่า ศิรชตกุมาร เมื่อลงมาเกิดได้ลงมาพร้อมกับวัชระ และผ้าวิเศษสีทอง เป็นเหตุให้สีหรชตพราหมณ์ต้องปิดบังเพศที่แท้จริงของนาง โดยซ่อนวัชระ และผ้าวิเศษไว้ใต้มวยผมของนาง และเลี้ยงดูนางดุจเป็นบุรุษ แม้แต่บุตรชาย ต่างก็เชื่อว่า มีน้องชายทั้งสิ้น

ฝ่ายพระโยชนเศรษฐีฤาษีได้ทราบถึงการจุติของประภาศิรพรหม ทราบว่ามาเกิดในตระกูลพราหมณ์จึงได้ไปพบกับ“สีหรชตพราหมณ์” และให้พรว่า “ยกเว้นคู่ครองที่แท้จริงของนางแล้ว หาได้มีผู้ใดทราบเพศที่แท้จริงของศิรชตกุมารไม่

เมื่อศิรชตกุมารอายุครบ ๓ เดือน พระโยชนเศรษฐีฤาษีได้สั่งให้ตั้งเครื่องบวงสรวงขอสิ่งที่มีค่าจากผู้รักษาของวิเศษตามสมควรแก่บุญบารมี เพื่อไว้ป้องกันภัยพิบัติ


*******************************

ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีนั้น เกิดสิ่งมหัศจรรย์ มีดวงแก้วมณีปรากฏขึ้นในสระน้ำในอุทยานของ “สีหรชตพราหมณ์” จำนวน ๔๙ ดวง

เป็นดวงแก้วประจำกายของพระพุทธเจ้าในอดีต ดังนี้

๑. พระพุทธวิสุทธิรังสีพุทธเจ้า(สมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๒. พระพุทธไวโรจนพุทธเจ้า(ต้นธาตุต้นธรรมพระธยานิพุทธเจ้า –พระสิกขีทศพลที่ ๕)
๓. พระพุทธอักโษภยพุทธเจ้า (พระธยานิพุทธเจ้า )
๔. พระพุทธรัตนสัมภาวพุทธเจ้า(พระธยานิพุทธเจ้า)
๕. พระพุทธอโมฆสิทธิพุทธเจ้า(พระธยานิพุทธเจ้า)
๖. พระพุทธอมิตาภพุทธเจ้า(พระธยานิพุทธเจ้า )
๗. พระไภษัชยคุรุไวยฑูรยประภาตถาคต(ในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๘. พระสุริยประภาสไวยฑูรยตถาคต(ในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๙. พระปรเมนทรบรมโลกนาถตถาคตเจ้า(ในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๑๐. พระรัตนไวยยกรณ์บรมโลกนาถพุทธเจ้า(ในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๑๑. พระวิสุทธิไวยฑูรยตถาคต(ในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๑๒. พระปริสุทธไวยฑูรยตถาคต(ในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๑๓. พระสรณังกรไวยยพุทธเจ้า(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๑๔. พระศุทธิปัญญาพุทธเจ้า(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๑๕. พระศีรนาทเมธังกรพุทธเจ้า(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๑๖. พระสุทธิโสตตนพุทธเจ้า(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-วิริยธิกะ)
๑๗. พระเมธังกรมณฑลพุทธเจ้า(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๑๘. พระมหิทธิไวยฑุรณตถาคต(ต้นธาตุในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๑๙. พระสุทธิจันทรประภาสตถาคต(ต้นธาตุในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๒๐. พระไวยยประภาสตถาคต(ต้นธาตุในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๒๑. พระมังคลประภาสพุทธเจ้า(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-วิริยธิกะ)
๒๒. พระสรณังมงคลพุทธเจ้า(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๒๓. พระมโหสถไวโรจนพุทธเจ้า(ต้นธาตุต้นธรรมพระธยานิพุทธเจ้า -๑)-มีมณฑลต่างจักรวาล
๒๔. พระสุทธิวงศ์ไวยฑูรณตถาคต(ต้นธาตุในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๒๕. พระสิริจันทรประภาสพุทธเจ้า(ต้นธาตุต้นธรรมพระธยานิพุทธเจ้า -๒)มีมณฑลต่างจักรวาล
๒๖. พระรัตนจันทรประภาสพุทธเจ้า(ต้นธาตุต้นธรรมพระธยานิพุทธเจ้า -๔)มีมณฑลต่างจักรวาล
๒๗. พระมหาโภคมณฑลพุทธเจ้า(ต้นธาตุต้นธรรมพระธยานิพุทธเจ้า-๓ )มีมณฑลต่างจักรวาล
๒๘. พระสัมโภคยวรรณพุทธเจ้า(ต้นธาตุต้นธรรมพระธยานิพุทธเจ้า-๕)มีมณฑลต่างจักรวาล
๒๙. พระสิริมหาโรจนพุทธเจ้า(ต้นธาตุในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๓๐. พระศุทธิจันทราพุทธเจ้า (ต้นธาตุในสมเด็จองค์ปฐม-ศรัทธาธิกะ)
๓๑. พระปัทมวิชัยยตถาคต(ต้นธาตุในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๓๒. พระสีหบรมไตรโลกนาถพุทธเจ้า(ต้นธาตุในสมเด็จองค์ปฐม-ศรัทธาธิกะ)
๓๓. พระปัทมไวยฑูรยตถาคต(ต้นธาตุต้นธรรมพระธยานิพุทธเจ้า -๓) -มณฑลทางช้างเผือก
๓๔. พระศูทรไวยยพุทธเจ้า(ต้นธาตุต้นธรรมพระธยานิพุทธเจ้า -๒) –มณฑลทางช้างเผือก
๓๕. พระสีหนาทตถาคต (ต้นธาตุในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๓๖. พระกษายเกตุตถาคต(ต้นธาตุในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๓๗. พระจันทรสูตรประภาสพุทธเจ้า(ต้นธาตุในสมเด็จองค์ปฐม-ศรัทธาธิกะ)
๓๘. พระมหาไวโรจนพุทธเจ้า(ต้นธาตุต้นธรรมพระธยานิพุทธเจ้า -๑) -มณฑลทางช้างเผือก
๓๙. พระมหาอภิญญาคิรีราชตถาคต(ต้นธาตุในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๔๐. พระอังคีรสพุทธเจ้า(ต้นธาตุต้นธรรมพระธยานิพุทธเจ้า -๔)มณฑลทางช้างเผือก
๔๑. พระคิริราชพุทธเจ้า (ต้นธาตุในสมเด็จองค์ปฐม-ศรัทธาธิกะ)
๔๒. พระสุทธิโมกขพุทธเจ้า(ต้นธาตุต้นธรรมพระธยานิพุทธเจ้า -๕)มณฑลทางช้างเผือก
๔๓. พระสุทธิมณฑลพุทธเจ้า(ต้นธาตุในพระพุทธสิกขีทศพลที่ ๔)
๔๔. พระมังคลบรมโลกนาถพุทธเจ้า(ต้นธาตุในสมเด็จองค์ปฐม-ศรัทธาธิกะ)
๔๕. พระอังคีรสมงกุฎพุทธเจ้า(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-วิริยธิกะ)
๔๖. พระมหานามพุทธเจ้า(ต้นธาตุในสมเด็จองค์ปฐม-ศรัทธาธิกะ)
๔๗. พระศีรสุทธิพุทธเจ้า(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๔๘. พระสุริยประภาสโชตพุทธเจ้า (ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-วิริยธิกะ)
๔๙. พระภควันตประภาสพุทธเจ้า(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-วิริยธิกะ)

 

ครั้นรุ่งสางคนเฝ้าอุทยาน ได้นำความไปบอกแก่สีหรชตพราหมณ์ เมื่อทราบข่าวแล้วสีหรชตพราหมณ์ ได้นำดวงแก้วทั้ง ๔๙ ดวงไปถวายแด่พระโยชนเศรษฐีฤาษีที่อยู่ในอุทยานหลวงแห่งพระเจ้าวิรุฬโธทนะ

พระโยชนเศรษฐีฤาษีได้กล่าวว่า "ดวงแก้วมณีนี้มีเจ้าของเดิมอยู่ ให้ชาวเมืองทั้งหลายให้รักษาศีล บำเพ็ญธรรมเป็นเวลา ๓ เดือน ให้นำพานจัดดอกไม้หอม พร้อมน้ำดื่มไว้อาราธนาดวงแก้วมณีในทุกครัวเรือน หากดวงแก้วมณีไปปรากฏที่พานดอกไม้ของผู้ใด ผู้นั้นคือเจ้าของดวงแก้วมณี"

**********************

เมื่อพระเจ้าวิรุฬโธทนะได้ทราบแล้ว จึงสั่งการให้ราชบุรุษร้องป่าวประกาศให้ชาวเมืองต่างรักษาศีลเป็นเวลา ๓ เดือน(เดือน ๘-๑๐) ดวงแก้วมณีนี้เดิมได้ประดิษฐานอยู่ในอาศรมของพระโยชนเศรษฐีฤาษี

ครั้นเมื่อเวลาผ่านไป ๑ เดือน เริ่มมีดวงแก้วไปปรากฏแก่ผู้เป็นเจ้าของตามคำกล่าวของพระโยชนเศรษฐีฤาษีทุกประการ บางท่านอยู่ในตระกูลกษัตริย์ บางท่านอยู่ในตระกูลพราหมณ์ บางท่านอยู่ในตระกูลเศรษฐี หรือแม้แต่ชนชั้นสามัญ บางเรือนมีดวงแก้วเสด็จไปตามจำนวนสมาชิก เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจ(สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับเจ้าของดวงแก้ว ท่านไม่ได้บอก ได้กล่าวเพียงที่มาของดวงแก้ว)

ข่าวดวงแก้วจำนวน ๔๙ ดวง เสด็จไปยังเจ้าของเดิมนั้นได้แพร่สะบัดไป ทำให้ชาวเมืองต่างสนใจในการรักษาศีล บำเพ็ญธรรมตามที่พระโยชนเศรษฐีฤาษีได้สอนไว้เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ บางพวกมาจากต่างเมืองสนใจในการรักษาศีล บำเพ็ญธรรม
ก่อนวันธรรมสวนะขึ้น ๖ ค่ำ ท้าววาสกหรดีนาคราช ได้พาบริวารขึ้นจากเมืองบาดาล ฝ่ายพระเจ้าวิรุฬโธทนะ ก็เสด็จมาพร้อมพระมเหสี และพระโอรส-ธิดาเช่นกัน เพื่อรับฟังคำสอนของพระโยชนเศรษฐีได้กล่าวว่า..

“ดวงแก้วมณีนี้ ถูกเก็บรักษาพญานาค ซึ่งบำเพ็ญบารมีมาแก่กล้า และยาวนานมาก พญานาคราชที่จะทำหน้าที่นี้ได้ จะต้องบำเพ็ญตะบะอย่างน้อย ๒ อสงไขย ต้องเสียสละที่จะไม่เคลื่อนไปภพภูมิอื่น หน้าที่นี้ หาผู้ที่เหมาะสมได้ยาก แม้พระโพธิสัตว์บางพระองค์ยังไม่ปรารถนาจะทำ เนื่องจากเป็นงานที่หนัก และเหนื่อยยาก

หากยุคใดที่มนุษย์มีใจสูง ไม่มีความละโมบ หน้าที่นี้ไม่เหนื่อยมาก หากยุคใดเป็นยุคเข็ญ และเป็นยุคที่มนุษย์มีใจหยาบช้า งานของผู้ดูแลสมบัติจักรพรรดิจะหนัก และเหนื่อย พญานาคผู้ดูแลจะต้องมีฤทธานุภาพสูงมาก”
พระสหายต่างภพภูมิ คือ พระเจ้าวิรุฬโธทนะ(พญาอัสดรนาคราชในปัจจุบัน และท้าววาสกหรดีนาคราช(พระโภคฯ อยู่สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี) ต่างครุ่นคิดเรื่องเดียวกันคือ

"พญานาคนี้ต้องบำเพ็ญบารมีมายาวนาน เพื่อแบกรับหน้าที่อันผู้อื่นยากจะแบกเรา เราปรารถนาจะเป็นหนึ่งในผู้ทำหน้าที่นั้น ในอนาคตกาลเบื้องหน้า เพื่อช่วยแบ่งเบาทุกข์ภัยอันจะเกิดแก่มนุษย์ผู้ทุกข์เข็ญ"



ฝ่ายพระโยชนเศรษฐีฤาษีได้ทราบความดำริของกษัตริย์ทั้งสอง จึงกล่าวว่า “ท่านทั้งสองนั้น ในอนาคตกาลจะสมหวังในความปรารถนาทุกประการ ท่านได้รักษาสมบัติจักรพรรดิในพระพุทธเจ้าถึง ๔๙ พระองค์ หากมีความประสงค์ก็จะได้ตามนั้น ยกเว้นจากการลาเพื่อทำหน้าที่นี้เท่านั้น”

เมื่อสิ้นเสียงแห่งพระฤาษี ทั้งชาวเมือง และชาวนาคพิภพต่างโมทนาสาธุการ มีบางคนที่ปวารณาตนที่จะคอยช่วยเหลือกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานตาม

พระโยชนเศรษฐีฤาษีได้กล่าวต่อไปว่า “ดวงแก้วมณีที่จะปรากฏขึ้นมานี้ เป็นดวงแก้วที่พระพุทธเจ้าในกาลก่อนทรงอธิษฐานรวมบุญบารมีทั้ง ๓๐ ทัศน์ของพระพุทธองค์ เป็นพุทธประเพณี ก่อนจะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาน ตั้งแต่ระยะเวลา ๑๐๐-๑๐๐๐๐ ปีแล้วแต่ทรงอธิษฐาน ไม่มาก หรือไม่น้อยกว่านั้น
ดังนั้น ดวงแก้วมณีจะอานุภาพสามารถเรียกทรัพย์ได้ ให้พ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง ขอเพียงผู้เป็นเจ้าของจะปรารถนา”
ต่อมาพระโยชนเศรษฐีฤาษีได้กำหนดวันให้อัญเชิญดวงแก้วมณีขึ้นมาอีกครั้ง ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีเดียวกัน เป็นครั้งที่ ๒ ดวงแก้วคราวนี้ ปรากฏขึ้นในพระอุทยานของพระเจ้าวิรุฬโธทนะ สร้างความปิติยินดีแก่พระองค์ พระมเหสี และพระโอรส-ธิดาเป็นอย่างยิ่ง

โดยดวงแก้วพระพุทธเจ้า ๔๙ ดวง มีดังนี้

๑. พระกัสสปโฆษกพุทธเจ้า -(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๒. พระอัญญาไวยยพุทธเจ้า -(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๓.พระสุริประภาสไวฑูรณ์ตถาคตพุทธเจ้า- (ต้นธาตุในพระอาทิพุทธเจ้า)
๔.พระจันทรประภาสไวฑูรณ์ตถาคตพุทธเจ้า (ต้นธาตุในพระอาทิพุทธเจ้า)
๕.พระโมกขวิสุทธิพุทธเจ้า -(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๖.พระสรณังกรวิสุทธิ์พุทธเจ้า -(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๗.พระโมคคัลลาวิสุทธิ์พุทธเจ้า- (ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-วิริยธิกะ)
๘.พระสิริมาตยเมธังกรพุทธเจ้า (ต้นธาตุในสมเด็จองค์ปฐม-ศรัทธาธิกะ)
๙.พระศรีสหัสสเมตไตรยพุทธเจ้า (ต้นธาตุในพระอาทิพุทธเจ้า)
๑๐.พระเมธังกรไวฑูรณยตถาคตพุทธเจ้า (ต้นธาตุในพระอาทิพุทธเจ้า)
๑๑.พระโลกุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า (ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-วิริยธิกะ)
๑๒.พระเสธธังกรวิญญูพุทธเจ้า -(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๑๓.พระสัมภาวรัตนสัมมาสัมพุทธเจ้า (ต้นธาตุในพระอาทิพุทธเจ้า)
๑๔.พระสุทธิไวฑูรณประภาตถาคตพุทธเจ้า (ต้นธาตุในพระอาทิพุทธเจ้า)
๑๕.พระศิรประภาสไวฑูรณ์ตถาคตพุทธเจ้า (ต้นธาตุในพระอาทิพุทธเจ้า)
๑๖.พระศิรนิลเมตไตรยพุทธเจ้า (ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-วิริยธิกะ)
๑๗.พระวิสุทธิพนมกรพุทธเจ้า (ต้นธาตุในพระอาทิพุทธเจ้า)
๑๘. พระสุทธิศรีรัตนเมตไตรยพุทธเจ้า (ต้นธาตุในพระอาทิพุทธเจ้า)
๑๙. สมเด็จพระมหิทธิประภาสไวยฑูรณ์ตถาคตพุทธเจ้า –(ต้นธาตุพระพุทธเจ้าสายปราบมาร)
๒๐. สมเด็จพระวิสุทธินารถพุทธเจ้า –-(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๒๑. สมเด็จพระพุทธชินสีห์บรมโลกนาถพุทธเจ้า(ต้นธาตุในพระอาทิพุทธเจ้า)
๒๒. สมเด็จพระสุมังคลไวยฑูรณ์บวรพุทธเจ้า–(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๒๓. สมเด็จพระสุริยสันติบรมโลกเชษฐ์พุทธเจ้า -–(ต้นธาตุพระพุทธเจ้าสายปราบมาร)
๒๔. สมเด็จพระพุทธิวงศ์บรมจักรไตรโลกนาภพุทธเจ้า(ต้นธาตุในพระอาทิพุทธเจ้า)
๒๕. สมเด็จพระสิทธิบวรไตรโลกนาถพุทธเจ้า ––(ต้นธาตุในสมเด็จองค์ปฐม-ศรัทธาธิกะ)
๒๖. สมเด็จพระสรณังคีตรสพุทธเจ้า –(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
๒๗.สมเด็จ พระคุณาไวยฑูรยประภาสตถาคต (ต้นธาตุในพระอาทิพุทธเจ้า)
๒๘. สมเด็จพระศิรประภาบูรณไวโรจน์พุทธเจ้า –(ต้นธาตุพระพุทธเจ้าสายปราบมาร)- Dr.Nut
๒๙.สมเด็จพระโสรัจนสัมโภคบรมไตรพุทธเจ้า –(ต้นธาตุในสมเด็จองค์ปฐม-ศรัทธาธิกะ)
๓๐.สมเด็จพระศีรอโศกไวฑูรณ์ตถาคตพุทธเจ้า –(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-วิริยธิกะ)
๓๑. สมเด็จพระพุทธศีรสุตตัญญุตาพุทธเจ้า- (ต้นธาตุในพระอาทิพุทธเจ้า)
๓๒. สมเด็จพระพุทธปราชญไตรโลกนาถพุทธเจ้า –(ต้นธาตุพระพุทธเจ้าสายปราบมาร)
(สำหรับลำดับที่ เหลือ ขออนุญาตนำเสนอวันพรุ่งนี้ค่ะ เนื่องจากมีอาการเพลีย ไม่สะดวกต่อการขอทราบพระนามต่อค่ะ.)

 

..ดวงแก้วพระพุทธเจ้า ๔๙ ดวง ชุดที่ ๒

สำหรับดวงแก้วพระพุทธเจ้า ๔๙ ดวงชุดที่ ๒ ได้นำให้สมาชิกในกลุ่มปรนิมมิตวสวัตตีได้บูชาส่วนหนึ่ง ตั้งแต่วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๕๘ เป็นต้นมา ส่วนหนึ่งได้นำถวายแด่พระภิกษุวัดท่าซุง และส่วนหนึ่งได้นำถวายท่าน Lopen Gembo Dorji ในเดือนเมย.-ต้นพค.๕๘ ที่ผ่านมาค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

<a href="http://www.uppic.org/share-26A0_55669763.html"><img src="http://www.uppic.org/thumb-26A0_55669763.jpg" border="0"></a>

ผมได้รับดวงแก้ว หมายเลข 39 พร้อมพระบรมสาริริกธาตุแล้วครับ

ขอบพระคุณในความเมตตา และขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

ได้รับดวงแก้ว หมายเลข 49 และ พระบรมสารีริกธาตุ แล้วครับ
ขออนุโมทนาบุญทุกประการ ครั๊บ..

 

เวลา ๑๓.๓๐ น. ผมได้รับดวงแก้วพระพุทธเจ้าทั้ง ๔๙ พระองค์
๑๖. พระสุทธิโสตตนพุทธเจ้า(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-วิริยธิกะ)
๔๗. พระศีรสุทธิพุทธเจ้า(ต้นธาตุ-สมเด็จองค์ปฐม-ปัญญาธิกะ)
และพระบรมสารีริกธาตุแล้วครับ ขออนุโมทนา
ขอบคุณครับ