น้ำท่วม...บริหารจัดการไม่เป็น

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 15 ตุลาคม 2011.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    น้ำท่วม...บริหารจัดการไม่เป็น


    ไม่ใช่ภัยพิบัติลงโทษแต่...บริหารน้ำผิดพลาด
    รุนแรงจนรัฐบาลต้องประกาศเป็น "วาระแห่งชาติ" ระดมความร่วมมือจากทุกสรรพกำลังมาร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ของประเทศที่ จนถึงเวลานี้ 26 จังหวัด กำลังจมน้ำ ประชาชนกว่า 2.2 ล้านครัวเรือนกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก

    นอกจากบ้านเรือน พื้นที่การเกษตรที่เสียหายไปแล้วกว่า 9.6 ล้านไร่ มวลน้ำก้อนมหึมายังรุกคืบสร้างความเสียหายต่อเนื่องฝ่าปราการป้องกันเบื้อง ต้นรุกล้ำไปยังนิคมอุตสาหกรรม จนมูลค่าความเสียหายพุ่งสูงหลายแสนล้านบาท ยังไม่รวมยอดผู้เสียชีวิตที่สูงถึง 281 ราย

    [​IMG]

    ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ในฐานะผู้คร่ำหวอดในแวดวงอุตุนิยมวิทยา มายาวนาน ฟันธงว่าวิกฤตน้ำท่วมครั้งนี้ไม่ใช่เป็นผลพวงจาก "ภัยพิบัติ" แต่เป็นเรื่องการบริหารจัดการน้ำไม่เป็น!!!

    "คือไม่ สามารถจะบริหารน้ำได้ ไม่มีการติดตามข้อมูลตั้งแต่ต้นฤดูฝนว่าจะตกเยอะไหม ควรเก็บน้ำในเขื่อนไว้เท่าไหร่ ปรากฏว่าทุกคนเก็บน้ำไว้ในเขื่อนใหญ่หมด ทั้งกรมชลประทาน การไฟฟ้าฯ ซึ่งกลัวว่าจะไม่มีน้ำใช้ในหน้าแล้งซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่ผิด

    ...ถ้า ฝนตกต่อเนื่องทั้งกลางฤดู ปลายฤดู ยังตกอยู่ ปริมาณช่องว่างน้ำในเขื่อนจะไม่สามารถเก็บน้ำฝนกลางฤดูได้ ตอนนี้เขื่อนใหญ่เต็มหมดแล้วปัญหาคือ เมื่อเขื่อนใหญ่เต็มหมดแล้ว ก็ปล่อยน้ำในเขื่อนออกมาพร้อมกัน ปริมาณน้ำที่ปล่อยมามากกว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกใส่เขื่อน"

    ดร.สมิ ทธ อธิบายว่า การปล่อยน้ำจากเขื่อนใหญ่ทั้ง เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ทำให้น้ำมารวมตัวในภาคกลางตอนบนไล่มาตอนล่าง ขณะที่ภาคกลางก็มีน้ำฝนที่ตกมาอยู่ท้ายเขื่อนอยู่ในที่ลุ่มอยู่แล้ว ดังนั้นน้ำในขณะนี้จึงมหาศาลมาก หลายคนบอกน้ำปล่อยมานิดเดียวแต่เพราะน้ำมีอยู่แล้วในที่ลุ่ม ในนา เมื่อปล่อยมาพร้อมกันปริมาณน้ำจึงมาก ทำให้หลายพื้นที่เกิดน้ำท่วมพร้อมกัน ตั้งแต่ จ.นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา

    "เป็น วิกฤตบริหารน้ำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือไม่มีการวางแผนไว้ก่อน อันที่จริงเราควรเก็บน้ำไว้ครึ่งหนึ่ง และถ้ามีฝนกลางฤดูที่แล้วก็สามารถเก็บน้ำไว้อีกได้"


    ทั้ง นี้ ที่ผ่านมานักวิชาการหลายคนบอกว่าน้ำไม่เคยสูงเช่นนี้ บางคนบอกน้ำเยอะแต่ไม่เคยท่วม ทุกคนต่างคนต่างมีข้อมูลของตัวเอง แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาเถียงกันเรื่องข้อมูล เพราะข้อมูลที่แท้จริงกรมอุตุนิยมวิทยามีอยู่แล้ว เรามีสถานีวัดปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน กว่า 200 แห่งที่วัดปริมาณฝนได้

    สำหรับแนวทางการแก้ไขในเวลานี้ ดร.สมิทธเห็นว่า จำเป็นที่จะต้องหยุดปล่อยน้ำจากเขื่อนเพราะช่วงนี้ไม่มีปริมาณน้ำฝนที่จะตก เข้าเขื่อนแล้วทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนนี้3 เขื่อนใหญ่ก็จะไม่มีน้ำเข้าแล้ว ดังนั้นถ้าเรายังปล่อยน้ำมหาศาลซ้ำเติมระบบน้ำท่วมที่อยู่ในภาคกลาง น้ำจะท่วมหมด

    "ความเสียหายเป็นแสนล้านบาท ประเทศไทยมีหน่วยงานที่ดูแลปัญหาเกี่ยวกับน้ำภายใต้สังกัดกระทรวงต่างๆ กว่า 20 หน่วยงาน แต่เราไม่มีดาตาเบส ต่างฝ่ายต่างทำไม่เอาข้อมูลมาแชร์กัน จึงทำให้ขาดผลวิเคราะห์ในการตัดสินใจ

    ...การ บริหารน้ำถ้าไม่มีการประสานงานกันทั้งกรมอุตุฯ กรมชลฯ การไฟฟ้าฯ ว่าควรจะเก็บหรือปล่อยน้ำแค่ไหนมันก็ไม่มีฐานข้อมูลที่นำมาคำนวณปริมาณน้ำ ว่าควรจะปล่อยหรือพร่องน้ำในระดับใดจึงจะทำให้พื้นที่ไม่เดือดร้อน"


    นอก จากนี้ ต้องยอมรับว่าการไม่มีเอกภาพในการทำงาน การที่นักวิชาการทะเลาะกันเอง ไม่มีความรู้อย่างแท้จริงนำไปเสนอรัฐบาล จึงทำให้ระบบรวนทั้งหมด สุดท้ายก็นำไปสู่ปัญหาอุทกภัยทั้งๆ ที่น้ำมวลใหญ่ที่ปล่อยออกมาจากเขื่อนใหญ่ๆนั้นบริหารจัดการได้

    "ฝน ปีนี้อาจจะมากกว่าปีที่แล้ว แต่การบริหารน้ำที่เราเก็บไว้มากไป แล้วปล่อยมาทีเดียว ไม่ปล่อยให้น้ำไหลไปตามธรรมชาติ หากปล่อยมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นฤดูตามธรรมชาติ กลางฤดูพอฝนตกก็เก็บบ้างปล่อยบ้างปลายฤดูก็ไม่จำเป็นต้องปล่อยทีเดียวเยอะๆ น้ำก็จะไม่ท่วม ถ้าเราไม่ปล่อยน้ำก้อนใหญ่จากเขื่อน 3 แห่ง รับรองว่าน้ำไม่ท่วม กทม.ปริมณฑล พระนครศรีอยุธยา และอีกหลายจังหวัดอย่างที่เห็นกันอยู่"

    มาตรการบรรเทา ปัญหาเฉพาะหน้าเวลานี้ ดร.สมิทธ มองว่า อันดับแรกเขื่อนใหญ่ควรหยุดปล่อยน้ำและหาทางระบายน้ำที่อยู่ในแม่น้ำใหญ่ๆ ทั้งแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำบางปะกงให้ลงทะเลเร็วที่สุด ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่บริเวณปากแม่น้ำทั้งสามสาย เพราะช่วงนี้น้ำทะเลหนุนสูง น้ำเหนือไหลมาสมทบจะทำให้น้ำนิ่ง ไหลช้าลง ก็ต้องเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลก็จะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วม กทม.ได้

    "แต่ เพราะหลายเขื่อนยังปล่อยมาหลาย100 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน แต่แม่น้ำต่างๆระบายต่อวันได้ไม่ถึง 50 ล้านลูกบาศก์เมตรทุกเขื่อนพร้อมใจกันปล่อย มันก็มารวมกันที่ภาคกลาง เหมือนเราเทน้ำลงมาพร้อมกัน น้ำที่เต็มแก้วเมื่อเติมไปอีกมันก็ล้น

    ...เรื่อง นี้ไม่ใช่ภัยพิบัติลงโทษ แต่เป็นเพราะการบริหารน้ำที่ผิดพลาด หากเราบริหารไม่ดีท่วมแน่ ถ้าไม่รู้จักเก็บน้ำในเขื่อนไว้ให้เหมาะสม นอกจากนี้การบริหารในเขื่อนเล็กๆแต่ละเขื่อนไม่สามารถระบายออกทะเลได้รวด เร็วพอ มันก็เอ่อในที่ลุ่มภาคกลาง"

    ประเมินมาตรการแก้ ปัญหาของรัฐบาลที่ออกมาถูกทางหรือไม่นั้น ดร.สมิทธ มองว่าจริงๆ รัฐบาลควรตั้งศูนย์เฉพาะกิจแต่แรกเพราะการบริหารภัยพิบัติใหญ่ๆ ต้องตั้งศูนย์เฉพาะ ต้องมีผู้บริหารใหญ่และผู้ควบคุมศูนย์คนเดียว จะเป็น พล.ต.อ.ประชา พรหมนอกหรือนายกรัฐมนตรี ก็ได้ แต่ต้องตัดสินใจคนเดียว ทว่าตั้งช้าไปหน่อย แม้ตอนนี้จะเริ่มมีการตัดสินใจเดินหน้าแก้ไขหลายเรื่องแล้วแต่มาเริ่มตอน วิกฤตน้ำใกล้ท่วม กทม.ที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอยู่มาก ทำให้ผลกระทบเยอะ

    ส่วนความตื่นตระหนกของชาวบ้านที่ไม่มั่น ใจสถานการณ์ และแก้ปัญหาด้วยการสร้างพนังกั้นน้ำหน้าบ้านตนเองจนวัตถุดิบขาดตลาดนั้น ดร.สมิทธ เห็นว่าอาจไม่ถูกต้องตามวิธีการ เพราะเป็นการสร้างที่ไม่มีหลักวิชาการการเอาดินวาง เอากระสอบทรายมาวาง มันสู้แรงดันน้ำไม่ได้

    ทั้งนี้ น้ำ 1 ลูกบาศก์เมตร หนักถึง 1 ตันถ้าสร้างเขื่อนสูง 2 เมตร แสดงว่ามีแรงดันน้ำถึง 2 ตัน ดังนั้นหากเขื่อนสร้างไม่แข็งแรงน้ำจะซึม กระสอบทรายไม่หนักพอก็ทลาย น้ำก็จะไหลอย่างรวดเร็วและแรงจนเอาไม่อยู่

    ดร.สมิทธ อธิบายถึงแนวคิดที่ในอดีตเคยเสนอให้ตั้ง "กระทรวงน้ำ" ขึ้นมารับผิดชอบดูแลเรื่องนี้โดยตรง ว่าเป็นเพียงข้อเสนอของนักการเมืองที่จะทำให้มีตำแหน่งทางการเมืองเพิ่มขึ้น ทั้งรัฐมนตรี ที่ปรึกษาและข้าราชการการเมือง เป็นการสร้างตำแหน่งเปล่าๆ

    "ผม ว่าทำอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบันก็เหมาะสมแล้ว คือการตั้งศูนย์เฉพาะแล้วรวมเอานักวิชาการผู้มีความเชี่ยวชาญด้านน้ำมารวม กัน แต่ว่าการบริหารต้องการคนที่รู้เรื่องมาคุยกัน อย่าให้มานั่งเถียงกัน และการตัดสินใจก็ให้นายกฯ เป็นผู้ชี้ขาด"

    เขื่อนใหญ่ต้องหยุดปล่อยน้ำ
    ยังต้องลุ้นระทึกกับมวลน้ำก้อนใหญ่ ที่คาดว่าจะถึง กทม.ในวันสองวันนี้ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ยังอดเป็นห่วงฝีมือ กทม. กับการผันน้ำ กทม. หากเกิดน้ำทะลักเข้าพื้นที่เข้ามาจริงๆ

    [​IMG]

    "ผมไม่เชื่อฝีมือ กทม. เพราะไม่เคยศึกษาหรือไปดูเขื่อน เช่น เขื่อน จ.ปทุมธานี ที่เพิ่งแตกไป กทม.ก็ไม่ดูแลบอกว่าท้องถิ่นสร้างขึ้นเอง ทั้งที่จริงแล้ว กทม.ควรมีหน้าที่ไปดูแลพื้นที่ด้วย เพราะน้ำที่จะแตกจากปทุมฯ จะเข้า กทม.กทม.อยู่ติดจังหวัดต้นน้ำ ถ้าเถียงกันอย่างนี้ กทม.จมแน่"

    ทั้ง นี้ ไม่แน่ใจว่าเขื่อนรอบๆ กทม.จะมีความแข็งแรงพอหรือไม่ เพราะเขื่อนกั้นน้ำของ กทม.มีทั้งเขื่อนดินและเขื่อนคอนกรีต กระสอบทรายโดยเฉพาะในพื้นที่รอบนอก ทาง อบต. และอบจ. จะเป็นคนดูแล โดยใช้ผู้รับเหมาก่อสร้าง ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ อาจทำให้มีปัญหาเรื่องความแข็งแรง

    "อันนี้ถือเป็นจุดอ่อน จะทำให้เกิดวิกฤตน้ำในกทม.ได้ ขณะนี้น้ำล็อตใหญ่ที่มาจากเขื่อนภูมิพลสิริกิติ์ ป่าสักชลสิทธิ์ กำลังผ่านเข้ามาใน 3-4 จังหวัดที่ท่วมอยู่แล้ว กทม.จึงต้องระวังเพราะเป็นช่วงน้ำทะเลหนุน ตอนนี้ดูแล้ว กทม.คงรอดยาก"

    ดร.สมิ ทธ ประเมินว่า วิธีการแก้ไขให้ได้ผลเร็วคือ ต้องหยุดปล่อยน้ำจากเขื่อนใหญ่ จากนั้นตั้งเครื่องสูบน้ำที่ปลายแม่น้ำที่จะลงสู่ทะเลให้มากที่สุดเพื่อสูบ น้ำออกปากอ่าว นี่คือวิธีเดียวที่จะระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    "การ เอาเรือไปดันน้ำจะดันได้เฉพาะผิวน้ำเท่านั้น ไม่สามารถดันน้ำที่อยู่ลึกไปข้างล่างได้พระราชดำรัสของในหลวงเรื่องการสร้าง คลองลัดโพธิ์ การที่เป็นคลองแคบจะทำให้การดันน้ำไหลออกจากคลองได้เร็ว แต่ถ้าเอาเรือหลายลำไปผูกแล้วดันน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่กว้าง เป็นการเสียน้ำมันเปล่า เพราะดันได้แค่ผิวน้ำเท่านั้นเรื่องนี้ต้องคิดต้องรู้ลักษณะของน้ำ ดังนั้นที่ถูกต้องคือการตั้งระบบสูบน้ำที่ปลายคลองหรือปลายแม่น้ำออกสู่ทะเล เลย"

    สำหรับแนวคิดที่ กทม.ลงทุนทำอุโมงค์ยักษ์มีการระบายน้ำจากที่ลุ่มของกทม. เช่น รามคำแหงหนองจอก แทนที่จะระบายออกอ่าวไทย แต่กลับเอามาออกที่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งไม่ช่วยอะไรเลยเพราะจะทำให้เจ้าพระยาล้นตลิ่งอีก หมุนเวียนถ้าจะลงทุนให้มากหน่อย วางท่อให้ยาวแล้วไปลงที่อ่าวไทยจะดีกว่า และทำให้ กทม.ปลอดภัยจากน้ำท่วมด้วย ไม่รู้ทำไมถึงคิดกันแค่นี้ เห็นว่าผู้ว่าฯกทม.จะทำอีกหลายอุโมงค์แต่ไม่รู้จะไปออกที่ไหน

    ดร.สมิ ทธ ประเมินถึงสถานการณ์พายุบันยันที่วิเคราะห์แล้วเชื่อว่าไม่เข้าไทย แต่การที่นักวิชาการไม่มีความรู้แล้วไปให้ข้อมูลกับ ศปภ.และนายกฯ ว่าพายุจะสร้างผลกระทบต่อประเทศทำให้เกิดความตื่นกลัวกันหมด คนไม่รู้มาพูดทำให้ตกใจและประเมินพลาด

    "พายุลูกนี้จะเข้า ที่อ่าวตังเกี๋ย ประเทศจีนจากนั้นก็จะไปเวียดนามเข้ามาทางเหนือบ้านเราก็จะทำให้มีฝนตกนิด หน่อยที่เชียงใหม่ เชียงรายจากนั้นจะทำให้อากาศหนาวเย็นลง ผมอยากขอให้คนที่ไม่มีความรู้เรื่องอุตุนิยมวิทยา หรืออุทกวิทยา หยุดให้ข้อมูล เพราะจะให้เกิดความตระหนก แตกตื่นกันไปหมด"

    ดร.สมิ ทธ วิเคราะห์ต่อไปว่า หลังจากนี้ทางภาคเหนือ ภาคอีสาน จะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วหากมีพายุเข้ามาจะไม่ส่งผลให้มีฝนตก หรือถ้าตกก็จะไม่มาก สิ่งที่กรมอุตุฯ และรัฐบาลต้องระวังต่อไป คือ ร่องลมมรสุมที่จะเลื่อนจากภาคกลางตอนล่างไปยังตอนใต้ ผ่านสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ซึ่งปีที่แล้วช่วงเดือนเดียวกันก็มีพายุดีเปรสชันก่อตัวทางทะเลจีนตอนล่าง พัดเข้าสู่อ่าวไทย คลื่นลมที่พัดมาจะทำให้เกิดคลื่นพายุหมุนซัดชายฝั่ง(สตอร์ม เซิร์จ) สูง 4-5 เมตร และจะส่งผลกระทบให้ภาคใต้ เช่น ปัตตานี ยะลา

    ดัง นั้น ข้อมูลในการเตือนภัยพิบัติของกรมอุตุฯ จะต้องแม่น และหากสภาวะลมแรงจะทำให้สตอร์ม เซิร์จ สูงถึง 5-6 เมตร ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณแนวฝั่งและรัฐบาลต้องเตือน ให้เขาอพยพไปอยู่ในจุดที่ปลอดภัย


    -http://www.posttoday.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C/%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A9/116413/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1-%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99-

    .

    น้ำท่วม...บริหารจัดการไม่เป็น - โพสต์ทูเดย์ ข่าววิเคราะห์


    . __________________
     
  2. nutni

    nutni Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +95
    คนดีมีฝีมือ และทำงานด้วยใจ มักจะถูกมองข้าม แต่เราเชื่อท่านค่ะ ไม่มีใครรู้จักประเทศไทยได้ดีเท่ากับคนไทยจริงๆ
     
  3. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    ขอบพระคุณมาก มาก ครับ
     
  4. thepeng

    thepeng Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2011
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +48
    ความจริง ที่ผู้มีหน้าที่ไม่ยอมรับ ครับ
    ความจริงอีกข้อคือที่นี่ประเทศไทยครับ คนไทยเราไม่โทษตัวเองหรอกครับ โทษแต่คนอื่น แขนสั้นก็ว่าหลุมลึก ตัวเองขับเร็วก็ว่าคนอื่นขับช้า ตัวเองโกงก็ว่าคนอื่นก็โกง เป็นซะอย่างนี้
     
  5. thepeng

    thepeng Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2011
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +48
    ส่วนตัวชื่นชมดร.สมิทธนะครับ
    โปรดอย่าเข้าใจผิด
     
  6. akuaku05

    akuaku05 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2006
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +4
    เห็นด้วยกับท่าน ดร. อย่างยิ่งค่ะ ยอมรับความจริงกันบ้าง เขื่อนบริหารน้ำมาหลายสิบปีแล้ว ควรต้องมีประสบการณ์ไม่ใช่อ้างฝนอ้างฟ้าแบบนี้
     
  7. thepeng

    thepeng Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2011
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +48
    คนไทยเราต้องปรับทัศนคติกันอีกเยอะครับ ไม่งั้นอนาคตไม่สวยงามแน่
    เริ่มจากที่ตัวเราครับ
     
  8. akuaku05

    akuaku05 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2006
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +4
    เพิ่มเติม ที่อ้างว่ากลัวแล้ง ถ้าปล่อยมาแล้วเป็นแบบนี้ ให้แล้งซะยังจะดีกว่าเสียหายเป็นแสนล้านแบบนี้นะ ใช้ตรรกะธรรมดาไม่ต้องมาคำนวณก็น่าจะคิดออกกันบ้าง
     
  9. ดาวบุ๋น5

    ดาวบุ๋น5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +375
    ท่านนายก คงจะลืมอะไรไปอย่างที่อดีตนายกเคยปวดหัวมาก่อน
    คือการรายงานเท็จ ปกปิดข้อเท็จจริง มารู้ทีหลังแล้วก็เสียหายไปตามๆกัน

    เห็นใจคนน้ำท่วม แต่จริงๆแล้วจะมัวแต่เน้นการขังน้ำเอาไว้ด้านใดด้านหนึ่งไม่ค่อยเหมาะสม เพราะว่าจะทำให้น้ำระบายได้ช้า ควรจะหาที่สูบน้ำมาสูบน้ำฝั่งที่ท่วมในแนวเขื่อนฝายที่กั้นน้ำออกมาสู่ฝั่งที่ได้รับอานิสงฆ์น้ำไม่ท่วมด้วย จะได้ช่วยกันระบายน้ำ กระจายน้ำไปอีกทางหนึ่ง ...คนฝั่งแนวน้ำท่วมก็เครียดมาก ก็น่าจะช่วยๆกันกระจายน้ำออกมาบ้าง ไม่ได้ให้ปล่อยน้ำออกมาให้ท่วมเยอะเหมือนกันนี่ หาสายยางมาต่อให้น้ำระบายไปในจุดท่อระบายน้ำใหญ่ๆ หรือที่สามารถจัดการระบายน้ำออกไปได้ไม่กระทบอีกฝั่งมาก ก็เป็นการช่วยๆเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งควรจะทำทุกๆจัดหวัดที่ได้รับการคุ้มครองจากการสกัดกั้นแนวน้ำ แม้แต่กทม.ก็ควรอย่างยิ่งที่จะต้องสูบน้ำมาฝั่งตัวเองบ้าง เพื่อเป็นการระบายน้ำออกมาให้ได้อีกทางหนึ่ง ไม่ใช่จะไม่ให้มีน้ำเล็ดลอดผ่านมาเลย แบบนี้ค่อนข้างเห็นแก่ตัวมากไปหน่อยครับ

    ที่ท่านดร.สมิทธิ์พูดมานี่ คงจะใจร้อนไปหน่อย เหตุการณ์ตอนนี้ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปให้เรียบร้อยก่อน น่าจะหาวิธีการช่วยเหลือน้ำท่วมให้ได้ก่อนจะมาถกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ ...
     
  10. อวทม45

    อวทม45 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    330
    ค่าพลัง:
    +1,832
    ปีนี้น้ำเยอะ การคำนวณเก็บน้ำยังทำเหมือนทุกปีมันก็ย่อมผิดพลาดกันบ้าง คนอื่นเขาก็มีสมองเหมือนกัน เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ทำไมจะไม่รู้ แต่น้ำมันเยอะกว่าทุกปีเท่านั้นเอง ทุกวันนี้ยังตกหนักอยู่เลย
     
  11. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    งานนี้ไม่โทษใคร หรอกครับ

    รัฐบาลเข้ามาบริหารไม่ถึงเดือน แต่การแก้ไขจะต้องทำแผนล่วงหน้าหลายปี
    ปัญหาการบริหารจัดการน้ำยังติดขัดอยู่กับหลายๆปัจจัย เช่น ปัญหาด้านการเมือง

    เท่าที่รัฐบาลนี้ทำอยู่ถือว่า "สอบผ่าน" ครับ เพราะอย่างน้อย Take Action ได้ดีถึงระดับ

    ภัยพิบัติไม่เข้าใครออกใคร เรื่องแบบนี้ อย่าเที่ยวได้พูดอย่างเดียว ถ้าแน่จริงไปเสนอรัฐบาลเลย
     
  12. สยามสามดี

    สยามสามดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +3
    จิงด้วย เห็นด้วย อย่างที่ ดร.พูด เคยไปฟังท่านพูดที่ สมุทรปราการ ใครๆๆก็คิดว่า เค้าบ้า แต่เวลามีปัญหา ก็วิ่งหาเค้า...ข้าราชการ ทำงานแบบ เช้าชาม เย็นหนึ่งชาม ก้บเหล้า1ขวด แถมทำตัวเหมือน ขอทาน แต่ทำงานไม่สมกับเงินเดือนที่ได้รับเลย....อ้างว่าเงินเดือนน้อย แต่ไปดูลูกๆๆของพวกนี้ซิ เข้าเรียนโรงเรียนแพงๆๆ พอเงินไม่พอจ่าย ก็มาทำตัวเหมือน พวก ขอทาน... ทุเรศที่สุด พวกข้าราชการ....อันที่จริงการจะเข้ารับราชการได้ต้องสอบเข้าไป...ก็แสดงว่าต้องเป็นคนเก่ง...แต่ทำไมเวลาทำงาน และระบบราชการทำออกมาแต่ละอย่าง โง่ จนหาที่ติไม่ได้ งง จริงๆๆ กับพวกเอี้ย พวกนี้
     
  13. numphol aryupha

    numphol aryupha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +1,156
    เกิดจากคุณปอด(แหก)ไม่ประสีประสา ทำชาวบ้านแตกตื่น แล้วยังสั่งการผิดพลาดตั้งแต่แรกๆ ที่พายุนกเตนเข้ามา ผอ .เขี่อนเขาบอกต้องระบายน้ำออก แต่คุณปอด(แหก)ไม่ยอมให้ปล่อย แล้วเป็นไงครับ รมต.ไม่มีประการณ์ คนที่เลือกสส.พรรคนี้เป็นรัฐบาลควรรู้ไว้ด้วย
     
  14. สยามสามดี

    สยามสามดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +3
    พวก สส.สจ.สข.สค แม่งโคตร สส ทั้งหลาย เวลาน้ำลดแล้ว ก็หัดไปดู การวางผังเมืองที่สุพรรณ เค้าบ้าง..ว่าทำอย่างไรไม่ให้น้ำท่วมเทศบาล...นี้ออกข่าวว่าจะไปดูแบบอย่างเมืองนอก บ้ากันไปแล้ว ขนาดน้ำท่วมยังจะหางบกินกันอีก...สรุปพวกข้าราชการเป็นพวกอะไรกันเนี้ยบอกหน่อย....สส. และตระกูล ส ทั้งหลาย ไม่ต้องไปเมืองนอก เพียงไปดูเมือง สุพรรณ เค้าโน่น...ว่าเค้าทำอย่างไร ไม่ไห้น้ำท่วม ทั้งๆๆที่ตลาดเมืองติดแม่น้ำท่าจีน...การทำงานต้องไปดูนายบรรหาร คุมงาน เพราะเค้ารู้ทุกซอกทุกมุมใน สุพรรณ เพราะเค้าศึกษามาโดย ตลอด (แต่โดยนิสัยทางการเมือง นายบรรหารอาจเป็นคนไม่ดีในสายตาพวกเรา)แต่สุพรรณ ของเค้า เค้ารัก....เมืองประทุม เมืองอยุธยา สส โคตรตระกูล สส ทั้งหลาย ทำตัวเหมือน อย่างเค้าได้ไหม งบประมาณมา 10 บาท พวก สส ทั้งหลาย กินสัก 1 บาทได้ไหม แล้ว จังหวัดท่านจะน้ำไม่ท่วม....แต่พวก ตระกูล สส ทั้งหลาย 10 กิน 7 เหลือ 3 แบบนี้ จังหวัดนั้นๆๆก็ต้องเจอแบบนี้แหละ ท่าน เอย เอ๋ย...
     
  15. warrrior

    warrrior Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +64
    อยากเห็น แกนนำ เสื้อแดง ออกมาช่วยชาวบ้านมั่ง ครับ หายหัวไปไหนหมด
     
  16. ติ้งลิงติง

    ติ้งลิงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,365
    ค่าพลัง:
    +3,977
    """""""""""""""""""""""""
    อื้อฮือ...ใจเย็น ๆ ก่อนดีไหมครับ
     
  17. สยามสามดี

    สยามสามดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +3
    มีอีก พวกชอบเสนอหน้าทั้งหลาย ผู้ว่าออกตรวจผู้คนน้ำท่วมแต่มีพวกคุณหญิงคุณนาย แต่งหน้าทาปาก ทำผมตีโป่ง จะไปทำไม ให้หนักเรือ,(นี้ก็เมียราชการทั้งหลาย) นายกไปไหน พวกที่ตามไปเป็นขบวน..จะตามไปทำบ้าอะไรกัน...ช่วยอะไรได้บ้าง..หนักเรือ..มีข่าว ว่าจีน บริจาคเงินให้ไทย ช่วยน้ำท่วม ทำพิธีมอบ แต่พวก เสนอหน้ายืนข้างหลัง เพียบ...มารับมอบกับเค้าด้วย แต่คนที่มอบเงินมา 3 คน...เห็นแล้วอายแทนประชาชนคนไทยจริง กับพวกเอี้ย พวกนี้....เกิดชาติหน้า ก็ให้มันเป็นคนมี 10หน้าเป็นคนประหลาด โลกจะได้รุ้ว่า พวกนี้ เป็นพวก เสนอหน้า สาธุุๆๆๆๆๆๆ
     
  18. kiatp123

    kiatp123 โมฆะแมน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,493
    ค่าพลัง:
    +19,616
    ใจเย็นครับ ใจเย็นเย็น ผมอยู่มานานจนหัวหงอกแล้ว
    ก็ยังไม่เคยเห็นมวลน้ำเข้าเขื่อนมากเท่านี้มาก่อน
    เขื่อนภูมิพลน้ำไม่เคยล้น spillway
    ผู้บริหารเขื่อนก็เด็กๆ อยู่ทั้งนั้น
    ค่อยเป็นค่อยไป ค่อยแก้ไขกันไปครับ
    เดี๋ยวก็ดีเอง นานๆที หยวนๆน่า
     
  19. numphol aryupha

    numphol aryupha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +1,156
    น้ำท่ามพี่น้องชาวไทย มันยังไปจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงเฉยเลย พี่น้องเสื้อแดงคิดไงล่ะ นายกปูเงายังมีหน้ามาบอกให้สามัคคี ไปบอกคุณตุ๊ดตู่ก่อนเถอะ
     
  20. สยามสามดี

    สยามสามดี สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +3
    จิงๆๆด้วย แกนนำเสื้อแดง ไปไหน หมด ทำไม ไม่ไปช่วยคน อ่ะ ห็นว่ารัก ชาติอิบอาย แล้วทำไมตอนนี้ ไม่รวมกลุ่มกันไปช่วย อ่ะ อยู่ไหน ๆๆ ทำไมหาย อัว ไปไหนกันหมด บอกหน่อยๆๆ เรื่องดีๆๆแบบนี้ทำไม ไม่ทำ ทำแต่ เรื่อง เผาเมืองอย่างเดียวเหรอที่เป็นอ่ะ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...