การชำระโลกให้สะอาดยังคงดำเนินต่อไป พร้อมคลิปภัยพิบัติทั่วโลก

คนที่ฝึกจิต ฝึกพลังจิต คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธเรื่อง
มิติที่สาม กระแสจิตที่เป็นกระแสพลังงาน และ
ตาที่สามที่ทำให้ทุกคนมีความพิเศษเหนือผู้อื่น
หรือท่านไม่มีค่ะ

 

..บอกตรงๆว่าไม่เคยอ่านข้อเขียนของใครๆนัก ทั้งเพิ่งทราบว่าท่านเป็นอริยบุคคลในเวลานี้ ..

การมีเมตตานั้นถ้าไม่มีปัญญาย่อมทำไม่ได้ เมตตาก็เกิดด้วยเหตุปัจจัยเช่นกันเพราะเป็นสังขารธรรม หาได้เกิดเพราะปราศจากปัจจัยไ่ม่..ในบางคราวเมตตาเกิดได้ฉับพลันแต่บางคราวพยามเท่าไรย่อมไม่เกิดต้องอาศัยหลักธรรมอื่นเข้าประกอบ..

การที่ท่านใช้ข้อความว่าพรสวรรค์ ในที่นี้ ย่อมพาให้เข้าใจว่าท่านกำลังส่งเสริมสิ่งใดอยู่ เมื่ออธิบายเช่นนี้ก็เข้าใจได้...

 

ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นอริยบุคคล
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแก่ข้าพเจ้าล้วนมีเหตุ

 

..ท่านน่าจะทราบจากpostแรกของข้าพเจ้าแล้วว่ามีจุดประสงค์ใด ..
ท่านเล่ามีจุดประสงค์ใดจึงมาในที่นี้..

 

ถ้าท่านเข้าใจมิติที่สาม มิติพลังงาน
ท่านจะเข้าใจเพราะว่าอะไร

 

..เรื่องเช่นนี้ไม่ใช่สาระที่ข้าพเจ้าสนใจเลย..เพราะไม่มีประโยชน์ และเป็นทางมาของกิเลสมีมานะหรืออัตตาได้มาก

เมื่อท่านมีก็ดีสำหรับท่าน ..ท่านคงทราบว่าการมีคุณเช่นนี้เป็นได้ทั้งคุณและโทษ..

 

..ข้าพเจ้าทราบว่า...ไม่ว่าอดีต อนาคตและปัจจุบัน ตัณหาเป็นตัวสร้างวัฏฏะ..เพราะอวิชชาจึงมีตัณหา เพราะตัณหาจึงมีอุปทาน...

 

ขออภัยท่าน ddman ค่ะ
ไปห้องอภิญญาสมาธิก็พอจะทราบสาเหตุ
ที่ข้าพเจ้าพอเป็นได้บ้าง
แต่ไม่รู้ต้นตอที่แท้จริงนะคะ...ว่าคืออะไร
แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าคิดก็เป็นจริง

 

...เมื่อไม่ได้ทำผิดอะไรก็ไม่ควรขออภัย..นะครับ..

 

+++ ถามนิดเดียวนะไม่มากหรอก ในขณะที่ "สัมผัสคลื่นพลังงานเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล" ตอนนั้น

1. เป็น "เนื้อเดียวกัน" กับ อวกาศ หรือไม่
2. หากใช่ ขณะนั้น "มี" ดาวกลาดเกลื่อน หรือ กาแลคซี่กลาดเกลื่อน (ตรงนี้มีความ ต่างกันชัดเจนอยู่นะ)(จริง ๆ ยังมีอีกระดับหนึ่ง แต่ไม่น่าจะไปถึง เลยไม่ถามดีกว่า)

+++ จุดแรก ให้จำแนกตรงนี้ก่อน จุดที่สอง

+++ ในขณะที่ "สัมผัสคลื่นพลังงานเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล" ตอนนั้น

1. มีความ "เป็นตน + ความเป็นกาย" อยู่ด้วยกันทั้ง 2 ประการ หรือไม่ หรือ
2. มีความ "เป็นตน" แต่ ความเป็นกาย ไม่ปรากฏ หรือ
3. มีความ "เป็นกาย" แต่ ความเป็นตน ไม่ปรากฏ

*** "เน้น" ผู้ที่ ออกอวกาศได้ตามความเป็นจริง และ มีความชำนาญอยู่บ้าง "ย่อมจำแนก" อาการที่กล่าวมานี้ได้อย่าง "ชัดเจน" หากจำแนกไม่ได้ ย่อมถือได้ว่า "ยังเป็นมโน" อยู่ และ ยังไม่ออกจริง

*** จริง ๆ ตรงนี้ควรอยู่ใน "ห้องวิทย์" แต่ผมแค่แวะมาถามนิดหน่อย คงไม่เป็นไรนะ

+++ ในจุดที่สองนี้ ในข้อที่ 1 นั้น "พวกฝรั่ง และ ฌานฤษี" ทำได้ ที่เรียกกันว่า Remote Viewing หรือ remote sensing และ toh shi พวกนี้เป็นแบบ "ไปทั้งตัว" แต่จะมีทั้ง "กาย+ตน" เสมอ
+++ ส่วนในจุดที่สอง ข้อ 2-3 นั้น "มหาสติปัฏฐาน" ในภาค ธรรมานุปัสสนา จะเป็นข้อ 2 ส่วน จิตตานุปัสสนา จะเป็นข้อ 3 เสียส่วนใหญ่

+++ การออกอวกาศนั้น ทำได้หลายทาง ในภาค ธรรมานุปัสสนา กับ จิตตานุปัสสนา นั้น ใช้ "วิมุติญาณทัศนะ" เป็นหลัก คือ "ออกพ้น และ ถอยห่าง จากอัตตาจิต (ตัวดู) จนพ้นอิทธิพลทั้งหมดของมัน" จากนั้นจึงเห็นสิ่งที่เรียกว่า "วัฏฏะ (หมุนวน) + สังสาระ (สสาร)" ภาษาปัจจุบัณคือ กาแลคซี่ หากผู้ที่ออกมาจาก ฐานสมาธิ ก็จะออกโดย ผ่านทะลุออกมาจาก จิตเปล่งรังสี (จิตเดิมแท้เป็นประกายประภัสสร) ก็จะออกมาเหมือนกัน หากชำนาญแล้วจะใช้การ "ม้างกาย" คือ "จางคลายตรง ๆ ที่ อัตตาจิต" จน "เนื้อของอัตตาจิต สัมพันธภาพกับ เนื้อของอวกาศ" ก็จะออกได้ง่าย ๆ

+++ ที่อธิบายมานี้ก็เพื่อที่จะบอกว่า "การออกจักรวาล" นั้น "ทำได้" ไม่ใช่ ทำไม่ได้แล้วคัดค้านตะพึดตะพือ แบบพวกที่ชอบ "ปิดกั้นตนเอง" ปัญญาอ่อนแอ และเห็นแก่ตัวจนเกินไป นั่นเอง

+++ เนื้อ อวกาศ ยังไม่ใช่ที่สิ้นสุด แต่ว่ามัน "เหมือนมากจริง ๆ" แต่ที่สำคัญที่สุด "ให้จำแนกตรงนี้ ให้ชัดเจน" คือ มันยังมีอาการ "เวิ้งว้าง กว้างใหญ่ ไร้ขอบเขต" อยู่ และความเป็น "เอกภาพ ภราดรภาพ" แบบ 100% ยังไม่ปรากฏ และยังมีสิ่งที่เรียกว่า space anomaly อยู่ แม้ว่า "สภาวะธรรมของเนื้ออวกาศ" นี้ เหนือกว่าเรื่อง "ภพภูมิ" ที่ยังอยู่ "ในวังวนที่ต่ำกว่ากันมาก" ก็ตาม แต่อย่านึกว่า "การออกอวกาศ จะปลอดภัย 100%" ก็แล้วกัน จิตที่อยู่ในเนื้อนี้ ยังมีความเป็น ธรรมะ-อธรรม รวมทั้ง ความเป็นเพศ ที่จัดว่ายังเป็น กามาวจร อยู่ รวมทั้ง หากออกไปแบบสเปะสปะ ก็ยังเกิดอาการ "หลงอวกาศ" ได้ ให้ระวังไว้ด้วย เนื้อแห่ง "สภาวะธรรม" ที่เหนือกว่า เนื้ออวกาศ ยังมีอยู่ และมีความเป็น "เอกภาพ 100%" ไม่มีอาการ "เวิ้งว้าง" แม้แต่นิดเดียว และเป็น "อสังคตธรรม 100%" ไม่มีการผสมปนเประหว่าง สังคต VS อสังคตะ แม้แต่นิดเดียว เนื้อแห่งสภาวะธรรมนี้เท่านั้นที่เรียกว่า "ผ่านพ้น วัฏสงสารอันปลดปลง" นี้ลงได้

+++ วันใดวันหนึ่ง หากคุณ jityim สามารถผ่านเข้าสู่ "เนื้อแห่งสภาวะธรรม" ที่ผมกล่าวมาแล้วได้ ก็ให้ "อยู่" ที่เนื้อตรงนี้ สักครู่เดียว ก็จะเข้าใจ "ชัดเจน" ว่า พระพุทธเจ้า มาอนุโมทนากับ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ในวันที่ท่านผ่านพ้นมาได้นั้น "จริงเท็จ" ประการใด ได้ด้วยตนเอง และจะ "สิ้นสงสัยในสภาวะธรรม" ทั้งหมดได้ด้วยตน

+++ เอาละ ที่ถามมาก็เพื่อที่จะหยั่งว่า "อยู่ตรงไหน ระดับใด" และถ้าหากสนใจจริง ก็จะได้ "ต่อยอด" ให้ตรงเป้าหมายได้ แต่ถ้าไม่สนใจหรือแค่เพียงคุยเล่น ผมก็จะผ่านไปเท่านั้นเอง

+++ และผมจะเน้นว่า เนื้อเพลงท่อนนี้ในละครเรื่อง พระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก นั้น เป็นจริงทุกประการ (กาลจักรตันตระสูตร)

"...พระองค์ทรงค้นพบ การเวียนจบของจักรวาล หนทางที่จะว่ายผ่าน วัฏสงสารอันปลดปลง"

+++ คุณ jityim ทำตรงนี้ไปเรื่อย ๆ ก่อน แต่ให้เน้นว่าอยู่ตรงไหนในข้อ 1-3 ให้ชัดเจน นะครับ

 

สภาวะธรรมนั้นละเอียดอ่อน ยากเกินที่จะหาคำใดมาบรรยายได้ค่ะ

แต่ถ้าท่านธรรมชาติอยากทราบ ก็พอที่จะอธิบายได้ แต่คงไม่ครอบคลุม
ทั้งหมด ต้องสัมผัสด้วยตนเอง

แต่รู้ว่าร่างกายและจิตใจของเรานี้ เป็นคลื่นกระแสสั่นสะเทือนด้วยความรัก

เพราะเราเมตตาผู้ใดสงสารอย่างจับใจอยากให้เขาพ้นทุกข์

ของวัวตัวนั้นที่เกิดมาพิการไม่ได้สัดส่วน เดินด้วยความลำบาก

กระแสที่เกิดขึ้นกับเราในความสงสารเขานั้น

เป็นคลื่นกระแสไฟฟ้าภายในสั่นสะเทือนที่รุนแรงมาก จนทำให้เราน้ำตาไหล
เป็นน้ำตาของความสุขที่ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้มาเทียบได้เลย จากความรู้สูึก
ที่เราได้ส่งมอบให้กับวัวผู้พิการตัวนั้น ผลที่เราได้มันมากมายมหาศาล
การให้ความเมตตาของเรานะคะ นี่อีกกรณีหนึ่ง

ส่วนกรณีที่ สอง ความเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล

เราไม่สามารถจะบรรยายได้ แต่รู้เกิดจากใจที่กรุณาให้ใครคนหนึ่งที่เขามี
ความทุกข์อย่างมากต่อการดำรงชีวิตที่ผิดหวังของเขาตั้งแต่เกิดมา
ความรู้สึกของความสงสารอยากให้เขาพ้นทุกข์จากความจริงใจ และ จากส่วนลึก
ภายในจิตใจของเราจริง ๆ อยากสุดซึ้ง และชัวพริบตาเดียวในขณะนั้น

จิตหรือเปล่าไม่ทราบ แต่รู้ว่ากระแสพุ่งจากกายไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
ไม่มีตน ไม่มีกายในขณะนั้น มีแต่สภาพโล่ง ว่าง โปร่งเบา อิสระ และ
สุขอย่างลึก ๆ ยากจะบรรยาย สุขแบบแรกเป็นแค่ความสุขของคลื่นกระแสสั่นสะเทือนภายในกาย
แต่สุขครั้งที่สองนี้ เป็นสุขจากการไร้สิ่งใด คือ ไม่มีตัวตนเลย สุขละเอียด สุขลึก ๆ
ชั่วขณะก็กลับคืนมาที่กายดังเดิม

ส่วนกรณีที่สาม

จากการที่เคยเข้าไปเห็นลักษณะของสุญญตา ขณะที่กำลังปฏิบัติธรรม
มองท้องฟ้าอันเวิ้งว้าง พิจาณาสิ่งต่างๆ ที่เป็นไปในโลก และน้อมนำลักษณะ
สุญญตาน้อมนำมาสู่ใจ ความรู้สึกในขณะที่มองท้องฟ้าใจ ได้ผ่านโลกออกไป
สูข้างนอก แล้วความรู้สึกในขณะนั้น เป็นความอิสระไม่ต้องมีโลกพันธนาการ
สุขลึก ๆ ชั่วเสี้ยววินาที ความรู้สึกนั้นก็กลับคืนมาที่กายดังเดิม

ไม่ได้เป็นผู้ปฏิบัติสูงส่งอะไรค่ะ แต่สิ่งมหัศจรรย์
ที่เกิดขึ้นให้ได้ประสบแต่ละครั้ง ยังมีอีกหลายอย่าง
โดยเฉพาะการทวนกระแสคลื่นพลังงานในตัวเอง
ลงลึกในแนวดิ่งลงไป ชั่วขณะเพียงเสี้ยววินาที
แล้วไปเจอคำตอบที่เป็นสัจธรรมที่ไม่อาจปฏิเสธได้

อธิบายได้แค่นี้ไม่อาจอธิบายในลักณะแบบท่านได้ค่ะ
แต่ทั้งสามข้อของท่านนั้น ไม่มีในสภาวะที่เจอในเหล่านี้

ขอยืนยันว่าไม่ใช่พระอริยบุคคล และ ไม่ต้องการอะไรทั้งหมดจากคำตอบนี้
เพียงว่าแค่แชร์ประสบการณ์ว่า เป็นความจริงทุกประการค่ะ

 

"เนื้อของอัตตาจิต สัมพันธภาพกับ เนื้อของอวกาศ"

ความเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล
เข้าในลักษณะนี้ดีค่ะ ว่าเป็นอย่างไร
คล้าย ๆ ลักษณะนี้

ชั่วขณะจิตไปเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล แต่กายยังอยู่ที่โลก
อธิบายยากค่ะ...ต้องสัมผัสด้วยตนเองค่ะ

 

+++ ok ไม่เหมือนกันก็ไม่เป็นไรครับ ผมผ่านบริเวณนี้มานานแล้ว คุณ jityim ก็ฝึกไปเรื่อย ๆ ก่อนก็แล้วกัน นะครับ

 

หมึกตายหลายพันตัวในชิลี
...เกิดวิกฤตกับระบบนิเวศวิทยาทางทะเลในประเทศชิลี เมื่อหมึกหลายพันตัวตายเกลื่อนเต็มท้องทะเลและซากถูกคลื่นซัดมาเกยฝั่งบนเกาะซานตา มาเรีย ทางภาคใต้ของชิลี สร้างความวิตกให้กับประชาชนที่อาศัยบนเกาะ ว่า ซากหมึกที่เน่า จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หน่วยงานท้องถิ่นต้องนำรถแทรคเตอร์มากำจัดซากหมึก ส่วนสาเหตุที่ทำให้หมึกตายหมู่ในครั้งนี้สันนิษฐานน่าจะเกิดจากกระบวนการน้ำผุดที่ส่งผลให้ปริมาณออกซิเจนในทะเลลดลง #ThaiPBS

นี้ก็อีกเหตุผล หนึ่งที่ แสดงออกถึงว่า ออกชิเจนใน โลกเริ่มน้อยลงๆๆๆ

 

เมื่อใด ที่ยังถามหา อัตตา ที่อยู่ในอนัตตา จะไม่มีคำตอบ มีแต่รังจะเกืดข้อโต้แย้ง ไม่มีวันจบ
ชื่อ ,สิ่งที่กล่าวถึง ไม่ว่าจะมีตัวตน หรือ ไม่มีตัวตน เมื่อได้กล่าวถึงแล้ว ล้วนสร้างอัตตา ขึ้นมา ต่อให้ท่านทั้งหลาย รู้ธรรมะ มากมายแต่ยังวนเวียนอยู่ในอัตตา ก็ยังคงหมุนวน เป็นแค่ การคน ที่คนไปคนมา จนหาคำว่า มนุษย์ ยังไม่เจอ
ไม่ต้องมาห่วงผมหรือใครๆ หรอกครับ จิตวิญญาณ ทุกดวงล้วนมีร่างกายห่อหุ้มไว้เท่านั้น เมื่อทิ้งกายลงแล้ว ก็จะไปตามหนทางของดวงจิตดวงนั้น ไม่มีใครมาช่วยไม่มีใครมาสนใจ ของใครได้หรอกครับ

 

...จริงแท้แน่นอน.....

ท่านsupakoกรุณาอธิบายให้ทราบเป็นความรู้เรื่องพ่อ ของจิตวิญญาณ...ว่ามีความเป็นมาอย่างไร..เผื่อจะเข้าใจอะไรได้มากขึ้น..
ขอบคุณครับ...

 

แย่มากเลยครับ เจอคนแบบนี้ในสังคมแบบนี้ catt3

 

เรื่องอธิบาย ต้องกราบขออภัยครับ
เรื่องราวยาวมากครับ ลองเสริทหา หรือ ไปอ่านในเวปหรือหาทาง ยูทูป ก็มีครับ

เอาแค่ว่า ถ้าเราไม่มีพ่อไม่มีแม่ จิตวิญญาณ เราก็จะไม่มี เมื่อจิตวิญญาณไม่มี เราก็เติบโตเป็นคนมาไม่ได้ จะเห็น ลูกกรอก ที่ไม่สามารถเจริญเติบโตได้ครับ
เมื่อท่าน เข้าใจตรงนี้แล้ว ยอมรับในตรงนี้ได้แล้ว จึงจะยอมรับการมีพ่อของจิตวิญญาณ อยู่จริงๆ เมื่อยอมรับได้แล้วการจะอธิบายถึง หรือหาว่าพ่อของตนเองเป็นใครมาจากไหนนั้น จะเอาอะไรมาพิสูนจ์ไม่ได้ สิ่งที่ได้ จะพิสูจน์ให้ได้ว่า พ่อพวกเราจริงๆหรือไม่ใช่ ก็จะต้องมาดู คำสื่อสอน คำบอกกล่าวของพ่อ ที่แจ้งผ่านมาว่า จริงไหม พิสูจน์ในคำพูดได้ไหม เช่น โลกกำลังทำการชำระ ระบบใหม่ เรียกว่า ล้างทำความสะอาดโลกใหม่ , ซึ่งตอนนี้ก็กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็ตามพิสูจน์กัน และเรื่องอื่นๆ อีกมากมายที่พ่อบอกมา ตลอดจนถึง ร่างกายมนุษย์ โลกนี้ โลกอื่นๆ อีกมากมาย ที่พ่อได้ทำขึ้นมาหรือสร้างขึ้นมา ทั้งนั้นทั้งนี้ เพื่อให้ ลูกๆได้พิสูจน์ว่า สิ่งที่พ่อสร้างไว้ พ่อจะต้องบอกได้ว่า อะไรเป็นอย่างไร มนุษย์มีกี่เซลล์ มนุษย์จะต้องดำเนินชีวิตต่อไปยังงัย ,โลกเป็นยังงัย ต้องทำอะไรบ้าง โลกจะไปยังงัย......
เหล่านี้คือ ตัวอย่างที่พ่อ ได้บอกแก่ลูกๆ ผู้เข้าไปฟัง ที่พ่อบอกกล่าวมาผ่าน อาจารย์ ปริญญา ตันสกุล ซึ่งก็จะได้ให้ลูกๆที่เข้าไปรับฟัง ได้พิสูจน์ในสิ่งต่างๆ ที่บอกกล่าวมา ว่าจริงหรือไม่ ถ้าจริงแสดงว่า นี้คือ พ่อจริงๆนะ พ่อในที่นี้ จึง เหนือกว่าทุกสรรพสิ่งในจักรวาลอันไพศาลนี้ เพราะ สร้างสิ่งต่างๆขึ้นมา พิสูจน์ได้โดยการรับฟังข้อมูลมาแล้วมาคิดมาพิจารณา ที่บ้านตัวเอง ที่สังคมตัวเอง

สิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาทั้งหมด ได้รับการยอมรับจากทุกท่านที่อ่านหรือยังครับ ถ้ายังไม่ได้รับการยอมรับ ผมก็ไม่สามารถอธิบายได้ครับ ให้หลายๆคนไปฟังที่ ชมรมเขาจัดแล้วมาพิสูจน์ว่า ข่าวสารที่ได้มานั้นแน่นอน ถ้าทุกคนในที่นี้เชื่อ ถึงจะสามารถอธิบายถึง ตัวตน ของ พ่อแห่งจิตวิญญาณ ได้ครับ

สิ่งที่ผมจะเอามาให้อ่าน แค่ ข่าวสาร จากพ่อ เท่านั้นครับ แค่พวกท่านยอมรับในข่าวสารที่ผมเอามาให้อ่าน ว่า มันกำลังเกิดขึ้นอยู่ และจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต จนกว่า โลกนี้ จะสะอาด จนกว่าจะเข้าสู่ 56 วัน 8 ราตรี โน่นแหล่ะครับ
ขอแค่พิสูจน์กันตรงนี้ เพัยงแค่ข่าวสาร นั้นตอนนี้ไม่สามารถ กำหนดวันเกิดได้ เพราะ เวลาในจักรวาล เป็น 1 ข่าวสารที่ อาจารย์ ปริญญา ท่านได้มา จึงกำหนดบอกวันเวลาที่แน่นอนไม่ได้ เพราะท่านเคยบอกกำหนดวันไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน มันก็ไม่ตรงและคลาดเคลื่อน เพราะ ว่า เวลา จักรวาลและโลก มันต่างกันครับ

 

เราจะกล่าวความจริง
เพื่อติงเตือนต่อท่านทั้งหลายว่า....

ถ้าไร้ "รัก" ค้ำจุน สมดุลโลก
จะเศร้าโศก แลวิกฤติ ทุกถิ่นที่
ทั้งดินน้ำ ลมไฟ ภัยมากมี
ทั้งโลกนี้ รอดได้ ไม่กี่คน


ป.วิสุทธิปัญญา
20-1-2016

 

ตอนนี้ที่รอ วัน พิสูจน์ ว่า จะมีหิมะตกในเมืองไทย ต่อไปพวกเราไม่ต้องไปเที่ยวหิมะต่างประเทศ หรอก
อันนี้ ก็รอการพิสูจน์ครับ เพราะอาจารย์ท่านพูดไว้นาน ยี่สิบกว่าปีแล้วครับ