ประสบการณ์เกี่ยวกับฌาณ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย DuchessFidgette, 16 ธันวาคม 2013.

  1. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    [​IMG]

    ความจริงอยากโพสต์ในห้องอภิญญาเพราะเกี่ยวกับเรื่องการทำสมาธิ
    แต่ห้องนั้นห้ามโพสต์เพลงหรือวีดีโอคะ เลยโพสต์ห้องนี้แทน
    แค่อยากแนะนำ ทริกค์ที่ตัวเองใช้
    เพราะมีบางคนส่ง พี เอ็ม มาถาม

    ในกระทู้นี้จะเล่าถึงประสบการณ์เข้าฌาณและวิธีการฝึก
    กสิณกองต่างๆให้ง่าย ก่อนหน้าจะมาพูดถึงวิธีการฝึกกสิณ
    จะขอพูดถึงพื้นฐานการคิดมองโลกขงผู้จะเอาดีด้านเข้าฌาณ
    และสร้างนิมิตกสิณได้ดีเสียก่อน


    ดิฉันพบว่าพฤติกรรมของคนที่ชอบ ฟังเพลงบรรเลง
    นั้นเป็นสื่อที่ดีในการเข้าญาณได้เร็ว


    อันนี้เป็นแนวเพลงที่ดิฉันชอบฟัง ช่วยในการสร้างปิติ
    และ การสร้างสมาธิ, concentrate ได้ดี
    เหมาะเอาไว้ฟังเวลาจะสร้างสมาธิ หรือ สร้างนิสัยให้รู้จัก
    ทรงอารมย์ ใจจดใจจ่ออยู่เฉพาะกับเรื่องที่เราทำอยู่




    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ZMrmnB2LjjM]Two Steps From Hell - Moving Mountains - YouTube[/ame]



    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ASj81daun5Q]Two Steps From Hell - Protectors of the Earth - YouTube[/ame]



    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=DEHSSARxQIU]Skyrim (Main Theme) - Lindsey Stirling & Peter Hollens (Single) - YouTube[/ame]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2013
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    จะว่าเป็นอุปกรณ์เสริมก็ได้ครับ.เพราะเสียงเพลงใน
    ทำนองที่ตนเองชอบไม่ว่าจะเป็นบทสวดหรือแนวเพลงอะไรก็ตามแต่..
    เป็นการกระตุ้นให้จิตเกิดการสัมผัสก่อนในอันดับแรกในระดับ
    คลื่นความถี่ระดับใกล้เคียงกันคล้ายๆคลื่นความถี่ที่เราสัมผัสวิญญานได้
    แต่คลื่นความถี่ระดับวิญญานจะเข้าถึงยากกว่า.แต่ก็มีฐานบนความสงบเช่นกัน
    ..กรณีใช้เสียงพอจิตสัมผัสบ่อยๆจนชิน
    จะเป็นการเสริมทักษะการได้ยินให้กับจิตรูปแบบหนึ่ง.หรือเรียก
    ได้ว่าเป็นการสร้างจิตสัมผัสแบบหนึ่ง..ส่วนมากเราจะคุ้นๆว่า
    จิตสัมผัสจะเป็นการสัมผัสในส่วนของวิญญานเพียงอย่างเดียว

    ซึ่งในความเป็นจริง ยังมีสัมผัสจาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย อีกด้วย
    บางคนมองธรรมชาติ ดูรูปวาด แล้วจิตสงบ บางคนก็ชอบให้บีบนวดแล้วจิตสงบ
    บางคนได้กลิ่นหอมแล้วจิตสงบ ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจิตตนเองจะชอบแบบไหน
    และเข้าถึงสัมผัสแบบไหนตามแต่ที่เองชอบ..
    ซึ่งก็ต้องอาศัยความสงบของจิตก่อนเช่นกันในระดับเริ่มต้น
    ถึงจะสัมผัสได้.แต่ความสงบมาจากผลของการฝึกสมาธิ
    หรือการรักษาอารมย์ระหว่างวันแล้วสงบได้ชั่วคราวและเรามองว่าเป็นเครื่องมือ
    ในการเข้าสู่ความสงบประเภทหนึ่ง...
    และในความเป็นจริงหากเรามองที่กิริยาของจิต
    คำว่าจิตสัมผัสที่บอกก็ยังสร้างได้ในรูปแบบของการสัมผัสด้วย
    เสียงได้เหมือนกันแบบเราคาดไม่ถึงซึ่งเสียงก็เปรียบเป็นเครื่องมือประเภทหนึ่งเช่นกัน.

    กรณีนี้คือ พอจิตมีทักษะ
    สัมผัสเสียง..จิตจะเข้าสู่ความสงบหรือสงบด้วยการใช้เครื่องมือหรือ
    อุปกรณ์เสริมทางด้านเสียง
    ไม่ได้ใช้เครื่องมือทางด้านการฝึกสมาธินั่นหละ.
    ในหลักการอาจดูแตกต่างแต่กิริยาการ
    เข้าถึงความสงบคล้ายกันในเรื่องทักษะการสัมผัสก่อนในเบื้องต้นที่จะเข้าสู่ความสงบ
    คือจะด้วยเสียงหรือด้วยการรักษาอารมย์ที่เป็นผลมาจากการฝึกสมาธิ
    ประมาณนี้.หลายๆคนฟังบทสวดมนต์
    ที่ตนชอบหรือเพลงที่ชอบ.จริงเกิดความรู้สึกสงบได้ง่ายขึ้น.เร็วขึ้น
    เพราะจิตมีทักษะสัมผัสเสียงและหรือชอบและความถนัดมากกว่าการรักษา
    อารมย์จากสมาธิหรือระหว่างวันนั่นเองและหลายๆคนก็ใช้เครื่องมือ
    ในการเข้าสู่ความสงบแบบไม่รู้ตัวเองเฉยๆไม่ว่าจะ ทางการมอง การได้กลิ่น อะไรประมาณนี้หละครับ

    ปล.ส่วนตัวเรียกว่าอุปกรณ์เสริมหรือเครื่องมือในการเข้าสู่ความสงบครับ
     
  3. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    แนวเพลงที่ดิฉันนำมาให้ฟังนั้นเป็น แนวคลาสสิก ยุค บาโร๊ค คะ
    คือ มันจะไม่หวานๆเรียบๆไปเรื่อย เคยอ่านๆดูเค้าบอกคน
    ที่คิดค้นคนแรกแนวนี้ได้ยินมาจากเวลาฝันนะคะ
    และทำนองเพลงมันจะเน้นไปในแนว ภูติผี ปีศาจ จิตวิญญาณ
    สมัยนั้นคนยังรับกันไม่ค่อยได้ แต่ปัจจุบันก็กลายเป็นคลาสสิกแนวนึง


    edit -เพลงพวกนี้จะไม่มีเสียงนักร้อง และบรรเลงไปเรื่อยเห็นนักจิตวิทยาว่า
    คนที่ชอบฟังต้องเป็นพวกที่มีระบบความคิดไม่ยึดติดมาก
    ไม่งั้นจะทนฟังไม่ได้เพราะเพลงไม่มีไคร์แมกซ์ ไม่มีเสียงคน ไม่มีการอ้างอิง
    พูดเรื่องโลกๆ เรื่องความรัก แต่เป็นเพลงที่เกี่ยวกับจิตวิญญาณล้วนๆคะ
    เขาบอกว่าคนที่ชอบฟังแนวนี้จะเป็นคนฉลาดกว่าคนทั่วไป และสมาธิดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2013
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    แนวเพลงแบบนี้น่าจะคิดค้นขึ้นมาได้จากประมาณความฝันนั่นหละครับ..
    ส่วนถ้าทางบ้านๆเรา.จะได้ยินเสียงทำนองมาเป็นช่วงๆ.
    ไม่ว่าจะช่วงที่กำลังฝันหรือว่าคล้ายๆฝันนั่นหละครับ
    แล้วค่อยไปค้นหาทำนองเพลงทั้งหมดมาฟังภายหลัง.
    ส่วนตัวเคยพอได้ยินมาบ้างเหมือนกันครับ.
     
  5. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701
    ถ้ากล่าวถึง บุคลิก น่าจะมีส่วนสัมพันธ์กับการเข้าญาณได้ช้าเร็ว

    ถ้า บุคลิก ในที่นี้ หมายถึง ลักษณะตามหลักนรลักษณ์ศาสตร์ ว่าจะเป็นผู้ที่สามารถสำเร็จฌาณญาณได้ จะต้องมีลักษณะตามตำรา แม้กระทั่งศาสตร์ของโหราศาตร์จีน เรื่องโหงวเฮ้ง ก็มีกล่าวเอาไว้ ถึงลักษณะของคนที่มีตาทิพย์หูทิพย์ และอนาคตต่อไปจะนั่งสมาธิสำเร็จ

    มีลักษณะบ่งบอกไว้ชัดเจน ถึงลักษณะของหู ขอบใบหูมีลักษะดังกำแพงสวรรค์ คนผู้นั้นต่อไปเมื่อถึงเวลาฟ้ากำหนด ก็จะมีหูทิพย์ขึ้นมาเอง ซึ่งเป็นลักษณะติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด

    ถ้าผู้ใดสนใจอยากรู้ ก็ต้องเสาะหาผู้เชี่ยวชาญดูลักษณะโหงวเฮ้ง ว่าตนเองในอนาคตจะนั่งสมาธิสำเร็จได้หรือเปล่า
     
  6. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    แต่การจะได้ วิชาสาม, ญาณหยั่งรู้เวลาทั้งสาม, และญาณหยั่งรู้อริยะสัจ ยังต้องอาศัยการฝึกฝนที่ต่อเนื่องและบ่อยๆ ดิฉันเคยฝึกกสิณสี ใช้เวลาสามวัน เกือบๆทั้งวันในการให้ดวงกสิณติดตา แต่สียังไม่เปลียนนะคะ ยังคงเป็นสีม่วงอยู่ ซึ่งสีจริงคือสีแดง
    ซึ่งพูดกันตามจริง แม้จะยังไม่ได้ฤทธิ์อะไร แต่จากสิ่งที่เรียนรู้ และวิชาที่ลองฝึกมา ดิฉันรู้สึกว่า กสิณจะเป็นกองเดียวในการต่อยอดไปสู่การใช้ฤทธิ์ในอนาคต อย่างมโณยิทธิเนี้ยก็คล้ายๆกสิณ ในความรู้สึกดิฉัน
     
  7. Onarmol

    Onarmol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +964
    สนทนาแลกเปลี่ยนกันค่ะ

    ลองฟังแล้ว เรารู้สึกตื่นเต้นค่ะ มันลุ้นๆ จังหวะขึ้นๆลงๆ เหมือนดูหนังแนวผีๆ ตอนที่ผีออกที่เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ หรือตอนเหตุการณ์สยองขวัญ มันตกใจค่ะ 555555 โดยส่วนตัวเราฟังแล้วรู้สึกอึดอัดค่ะ คงเป็นที่คลื่นความถี่เสียงที่ทำให้เรารู้สึกจังหวะหัวใจเต้นเร็วๆรัวๆ เร็วแล้วช้า เหมือนกระชากๆ คิดว่าเป็นไปตามจริตความชื่นชอบของแต่ละคนค่ะ ซึ่งจะทำให้เราจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นๆได้นานๆ ไม่รู้เบื่อ สำหรับเราชอบแนวเพลงบทสวดสรรเสริญทางมหายานค่ะ แม้จะแปลไม่ออกก็ตาม เนื่องจากโดยส่วนตัวฟังแล้วรู้สึกจิตสงบ สดชื่น และเยือกเย็นดีค่ะ เหมือนไอเย็นอยู่รอบๆตัวเรา บางครั้งก็ฟังเสียงพระสงฆ์ที่ศรัทธาเคารพรักเทศน์ ฟังแล้วรู้สึกอิ่มเอิบใจ ฟังซ้ำๆได้ ไม่เบื่อ แถมอารมณ์ดีทั้งวันค่ะ

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=k_njCe8ehHU"]บทสวดมนต์เจ้าแม่กวนอิม - YouTube[/ame]

    มโนยิทธิ รวม หลายอย่างเลยค่ะ ทั้งพุทธานุสติกรรมฐาน กสิณสีตามภาพพระที่เราจับ อานาปานสติ คำภาวนานะมะพะทะ (หัวใจธาตุ) และเท่าที่ฟังคำครูบาอาจารย์มา ถ้าทำ กสิณให้ถึง ฌาน ๔ ให้ได้ หนึ่งกอง กองที่เหลือจะเข้าถึงได้ไม่ยาก ปัจจุบันยังไม่ถึงสักกองเลยค่ะ :':)':)'( คลานอยู่ค่ะ ตอนนี้เริ่มมาเจริญสติระหว่างวันค่ะ เพราะรู้สึกฟุ้งซ่านเยอะ

    เราคิดว่าบุคคลิก นิสัยที่มีความสัมพันธ์กับการเข้าฌาน และได้ญาณได้เร็ว น่าจะเป็นผู้ที่เป็นคนที่เอาจริงเอาจัง มีอิทธิบาท ๔ ทั้งนี้หากมีของเก่าทำมาดีก็จะง่ายขึ้น รื้อฟื้นได้เร็วค่ะ เฮ้อ ปกติไม่ค่อยจะตอบยาว ชอบอ่านมากกว่าค่ะ แต่ตอนนี้ระบบไม่ให้โพสต์ค่ะ เขาว่ามันสั้นเกินไป
     
  8. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เอาภาพกสิณแสงสว่างแบบใหญ่ๆมาให้คะ

    ครั้นเมื่อ เพ่งสมเด็จองค์ปฐมปางนิพพาน เพ่งไปเพ่งมา ตรงหน้าตักท่านเราจะเห็นว่าเหมือน
    มีแสงวาวๆสีขาวกระจายอยู่ ครั้นเพ่งนานๆ
    อาจจะด้วยการสร้างภาพพระนั้นยาก ไปไปมามาก็มาลง
    เอยกลายเป็นกสิณแสงสว่างดังรูปนี้ ง่ายกว่า เปิดเพลงให้ดังๆด้วยยิ่งดึงสมาธิได้ดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kasina.jpg
      kasina.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.5 KB
      เปิดดู:
      852
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2013
  9. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    มาเล่าเรื่องกสิณพระจันทร์ในป่าดำ

    [​IMG]


    เคยอ่านเจอนหนังสือคะว่า หญิงพรามณีชาวอินเดียคนนึง
    มาสอนวิธีทำกสิณพระจันทร์ ดิฉันก็เลยได้ลองทำตามดู
    ตอนนั้นได้มีโอกาสไปเที่ยวบ้านคนรู้จักที่เยอรมันซึ่งบ้าน
    ของเธออยู่กลางป่าในเขาที่ร้อมรอบไปด้วยต้นไม้สีดำๆ

    ดิฉันใช้วิธีนอนดูพระจันทร์บนหญ้าใกล้ๆป่าตอนกลางคืน
    พระจันทร์จะอยู่ที่บนหัวเราพอดี ตอนมันเต็มดวงจะเลื่อนๆ
    ไปตามกลีบเมฆ ดิฉันใช้วิธีเอาเพลงที่ลงนี้ใส่ซาวเบ้า
    แล้วมองพระจันทร์ไปเรื่อยๆ และพอเราจะใช้สมาธิสร้างเองก็
    กะเวลาว่า จะต้องประคองดวงกสิณให้อยู่ในตาแต่ละ
    ครั้งอย่างน้อยจนเพลงจบ

    ถ้ายังไม่ได้หรือบางทีมันก็เลื่อนเห็นแต่บางมุม
    บางทีก็ชอบสร้างพระจันทร์เป็นกสิณ แต่ไม่รู้ทำไม
    ชอบติดภาพแม่มด บินมาบังตรงกลางพระจันทร์ทุกที
    ก็ต้องเริ่มใหม่ ทำอย่างนี้ซ้ำๆไปเร่อยๆ
    ประคองให้ภาพนิ่งจนเพลงจบ




    ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    เด่วช่วยอธิบายเพิ่มเติมในบางประเด็น

    ถ้าว่ากันเรื่องบุคลิก.ตามๆที่ คุณ เจ้าคุณ ว่าก็เป็นวิธีการหนึ่งครับ.บางตำราว่าดูที่ลาย
    มือก็ได้.ส่วนที่น้อง Onarmol เข้าใจตอนนี้ก็ถูกนะ.เรื่องอิทธิบาท ส่วนตัวชอบใช้คำว่า ''ต้องฟิต'' ส่วนการกลับมาถ้าสามารถเข้าถึงฌาน ได้กองหนึ่ง
    ในความหมายที่พระท่านพูดหมายความว่า ..ต้องถึงขั้นที่เราสามารถอฐิษฐานจิตจนสามารถ
    บังเกิดผลขึ้นได้แล้ว..กสิณกองอื่นๆถึงจะกลับมาให้สามารถเรียกใช้งานได้
    ในขั้นแรกคือใช้งานได้ในนิมิตรก่อนนะ...แม้เราไม่ได้ฝึก
    ถ้าถึงฌาน แต่ยังอฐิษฐานไม่ได้.จะกลับมาแต่อุคคนิมิตรกสิณกองเก่าที่เราเคยฝึกมาก่อนได้ดี
    แต่มาในช่วงนี้จะกลายเป็นมาขวาง.และถ้าเราสามารถรวบรวมกสิณกลุ่มเดียวกัน
    ให้มันรวมกันได้และใช้งานได้..ถึงจะสามารถนำพลังงานกสิณขึ้นมาใช้งานจริงๆได้ใน
    ลักษณะแบบตาเปล่า.จับต้องและสัมผัสถึงพลังงานแต่ละกองได้ ตามลำดับ..
    ..แต่จะทำได้ดีขึ้น.ตอนนั้นเราก็ต้องมุ้งเน้นในเรื่องการฝึกอย่างเดียว.
    หมายความว่า.เราจะต้องมีเวลาว่างหรือไม่มีภาระอะไรทางด้านสมมุติด้วยประกอบกัน
    ถ้าไม่อย่างนั้น.การมาเจริญสติระหว่างวันไว้ก่อนนี่ก็ถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมไปในตัว
    อืมๆ คุณ Duss ฝึกมองภาพพระแบบลืมตาหรือครับ..ถ้าย้ำว่าถ้านะ.ลักษณะแสงสว่างเฉพาะสีขาว
    แบบนี้ในสภาพแวดล้อมเดิมๆที่เรานั่งฝึก.จะเกิดตอนเพ่งภาพพระแบบลืมตาได้.
    ต่อให้มืดๆที่ๆเรานั่งก็สว่างได้ครับแต่สว่างเฉพาะรอบๆตัวเรานะครับ.
    .แรกๆแหล่งกำเนิดแสงจะอยู่ในมุมสูงเยื้องๆไปทางด้านขวาของศรีษะก่อน

    ทำมุมประมาณ ๔๕ องศาจากศรีษะเรา..ถ้าพอเห็นได้ขนาด
    เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ คืบมือเรา ลักษณะแสงไม่ร้อนไม่เย็นเฉยๆ
    พอต่อไป.ทั้งวงกลมนี้และความสว่างของแสดงจะสามารถขยับไปทางด้านซ้าย
    มุมสูงแบบเดียวกันได้..หรือมาอยู่ตรงกลางศรีษะได้..
    ช่วงเวลานี้ยังสามารถมีความคิดได้แต่ไม่หลุดจากอารมย์.
    ถ้าวิเคราะห์เรื่องกำลังสมาธิน่าจะอยู่ระดับฌาน
    ต่อไปถ้านั่งอยู่ถ้าไม่เกิดแสงนะ.นั่งๆไปจะมีสถานที่ต่างๆ
    เข้าเลื่อนเข้ามาหาเราเองได้.แบบไม่ใช่ที่เราไปเอง.

    ตรงนี้นะครับเป็นระหว่างทางในกรณีที่เราฝึกมองภาพพระแบบตาเปล่า
    แต่ว่าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของที่เรียกว่า วิญญานธาตุได้ด้วย ที่จะเกี่ยว
    ข้องกับกสิณแสงสว่างแบบนี้หละครับ คือมองถาพพระ.แม้จะเป็นภาพพระรูปอื่นๆนะครับ..
    แต่ว่าจะเกิดเป็นกสิณแสงสว่างแบบนี้ได้.
    .จะไม่เหมือนการมองภาพพระแล้วหลับ
    ตาฝึกหรือลืมตาฝึกจนเห็นภาพพระใสแล้วอฐิษฐานจิตเพื่อให้เกิดผลนั่นอีกแบบ
    ครับแบบนี้ต้องฟิตจริงๆครับเหมือนที่น้องเค้าว่า อิทธิบาท ๔ นั่นหละครับ
    และขั้นตอนมันก็คล้ายๆกสิณกลางที่เราๆเข้าเคยเข้าใจหรืออ่านเจอตอนแรกครับ
    ..สำหรับกรณีอย่างนี้ขั้นต่อไปก็คือบังคับ
    ให้ดวงกลมๆสีขาวดวงนี้นิ่งหรือขยับตามใจเราให้ได้ก่อนครับ.เพราะ
    ส่วนใหญ่ถ้าวงกลมนี้ขยับเค้าจะขยับเอง.แล้วค่อยพัฒนาไปสู่การขยาย
    วงกลมหรือเพิ่มความสว่าง.

    .ก็จะเป็นการสร้างกำลังให้จิตมีเกิดฤิทธิ์ขึ้น
    มาได้วิธีการหนึ่ง..เทียบเท่ากับเราบังคับนิมิตรในกสิณกลาง(น้ำ ดิน ไฟ ลม อากาศ)
    ได้นั้นหละครับ..ถ้ามาถึงตรงนี้ ณ ปัจจุบันก็แสดงว่าใกล้แล้วครับ..แต่ต้องฟิต
    มาเลยนะครับ.บางครั้งทำ ชั่วโมงบังคับเค้าได้แค่ วินาทีก็ถือว่าดีแล้วครับ..
     
  11. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301

    ถ้าเป็นขณะเปิดตา ไม่ใช่ขณะฝึกมโณ กับฌาณหลับ
    หรือระหว่างหลับตานั่งสมาธิ มันจะชัดกว่าเปิดตานะคะ
    ทำยังไงดีให้มันชัดแบบตอนฝึกมโณ คะ? แบบใช้สมาธิ
    มากเลยคะ จนเหนื่อยเลยวันนี้ คุณนพว่าควรจะฝึกวันนึงนานเท่าไร?
    และดิฉันไม่ทราบว่า ปกติเต็มอึด มันจะมีอยู่ประมาณ สองนาที
    ก็ล้าสุดแล้ว ภาพก็จะหายไป นี้แบบเปิดตานะคะส่วนแบบ
    หลับตาอยู่ได้นานกว่า แต่ภาพส่ายชอบเปลี่ยนที่ ย้ายไปอยู่ ด้านซ้ายบนๆ

    ช่วงนี้ดิฉันว่างไปจนมีนา เพราะสอบเสร็จหมดแล้ว
    รอฟังผลไปสำภาทย์อย่างเดียว ถ้าไม่ผ่านก็โดนกลับบ้าน ที่เมืองไทย
    อยากไปฝึกโณยิทธิอีกรอบมากๆ .....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2013
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010

    อืมๆ.อ่อๆ คุณพอจะเข้าใจแล้วหละเหลือ
    ส่วนเทคนิคอีกเล็กน้อย..เอาทีและประเด็นนะ.
    ประเด็นแรกเรื่องเวลาในระดับนี้เราเลยขั้นที่จะต้องกำหนดว่าใช้ระยะเวลาในการ
    ฝึกนานเท่าไรแล้วครับเป็นช่วงที่เน้นเป้าหมายเพียงเพื่อการเข้าถึงอารมย์
    ให้อย่างน้อยเท่าเดิมหรือมากกว่าหรือไม่ได้เลยก็แค่จิตสงบก็พอครับ..
    เช่น เมื่อก่อนอารมย์นี้คุณใช้เวลา ๒ ชั่วโมงปัจจุบันคุณใช้เวลา ๕ นาที
    คุณก็หยุดได้แล้วครับ.เพราะถ้าไม่มีกิริยาอื่นๆต่อไป.หรือพัฒนาต่อไปเพื่อขึ้น
    วิปัสสนานั่งต่ออีกทั้งวันก็ไม่มีประโยชน์ครับเพราะเป็นการสร้างความเครียด
    ให้กับจิตตัวเองมันจึงไม่ได้ผลในลำดับต่อไป.และให้ออกมาเจริญสติต่อ
    เพื่อสะสมกำลังสมาธิเล็กๆน้อยต่อครับ.ซึ่งจะสอดคล้องกับที่จะแนะนำ
    ในประเด็นที่ ๒ ครับ.และหรือไปหาอย่างอื่นทำ..

    ..แต่ช่วงเวลาที่จะฝึกเป็นประจำควรบวกและลบกัน
    ไม่เกินครึ่งชั่วโมงครับ.โบราณเค้ามีความเชื่อว่าเทพเทวดาจะมาคอยเรา
    ก่อนและหลังเวลาเราจะฝึกอย่างละครึ่งชั่วโมงครับนี่รวมแม้กระทั้ง
    คนที่ชอบสวดมนต์ด้วยนะครับ..มันจะทำให้เรา
    ฝึกไปได้เร็ว และได้ผลดีสำหรับคนที่ชอบสวดมนต์ครับ.

    (ความจริงผมทราบสัญญานอะไร
    มากกว่านี้อีกแต่ยังไม่ถึงเวลาเหมาะสม
    ที่จะนำมาพูดครับ)
    ประเด็นที่สองเรื่องการฝึก...
    กรณีแบบลืมตา.ด้วยการมองภาพพระแป๊บหนึ่ง
    แล้วหันไปมองที่อื่นๆหรือมองหลอดไปแป๊บหนึ่ง
    แล้วให้ภาพปรากฏขึ้นในอากาศหรือที่ใดก่อนได้
    ในระดับนี้จะเป็นการฝึกสร้างกำลังให้จิตในระดับสมาธิเล็กน้อย
    เพื่อเป็นการฝึกทักษะให้จิตครับ.โดยปกติ
    เค้าจะใช้สำหรับช่วงกรณีฝึกการระหว่างวันเพื่อให้จิตคุ้นเคย
    ใช้หลักการเดียวกันนี้ได้สำหรับกสิณกลางที่มีลักษณะทางกาย
    ภาพไม่ใสก็ได้..มันจะสามารถยกระดับกำลังสมาธิไปถึงในระดับ
    ฌาน ๑ ได้.และจริงๆเวลาใช้งานแบบลืมตามันก็อารมย์
    ประมาณนี้หละครับ เราแค่รู้สึกว่ามันเบาเหมือนไม่มีอะไรแต่ในความเบา
    คือมันจะพรวดพลาดจากเล็กๆน้อยเพื่อสร้างภาพและเข้าสู่ความเป็นทิพย์
    ดึงขี้นพรวดพราดไป ๑ สูงสุด ๓ปลายๆสำหรับคนเก่งๆแต่เราแค่รู้สึก
    สงบเพราะว่ามันเร็วมากปกติถ้าไม่สังเกตุจะตามไม่ทัน.
    และทั่วไป ๑ คือตัดสิ่งรบกวนภายนอกได้ทุกอย่าง
    แต่ที่ยากไม่ใช่ตอนที่ใช้งานมันยากตรงที่
    ช่วงที่ต้องสร้างกำลังจิตให้ได้ก่อนนี่หละครับที่ว่าต้องฟิดมันถึงจะใช้งานได้..

    ประเด็นที่ต่อมา
    ถ้าฝึกแบบหลับตาก็ต้องฟิตครับเพราะเป้าหมายเพื่อการอฐิษฐานจิต
    ส่วนมากเป็นพระหรือต้องว่างจริงๆ.เพราะมันเป็นการเข้าสู่ระดับอารมย์
    ละเอียด.อย่างที่บอกครับเริ่มแรกต่อไปถ้าจิตพอมีกำลัง
    นิมิตรจะนิ่งๆได้ก่อนช่วงนี้อาจมีที่คล้ายๆกันแต่สวยกว่ามาหลอกให้เรา
    หลงนิมิตรอีก.และกว่าภาพจะถึงระดับปฏิภาคนิมิตรที่เริ่มมีความสว่าง
    ในตัวเองเราต้องผ่านอุคคนิมิตรหลายๆอย่างมาขวางเราอีก
    ถ้าแบบนี้ให้เน้นว้าเรามีเป้าหมายว่าถ้าฝึกอะไรแล้วแบบหลับตาเราต้องถึงจุด
    บังคับภาพตามใจเราให้ได้จะได้ ไม่กี่วิก็ช่าง.ความจริงเก่งแล้วนะครับไม่กี่วิเนี่ย
    เพื่อสร้างกำลังจิตต่อให้ได้อย่างเดียวถึงก้าวหน้าและจิตจะเกิดฤิทธิ์ได้อย่างที่เข้าใจ..
    บางครั้งนั่ง ชั่วโมงคุณบังคับนิมิตรกสิณที่ฝึกให้เปลี่ยน
    แปลงตามใจเราได้ ถึง วิ.ก็แทบลมจับแล้วคับ..๕๕๕ เพราะมันมีอีกทั้งด่านแช่กับนิมิตร ด่านโดนนิมิตรดูด
    ด่านทำอะไรไม่ได้ดูได้อย่างเดียวคอยขวางเราอยู่
    บางคนนั่งมาเป็นปีเป็นเดือนยังไม่เคยเห็นปฏิภาคนิมิตรก็มีครับไม่แปลกอะไร.

    ประเด็นสุดท้าย กรณีฝึกลืมตาแบบนั่งอยู่กับที่คือเพ่งภาพพระ
    นะครับ.ไม่ใช่พวกกสิณกลางเพราะกสิณพวกนั้นมองแล้วหลับตาเพื่อ
    ให้จิตสร้างภาพแล้วไปแล้วไปสู่ขั้นอฐิษฐานจิตให้ได้ถึงจะเกิดฤิทธิ์
    เรามองภาพพระแป๊บหนึ่งแล้วหันไปที่อื่นๆเพื่อตรวจสอบระยะเวลาที่จิตจะ
    รักษาภาพได้อยู่ครับ.ส่วนมากไม่นานหรอก.และเป็นเรื่องธรรมดา..แต่ถ้าฝึก
    แบบนี้ต้องมองหรือเพ่งภาพพระไปเรื่อยแบบไม่หลับตาครับ.ถ้าพอมีกำลังจิต
    มันจะเพ่งได้ตลอดแบบไม่ต้องกระพริบตาครับ.มองภาพพระไปเรื่อยคุณอาจ
    พังเพลงไปด้วยก็ได้หรือสวดมนต์บทที่ไม่ยาวไปเรื่อยๆก็ได้.เด่วซักพักจะมี
    เหมือนคนมาเปิดไฟนีออนส่องรอบตัวเองแบบไม่รู้ตัวได้เอง.และก็ค่อยมาบัง
    คับสีขาวๆที่ชอบเปลี่ยนต่ำแหน่งส่องแสงให้อยู่นิ่งๆให้ได้.รักษาเวลานานที่สุด
    เพิ่มความสว่างให้ได้ก็พอ.ช่วงนี้เข้าแบบนี้ให้ได้บ่อยๆ.เพียงพอครับ.
    และก็สามารถแนะนำได้ประมาณนี้หละครับช่วงนี้ถ้าแบบลืมตามองภาพพระนะครับ

    ปล.ช่วงที่ฝึกแบบนี้เด่วคุณจะสามารถมองเห็นส่วนนามธรรมหรือภพภูมิได้เองหละครับ
    ในระดับที่สูงไปเรื่อยตามลำดับของมันโดยไม่ต้องไปฝึก
    และอาจเริ่มใช้กสิณได้ในนิมิตรในบางกองก่อนครับ
    ส่วนจะเอามาใช้ได้จริงๆหรือเปล่าค่อยว่ากันอีกทีแต่จริงๆ
    เคยๆเขียนๆไว้แล้วหละครับ.​
     
  13. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    มาเล่าการปฏิบัติก่อนจะไปนอน เมื่อชั่วโมงก่อนดิฉันนั่งไปสมาธิมา
    เข้าฌาณจนถึงสภาวะไม่มีลมหายใจสามารถทำได้ในวลารวดเร็ว
    ประมาณหนึ่งนาที หลังจากนั้นก็สร้างกสิณพระและเปลี่ยนเป็นพระ
    แก้วเพ่งไปเพ่งมาจนชัดใสกิ๊กก็โดนดูดเข้าไปในแสงสว่างสีขาว
    ตัวก็ลอยขึ้นไปเรื่อยๆ จนมีอาการดิ่งเกิดขึ้น เหาะเหินสนุก
    สนานอีกตามเคย วันนี้แค่นี้ก่อนคะ ไปนอนแล้ว




    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701

    ญาณหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า มีผู้สำเร็จญาณแบบนี้ รวมทั้งสำเร็จฌาณมโนมยิทธิหรือฤทธิ์ทางใจ คือมองอะไรแล้วก็อธิษฐานให้เป็นอย่างนั้น มองของหนักให้เป็นของเบา มองของเบาให้มีน้ำหนัก ใคร ๆ ยกไม่ขึ้น

    ญาณและฌาณเหล่านี้ เกิดขึ้นกับผู้ที่มีบารมีสะสมมาตั้งแต่ชาติก่อน ๆ และติดตัวมาตลอดทุก ๆ ชาติ ผู้ที่มีความสามารถเช่นนี้ ส่วนมากแล้วบั้นปลายจะต้องไปบวชเป็นพระทุกคน

    ดังนั้นถ้าไปถามผู้ที่สำเร็จญาณฌาณ ก็มักจะตอบไม่ได้ถึงขั้นตอนการปฏิบัติ การฝึกสมาธิว่าทำอย่างไร เพราะญาณและฌาณเป็นของสูง เป็นของเบื้องบน เป็นความลับของสวรรค์ การจะเปิดฌาณญาณให้กับใคร เวลาใด เมื่อไร ก็ต้องเป็นมติของสวรรค์ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเอง โดยสวรรค์เป็นผู้กำหนด

    บางท่านฝึกตามตำราทุกอย่าง ก็ไม่มีทางสำเร็จ ต้องแล้วแต่ฟ้าจะลิขิต สวรรค์เป็นผู้กำหนดเท่านั้น
     
  15. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    วันนี้เพ่งกสิณพระจันทร์ดวงสีขาวใสชัดมากระหว่างเพ่งก็มี
    จุดแสงสีเขียวตองเหลืองวับขึ้นมาตรงกลางดวงจันทร์
    สีประมาณในรูปนี้คะแต่จุดศูนย์กลางมันมีรัศมีสีเหลือง
    เป็นประกายออกมาด้วย


    [​IMG]
     
  16. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    เดี๋ยวดิฉันจะไปนั่งสมาธิก่อนนอนละคะ มีเรื่องแปลกๆจากญาณ
    ที่บังเอิญส่งผลกระทบมาเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดในโลกความ
    เป็นจริงมาเล่าด้วย แล้วจะเล่าให้ฟังพรุ่งนี้ ตอนนี้ราตรีสวัสดิ์
     
  17. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    อยากแชร์ประสบการณ์กับคนอื่นๆที่ฝึกกสิณบ้างคะ
     
  18. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    มาเล่าทริคการเพ่งกสิณไฟคะ

    [​IMG]

    คือตอนนี้กสิณไฟดิฉันเริ่มเชี่ยวแล้วคะ ถึงขนาดเปลี่ยนสิ่งของ
    ให้เป็นสีตามสีแดงของกสิณ แต่ยังไม่ถึงกับเรียกได้ตลอด
    แต่ถ้าเรียกขึ้นมา ก็จะมีมาแต่ไม่ชัดนัก แต่เวลาเพ่งในญาณ
    อยู่ชัดๆได้ประมาณครึ่งชั่วโมง เลยทีเดียว ทั้งๆที่เริ่มสตาร์ท
    คือดิฉันเป็นคนถูกกับกสิณไฟมาก
    เดี๋ยวตอนนี้ขอตัวไปเพ่งต่อและจะกลับมาเล่าทริคให้ฟังคะ
    อาจารย์ของดิฉัน เป็นผีฝรั่งที่ดิฉันรู้จักคะ มาหาในฝันด้วยเมื่อคืน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2013
  19. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    ถ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงได้ น่าจะเป็นลักษณะของกสิณสีแดงมากกว่านะครับ ถึงเพ่งไฟแต่ไปจับที่สี ก็สามารถฝึกกสิณสีแดงได้เหมือนกัน เพราะไฟ มีสีแดง ลองสังเกตุเวลาเปลี่ยนสีเปลี่ยนได้ทีเดียวทั้งหมด ผลออกมาเป็นอย่างที่ใจต้องการทันทีหรือต้องคล่อยๆ เปลี่ยน ถ้ายังเปลี่ยนไม่ได้เร็วมาก หรือผลออกมาไม่เต็ม 100 ลองเพ่งไปที่สีแดงอีกสักรอบ แล้วลองใหม่ อันนี้พูดถึงกรณีเห็นนิมิตชัดเท่าตาเห็นหรือเกือบๆ ชัดเท่าตาเห็นแล้วนะครับ ถ้าสามารถทำให้ผลกสิณสีแดงเกิดได้ในนิมิต กสิณสีตัวอื่นไม่ยาก คล้ายๆ กันครับ
     
  20. mobilelizard

    mobilelizard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    558
    ค่าพลัง:
    +4,678
    มันส์ไปเลยซิครับ อิๆๆๆ ถ้าสามารถเห็นชัดเท่าตาเนื้อเห็นแล้วทำกสิณสีแดงให้เกิดผลตามที่ต้องการในนิมิตได้ ผมว่าโชคดีมากๆ เพราะเหมือนกับทำได้ทีเดียวอีก 3 กอง เลยเพราะคล้ายๆ กัน เดี๋ยวทำสีแดงคล่องไปลองทำสีอื่นดูได้ คล้ายๆ กัน อาจจะเคยฝึกมาในชาติก่อนๆ นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...