สงสารประเทศไทย จังเลยครับ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย wutlions, 13 กุมภาพันธ์ 2008.

  1. wutlions

    wutlions เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    793
    ค่าพลัง:
    +1,384
    เปลวสีเงิน
    คิดบนฐาน'มาตรฐานประเทศไทย'

    13 กุมภาพันธ์ 2551 กองบรรณาธิการ
    อ่าน "ไทยโพสต์" หนังสือพิมพ์ที่แสนดีมาก็ตั้ง ๑๒ ปี นานๆ ทีจะอ่านเจอข่าวที่จี๊ดถูกใจขึ้นมาซักครั้ง เมื่อจี๊ดก็คิดถึงท่านผู้อ่าน ทั้งที่รู้ว่าท่านก็อ่านไทยโพสต์อยู่แล้ว

    <DD>และอ่านข่าวที่ผมว่าถูกใจไปแล้วเหมือนกัน แต่เถอะน่า..ก่อนที่ผมจะตัดเก็บ ขอยัดเยียดให้ท่านอ่านอีกซักครั้งเถอะ
    <DD>เป็นข่าวเล็กๆ เขาซุกไว้หน้าหลังสุด ฉบับประจำวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ผมจะลอกทั้งหมดเลย มีใจความอย่างนี้ครับ
    <DD>"รัฐสภา เมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จัดสัมมนาเรื่อง 'บทบาทและหน้าที่ของ ส.ส.' เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ผู้แทนราษฎร มี ส.ส.เข้าร่วมสัมมนาคับคั่ง
    <DD>การสัมมนาคึกคักขึ้นเมื่อเข้าเรื่อง สิทธิประโยชน์และค่าตอบแทนของ ส.ส. โดยมีนางศุภมาส น้อยจันทร์ รองเลขาธิการสำนักงานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ส.ส.ได้รับเงินประจำตำแหน่ง ๖๒,๐๐๐ บาท และได้เงินเพิ่ม ๔๒,๓๓๐ บาท รวมเป็นเงิน ๑๐๔,๓๓๐ บาท โดยสิทธิที่จะได้รับเงินประจำตำแหน่ง เริ่มตั้งแต่วันปฏิญาณตนเข้ารับหน้าที่
    <DD>นอกจากนี้ สมาชิกแต่ละคนสามารถตั้งผู้ช่วยดำเนินงานได้จำนวน ๕ คน ได้รับอัตราค่าตอบแทน ๑๐,๐๐๐ บาท ต่อคน-ต่อเดือน อีกทั้ง ส.ส.ยังสามารถตั้งผู้เชี่ยวชาญประจำตัวได้จำนวน ๑ คน โดยมีค่าตอบแทน ๒๐,๐๐๐/เดือน
    <DD>ดังนั้น ค่าใช้จ่ายสำหรับ ส.ส.๑ คน ตกเดือนละ ๑๗๔,๓๓๐ บาท รวม ๔๘๐ คน เป็นเงินเดือนละ ๘๓,๖๗๘,๔๐๐ บาท หรือปีละ ๑,๐๐๔,๑๔๐,๘๐๐ บาท
    <DD>รวมถึงมีเงินประกันสุขภาพให้ ส.ส.ปีละ ๒๐,๐๐๐ บาท/ปี ในส่วนการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่นั้น ส.ส.จะได้สิทธิ์ที่ได้รับใบเบิกทางเริ่มตั้งแต่วันปฏิญาณตน โดยสามารถเดินทางไปปฏิบัติราชการโดย
    <DD>๑.เครื่องบิน
    <DD>๒.รถไฟ มีผู้ติดตามได้ ๑ คน
    <DD>๓.รถยนต์ (บ.ข.ส.) มีผู้ติดตามได้ ๑ คน
    <DD>หลังชี้แจงเสร็จมี ส.ส.จากพรรคต่างๆ ลุกขึ้นสอบถามถึงสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับเพิ่มเติม โดยเฉพาะ ส.ส.จากพรรคพลังประชาชน ซึ่งนำโดยนายชัยวัฒน์ ทรัพย์รวงทอง ส.ส.ชัยนาท ที่ได้เรียกร้องให้มีการเพิ่มจำนวนผู้ช่วย ส.ส.ให้มากกว่า ๕ คน และเพิ่มผู้เชี่ยวชาญส่วนตัวมากกว่า ๑ คน รวมทั้งขอให้มีการจัด 'คนขับรถประจำตำแหน่ง' ให้ ส.ส.แต่ละคนด้วย
    <DD>แต่นางศุภมาสได้ตอบว่า หลักเกณฑ์ที่ทางสำนักเลขาฯ ได้ชี้แจงต่อสมาชิกในวันนี้ เป็นหลักเกณฑ์ที่ยึดถือปฏิบัติมาเป็นเวลานาน และเห็นว่ามีความเพียงพอ หากสมาชิกหลายคนเห็นว่าอยากจะให้มีการปรับปรุง ก็ควรจะเสนอในกรรมาธิการยกร่างระเบียบการประชุมและข้อปฏิบัติในสภาฯ
    <DD>นอกจากนี้ สมาชิกจากพรรคพลังประชาชนลุกขึ้นสอบถามเรื่องการประกันสุขภาพ ที่ตามระเบียบกำหนดให้ ๒๐,๐๐๐ บาท/ปี หากเกิดการปฏิวัติขึ้นเหมือนที่ผ่านมา สิทธิประโยชน์จะหายไปเลยหรือไม่ และจะกลับไปรับสิทธิประโยชน์ได้หรือเปล่า ซึ่งนางศุภมาสได้ชี้แจงว่า
    <DD>หากเกิดการปฏิวัติขึ้น สิทธิประโยชน์ต่างๆ จะสิ้นสุดไปตามอุบัติเหตุทางการเมืองทันที และไม่เฉพาะแค่การปฏิวัติเท่านั้นที่ผลประโยชน์จะสิ้นสุด แต่รวมถึงอุบัติเหตุทางการเมืองอื่นๆ ด้วย
    <DD>ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชน ยังเดินหน้าสอบถามถึงสิทธิประโยชน์ของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อน แม้กระทั่งเรื่องค่ารถยนต์ที่จะเดินทางไปสนามบินในจังหวัดใกล้เคียง รวมถึงค่าน้ำมันในภารกิจต่างๆ นายชัยวัฒน์ถามว่า ค่ารถในวันเดินทางมาปฏิญาณตนสามารถเบิกจ่ายได้หรือไม่ ซึ่งนางศุภมาสปฏิเสธว่าไม่สามารถเบิกได้ เพราะเงินเดือนที่จ่ายไปนั้นได้เหมารวมค่าที่พักไปแล้ว
    <DD>ด้านนายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคชาติไทย ได้เสนอหนทางช่วยรัฐสภาประหยัดงบประมาณ กรณีการแจกคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กว่า ไม่ควรซื้อใหม่ทุกปี ควรจะนำเครื่องเก่ามาให้ ส.ส.ใหม่ใช้ เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน แต่นางศุภมาสได้ชี้แจงว่า คอมพิวเตอร์ที่ ส.ส.ชุดที่แล้วได้รับคืนมาเพียงบางส่วน แต่ยังมีอีกหลายสิบเครื่องที่ ส.ส.ยังไม่ได้คืน โดยทางสำนักเลขาฯ ได้ทำจดหมายทวงไปหลายรอบแล้ว แต่ ส.ส.เหล่านั้นก็ยังนิ่งเฉย ขณะที่อีกหลายสิบเครื่องพัง ทำให้เกิดปัญหาในการเบิกจ่าย ดังนั้น การสั่งซื้อใหม่ทั้งหมดน่าจะสะดวกมากกว่า
    <DD>สำหรับความคืบหน้าในการจัดหาคอมพิวเตอร์ให้กับ ส.ส.ใหม่ล่าสุด สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จัดทำร่างขอบเขตทีโออาร์ (TOR) เพื่อจัดหาคอมพิวเตอร์พกพาจำนวน ๔๘๐ เครื่องให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ โดยกำหนดให้บริษัทที่ประมูลงานได้จะต้องจัดส่งเครื่องคอมพิวเตอร์ให้สำนักเลขาฯ ภายใน ๓๐ วัน
    <DD>อย่างไรก็ตาม งบประมาณในการจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพาครั้งนี้ใช้ไปทั้งหมด ๒๕,๓๐๐,๐๐๐ บาทถ้วน."
    <DD>ครับ..เรา-ประชาชนเจ้าของเงินที่จ่ายเลี้ยงดูข้าราชการ ทุกคน-ทุกประเภท ในประเทศนี้ไปทุกๆ ปี แต่เราก็ไม่รู้ว่าเขาเอาไปทำอะไรกันมั่ง โดยเฉพาะกับข้าราชการการเมืองในระบบรัฐสภา
    <DD>อ่านข่าวนี้ อย่างน้อยเราก็รู้ว่า "ขี้หมู-ขี้หมา" ปีหนึ่งหมดไป "พันกว่าล้าน" เฉพาะค่าเงินเดือน ส.ส.๔๘๐ คน ยังไม่นับค่าผู้ช่วย ส.ส.กับผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ส.อีก ๒,๘๐๐ กว่าคน
    <DD>แล้วประเทศชาติได้อะไรกลับคืนมาบ้าง จากเงินที่ต้องจ่ายไปมากมายมหาศาลปานนั้น?
    <DD>อาจทุบดินตอบว่า "ก็ได้ประชาธิปไตยยังไงล่ะ"
    <DD>ก็อาจใช่ ประชาธิปไตยระบบรัฐสภาที่เราใช้อยู่ เปรียบแล้วก็เหมือนสินค้าหัวนอก ต้องจ่ายปีละพันกว่าล้านเป็นค่าแบรนด์เนม "ประชาธิปไตย" มาใช้เป็นยี่ห้อ
    <DD>ถ้าแกะยี่ห้อออก คุณภาพมันก็ "เสื้อผ้ากระสอบ" แถวๆ ตลาดโรงเกลือนี่เอง!
    <DD>ไปฟัง "นายกฯ สมัคร สุนทรเวช" ท่านแจงถึงสินค้า "ย้อมแมวขาย" ของท่านหน่อยปะไร ไหนๆ วันนี้มาด้วยรายการข่าวแล้ว ก็ขอลอกข่าวทั่วๆ ไปมาให้อ่านอีกซักข่าว
    <DD>นายสมัครให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งตั้งเลขานุการรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรีที่มีชื่อบุตรชาย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย รวมอยู่ด้วยว่า
    <DD>"ผมจะบอกให้ฟัง เรื่องคนที่เขาตั้งอะไรทั้งหมดนี้ พรรคอื่นเขาไม่มีปัญหา เขาตั้งมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่พรรคพลังประชาชนที่ขอเลื่อนไป ๑ อาทิตย์ เพราะผมในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีจะไปคุยกับรัฐมนตรีคือ ทั้งแผงของเรา ๒๐ กว่า ครึ่งหนึ่งไม่มีปัญหาทั้งที่ปรึกษาและเลขานุการ แต่ผมดูแล้วก็ขอดูหน่อยว่า เลขาฯ เจ๋ง ที่ปรึกษา..ใครก็ไม่รู้ ยกตัวอย่างรัฐมนตรีต่างประเทศ เลขาฯ เขาชื่อศิรัมภา ก็โอเค เขาเป็น ส.ส.สอบตก ที่ปรึกษาเขา ดร.วิทยา พุกมาน อดีตเอกอัครราชทูต อย่างนี้ไม่น่าเกลียด..ใช้ได้
    <DD>"แต่ทีนี้เลขาฯ คนนี้ บางครั้งที่ปรึกษามันไม่รู้อะไรยิ่งกว่าเลขาฯ อีก ผมจะถามเขาหน่อยว่าได้อย่างไร ใครเขาจัดการใส่อย่างนี้มาให้ และก็ทำกันแบบชนิดเอาทั้งพวกใส่เข้าไป แล้วให้ได้เงินเดือน อย่างนี้แล้วไม่รู้ถึงหน้าตาตัวเองบ้างว่าที่ปรึกษาของตัวเราเป็นอย่างไร"
    <DD>.....................
    <DD>เมื่อถามว่า พวกลูกหลานรัฐมนตรีจะเอาเขาออกได้หรือ นายสมัครกล่าวว่า
    <DD>"ไม่เอาออก คือ ร.ต.อ.เฉลิม วันนั้นพูดตกไปประโยคหนึ่งคือ ที่จริงถ้าเขาบอกว่า ตกลงขอโทษขอโพย ลูกเขาไม่มาเกี่ยวข้องก็โอเคไง ร.ต.อ.เฉลิมต้องพูดต่ออีกประโยคว่า 'แต่ทว่าลูกผมเรียนปริญญาโทมา อายุ ๓๕ แล้ว ถ้ารัฐมนตรีท่านไหนไม่รังเกียจให้ลูกได้เป็นเลขาฯ ก็ขอบคุณ ถ้าพูดซะอย่างนี้มันก็จบเรื่อง คือขอเขาซะเลย ก็ไม่พูด พูดออกตัวซะตรงนั้นเลยว่ากระทรวงนี้ไม่มายุ่ง ไม่ทำให้พ่อเสียหาย ก็ดี วันนั้นผมยังชมใน ครม.เลย แต่พอถึงเวลาปรากฏว่า...น่าจะพูดต่ออีกประโยคหนึ่งว่าลูกผมเรียนจบสวนกุหลาบฯ จบปริญญาโท ใครจะเอาไปใช้งานก็ไม่ขัดข้อง เท่านี้ก็จบเรื่อง ก็เจ๊ากันไป ก็ไม่พูด"
    <DD>นักข่าวแย้งว่า 'ประชาชนยังทำใจไม่ได้' นายสมัครบอกว่า 'ก็ไม่รู้จะทำยังไง ต้องไปกินยาทัมใจ' เมื่อนักข่าวถามว่า 'แถมลูกนายวัฒนา อัศวเหม อีกคนหนึ่ง' นายสมัครร้องว่า
    <DD>'โอ๊ย..นั่นผมไม่รู้จะทำอย่างไร?'"
    <DD>ครับ..จบ รายการลอกข่าวมาขาย ค่อยๆ อ่านแล้วจะเห็นมาตรฐานรัฐสภาไทย มาตรฐานนักการเมืองไทย มาตรฐานผู้บริหารประเทศไทย มาตรฐานประชาชนคนไทย แล้วก็จะเข้าใจเองว่า..อ้อ..นี่มันคือ "มาตรฐานประเทศไทย"
    <DD>แล้วจะหวังอะไรกันนักหนาล่ะ!?
    </DD>
     
  2. putipongb

    putipongb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    591
    ค่าพลัง:
    +3,843
    โอ๊ย เสียดายเงินภาษี ขอคืนเอามาเลี้ยงชีพกับทำบุญได้ไม๊
     

แชร์หน้านี้

Loading...