ประสปการณ์เดินสายบ้านผีที่ประเทศอังกฤษ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย com16, 11 ธันวาคม 2006.

  1. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    เรื่องมันเริ่มขึ้น ณ ออฟฟิศแห่งใหม่ของพวกเรา ไมลส์ วีฟเวอร์ เพื่อนสนิทขาวอังกฤษของผมที่ทำงานอยู่ที่นี่ เอ่ยปากชักชวนผมให้ไปเที่ยวหมู่บ้านของเขาซึ่งอยู่ห่างออกไปราวๆ สี่สิบไมล์ ซึ่งถ้าขับรถออกไปจากตัวเมืองก็จะตกราวๆ ชั่วโมงครึ่ง โดยปกติแล้วผมจะไม่สะดวกใจนักถ้าต้องเดินทางไปยังต่างถิ่นในที่ที่ไม่คุ้นเคยและต้องอยู่กับสังคมชาวอังกฤษที่ไม่คุ้นหน้า แต่ครั้งนี้ผมยากที่จะปฏิเสธเพราะว่ามันเป็นการท่องเที่ยวที่ท้าทาย เป็นการเยี่ยมเยียนบ้านเกิดของไมลส์ และเป็นโอกาสที่ดี ที่ผมจะได้สัมผัสเรื่องเหนือธรรมชาติ ที่อาจไม่เกิดขึ้นได้บ่อยนักเนื่องจากไมลส์ได้ชวนผมไปเดินสายบ้านผีที่บ้านเกิดของเขานั่นเอง

    ภาพ: ไมลส์ วีฟเวอร์ - เขาฝากบอกว่าเขายินดีคุยกับสาวๆ ถ้าใครอยากได้ msn ก็หลังไมค์มา
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2007
  2. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    ในการเดินทางครั้งนี้ ผมได้ขอร้องให้เพื่อนชาวไทยของผมคนหนึ่งในมหาวิทยาลัยใกล้เคียงไปกับผมด้วย คืนนั้นเป็นอีกคืนหนึ่งที่หนาวเย็นอีกคืนหนึ่งในประเทศอังกฤษ (คืนวันที่ 7 ธันวาคม 2006) พวกเราออกเดินทางจากเบอร์มิงแฮมไปยังเทนเบอรี่เวลส์ ราวๆ หนึ่งทุ่ม แม้จะมีข่าวทอร์นาโดเข้าลอนดอนในตอนเช้า แต่อากาศในช่วงเวลานั้นค่อนข้างเป็นใจให้การเดินทางของพวกเราเป็นไปอย่างราบรื่น ไมลส์ ขับรถนำผมไปยังบ้านของเขา ซึ่งถือว่าเป็น คันทรี่ ไซท์ หรือแถบชานเมือง ที่ยังคงอุดมไปด้วย ต้นไม้ ภูเขา และอากาศที่บริสุทธิ์

    ภาพ: แผนดาวเทียมแสดงเส้นทางการเดินทางจาก เบอร์มิงแฮมสู่ เทนเบอรี่เวลส์
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2007
  3. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    เมือง เทนเบอรี่ เวลส์ ยามกลางคืน ดูสงบเงียบและน่าอภิรมณ์กว่าแถบกลางเมืองเบอร์มิงแฮมมากนัก พระจันทร์ที่นี่จะแลดูมีขนาดเล็กกว่าที่ไทยและจะมีสีขาวจั๊วะ ซึ่งถ้าดูพระจันทร์ที่ไทยจะเห็นออกเป็นสีเหลืองนวลๆ พวกเราเดินทางไปถึงที่นั่นราวๆ สามทุ่ม คุณแม่ของไมลส์ ต้อนรับพวกเราด้วยแฮมแซนวิช ที่เติมความอร่อยด้วยการสอดไส้มันฝรั่งทอดกรอบ ดูท่าทางไมลส์จะเอร็ดอร่อยกับอาหารฝีมือของคุณแม่มาก ส่วนผมไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าไหร่เนื่องจากเส้นทางภูเขาที่คดเคี้ยวนั้นทำให้ไม่สามารถรับประทานอะไรลงไปได้อีก

    ภาพ: เมือง เทนเบอรี่ เวลส์ ยามค่ำ และพระจันทร์สีขาว (ที่ดูเหมือนหลอดไฟ)
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2007
  4. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    พอได้เวลาเราก็ไปพบกับคนอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นญาติๆ ของไมลส์ รวมๆ แล้วก็ตกประมาณสิบกว่าคนได้ที่จะไปร่วมผจญบ้านผีที่ผับแห่งหนึ่งในเมือง ผมไม่แน่ใจนักว่าการเดินสายบ้านผีที่ประเทศไทยมีขั้นตอนการเตรียมการอย่างไร แต่ที่นี่พวกฝรั่งทำเป็นระบบมาก โดยเริ่มจากการ presentation ง่ายๆ เกี่ยวกับ ประสปการณ์การเดินสายบ้านผีในครั้งที่แล้ว รวมไปถึงจุดประสงค์และแผนการของการเดินสายบ้านผีในครั้งนี้ ซึ่งแต่ละคนจะมีการเล่าประสปการณ์สั้นๆ เกี่ยวกับการเดินสายบ้านผีของพวกเขา

    ภาพ: บรรยากาศการประชุมสั้นๆ ก่อนเดินทางที่ผับแห่งหนึ่งในเทนเบอรี่
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2007
  5. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    ในการเดินสายบ้านผีทุกครั้ง เพื่อให้ลุแก่จุดประสงค์ และให้ปลอดภัยเราจึงว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้มาคอยนำทาง และคอยติดต่อกับวิญญาณเพื่อขอให้พวกเขาปรากฎตัว ซึ่งมิสเตอร์พีท ก็ได้รับการเชิญมาเป็นผู้เชี่ยวชาญในครั้งนี้ ในการเดินสายบ้านผีแต่ละครั้งพี่ชายของไมลส์จะเป็นผู้รับผิดชอบในการเสาะหาผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิญญาณ เขามักว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญต่างกันออกไป เนื่องจากเขาต้องการทราบถึงทักษะการติดต่อกับวิญญาณของแต่ละบุคคล

    การเดินสายบ้านผีในไทยมักจะมองข้ามขั้นตอนนี้ทั้งๆ ที่เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก การเดินสายบ้านผีส่วนใหญ่ที่ประเทศไทยมักขาดผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวด้วยกันเอง หรือแม้จะเป็นรายการทางวิทยุหรือโทรทัศน์ก็ตามก็เห็นได้ว่าไม่มีผู้เชี่ยวชาญคอยควบคุมอย่างใกล้ชิด อย่างดีก็มีเพียงทีมงานที่มีประสปการณ์ในการเดินสายบ้านผีคอยดูแล ซึ่งมีเพียงเครื่องรางของขลังติดตัวไปตามความเชื่อ และมักให้อาสาสมัครเสี่ยงภัยกันเอง ท้ายที่สุดแล้วนอกจากจะไม่ประสพผลสำเร็จเท่าที่ควร ยังจะเกิดอันตรายดังเช่นข่าวคราวที่หลายคนอาจเคยได้ยินได้ฟังมา

    ภาพ: มิสเตอร์พีท ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสื่อวิญญาณในการเดินสายบ้านผีครั้งนี้
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2007
  6. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    สถานที่แห่งแรกที่พวกเราได้ไปกัน คือโรงภาพยนตร์แห่งหนึ่งในเมือง เป็นโรงภาพยนตร์ที่ปัจจุบันกำลังปิดปรับปรุงเนื่องจากระบบเสียงเสียหาย ผมไม่แน่ใจนักว่ามีเรื่องผีเกิดขึ้นที่โรงภาพยนตร์แห่งนี้หรือเปล่าจึงได้ถูกเลือกมาเป็นหนึ่งในเส้นทางของการเดินทางครั้งนี้

    เมื่อพวกเราทุกคนเดินเข้าไปในโรงภาพยนตร์จนครบ มิสเตอร์พีท บอกให้หนึ่งในทีมของพวกเราให้ปิดไฟ เพื่อที่จะได้สัมผัสกับวิญญาณได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แล้วเขาก็ขอให้พวกเราเงียบที่สุดแล้วค่อยๆ เคลื่อนขบวนไปรวมตัวกันบนเวทีทางด้านหน้า เมื่อเสียงของพวกเราเงียบลง พวกเราก็สัมผัสกับสิ่งประหลาดได้ในทันที มีเสียงเก้าอี้ตัวหนึ่ง ดังเอี๊ยดอย่างช้าๆ เป็นจังหวะมาจากทางด้านหลังที่พวกเราเดินผ่านเข้ามายังหน้าเวที ทุกคนต่างกลืนน้ำลายเอื้อก แม้เราจะได้ยินเสียงของลมที่สัมผัสกับโรงภาพยนตร์ทางด้านนอก แต่ในโรงภาพยนตร์นั้นอากาศนิ่ง ไม่มีลมแรงพอแม้จะทำให้กระดาษแผ่นเล็กๆ ปลิวได้ แต่เสียงเก้าอี้นั้นก็ยังคงดังเป็นจังหวะเบาๆ แต่กังวาฬไปทั่วบรรยากาศอันเงียบเชียบในนั้น

    ภาพ: บรรยากาศในโรงภาพยนตร์ก่อนทำการปิดไฟ
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2007
  7. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    เมื่อพวกเราทุกคนขึ้นไปอยู่บนเวทีจนครบ มิสเตอร์พีทได้บอกว่ามีวิญญาณผู้หญิงตนหนึ่งอยู่บริเวณที่นั่งทางด้านหลังที่พวกเราเพิ่งเดินผ่านกันเข้ามา พวกเรามองตามกันไปแต่ไม่สามารถเห็นอะไรได้ แต่พวกเรายังคงได้ยินเสียงเก้าอี้จากบริเวณนั้นอยู่ เขาบอกให้พวกเราจับมือต่อกันเป็นวงกลมบนเวทีทำสมาธิอย่างผ่อนคลาย โดยที่มิสเตอร์พีทอยู่ตรงกลาง สักพักเขาก็พูดขึ้นมาว่า "ขอให้วิญญาณในบริเวณนี้แสดงตนออกมา ขอให้ท่านสร้างเสียง หรือสัมผัสผู้ใดผู้หนึ่งอย่างนุ่มนวล ขอให้ใช้พลังของพวกเราให้พวกเราได้เห็นว่าท่านมีตัวตนอยู่จริง" สักครู่หลังจากที่มิสเตอร์พีทพูดจบ ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในวงกลมนั้นก็พูดมาด้วยเสียงที่สั่นระรัวว่า มีใบหน้าซีดๆ ของผู้ชายคนหนึ่ง ยื่นออกมาจากฉากทางด้านซ้ายของเวที และจางหายไป

    ภาพ: หนึ่งในเบญจภาคี สุดยอดพระเครื่องของไทย ให้ไว้ก่อนจะได้ใจชื้นขึ้น
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2007
  8. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    พวกเราหันไปมองตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นพูด ผมสองจิตสองใจ กลัวก็กลัวนึกโทษตัวเองที่ไม่ได้ห้อยพระมาในวันสำคัญอย่างนี้ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากรู้อยากเห็นจึงหันไปมองตามที่ผู้หญิงคนนั้นพูดแต่ไม่พบอะไร มิสเตอร์พีทจึงถามไปยังวิญญาณตนนั้นว่าชื่ออะไรก็ได้ความว่าเขาชื่อแมทเลอร์ (ในวันต่อมาคุณแม่ของไมลส์บอกว่า ในปี 1940s มีพนักงานขายตั๋วชื่อแมทเลอร์อยู่จริงที่โรงภาพยนตร์แห่งนั้น) และมิสเตอร์พีทก็ยังคงบรรยายภาพที่เขาเห็นผ่านตาทิพย์ว่า มีวิญญาณเด็กสองคนวิ่งไปมาอยู่ตรงนั้น มีวิญญาณคนแก่ปากเหม็นฟันเน่ายืนอยู่บริเวณนี้ มีวิญญาณของหญิงสาวยืนอยู่ทางด้านหลัง จากนั้นเขาก็ให้พวกเราปล่อยมือกันและให้แยกย้ายกันไปนั่งกระจัดกระจายตามที่ต่างๆ ท่ามกลางความมืดของโรงหนัง เพื่อให้สัมผัสกับประสปการณ์ทางวิญญาณอย่างสูงสุด ผมเชื่อว่าหลายคนเมื่ออ่านถึงจุดนี้อาจสงสัยว่าผมกลัวไหม ผมตอบได้เต็มปากเลยว่ากลัวและไม่ค่อยเห็นด้วยนักที่มิสเตอร์พีทบอกให้นั่งกระจายๆ ออกไป

    ภาพ: พวกเรานั่งกระจายๆ กัน ในภาพคุณจะเห็นผู้กล้าเลือกที่จะอยู่บนเวทีที่เมื่อสักครู่มีผู้เห็นใบหน้าสีขาวยื่นออกมา ~เหวอ
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2007
  9. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    ท่ามกลางโรงภาพยนตร์ที่มืดมิด ผมพูดตามตรงว่าผมมองไม่ค่อยชัดสักเท่าไหร่ มันพอจะมีแสงสลัวๆ อยู่บ้างที่ช่วยทำให้มองเห็นได้ ผมนั่งตัวเกร็งทีเดียว มองไปรอบๆ เพื่อดูใครอยู่ที่ใดบ้าง มีเพื่อนของผมนั่งอยู่ข้างๆ ไม่ไกลนัก แถวด้านหน้าก็มีคนนั่งอยู่จำนวนหนึ่ง ฝั่งกำแพงทางด้านซ้ายไม่ไกลมากก็มีมานั่งอยู่สองคน มิสเตอร์พีทนั่งเยื้องไปทางด้านหน้าพอมองเห็นได้ถนัดตา ด้านหลังก็มีอยู่บ้าง ด้านกำแพงฝั่งขวาก็มีสองคน นับไปนับมา ชักสงสัย ก็ไอ้ที่จับมือกันเป็นวงกลมเมื่อสักครู่นี้มันไม่เยอะขนาดนี้นี่ นั่งกลืนน้ำลายเอื้อกๆ อยู่คนเดียว ด้วยสัญชาติญาณก็รู้ได้เลยว่าสองคนทางด้านฝั่งขวานั้นไม่ใช่คนแน่ๆ เพราะพวกเขานั่งกันนิ่งเหลือเกินนิ่งผิดปกติ และดูตัวยาวๆ กว่าคนธรรมดาสักหน่อย (ถ้าซื้อหวยก็ถูก เพราะเมื่อได้คุยเรื่องนี้กับคนอื่นหลังจากนั้น ก็ทราบว่าไม่มีใครนั่งที่นั่น และก็มีผู้เห็นเช่นเดียวกันกับผม)

    ภาพ: บริเวณที่มีเงาปริศนา (บริเวณที่นั่งติดกำแพงกลางภาพ) ที่ใครก็ไม่รู้มาช่วยนั่งเพิ่มจำนวน
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2007
  10. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182

    <!--MsgIDBody=10-->พวกเรานั่งกันอยู่สักพักใหญ่ๆ ผู้คนในทีมของพวกเราก็เล่าถึงความรู้สึกในขณะนั้นออกมาให้ทุกคนได้ยินกัน เป็นต้นว่า "ตอนนี้ฉันรู้สึกว่ามีคนนั่งอยู่ด้านหลังของฉัน" บ้างก็ว่า "ฉันรู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัว" ผมเองก็รู้สึกหนาวเย็นผิดปกติเช่นกันแต่ไม่ได้พูดออกมา เสียงเอี๊ยดอ๊าดของเก้าอีตัวหนึ่งก็ยังคงก้องอยู่แม้เบาแต่ก็คงเส้นคงวาบาดหัวใจดี พวกเราเงียบไปอยู่พักใหญ่ สักพักคนทางด้านหน้าก็โบกมือไปทางเวที ผมก็มองไปตรงนั้นเพื่อดูว่าเขาส่งสัญญาณอะไร หลายคนก็มองตามไปที่จุดเดียวกัน ผมเห็นไม่ถนัดนักเพราะมันมืดมากจนกระทั่งคนที่นั่งด้านหน้าของผมพูดออกมาว่า "เห็นนั่นมั้ย ที่หน้าเวที" เห็นอะไร? ผมรีบมองไปรอบๆ เพื่อจะมองให้ได้ว่าอะไร เพิ่งมาถึงบางอ้อก็ตอนที่คนที่โบกมือมันหายแว่บไปกับตา สรุปที่นั่งมองตั้งนานนี่ไม่ใช่คน ตอนนั้นไม่มีความรู้สึกกลัวเลย แต่ตื่นเต้นมากกว่า เฮ!

    ภาพ: เก้าอี้ตัวแรกข้างทางเดินบริเวณหน้าเวที ที่หลายคนเห็นคนโบกมือ และมาพบทีหลังว่าไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2007
  11. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    พวกเรานั่งอยู่อีกสักพัก มิสเตอร์พีทก็บอกว่าพอได้แล้ว และเอ่ยปากขอบคุณบรรดาวิญญาณทั้งหลายที่มาแสดงตัว เราก็ไปพักกันและเตรียมย้ายไปที่ต่อไป ผมได้เก็บภาพที่ถ่ายในโรงหนังไว้บางส่วน หลายภาพนั้นถ่ายติด orb ซึ่งเป็นภาพวงกลมที่หลายคนเชื่อว่าเป็นพลังงานของวิญญาณ ในขณะที่นักเล่นกล้องก็ยืนยันว่าเป็นเพียงแค่ฝุ่นที่สะท้อนกับแสงแฟลช ผมไม่ขอสรุปว่า orb คืออะไร เพราะเห็นคุณลุงที่โบกมือบริเวณหน้าเวทีแล้ว จะเป็นฝุ่นหรือจะเป็นพลังงานวิญญาณนั้นไม่สำคัญสำหรับผมอีกต่อไป

    ภาพ: Orb is all around ส่วนแสงจางๆ ทางด้านขวานั่นมันเป็นที่ตัวกล้องน่ะครับ (เอ๊ะหรือไม่ใช่)
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2007
  12. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182

    <!--MsgIDBody=12-->เราใช้เวลาประมาณสักชั่วโมงครึ่งในโรงภาพยนตร์นี้ จากพวกเราออกเดินทางกันต่อไปยังโกดังแห่งหนึ่ง โกดังแห่งนี้เดิมทีเป็นโบสถ์เก่า เจ้าของได้ซื้อโบสถ์และได้ทำการแปรสภาพให้เป็นโกดังเก็บของ สภาพของโกดังยังสร้างไม่เสร็จดีนัก ผมยังสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายจางๆ ของความเป็นโบสถ์อยู่ บรรยากาศตอนห้าทุ่มนั้นคงชวนให้รู้สึกไม่ค่อยดีนักถ้าต้องอยู่คนเดียวในที่แห่งนี้

    ภาพ: สภาพภายในโกดังสร้างใหม่ เป้าหมายแห่งที่สองของการเดินสายบ้านผี
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2007
  13. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    ผมและผู้คนในทีมส่วนหนึ่งเดินทางมาถึงโบสถ์แห่งนี้ก่อน ในขณะที่มิสเตอร์พีท และ ไมลส์เดินตามมาทีหลัง ไมลส์เล่าให้ฟังในวันรุ่งขึ้นว่า ระหว่างที่เดินทางไปยังโบสถ์มิสเตอร์พีทได้หยุดบนถนน แล้วมองไปที่แฟลทแห่งหนึ่งสักพัก แล้วเดินวนบริเวณนั้นสองสามรอบเหมือนสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง ซึ่งไมลส์บอกว่าเมื่อต้นปี 2006 นี้ ได้มีเหตุการณ์ฆาตกรรมเกิดขึ้นที่แฟลทแห่งนั้น มิสเตอร์พีทแม้จะไม่ได้เป็นคนท้องถิ่นที่เทนเบอรี่แต่เขาทำท่าเหมือนรับรู้เรื่องราวฆาตกรรมเหล่านั้นได้อย่างดีทีเดียว

    ภาพ: พวกเราจำนวนหนึ่งเดินทางล่วงหน้าไปยังโกดังก่อน
    [​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2007
  14. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    เมื่อถึงโกดังมิสเตอร์พีทได้ให้เราเข้าไปยังห้องด้านหลัง ซึ่งค่อนข้างแคบสำหรับคนจำนวนสิบกว่าคน อย่างไรก็ดีพวกเราก็เข้าไปได้จนครบ จากนั้นเขาก็ทำพิธีเชิญวิญญาณในที่ๆ แคบและมืดสนิทแห่งนั้น (มืดจนกระทั่งหลับตาและลืมตามีผลใกล้เคียงกัน) มิสเตอร์พีทเล่าในขณะที่ทำพิธีว่าเมื่อเดินเข้ามา มีวิญญาณของหญิงสาวอายุประมาณ 18 ปีเดินสวนออกไป เมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่นั้นเธอเพิ่งแต่งงาน และได้เสียชีวิตหลังจากการแต่งงานได้เสร็จสิ้นไปไม่นาน

    สักพักเขาก็ทำการสื่อวิญญาณเช่นเดียวกับโรงหนัง แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป มิสเตอร์พีทบอกว่า พลังงานลบจำนวนมากกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายคนในทีมรู้สึกปวดศรีษะ ส่วนผมไม่รู้สึกอะไรแต่รู้สึกอยากออกไปเหมือนกัน ไม่ค่อยอยากอยู่เท่าไหร่ มิสเตอร์พีทบอกว่า "ถ้าใครรู้สึกไม่สบายตัวล่ะก็ให้ถอยหลังออกไปก้าวหนึ่งหรืออธิษฐานว่าไม่ให้เอาพลังมาใส่ตัว" เขาเล่าต่อไปว่าโบสถ์แห่งนี้เต็มไปด้วยพลังงานร้ายๆ เพราะในสมัยก่อนผู้ที่เป็นผู้นำควบคุมผู้คนด้วยความหวาดกลัวในโบสถ์แห่งนี้ คนในทีมคนหนึ่งถามว่า "คุณพอจะบอกไหมได้ว่าคนผู้นั้นชื่ออะไร" มิสเตอร์พีทอธิบายว่าสิ่งที่เขาได้ยินนั้นคล้ายกับเสียงคลื่นของโทรทัศน์ จะได้ยินไม่ชัดเจนเหมือนคนคุยกัน วิญญาณตนนั้นมีชื่อว่า เฟรดเดอริก พอเอ่ยชื่อนี้ออกมาก็สร้างความฮือฮาในทีมได้พอสมควรเลยทีเดียว เพราะตรงกับประวัติของโบสถ์แถมผู้ที่ถามก็เป็นลูกหลานของเฟรดเดอริกนั่นเอง เพื่อความมั่นใจลูกหลานของเฟรดเดอริกก็ยิงคำถามที่รู้กันภายในครอบครัว เป็นต้นว่าให้บรรยายหน้าตา การแต่งตัว นิสัยใจคอ ฯลฯ ซึ่งมิสเตอร์พีทก็ตอบได้อย่างไม่ติดขัด สักพักหนึ่งหลายคนในทีมก็บ่นอุบอิบว่าสามารถรับรู้ได้ถึงรังสีอัมหิตไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว มิสเตอร์พีทจึงให้เปิดไฟ แล้วบอกว่าแปลกมากเขามองเห็นใต้พื้นที่เรายืนอยู่นี่มีศพเต็มไปหมด นี่มันสร้างโกดังทับสุสานเลยนี่! ทำเอาหลายคนที่ยืนอยู่บนแท่นซีเมนต์ถึงกับกระโดดเหยงเลยทีเดียว หนึ่งในทีมก็อธิบายว่า ส่วนที่พวกเรายืนอยู่นั้นเป็นส่วนต่อเติมออกมาจากโบสถ์ และก็มิสเตอร์พีทก็พูดได้ถูกตรงที่พวกเรายืนอยู่นี่เป็นสุสานจริงๆ เมื่อผมมองไปบนแท่นที่หลายคนยืนอยู่ก็สามารถจินตนาการได้ไม่ยากเลยว่าใต้นั้นต้องเป็นหลุมศพแน่ๆ พวกเรารู้สึกไม่สบายใจนักที่จะอยู่ต่อจึงตัดสินใจจบการเดินสายบ้านผีที่โบสถ์แต่เพียงเท่านั้น

    ภาพ: ห้องทางด้านหลังที่ถูกต่อเติมทับบนสุสานโดยไม่เอาศพออกไปก่อน ~เหวอ
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2007
  15. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    จากนั้นพวกเรากลับมายังผับ เรามีการประชุมย่อยๆ กันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น มีการบันทึก สรุปผล ประเมินผล เป็นเรื่องเป็นราวตามสไตล์ประชากรของประเทศที่พัฒนาและได้รับการศึกษาอย่างถูกวิธี นี่ขนาดเดินสายบ้านผีนะ มิน่าเล่าประเทศเขาถึงเจริญๆ เอา พวกเราคุยกันเกี่ยวกับสิ่งที่เราพบเห็น ความพึงพอใจของทริปครั้งนี้ พวกเราคุยกันอยู่พักใหญ่ๆ เรื่องเหมือนจะจบแล้วแต่ ยัง!

    ภาพ: ฝรั่งเขียนบันทึกเกี่ยวกับการเดินสายบ้านผี
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2007
  16. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    มิสเตอร์พีทได้โชว์พาวน์ต่อ บอกว่าพอเขามานั่งที่โต๊ะตัวนี้ก็ได้ยินเสียงคนเล่นโดมิโน่กันครื้นเครงเลยทีเดียว (ภายหลังเจ้าของผับบอกว่าเมื่อแปดปีที่แล้วตอนซื้อผับแห่งนี้ มีกล่องโดมิโน่กล่องใหญ่อยู่ภายใต้โต๊ะตัวนั้น) พวกเราคุยกันสักพัก มิสเตอร์พีทก็บอกว่าสามารถสัมผัสวิญญาณในผับได้อีกแล้ว เจ้าของผับจึงแนะนำให้เราลงไปทำพิธีกันที่ใต้ดิน ทำอะไรแล้วก็ต้องทำให้สมบูรณ์

    ภาพ: บรรยากาศห้องใต้ดิน
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2007
  17. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    เช่นเคย ไฟถูกปิดทุกอย่างตกอยู่ในความมืดอีกครั้ง มิสเตอร์พีททำพิธีเชิญวิญญาณโดยให้พวกเราทำสมาธิ สักพักเขาก็บรรยายว่าก่อนหน้านี้ ห้องนี้เป็นห้องเก็บเนื้อ มีตะขอห้อยเต็มเพดานเพื่อแขวนเนื้อ มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งโยนลูกบอลสีน้ำเงินเล่นอยู่ในห้องนี้ สักพักก็มีวิญญาณมา มิสเตอร์พีทถามว่าเป็นใคร ก็ได้ความว่าชื่อ อดัม มิสเตอร์พีท บอกว่าใบหน้าซีกขวาของอดัมนั้นเป็นรอยไหม้เละตุ้มเป๊ะยาวขึ้นไปถึงหัว คำบอกกล่าวนี้ทำให้สาวผมบลอนด์ในภาพด้านบนแทบกรี๊ด เพราะอดัมที่ว่านั่นเคยทำงานกับเธอที่นี่มาก่อนแล้วเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าวิญญาณของอดัมมาเราจึงเชิญวิญญาณของอดัมมาลงแก้ว หรือที่ไทยเรียกว่าผีถ้วยแก้วนั่นแหละ

    ภาพ: กำลังเตรียมพิธีผีถ้วยแก้ว
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2007
  18. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182

    <!--MsgIDBody=18-->พิธีผีถ้วยแก้วนี้ เรียกว่าเป็นพิธีแบบง่ายๆ ไม่ได้มีตัวอักษรเขียนไว้บนพื้นรอง เพราะเราต้องการให้วิญญาณนั้นเคลื่อนย้ายแก้วเพื่อพิสูจน์ว่ามีจริงเท่านั้น พวกเราจำนวนสีคนแตะไปที่แก้วคนละมุม ตอนแรกเราใช้ถาดสีดำที่เห็นในรูปเพื่อเป็นฐานรองแต่ดูเหมือนว่าจะมีความผิดพลาดทางเทคนิคคือวิญญาณไม่สามารถเคลื่อนแก้วได้ พอเราลองเคลื่อนแก้วกันเองก็เข้าใจวิญญาณได้อย่างดีเลยเพราะมันฝืดมาก
    พวกเราคนหนึ่งจึงไปหยิบบอร์ดรองที่เรียบกว่ามาจากข้างบนผับ

    สมัยอยู่ประเทศไทย ผมได้บังเอิญดูรายการมิติพิศวงเป็นตอนที่อาสาสมัครเล่นผีถ้วยแก้ว และในขณะที่เล่นนั้นเกิดทำนิ้วหลุดออกจากก้นแก้วแล้วเกิดอาการผีเข้าอย่างรุนแรง แต่ที่พิธีนี้ผมเห็นเขาแตะๆ ปล่อยๆ ไม่เกิดอาการที่ว่าแต่อย่างใดเลย อย่างไรก็ดีเมื่อเปลี่ยนเอาถาดสีดำออกเอาบอร์ดเรียบๆ มารองแทน พวกเราได้เห็นแก้วขยับได้ชัดเจน ทั้งวิ่งไปทางซ้าย วิ่งไปทางขวา หมุนไปหมุนมา มิสเตอร์พีทก็ตั้งคำถามประมาณว่า "ถ้ามีวิญญาณอยู่ในแก้ว ก็ให้แก้วหมุน" (ผมถ่ายวีดีโอไว้ด้วย ขอเวลาสักพักจะทำการอัพโหลดขึ้น youtube จะได้แบ่งปันประสปการณ์กัน) สักพักผมเห็นว่าปลอดภัยดีจึงขอลองบ้าง ผมบอก คนที่แตะแก้ว่าแตะให้เบาที่สุดและทุกคนก็ทำตามนั้น ผมสัมผัสแก้วแต่เพียงปลายเล็บเท่านั้นส่วนคนอื่นๆ ก็ทำเช่นเดียวกัน น่าอัศจรรย์ที่แก้วยังวิ่งได้ เหมือนกับมีคนตั้งใจผลักมันไป มีคนตั้งคำถามขึ้นมาว่า "ถ้าวิญญาณมันสามารถเคลื่อนย้ายแก้วได้ ทำไมเราต้องไปแตะแก้วด้วยเล่า?" ตรงนี้มิสเตอร์พีทอธิบายว่า วิญญาณมันจะแสดงได้ต้องมีสื่อ เหมือนกับที่เราต้องจับมือล้อมกันเป็นวงกลมเพื่อให้เกิดพลังงานสำหรับการปรากฎตัวของวิญญาณ ผีถ้วยแก้วก็เช่นกันต้องการคนเป็นสื่อพลังงาน พวกเราทดสอบกันสักพัก มิสเตอร์พีทจึงเชิญวิญญาณออก เมื่อวิญญาณออก ผมกับไมลส์ลองพยายามเคลื่อนย้ายแก้วนั้นด้วยแรงนิ้วของพวกเราดู แต่แก้วกลับไม่ลื่นไหลเหมือนตอนที่มีวิญญาณอยู่

    ภาพ: อาสาสมัครจำนวนสี่คนแตะที่ปลายแก้วคนละมุม
    [​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2007
  19. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    พวกเราก็ขึ้นไปบนผับหลังจากเสร็จพิธีผีถ้วยแก้ว ปู่ของไมลส์ก็บอกมิสเตอร์พีทว่าที่ผับนี้มีเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่ง มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาเดินไปเข้าห้องน้ำล้างมือ พอล้างมือเสร็จปิดก๊อกน้ำแต่เมื่อพอหันหลังเดินออกมาก็ได้ยินเสียงซู่ พอหันไปดูก็พบว่าก๊อกที่เพิ่งปิดกลับถูกเปิด ประสปการณ์นี้เกิดขึ้นกับปู่ถึงสองครั้ง จึงขอให้มิสเตอร์พีทตรวจดูว่ามีอะไรในห้องน้ำ มิสเตอร์พีทจึงไปทำพิธีเชิญวิญญาณในห้องน้ำ ช่วงนั้นเป็นช่วงตีหนึ่ง ผมก็เข้าไปด้วยถึงไหนถึงกัน

    มิสเตอร์พีทบอกว่ามีวิญญาณของผู้หญิงทำความสะอาดห้องน้ำอยู่ ยังคงวนเวียนอยู่ในห้องน้ำ ผมยอมรับตามความจริงตอนนั้นผมเบลอแทบหลับแล้วเพราะไม่ได้นอนมาหลายคืนเลยฟังที่มิสเตอร์พีทเล่าไม่ออก จากนั้นเราก็ย้ายไปห้องน้ำหญิง ซึ่งมิสเตอร์พีทก็บอกว่าเห็นผู้หญิงในชุดสีดำยืนอยู่ตรงนู้น เมื่อพวกเรามองออกไปเราก็ไม่ได้พบอะไร จังหวะนั้นเองไมลส์มันก็ร้องขึ้นมาว่ามีคนจับไหล่มันจากด้านหลัง ซึ่งไม่ใช่ใครเป็นผมนั่นเอง ผมง่วงมากในตอนนั้น

    ภาพ: บรรยากาศตอนสนทนา
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2007
  20. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    451
    ค่าพลัง:
    +1,182
    พวกเราย้ายกลับมาที่ห้องน้ำชายอีกครั้ง มิสเตอร์พีทบอกว่ามีวิญญาณอยู่หนึ่งตนเป็นหญิงแก่อยากให้ป้าของไมลส์มาดูเผื่อรู้จักว่าเป็นใคร พิธีดูวิญญาณใหม่ก็ถูกเริ่มขึ้น ภายใต้ความมืดในห้องน้ำนั้น มิสเตอร์พีทให้ป้าของไมลส์นั่งหน้ากระจก แล้วเขาก็เอาผ้าชุบน้ำบีบรดกระจกแล้วฉายไฟจากไฟฉายสลัวๆ แล้วบอกให้มองรูปตัวเอง ผมยืนอยู่ทางด้านหลังมองไม่เห็นอะไร แต่ผู้ที่เห็นร้องอย่างตระหนกว่าเห็นหน้าของป้าเปลี่ยนไป จากเดิมที่แก่อยู่แล้วกลับแก่มากขึ้นอีก ป้าของไมลส์ก็เช่นกัน รู้สึกว่าตัวเองแก่ลงไปในทันที จากนั้นมิสเตอร์พีทก็ให้สาวผมบลอนด์มาทำดูบ้าง (คนเดียวกับที่อยู่ในภาพบรรยากาศห้องใต้ดินนั่นแหละ) เผอิญผมมีโอกาสเห็นอย่างใกล้ชิดเสียด้วย หลังจากที่มิสเตอร์พีทเอาผ้าชุบน้ำรถบนกระจก ผมไม่ทราบว่าเพราะน้ำบนกระจกมันบิดเบือนภาพให้ดูน่ากลัว หรือเพราะห้องมันน้ำมันมืด หรือเป็นเพราะผมง่วงมากๆ หรือทุกอย่างรวมกัน ในวินาทีหนึ่งผมเห็นหน้าของสาวผมบลอนด์คนนั้นน่าเกลียดมากๆ ผมจากบลอนด์ยาวผมเปลี่ยนเป็นสีดำหยิก หน้าจากเรียวๆ เปลี่ยนเป็นเหลี่ยมๆ คล้ายๆ ท่านทักษิณ ตาโตแบบเบี้ยวไปเบี้ยวมา จมูกแหยะๆ สยองมาก เผลอร้องเฮ้ยออกมา ทำให้หลายคนสะดุ้งโหยง มิสเตอร์พีทบอกว่า ชาติที่แล้วเธอคนนี้เป็นแม่มดทางฝ่ายร้าย ภาพนั้นคืออดีตชาติของเธอนั่นเอง

    หลังจากเสร็จพิธีนี้ หลายคนก็ขอตัวแยกย้ายกันกลับบ้านผมก็เห็นว่าได้เวลากลับเช่นกันเพราะต้องนั่งรถจากเทนเบอรี่กลับมาที่เบอร์มิงแฮม ไมลส์ไม่ดื่มไวน์หรือแอลกอฮอล์เลยเพราะต้องขับรถ ฝรั่งไม่ได้กลัวตำรวจเหมือนคนไทย แต่เขาอดได้เพื่อความปลอดภัยของชีวิต

    ผมก็ขอจบเรื่องการเดินสายบ้านผีที่ประเทศอังกฤษไว้แต่เพียงเท่านี้ ในวันที่ 27 มกราคม 2008 ที่จะถึงนี้ผมจะไปเดินสายบ้านผีอีกครั้ง (ชักติดใจ) ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานที่นักว่าจะเป็นที่ทั่วๆ ไป หรือจะเป็นที่ ที่มีชื่อเสียง ถ้าผมมีโอกาสได้ไปจะมาโพสเล่าให้ฟังอีกครั้งครับ หวังว่าทุกคนคงจะสนุกเพลิดเพลินไปกับประสปการณ์อันน่าตื่นเต้นที่ผมพบเจอมาในครั้งนี้นะครับ สวัสดี

    ภาพ: สายรุ้งที่อังกฤษมักเกิดขึ้นบ่อยๆ สามารถมองเห็นได้จากออฟฟิศแห่งใหม่ที่ผมทำงานอยู่
    [​IMG]
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2007

แชร์หน้านี้

Loading...