เวลาจะซื้อของชอบมีความรู้สึกอยากขโมยค่ะ อย่างนี้ศีลไม่บริสุทธิ์ใช่มั้ยคะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 31 มีนาคม 2016.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ความคิดความรู้สึกเพ่งจ้องจะเอา แรงมาก ต้องพยายามระงับความรู้สึกไว้ค่ะ
     
  2. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,001
    ค่าพลัง:
    +2,040
    เจริญพรหมวิหาร 4 สิครับ

    ถ้าเห็นใจซึ่งกันเเละกัน

    ความอยากที่จะขโมยจะดับของมันไปเอง
     
  3. hydraxis

    hydraxis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +529
    มารเข้าแทรกเปล่า
     
  4. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นักรบเงา อ่านข้อความ
    "สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา สิเลนะ นิพพุติง ยันติ ตัสมา สีลัง วิโสทะเย"



    แปลว่า นี้เป็นสิกขาบท 5 ข้อ ชนทั้งหลายจะถึงสุคติได้ก็ด้วยศีล

    จะมีความถึงพร้อมด้วยโภคสมบัติก็ด้วยศีล จะถึงพระนิพพานได้ก็ด้วยศีล

    เพราะฉะนั้น พึงยังศีลให้หมดจดเถิด

    ------------------------------------------------------------------------------------------------
    หมายเหตุ


    ศีลมีหลายนัย เช่น เจตนาเป็นศีล การไม่ก้าวล่วงเป็นศีล การสำรวมระวังก็เป็นศีล ความประพฤติที่ดีงามทั้งทางกาย ทางวาจา ทางใจก็เป็นศีล ขณะที่สติปัฏฐานเกิดเป็นอินทริยสังวรศีล และเมื่อเป็นมรรคจิตมรรคทั้งแปดองค์เกิดขึ้นพร้อมกันทำกิจประหารกิเลส มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ ขณะนั้นก็เป็นโลกุตตรศีล ฯลฯ
     
  5. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    เป็นคนที่มีความละโมภ จิตยังต้องฝึกอีกเยอะ ลองฝึกพรหมวิหาร โดยเฉพาะเรื่อง เมตตา และกรุณา

    สมัยก่อนผมเด็กๆก็เป็นแบบนี้แหละ เห็นละยากได้ ยากมี ยากเอามาให้ได้ แต่มาพลิกต้องจุดหนึ่งตอนไปอยู่วัด เมื่อทางวัดมีแต่ให้ เราก็รับๆ ยิ่งคิดว่ารับเยอะยิ่งดี จนครั้งนึงเราก็ยอมสละของให้เด็กดอยคนนึง จากนั้น มันรู้สึกเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูก เพราะของนั้นเราก็โครตหวงเลย แต่เราสละให้เพื่อตอบแทนความมีน้ำใจของเด็ก ตั้งแต่นั้นมา เวลาผมมีอะไรที่เกินจากกความจำเป็นตัวเอง จะแจกจ่ายให้หมด ไม่สนว่าเป็นใคร ยิ่งให้ยิ่งรู้สึกดี ถึงแม้คนที่เราให้จะเป็นใคร ไม่เห็นค่า ไม่สำนึกบุญคุณยังงัย เป็นการเกลาจิตให้ลดความตระหนี่ไปเยอะ ลดโอกาสเป็นเปรตไปเยอะ ของอะไรถ้ามันอยู่กับผมแล้วไม่เกิดประโยชน์ก็เอาให้คนที่เค้าเห็นประโยชน์เถอะ

    ทุกวันนี้เวลาเดินห้าง เห็นของที่เค้าว่าสวย เค้าว่าดี แต่แพงมากๆ ผมก็ไม่เห็นจะไปยินดีกับเค้าเลย ใช้อะไรเท่าที่คิดว่ามีประโยชน์และเหมาะสมกับการใช้งานดีกว่า ทุกวันนี้เน้นไปทางอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด เรื่องของมันเป็นของนอกกาย มีตังค์เมื่อไหร่ก็ซื้อได้เมื่อนั้น แต่เวลาที่จะอยู่กับครอบครัว มันผ่านไป แล้วคืนมาไม่ได้ เราก็แก่ตัวไป เด็กก็โตขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึก และจิตใจ สำคัญกว่าสิ่งของนะ
     
  6. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +3,084
    นิทานสักเรื่อง

    การทดสอบจะมีตลอดไปจนกว่าจะถึงปลายทาง

    ผ่านไปได้ก็จะเจอบทอื่นอีกเรื่อยๆ

    ควรสู้ทีละอย่าง ที่มีผลต่อจิตมากที่สุดในปัจจุบัน

    บททดสอบที่เราคิดว่าเคยผ่านไปได้แล้ว อาจจะกลับมาในอนาคตในระดับขั้นที่ยากขึ้น
     
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,301
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,453
    ความคิด ที่เราไม่เจตนาคิด แต่ผุดขึ้นมา

    นั่นคือ 1. กิเลส อนุสัย ที่นอนเนื่องในขันธสันดาน หรือ นิสัยเก่าในอดีต
    ยังกำจัดขัดเกลาไม่หมด สามารถฟุ้งขึ้นมาได้ ถ้าไม่มีสติสัมปชัญญะพอ
    ก็สามารถคล้อยตามมัน และก่อกรรมสามได้อีก ( กิเลสมาร ขันธมาร )

    ื 2. เป็นคลื่นพลังงานจากภายนอก ที่คอยกระตุ้นให้ทำกรรมสาม ทางอกุศล
    ( เทวบุตรมาร )


    3. เศษกรรม ของการประพฤติผิดในอดีต มากระตุ้น



    ไม่ว่าจะเป็นด้วยสาเหตุใด ถ้าเป็นผู้ปกติ เจริญสติปัฏฐานสี่ จนชิน

    จะกำหนดรู้ทัน ( สติ ) แล้วย้อนมาดู มารักษาใจตนได้ทัน ( สัมปชัญญะ )

    ว่าเป็นแค่ สิ่งที่ถูกรู้ ไม่ใช่เรา

    อย่าไปเดือดร้อน ต่อต้าน ผลักไส

    รู้แล้ว ปล่อยผ่านไป


    แต่ พลิกสถานการณ์มาเป็นประโยชน์ได้คือ ทำให้เราไม่ประมาทต่อชีวิต
    มันมาตอกย้ำว่า เรายังมีกิเลสอาสวะเหลืออยู่ ห้ามประมาท


    ประคองตน ให้ใช้ชีิวิต บนความดีได้ต่อไป



    ----------------------------------


    ไม่ผิดศีลนะครับ เราไม่ได้เจตนา ( เจตนาคือตัวศีล ) ศีลยังดีอยู่

    ถ้าเราเจตนา แล้วทำได้สำเร็จ นั่นคือ ครบองค์ของการทำกรรม ศีลจึงขาดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 เมษายน 2016
  9. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +494
    ไปพรากสัตว์เพื่อเอามาเป็นสัตวเลี้ยง?
    หรือเอาของวัดมา
    กรรมที่ทำให้ติดคุกแสดงว่าต้องหนัก
     
  10. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,566
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ กรรมทั้งหลาย ขึ้นต้นที่ใจ (มโนกรรม) ตรงนี้ถือว่า "ใจไม่บริสุทธิ์" หาก "ตามใจ" เมื่อไร เมื่อนั้นจึงเป็น "ศีลไม่บริสุทธิ์"

    +++ ความชั่วทั้งหลาย "ไม่พึงควร แม้แต่จะคิด"

    +++ จิตส่งออก คือ สมุทัย (ไอ้ตรง "เพ่ง" นั่นแหละ คือ "ส่งออก")

    +++ คราวหน้า หาก "ทันตรงอาการ เพ่งขณะจิตส่งออก" ถือได้ว่า มีพัฒนาการก้าวหน้า ขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งจากปัจจุบัณ นะครับ
     
  11. center-in-center

    center-in-center เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,717
    เพราะ ในอดีตชาติ ซ้ำๆกันหลายชาติ
    ชอบหยิบฉวยของผู้อื่น มาเป็นของตน (อทินนาทาน)
    ด้วยเพราะมี โลภะจิต เป็นเหตุ
    บางชาติมีความตระหนี่ ถี่เหนียว แต่อยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตน
    บางชาติถือวิสาสะ ฉวยโอกาส นำสิ่งของผู้อื่นมาเป็นของตน
    ฯลฯ
    จึงมีความรู้สึกคุ้น ขึ้นมาในใจ อยากขโมย เวลาเห็นสิ่งของทึ่ถูกใจ ในช่ติปัจจุบัน
     
  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,301
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +70,453
    วงจรปกติของวัฏฏะสงสาร คือ กิเลส กรรม วิบาก สามตัววนไปมา


    ผู้ฝึกสติ-สัมปชัญญะไว้มากพอเป็นที่พึ่งของตนได้


    จะค่อยๆพ้นจากวงจรนี้



    มีจิต-ใจ ที่มีสติ-สัมปชัญญะ เป็นเครื่องอาศัย
    ในการเลือ่กทำกรรมขาว กุศลกรรม
    อยู่ตรงกลางวงจร

    หมุนวนขึ้นจากที่ต่ำ ภพต่ำ

    จนกว่า จะพ้นจากกรรมที่มาจากเหตุคือกิเลส



     

แชร์หน้านี้

Loading...