ทุกๆ ทุกข์ เกิดดับที่ไหน

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย พิญณ์, 3 มิถุนายน 2008.

  1. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19
    ทุกๆ ทุกข์ เกิดดับที่ไหน


    แม้ว่าธรรมวินัยที่พระพุทธองค์ทรงประกาศ หรือบัญญัติไว้มากมายหลายหัวข้อด้วยกัน แยกย่อยออกจากกาย วาจา และใจนี้ เพราะว่ากาย วาจา และใจนี้เป็นผู้กระทำทั้งสิ่งที่ดีและที่ชั่ว และเป็นผู้รองรับทั้งความสุขและความทุกข์

    ซึ่งมีความเข้าใจกันว่าทุกข์อยู่ที่โน้น ทุกข์อยู่ที่นี่ แล้วก็ดิ้นรนหาทางแก้ทุกข์ เช่น เข้าใจว่าทุกข์อยู่กับการไม่มีทรัพย์สมบัติสิ่งของต่างๆ และปัจจัยเครื่องใช้อะไรก็แล้วแต่ เช่นทุกข์เพราะไม่มีเงินเพียงพอ ไม่มีบ้าน ไม่มีรถยนต์ ไม่มีเครื่องใช้ทัดเทียมผู้อื่น เป็นต้น เราก็ไปโยนความทุกข์ไว้กับสิ่งของวัตถุภายนอก

    แต่ถ้าเราพิจารณาให้ละเอียดลึกซึ้งลงไปแล้ว ทุกข์มันไม่ได้เกิดที่ข้างนอก ทุกข์มันอยู่ที่กาย วาจา และใจของเรา เพราะฉะนั้นในการปฏิบัติเพื่อแก้ทุกข์เพื่อดับทุกข์ในเบื้องต้นนั้น เราเข้าใจว่าทุกข์อยู่ที่กาย เช่นทุกข์อยู่ที่ชาติความเกิด ทุกข์อยู่ที่ความชราความแก่ ทุกข์อยู่ที่พยาธิความป่วยไข้ และก็ทุกข์อยู่ที่ความตายความแตกดับ

    แต่สำหรับผู้ประพฤติปฏิบัติธรรมวินัยสำรวมใจของตน ให้เกิดความระงับจนเกิดปัญญาความรู้ตามสภาพความเป็นจริงแล้ว ทุกข์นั้นไม่ได้อยู่ที่เกิด ไม่ได้อยู่ที่แก่ ไม่ได้อยู่ที่เจ็บ และไม่ได้อยู่ที่ตาย เพราะสิ่งที่เกิดคือรูปธาตุสี่นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ ดิน น้ำ ลม ไฟ จะเป็นรูปใครก็แล้วแต่ ฉะนั้น ความทุกข์ไม่ได้อยู่ที่นั่น ความทุกข์อยู่ที่หัวใจ คืออยู่ที่ใจเป็นผู้รับรู้เรื่องนั้นที่ทำให้ทุกข์

    ข้อนี้เราจะสังเกตเห็นได้ว่า อย่างความทุกข์เกิดขึ้นจากความเจ็บ ซึ่งเราเข้าใจว่าความเจ็บอยู่ที่กาย ฉะนั้นความทุกข์ แม้เราจะเข้าใจว่าชาติปิทุกข์ ทุกข์เพราะความเกิดนี้ความเกิดก็คือธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ แต่ว่าดิน น้ำ ลม ไฟ ถูกชราพยาธิคือความแก่ ความแตกดับ ความสลายแยกกันไป เราเข้าใจว่าทุกข์อยู่ที่นั่น อันที่จริงทุกข์อยู่ที่
     
  2. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19
    ตั้งกระทู้เพราะทุกข์เป็นเรื่องใกล้ตัว เจอทุกวัน หรือใครในนี้ไม่เคยเจอทุกข์
     
  3. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19
    หากจะดำรงอยู่อย่างมีความสุขโดยไม่ถูกความสุขขบกัดจนเป็นทุกข์
    ก็จำต้องเข้าใจความเป็นธรรมดาของความสุข
    ตระหนักรู้ชัดว่า ความสุขนั้นผันผวนปรวนแปรไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่เสมอ
    และสามารถพลิกเปลี่ยนเป็นความทุกข์ได้ง่ายหากเราประมาทหรือไม่มีสติรู้เท่าทัน
     
  4. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    ยิ้มบ่อยๆ ยิ้มให้ต้วเองบ้างครับ หุหุ
     
  5. dhammadasa

    dhammadasa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +69
    ไม่มีใครเสียอะไรไป โดยไม่ได้อะไรมา
    แม้สุขที่ว่าแน่ ทุกข์ยังรองการจับจอง
    หรือทุกข์สาหัส ย่อมพบสุขในทุกข์เช่นกัน ถ้าวางเป็น
    ที่สุดแล้วสุขทุกข์เกิดที่ใจ ผันเปลี่ยนไปร้อยพันในหนึ่งวัน
    ยิ้มบ่อยๆเถิด สิ่งนี้เป็นน้ำเลี้ยงใจ โลกก็เปลี่ยนโดนพลัน
     
  6. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19
    ยิ้มบ่อยๆดับทุกข์ได้บางๆ
    การดับทุกข์ที่แท้มากกว่าการยิ้ม แต่หากมีทุกข์ให้เรายิ้มสู้อย่างน้อย เกิด ...กำลังใจ ที่จะรู้ทุกข์ รู้ทางทุกข์ รู้ดับทุกข์
     
  7. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19
    ยิ้มแบบนี้อ่ะป่าว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19
    พวกอารมณ์ติสชอบคิดงานตอนทุกข์ ไม่รู้ทำไม เราก็เป็นอีกคนที่คิดหาประโยชน์จากทุกข์ แทนที่จะทุกข์ตามทุกข์
     
  9. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19



    วิธีแก้ไขการออกจากความคิดที่เป็นทุกข์นั้น ได้แก่

    การปล่อยวางมี “อุเบกขา”


    เมื่อก่อนเราเข้าใจว่า....
    รู้อะไรเห็นอะไรรับรู้แล้ววางเฉยไม่คิดตาม ซึ่งบางทีเป็นแต่เพียงความเฉยภายนอกหรือพยายามทำเป็นเฉยแต่ใจไม่เฉย ซึ่งมันไม่ถูกต้อง เฉยอย่างนี้ไม่เรียกว่าเป็นอุเบกขา
    ที่ถูกคือ
    ความวางเฉยนี้หมายถึงสงบเป็นกลางๆ ไม่เอนเอียงไปข้างหนึ่งข้างใด เฉยอย่างรู้ทันจึงเฉย ไม่ใช่เฉยเพราะไม่รู้



    ปัญญาน้อยค่อยๆ GET
     
  10. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19
    การทำสมาธิ คือความตั้งมั่นหรือแน่วแน่อยู่กับสิ่งๆ นั้น จิตที่เป็นสมาธิดีแล้วจะไม่ซัดส่ายไปกับความคิดที่ไม่เป็นประโยชน์ และระงับยับยั้งความคิดที่เป็นโทษทุกข์นั้นได้

    สติ คือความระลึกได้เป็นเครื่องดึงจิตไว้กับตัวหรือสิ่งนั้นๆ ไม่ให้จิตฟุ้งซ่านล่องลอยไปที่อื่น

    """"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
    จิตใจเราเปรียบเหมือนพระจันทร์ที่สว่างสุกใส แต่ที่หม่นหมองมืดมิดไม่สว่างไสวเหมือนจันทร์แรมนั้นเพราะมีเมฆหมอกมาปิดบังไว้ เปรียบเหมือนความคิดที่ทำให้ใจนั้นทุกข์บ้างสุขบ้าง ซึ่งเกิดขึ้นแล้วตั้งอยู่ไม่ได้นาน เหมือนพระจันทร์ที่มีข้างขึ้นข้างแรม มีมืดมีสว่าง

    โดย พระอาจารย์ชาญชัย เขมวโร
     
  11. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    เวทนาทุกข์ เกิดขึ้นจาก เหตุใด ก็ให้ดับที่สาเหตุนั้น
     
  12. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    อาฮ์....

    กระทู้นี้วันนี้คงแย่งซีนคุณจรได้โดยเด็ดขาดแม่น ๆ

    ทุกข์เกิดที่ไหน ให้รู้ทุกข์

    ตัญหาเกิดที่ไหน อย่าให้เกิด

    เวทนามีอยู่นั้น เป็นอยู่ นานมาเอย

    ไม่จับยึดเป็นท่าน ทุกข์นั้นเกาะได้ไฉน
     
  13. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ขอให้ปฏิบัติต่อไปด้วยจิตอันเป็นกุศลเถิด

    รู้ทุกข์ รู้สุข รู้รัก รู้โลภ รู้โกรธ รู้หลง
    รู้ให้ได้จริง ๆ อย่างที่ใจรู้ เมื่อรู้ ว่าสิ่งไหนไม่ดี ก็จงปล่อยวาง การปล่อยวาง คือ อุเบกขา
    แม้ว่า สิ่งที่เกิดกับใจเรา คือความสุข อันเกิดจากฤทธิ์ทางใจก็ตาม แม้ความทุกข์อันเกิดจากใจเรา คือ ข่มทุกข์ไว้ก็ตาม จงปล่อยวางเสียให้หมด หนทางหลุดพ้นที่แท้จริง คือการปล่อยวาง และความว่าง ซึ่งภูเขาลูกใหญ่นั้นบดบังอยู่ จงทลายภูเขาในใจเสียให้สิ้นเถิด

    ** อนุโมทนา **
     
  14. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    ไม่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวเสียพักใหญ่

    วันนี้เข้ามาก็มี ปิ ติ

    เมื่อได้ฟังธรรมสหายผึ้ง เพื่อนเราเข้าสภาวะซะละ

    ธรรมนั้นมีอยู่ทั่ว ไปนา

    มองหาไปถิ่นไกล ไม่เห็น

    ย้อนมองข้างในตัว กลับได้เห็นดี

    วางกายวางใจนี้ เบาได้ ยั่งยืน
     
  15. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    อ้าว จาน มา เอง ผม หลบ แป๋ววววววว..

    จาน น่า จะ ผะ หงก หัว นะ ผม ว่า

    ไม่ น่า นะ ส่าย หน้า เลย

    อิ อิ [​IMG]
     
  16. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    แล้วถ้ามันไหม้อยู่ แล้วเราม่ายรู้ว่ามันไหม้ล่ะ คับ ...อิอิ
     
  17. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    กว่าจะรู้อีกที ล่อซะ ดำเป็นตอ เลย
     
  18. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    (||) คิด ดี ทำ ดี พูด ดี

    คิด เป็น ทำ เป็น พูด เป็น

    สา ตุ
     
  19. พิญณ์

    พิญณ์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +19
  20. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    ที่ไม่เห็นด้วย เพราะเขากล่าวแย้ง ธรรมของ จขกท

    แล้ว แสดงธรรมของตนเอง แล้วปรากฏว่า ไม่ได้แตกต่าง
    อะไรเลย

    จึง เป็นการแสดงข้อขัดแย้งธรรมของ จขกท ที่พร่อง ไม่อาจ
    ทำให้เห็นเหตุผลได้ว่า ทำไม จขกท จึงเสนอผิด แล้วทำไม
    เหตุผลของคุณไร้กรรม จึงควรถูก ในเมื่อ ธรรมมันลงกัน ไม่ได้
    แตกต่าง

    ข้อสรุปที่ทำให้กดไม่เห็นด้วยคือ คุณไร้กรรม ไม่เข้าใจธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...