ขุนรองปลัดชู วีรชนคนถูกลืม

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย PeacE123, 25 มิถุนายน 2011.

  1. PeacE123

    PeacE123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,179
    ค่าพลัง:
    +2,485
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=OfIDXbG5yHM&feature=player_embedded"]YouTube - ‪??????? (????? ??? ?? ?????????????)‬‏[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=fOJdOuizry8&feature=player_embedded#at=12"]YouTube - ‪???????????? ???????????????‬‏[/ame]


    จะมีใครสักกี่คน บนแผ่นดินนี้
    ที่ทำสิ่งใด..โดยไม่คิดถึงตัวเอง
    จะมีใครสักกี่คน..ในวันนี้
    ที่จะยอมตาย..เพื่อแผ่นดินเกิด"


    "ขอเตือนใจ...ไว้นะว่า เรากำลังเพื่อลูกหลานเพื่อบ้านเมือง
    เรากำลังทำเพื่อทุกคนที่อยู่บนแผ่นดินนี้
    คิดทำสิ่งใดขอให้เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม
    มากกว่าประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง"




    ขุนรองปลัดชู วีรกรรมที่ถูกลืม
    โดย... นายทวีศักดิ์ ศรีทองกิติกูล



    กรุงศรีอยุธยา ( พ.ศ.2302 – 2303 ) สมัยแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์พระเจ้าอลองพญาทราบเหตุว่ากรุงศรีอยุธยาผลัดแผ่นดินจึงได้ยกกองทัพเข้าตีเมืองมะริด และเมืองตะนาวศรี หัวเมืองของกรุงศรีอยุธยา โดยอ้างเหตุว่าให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏมอญ เมื่อยึดได้เมืองมะริดและเมืองตะนาวศรีแล้ว พระเจ้าลองพญาก็ได้เคลื่อนทัพผ่านทางด่านสิงขร เพื่อเข้าตีกรุงศรีอยุธยาต่อไป ครั้นเมื่อกรุงศรีอยุธยาทราบเรื่อง พระเจ้าเอกทัศน์ได้รับสั่งให้พระยายมราชคุมพลเป็นทัพหน้าออกมาต่อกรกับทัพพม่าที่ด่านสิงขร และให้พระยารัตนาธิเบศเป็นแม่ทัพคุมพลเข้ามาตั้งรับทัพพม่า ที่เมืองกุยบุรี
    ขณะนั้น ขุนรองปลัดชู กรมการเมืองวิเศษชัยชาญ เป็นผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือในการรบ และคงกระพันชาตรี เข้ามารับอาสากับไพร่สี่ร้อยคน ขอไปรบกับพม่า ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นกองอาทมาต (หน่วยรบพิเศษ) ร่วมทัพมากับพระยารัตนาธิเบศ
    ทัพของพระยายมราช เข้าปะทะกับทัพของพม่าที่เมืองแก่งตุมด้วยกำลังที่น้อยกว่าจึงแตกพ่ายถอยรุ่นไม่เป็นขบวน พระยารัตนาธิเบศตั้งค่ายมั่นอยู่ ณ เมืองกุยบุรี แจ้งว่าทัพพม่ายกพลมาเป็นจำนวนมาก อาจต้านทานไว้ไม่ไหว จึงสั่งการให้เกณฑ์ไพร่พล และเร่งอพยพผู้คนหลบหนีพม่า และหวังรวบรวมผู้คนเพื่อไปตั้งมั่นรับพม่าที่ชานพระนคร ครั้งนั้น ขุนรองปลัดชู ได้อาสาขอต้านทานทัพพม่าด้วยกำลังพลเพียงสี่ร้อยนาย เพื่อยันทัพข้าศึกและเปิดทางให้รี้พลได้หลบหนี พระยารัตนาธิเบศ จึงได้แบ่งไพร่ให้อีกห้าร้อยนายไปช่วยกองกำลังของขุนรองปลัดชู ในการต่อต้านทัพพม่า
    ณ ชายหาดหว้าขาวชายทะเล (บ้านทุ่งหมากเม่า ตำบลอ่าวน้อย) เวลาเช้าตรู่ ขุนรองปลัดชูพร้อมกับเหล่าทหาร ตั้งท่ารอทัพพม่าอยู่ด้วยจิตใจห้าวหาญ เมื่อเห็นกองทัพพม่าก็กรูกันออกโจมตีทัพหน้าของพม่ารบกันด้วยอาวุธสั้นถึงตะลุมบอนกัน แทงพม่าล้มตายเป็นจำนวนมาก และตัวขุนรองปลัดชูท่านถือดาบสองมือ วิ่งเข้าท่ามกลางข้าศึก ฟันพม่าล้มตายก่ายกองดั่งขอนไม้ ด้วยกำลังพลเก้าร้อยต่อทัพพม่านับหมื่นที่ยัดเยียดหนุนเนื่องกันเข้ามาต่อรบได้รบกันอยู่ตั้งแต่เข้าจนถึงเวลาเที่ยง ขุนรองปลัดชูไม่คิดถอยหนี ต่อสู้ทัพพม่าจนเหนื่อยอ่อนสิ้นกำลัง ถูกกองทัพพม่าใช้พลทัพช้างขับช้างเข้าเหยียบจนล้มตาย ต่างพากันถอนร่นลงทะเล จนจมน้ำทะเลตายเสียสิ้น กองทัพพม่าจึงมีชัย พระยารัตนาธิเบศจึงได้เร่งเลิกทัพหนีมากับทัพพระยายมราช กลับมาถึงพระนครขึ้นเฝ้ากราบทูลว่า ศึกพม่าเหลือกำลังจึงพ่าย
    ฝ่ายทัพพม่าเมื่อมีชัยเหนือกองทหารเก้าร้อยคน ก็เหนื่อยอ่อนหยุดทัพพักผ่อน ก่อนเดินทัพเข้าเมืองกุย เมืองปราณ เมืองชะอำ เมืองเพชรบุรี เมืองราชรี เมืองสุพรรณบุรี โดยไม่มีหัวเมืองใดต่อรบกับพม่าเลย และต่อมาชาววิเศษชัยชาญ ได้ร่วมกันสร้างวัดสี่ร้อยเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของขุนรองปลัดชู ตราบจนถึงปัจจุบัน
    ในบันทึกของพม่าในกาลต่อมากล่าวว่า การตีกรุงศรีอยุธยาครั้งนั้น ได้มีการต่อสู้กองทัพของกรุงศรีอยุธยา ที่ช่องเขาแคบๆ ริมทะเลอย่างประจัญบาน ดุเดือด ก่อนเข้าเมืองกุย เมืองเพชรบุรี เมืองราชบุรี โดยง่าย
    หากกองทัพกรุงศรีอยุธยา มีคนอย่างขุนรองปลัดชู ไหนเลยเราจะเสียกรุงศรีอยุธยา และหากคนประจวบคีรีขันธ์ ยังไม่รู้จักวีรกรรมที่หาดหว้าขาว ไหนเลยวิญญาณของนักรบไทย จะได้รับการยกย่องความดี ความกล้า ความเสียสละต่อชาติ ต้องไม่ถูกลืม ขอยกย่องวีรกรรมของขุนรองปลัดชู ณ ดินแดนเมืองประจวบคีรีขันธ์


    เว็บไซด์ภาพยนตร์
    www.thaiunsunghero.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2011
  2. jaya

    jaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,110
    ค่าพลัง:
    +2,183
    สาธุ .. ต่อบรรพบุรุษวีรชนคนกล้า สละชีพรักษาดินแดนให้ลูกหลานอย่างเราๆ ได้มีชาติจนทุกวันนี้ แต่ลูกหลาน (บางคน) วันนี้ กลับทำลายชาติทั้งทางตรงและทางอ้อมเสียเอง ...

    วีรกรรมของท่านขุนรองปลัดชูนี้ น่าจะบรรจุเนื้อหาลงในหลักสูตร ให้นักเรียนได้ศึกษาและเรียนรู้ จะได้ไม่ลืมชาติที่ให้กำเนิดและอาศัย ให้รู้จักหวงแหน ดูแลรักษา
     
  3. PeacE123

    PeacE123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,179
    ค่าพลัง:
    +2,485
    หนังเรื่องนี้เข้าฉายให้ดูฟรีที่สกาล่าโรงเดียวเท่านั้นครับ จำนวน5รอบ แต่ว่าเต็มหมดทุกรอบแล้ว ใครอยากดูรอดูช่องTPBS วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2554 เวลา 4ทุ่มครับ
     
  4. PeacE123

    PeacE123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,179
    ค่าพลัง:
    +2,485
    รักชาติต้องอย่างนี้ ไม่ใช่อย่างนั้น
     
  5. NETTHAT

    NETTHAT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +153
    บรรพชนไทย ไม่เคยไม่มี

    วันนี้ มีบรรพชนมากมาย
    กำลังปฏิบัติหน้าที่
    เอากายกำบังทุกข์ให้พวกเราอยู่
    หลายสมรภูมิ ทั่วประเทศ

    ขอเพียงพี่น้องไทยมีสติ
    รู้ว่า ผู้ใด กำลังรักษาแผ่นดินอยู่
    และ รักษาน้ำใจกัน - รักกันไว้เถิด...



     
  6. Snow

    Snow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    698
    ค่าพลัง:
    +2,385
    เพิ่งดูจบไปเมื่อสิบห้านาทีที่ผ่านมา ขอขอบพระคุณทางทีวีไทยเป็นอย่างมากที่ทำให้ได้มีโอกาสหวนระลึกถึงวีรชนหาญกล้าที่เสียสละเลือดเนื้อเพื่อแผ่นดินโดยไม่คิดกลัวตาย ดูแล้วน้ำตาไหลพรากเลยค่ะ นักแสดงทุกคนเล่นดีจริงๆโดยเฉพาะพระเอก ทำให้อินไปกับตัวละครมากๆ ดูแล้วบีบหัวใจราวกับว่าหัวใจจะสลายตามไปด้วยในตอนท้าย เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นอะไรหลายอย่างเหลือเกิน นอกจากให้เราระลึกถึงบรรพบุรุษและวีรชนอีกเป็นแสนเป็นล้านที่เราไม่รู้จักแต่ได้ยอมอุทิศใจและกายเพื่อแผ่นดินแห่งนี้ เพื่อรักษาแผ่นดินนี้ให้คงอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน แล้วยังสะท้อนให้เห็นถึงความจริงบางอย่างที่ยังคงตามกาลเวลามาเป็นเงาตามตัวมาถึงจนทุกวันนี้นั่นก็คือ หากเรามีความคิดเห็นแก่ตนเองมาก่อนชาติบ้านเมือง เมื่อนั้น แผ่นดินจะล่มจมเพราะน้ำมือเรา อยากให้ทุกคนตระหนักในจุดนี้และความสามัคคีปรองดองไม่แบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายนั้นจะนำมาซึ่งความเป็นปึกแผ่นของแผ่นดินไทยตราบนานเท่านาน(แล้วมันจะมีวันนั้นมั้ยนะ...)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 กรกฎาคม 2011
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    วีรกรรมขุนรองปลัดชู

    ขุนรองปลัดชู วีรกรรมที่ถูกลืม
    โดย... นายทวีศักดิ์ ศรีทองกิติกูล


    กรุงศรีอยุธยา ( พ.ศ.2302 – 2303 ) สมัยแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์พระเจ้าอลองพญาทราบเหตุว่ากรุงศรีอยุธยา ผลัดแผ่นดินจึงได้ยกกองทัพเข้าตีเมืองมะริด และเมืองตะนาวศรี หัวเมืองของกรุงศรีอยุธยา โดยอ้างเหตุว่าให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏมอญ เมื่อยึดได้เมืองมะริดและเมืองตะนาวศรีแล้ว พระเจ้าลองพญาก็ได้เคลื่อนทัพผ่านทางด่านสิงขร เพื่อเข้าตีกรุงศรีอยุธยาต่อไป ครั้นเมื่อกรุงศรีอยุธยาทราบเรื่อง พระเจ้าเอกทัศน์ได้รับสั่งให้พระยายมราชคุมพลเป็นทัพหน้าออกมาต่อกรกับทัพ พม่าที่ด่านสิงขร และให้พระยารัตนาธิเบศเป็นแม่ทัพคุมพลเข้ามาตั้งรับทัพพม่า ที่เมืองกุยบุรี


    ขณะนั้น ขุนรองปลัดชู กรมการเมืองวิเศษชัยชาญ เป็นผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือในการรบ และคงกระพันชาตรี เข้ามารับอาสากับไพร่สี่ร้อยคน ขอไปรบกับพม่า ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นกองอาทมาต (หน่วยรบพิเศษ) ร่วมทัพมากับพระยารัตนาธิเบศ


    ทัพของพระยายมราช เข้าปะทะกับทัพของพม่าที่เมืองแก่งตุมด้วยกำลังที่น้อยกว่าจึงแตกพ่ายถอย รุ่นไม่เป็นขบวน พระยารัตนาธิเบศตั้งค่ายมั่นอยู่ ณ เมืองกุยบุรี แจ้งว่าทัพพม่ายกพลมาเป็นจำนวนมาก อาจต้านทานไว้ไม่ไหว จึงสั่งการให้เกณฑ์ไพร่พล และเร่งอพยพผู้คนหลบหนีพม่า และหวังรวบรวมผู้คนเพื่อไปตั้งมั่นรับพม่าที่ชานพระนคร ครั้งนั้น ขุนรองปลัดชู ได้อาสาขอต้านทานทัพพม่าด้วยกำลังพลเพียงสี่ร้อยนาย เพื่อยันทัพข้าศึกและเปิดทางให้รี้พลได้หลบหนี พระยารัตนาธิเบศ จึงได้แบ่งไพร่ให้อีกห้าร้อยนายไปช่วยกองกำลังของขุนรองปลัดชู ในการต่อต้านทัพพม่า


    ณ ชายหาดหว้าขาวชายทะเล (บ้านทุ่งหมากเม่า ตำบลอ่าวน้อย) เวลาเช้าตรู่ ขุนรองปลัดชูพร้อมกับเหล่าทหาร ตั้งท่ารอทัพพม่าอยู่ด้วยจิตใจห้าวหาญ เมื่อเห็นกองทัพพม่าก็กรูกันออกโจมตีทัพหน้าของพม่ารบกันด้วยอาวุธสั้นถึง ตะลุมบอนกัน แทงพม่าล้มตายเป็นจำนวนมาก และตัวขุนรองปลัดชูท่านถือดาบสองมือ วิ่งเข้าท่ามกลางข้าศึก ฟันพม่าล้มตายก่ายกองดั่งขอนไม้ ด้วยกำลังพลเก้าร้อยต่อทัพพม่านับหมื่นที่ยัดเยียดหนุนเนื่องกันเข้ามาต่อรบ ได้รบกันอยู่ตั้งแต่เข้าจนถึงเวลาเที่ยง ขุนรองปลัดชูไม่คิดถอยหนี ต่อสู้ทัพพม่าจนเหนื่อยอ่อนสิ้นกำลัง ถูกกองทัพพม่าใช้พลทัพช้างขับช้างเข้าเหยียบจนล้มตาย ต่างพากันถอนร่นลงทะเล จนจมน้ำทะเลตายเสียสิ้น กองทัพพม่าจึงมีชัย พระยารัตนาธิเบศจึงได้เร่งเลิกทัพหนีมากับทัพพระยายมราช กลับมาถึงพระนครขึ้นเฝ้ากราบทูลว่า ศึกพม่าเหลือกำลังจึงพ่าย


    ฝ่ายทัพพม่าเมื่อมีชัยเหนือกองทหารเก้าร้อยคน ก็เหนื่อยอ่อนหยุดทัพพักผ่อน ก่อนเดินทัพเข้าเมืองกุย เมืองปราณ เมืองชะอำ เมืองเพชรบุรี เมืองราชรี เมืองสุพรรณบุรี โดยไม่มีหัวเมืองใดต่อรบกับพม่าเลย และต่อมาชาววิเศษชัยชาญ ได้ร่วมกันสร้างวัดสี่ร้อยเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของขุนรองปลัดชู ตราบจนถึงปัจจุบัน


    ในบันทึกของพม่าในกาลต่อมากล่าวว่า การตีกรุงศรีอยุธยาครั้งนั้น ได้มีการต่อสู้กองทัพของกรุงศรีอยุธยา ที่ช่องเขาแคบๆ ริมทะเลอย่างประจัญบาน ดุเดือด ก่อนเข้าเมืองกุย เมืองเพชรบุรี เมืองราชบุรี โดยง่าย


    หากกองทัพกรุงศรีอยุธยา มีคนอย่างขุนรองปลัดชู ไหนเลยเราจะเสียกรุงศรีอยุธยา และหากคนประจวบคีรีขันธ์ ยังไม่รู้จักวีรกรรมที่หาดหว้าขาว ไหนเลยวิญญาณของนักรบไทย จะได้รับการยกย่องความดี ความกล้า ความเสียสละต่อชาติ ต้องไม่ถูกลืม ขอยกย่องวีรกรรมของขุนรองปลัดชู ณ ดินแดนเมืองประจวบคีรีขันธ์



    .

    -http://www.aownoi.go.th/webpage/slogan.php?sg=5-

    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ประวัติขุนรองปลัดชู

    [​IMG]


    [​IMG]

    หัวหน้ากองอาทมาต ๔๐๐ คน
    กรมการเมืองวิเศษไชยชาญ
    กับวัดสี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง

    [​IMG]

    วัด สี่ร้อย ในอดีต ล่วงมาถึงปี พ.ศ. 2303 พระเจ้าอลองพญากษัตริย์พม่า ได้ให้มังระ ละมังฆ้อนนรธาราชบุตรยกทัพมาตี เมืองมะริดของไทยซึ่งอยู่ในความปกครองของกรุงศรีอยุธยาในครั้งนั้นขุนรอง ปลัดชูกรมการเมืองวิเศษไชยชาญซึ่งเป็นผู้ทรงวิทยาคม แก่กล้า ชำนาญในการรบด้วยดาบสองมือ มีลูกศิษย์มากมาย จึงได้รวบรวมชาววิเศษไชยชาญ จำนวน 400 คน เข้าสมทบกับ กองทัพของพระยารัตนาธิเบศร์ โดยใช้ชื่อว่า “ กองอาทมาต ”

    พระยารัตนาธิเบศร์ ยกกองทัพไปตั้งที่เมืองกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และได้สั่งให้ขุนรองปลัดชูคุมกองอาทมาต ไปตั้ง สกัดกองทัพพม่าที่อ่าวหว้าขาว ตั้งอยู่เหนือที่ว่าการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบันนี้ พอกองทัพพม่ายกทัพผ่านมา ขุนรองปลัดชูจึงคุม ทหารเข้าโจมตีรบด้วยอาวุธสั้นถึงตะลุมบอน ถึงแม้ทหารของไทยจะน้อยกว่า แต่ก็ฆ่าฟันพม่าล้มตายเป็นจำนวนมาก การต่อสู้ผ่านไป 1 คืน ถึงเที่ยงวัน รุ่งขึ้นก็ยังไม่สามารถเอาชนะพม่าได้ เพราะพม่ายกทัพหนุนเข้ามาช่วยอีก ด้วยกำลังที่น้อยกว่าจึงเหนื่อยอ่อนแรง ในที่สุดก็ถูกพม่ารุกไล่โจมตีแตกพ่ายยับเยิน แต่ทหารกองอาทมาต มีวิชาอาคมแก่กล้า ฟันแทงไม่เข้า ทหารพม่าจึงไสช้างเข้าเหยียบย่ำทหารกองอาทมาตตายเป็นจำนวนมาก ที่เหลือก็ถูกไล่ลงทะเลจมน้ำตายไปก็มาก ในที่สุด ขุนรองปลัดชู พร้อมด้วยทหารกองอาทมาตแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ จำนวน 400 คน ก็เสียชีวิตด้วย ฝีมือของพม่า

    ชาววิเศษไชยชาญ เมื่อทราบข่าวก็โศรกเศร้าเสียใจ จึงได้แต่ภาวนาขอบุญกุศลที่ได้สร้างสมไว้จงเป็นปัจจัยส่งผลให้ดวง วิญญาณของทหารกล้าได้ไปสู่สุคติ ความเงียบเหงาวังเวงเกิดขึ้น หมดกำลัง ใจในการทำมาหากิน ไม่มีอะไรดีไปกว่าการร่วมกันสร้างสิ่งต่างๆไว้เป็นที่ระลึกถึงผู้พลีชีพด้วย การสร้างวัดสี่ร้อย ในปี พ.ศ.๒๓๑๓ ใช้ชื่อสี่ร้อยตามจำนวนกองอาทมาตสี่ร้อยคนที่ไม่ได้กลับมา เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่อนุชน รุ่นหลังของชาวเมืองวิเศษไชยชาญ เพื่อเป็นการย้ำเตือนความทรงจำให้ระลึกถึงบรรพบุรุษที่พลีชีพ เพื่อปกป้องปฐพีถึงกับเสียชีวิต โดยชื่อว่า วัดสี่ร้อย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาประชาชนทั่วไป

    ต่อมาเจ้าอาวาสในขณะนั้นก็ได้สร้างเจดีย์ ไว้เป็นที่รวบรวมดวงวิญญาณของ ชาวแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ ที่เสียชีวิตจำนวน 400 คน

    หลัง จากพม่าผ่านอ่าวหว้าขาวไปได้ ก็ไม่มีเมืองใดขัดขวางพม่า พากันยอมแพ้ทั้งหมด พม่าถึงกรุงศรีอยุธยาโดยง่าย ตั้งทัพที่วัดหน้าพระเมรุ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับพระราชวังโบราณ (วัดพระศรีสรรเพชญ์) โดยมีแม่น้ำกั้นอยู่ พม่ายิงปืนใหญ่เข้าพระราชวังจนถูกยอดของพระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์หักลง พระเจ้าอลองพญาฮึกเหิม จึงลงมาจุดยิงปืนใหญ่ด้วยตนเอง ด้วยบารมีของ "พระพุทธนิมิตรวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ" พระประธานในวัดที่ยังอยู่จนถึงปัจจุบัน (ความเชื่อ) ช่วยปกปักรักษาบ้านเมือง จึงเกิดปืนใหญ่ระเบิดใส่พระเจ้าอลองพญาบาดเจ็บสาหัส ต้องเลิกทัพ เดินทางกลับพม่า โดยพระเจ้าอลองพญาสวรรคตบริเวณด่านแม่ละเมาในเขตแดนไทย (ปัจจุบันเป็นบริเวณอุทยานแห่งชาติ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จังหวัดตาก)

    สงคราม ครั้งเสียกรุงครั้งที่สอง เป็นสงครามคนละครั้งกับครั้งนี้ โดยปี ๒๓๐๘ พม่ายกทัพมาใหม่ และสามารถพิชิตอยุธยาสำเร็จเมื่อ พ.ศ.๒๓๑๐ เกิดวีรกรรมชาวบ้านค่ายบางระจันในศึกครั้งนี้ โดยมีชาวบ้านจากวิเศษชัยชาญไปร่วมรบเช่นกัน ถึงกับมีผู้กล่าวว่า "ถ้าไม่มีวีรกรรมขุนรองปลัดชู ก็คงไม่มีวีรกรรมของชาวบ้านบางระจัน"

    ต่อ มาถึงสมัยหลวงพ่อบุญ เป็นเจ้าอาวาสวัดสี่ร้อย ได้นับถือหลวงพ่อปั้นเจ้าอาวาสวัดพิกุลทอง อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยามาก เมื่อหลวงพ่อปั้นได้มาเยี่ยมชาวสี่ร้อย และปฏิบัติกิจนิมนต์เป็นประจำ หลวงพ่อปั้นเป็นพระภิกษุที่มี ความเมตตาสูง เป็นที่เคารพรักของชาวสี่ร้อยเป็นอย่างมาก ได้เห็นว่าชาวสี่ร้อยมีความเคารพรักท่าน ตลอดจนชาวสี่ร้อยเลื่อมใสใน บวรพุทธศาสนา หลวงพ่อปั้นจึงได้ชวนหลวงพ่อบุญและชาวสี่ร้อยสร้างพระพุทธรูปเพื่อไว้เป็น ที่สักการะบูชาแทนพระเจดีย์
    ในขณะนั้นชาวสี่ร้อยมีความเลื่อมใสจึงพากัน ไปนมัสการหลวงพ่อใหญ่วัดป่าเลไลยก์ อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประจำ เพื่อมิให้เป็นการเสียเวลาและลำบากในการเดินทางไปนมัสการ จึงได้ตกลงกันสร้างหลวงพ่อใหญ่ขึ้น โดยจำลองแบบมาจาก ปางป่าเลไลยก์ วัดป่าเลย์ไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรีมาประดิษฐาน ณ วัดสี่ร้อย

    นับว่าเป็น พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในขณะนั้น โดยมีนายวาด นิลมงคล ในสมัยนั้นดำรงตำแหน่งรับราชการเป็นเสมียนตรา เป็นผู้บริหาร จัดการ การก่อสร้าง บอกบุญผู้มีจิตศรัทธา ได้ร่วมกันสละทรัพย์ แก้ว แหวน เงินทอง มีคณะช่างก่อสร้างชื่อนายมาตร สุขมนัส นายผล รัตนเสถียร ใช้เวลาก่อสร้างถึง 16 ปี ทำการพุทธาภิเษกยกรัศมีเบิกพระเนตร ติดอุณาโลม ในปี พ.ศ. 2475 พร้อม บรรจุวัตถุมงคล หลวงพ่อบุญ มอบให้พระยงค์ เพิ่มพูนและพระใน นำวัตถุมงคลไปบรรจุโดยใช้เชือกผูกหย่อนลงทางพระเศียร พระศอ และยกรัศมีทั้งสามปิด
    งานประจำปีของวัดสี่ร้อย ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 12 ประชาชนทั่วสารทิศจะมานมัสการหลวงพ่อใหญ่ ขอโชคลาภต่างๆนานา ใครมีทุกข์ร้อนประการใดก็มาบอกเล่าหลวงพ่อใหญ่ และมักมีการแก้บนด้วยพลุและละคร ปัจจุบันนี้วัดสี่ร้อยเป็นหนึ่งในแหล่ง ท่องเที่ยวของจังหวัดอ่างทอง


    .

    -http://www.maameu.ath.cx/forum/index.php?topic=8918.0-

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .
    (เรื่องจริง) ขุนรองปลัดชูและตำนานทหาร400แห่งกองอาทมาต

    -http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=301923-



    [​IMG]

    นามของขุนรองปลัดชู กับ กองอาสาอาทมาท ดูเหมือนจะเลือนลางในความทรงจำของคนไทย ทั้งๆ ที่วีรกรรมในการรุกรบกับพม่า นั้นมีมาก่อน ชาวบ้านบางระจัน อาจกล่าวได้ว่า ถ้าไร้ศึกที่อ่าวหว้าขาว ก็อาจไม่มีศึกบางระจัน

    พ.ศ. 2303 พระเจ้าอลองพญากษัตริย์พม่า ได้ให้มังระ ละมังฆ้อนนรธาราชบุตรยกทัพมาตี เมืองมะริดของไทยซึ่งอยู่ในความปกครองของกรุงศรีอยุธยาในครั้งนั้นขุนรอง ปลัดชูกรมการเมืองวิเศษไชยชาญซึ่งเป็นผู้ทรงวิทยาคม แก่กล้า ชำนาญในการรบด้วยดาบสองมือ มีลูกศิษย์มากมาย จึงได้รวบรวมชาววิเศษไชยชาญ จำนวน 400 คน เข้าสมทบกับ กองทัพของพระยารัตนาธิเบศร์ โดยใช้ชื่อว่า “ กองอาทมาต ”

    พระยารัตนาธิเบศร์ ยกกองทัพไปตั้งที่เมืองกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และได้สั่งให้ขุนรองปลัดชูคุมกองอาทมาต ไปตั้ง สกัดกองทัพพม่าที่อ่าวหว้าขาว ตั้งอยู่เหนือที่ว่าการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ในปัจจุบันนี้ พอกองทัพพม่ายกทัพผ่านมา ขุนรองปลัดชูจึงคุม ทหารเข้าโจมตีรบด้วยอาวุธสั้นถึงตะลุมบอน ถึงแม้ทหารของไทยจะน้อยกว่า แต่ก็ฆ่าฟันพม่าล้มตายเป็นจำนวนมาก การต่อสู้ผ่านไป 1 คืน ถึงเที่ยงวัน รุ่งขึ้นก็ยังไม่สามารถเอาชนะพม่าได้ เพราะพม่ายกทัพหนุนเข้ามาช่วยอีก ด้วยกำลังที่น้อยกว่าจึงเหนื่อยอ่อนแรง ในที่สุดก็ถูกพม่ารุกไล่โจมตีแตกพ่ายยับเยิน แต่ทหารกองอาทมาต มีวิชาอาคมแก่กล้า ฟันแทงไม่เข้า ทหารพม่าจึงไสช้างเข้าเหยียบย่ำทหารกองอาทมาตตายเป็นจำนวนมาก ที่เหลือก็ถูกไล่ลงทะเลจมน้ำตายไปก็มาก ในที่สุด ขุนรองปลัดชู พร้อมด้วยทหารกองอาทมาตแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ จำนวน 400 คน ก็เสียชีวิตด้วย ฝีมือของพม่า

    ชาววิเศษไชยชาญ เมื่อทราบข่าวก็โศรกเศร้าเสียใจ จึงได้แต่ภาวนาขอบุญกุศลที่ได้สร้างสมไว้จงเป็นปัจจัยส่งผลให้ดวง วิญญาณของทหารกล้าได้ไปสู่สุคติ ความเงียบเหงาวังเวงเกิดขึ้น หมดกำลัง ใจในการทำมาหากิน ไม่มีอะไรดีไปกว่าการร่วมกันสร้างสิ่งต่างๆไว้เป็นที่ระลึกถึงผู้พลีชีพด้วย การสร้างวัดสี่ร้อย ในปี พ.ศ.๒๓๑๓ ใช้ชื่อสี่ร้อยตามจำนวนกองอาทมาตสี่ร้อยคนที่ไม่ได้กลับมา เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่อนุชน รุ่นหลังของชาวเมืองวิเศษไชยชาญ เพื่อเป็นการย้ำเตือนความทรงจำให้ระลึกถึงบรรพบุรุษที่พลีชีพ เพื่อปกป้องปฐพีถึงกับเสียชีวิต โดยชื่อว่า วัดสี่ร้อย ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาประชาชนทั่วไป

    ต่อมาเจ้าอาวาสในขณะนั้นก็ได้สร้างเจดีย์ ไว้เป็นที่รวบรวมดวงวิญญาณของ ชาวแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ ที่เสียชีวิตจำนวน 400 คน



    [​IMG]



    " ตราบใดที่ลมหายใจยังมี

    ชีวิตนี้ กูขออุทิศ เพื่อปกป้อง ผืนแผ่นดิน สยาม

    กูจะสู้ แม้ว่าพวกกูน้อย สู้ไม่ถอย ถึงแม้ว่าจะดับสลาย

    แผ่นดินนี้ พ่อกูอยู่ ปู่กูตาย ยอมมลายมิยอมให้ไพรีครอง "

    .... ใครบ้างเหวยจะยืนสู้เช่นกูบ้าง ใครบ้างเหวยจะเคียงข้างไทยใจหาญ

    ใครบ้างเหวย จะละสุขสนุกสำราญ ใครบ้างเหวย ยอมวายปราณ เพื่อไทยคง.....

    เพิ่มเติม เกี่ยวกับกองอาทมาต
    ทหารกองนี้เป็นทหารกองทะลวงฟันที่
    น่าเกรงขามมากกองหนึ่ง เล่ากันว่าทหารกองนี้
    ใช้ดาบเป็นอาวุธ บุกเข้าฟันทะลวงถึงใจกลาง
    ทัพฝ่ายศัตรูได้ และที่ยิ่งไปกว่านั้น ทหารกอง
    นี้เป็นผู้ที่มีวิทยาคมกล้าแข็งเน้นไปทางคงกระ
    พัน ล่องหนหายตัว


    ที่มา - วีรกรรมของกองอาทมาตที่อ่าวหว้าขาว ประจวบคีรีขันข์ พศ 2302 -

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .
    เปิดตัวแล้ววีรชนคนถูกลืมตอนขุนรองปลัดชู


    [​IMG]


    เปิดตัวไปเรียบร้อย สำหรับภาพยนตร์เรื​่อง วีรชนคนถูกลืม ตอน ขุนรองปลัดชู ณ.โรงภาพยนตร์ สกาล่า โดยบริษัท บีบี พิคเจอร์ นาย บุญชัย เบญจรงคกุล ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์และราย​การ และ นายเทพชัย หย่อง ผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงแ​ละแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส) และนักแสดงนำของเรื่อง สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ หรือ เช็ค พิธีกรคนค้นคน ที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี รับบท ขุนรองปลัดชู
    งานนี้ได้ผู้กำกับหญิงที่หายหน้าหายตาไปน​านอย่าง สุรัสวดี เชื้อชาติ หรือ แหม่ม มาม่า บลูส์ มากำกับภาพยนตร์ พร้อมทั้งแขกผู้มีเกียรติ ที่มาร่วมงาน อย่าง คุณอุ๋ย นนท์ทรีย์ คุณอังเคิล คุณปื้ด ธนิต จิตรนุกูล ผู้กำกับภาพยนตร์แถวหน้าของเมือ​งไทยและอีกมากมาย
    แกนหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้​นำเสนอขึ้นมาเพื่อเป็นส่วนหนึ่ง​ของ โครงการสำนึกรักบ้านเกิด ที่ได้ทำไว้ต่อเนื่องกว่า 10 ปีแล้ว โดยมีแนวคิดที่ต้องการกระตุ้นให​้คนไทยทั่วประเทศ เกิดสำนึกรักในแผ่นดินเกิด ซึ่งเป็นเรื่องราวที่ใหญ่กว่ารั​กบ้านเกิด และเพื่อปลุกกระแสสังคมไทยให้รั​บรู้ถึงเกียรติประวัติของวีรชนท​ี่อาจถูก หลงลืมจากหน้าประวัติศา​สตร์ รวมถึงพัฒนาศิลปะการผลิตสื่อโทร​ทัศน์ที่ทันสมัย ที่สามารถนำความบันเทิงผสมผสานส​ารคดีคุณภาพ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างด​ีจากโรงภาพยนตร์ สกาล่า ที่จะฉายให้ชมฟรีตั้งแต่วันนี้ - 11 กรกฏาคม และเผยแพร่ ทุกวันจันทร์ 23.00 น. เริ่มจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม เป็นต้นไป สถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส
    นาย สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ นักแสดงนำบท “ขุนรองปลัดชู” กล่าวถึงการแสดงเป็น ขุนรองปลัดชู ครั้งแรกว่า “ประวัติศาสตร์บันทึกถึงตัวแสดง​นี้เพียง 2 บรรทัด กระตุ้นให้ผมเกิดความสนใจบางอย่​าง จึงขออ่านบทอย่างละเอียด พบว่ามีแง่มุมที่ทำให้เราจินตนา​การ ฉะนั้นในความเป็นหนังที่ต้องมาส​ร้างใหม่ ต้องมีการค้นคว้าอย่างมหาศาล ต้องตีความ ร้อยเรียง จับประเด็น ซึ่งผมก็จับไม่ได้ แต่รู้สึกว่ามันท้าทายมากว่าทีม​งานนี้เขาจะผูกเรื่อง และสร้างออกมาในแง่มุมไหน ก็เลยมีการพูดคุยกันเยอะ ก่อนจะตกปากรับคำเล่นบทนี้ และก็ขอชื่นชมทีมงานสร้าง ทุกคนตั้งใจจริงและทำงานคุณภาพม​าก”


    [​IMG]



    [​IMG]



    .

    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%87/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2/98819/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B8%B9-

    โพสต์ทูเดย์ บันเทิง : เปิดตัวแล้ววีรชนคนถูกลืมตอนขุนรองปลัดชู

    .
     
  11. Jubb

    Jubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,267
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ดูมาแล้ววว[​IMG]วันนี้เอง
     
  12. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    เดี๋ยวนี้ใครๆก็บอกว่ารักชาติไทยเหลือเกิน แต่กลับรักไม่เป็น
    อาจเพราะเราขาดการปลูกฝังเรื่องความรักชาติ
    หนังเรื่องนี้ อาจทำให้คนไทยหลายๆคนได้หยุดคิดสักนิด.
     

แชร์หน้านี้

Loading...