บินตรง"รัสเซีย" เสน่ห์หิมะแรกมอสโก

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>
</TD><TD vAlign=top align=right>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
หิมะแรกของฤดูหนาว

</TD></TR></TBODY></TABLE>ด้วยเวลา 10 ชั่วโมงของการเดินทางด้วยเที่ยวบิน ทีจี 974 สายการบินไทย จากประเทศไทย สู่สนามบินโดโมเด็ตโดโว กรุงมอสโก เมืองหลวงของประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย เชื่อมน่านฟ้าสองชาติให้มาใกล้กัน

ภายหลังจากเปิดเที่ยวบินแรกบินตรงสู่สหพันธรัฐรัสเซีย ไปเมื่อ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา เป็นโอกาสที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) นำคณะจากกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา นายระพินทร์ จารุดุล นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม

นายธีระสิน แสงรังษี ผู้จัดการกองบริหารงานข่าว ฝ่ายประชาสัมพันธ์ การบินไทย นางส่งศรี สุดโต ผู้อำนวยการกองสารนิเทศ นางชุศณา รังสฤษฎ์วิศรุต ผู้อำนวยการกองแผนงาน นางนิ่มนวล ตีรณะธรรม นักวิชาการเผยแพร่ 7 พร้อมด้วยสื่อมวลชน เดินทางไปทำความรู้จักกับประเทศรัสเซียอย่างใกล้ชิด เมื่อ 19-23 พ.ย.ที่ผ่านมา

ก่อนเดินทาง คณะเดินทางได้รับคำแนะนำให้เตรียมตัวรับสภาพอากาศของช่วงฤดูหนาว ส่วนเรื่องเงินตรา รัสเซียใช้รูเบิ้ล เทียบ 1 รูเบิ้ล เป็นเงินไทย 1.50 บาท ซึ่งถ้าแลกเป็นดอลลาร์หรือยูโรไปเปลี่ยนเป็นรูเบิ้ลจะสะดวกกว่า

สนามบินโดโมเด็ตโดโว ณ เวลา 16.30 น. อันเป็นเวลาท้องถิ่น แปลกตาด้วยหมู่ไม้ขึ้นเป็นทิวแถว สอบทราบว่านี่คือต้นเบโรว์ซ่า หรือต้นเบิร์ช ที่นำไปทำเยื่อกระดาษได้

รัสเซียหลังแตกตัวเป็นรัฐย่อยๆ ยังเหลือร่องรอยบรรยากาศของม่านเหล็ก ระหว่างรอเข้าเมืองเมื่อหยิบกล้องหวังเก็บภาพ ตม.ผมทองสาวสวย เปลี่ยนมาดเข้ม ห้ามถ่ายภาพ ทำเอายืนตัวเกร็งไปตามๆ กัน

ไกด์ท้องถิ่นสาวสวย ผมทอง "สเวียดตา รูบาโชวา" ยืนถือป้ายรอรับ พร้อมกับทักทายสวัสดีด้วยภาษาไทยสำเนียงรัสเซีย

อากาศเย็นเฉียบของมอสโกชำแรกผ่านเสื้อกันหนาวหลายชั้น ด้วยอุณหภูมิติดลบ 2 องศาเซลเซียส

มอสโกเป็นมหานครเก่าแก่แห่งหนึ่งของยุโรป และของโลก ประวัติศาสตร์ของเมืองเริ่มจากค.ศ.1147 เมื่อเจ้าชายยูรี ดอลโกรูกี (Yury Dolgoruky) สร้างเมืองบนเนินเขาริมแม่น้ำมอสโก สร้างป้อมปราการต่างๆ ซึ่งต่อมาเป็นพระราชวังเครมลิน ซึ่งแปลว่า "ปราการ"

มอสโกเป็นศูนย์กลางมหาอาณาจักรรัสเซียมาอย่างยาวนาน ใต้การปกครองของกษัตริย์ที่เรียกว่า "ซาร์" ก่อนที่จะเกิดการปฏิวัติที่นำโดยวลาดิเมียร์ อิลลิช เลนิน ทำให้รัสเซียกลายเป็นประเทศสังคมนิยมในปี 1917 <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ตำรวจรัสเซีย

</TD></TR></TBODY></TABLE>

รัสเซียเป็นคอมมิวนิสต์ จนมาถึงยุคนายมิคาอิล กอร์บาชอฟ จึงแตกตัวออกเป็นรัฐย่อยๆ ยุติความเป็นสหภาพโซเวียตตั้งแต่ปี 1991 หรือพ.ศ.2534

ปัจจุบัน มอสโกมีประชากร 10 ล้านคน ร้อยละ 30 มีอันจะกิน มีรถเก๋งขับ สภาพจราจรหนาแน่นตามประสาเมืองใหญ่

ปัญหาที่ตกทอดมาจากยุคโบราณและคอมมิวนิสต์ มีทั้งสภาพถนนแคบ การปลูกสร้างอาคารยึดแบบจากกรีก และโรม ไม่ได้ทำที่จอดรถเตรียมไว้ ทำให้ปัญหาจราจรหนักยิ่งขึ้น

บนถนนมีรถฮุนได แอลจี สัญชาติเกาหลี วิ่งโฉบเฉี่ยว ราคาน้ำมันที่เบนซิน 91 ลิตรละ 17 รูเบิ้ล เบนซิน 95 ราคา ลิตรละ 18 รูเบิ้ล คิดแล้วยังมีราคาสูงกว่าบ้านเรา

ส่วนใหญ่คนรัสเซียนิยมใช้รถไฟใต้ดินและรถเมล์ไฟฟ้าของรัฐมากกว่า

เช้าแรกเวลา 05.00 น. รัสเซียรับแขกด้วยปุยหิมะที่โปรยลงมาเป็นครั้งแรกของฤดูหนาวปีนี้ ถนนปกคลุมไปด้วยกองหิมะขาวโพลน อากาศเริ่มเย็นขึ้นอีก โดยติดลบ 3 องศาเซลเซียส

รายการทัวร์พระราชวังเครมลินเริ่มต้นขึ้น มีอายุยาวนานกว่า 850 ปี ปัจจุบันเป็นที่พักของประธานาธิบดี

วังเครมลินรวบรวมทรัพย์สมบัติของพระราชวงศ์ ทั้งเครื่องเพชร เครื่องประดับ มงกุฎเพชร สร้อยเพชร และทองคำ เงิน เครื่องแต่งกาย เครื่องทรงของพระสังฆราช เครื่องพิธีทางศาสนา ห้องเก็บศาสตราวุธ ปืนโบราณ เกราะ โล่ ทหารม้า เครื่องใช้ทองคำ

ต่อด้วยโบสถ์อัสสัมชัญ ใช้เป็นที่ราชาภิเษก งดการถ่ายภาพในบริเวณนี้ ที่นี่มีระฆังพระเจ้าอีวาน ซึ่งเป็นระฆังใหญ่ที่สุดในโลก พระเจ้าอีวานสั่งหล่อระฆังน้ำหนัก 200 ตัน เพื่อเป็นของขวัญให้ทหารที่รบชนะมองโกล ต่อมาในสมัยพระนางแคตเธอรีน เกิดไฟไหม้ ทหารระดมสาดน้ำดับไฟ ระฆังที่ไฟเผาจนร้อนเจอกับน้ำ ถึงกับแตก ส่วนที่แตกมีน้ำหนัก 11 ตัน

ใกล้ๆ กันยังมีปืนใหญ่ ตั้งหันปากกระบอกปืนไปทางอาคารที่ทำงานของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดี

ปืนกระบอกนี้มีน้ำหนัก 40 ตัน ใช้ลูกกระสุนหนัก 10 ตัน แต่เมื่อนำออกไปยิงกระสุนตกอยู่แค่ปากกระบอกปืน

ถัดมาที่พิพิธภัณฑ์พุชกิ้น รวบรวมภาพวาดของแท้จากศิลปินมีชื่อก้องโลก ฝั่งถนนอีกด้านเป็นที่ตั้งของวิหารเซนต์ เดอะซาเวียร์ เป็นอาคารโดมทองที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ของนักบวชนิกายออร์โธดอกซ์ มีภาพวาดประวัติของนิกายออร์โธดอกซ์ เป็นสถานที่ขอพร และใช้ประกอบพิธีแต่งงานสำหรับหนุ่มสาวชาวรัสเซีย

ส่วนสภาพความเป็นไปของรัสเซีย นายวีระชัย นพสุวรรณวงศ์ อุปทูตฝ่ายพาณิชย์ ประจำสถานทูตไทย ประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย ได้สรุปให้ฟังว่า

4-5 ปีที่ผ่านมา รัสเซียมีอัตราเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ที่ร้อยละ 10 อย่างต่อเนื่อง รายได้ประชากรดีขึ้น ประเทศไทยทำการค้ากับรัสเซีย โดยส่งเครื่องใช้ เครื่องตกแต่งภายในบ้าน อาหารกระป๋อง ผลไม้กระป๋อง อะไหล่ทีวี ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ และข้าว ซึ่งมีเวียดนามและจีนเป็นคู่แข่งสำคัญ

สินค้าที่ไทยนำเข้าจากรัสเซีย คือเทคโนโลยีระดับสูง การที่รัสเซียเพิ่งเปิดประเทศได้เพียง 15 ปี จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการกีดกันสินค้าสักเท่าไร

การเปิดเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ มารัสเซีย จะช่วยทำให้การท่องเที่ยวเติบโตขึ้น เพราะคนรัสเซียชอบเดินทางออกไปต่างแดนในช่วงฤดูหนาว

ที่นี่มีร้านอาหารไทย 4-5 แห่ง และเป็นที่นิยมมาก นอกจากนี้ ชาวรัสเซียยังชอบกินมะม่วงสุก ราคาขายในตลาดลูกละ 100 รูเบิ้ล ส่วนมังคุด เงาะ ลำไย ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน

มีคนไทยในมอสโกประมาณ 300 คน เป็นนักเรียนไทย 60 คน ส่วนมากมาเรียนวิทยาศาสตร์ อุปสรรคคือภาษารัสเซีย ซึ่งเป็นภาษาที่ยากมาก

โปรแกรมสัมผัสรัสเซียรายการต่อมา ก็คือการไปดูชีวิตผู้คน รถไฟใต้ดินเป็นบริการที่มีคนรัสเซียนิยมใช้มากที่สุด มีรูปแบบสถาปัตยกรรมโดดเด่น ซ่อนตัวอยู่ใต้ดินลึกถึง 150-200 เมตร บางแห่งมีอายุเก่าแก่ และใช้เพื่อหลบภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว

สถานีคอนสะบอมสะกาย่า ได้ชื่อว่าเป็นสถานีที่มีบันไดเลื่อนยาวที่สุดในโลก ความยาว 100 เมตร ที่ต้องระวังก็คือมิจฉาชีพรัสเซีย ซึ่งฉกกล้องดิจิตอลของคณะไปจนได้

ชีวิตประจำวันที่นี่ คือความเร่งรีบในการเดินทาง และยากจะหารอยยิ้มจากคนที่นี่ คนรัสเซียจะทำงานในเมืองช่วงจันทร์-ศุกร์ พอถึงวันหยุดจะเดินทางออกนอกเมืองเพื่อไปพักผ่อนที่บ้านชานเมือง ห่างออกไปประมาณ 40-50 ก.ม.

ถนนอาราบัต เป็นแหล่งช็อปปิ้งขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของกรุงมอสโก สินค้าที่น่าสนใจมีอย่างนาฬิการัสเซีย ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน แปลกตา เครื่องแก้วเจียระไน และผลึกแก้วรูปทรงต่างๆ ที่ใช้เลเซอร์ยิงสร้างภาพ ไว้ภายในผลึกแก้ว เป็นของฝากที่นักท่องเที่ยวยอมจ่ายเงินแลกมา

ที่จัตุรัสแดง ความยาว 700 เมตร กว้าง 130 เมตร ทิศตะวันตกติดพระราชวังเครมลิน ทางตอนใต้มีอาคารที่เรียกว่า ลอบโนเย ในอดีตเป็นสถานที่ที่พระเจ้าซาร์ จะทรงมีพระราชดำรัสต่อประชาชน เป็นที่ติดคำสั่งของทางการที่นี่ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นที่ทำการของวิทยุและโทรศัพท์ของรัฐ

วิหารเซนต์บาซิลเป็นอีกจุดที่พลาดไม่ได้ และถือเป็นสัญลักษณ์ของกรุงมอสโก และรัสเซีย ควบคู่ไปกับจัตุรัสแดง ตัววิหารประกอบด้วยโบสถ์ 9 โบสถ์

พระเจ้าอีวาน สั่งให้สร้างโบสถ์นี้ขึ้น ในช่วงปีค.ศ. 1555-61 เพื่อใช้สวดมนต์ และเฉลิมฉลองการยึดครองแคว้นคาซาน มีเรื่องเล่าว่าเมื่อสร้างเสร็จ ได้ทรงถามสถาปนิกว่าสามารถสร้างวิหารที่สวยงามกว่านี้ได้อีกหรือไม่ สถาปนิกตอบว่าทำได้ พระเจ้าอีวานจึงมีคำสั่งให้ควักลูกตาของสถาปนิกออก ไม่ให้ไปสร้างผลงานอื่นที่สวยงามกว่านี้

การถ่ายรูป เก็บภาพในมอสโก ยังเป็นเรื่องที่มีปัญหาอยู่บ้าง โดยเฉพาะในจุดสำคัญอย่างจัตุรัสแดง และวังเครมลิน ซึ่งเป็นสำนักงานของผู้นำประเทศ ตำรวจรัสเซียจะกรูกันเข้ามาอย่างไม่เป็นมิตร และออกอาการแปลกๆ กว่าเรื่องจะจบก็ใช้เวลาพอสมควร

หิมะตกหนาขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิลดต่ำลงไปถึง -5 องศาเซลเซียส ย่านช็อปปิ้งสำคัญอีกแห่งที่พลาดไม่ได้ คืออิสไมโลโว ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่สุดของมอสโก คล้ายๆ กับสวนจตุจักร คำแนะนำจากไกด์ก็คือ ให้ต่อราคาให้มากๆ ไว้ และให้สะพายกระเป๋าไว้ด้านหน้า เพื่อป้องกันนักล้วงกระเป๋า

โดยภาพรวม มอสโก และรัสเซีย เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ด้วยสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ มีแง่มุมให้เรียนรู้ศึกษามากมาย เสน่ห์ของชีวิตประจำวันในสภาพอากาศที่หนาวเย็น

ที่มา http://www.matichon.co.th