ทุกคนสามารถตั้งความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าได้

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Kamen rider, 5 ตุลาคม 2004.

  1. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    *** ภาพมันสวยดีครับ เลยเอาลง อิ อิ อิ

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของพวกเราในชาติก่อนๆ ก็ได้เคยเกิดมาเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับพวกเราทุกคน



    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมศาสดาของเราก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ก็ทรงเป็นมนุษย์ธรรมดาเช่นเดียวกับพวกเรา แต่เป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีหัวใจไม่ธรรมดา
    ก่อนที่พระองค์จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ได้ทรงสั่งสมบุ_บารมีมานับภพนับชาติไม่ถ้วน โดยมีความปรารถนา จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่วแน่ ได้ผ่านชีวิตมาทุกระดับแล้ว ได้พยายามทดลอง อยู่หลายๆ วิธี เพื่อค้นหาทางพ้นทุกข์

    พระองค์มุ่งสร้างบารมี ทำแต่ความดี เมื่อละโลกไป ก็ได้ไปพักอยู่ที่สุคติโลกสวรรค์ แต่ก็มีเหมือนกันที่บางครั้งอกุศลเข้าสิงจิต ทำให้พระองค์พลาดพลั้งกระทำความผิด ทำให้ต้องวนเวียนอยู่ในทุคติเป็นเวลายาวนาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2004
  2. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    [​IMG]
    ก่อนที่พระองค์จะได้เป็นพระพุทธเจ้า ได้สร้าง
    บุ_ สร้างบารมีมานับภพนับชาติไม่ถ้วน
    เพื่อปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้า




    [​IMG]
    พระองค์ได้ลองผิดลองถูก เพื่อค้นหาหนทางพ้นทุกข์


    [​IMG]
    พระองค์มุ่งสร้างบารมี ทำแต่ความดี
    เมื่อละโลกไปก็ได้ไปพักอยู่ที่สุคติ


    [​IMG]
    แต่ในบางครั้งที่พระองค์พลาดพลั้งทำบาปอกุศลบ้าง
    จึงวนเวียนอยู่ในทุคติเป็นเวลายาวนาน



    บุคคลใดที่ตั้งความปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตนั้น แสดงว่าบุคคลนั้นจะต้องมีความรู้เรื่องราวความเป็นจริงของโลก และชีวิตในระดับหนึ่ง รู้ว่าโลกที่เราอยู่นี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไป นับครั้งไม่ถ้วน แม้กระทั่งสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ เทวดา พรหม อรูปพรหม ตลอดจนสัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์นรกต่างก็ต้องวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารนี้มายาวนาน ถ้าชาติไหน สัตวโลกเหล่านั้นทำความดี ก็จะไปเกิดใน สุคติ คือ เกิดเป็นมนุษย์ เทวดา พรหม อรูปพรหม ตามกำลังแห่งบุ_ที่ตัวได้กระทำเอาไว้ แต่ถ้าชาติไหนเกิดพลาดพลั้งทำบาปอกุศลเข้า ก็จะต้องไปเกิดในทุคติ เป็นสัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์นรก
     
  3. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    [​IMG]
    ดังนั้น บุคคลที่ตั้งความปรารถนา
    มาเป็นพระพุทธเจ้านั้น จะต้องมีความรู้ ในความเป็นจริงของโลก และชีวิตในระดับหนึ่ง



    [​IMG]
    รู้ว่า โลกที่เราอยู่นี้ มีวันแตกดับไป
    แล้วเกิดขึ้นใหม่ พร้อมกับตั้งอยู่
    และในที่สุดก็มีวันเสื่อมสลายไป
    นับจำนวนครั้งไม่ถ้วน



    [​IMG]
    แม้กระทั่งสรรพสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์
    เทวดา พรหม อรูปพรหม ตลอดจนสัตว์เดรัจฉาน
    เปรต อสุรกาย สัตว์นรก
    ต่างต้องวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารนี้



    [​IMG]
    ถ้าชาติไหนสัตวโลกเหล่านั้นทำความดี
    ก็จะไปเกิดในสุคติ เป็นมนุษย์ เทวดา พรหม
    อรูปพรหม ตามกำลังแห่งบุ_


    จะเห็นได้ว่า ในสังสารวัฏมีแค่บุ_กับบาปเท่านั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ารวยหรือจน ซึ่งเราจะต้องเลือกเอาว่าเราจะอยู่ตรงไหน จะทำ บุ_หรือว่าจะทำบาป เพราะเราต้องเวียนว่ายตายเกิดอย่างนี้ไปนับภพนับชาติไม่ถ้วน และบาปบุ_นั้นไม่มีเว้นใคร ไม่ว่าบุคคลนั้นจะตั้งความปรารถนาอันใดไว้ เพราะฉะนั้นเราไม่ควร ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความประมาท แม้แต่ผู้มีบารมีที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตก็ยังพลาดพลั้งได้

    ในขณะที่สรรพสัตว์ทั้งหลายยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่นั้น ไม่พ้นที่จะต้องประสบ กับความทุกข์ ไม่ว่าจะเกิดเป็นใครก็แล้วแต่ล้วนประสบทุกข์ทั้งสิ้น เศรษฐีก็ทุกข์แบบเศรษฐี ยาจกก็ทุกข์แบบยาจก ชนชั้นกลางก็ทุกข์แบบชนชั้นกลาง
     
  4. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    [​IMG][​IMG][​IMG]

    แต่ถ้าบางชาติพลาดพลั้งทำบาปอกุศลเข้า
    ก็ต้องไปเกิดในทุคติ
    จะต้องวนเวียนตายเกิด
    อยู่อย่างนี้นับภพนับชาติไม่ถ้วน ความพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก
    ความผิดหวัง ไม่ได้ตั้งใจ

    ความทุกข์ มี ๒ ประการ

    ประการแรก คือ ทุกข์ประจำ เป็นความทุกข์ที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายที่เกิดมา คือ ความแก่ ความตาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ หลีกเลี่ยงไม่ได้

    ประการที่สอง คือ ทุกข์จร เป็นทุกข์ที่เกิดจากความไม่สบายกาย เจ็บไข้ได้ป่วย ความร่ำไรรำพัน ความน้อยใจ คับแค้นใจ ประสบกับสิ่งที่เกลียดชังบ้าง พลัดพรากจากสิ่งที่รักบ้าง ไม่สมหวังดังใจบ้าง ซึ่งความทุกข์จรเหล่านี้จะมีมากน้อยขึ้นอยู่กับวิบากกรรมของแต่ละบุคคล

    ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่าการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไปของโลก รวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทุกชีวิตต่างล้วนต้องประสบความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ เกิดขึ้นเป็นธรรมชาติของโลกใบนี้และเป็นธรรมชาติของทุกๆ ชีวิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2004
  5. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG]

    เมื่อประสบเหตุการณ์สะดุดใจ
    บุคคลผู้นั้นจึงพลันคิดได้ว่า
    "วัฏจักร คือ ทะเลแห่งทุกข์" เป็นคุกใบให_่ที่ขังสรรพสัตว์
    ทั้งหลายให้ทนทรมานอย่าง
    แสนสาหัส วนเวียนอยู่ใน
    วัฏสงสารแห่งนี้ ยากที่จะพ้นจาก
    วัฏสงสารแห่งนี้ไปได้ บุคคลผู้นั้นถือว่าเป็นอุดมบุรุษ
    ที่มองเห็นทุกข์ภัยในวัฏสงสาร
    ท่านจึงได้คิดว่า วันหนึ่งเราจักทำลายวัฏสงสารนี้
    ออกไปให้ได้ จะออกไปให้พ้น
    จากทะเลทุกข์ทรมานแห่งนี้


    เมื่อสรรพสัตว์ทั้งหลายต่างต้องเวียนว่าย ตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารนานเข้า สัตว์ผู้สั่งสมปั__ามามากก็จะเกิดการสังเกต จะมีการพัฒนาตนเองขึ้นไปตามลำดับ จะมีสติปั__ามากขึ้นจนกระทั่งถึงในระดับหนึ่ง เมื่อประสบ เหตุการณ์ที่สะดุดใจ บุคคลผู้นั้นก็จะพลันคิดได้ว่า วัฏสงสารนี้ก็คือทะเลแห่งกองทุกข์ อุปมาเหมือนคุกใบให_่ที่ขังสรรพสัตว์ทั้งหลายเอาไว้ให้ทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส บังคับให้ต้องวนเวียนอยู่ในวัฏสงสารแห่งนี้โดยยากที่จะพ้นจากวัฏสงสารนี้ไปได้ จึงได้คิด ต่อไปว่า วันหนึ่งเราจักทำลายวัฏสงสารนี้ออกไปให้ได้ จะออกไปให้พ้นจากทะเลทุกข์ทรมานแห่งนี้ และหากวันไหนที่เราออกจากวัฏสงสารนี้แล้ว จะไม่ไปเพียงลำพัง แต่จะนำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายนั้น ฝ่าวงล้อมนี้ออกไปด้วย เหมือน ทลายคุก คือ ภพสามออกไป บุคคลผู้มีความคิดเช่นนี้ถือว่าเป็นความคิดของอุดมบุรุษที่มุ่งปรารถนาจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอนาคตกาล
     
  6. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,763
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    [​IMG]
    นี้คือความคิดของอุดมบุรุษที่มุ่งปรารถนา
    จะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต


    [​IMG]
    ดังนั้น ทุกคนก็สามารถตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งกลางๆ ไม่ผูกขาด ไม่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นใคร ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเป็นได้ทั้งนั้น เมื่อตั้งความปรารถนา แล้วก็สั่งสมบารมีให้ครบถ้วนบริบูรณ์

    ดังนั้น ทุกคนก็สามารถตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งกลางๆ ไม่ผูกขาด ไม่เฉพาะเจาะจงว่าเป็นใคร ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเป็นได้ทั้งนั้น เมื่อตั้งความปรารถนา แล้วก็สั่งสมบารมีให้ครบถ้วนบริบูรณ์


    ที่มา
    http://www.kalyanamitra.org/u-ni-boon/jun47/c37.htm
     
  7. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,668
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,216
    ใช่ครับทุกคนสามารถตั้งความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าได้
    แต่ต้องมีกำลังใจที่แน่วแน่ มั่นคงมากกกกกกกก(เพราะทำเป็นอสงไขย)
    ไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร ขอให้คนอื่นมีความสุขก็พอ ขอให้ชาวโลกพ้นทุกข์ก็พอ นี่แหละความเมตตาของพระพุทธะ มหาบุรุษของโลก
     
  8. Star Platinum

    Star Platinum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +1,152
    เส้นทางยังอีกยาวไกล แต่ใจเกินร้อย
     
  9. nat

    nat บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ?

    ป่วยการที่จะหวังตราบใดที่ยังกินเลือดเนื้อผู้อื่นอยู่ ที่ๆจะไปคือนรก และต้องไปเกิดเป็นสัตว์ที่กินเข้าไปจนครบจำนวน
     
  10. Star Platinum

    Star Platinum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +1,152
    เหรอครับ? เอามาจากไหนครับ? ตั้งแต่คุณเกิดมาคุณกินเนื้อสัตว์เข้าไปบ้างหรือเปล่า? พระพุทธองค์และพระอริยสงค์ทั้งหลายก็ฉันเนื้อสัตว์นะครับ แต่ก็ไปนิพพานกันได้ ร่างกายคนนั้นประกอบด้วยเลือดด้วยเนื้อย่อมยังอยู่ได้ด้วยเลือดด้วยเนื้อของสิ่งมีชีวิตอื่นๆเช่นกัน เพราะเหตุนี้แหละผู้คนมากหลายปรารถนาที่จะออกจากระบบนี้ พระโพธิสัตว์ทั้งหลายก็ปรารถนาจะนำสัตว์ทั้งหลายออกไปเช่นกัน

    ผมว่าผู้ที่คิดช่วยผู้อื่นเนี่ยไม่ป่วยการหรอกครับ แต่ผู้ที่ทำลายศรัทธาที่ดี หรือแช่งผู้อื่นนั่นแหละจะได้ไปนรก
     
  11. nat

    nat บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ?

    พระโพธิสัตว์ ทรงตรัสว่า ธรรมะพิสูจน์ได้เดี๋ยวนี้ ถ้าออกไปด่าเขา..เขาก็ด่าเราตอบ........
    ไม่มีใครอยู่เหนือกฏแห่งกรรมได้ เรากินเนื้อเขาวันนี้พรุ่งนี้เขาก็กินเนื้อเราคืนไม่มีพระอริยเจ้าองค์ใดทานเลื้อดเนื้อของพี่น้องเราเองได้.....
     
  12. Star Platinum

    Star Platinum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +1,152
    พระโพธิสัตว์องค์ไหนตรัสไว้อย่างนั้นครับ? เห็นด้วยว่าๆไม่มีใครอยู่เหนือกฎแห่งกรรมได้ แต่คุณเคยเห็นพระฉันเนื้อสัตว์ใหม?

    พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ห้ามฉันเนื้อสัตว์ทั่วๆไป นอกจากเนื้อสัตว์บางชนิดนะครับ
    ลองอ่านเรื่องนี้ดู

    @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

    *นางสุปปิยา*
    เอตทัคคะในฝ่ายผู้อุปัฏฐากภิกษุไข้

    นางสุปปิยา เกิดในตระกูลหนึ่ง ในกรุงพาราณสี เมื่อเจริ_วัยแล้วได้สามีผู้มีฐานะใกล้
    เคียงกัน นางเป็นผู้มีอุปนิสัยศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแน่วแน่
    ต่อมา เมื่อพระบรมศาสดาพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์เป็นบริวาร เสด็จจาริกไปยังกรุงพาราณสี
    นางได้ทราบข่าวการเสด็จมาจึงเข้าเฝ้าพร้อมกับพุทธบริษัทอื่น ๆ ได้ฟังพระธรรมเทศนาแล้วได้
    บรรลุโสดาปัตติผล
    วันหนึ่งนางได้ไปฟังธรรมที่วัด และก่อนที่จะกลับบ้านได้เดินเยี่ยมเยือนพระภิกษุภายใน
    วัดนั้น พบพระภิกษุอาพาธรูปหนึ่ง ได้ถามอาการของท่านแล้วจึงถามต่อไปว่า:-
     
  13. nat

    nat บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ขอตอบ

    ? พระพุทธองค์และพระอริยเจ้าทั้งหลายท่านทรงมีมหาเมตตาและท่านฉันท์เจแม้ตระกูลขององค์พระศาสดาที่ยังอยู่ในประเทศอินเดียก็ยังทานเจ
    เป็นพระโอวาทของพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม
    พระไตรปิฏกยุคหลังถูกสังคายนาโดยพระที่มิได้บรรลุอรหันต์
    พระพุทธองค์ท่านทรงหยั่งรู้หมื่นโลกธาตุ ถ้าสมมุติเราเอาเนื้อหมูไปถวายท่านแน่นอนท่านย่อมสามารถหยั่งรู้ว่าเนื้อหมูตัวนี้ได้มาอย่างไรแล้วยังหยั่งรู้ต่อไปอีกว่าก่อนที่สัตว์ตัวนี้จะมาเกิดเป็นหมูเขาได้เคยเกิดเป็นอะไรมาแล้วบ้าง
    แล้วอย่างนี้แล้วพระพุทธองค์จะฉันเนื้อได้เหรอคุณลองไตร่ตรองโดยใช้เหตุผลไม่ว่าใครก็ตามที่ทำผิดพระสงฆ์หรือคนธรรมดาหรือเด็กเล็กทำผิดก็ไม่อาจหนีพ้นกฏแห่งกรรม..........ไตร่ตรองแล้วจึงเชื่อจึงเรียกว่าผู้มีปั__า
     
  14. Star Platinum

    Star Platinum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +1,152
    อย่างไรก็ตามผมก็ขอแย้งข้อนี้อยู่ดี

    พระสงฆ์ทั้งหลายเป็นผู้อยู่ง่าย ยังชีพด้วยการขออาหารจากผู้อื่น ฉะนั้นจะเรื่องมากไม่ได้ครับ ใครที่อยากฉันแต่ผัก พระพุทธองค์ก็ไม่ได้ว่าอะไร

    อีกอย่าง แล้วคุณเป็นใครถึงจะไปล่วงรู้พุทธวิสัยว่าพระองค์คิดอย่างไร?

    ส่วนพระไตรปิฏกทางเถรวาทนี่ก็ใช่ว่าใครจะไปเปลี่ยนแปลงกันง่ายๆ
    พระไตรปิฏกฉบับที่สมบูรณ์ที่สุดในโลกคือแบบเถรวาทนี่แหละ

    แต่อย่าคิดว่า ผมไม่ได้ใช้ปัญญาไตร่ตรอง ผมก็คิดด้วยปัญญาเช่นกัน
    แต่ทุกอย่างย่อมมีข้อยกเว้น

    ถึงแม้เราอาจจะมีส่วนในการกินเนื้อสัตว์ แต่ใจเราไม่ได้มีความพยาบาทหรือความต้องการพรากชีวิตสัตว์นั้นๆ ไม่ยินดีในการฆ่า ย่อมไม่ผิด

    คุณเคยได้ยินมาบ้างไหม เรื่องพระสงฆ์ท่านต้องระมัดระวังเวลาเดินไปที่ต่างๆ ควรจะระวังในการทำลายชีวิตสัตว์อื่นๆ แต่ถ้าเกิดเหยีบมดโดยไม่รู้ตัว หรือไม่ตั้งใจก็ไม่ผิด ถือว่านี่ก็เป็นกรรมของสัตว์นั้นเช่นกัน

    พระพุทธเจ้าสั่งสอนให้ดำเนินทางสายกลาง ถ้าตึงเกินไปก็จะเป็นอย่างนักบวชเชน
    อยู่แต่ในวัด ออกไปไหนมิได้ ด้วยเกรงว่าจะไปเผลอทำลายชีวิตสัตว์นั้น

    ผมเห็นด้วยบางข้อที่ว่าเราอาจจะมีส่วนบาปอยู่บ้าง แต่มันเป็นบาปที่เล็กน้อยเท่านั้น ไม่ใช่บาปหนักหนาขนาดที่ทำให้คนเราสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้
     
  15. มารวิกะ

    มารวิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +526
    คุณnat คงจะไม่เคยรู้เรื่อง หมูของนายจุล เลยมีความคิดอย่างนั้น

    คิดอะไรก็คิดได้ แต่การคิดแบบนี้มันไม่ดีครับมันบาปมากบาปเร็ว

    ทำให้นึกถึงเรื่องของพระเทวทัตที่ทูลขอให้กินแต่พืชผัก

    คุณรู้ได้อย่างไรว่าไม่ใช่พระอรหันต์มาสังคายนา

    การที่จะรู้ได้ต้องมีจิตระดับเดียวกันจึงจะมองเห็นได้

    หรือว่าคุณnat......
     
  16. มารวิกะ

    มารวิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +526
    คุณแสตน ตอบเร็วกว่าอีก

    โอว..Star Platinum...

    สงสัยเวลามันหยุดไป3วิเลยตอบไม่ทัน
     
  17. nat

    nat บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ขอตอบ

    พระพุทธองค์มีเพียงหนึ่งเดียวการศึกษาพระพุทธศาสนาต้องนำ หินยาน และมหายานมารวมกันแล้วเราจะได้พระไตรปิฏกที่สมบูรณ์
    เราขอถามนาย ก. เป็นมือปืนไปยิงนาย ค.ตายแล้วถูกจับนาย ก.จึงซัดทอดนาย ข. นาย ข.ผู้จ้างวานจึงถูกจับคุณคิดว่าใครจะได้รับโทษหนักกว่ากันแน่
    นอนผู้จ้างวานฆ่าต้องได้รับโทษหนักกว่า แล้วเราเอาเงินไปซื้อเนื้อต่างอะไรจากผู้จ้างวานหรือ ผมยังไม่ได้บรรลุแต่........คุณรู้ในสิ่งที่ควรรู้ก็พอแล้ว
    บำเพ็_ธรรมพระอริยเจ้าตรัสว่าอย่าแบ่งเขาแบ่ง ไม่มีสูง ไม่มีต่ำ ทางสายกลางมิได้หมายความว่า ทำดีบ้าง ทำชั่วบ้าง กฎแห่งกรรมไม่มีข้อยกเว้นแม้เป็นพระพุทธองค์ก็ทรงมิอาจต้านแรงกรรมได้
     
  18. Star Platinum

    Star Platinum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +1,152
    ผมไม่ได้หมายความว่าทางสายกลางหมายถึงทำช่ัวบ้างหรือทำดีบ้าง

    คนเราเกิดมาทำทั้งกรรมดีกรรมชั่วครับ จะดีจะช่ัวที่ว่ากรรมไหนเยอะกว่ากัน

    ผมหมายความว่าการจะทำดีต้องอยู่ที่เจตนาเป็นสำคั_ถ้าไม่ได้ตั้งใจหรือฆ่าก็ไม่บาป

    การกินมังสะวิรัตนี่ดีครับ แต่เรื่องการกินเนื้อสัตว์นี่นับว่าเป็นกรรมเล็กมาก แม้ว่าจะเจตนากินก็ตาม

    อย่างไรก็ตามต้องเข้าใจว่าสัตว์ในโลกนี้อยู่ได้ด้วยการเบียดเบียนอาศัยสิ่งมีชีวิตอื่นๆ พืช ผักมันก็มีชีวิตเหมือนกันนั่นแหละครับ เชื้อโรคล่ะครับ มีชีวิตหรือเปล่า แต่ก็เลี่ยงไม่ได้

    ทุกคนก็กินกันไปเหมือนกัน จำนวนทีละเป็นล้านๆด้วย แล้วต้องเกิดเป็นเชื้อโรคด้วยหรือเปล่า? ถ้าต้องเกิดเป็นเชื้อโรคตามจำนวนที่กินให้ครบ ทุกคนคงจะไม่มีวันได้เข้านิพพานเลยกระมัง? (แล้วพวกเชื้อโรคที่กินคนเข้าไป ต้องเกิดเป็นคนเพื่อใช้กรรมด้วยหรือเปล่า?)

    ส่วนคนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีกรรมเรื่องเบียดเบียนสัตว์นะครับ เคยเห็นมาเยอะ พวกที่กินเจแต่ทำร้ายจิตใจเบียดเบียนผู้อื่น ทุบตีลูกเมีย ด่าว่านินทาต่างๆ

    สรุปว่า จะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าได้ไม่ใช่เพราะเลี่ยงเนื้อสัตว์หรอกครับ แต่เป็นเพราะมีเจตนาบริสุทธิ์มีความเข้าใจถึงภัยแห่งการเกิดและพยายามทำดีให้มากต่างหาก
     
  19. กรุงเก่า

    กรุงเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +335
    คุณ Nat จะสรุปว่าถ้ากินเนื้อสัตว์แล้วไปนิพพานไม่ได้

    อันนี้อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อละครับ การทานเนื้อสัตว์กับบงการฆ่าเนี่ยยังไงก็คนละเรื่องอยู่ดี ถ้าคุณไปร้านอาหารแล้วชี้นิ้วบอกคนทำว่าเอาตัวนี้ที่มันว่ายอยู่นี่อันนี้ผมก็ไม่เถียงว่าเป็นผู้บงการ แต่เราทานซากสัตว์ที่มันตายอยู่แล้วนี่ครับวิ__าณมันก็รู้ว่าเราไม่ได้สั่งดังนั้นอย่าคิดมากคุณไม่ชอบทานก็ไม่เป็นไรแต่อย่าไปว่าคนอื่นเขา ลองศึกษาให้ดีใช้ปั__ามากๆ ผู้ปฏิบัติย่อมอยู่ง่ายทานง่ายยิ่งสมณะเขาถวายอะไรก็ต้องทานยกเว้นที่พระพุทธเจ้าท่านห้ามไว้ ๑๐ อย่าง จริงๆเขาเน้นที่ปั__าไม่ใช่หรือครับให้เข้าใจตามธรรมชาติ กินผักอย่างเดียวแต่ปั__าไม่เกิดไม่เข้าใจธรรมะก็ไปไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นผมว่ามังสะวิรัตหรือไม่ไม่สำคั_ครับ
     
  20. PalmPlamnaraks

    PalmPlamnaraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +5,790
    คุณnatยังเข้าใจไม่กระจ่าง เนื้อสัตว์ก็เป็นสารธาตุขันธ์ที่มารวมตัวกันเฉยๆครับ หากเราได้มาโดยไม่ได้ไปเบียดเบียนสัตว์ก็ทานได้ครับ เรียกว่าเนื้อบังสกุล เป็นเนื้อสัตว์ที่สัตว์ตายลงเองโดยหมดอายุขัย หรือบางทีก็มีอุบัติเหตุให้มันตายไปตามกรรมของมัน หากเนื้อสัตว์นั้นไปได้มาโดยการฆ่าสัตว์เอาหรือเบียดเบียนสัตว์เอา แน่นอนครับบาปชัวร์ไม่เป็นอื่น แต่เนื้อสัตว์ที่เรากินทุกวันนี้มันจะมาจากการฆ่าสัตว์ครับ เพราะเนื้อที่เป็นเนื้อบังสกุลคนไม่นิยมกินกัน และหาได้ยากไม่เพียงพอต่อกิเลสคนที่ต้องการกิน และเพราะมันเป็นเนื้อที่ตายเองรสชาติไม่อร่อย ดังนั้นเนื้อในปัจจุบันที่เราซื้อมากินเราก็อาจมีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้เกิดการฆ่าสัตว์ครับบาปแน่แต่ไม่เท่าฆ่าด้วยตัวเอง ถ้าเราไม่ซื้อทุกคนไม่ซื้อคนขายก็ไม่ฆ่ามาขายสัตว์ก็ไม่โดนฆ่าตาย
     

แชร์หน้านี้

Loading...