คุณมั่นใจแค่ไหนกับการจะทำบุญโดยการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารที่โพสไว้ตามเวบต่างๆ

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย no123, 9 กุมภาพันธ์ 2006.

  1. no123

    no123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +188
    คุณมั่นใจแค่ไหนกับการจะทำบุญโดยการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารที่โพสไว้ตามเวบต่างๆ ทางอินเตอร์เนต เพื่อจะไม่ตกกลลวงของพวกมิจฉาชีพที่แอบอ้าง และบุญนั้นไม่สูญเปล่า คิดว่ามิจฉาชีพมีอยู่ทั่วไป
    (b-green)
     
  2. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ณ สังคมปัจจุบันนี้ มีทั้งกลุ่มดี และกลุ่มเลว เอาเป็นว่า เราต้องพิจารณาให้รอบคอบ ถ้าเป็นไปได้ให้โทรศัพท์ติดต่อโดยตรง อย่างโทไปหายายผีป่าถามเรื่องการสร้างบันไดนาคฯ การสนับสนุนเด็กยากจน ตรวจสอบประวัติยายผีป่ากับทางตำรวจ หรือชาวบ้านชาวช่องว่ายายผีป่าเป็นคนเช่นไร ทำไมถึงเข้ามาชักชวนทำนั่นทำนี่ เดินทางไปสถานที่ๆ บอกบุญ

    เพียงเราอยากทำบุญ ทำทาน อานิสสงค์นี่ก็เกิดแล้ว แต่รับรองว่ายายผีป่าเองก็เกลียดนะ การให้แบบเสียรู้คนที่มันไม่เกรงกลัวบาป ประเภทเอาชาตินี้ไม่อด มันไม่สนชาติหน้าหรอก จริงมั้ย

    บางคนไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกลวง อย่างสมมุตินะคะ ยายผีป่าหาทุนสนับสนุนสถานที่แห่งหนึ่งด้วยเจตนาดี ไม่เอาเงินดอนเข้าบัญชีของตัวเอง ไม่เข้าปยุ่งเกี่ยวกับกิจการนั้นๆ ปล่อยให้คณะกรรมการนั้นๆจัดการกันไป และแล้ว ยายผีป่าเหมือนคนโง่ คือเอากล้วยเข้าปากช้าง สวาปามกันในกลุ่มของเขา เราคือลาดง่ ไม่มีการบอกที่มาที่ไปว่าเงินส่วนนี้ได้มาจากใคร อย่างไร เพื่ออะไร เอาผลงานเข้ากลุ่มตน พวกนี้สุขได้ไม่นาน ก่อนตายมันทรมานมาก ตายไปยิ่งทรมาน ถ้ามันตายดี ไม่ทุกข์ก่อนตาย แสดงว่าบารมีเก่าพวกเขาหนุนมามาก แต่มันจะทับถมตอนหลัง

    บางคนไม่ตั้งใจมาลวง แต่พอได้เห็นเงินก้อนดต ได้มาง่าย พวกนี้จะแปรเปลี่ยนจากนักบุญเป็นมารได้แบบแยบยล อันนี้ยายผีป่ากลัวมาก กลัวว่าถ้าสักวันหนึ่งมีคนศรัทธายายผีป่ามากๆ วันนั้นจะเป็นมารในคราบนักบุญกับเขาอีกคนไหม นี่คือที่มาที่ยายผีป่าไม่ขอให้โอนเงินเข้าบัญชีของยายผีป่า ยกเว้นจะส่งให้ยายผีป่าใช้ตามต้องการของยายเอง

    มารในคราบนักบุญ นี่มันมาหลากหลายเชียว

    เราต้องใช้สติ และพิจารณาก่อน การระแวง ดีกว่าการไม่ตริตรอง แต่อย่าระแวงจนไม่สนับสนุนงานใดๆเลย อย่าตั้งจิตเป็นอคติให้มากนัก แต่อย่าหน้ามืดทำบุญ ทำทานอย่างไร้สติ

    การช่วยเหลือเจือจุนกัน เป็นอานิสสงค์ที่ดีแล
     
  3. anko

    anko เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +8,252
    เหมือนกันกับคุณkhomerayaค่ะ อยากทำก็ทำ ทำแล้วสบายใจก็ทำ ถ้าคนคนนั้นเค้าหลอก บาปกรรมก็ตกอยู่ที่เค้า ส่วนเราทำด้วยความตั้งใจดี ถ้ากลัวหรือกังวลตั้งแต่แรกก็ไม่ทำค่ะ
     
  4. thank you

    thank you เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    227
    ค่าพลัง:
    +1,747
    เป็นประเด็นที่น่าสนใจมากคะสำหรับคุณที่ตั้งคำถามนี้ขึ้นมา
    แต่ดิฉันไม่ขอตอบอีกเพราะเห็นด้วยกับคำตอบของเพื่อยสมาชิกที่ให้ไว้
    อีกอย่างถ้าเป็นดิฉันคงจะบอกบุญโดยให้ชื่อที่อยู่เจ้าภาพไปเลยดีกว่าค่ะตัดปัญหาความไม่สบายใจของทั้งผู้ให้และผู้บอก ขอฝากไว้นิดค่ะขอให้ช่วยเข้าไปดูที่หัวข้อมาช่วยสงฆ์อาพาธกันเถอะค่ะ กันหน่อยนะคะหายห่วงได้ไม่ต้องกลัวโดนหลอกดิฉันและคุณแม่บริจาคให้เป็นปีที่สองแล้วเพราะพี่ชายที่มุ่งมั่นจะหาทางหลุดพ้นโดยออกธุดงมาบอก (ไม่ใช่ตัวเป็นๆที่มาบอกแต่เป็น....)ถ้าว่างๆจะเล่าให้ฟังค่ะ
     
  5. Kenichi

    Kenichi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +1,644
    คุณ ชินบัญชร คับ
    1.พระพุทธเจ้าได้กล่าวกับ อานันทปิณฑิกะเศรษฐี พ่อตาของนางวิสาขา ว่า
    -- สิ่งที่บุคคลทำด้วยกาย วาจา ใจ ในการให้ สิ่งนี้เรียกว่าบุญ ซึ่งเป็น
     
  6. Kenichi

    Kenichi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +1,644
    สุขที่จะติดตามบุคคลนั้นไปยังสัมปรายภพ
    //ผู้ฉลาด/// ย่อมสั่งสมกัลยาณกรรม ย่อมให้ทานแก่บุคคลที่เป็นที่พึ่ง

    โลกเต็มไปด้วยไฟ่ไหม้ร้นอยู่เสมอ ฉันใด เมื่อบุคคล ถูก ความแก่ ความตาย
    เข้ามาเยือน บุคคลผู้ฉลาดย่อมนำทรัพย์ออกด้วยการให้ทาน ซึ่งบุคคลนั้น ย่อมถือได้ว่าเป็นผู้ นำออกดีแล้ว มีความสุขที่เป็นผล

    ส่วน //ผู้ไม่ฉลาด// มัวแต่กังวลไม่นำทรัพย์นั้นออกด้วยการให้ทานความตายอาจมาเยือนเสียบ้าง โจรอาจจะขโมยบ้าง ไฟอาจจะไหม้ทรัพย์นั้นเสียบ้าง...

    --ความตระหนี่ของคน---เป็นความโง่เขลา เหมือนชาวนา//ผู้ไม่ฉลาด// ไม่ยอมหว่านพันธุ์ข้าวลงในนา มัวแต่คอยเก็บไว้จนเสียปลูกไม่ได้
    ข้าวเปลือก 1 เม็ด ให้ผลอุดมสมบูรณืเช่นไร นี่บุคคลทำนั้นย่อมให้ผลไพศาล
    ส่วน//ผู้ไม่ฉลาด// เปรียบเสมือนมีเครืองประดับอันงดงานวิจิตรตระการตา แต่ก็มิได้สวมใส่เครื่องประดับนั้น อีกทั้งรังแต่จะทำให้หนักใจในการเก็บรักษาเสียเปล่าๆ.....

    ++ผู้มีปัญญา++ เมื่อได้บริโภคใช้สอยตามสมควร เป็นผู้ไม่ถูกติเตียน ย่อมเข้าสู่ฐานะอันประเสริฐ เพราะบุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งโลกนี้และโลกหน้า

    บุคคลควรสงเคราะห์ผู้ควรสงเคราะห์ ย่อมบำรุง มารดา บิดา บ่าวไพร่ สมณะ เปรียบเสมือนสระโบกขรณี ที่สาธุชนได้ดื่ม อาบ บริโภคใช้สอยตามต้องการ
    อย่าทำตนเป็นเหมือน //ผู้ตระหนี่//ที่ไม่ยอมให้ทรัพย์ของตนนั้นเอื้อประโยชน์กับใคร เหมือนสระโบกขรณี่มหาชนได้ดื่มกินอาบไม่....

    บุญสำเร็จได้ด้วยใจนะครับ บุญคือ ความสุขใจ
    ผมยอมรับว่าโลกนี้มีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่เรารู้ไม่ได้ทั้งหมดว่าใครดีหรือไม่ดี
    บางคนเหมือนจะดีมาก กลับไม่ดี
    แต่บางคนเหมือนไม่ดีเลย แท้จริงกลับดี

    การให้ทานนั้น ก่อนให้เมื่อบุคคลแม้มีทรัพย์ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ แต่มีใจอันขุ่นมัวไม่ผ่องแผ้วก่อนให้ แม้ทรัพย์นั้นจะมากมายมหาศาลเพียงใด กุศลที่ได้รับแม้เพียงแค่ความสุขใจย่อมจะมองแทบไม่เห็น

    เบื้องปลายของ ทานบารมี คือ การสละทรัพย์ที่บุคคลมีให้เป็นประโยชน์ต่อมหาชนและเพื่อกำจัดความโลภความตระหนี่ในใจของตนให้ไม่ยึดติดในวัตถุสิ่งของต่างๆ เพราะท้ายที่สุด รวยก็ไปสู่ตาย จนก็ไปสู่ตาย

    หากเรายังคิดหวังว่า บุญที่เราทำนั้นไปตกในมือคนชั่ว บุญเราจะได้ประโยชน์อันใด แค่นี้มองกลับไปจุดเริ่มต้น ไม่ต้องไปมองที่คนชั่วหรอกครับ
    ดูใจของตนก่อนว่า สละความโลภ ความตระหนี่ และพร้อมี่มีจิตเมตตาคิดจะให้โดยที่ไม่หวังผลอะไรเป็นการตอบแทนหรือยัง.......
     

แชร์หน้านี้

Loading...