เพื่อการกุศล หลวงพ่อกวย ชุตินธโร "พระหนุมาน ย้อนยุค รุ่นมนต์พระกาฬ" เพื่อสบทบทุนสร้างโบสถ์วัดหนองเฒ่า หน้า 85

สาธุได้ครับพี่ เพราะทุกครั้งที่นำพระไปขอบารมีครูอาจารย์ผมนำไปด้วยทั้งหมดครับไม่ได้ละไว้ซึ่งพิมพ์ใดพิมพ์หนึ่ง แต่ทุกองค์ทุกพิมพ์ขึ้นชื่อว่า มนต์พระกาฬ เป็นอันว่าได้เสกทั้งหมดครับ

ผมมีเรื่องเล่า จากคำถามของเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งที่ถามผมมาหลังไมค์ว่า " การทำเหรียญหนุมาน หรือ พระผงหลังพระเเม่ธรณี หรือเหรีญยใดๆ ที่มีรูปนั้น สามารถทำให้เป็นแบบหุ่นพยนต์ได้หรือไม่ และได้จริงหรือ"

คำถามนี้เป็นคำถามที่ดีมากๆครับ สำหรับเพื่อนสมาชิกท่านนี้ ซึ่งท่านนี้กับผมก็สนิทกันดีเลยถามมา เดี๋ยวผมมาตอบคำถามให้เพื่อจะได้แบ่งปันความรู้ความเข้าใจให้ฟังครับ แต่ขอออกตัวก่อนว่า ความรู้ที่จะนำมาเเบ่งปันนี้ไม่ใช่เป็นความรู้ของผม เเต่เป็นความรู้ที่ได้จากครูอาจารย์ที่ครูอาจารย์แต่ละท่านได้เคยเล่าเเละเคยพูดไว้ให้ฟังครับ

เรื่องทำเหรียญให้เป็นพยนต์นี้ อยากฝากให้เพื่อนพี่น้อง สมาชิก ก็ดีหรื่อที่ไม่ใช่สมาชิกก็ดี แต่มีโอกาสเข้ามาอ่านกระทู้หลวงพ่อกวยนี้ ช่วยคิดคำตอบเเละเหตุผลไปพร้อมๆกันเลยนะครับ และหากพี่น้องท่านใดมีความรู้ อยากให้มาช่วยเเชร์ความรู้เเละประสบการณ์ร่วมกัน เพื่อเป็นวิทยาทาน สืบทอดกันไว้ให้ชนรุ่นหลังๆได้นำไปเล่าต่อสู่ลูกหลานครับ

เดี๋ยวผมมาเล่าต่อครับ ต้องขอโทษด้วยที่หยุดไว้เท่านี้ พอดีงานเข้านิดหน่อยขอไปเคลียงานก่อนครับ เดี๋ยวมาครับ

 

สวัสดีครับ คุณ 16โสฬส
ผมนายสมชาย รัตนพรชีวากุล ขอร่วมทำบุญสร้างโบสถ์วัดหนองเฒ่าด้วยคนครับ
โดยทำบุญเพื่อบูชาพระหลวงพ่อกวย มีรายการดังนี้
1. พระสมเด็จแหวกม่านพิเศษ 2 ชุด จำนวน 2000.- บาท
2. รูปหล่อห้อยคอ 1 องค์ " 300.- บาท
3. เหรียญยันต์หนุมานทองแดง 2 เหรียญ " 200.- บาท
4. เหรียญยันต์หนุมานทองเหลือง 2 เหรียญ " 200.- บาท
5. เหรียญยันต์มหามงกุฏฯ ทองแดง 1 เหรียญ " 100.- บาท
ได้โอนเงินจำนวน 2,860.-บาทเข้าบัญชีแล้วครับ
กรุณาส่งมาที่
นายสมพงศ์ รัตนพรชีวากุล
128/50 ม.2 ถ.ติวานนท์ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
(ป พรชัยประดับยนต์)
โทร 081-793-9122 (ผมสมชาย)
087-915-2686 (พี่สมพงศ์)
(ปล. อยากให้นำพระเครื่องของมงคลให้หลวงพ่อชัชวาลย์ วัดบ้านปูน จ.อยุธยา และหลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง จ.ปทุมธานีได้อธิษฐานจิตเสกด้วยครับ...ถ้ามีโอกาส)

 

ได้รับเเล้วครับ อนุโมทนาบุญนี้ด้วยครับ

(ปล. อยากให้นำพระเครื่องของมงคลให้หลวงพ่อชัชวาลย์ วัดบ้านปูน จ.อยุธยา และหลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง จ.ปทุมธานีได้อธิษฐานจิตเสกด้วยครับ...ถ้ามีโอกาส)

รับไว้พิจารณาครับ สาธู

 

เรื่องหุ่นพยนต์ หลายๆท่านคงได้ยินกันมาตั้งเเต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะเสภาขุนช้างขุนเเผน ดังนี้

"อันเรื่องราวกล่าวความพลายงามน้อย ค่อยเรียบร้อยเรียนรู้ครูทองประศรี

ทั้งขอมไทยได้สิ้นก็ยินดี เรียนคัมภีร์พุทธเพทพระเวทมนต์

ปัถมังตั้งตัวนะปัดตลอด แล้วถอนถอดถูกต้องเป็นล่องหน

หัวใจกริดอิทธิเจเสน่ห์กล แล้วเล่ามนต์เสกขมิ้นกินน้ำมัน

เข้าในห้องลองวิชาประสาเด็ก แทงจนเหล็กแหลมลู่ยู่ขยั้น

มหาทะมื่นยืนยงคงกระพัน ทั้งเลขยันต์ลากเหมือนไม่เคลื่อนคลาย

แล้วทำตัวหัวใจอิติปิโส สะเดาะโซ่ตรวนได้ดังใจหมาย

สะกดคนมนต์จังงังกำบังกาย เมฆฉายสูรย์จันทร์ขยันดี

ทั้งเรียนธรรมกรรมฐานนิพพานสูตร ร้องเรียกภูตพรายปราบกำราบผี

ผูกพยนต์หุ่นหญ้าเข้าราวี ทองประศรีสอนหลานชำนาญมา"


คำว่า "พยนต์" ตามพจนานุกรมฯ ว่าไว้ดังนี้
[พะยน] น. สิ่งที่ผู้ทรงวิทยาคมปลุกเสกให้มีชีวิตขึ้น เช่น หุ่นพยนต์. (ป. วยนฺต).

มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ เท่าที่ผมรู้มาจากคำบอกเล่าของครูอาจารย์ในสายต่างๆ หลวงพ่อนิคมเเละหลวงปู่จันทร์ วัดป่าหนองยาง ท่านเมตตาเล่าให้ฟังในเรื่องของกุมารทอง นางกวัก เเละวัวธนู ความสงสัยเกิดขึ้นจึงเรียนถามหลวงปู่ว่า เเล้วหุ่นพยนต์ เป็นยังไง เหมือนกุมาทองหรือไม่

ท่านเมตาเล่าว่า เดิมทีในสมัยก่อนนั้น คนโบราณมักสร้างหุ่นพยนต์ไว้ช่วยรบในการสงคราม มีการสร้างซับซ้อนกว่าพวกกุมารทอง นางกวัก หรือวัวธนูเป็นต้น การทำหุ่นพยนต์ในเเต่ละครั้งไม่ใช่ว่าอยู่ๆนึกอยากจะทำก็ทำกันง่ายๆ ต้องดูฤกษ์ วันมงคล ที่หนุนให้บังเกิดอิทธิฤทธิ์ มีวัตถุอาถรรพ์หรือของทนสิทธิ์ แม้ตามเสภาขุนเเผนเองที่บอกว่า หุ่นหญ้านั้น ก็ใช่ว่าจะเป็นหญ้าทั่วๆไป แต่เป็นหญ้าคา ที่มีมดเเดงมาทำรังเป็นต้น เวลาจะนำมาใช้หรือนำมาทำหุ่นก็ต้อง พลีขอเอามา ไม่ได้ไปถอนมาเฉยๆ เวลาถอนก็ต้องมีบทบริกรรม มีเวลาพลี ได้มาเเล้วเอาไปทำตามขั้นตอนในตำราต่อไป ผมฟังดูเเล้วค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อนอยู่ไม่น้อย

หุ่นพยนต์ที่หลวงปู่จันทร์เคยบอกนั้น เป็นห่นพยนต์ที่ถูกสร้างด้วย ฤทธิ์ อภิญญา กสิน มีการเรียกสูตร เรียกนาม เรียกอาการ๓๒ ปลุกธาตุ เบิกเนตร ปลุกฤทธิ์ ที่สำคัญที่ขาดไม่ได้คือหัวใจของหุ่นพยนต์ การทำเป็นหุ่นที่จำลองรูปคน รูปสัตว์ ก็ดี จะต้องมีอักขระกำกับ ทั้งตัวทั้งร่างกายซึ่งเป็นการผูกให้เกิดเป็นรูปเป็นร่าง แล้วเสกด้วยบทต่างๆ จนเกิดเป็นตัวเป็นตน ขยับเขยื้อนให้เห็น

บางครูอาจารย์ ต้องเขียนอักขระเลขยันต์ เป็นหูเป็นตา เป็นจมูก เป็นปาก เเขน ขา หัวใจ แล้วเรียกสูตรตามตำราที่เเตกต่างกัน จนเกิดเป็นตัวตน ถึงจะใช้ได้ สังให้ไปทำอะไรได้ เรียกกลับมาได้ เฝ้าบ้านได้ กันอาถรรพ์ได้ รับเคราะห์เเทนเราได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับจิตของครูอาจารย์ผู้สร้างว่าจะกำกับให้เป็นเเบบไหน ยกตัวอย่างเช่น หลวงปู่ศุข ท่านเสกหัวปลี เป็นกระต่าย เสกใบมะขามเป็นต่อเเตน เสกทหารเอกของเสด็จท่านกรมหลวงชุมพรเป็นจระเข้ เป็นต้น เช่นนี้ก็ล้วนเกิดจากฤทธิ์ของอภิญญาของหลวงปู่ เเต่การเล่าขานนั้นไม่ได้เอ่ยว่าหลวงปู่ท่านลง อะไรไว้ในหัวปลีบ้าง (อาจจะบอกแต่ผมไม่รู้) เเต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดเป็นตัวตนคือการปลุกธาตุ เรียกสูตร เรียกนาม อาการ๓๒ เป็นต้น

จะเห็นว่าหุ่นพยนต์นั้นสามารถทำได้หลายแบบ แม้กระทั้งการสร้างกุมารทองก็เป็นพยนต์ เท่าที่กล่าวมานี้ จะบอกว่าคำว่าพยนต์นั้นอาจจะหมายถึง การใช้ฤทธิ์ทางใจ การใช้อภิญญา การใช้จิตสมาธิร่ายพระเวท และด้วยตบะของผู้สร้างน้นทำให้เกิดตัวตนขึ้นมา ซึ่งอาจเกิดการเป็นตัวเป็นตนที่เเตกต่างกัน ซึ่งอยู่กับตำราวิชาตามสายต่างๆ แม้ในปัจจุบันเองก็ยังมีหุ่นพยนต์ที่เป็นเหรียญให้เห็นก็มีสร้างกัน(เป็นตำราเเต่ละครูอาจารย์) ทั้งนี้คำว่าหุ่นพยนต์ ตามโบราณดั้งเดิม จึงเป็นการสมมุติตัวตนด้วยการใช้ ของอาถรรพ์ของทนสิทธิ์ มาใช้ทำเป็นหุ่นเพื่อให้เกิดเป็นหุ่นที่ทรงอานุภาพ มีการขึ้นโครงสร้างเป็นหัว เป็นตัวเป็นเเขนขา เเละกำกับด้วยอักขระเลขยันต์ลงไป ในที่นี้เท่าที่อ่านเจอในตำราเก่าๆ จะเห็นครูอาจารย์ท่านสร้างเเบบสามารถสั่งให้ไปทำตามความประสงค์ที่ต้องการเเละเรียกกลับมาได้ แต่หุ่นพยนต์ในสมัยปัจจุบันนั้นก็คล้ายกับสมัยโบราณแต่อาจไม่สามารถสั่งให้ไปทำตามประสงค์ของเราได้ อันเนื่องมาจากครูอาจารย์ผู้สร้างเห็นว่ามันเป็นอันตรายหากใช้กันผิดวิธี จะเกิดเเต่ผลเสียเลยไม่ได้กำกับให้ครบสูตรซึ่งจะเล่าให้ฟังต่อว่าคำว่าไม่ครบสูตรนั้นก็คือสร้างเหมือนการสร้างกุมารทองทั่วๆไป คล้ายๆกันเเต่ไม่เหมือนกัน

การสร้างกุมารทองหลวงปู่จันทร์ก็เคยเมตตาเล่าให้ฟัง หลวงปู่เเย้มวัดสามง่ามก็เคยเล่าให้ฟัง ครั้งนั้นเห็นท่านเขียนพระสีละเเลงเเงงด้วยปากกาเมจิกลงผ้าประเจียด เลยถามท่านๆก็เมตตาเล่าให้ฟังว่าทำให้มีจิตมีฤทธิ์เหมือนกุมารทอง

ทีนี้การสร้างกุมารทอง รักยม นางกวัก หรืออื่นๆ(ผมนึกไม่ออกแล้ว)ก็เป็นการนำของอาถรรพ์ หรือไม้มงคลนำมาลงธาตุ ปลุกธาตุ เรียกจิต เรียกอาการ๓๒ จน เกิดเป็นตัวตน แล้วเสกตามตำรานั้นๆ เช่นนี้ก็มีฤทธิ์ได้เช่นกัน (ตำราการสร้างกุมารมีหลายหลายผมเเค่ยกตัวอย่างมาให้ฟังนะครับ เป็นที่รู้กัน) กุมารทอง นางกวัก รักยม ฯลฯ ทั้งหมดนี้เราสั่งให้เขาไปทำตามที่เราประสงค์ของเราไม่ได้เเต่เราสามารถอธิษฐานขอเขาได้จะเห็นผลหรือไม่เห็นผลอันนี้บอกไม่ได้เเน่นอน (แต่หุ่นพยนต์ตามตำราสมัยก่อนที่ครูอาจารย์สร้างต้องเห็นผล) จะเห็นว่าจะคนละอย่างกับหุ่นพยนต์นะครับ ซึ่งหุ่นพยนต์สั่งได้เรียกกลับได้ บังคับให้ทำอะไรได้ (ถ้ามีกุมารทอง ลูกกรอกที่สั่งได้ผมขอละไว้นะครับเพราะขึ้นอยู่กับวิชาว่าเป็นเเบบไหน)

ครั้งหนึ่งพระอาจารย์ชุมพลก็เล่าให้ฟังว่าท่านเคยถามหลวงพ่อวิชชา(ซึ่งท่านก็สร้างกุมารทอง) และได้ถามถึงการสร้าง ท่านเล่าให้พระอาจารย์ฟังว่า กุมารทองของหลวงพ่อวิชชานั้นเกิดสำเร็จจากฤทธิ์ด้วยจิตของท่านทำให้เกิดเป็นตัวตน เคยมีคนเห็นเป็นเด็กน้อยเช่นกัน

ทั้งหมดที่เล่ามานั้นจะนำเข้าเรื่องของเหรียญหนุมาน หรือพระผงหลังพระเเม่ธรณี ที่กล่าวเช่นนี้เพราะจะให้เห็นว่าการสร้างการเสกให้เป็นพยนต์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก หรือเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เเต่อาศัยหลักการเสกการอธิษฐานจิตเช่นเดียวกันกับการสร้างกุมาร นางกวัก รักยม ฯลฯ ก็จะทำให้เหรียญนั้นเกิดเป็นเหรียญพยนต์ได้เช่นกัน ซึ่งถ้าหากใครเคยมีประสบการณ์ในการห้อยเหรียญหนุมาน บางครั้งจะฝันเห็นเป็นลูกลิงสีขาวบ้าง สีเผือกบ้าง หรือเป็นลิงยักษ์สีขาว หรือสีเผือกมาให้เห็นในฝัน นั่นก็คือการมีตัวตนของเขาที่ครูอาจารย์ผู้ทรงศีล ทรงอภิญญาได้ปลุกเสก เรียกสูตรเรียกนาม เบิกเนตร เรียกอาการ๓๒ มาเช่นกัน

เรื่องความเป็นพยนต์นี้จึงเป็นได้ดังที่เล่ามาครับ อาจจะเล่าเป็นย้อนไปย้อนมา สับสนไปบ้างก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ หากขาดตกบกพร่องไปหรือไม่ถูกต้องอย่างใด หรือเพื่อนพี่น้องจะเสริมสิ่งใดรบกวนช่วยเเนะนำด้วยนะครับ เพราะสิ่งที่เล่ามาก็จำจากครูอาจารย์ท่านเคยเล่าให้ฟังเท่านั้นครับ สาธุ

 

ลำดับที่ 28 ขอจองเพิ่มครับ
1. รูปหล่อห้อยคอ 1 องค์ 300 บาท
2. เหรียญหลังหนุมาณ 1 เหรียญ 100 บาท
3. เหรียญหลังยันต์มงกุฎพระเจ้า 1 เหรียญ 100 บาท

 

รับทราบครับ อนุโมทนาบุญนี้ด้วยครับ สาธุ

 

ขอร่วมบุญสร้างอุโบสถ วัดหนองเฒ่า อ.ไพสาลี จ.สุโขทัย ด้วยครับ

ขอจองเหรียญ 1.เหรียญหลังหนุมาน เนื้อสำริดแดง จำนวน 1 เหรียญ
2.เหรียญหลังหนุมาน เนื้อทองแดง จำนวน 1 เหรียญ

ขออนุโมทนาบุญกับพุทธศาสนิกชน ทุกๆท่าน ด้วยครับ

 

ลำดับที่9 โอนแล้วน่ะครับ

 

รับทราบครับ อนุโมทนาบุญนี้ด้วยครับ

ได้รับเเล้วครับ อนุโมทนาบุญนี้ด้วยครับ

 

มีเรื่องเล่าจากพระอาจารย์ชุมพล
ท่านเล่าให้ฟังว่าเรื่อง พระที่หลวงพ่อสร้างนั้น จะมีเทวดาคุ้มครอง ตำราหลวงพ่อกวยนั้นว่าในสมัยโบราณการจะสร้างของกายสิทธิ์ที่สำคัญนั้นจะต้องทำการบอกกล่าวทั้ง3โลกให้ได้รับรู้ และเมื่อเบื้องบนรับรู้แล้ว จะทำให้ยันต์หรือวัตถุมงคลชิ้นนั้นๆมีเทพหรือเทวดาลงมาสถิตย์รักษาเปรียบเสมือนเกราะแก้วอีกชั้นซึ่งสำเร็จด้วยเทวานุภาพ ซึ่งน่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะมีฆาราสท่านนึงเห็นรูปพระหลวงพ่อและได้บอกว่าเห็นเทวดามาลอยอยู่รอบองค์พระ

เลยทำให้ผมนึกถึงพระของหลวงปู่จันทร์วัดป่าหนองยางก็มีเทวดารักษาเช่นกัน โดยเฉพาะตะกรุดที่ท่านสร้างตามตำหรับโบราณ ได้มีเทวดาปกปักรักษาอยู่ถึง 9 องค์ด้วยกัน เเละที่สำคัญคือ 1ปีอย่างน้อยต้องบวงสรวงตะกรุดนี้ด้วย เครื่องขาว 9 อย่างเพื่อเป็นการสักการะเทพเทวดาที่ปกปักรักษาตะกรุดนั้นๆ เทวดาแต่ละองค์จะมีฤทธิ์ไม่เหมือนกัน มีความสามารถกันคนละด้าน หลวงปู่จันทร์ถึงเคยบอกว่าหากอยากได้อะไรให้อธิษฐานขอเอา ถ้าหากอยากได้ผลก็ให้บวงสรวง แต่ใครจะไม่บวงสรวงเลยท่านก็บอกว่าไม่เป็นไรแต่ขอเเล้วไม่ค่อยได้ห้ามบ่น (แต่เรื่อง มหาอุด เเคล้วคลาด เมตตายังมีเช่นเดิมเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการขอ) อยากได้ต้องบวงสรวงอย่างน้อยปีละครั้งและ วันที่จะบวงสรวงของเเต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีก ต้องดูวันเจ้าของตะกรุดนั้นด้วย จนกระทั่งทุกวันนี้ที่กระทู้หลวงปู่จันทร์ไม่ได้มีการอัพเดทใดๆเเต่ก็มีลูกศิษย์ลูกหาติดต่อมาเข้าเรื่อยๆ เรื่องของเทวดาตามที่ท่านพระอาจารย์ได้เล่าให้ฟังเมือพิจารณาเเล้วนั้นเห็นว่าเป็นจริง การสร้างพระการสร้างเหรียญหรือวัตถุมงคลใดๆ จะให้สัมฤทธิ์ผลได้นั้นนอกจากอาศัยคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เเล้ว ยังมีเรื่องของพุทธคุณ ตามตำหรับของครูอาจารย์แต่ละท่านเเละที่ขาดไม่ได้เลยคือเทพเทวดาที่คอยปกปักรักษาวัตถุมงคลนั้นๆ

พระหลวงพ่อกวยชุดนี้จะขอบารมีหลวงปู่จันทร์ท่านเสกปิดให้ครับ เพราะเคยเห็นอานุภาพตอนท่านเสกให้มาเเล้ว ท่านบอกว่าการนำพระเข้าพิธีพุทธาภิเษกในแต่ละครั้ง จะมีครูอาจารย์เก่งๆหลายท่าน เเต่จะมีสักกี่ท่านที่ กรึงที่ เสกปิดให้ บางท่านเสกปิดให้เเต่ออกจากพิธีก่อน ครูอาจารย์ที่มาทีหลังเสกต่อก็เท่ากับว่าไปเปิดประจุให้มีช่อง พอประจุเสร็จก็ไม่ได้ปิด ให้นึกถึงถุงทรายที่รั่ว เราถือไปไหนทรายก็ไหลออกหมด หากครูอาจารย์ท่านไหนมองเห็นท่านก็ปิดให้ ดังนั้นที่เราเห็นครูอาจารย์มาร่วมพิธีพุทธาภิเษกให้นั้นไม่ใช่ว่าท่านไม่รู้ไม่เห็น เเต่รู้แล้วเห็นเเล้วปิดให้เเล้ว เสกเสร็จเเล้วกลับวัดเเล้ว เจอครูอาจารย์ท่านอื่นๆที่ไม่รู้ หรือรู้แต่ลืมปิดให้ พลังก็รั่วไหลออกหมด แต่การไหลออกนั้นไม่ได้ไหลออกหมด เหมือนการเทน้ำออกจากขวด พลังจะไหลออกระดับหนึ่ง ไหลออกจากวัตถุมงคลที่ไม่สามารถอุ้มพลังที่ครูอาจารย์ท่านอัดพลังให้ไหว พลังนั้นก็จะไหลเหลือเท่าที่วัตถุมงคลนั้นรับไว้ได้อุ้มพลังได้ ยกตัวอย่างเช่น

ตะกรุดที่ถูกเสกถูกอธิษฐานมาเป็นอย่างดี มีการทดสอบพุทธคุณเเล้วปรากฏว่าใช้ได้อย่างมั่นใจ คือเป็นมหาอุด วันดีคืนดีนำไปเข้าพิธี ใช้ไปใช้มา จากมหาอุดเหลือเเค่เเคล้วคลาด แบบนี้เป็นต้น (ที่เล่ามาไม่ใช่ว่าพลังจะไหล ในทุกๆวัตถุมงคลนะครับ อาจเป็นเฉพาะบางวัตถุมงคลที่สร้างและเกี่ยวกับเจตนาการสร้างด้วย วัตถุมงคลไหนสร้างดีเจตนาดีจะมีเทวามาช่วยหนุนพลัง)


เรื่องการอุ้มพลังหลวงปู่จันทร์ท่านบอกว่าอยู่ที่มวลสารระดับหนึ่ง อยู่ที่การเรียงกระเเสจิตของผู้เสกระดับหนึ่ง การสร้างหรือถักโครงสร้างให้พลังมีที่ยึดเหนี่ยวก็อีกระดับหนึ่ง มันเป็นเช่นนี้ท่านว่าวัตถุมงคลมวลสารดีจะได้เปรียบก็ตรงนี้ แต่ไม่ใช่ว่าวัตถุมงคลที่มวลสารไม่ดีจะอุ้มพลังไว้ไม่อยู่นะครับ สามารถอุ้มได้เเต่ขึ้นอยู่ที่กับวิธีที่ครูอาจารย์ท่านทำท่านเสก

พูดถึงพลังที่ไหลออกนั้นจากประสบการณ์ตรงหลวงปู่จันทร์ท่านบอกกับผมเองเลยว่า มึงเอาพระกูไปเสกกูนิมิตเห็นพลังไหลเป็นน้ำเลย เเล้วรู้ด้วยว่าไหลออกหรือรั่วจาก พิธีไหน แสดงว่าพิธีนั้นครูอาจารย์จิตสมาธิไม่ถึงมองไม่เห็น ท่านเลยบอกว่าให้รีบเอาไปให้ท่านอธิษฐานจิตใหม่ท่านจะทำให้ ต่อไปใครก็เปิดของกูไม่ได้ เรื่องนี้ท่านย้ำมากครับเรื่องพลังรั่ว และให้ระวังให้ดีเวลานำเข้าพิธี แต่ท่านไม่ห่วงเรื่องเสกเดี่ยว เพราะขอให้ครูอาจารย์เเต่ละท่านทำให้ได้ เลยนำมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมครับ สาธุ

 

เรื่องพลัง เรื่องการเสกปิด เรื่องมวลสาร เรื่องเจตนา มีส่วนสำคัญกับผู้ใช้มาก ยิ่งถ้าได้มีส่วนร่วมในการเเจกทหารด้วยแล้ว เรื่องนี้สำคัญครับ เพราะการเเจกทหารซึ่งเป็นรั้วของชาตินั้น ก่อนเเจกต้องมั่นใจในพุทธคุณของวัตถุมงคลนั้นๆ เพราะไม่เช่นนั้นเเล้ว จะเป็นอันตรายกับทหารที่นำไปใช้ พระชุดนี้เท่าที่ได้คุยกับพระอาจารย์ชุมพล ท่านย้ำกับผมว่าหากใครได้พระชุดนี้ไปให้บอกกำชับกับผู้นั้นด้วยว่าห้ามลอง เพราะเสกมนต์พระกาฬไว้มันจะอันตรายกับผู้ลอง เลยบอกกับพระอาจารย์ว่า หากท่านมีโอกาสสร้างวัตถุมงคลชุดถัดไป(จะมีโอกาสหรือป่าวผมไม่ทราบนะครับขึ้นอยู่กับพระอาจารย์) ขออย่าเพิ่งเสกเเละสวดมนต์พระกาฬ เพราะหากเสกมนต์พระกาฬเเล้วไม่กล้าพิสูจน์ แต่ถ้ายังไม่เสกมนต์พระกาฬ เดี่ยวจะมี สตั้นมาอาสานำไปทดสอบพุทธให้ จะได้มั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อนำไปแจกทหาร หากเสกจนมั่นใจในพุทธคุณเเล้วค่อยมาเสกอัดด้วยมนต์พระกาฬตามตำหรับหลวงพ่อกวยต่อไป ซึ่งท่านก็รับไว้พิจารณา

เรืองมนต์พระกาฬ ในพระชุดนี้ ใครได้ไปเเล้วอย่านำไปลองนะครับ เพราะพระอาจารย์ท่านเสกมาระดับนึงเเล้ว เลยมาบอกกล่าวให้ทราบกันก่อน สาธุ

 

มีญาติธรรมของผมจะขอร่วมบุญสร้างอุโบสถ วัดหนองเฒ่า จึงขอร่วมบุญเพิ่มอีก 1000 บาท ครับ

ขอจองเหรียญหลังยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า สำริดเหลือง จำนวน 1
รูปหล่อหลวงพ่อกวยขนาดห้อยคอ จำนวน 1
เหรียญหลังหนุมาน เนื้อทองแดง จำนวน 2
เหรียญหลังหนุมาน เนื้อทองเหลือง จำนวน 2

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่าน และท่านเจ้าภาพผู้มีเจตนาดีและห่วงใยรั้วของชาติ ต่อเหล่าทหาร ตำรวจที่ปฎิบัติภารกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อนุโมทนาบุญด้วยครับ

หมายเหตุ ขอโอนเงินร่วมทำบุญ ทั้งสิ้น 1460บาท ในวันศุกร์ที่ 25 ธค ครับ

 

รับทราบครับ สาธุ ขออนุโมทนาบุญนี้ด้วยครับ

 

อัพเดทรูปหล่อ ขนาดห้อยคอให้ชมนิดหน่อยครับ (ผงที่ใช้อุดรูปหล่อนี้ได้มวลสารมาอุดเพิ่มเติมครับ)

๑.มวลสารที่ใช้สร้างพระผงพิมปรกโพธิ์และพิมเเหวกม่าน
๒.อัฐิเถ้ากระดูกหลวงพ่อเดิม
๓.อัฐืเถ้ากระดูกหลวงพ่อศรีวัดพระปรางค์
๔.ขวานหินโบราณ
๕.ดินกุฏิหลวงพ่อกวย(เป็นดินใต้กุฏิซึ่งหลวงพ่อได้ทำวัรสวดมนต์อธิษฐานจิตปลุกเสกลงอาคมและกันอาถรรพ์สมัยที่หลวงพ่อท่านยังอยู่)
๖.ผงพุทธคุณหลวงปู่นาม สุพรรณบุร
๗.เกศาหลวงพ่อกวย

 

ลำดับที่90ขอแจ้งโอนเงิน 4,000.-บาทรายละเอียดที่อยู่แจ้งทางPM

 

ได้รับเเล้วครับ อนุโมบุญนี้ด้วยครับ


คำอธิษฐาน

ข้าพเจ้า...(ชื่อนามสกุล)...ขอร่วมบุญ ..×××..บาท สร้างพระอุโบสถวัดหนองเฒ่า เพื่อให้เป็นที่ประกอบศาสนกิจ ประกอบพิธีอุปสมบท พระภิกษุสามเณร เเละพิธีสำคัญทางพระพุทธศาสนา ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีโรคน้อย ทั้งในชาตินี้และชาติต่อๆไป และขอให้ข้าพเจ้ามีความ คล่องตัวและความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม ให้ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานโดยเร็วด้วยเทอญ

ข้าพเจ้าขอโมทนาบุญนี้กับองค์หลวงหลวงพ่อกวย ชุตินธโร พระอาจารย์ คณาจารย์ผู้สร้างพระ เเละเจ้าของมวลสาร รวมถึงผู้ที่มีจิตอันเป็นกุศลทุกท่าน และญาติธรรมที่ได้ร่วมบุญนี้โดยพร้อมเพรียงกัน สาธุ

 

อัพเดทเพิ่มครับ ขออภัยที่ตกหล่นของคุณวีรศักดิ์


ขอให้เพื่อพี่น้อง อนุโมทนาบุญและอธิษฐานร่วมกันตามนี้นะครับ สาธุ

คำอธิษฐาน

ข้าพเจ้า...(ชื่อนามสกุล)...ขอร่วมบุญ ..×××..บาท สร้างพระอุโบสถวัดหนองเฒ่า เพื่อให้เป็นที่ประกอบศาสนกิจ ประกอบพิธีอุปสมบท พระภิกษุสามเณร เเละพิธีสำคัญทางพระพุทธศาสนา ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีโรคน้อย ทั้งในชาตินี้และชาติต่อๆไป และขอให้ข้าพเจ้ามีความ คล่องตัวและความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม ให้ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานโดยเร็วด้วยเทอญ

ข้าพเจ้าขอโมทนาบุญนี้กับองค์หลวงพ่อกวย ชุตินธโร พระอาจารย์ คณาจารย์ผู้สร้างพระ เเละเจ้าของมวลสาร รวมถึงผู้ที่มีจิตอันเป็นกุศลทุกท่าน และญาติธรรมที่ได้ร่วมบุญนี้โดยพร้อมเพรียงกัน สาธุ

 

แจ้งลำดับที่ 74 pe16009 โอนเงินให้แล้วครับ
1,050บ.

 

ได้รับแล้วครับ อนุโมทนาบุญนี้ด้วยครับ

 

ว่าด้วยเรื่องของมนต์พระกาฬนั้น พระรุ่น "มนต์พระกาฬ" ไม่ว่าจะเป็นพิมพ์ไหนแบบไหนก็กำกับด้วยมนต์พระกาฬทั้งหมดและเกศาหลวงพ่อนั้นเป็นสิ่งมงคลที่สุดของหลวงพ่อ เกศานั้นมาจากร่างกายเลือดเนื้อของท่าน ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับพระอาจารย์ชุมพลซึ่งท่านได้เล่าให้ฟังว่าช่วงสองสามอาทิตย์ก่อนนั้นกระเเสพระหลวงพ่อกวยมาเเรงมาก แรงถึงขนาดสามารถหาอ่านกันได้ทั้งตามหน้าเวปและเฟสบุ้คทั่วๆไปซึ่งไม่ต้องหาไม่ต้องค้นก็จะมีข้อมูลมาให้อ่านให้ได้เห็นโดยง่าย

ใจความเขาคุยเรื่องอะไรกันผมไม่ไดสนใจถึงขนาดที่จะตองเข้าไปติดตามข่าว สิ่งที่ผมสนใจที่สุดคือพระหลวงพ่อกวยชุดนี้ถึงเเม้ว่าพระชุดนี้ "มนต์พระกาฬ" จะไม่ทันหลวงพ่อสร้างก็ตามทีเเต่ผมมั่นใจว่าเรื่องพุทธคุณนั้นไม่เป็นรองใคร หลวงพ่อกวยคือหลวงพ่อกวย ยังคงสร้างเเรงศรัทธาให้กับลูกศิษย์ได้ไม่มีวันเสื่อมคลาย ตั้งเเต่ท่านยังดำรงค์ขันธ์จวบจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาเป็นเวลาหลายสิบปีหลังจากท่านละสังขาร บารมีของหลวงพ่อก็ยังคงอยู่

พระชุดมนต์พระกาฬนี้จะเป็นพระชุดประวัติศาสตร์ของหลวงพ่ออีกชุดหนึ่งที่สามารถสืบหาที่มาที่ไปได้ชัดเจน มีประวัติการสร้าง มวลสารที่สืบค้นได้ รวมถึงครูอาจารย์ที่เมตตาอธิษฐานจิตให้ ที่สำคัญคือส่วนหนึ่งของพระชุด มนต์พระกาฬนี้ จะถูกนำไปแจกทหารเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เป็นจำนวน 1500 เหรียญ จากการเล่าขานของพี่น้องที่เคยใช้พระของหลวงพ่อในยุคก่อนที่ท่าน อ.เฒ่า สร้างเเละเกิดประสบการณ์นั้น ผมเข้าใจเองว่ารุ่นนี้ก็จะเป็นหนึ่งในตำนานในเรื่องของประสบการณ์ (ไม่นับรวมที่ครูอาจารย์ที่เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกให้ทักว่าหนีไม่พ้นประสบการณ์) จึงทำให้คิดถึงหลายๆท่านที่ได้ถามกันเข้ามาว่าเเนะนำได้หรือไม่ว่าพระหลวงพ่อ ชุดมนต์พระกาฬนี้พิมพ์ไหนดีที่สุด เป็นคำถามที่ตอบยากว่าพิมไหนเหรียนรุ่นไหนแต่ผมตอบโดยไม่ต้องคิดมากเลยว่า ที่สุดของหลวงพ่อกวยคือ" รุ่นที่มีเกศาของหลวงพ่อ " เป็นพระผงทั้งสองพิมพ์ และรูปหล่อห้อยคอ ที่บรรจุเกศาของหลวงพ่อลงไปทุกองค์ ที่สำคัญก็คือถึงเเม้ว่าพระชุดนี้ไม่ทันหลวงพ่อสร้าง แต่กล้ารับประกันจนกว่าเต่าจะพูดได้ ว่าพระชุดมนต์พระกาฬนี้ทันหลวงพ่อเเน่นอนเพราะเกศาหลวงพ่อจะไม่ทันลวงพ่อได้อย่างไร เเค่ด้วยมีเกศาของหลวงพ่อก็ถือว่าเป็นที่สุดเเล้ว ให้ลองคิดว่าเลือดเนื้อกระดูกหลวงพ่อที่หลอมลวมกันเป็นเกศาตั้งเเต่ครั้งที่เกศาหลวงพ่อยังเป็นสีดำได้พรรษาของหลวงพ่อที่ทั้งสวดทั้งบริกรรม ที่อธิษฐานจิตมามากเป็นเวลากี่พรรษาจนกระทั่งสีของเกศาหลวงพ่อเปลี่ยนสีจากสีดำเป็นสีขาว ท่านผู้อ่านก็ลองพิจารณาตามก็เเล้วกันว่ามนต์พระกาฬที่หลวงพ่อท่านเสกไปนั้นจะเป็นกี่บทต่อกี่บท กี่คาบกี่ครั้งครา มนต์พระเวทย์บทต่างๆที่เราสามารถสืบค้นในตำราของหลวงพ่อกี่บทต่อกี่บท และที่เรายังไม่รู้อีกโดยเฉพาะมนต์พระเวทย์ที่หลวงพ่อไม่เปิดเผยอีกกี่บทต่อกี่บท ได้หลอมรวมพลังอยู่ในเกศาของหลวงพ่อทั้งสิ้น จากที่ผมกล่าวมานี้พอจะบอกได้มั้ยครับว่ารุ่นใดของหลวงพ่อดีที่สุด ขลังที่สุด ตอบยากใช่มั้ยครับ แต่หากพิจารณากันตามนี้เเล้วจะได้คำตอบที่ตอบโดยไม่ต้องคิดเลยก็ว่าได้ ดังนั้นตามที่ครูอาจารย์ท่านทักมาถึงเรื่องเด่นประสบการณ์มากของพระชุดนี้ในอนาคต จึงเป็นเรื่องที่สามารถพิสูจน์ได้ตามหลักการ (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับไม่ได้ชวนเชื่อ) เเละความเชื่อในศาสตร์เเขนงนี้ พอจะมองเห็นภาพใช่มั้ยครับว่าคำว่ามนต์พระกาฬนี้ดูเเล้วจะส่งผลต่อเจ้าของผู้ใช้พระชุดนี้อย่างไร สร้างความมั่นใจได้อย่างไรอันด้วยเกศาหลวพ่อเป็นการันตี แต่ใช่ว่าเหรียญรุ่นนี้จะไม่มีผลดังเช่นเกศานะครับ เหรียญก็ไม่เเพ้กัน แต่จะให้เทียบกับเกศาหลวงพ่อคงเป็นไปไม่ได้

ดังนั้นสิ่งที่อยากจะบอกพี่น้องเพื่อนสมาชิก็คือ หากท่านใดพอมีกำลังเก็บสะสมไว้ให้ลูกให้หลานจะเป็นมงคลและเป็นสิริมงคลไม่น้อยเลย อนาคตหาเเบบนี้ที่มีเกศาหลวพ่อไม่มีอีกเเล้วครับ ลองพิจารณาเอาตามสะดวกตามศรัทธาครับ ที่ผมเล่ามาเพราะรู้สึกถึงคุณค่าของคำว่า "เกศาหลวงพ่อกวย" ครับ