ตอบข้อค้างใจของ Doji คนชอบมาว่า WebSnow ตามกระทู้ต่างๆ

ตอบเลยครับคุณ WebSnow เอาใจช่วย

 

ดูก่อนครับ

การหวั่นไหวกับธรรมใดที่เข้ามากระทบ ย่อมสะเทือนไปถึงใจของเจ้าของ ฉันใดฉันนั้น เหมือนดั่งลมพายุพัดกระทบกับวัตถุธาตุ 4 ควรพึงที่จะกำหนดรู้สภาวะของธรรมนั้นว่าควรแก่การน้อมใจเพื่อปรุงแต่งจิตหรือไม่ หากปรุงแต่งจิตแล้วไม่เกิดประโยชน์ย่อมควรที่จะวางเฉยต่อธรรมนั้น หากเกิดประโยชน์ควรที่น้อมใจเพื่อปรุงแต่ง เพื่อกุศลธรรมที่จะบังเกิดแก่ใจผู้เจ้าของ

 

ผมว่าถ้าคุณเว็บสโนว์ทำได้ก็อธิบายเขาเสียหน่อยเท่านั้นเองครับ ตอบแบบไม่ต้องมาด่าว่ากัน คุณเว็บสโนว์ถูกดิสเครดิตในความสามารถด้านที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ถ้าไม่ตอบ ไม่อธิบาย เลยคนอ่านทั่วไปอาจจะสงสัย ไม่แน่ใจ คิดว่ามโนมยิทธิเป็นเรื่องไม่จริงหรือหลอกลวงได้

 

อืมก็ดีเหมือนกันครับ

อยากรู้เหมือนกันครับว่าคุณเว็บสโนว์ทำอะไร ยังไง แบบไหน จะได้เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มาอ่านกระทู้

 

////

เอาไงดีป๋า น่ากลัวจังเลย

 

ผมว่าเฉยเสียดีกว่าครับ
เขามีอาจารย์เขา ก็ปล่อยให้เขาฝึกไปทางนั้นดีกว่าครับ
เพราะเจตนาเขาก็น่าจะดี อยากให้คนนิพพานเหมือนกัน

เรื่องมโนมยิทธิก็เช่นกัน
ในยุคนี้สมัยนี้ เป็นวิชาที่เฉพาะลูกหลานหลวงพ่อที่เคยทำได้มาแล้วในอดีตชาติ จึงจะฝึกได้ครับ

ผมจะเอาคำสอนของหลวงพี่สมปองขึ้นเว็บ
ท่านยังบอกให้เอาเฉพาะที่เป็นคำสอนธรรมะกลางๆขึ้นเลยครรับ
อันไหนที่เป็นวิธีฝึกมโนมยิทธิลึกๆ ท่านบอกว่าให้เลี่ยงซะ
เพราะคนที่เขาไม่รู้จักหรือเป็นสายอื่น เขาอาจจะไม่เข้าใจและปรามาสซะ ทำให้เขาบาปไปเปล่าๆ

เถียงกับใครสักคนไม่มีวันจบวันสิ้นครับ
หากยังไม่ได้เป็นพระอรหันต์เพียงใดแล้ว ทุกวิ__าณยังมีอวิชชา คือความรู้ไม่หมดอยู่ดีนั่นเอง

อย่างผมเอง ถ้ามีสติระลึกได้ ก็พยายามดึงจิตกลับเข้ามา ดูตัวเอง
จิตคนอื่น ก็ปล่อยเจ้าของเขาดูเองดีกว่าครับ

 

ถ้าคุณหนักใจ ครั้งนี้ก็ปล่อยเขาไปเถอะ ครั้งหน้าถ้ามีอีกคุณเว็บสโนว์คงต้องอธิบายกันหน่อยแล้วล่ะครับ

 

ไม่มีใครหนีความจริงพ้นหรอก...ทำอะไรอยู่ฟ้ารู้...ดินรู้

 

อย่าคิดมากเขาก็เป็นแบบนี้แหละบอกว่าไม่คุยไม่อวด แต่ว่าคนอื่นหมดของตัวเองดีอยู่คนเดียว ใครพอมีชื่อขึ้นมาก็ต้องไปว่าเขาไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ ขนาดอาจารย์ตัวเองยังเอามาว่าใน Webได้ อย่าไปยุ่งกับแกเลยเสียเวลา ปฏิบัติของเราไปดีกว่า

 

ยึดมั่นในจุดยืนของตนเองต่อไป อย่าไปสนใจ เป็นเพียงแค่ลมที่พัดมากระทบกาย กระทบใจให้รู้เย็น รู้หนาวบ้างเท่านั้นเอง ไม่ต้องไปคิด และใส่ใจ มั่นใจว่าหลาย ๆ คนใน website นี้เข้าใจและจะคอยเป็นผ้าห่มคลุมกันลม กันหนาวของอากาศที่แปรปรวนให้หวั่นไหวไปบ้าง ให้ Websnow มีความอบอุ่นต้านแรงลม ได้เป็นอย่างดีตลอดไป

 

ตามความเห็นถ้าตอบผิดพลาดในเชิงที่เขาเตรียมไว้ เราอาจเสียเปรียบ ขอให้คุณเว็ปสโนว์ รักษาจุดยืน เฉยได้ก็เฉย ดูจากวาจาที่ฝ่ายโน้นกล่าว เราตอบไปก็ไม่เกิดประโยชน์ พาลแต่จะทำให้หลงกล ที่เขาวางไว้ก็อาจเป็นได้ครับ

 

สมัยเมื่อพระพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ ณ บุพพารามปราสาท ที่นางวิสาขาสร้างถวาย ครั้นถึงวันอุโบสถ พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่ในท่ามกลางสงฆ์เพื่อทำอุโบสถกรรม เมื่อปฐมยามแห่งราตรีสิ้นไปแล้ว พระอานนท์ลุก ขึ้นจากอาสนะ กระทำจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ประนมอั_ชลีไปทางที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ กราบทูลว่า
"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริ_ ราตรีล่วงไปแล้ว ปฐมยามสิ้นไปแล้ว ภิกษุสงฆ์นั่งอยู่นานแล้ว ขอพระผู้มีพระภาค เจ้าทรงแสดงปาติโมกข์แก่ภิกษุทั้งหลายเถิด"

พระพุทธองค์ทรงรับฟังแล้วทรงนิ่งอยู่ ครั้นราตรี ล่วงมัชฌิมยาม พระอานนท์ก็กราบทูลเชิ_อีกครั้งหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงนิ่งอยู่ จนราตรีล่วงปัจฉิมยาม อรุณขึ้นแล้ว จวนสว่างแล้ว พระอานนท์จึงกราบทูลเชิ_เป็น ครั้งที่ ๓ พระพุทธองค์ตรัสว่า

"ดูกรอานนท์ บริษัทยังไม่บริสุทธิ์"

พระมหาโมคคัลลานะเมื่อสดับพุทธดำรัสดังนั้น จึงดำริว่าทรงหมายถึงใครหนอ? แล้วท่านกำหนดดูใจของภิกษุสงฆ์ที่มาประชุมอยู่ ณ ที่นั้นด้วยฤทธิ์ของท่าน ท่านพิจารณาเห็นบุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก มีความประพฤติไม่สะอาด น่ารังเกียจ มีการงานปกปิด ไม่เป็น สมณะ แต่ปฏิ_าณว่าเป็นสมณะ ไม่เป็นพรหมจารี แต่ปฏิ_าณว่าเป็นพรหมจารี ผู้เน่าใน ผู้อันราคะรั่วรดแล้ว ผู้เป็นดุจหยากเยื่อ นั่งอยู่ในท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ท่านลุก จากอาสนะเข้าไปหาบุคคลนั้น แล้วกล่าวว่า

"จงลุกขึ้นเถิดผู้มีอายุ พระผู้มีพระภาคทรงเห็นท่าน แล้ว ท่านไม่มีธรรมเป็นเครื่องอยู่ร่วมกับภิกษุทั้งหลาย"

บุคคลนั้นก็ยังนิ่งอยู่ พระมหาโมคคัลลานะได้กล่าว กับเขาอีก ๒ ครั้ง ซึ่งเขาก็นิ่งอยู่ ที่สุดพระมหาโมคคัลลานะจึงจับแขนเขา แล้วฉุดออกไปที่ประชุมสงฆ์ ส่งออก ไปจากบุพพาราม พร้อมปิดประตูอารามไว้ แล้วท่านกลับมายังที่ประชุมสงฆ์ กราบทูลว่า

"ข้าแต่พระองค์ผู้เจริ_ ข้าพระองค์ให้บุคคลนั้นออก ไปแล้ว บริษัทบริสุทธิ์แล้ว ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดง ปาติโมกข์แก่ภิกษุทั้งหลายเถิด"

พระพุทธองค์ตรัสตอบว่า "ดูกรโมคคัลลานะ น่าอัศจรรย์ ไม่เคยมีมาแล้ว โมฆบุรุษนี้อยู่จนกระทั่งต้องจับแขนฉุดออกไป.. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ตั้งแต่บัดนี้ไป เรา จักไม่กระทำอุโบสถ แสดงปาติโมกข์ การที่ตถาคตจะพึง กระทำอุโบสถแสดงปาติโมกข์ ในเมื่อบริษัทไม่บริสุทธิ์นั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส" แล้วทรงแสดงปาติโมกข์ครั้งสุด ท้ายต่อไป
----------------

จากข้อความข้างต้นว่า.......

พระมหาโมคคัลลานะเมื่อสดับพุทธดำรัสดังนั้น จึงดำริว่าทรงหมายถึงใครหนอ? แล้วท่านกำหนดดูใจของภิกษุสงฆ์ที่มาประชุมอยู่ ณ ที่นั้นด้วยฤทธิ์ของท่าน ท่านพิจารณาเห็นบุคคลผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก มีความประพฤติไม่สะอาด น่ารังเกียจ มีการงานปกปิด ไม่เป็น สมณะ แต่ปฏิ_าณว่าเป็นสมณะ ไม่เป็นพรหมจารี แต่ปฏิ_าณว่าเป็นพรหมจารี

........
หวังว่าคนในเว็บนี้คงรู้แก่ใจตัวเอง จะได้กลับตัวได้ทัน

 

ถ้าเราทำแต่ในสิ่งดีๆ ก็อย่าได้ไปหวั่นไหวหรือสนใจกับเรื่องอื่นๆที่ไม่เป็นเรื่องเลยครับ รกสมองเปล่าๆ(y)