จริงๆ ค่ะ หมาที่บ้านบรรลุพระนิพพานไป 2 ตัวแล้ว

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย มุกไพฑูรย์, 17 มิถุนายน 2006.

  1. มุกไพฑูรย์

    มุกไพฑูรย์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    พุทธทาส:-สัตว์ป่าจับมาจากในป่า เช่น ป่า ช้างป่า อะไรป่านี่ มันดุร้ายเหลือประมาณ อันตรายเหลือประมาณ; เขาเอามาเข้าคอกเข้าที่ บังคับฝึกหัดไปจนสัตว์เหล่านั้นเชื่องเหมือนกับแมว จนช้างป่านั้นเชื่องเหมือนกับแมว ทำอะไรก็ได้; อย่างนี้ก็เรียกว่า มันนิพพาน

    แหล่งอ้างอิง:-พุทธทาสคอม​
     
  2. จรัล

    จรัล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +405
    พุทธทาสท่านมักกล่าวเป็นปริศนาธรรมนะครับ อ่านแล้วต้องตีความ ใช้ปัญญาพิจารณากันนิดหน่อย
     
  3. โอซารัน

    โอซารัน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    873
    ค่าพลัง:
    +91
    หมายถึง ขัดเกลานิสัยของเราใช่ป่าว
     
  4. เวฬุวัล

    เวฬุวัล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,843
    ค่าพลัง:
    +505
    คำสอนของท่านพุทธทาสเป็นคำสอนที่ลึกซึ้งนะคะ บางครั้งการตีความของเราอาจผิดจากที่ท่านต้องการสอนก็ได้นะคะ
     
  5. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    สาธุ...ชี้แจงได้ดีแล้ว ชอบแล้ว....จริงๆต่อจากนี้มีอีกหลายประโยคนะครับ แต่คนเขามักยกมาเฉพาะบางจุด ซึ่งคนที่ขาดการพิจารณาจะไม่เข้าใจความหมายที่ท่านกำลังสอน....เลยพาลปรามาสท่านเอา....
     
  6. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    อย่างนี้นี่ท่าจะเข้าใจผิด.....

    ควรจะบอกว่ามันนิพพานจะดีกว่า....เพราะอะไรรู้ไหม มันต่างกันที่... "พระ" ครับ.....

    ท่าบรรลุพระนิพพานนี่ แสดงว่าเป็นพระแล้ว คือเข้าข่ายตั้งแต่โสดาบันเป็นต้นไป....

    เห็นไหมล่ะครับว่าท่านกล่าวไว้ลึกกว่าที่เราจะเข้าใจเสียอีก ลองอ่านๆธรรมมะของท่านดูนะ หากมีปัญญานี่จะเห็นว่าท่านพูดได้ลึก 3 ระดับในเรื่องในประโยคเดียวกันทีเดียว....
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ถ้าเริ่มคิดมิดีมิร้ายกับผู้อื่นเมื่อใด

    โปรดระลึกว่า เราเริ่มทำร้ายตัวเองอีกแล้ว

    จิตเจ้ากรรม ขยันสร้างกรรม ใจก็ขยันทำกรรม

    (rose) (rose) (rose) (rose) (rose) (rose) (rose) (rose) (rose) (rose) (rose) (rose) (rose)
     
  8. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ตำรา หรือ หนังสือ บางเล่ม ไม่ควรใช้มาเป็นหลักปฎิบัตินะครับ
    เนื่องจากเป็นตัวอักษร ( ข้อจำกัดทางภาษา ) จึงถ่ายทอด
    ความหมายมาไม่บริบูรณ์

    อีกอย่างหนึ่ง คือ ผู้แต่ง ผู้เรียบเรียง บางครั้งก็ถ่ายทอดมาจาก
    อารมณ์ ความรู้สึก หรือ ใช้ความคิดตีความหมายเอา ซึ่งมักจะ
    มาจากการปรุงแต่งจาก โมหะ โลภะ โทสะ อีกทีหนึ่ง...

    เลือกดี ๆ นะครับ ยุคนี้ข่าวสาร ข้อมูลแพร่กระจายรวดเร็ว
    ข้อดีคือง่ายต่อการค้นคว้า หาความรู้ แต่ข้อเสียก็มีนะครับ

    ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขึ้นกับ โมหะ โลภะ โทสะ ที่เราใช้ในการพิจารณาด้วย^-^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2008
  9. boontar

    boontar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,717
    ค่าพลัง:
    +5,514
    จากอรรถกถา ภิกขุวรรค ภัททาลิสูตร
    ฯลฯ
    บทว่า อาชานียสุสูปมํ ธมฺมปริยายํ เทเสสึ คือ เราแสดงธรรมปริยายเปรียบด้วยอาชาไนยหนุ่ม.
    บทว่า ตตฺถ คือ ในการระลึกไม่ได้นั้น.
    บทว่า น โข ภทฺทาลิ เอเสว เหตุ คือ ความเป็นผู้ไม่ทำให้บริบูรณ์ในสิกขานี้ จะเป็นเหตุหามิได้.
    บทว่า มุขาธาเน การณํ กาเรติ ฝึกให้รู้เหตุในการใส่บังเหียน คือฝึกให้รู้เหตุ เพื่อยกคอให้ดีในการใส่บังเหียนเป็นต้นที่ปาก.
    ด้วยบทมีอาทิว่า วิสูกายิกานิ ประพฤติเป็นข้าศึก พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงความประพฤติพยศ. บทนี้ทั้งหมดเป็นไวพจน์ของกันและกัน.
    บทว่า ตสฺมึ ฐาเน ในฐานะนั้น คือในการประพฤติพยศนั้น.
    บทว่า ปรินิพฺพายติ สงบ คือหมดพยศ. อธิบายว่า ละความพยศนั้นได้.
    บทว่า ยุคาธาเน ในการเทียมแอก คือในการวางแอกเพื่อประคองแอกให้ดี.
    ฯลฯ
    *************************************************
    ผมยกพระสูตรนี้มา เพราะเห็นว่าพระพุทธเจ้าทรงอุปมาม้าที่ฝึกแล้วว่า
    ปรินิพฺพายติ ก็ทำนอง "ม้านิพพาน"
    และเชื่อว่า ท่านพุทธทาส กล่าวอุปมา ทำนองเดียวกับพระพุทธเจ้าครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2008
  10. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ขึ้นชื่อว่าธรรมะ ล้วนเป็นของดีหมดจต
    การน้อมนำโดยขาดโยนิโสมนัสสิการ
    ตีความโดยมีทิฎฐิมานะเป็นที่ตั้ง
    นอกจากจะเป็นการปิดตาตัวเองแล้ว
    การยึดย้ำๆด้วยหวัง ให้ร้าย เสพสะใจ
    กลับเป็นการทิ่งแทงผู้นั้น ให้ร้อนไหม้ทุกครั้งที่คิดหวล
    ผลกาลภาพหน้า เป็นไปตามกรรม
     
  11. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    แล้วเมื่อไหร่คนจะบรรลุครับ หุหุ

    อ่านอะไรมาให้ใช้ปัญญากรองเยอะๆนะครับ สัตว์เดรัชฉานคงบรรลุนิพานยากครับ เพราะยังมีสัญชาตญาณของสัตว์อยู่ แถมไม่มีโอกาสเรียนรู้ธรรมอีก คงต้องรอเกิดเป็นคนก่อนนะน้องหมา หุหุ
     
  12. กรุงเก่า

    กรุงเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +335
    แล้วเจ้าของกระทู้กราบมันไปกี่หนแล้วล่ะในฐานะที่มันเก่งกว่าคุณที่สามารถบรรลุพระนิพพานตามความเข้าใจของคุณได้น่ะ แล้วรู้ได้ยังไงว่ามันบรรลุพระนิพพานแล้วล่ะครับ
     
  13. Aqua-ma-rine

    Aqua-ma-rine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    820
    ค่าพลัง:
    +1,242
    เรื่อง ประตูสองบาน


    ประตูมีหลายแบบ ความทุกข์และปัญหาก็มีหลายแบบเช่นกัน

    บางครั้งเราใช้ชีวิตแบบดึง ทั้งที่ประตูบอกว่าผลัก

    และใช้ชีวิตแบบผลัก ทั้งที่ประตูบอกให้เลื่อน

    ประตูเปิดไม่ออก ปัญหาผลักไม่ออก

    ไม่ใช่เป็นเพราะปัญหาแก้ไม่ได้ หรือประตูเปิดไม่ได้

    หากแต่เป็นที่ตัวเราไม่เคยใช้ 'ความคิด' เพื่อค้นหาวิธีการเปิดประตูอย่างถูกต้องเลย




    [​IMG]




    [​IMG]




    [​IMG]




    [​IMG]




    [​IMG]




    [​IMG]





    [​IMG][​IMG]


    ธรรมะ 4 ข้อ โดยท่าน ว.วชิรเมธี



    1. อย่าเป็นนักจับผิด


    คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่า หลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง 'กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก'
    คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส 'จิตประภัสสร' ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี 'แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข'


    2. อย่ามัวแต่คิดริษยา

    'แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน'
    คนเราต้องมีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
    คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า 'เจ้ากรรมนายเวร' ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น เราต้องถอดถอน
    ความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น 'ไฟสุมขอน' (ไฟเย็น) เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อน
    เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเราโดยใช้วิธี 'แผ่เมตตา' หรือ ซื้อโคมมา แล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป


    3. อย่าเสียเวลากับความหลัง

    90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ 'ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น'
    มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขาพร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย
    ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ 'อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีต มากรีดปัจจุบัน'
    'อยู่กับปัจจุบันให้เป็น' ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี 'สติ' กำกับตลอดเวลา


    4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ

    'ตัณหา' ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ ธรรมชาติของตัณหา คือ 'ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม'
    ทุกอย่างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่ คุณค่าเทียม เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกา คืออะไร คือ ไว้ดูเวลาไม่ใช่มีไว้ใส่เพื่อความโก้หรู
    คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือ คืออะไร คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์

    เราต้องถามตัวเองว่า 'เิกิดมาทำไม' 'คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน 'ตามหา 'แก่น' ของชีวิตให้เจอ



    ' คำว่า 'พอดี' คือ ถ้า 'พอ' แล้วจะ 'ดี' รู้จัก 'พอ' จะมีชีวิตอย่างมีความสุข'


    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2008
  14. หล่อลากดิน

    หล่อลากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,202
    ค่าพลัง:
    +235
    ฮาบ่เฮ้ย ฮาอย่างแรง .... ฮ่าๆๆๆๆ กร๊ากก อารมณ์ดี

    ไปกราบหมาของคุณงามๆ เลยนะจ๊ะคุณเจ้าของกระทู้

    แล้วอย่าเลี้ยงทิ้งเลี้ยงขว้าง เลี้ยงอดๆอยากๆ อีกนะท่าน

    โบร๊วววววว
    :boo:
     
  15. สัทธาธิกะ

    สัทธาธิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +373
    ไม่ใช่นะครับ นิพพานไม่ได้หมายความว่าทำให้สัตว์เชื่องนะครับ
    ถ้าง่ายขนาดนั้น ก็ไปนิพพานกันหมดแล้วครับ
    สัตว์เดรัจฉานไม่มีทางไปนิพพานได้ด้วยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กรกฎาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...