ปุถุชน....คนช่างสงสัย...

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย raming2555, 4 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. [-VaLentine-]

    [-VaLentine-] กระผมสมาธิและกำลังจิตกากสุดในเวปนี้

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +486
    อยากจะเล่าความฝันเหมือนกันครับ แต่ไม่กล้าเล่าได้เต็ม 100 เพราะมันจะค่อนข้างติดเรท 18+ ฮ่าๆๆๆ

    คืนก่อนฝันว่าได้ต่อสู้กับอิสตรี พวกเธอเหล่านั้นช่างงดงามราวนางฟ้ายิ่งนัก ไม่คิดเลยว่านักรบกล้าอย่างเราจะต้องพ่ายแพ้และเสียท่าให้ต่อพวกนางเหล่านั้น พอตื่นขึ้นมาก็อุทานว่า "ม่ายยยย" ไม่อยากตื่นเลย ทำมายยย แฟนผมถึงไม่น่ารักเหมือนนางเหล่านั้นนะ ไปล่ะเดี๋ยวหัวแตกครับ 55555+

    ปล.ไปล่ะครับ หมอเรียกรับยาช่อง 2 :p:p
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ถือว่า ใจกล้ามาก ที่กล้าเอาความฝันติดเรท
    ทำนองนี้มาเล่าสู่สาธารณะ
    เด่วเครปหน้าจอไว้ก่อน เอาไว้แบ๊คเมย์ ในภายหลัง
    ถ้าไม่อยากให้เรื่องราวนี้เผยแผ่ ให้มาไถ่ด้วย คาปูชิโน่ เย็น ๑ แก้ว ๕๕๕
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ช่วงนี้ระบบของพลังงานที่มาจากภาคพื้นดิน และระบบพลังงานในส่วนของภาค
    แห่งการสงเคาระห์ในทางด้านต่างๆ มีการปรับเปลี่ยนลักษณะ
    ของกระแสพลังงานอยู่ครับ..คล้ายๆว่ากำลังเปลี่ยนลักษณะระบบพลังงาน
    ไปสู่ระบบพลังงานรูปแบบใหม่...ถ้าไม่เข้าใจว่าพูดอะไรให้ฟัง ๕๕๕๕
    ช่วงนี้ ไม่ว่าจะสามารถทำอะไรพิเศษๆได้ หรือว่าพบเจออะไรๆก็ตามที่พิเศษๆได้
    ในนิมิตร หรือสัมผัสอะไรได้ในเรื่องของพลังงานต่างๆที่เรารู้สึกว่า มันแปลกๆขึ้น
    ไม่เคยเห็นเคยเจอมาก่อน รวมทั้งเรื่องมายาต่างๆ เรื่องกลจิตของเรา
    ให้เราเฉยๆไว้ทุกๆกรณีนะครับ รวมทั้งพยายาม
    ตัดเรื่องราวต่างๆที่จะมายึดเกาะตัวจิตให้ดีในระหว่างวัน
    รออีกซักหนึ่งอย่าพึ่งใจร้อนรอประมาณไม่ต่ำกว่า ๒ สัปดาห์ครับ
    ไม่งั้นจะพลาดระบบพลังงานใหม่ได้อย่างน่าเสียดาย..
    เพราะมันมีการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เฉพาะในโลกของเรานี้ครับ
     
  4. Snooty

    Snooty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +670
    รับแซ่บค่ะ กราบขอบพระคุณพี่นพค่ะ โสๆๆๆๆ

    ปล หรือว่าแกนโลกเริ่มเคลื่อนที่แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กรกฎาคม 2015
  5. ทองชมพู

    ทองชมพู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +2,802
    เมื่อวานนี้จุดเทียนถวายพระพร มองที่เปลวไฟเล่น ๆ ดู เอ๊ะทำไมเปลวไฟสวยแปลก ๆ แถมเปลวไฟไฉนเป็นรูปคล้ายอาวุธดาบไปได้ มองไปมองมาไม่นานก็ดับเทียน แต่เปลวไฟสิยังติดตาอยู่สักระยะประมาณหนึ่ง คือตรงกลางเป็นสีของไฟเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ ๑ นิ้ว แล้วถัดออกมาเป็นสีเขียวประมาณ ๑ นิ้ว ขอบนอกสุดเป็นสีเหลืองนวล มีแบบบางช่วงเป็นคลื่นไฟด้วยนะ

    ตอนแรกกะว่าเรื่องกสิณเราไม่สนใจละ กะว่าไม่เอา ไม่มีฤทธิ์ก็ไม่เป็นไร แต่พอมองเปลวไฟแค่แป๊บเดียวทำไมมันติดตาไวนักนะ ชักสนขึ้นมานิด ๆ ละ ทั้ง ๆ ที่พี่นพบอกว่าอะไรก็ช่างอย่าสนใจ แต่ว่าเล่าสู่กันฟังระว่างพี่ ๆ น้อง ๆ คงไม่เป็นไร ชิมิ...


    ปล.เลขสามตัวก็อยากได้นะแต่พี่แกไม่ยอมบอกแฮะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2015
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ยุกยิกบนกระโหลกศรีษะนะดี เป็นสัมผัสเริ่มต้นแรกๆในการเข้าถึง
    ต้นกระแสพลังงานหรือแหล่งพลังงานต่างๆ ไม่ว่าครูบาร์อาจารย์ต่างๆ
    หรือท่านต่างๆที่เราขอความอนุเคราะห์ในบางกรณี
    ถ้ากระโหลกศรีษะด้านหน้าเป็นครูบาร์อาจารย์ท่านที่เรามีสัมพันธ์หรือ
    ระดับที่ดีต่างๆที่เราไปขอเชื่อม...
    ถ้าส่วนกลางเป็นด้านพลังงาน อาจเป็นได้ทั้งจากพลังงานที่เราสร้าง
    และพลังงานที่มีอยู่แล้วของต้นพลังงาน...
    เมื่อก่อนเนาะ เรานึกถึงท่านนั้นท่านนี้ หรือสถานที่นี้โน้นนั้นฯลฯ
    จิตเราจะสร้างเป็นภาพท่านนั้นท่านนี้ได้ สร้างภาพเป็นสถานที่โน้นนี่นั้นฯลฯ
    เราก็เลยทราบท่านนั้นท่านนี้ เป็นสถานที่โน้นนี่นั้น แบบนี้เค้าเรียก
    ความสามารถพิเศษแบบภายใน หรือเรียกว่า ความสามารถแบบภายในบ้าน
    ซึ่งโดยมากการรับรู้ของคนส่วนมากจะเป็นเช่นนี้ ยิ่งมาทางสายวิชาเฉพาะ
    ก็จะเป็นแบบนี้ซะส่วนมาก

    การที่จิตสร้างเป็นโน้นเป็นนี่นั้น ก็เพื่อให้เราเรียกเป็นภาษาสมมุติได้ถูก
    ว่าเราจะเรียกกว่าอะไร เช่น ห่มเหลือง ท่านนั้นนี่ สถานที่นั่นนี่ นั่นเอง..
    ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่เราอย่าลืมว่า การที่มันยังสร้างเป็นภาพเพื่อความจำได้
    ให้เราเรียกได้ถูกอยู่นั้น มันก็ยังอยู่ภายใต้สัญญาความจำได้ที่เคยฝั่ง
    อยู่ในจิตของเราเอง และการร่วมสร้างสัญญาความจำได้จากภายนอก
    ที่พยายามสร้างเป็น ภาพนั่นนี่ สถานที่โน้นนั้น เพื่อให้เราเห็นอย่างนั้น
    แรกๆมักไม่เป็นอะไร หลังๆมาเนื่องจากมันยังต้องอาศัยการพึ่งพาสัญญา
    ความจำได้เพื่อสร้างเป็นภาพ มันจึงเป็นช่องว่างอย่างดี ในการที่ขันธ์ ๕
    ส่วนนามธรรมต่างๆเข้ามาแทรก กิเลสต่างๆเข้ามาแทรกได้ ก่อนที่จะสร้าง
    เป็นภาพอย่างที่เราคาดไม่ถึงหรือไม่รู้ตัวได้ เพราะว่าเรามีโอกาสที่จะไปยึด
    ได้ว่า สิ่งที่เราเห็นเป็นภาพนะใช่ พอเราเผลอไปยึดว่าใช่อย่างนั้นแบบไม่รู้ตัว
    นี่หละจะกลายเป็นปัญหาขึ้นมาได้ เป็นอาการที่ส่วนตัวเรียกว่า เฝือ บางคน
    ยึดมั่นถือมั่น ว่าต้องเป็นอย่างภาพที่เราเห็น จนกลายเป็นคนถือเนื้อถือตัว
    กลายเป็นคนหลงตัวเอง บางคนก็เพี้ยนๆไปเลยก็มี เพราะว่าภาพเราอาจจะ
    เห็นได้จริง แต่สิ่งที่เห็นไม่ใช่ว่าจะเป็นอย่างภาพที่เราเห็นนั้นเอง...


    ทีนี้ในเรื่องของพลังงาน เนื่องจากมันเป็นคลื่นความถี่ ซึ่งมีเอกลักษณะ
    ที่แตกต่างๆกัน ตามแต่การบำเพ็ญบารมีต่างๆมา ของดวงจิตดวงนั้นๆ..
    และไม่ว่า ดวงจิตนั้นๆจะสร้างให้เราเห็นเป็นภาพอะไรก็ตาม แต่สิ่งที่
    ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ก็คือ เอกลักษณะของพลังงานที่ออกมาจาก
    ดวงจิตดวงนั้นๆ เพราะฉนั้นถ้าเราตัดสัญญาความจำได้ที่จะต้องสร้าง
    เพื่อเป็นภาพให้เราเห็นนั้นออกไปได้ มันก็จะแก้ปัญหา เรื่องการเผลอ
    ไปดึงเอาขันธ์ ๕ นามธรรมเข้ามาปรุงร่วม ตัดการเผลอไปดึงเอากิเลส
    ของเราเข้ามาปรุงร่วมได้ รวมทั้งเป็นการตัดสัญญาที่มาจากภายนอก
    ที่จะมาสร้างเป็นภาพเพื่อให้เราเห็นอย่างที่เข้าพยายามสร้างให้เราเห็นได้
    เป็นการตัด วงจรการปรุงแต่งตรงนี้ ให้ตัดตรงไปยังดวงจิต ไปยังต้น
    แหล่งกำเนิดพลังงานโดยตรง ซึ่งพลังงานพวกนี้มันเป็นคลื่นความถี่
    พลังงานมันได้มาจากการสะสมบารมี ซึ่งเป็นเอกลักษณะเฉพาะดวงจิต
    ซึ่งจะไม่สามารถที่มาหลอก มาเปลี่ยน เพื่อให้เราเข้าใจคลาดเคลื่อน
    หรือเข้าใจผิดได้นั่นเอง เราก็จะรู้ได้ว่า แม้ต้นพลังงานภายนอก
    พยายามสร้างเป็นภาพที่ ดีๆเพื่อหลอกให้เรานึกว่าเป็น ท่านนั่นท่านนี้..
    ถ้าเราเชื่อมตรงไปยังต้นพลังงานได้ เราก็จะพบความแตกต่างด้วยตัวเราเอง
    อะไรประมาณนี้ พอจะเข้าใจเนาะ และที่สำคัญ คลื่นความถี่ ที่พลังงานต่ำ
    กว่า แม้ว่ามีความสามารถในการสร้างเป็นภาพเพื่อให้เราเห็นเป็นโน้น
    เป็นนี่ได้ แต่ว่ากระแสที่ออกจากดวงจิตนั้นๆ มันจะไม่สามารถสร้างขึ้นมา
    ให้คลื่นความถี่เหมือนกับ เจ้าของดวงจิตที่คลื่นพลังงานต่ำพยายามสร้าง
    ขึ้นมาเพื่อหลอกเราได้นั่นเอง

    หลังจากอาการยุบหยิบๆแล้ว ต่อไปถ้าตัวจิตเรามันสร้างให้เข้าถึงต้น
    พลังงานได้ มันก็จะเป็นกระแสที่วิ่งขึ้นตรงจากตัวจิตเรา เป็นคล้ายๆท่อ
    วิ่งทะลุผ่านกระโหลกศรีษะวิ่งขึ้นไปข้างบนไปเชื่อมยังต้นพลังงานนั้นหละ
    เพียงแต่ว่า กระแสแบบนี้มันข้ามมิติและเวลา เราจึงมองเห็นแต่กระแส
    ที่ออกจากตัวผู้อื่นๆ หรืออนาคตเราจะสัมผัสได้ว่า กระแสท่อๆแบบนี้
    ออกจากตัวเรา พอมันขึ้นไปในอากาศมันถึงหายไปและเรามองไม่เห็น
    แหล่งของต้นพลังงานนั้นหละ.....

    ส่วนกระแสที่พยายามเจาะทางท้ายทอยถือว่า เป็นกระแสไม่ดี
    เป็นกระแสคลื่นพลังงานที่ต่ำ แม้ว่าจะมีความหนาแน่นมากก็ตาม
    แต่กระแสไม่มี หิริโอตับปะ ไม่มีเมตตา พร่องในศีลพร่องในธรรม
    อาศัยเกาะแนวทางพระพุทธศาสนาเพื่อยกตัวข่มท่าน ข่มเหงรังแก
    ผู้อื่นๆ ชอบใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา..
    เป็นกระแสพวกลูบๆคลำๆพระพุทธศาสนา
    พวกชอบอ้างพระพุทธฯ อ้างตำรา เอาตำราเอาพระพุทธฯไปกล่าว
    ไปฟาดฟันเพื่อใช้ ทำร้ายทำลายบุคคลอื่นๆ
    แต่ว่าพฤติกรรมต้นเองหาได้เป็นไปตามแนวทางพุทธศาสนานั่นเอง...
    เป็นกระแสที่คลื่นความถี่อยู่ในระดับ
    คลื่นความถี่ระดับโลกๆและก็ต่ำกว่าโลกไป บางทีก็เรียกง่ายๆว่า
    พวกวิญญานมีฤิทธิ์ หรือพวกภูต หรือพวกภูมิอสูรกายอะไรประมาณนี้
    พวกนี้กระแสที่เชื่อมกับครูบาร์อาจารย์ข้างบน หรือ ต้นพลังงานข้างบน
    จะโดนตัดออก ทำให้มีแต่กระแสหมุนวนอยู่ภายใต้กระโหลกศรีษะเท่านั้น
    การรู้การเห็นก็จะมาจากต้นพลังงานที่เจาะมาทางด้านท้ายทอยนั้นเอง
    บางทีเราเรียกง่ายๆ ว่าร่างทรง อะไรทำนองนี้นั่นหละ โดยมากจะมักจะ
    เกิดกับพวกที่ อยากมีอะไรพิเศษแบบทางลัด หรือเกิดกับพวกที่ไปเล่น
    ทางด้านพลังงาน แต่ตัวจิตมีกำลังสติกำลังสมาธิไม่พอในการต้าน
    พลังงานไม่ดี หรือแยกแยะลักษณะพลังงานที่ดีหรือไม่ดีไม่ออกนั่นเอง
    และการที่เราต้านๆไม่ให้กระแสพวกนี้เจาะเข้ามาได้ ณ ถือว่าดีแล้ว...

    ส่วนกระแสที่พี่ บอกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจากภาคพื้นดินกับเปลี่ยน
    แปลงกระแสในการใช้งานที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่แบบที่เล่าให้ฟัง
    ก่อนหน้านี้ทั้งหมด และไม่ใช่แบบที่เราสัมผัส ที่เราสัมผัสได้ทาง
    ท้ายทอยก็เพราะเค้ากลัวเราจะเข้าสู่เนื้อหาใหม่ได้นั้นเอง
    พวกที่มาทางสายพลังงานหรือสัมผัสพลังงานได้ ช่วงนี้มักจะ
    โดนแหย่อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้นิสัยไปทางพวกภูมิพลังงานต่ำนั่นเอง
    เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลง
    ในลักษณะของเนื้อหาเพื่อการ
    นำกระแสไปใช้งานในลักษณะที่ก่อเกิดประโยชน์
    คนละแบบกับที่เราเข้าใจเน้อ...
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    เล่ามาก็ดี จะได้ถือว่าเล่าอะไรให้ฟังต่อเล่นๆ..
    ส่วนตัวพี่ว่า ต้องขอบใจนะ ดีแล้วที่เอามาเล่าแบบนี้นะ พี่จะได้ถือว่า
    เป็นการย้อนความทรงจำในอดีต ที่เราอาจจะยังไม่เคย
    ได้อ่านที่พี่เขียนไป ในกระทู้ กสิณอะไรฝึกง่ายสุดมาก่อน..
    และจะเข้าว่าทำไม พี่ถึงได้เตือนแล้วเตือนอีก...ว่าอย่าสนใจ
    ไอ้วงกลม ๓ สีที่เราเห็นนั้น ที่ตรงกลางใหญ่สุด
    และมีอีก ๒ สีเป็นขอบเล็กๆนั้นหละ มัน
    คืออุคหนิมิตกสิณไฟ
    ที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเป็นปกติ...
    แรกๆมันจะไม่ค่อยนิ่งหรอก มันยังชอบเคลื่อนที่
    ไปมาได้ และมักจะค้างๆอยู่อย่างนั้นได้ พอมันหายไป
    เพียงแค่เรากลับมาตามลมหายใจอีก ๓ ถึง ๔ ครั้ง
    ดวงกลมๆ ๓ สีแบบนี้ก็จะปรากฏขึ้นมาในต่ำแหน่งเดิมได้นั่นเอง
    และก็ต่อไปถ้ามันนิ่งๆได้ ถ้าเราไม่เผลอใช้ตาปกติเราไปมอง
    ดวงกลมๆแบบนี้จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินสีเดียว การเปลี่ยนเป็น
    สีเดียวนี้ อารมย์เราในขณะลืมตานั้นจะเข้าถึง ระดับปฐมฌานนั้นเอง....

    โดยมากบางสำนักเค้ามักจะพาลูกศิษย์ฝึกแบบนี้ แต่ว่าเค้าจะฝึก
    กสิณสีกัน และก็จะแป๊ก ไปไหนต่อไม่ได้ เพราะจะติดอยู่แค่ระดับ
    อุคนิมิต เอาไปเอามากลายเป็นว่าไปดูดวง ไปโดนวิญญานแทรก
    ไปเรื่อยเปื่อย และก็จะหลงตัวเองสุดๆในลำดับต่อมา.
    ขนาดว่า ยังไม่สามารถเรียกเป็นพลังงานขึ้นมาได้ ก็ยังหลงตัวเองได้
    เป็นอะไรที่ประหลาดมาก มีตัวอย่างให้เห็นเยอะแยะ...
    ยกเว้นว่า เค้าจะฝึกเพื่อเอากำลังตรงนี้ไปวิปัสสนาอย่างนี้ไม่เป็นไร

    และไอ้กลมๆ ๓ สีอย่างนั้น ถ้าเราได้มองหลอดไฟสีขาวจนเห็นไส้ข้างในใส
    หรือชำเรืองมองดวงอาทิพย์เช้าๆแป๊บหนึ่ง หรือ มองเปลวไฟในตำแหน่ง
    ที่ไฟนิ่งแป๊บหนึ่ง แล้วละสายตาไปในอากาศ ก็จะเกิด กลมๆ ๓ สีแบบที่ว่า
    นี่ได้เหมือนกัน พูดง่ายๆว่า การมองวัตถุทั้ง ๓ อย่างนี้ทำให้เกิดอุคหนิมิต
    ติดตาอย่างนี้ได้แบบเดียวกันนั้นเอง....แต่ถ้าถามว่ามันมีประโยชน์อะไร
    หรือเปล่าในระดับนี้ ก็ตอบว่ายัง ถ้าถามว่ามันมีโทษไหม ก็ตอบว่ามี
    ถ้าเราไม่ตัดการใช้ความคิดจากสมองออกไปซะ...
    ด้วยการให้เรามองผ่าน ตรงเหนือระหว่างคิ้วแทนซะ
    ลูกกะตา ๒ ข้างแค่ลืมๆค้างๆไว้แต่ว่า เหมือนไม่ได้ใช้นั่นเอง
    จะทำให้ไม่ปวดศรีษะ ปวดตา หรือส่งผลเกี่ยวกับความแปรปรวน
    ของอารมย์เราได้ในอนาคต.....

    และที่สำคัญที่เราต้องจำเอาไว้เลยก็คือ ในระดับอุคหนิมิตไม่ว่า
    จะเป็นกสิณกองใดๆก็ตาม ทางปฏิบัติยังถือว่า ไม่เกิดประโยชน์และ
    เป็นโทษทั้งหมด เนื่องจากว่า มันจะเป็นตัวหลอก ตัวขวางเราได้
    เป็นอย่างดี และบางทีมันจะทำให้เราหลงตัวเองอย่างคาดไม่ถึง
    ยิ่งบางคน ถนัดสร้างเป็นภาพในอารมย์ระดับนี้ได้ แล้วสามารถ
    เปลี่ยนแปลงภาพเป็นโน้นเป็นนี่ได้ ยิ่งทำให้หลงได้ง่ายๆ และจะ
    หลงตัวเองสุดๆอย่างไม่น่าเชื่อ หลงขนาดไหน ก็หลงขนาดที่ว่า
    เอาเรื่องแบบที่ตัวเองเปลี่ยนภาพเป็นโน้นเป็นนี่ได้ มาเล่า มาคุย
    มาโม้ ทั้งๆที่ยังไม่มีความสามารถเข้าถึงระดับปฏิภาคนิมิต ยังไม่มี
    ความสามารถเรียกพลังงานกสิณแต่ละกองขึ้นมาได้ ยังหลงคิดว่า
    ตัวเองมีเครื่องรู้ มีความสามารถพิเศษ นี่หละที่เค้าเรียกว่า เป็นกสิณโทษ


    หรือการไปยึดติดในอุคหนิมิตอย่างที่ไม่รู้ตัวนั่นหละ ถ้าเป็นอย่างนี้
    ร้อยทั้งร้อย ชาตินี้ไม่มีทางที่จะฝึกกรรมฐานกองนี้สำเร็จถึงขั้น
    ใช้งานได้แน่นอนและไม่มีทางเข้าใจเรื่องพลังงานได้ แม้ว่ากสิณ
    จะเกี่ยวข้องกับเรื่องพลังงานโดยตรงก็ตามนะ ตัวอย่างมีให้เห็นเยอะแยะ
    พวกนี้ไปพูดเรื่องกสิณกับเค้าไม่ได้นะ เพราะเค้าจะคิดว่าเค้าเก่งมาก
    เค้าเก่งที่สุด ทั้งๆที่ไม่มีความสามารถเรียกเป็นพลังงานได้
    คิดว่ามันประหลาดดีไหมหละ..นี่หละโทษของมัน...


    ถ้าสมมุติว่าจะฝึกต่อนะ ให้มองแป๊บเดียว แล้วหละสายตาออก
    นิมิต ๓ สีจะไปไหนเราตามมันไปด้วย และระวังอย่าหลงนิมิตที่
    สวยกว่าที่มันมักจะสร้างมาหลอกให้เราตามผิดในช่วงแรกๆ..
    ตามเรื่อยๆ ต่อไปมันจะนิ่งได้เอง และพอนิ่งแล้ว มันจะเหลือแค่สีเดียว..
    แต่ว่า ต้องมองผ่านระหว่างคิ้วนะตรงนี้สำคัญที่สุด ถ้ามันหายก็
    กลับมาตามลมหายใจ ๓ ถึง ๔ ครั้งก็จะปรากฏนิมิตขึ้นมาที่เดิมได้...
    และก็ พอจะเข้าฌาน ๑ พอภาพเป็นสีเดียวแล้ว ให้ระวังจะมีเหมือนควัน
    ไฟมาจากทางด้านซ้ายขวาพร้อมกัน ควันประมาณไฟไหม้บ้าน ๕๕๕
    บางคน ถ้ามองๆไปแล้ว ดันเกิดเป็นแสงสว่างขึ้นมาแต่ว่าแสงไม่เย็นนะ
    นี่ก็เป็นการเข้าระดับปฐมฌานเช่นกัน อารมย์พวกนี้สังเกตุง่ายๆ
    เราจะพอคิดอะไรได้ แต่ว่าอารมย์สมาธิหรือสภาวะที่เราสัมผัสได้
    ตรงนั้นจะยังคงอยู่... ตรงนี้ถ้าไม่เข้าใจจะหลงตัวเอง
    คิดว่าตัวเองบรรลุธรรม เพราะว่าที่มันยังพอๆคิดได้แล้วไม่หลุด
    จากสภาวะนั้นหละ ก็เลยคิดเข้าข้างตามกิเลสตัวเองเป็นส่วนใหญ่
    นี่หละสภาวะที่ทำให้หลงตัวเองง่ายๆ คิดว่าตัวเองเป็นระดับโน้นนี่นั้น ๕๕๕๕
    อนาคตประกันได้ว่าพวกนี้จะเพี้ยนทุกราย


    มันเป็นเพียงสภาวะที่จิตทำได้แบบแสงนำทางแค่นั้น....
    และพอตามๆไปแล้ว ภาพจะค่อยๆเริ่มหาย กำลังสมาธิจะเริ่มมากขึ้น
    และภาพก็จะค่อยๆกลับมาปรากฏอีกครั้ง คือจะค่อยๆมีความสว่างใน
    ตัวเองขึ้นมา จนเป็นประกาย เราก็จะเข้าระดับปฏิภาคนิมิตได้
    ตรงนี้ มันสามารถไปต่อได้ อีก ๓ แบบ คือ ๑.จะสร้างกำลังจิตเพื่อ
    เรียกเป็นพลังงานกสิณกองต่างๆให้ขึ้นมาใช้งานได้
    ในระดับตาเปล่า ๒.จะไปต่ออรูปฌานซึ่งมันจะไปถึงได้อีก ๓ ระดับ
    ยกเว้นจิตธาตุอย่าถามนะเพราะยังทำไม่ได้ ๕๕๕๕
    และ ๓.จะอฐิษฐานจิตเพื่อให้เกิด
    ปรากฏการณ์อะไรจริงๆขึ้นบนโลกนี้ ไม่ใช่ย้อนอดงอดีต ดูอนาคตอนางอนะ


    ปล.พวกนี้เคยเขียนไว้หมดแล้วหละทุกวิธี เอาไว้ประมาณนี้ก่อนเนาะ
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,875
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    ****************************
    สงสัยทานCapuccino มากไปไม่หลับไม่นอน อิอิ ตีสาม ตีสี่ ตีห้า ก็ยังอยู่ ร้อนวิชาหรือเปล่าหนอ
    มีตาที่สามแบบนี้ได้หรือเปล่าคะ?
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ๕๕๕๕..ทานกาแฟมากไป ตอบว่าใช่ครับ.แต่กาแฟไม่มีผลต่อการนอนครับ..
    เพราะสามารถนอนได้ปกติครับ..บางทีก็เปิดเครื่องไว้แล้วหลับไปเลยก็มีครับ
    ส่วนตาสามแบบนั้นก็ไม่มีประสบการณ์จึงไม่ทราบ ๕๕๕
    ...ส่วนร้อนวิชาไม่ใช่นะครับ.(^_^)
    ความหมายของคำว่าร้อนวิชาเค้าใช้กับบุคคลที่อยากสอน
    อยากแสดงความสามารถพิเศษที่มากเกินวิสัย
    หรืออยากสอนอยากแสดงความสามารถเกินปกติ
    ให้คนอื่นๆได้รับรู้
    หรือผลจากคาถาอาคมที่ได้เล่าเรียนมา
    ทำให้จิตใจร้อนรุ่มจนตัวเองอยู่ไม่เป็นสุข
    อย่างใดอย่างหนึ่ง..ประมาณนี้เน้อ
    อย่าเข้าใจอะไรผิดมากเน้อครับ.....พยายามคิดอะไรเชิงบวกบ้าง
    พยายามคิดแบบสร้างกระแสพลังงานที่ดีให้เกิดบ้าง
    ให้เป็นนิสัยนะครับ..
    ..หากยังคิดทำนองนี้แบบนี้อยู่ ซึ่ง ณ ปัจจุบันกระแสพลังงานฝ่ายลบ
    กำลังมันมากเกินไปเด่วมันจะกลายเป็นตัวเองแบบไม่รู้ตัวเน้อ...
    มันอันตรายนะครับ..เพราะมันจะติดตัวไปจนตาย
    ..ถึงเวลานั้นจะไม่มีใครช่วยได้นะครับ
    มันจะเป็นอย่างไรนะหรือ เด่วจะเล่าขั้นตอน
    บุคคลที่มีกระแสพลังงานแบบนี้ จากประสบการณ์ที่ได้พบเจอมา
    ก่อนที่เค้าจะเปลี่ยนภพภูมิให้ฟังครับ
    ตอนที่ใกล้จะตาย ความคิดเชิงลบแบบนี้มันจะสร้างกระแสพลังงาน
    ขึ้นมาเป็นอุคหนิมิตเริ่มที่จักระ ๖ ภาพที่สร้างจะไปดึง
    พลังงานจากจักระ ๗ ให้มาหมุน
    ย้อนลงมาที่จักระ ๖ และหมุนวนขวา
    อยู่ที่บริเวณหน้าฝากแทนที่จักระ๗ จะเชื่อมไปข้างบน
    พูดง่ายๆว่า มันจะตัดกระแสเชื่อมกับ
    ครูบาร์อาจารย์ข้างบนของเราครับ ต่อให้เรานึกคิดหรือจะใช้วิชา
    พิเศษก็ไม่สามารถป้องกันตรงนี้ได้
    และซ้ำร้าย ตรงจักระ ๒ จากสัมผัสที่มันมีมันจะไปดึง
    พลังงานตรงจักระ ๔ และจักระ ๓ ของเราลงมาข้างล่าง
    มันจะสร้างกระแสที่ทำให้เราห่วงโน้น ห่วงนี้ กังวลโน้นนี่นั้น
    ทำให้จิตเราร้อนรน เร่าร้อน ทำให้จิตเกิดตลอดเวลา
    เพราะจะทำให้เรานึกถึงเรื่องบุญเรื่องทาน เรื่องการทำความดี
    เรื่องสัญญาต่างๆที่มีบนโลกที่เรายังค้างคาอยู่ แต่ที่น่ากลัวก็คือ ระหว่าง
    จักระ ๔ ไปจักระ ๕ กระแสช่วงนี้จะโดนตัดไม่เชื่อมไปยังจักระ ๖ กับ ๗
    ทำให้เราไม่สามารถพูดหรือบอกคนที่อยู่รอบๆตัวเราได้..
    เพราะฉนั้นแม้คิดจะสั่งเสีย หรือบอกอะไรใคร หรือให้ใครช่วย
    หรือแม้ว่าจะนึกออกว่าเคยทำความดีอะไรมาก็ไม่มีผลครับ...
    ถึงจะไม่มีกระแสดิ่งลงล่าง แต่มันจะทำให้จิตเราติดอยู่ในภูมิที่รูปร่าง
    หน้าตาดูน่ากลัวและไม่สวยงามได้นะครับ.และก็ยังต้องคอยลุ้นว่า
    พวกกระแสวิบากที่จะเข้ามาเกาะบริเวณหน่องของเราอีกด้วยว่า
    มีเยอะมากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับกระแสเรื่องอะไรด้วยครับ..
    ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องอีกด้วยครับ.หากเป็นกระแสเชิงปรามาส
    ครูบาร์ครูบาร์อาจารย์คนอื่นๆเค้าประกันได้ว่าซวยซ้ำ ๒ ครับ.
    กระแสแบบที่เล่าให้ฟังนี่หละครับ จากกระแสความคิดเชิงลบ
    ที่เป็นเหตุให้บรรดาท่านที่มาทางสายวิชาพิเศษต่างๆ
    แบบชนิดรู้เห็นด้วยตาเปล่า เห็นชัดเจนแม้ตอนกลางวัน..
    เวลาตายเค้าถึงได้เปลี่ยนภพภูมิไปในภูมิที่ไม่ดีครับ
    ในอดีตก็เคยมีเรื่องเล่ามาแล้ว ไม่รู้เคยได้ยินผ่านๆมาบ้างไหม..
    ฝึกปรับเปลี่ยนกระแสความคิดให้ออก
    เชิงบวกไว้ตั้งแต่วันนี้ดีกว่าครับเข้าพรรษาแล้วนะ..
    พราะว่าผลที่จะเกิดขึ้นกับตัวจิตแบบคาดไม่ถึงมันน่ากลัวครับ
    ไม่ว่าใครก็ตามที่ยังชอบคิดลักษณะทำนองแบบนี้อยู่..
    ถือว่าเล่าให้ฟัง เตือนกันด้วยความปรารถนาดี
    อย่าเคืองอย่าโกรธกันเน้อ..
    ปล.ขอคาปูชิโน่ แก้วหนึงค่าประสบการณ์นะ ๕๕๕๕
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,875
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    โอ้ะ โอ้ะ อโหสิ ไม่ทราบว่าหมายความถึงเพียงนั้น ธรรมดาคิดบวกตลอดเวลาค่ะ how about Frappucino มาหลังCapuccino หน่อยนึง(f)
     
  11. *ธรรมดา*

    *ธรรมดา* เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +924
    ฝึกปรับเปลี่ยนกระแสความคิดให้ออก
    เชิงบวกไว้ตั้งแต่วันนี้ดีกว่าครับเข้าพรรษาแล้วนะ..
    เพราะว่าผลที่จะเกิดขึ้นกับตัวจิตแบบคาดไม่ถึงมันน่ากลัวครับ
    ไม่ว่าใครก็ตามที่ยังชอบคิดลักษณะทำนองแบบนี้อยู่..
    ถือว่าเล่าให้ฟัง เตือนกันด้วยความปรารถนาดี
    อย่าเคืองอย่าโกรธกันเน้อ..


    เหมือนกับที่ พระท่านสอน ให้คิดแต่สิ่งดีๆ ที่เป็นกุศล หรือที่หลายๆท่าน บอกให้มองโลกในแง่บวก รึป่าวคับ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ธรรมดาคิดบวกตลอดถือว่าดีแล้วครับ...
    แต่เวลาปกติไม่ว่าดีหรือไม่ดี ไม่ยึดดีที่สุดครับ..
    และพวกความคิดเชิงลบแบบนี้ จะเป็นกันทุกคนนั่นหละครับ..
    พูดง่ายๆคือ ความคิดที่ทำให้จิตเกิดกระแสร้อน
    และมักจะเป็นกันแบบไม่รู้ตัว.เพราะว่ามันจะรวมกับจิตเรานานแล้ว

    ปกติจิตถ้าไม่ฝึกควบคุมความคิด มันมักจะคิดแต่งเรื่องฝ่ายอกุศล
    และชอบท่องเที่ยวส่งออกเป็นนิสัย..นี้ก็ถือว่าปกติของจิตมัน..
    บางความคิดพวกนี้ก็อยู่ข้างๆจิตจนเรานึกว่ามันเป็นตัวเดียวกันกับจิต
    ถ้าสติทางธรรมไม่เร็วจริงๆ หรือถ้าเรายังวางใจไม่เป็นกลางจริงๆ
    ชนิดที่ไม่มีความคิดที่เกิดจากจิต ความคิดที่เกิดจากขันธ์ ๕ นามธรรม
    หรือกระแสอื่นๆภายนอกมาปรุงร่วมกับจิตได้แล้วนั้น.

    หรือเรียกง่ายๆว่าจิตไม่เกิด ไม่มีอารมย์ใดๆมาปรุงร่วมแล้ว
    .บอกตามตรงว่ามัน
    ยากที่จะรู้รับและทันมันได้ เราก็จะคิดว่าเราไม่ได้เป็นทั้งๆที่เราเป็นอยู่ครับ.

    การแยกรูปธรรมนามธรรมได้จึงสำคัญยังไงครับ.เพราะมันจะทำให้เรา
    พอมองเห็นฝ่ายอารมย์ ซึ่งเป็นนามธรรมตรงนี้ได้ รวมทั้งแยกได้ว่า
    อะไรเป็นความคิดที่เกิดจากจิต อะไรเป็นความคิดที่เกิดจากขันธ์ ๕ ส่วนนามธรรม
    และกิริยาของความคิดที่เกิดจากจิต กิริยาที่เกิดจากขันธ์ ๕ ส่วนนามธรรม
    เป็นอย่างไร จิตกระเพื่อมเป็นอย่างไร รวมทั้งจิตที่เป็นกลางเป็นอย่างไรด้วยครับ.
    การที่เราไม่ทันความคิดที่สร้างกระร้อนพวกนี้..

    ถือว่าเป็นเรื่องปกตินะครับ.ไม่แปลก.พวกนี้ต้องให้คนภายนอกมามอง
    แล้วบอกเราถึงจะพอทราบหรือสะกิดใจบ้าง
    เพราะบางอย่างเราทำจนเคยชิน จนมันเป็นหนึ่งเดียวกับจิตไปแล้ว
    แบบเราคาดไม่ถึงหรือไม่รู้ตัวครับ..ย้ำว่าคาดไม่ถึงและไม่รู้ตัว..
    เหมือนๆเราอยู่ร่วมในเหตุการณ์หนึ่ง เราจะเห็นเฉพาะสภาพ
    แวดล้อมภายในเหตุการณ์นั้นๆ ยกเว้นว่าเราจะถอยออกมาเป็น
    ผู้ดูอยู่ข้างนอกเราถึงจะเห็นว่า ข้างในเค้าทำอะไรกันบ้าง
    ประมาณนี้หละ....
    ปล.Frapcapucino ทานได้อยู่ถ้ามีคนเลี้ยงนะ ๕๕๕
     
  13. boss10

    boss10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +142
    ผมอ่านโพสต์ของคุณsupatorn หลายโพสต์ไม่รู้สึกถึงกระแสลบเลย รู้สึกถึงแต่กระแสบวก ผมว่าคุณsupatorn เป็นมิตรกับทุกคน แต่บางครั้งข้อความที่สื่อออกมา อาจทำให้เข้าใจผิด แต่ถ้าอ่านดีๆจะรู้ว่า...ไม่มีอะไร แค่คุยเล่นสนุกๆกับกัลยาณมิตรเท่านั้น
     
  14. domdom

    domdom Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +51
    สงสัยครับสงสัย อยากทราบว่าหากปุถุชนที่มีตาทิพย์หรือความสามารถพิเศษดูจิตของพระอริยเจ้า หรือพระอริยเจ้าดูจิตของพระอริยเจ้าที่สูงกว่าจะสามารถเห็นจิตท่านได้หรือไม่ แล้วจะเห็นเป็นลักษณะอย่างไรครับ
     
  15. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    สงสัยคะ
    ตอนที่พ่อป่วยเริ่มนอนติดเตียง เล่นเปิดเพลงสวดมนต์ชินบัญชรให้ฟังตลอดคะ พ่อก็หลับๆตื่นๆ แต่ไม่บนว่ารำคาญ แสดงว่าจิตคิดดีใช่มะคะ
    เด็กๆ รับรู้ถึงกระแสด้านบวกได้ดีใช่มะคะ
     
  16. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    อุ๊ตะ!!! คุณล้อเล่น ขึ้นมาถึงหลุมดำเลยรึคะเนี่ย ??? สบายดีไหมคะ ???
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ตัวจิตเราจะต้องเปิดและคลายตัวก่อนเป็นอันดับแรกครับ...
    และข้ามธาตุต่างๆที่รวมประกอบเป็นกายเนื้อ พลิกเข้าสู่
    ในเรื่องการสัมผัสสัมพันธ์กับระบบพลังงานครับ...
    ดวงจิตก็เป็นคลื่นพลังงานชนิดหนึ่งเช่นกัน
    มีกำลังแตกต่างกันครับ ตามแต่บารมีที่สะสม..
    หรือกำลังบุญที่เป็นกระแสพลังงานเช่นกันนั่นหละครับ...
    และมันไม่สามารถที่จะหลอกหลวงกันได้ ไม่ว่าจะมีความ
    สามารถสร้างเป็นภาพอะไรต่างๆขึ้นมาก็ตาม แต่คลื่นความถี่
    ของจิตและลักษณะพลังงานจะเป็นเฉพาะดวงจิตนั้นๆนั่นเองครับ
    ระดับที่สูงๆ ท่านอยู่ของท่านอยู่แล้วเป็นปกติครับ

    และพวกนี้มันข้ามในเรื่องมิติและเวลา เราจึงได้พบเห็น
    ว่าบางคนพอเกิดเหตุวิกฤษแล้วนึกถึงท่านนั้นท่านนี้
    จึงเกิดปาฏิหารต่างๆนั้นเองครับ.. เพียงแต่สภาวะ
    ธรรมดาปกติมนุษย์ไม่สามารถเข้าถึงและสัมผัสได้ครับ...
    เพราะมีร่างกายปกติคลุมตัวจิตเราอยู่ด่านหนึ่ง และก็ยังมี
    ความรู้เชิงกุศลเชิงอกุศล ความคิดเชิงบวก
    สติ ปัญญา ตบะ ฌาน ญาณ ไหนจะกิเลส
    ต่างๆอีกไม่รู้เท่าไร ที่มันมาปิดบังตัวจิตเราครับ
    เพราะธรรมชาติของจิตมันชอบส่งออกไปเชื่อม
    เราก็มักจะว่าเราไม่ได้ยึดทั้งๆที่เรายึดนั่นหละครับ
    ถึงได้ต้องมีการมาฝึกสมาธิ มาเจริญสติเพื่อให้เห็น
    พวกสิ่งที่มันยึดเกาะพวกนี้ และก็มาเดินปัญญาต่อ
    เพื่อให้จิตมันคลายการยึดเกาะพวกนี้ได้ด้วยตัวจิตเอง

    เหมือนผีที่เค้าอยู่ปกตินั่นหละครับ แต่เวลาปกติเราจะไม่สามารถรับรู้
    และสัมผัสได้ การเข้าถึงได้ก็เหมือนการที่เราปรับจูนวิทยุนั่นหละครับ....
    ครูบาร์อาจารย์ กระแสพลังงานท่านก็อยู่ของท่านปกตินั่นหละครับ..
    แต่เราเองที่เข้าถึงไม่ได้ ถามเลยว่า ๒๔ ชั่วโมงเราระลึกถึงท่าน
    กี่นาทีครับง่ายๆ เป็นคำตอบ แต่ทำไมพอเรามีปัญหาทำไมท่าน
    ถึงมาหาเราได้ภายในเสี้ยววินาทีนั่นหละครับ...
    เพราะพวกนี้เป็นคลื่นความถี่ชนิดหนึ่งครับ.มันอยู่ที่ว่าตัวจิต
    เราจะปรับจูนความถี่ให้ตรงกับท่านได้หรือเปล่าแค่นั้นเองครับ...
    เอาง่ายๆนะครับ บุคคลที่เป็นพระอรหันต์ ทั้งวันก็คือตัวจิตท่าน
    ไม่ยึดเกาะอะไรเลย แต่ไม่ใช่ว่า ไม่มีสิ่งยึดเกาะ เป็นเหตุให้ตัว
    จิตท่านโปร่ง คลายตัวทั้งวัน ระดับดับๆอื่นๆเราก็เทียบๆเอา
    ง่ายดีครับ แบ่งเป็นระยะที่จิตสามารถโปร่งโล่งคลายตัวได้
    นานแค่ไหนนั้นหละครับ
    .
    ..ตำราส่วนหนึ่งมีเพื่อให้เป็นแนวทางเป็นข้อเตือนใจ
    เราดูไว้เป็นแนวทางได้ ถ้าเราไปอ่านตำราแล้วทำตามนั้น
    มันก็คือ การไปยึดเอาความรู้ เอาตำรามาปิดบังตัวจิต..
    แต่สภาวะจิตจริงๆมันเข้าได้จริงๆไหม เราจะรู้ได้อย่างไร
    ถ้าเราเข้าไม่ถึงในเรื่องพลังงาน ถ้าตัวจิตเรามันไม่เคย
    โปร่งโล่งคลายตัว และก้าวพ้นธาตุต่างๆที่มารวมเป็น
    ร่างกายนี้ได้เลยครับ.
    .
    การเห็นเป็นภาพต่างๆ ยังไม่พ้นสัญญาเพื่อความจำได้
    การที่เห็นจิตเป็นวงกลมอยู่ก็แสดงว่าจิตยังไม่คลายครับ..
    จิตที่จะได้ว่า เป็นคนดีแล้ว จิตจะต้องคลายตัวได้ ไม่เป็น
    วงกลม โปร่งตัวได้ ขึ้นไปครับ...
    ส่วนตัวถึงได้บอกว่า เริ่มต้นให้มันได้จากหลักวินาทีก่อนนั่นไงครับ...
    และถ้าจิตเรามันคลายตัวเรา โปร่งออกไปข้างนอก รับรู้เรื่องพลังงาน
    ได้แล้ว จะไปรู้ดวงจิตไหนๆก็ได้ทั้งหมดในจักรวาลนั่นหละครับ
    ปกติแล้วท่านไม่ได้ปิดครับ ท่านเปิดตลอด แต่เราเองที่ขาดการ
    สร้างความสามารถให้ตัวจิตมีความ
    สามารถในการเข้าถึงดวงจิตนั้นๆ หรือแหล่งพลังงานนั้นๆนั่นเองครับ....

    ปล.พระคาถาชินบัญชินบัญชร ช่วยดีงกระแสความคิด
    ที่อยู่ในสมอง ลากไปเชื่อมกับกระแสระดับสูงๆข้างบน
    และกระเชื่อมทั้งกระแสข้างบนและพลังงานในขณะเดียวกัน
    รวมทั้งส่วนหนึ่งยังมีกระแสในด้านการรักษาร่างกายและ
    ที่สำคัญก็คือ จะมีกระแสที่ดึงกระแสความกังวลตรงลิ้นปี่
    ให้ดึงไปในเรื่องของการทำบุญทำทานแทนครับ...(^_^)
    กระแสดีไม่ดีเชิญพิจารณาได้เองครับ
     
  18. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    สบายดีคะ ขอบคุณมากนะคะ คิดถึงเช่นกันคะ:cool::cool:
     
  19. Ithanka

    Ithanka Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +82
    นึกถึง ช่วงพลังงานเปลี่ยนตอน สุริยุปราคาเต็มดวงวันก่อนโน้นที่พี่นพมาไขปริศนาว่า เป็น ช่วง ที่ จิตญาณต่างๆจะมาเกาะเรามากเป็นพิเศษ ช่วงนั้น เดี้ยงป่วยไปหลายวัน +.+

    ขออีกนิดคับ

    เผลอๆ จะโดนเก็บด้วยมั้ยครับพี่ โดนกันซะแรงเลย +,+(eek) :'( :boo:

    ปล ฝันว่าไปเก็บ น้องแมวมาเลี้ยง น่ารักม้วก แล้วก็กระโดดโลดเต้น ไปมา แต่อยู่ๆก็ แยกเขี้ยวแปรงร่าง คล้ายๆ t-rex ฟันตรึม แต่ไม่ได้กัดเราครับปกป้องเรา สงสัยกินมากก่อนนอน .... 55555:cool:

    catt9

    Reference: ครับ เห็นว่ามีประโยชน์ดีสำหรับปุถุชน คนช่างสังสัยอย่างพวกเรา อิอิ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 กรกฎาคม 2015
  20. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    ว่าจะถามว่า แล้วหลัง2 สัปดาห์เราต้องทำอะไรรึไม่คะ ??? รึว่าไม่ต้องทำอะไร มันมาผสมปรับเปลี่ยนของมันเอง ??...

    ขอบคุณค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...