ปัญหาการฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง

ผมขออนุญาตเล่าประสบการณ์การฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง เมื่อวันเสาร์ที่ 16 ธ.ค. 2566 ณ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี (มีจัดการฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง วันที่ 16 - 18 ธ.ค. 2566) โดยรับฟังขั้นตอนต่างๆ ตามที่พระอาจารย์ที่ควบคุมดูแลแนะนำก่อนเริ่มการฝึก สวดมนต์ สมาทานศีล สมาทานพระกรรมฐาน สื่อบันทึกภาพและเสียงของหลวงพ่อฤาษีฯ สมัยที่ท่านยังดำรงขันธ์อยู่ให้ฟังและกล่าวตามครับ (นำกระดาษมันสีขาวทรงสามเหลี่ยมที่มีตัวอักษรยันต์พิมพ์สีทอง คำว่า นะโมพุทธายะ ปิดหน้าตรงหน้าผาก โดยลักษณะยอดสามเหลี่ยมคว่ำลง)

เริ่มการฝึก

- นั่งขัดสมาธิหลับตาลง บริกรรมคำภาวนาในใจว่า นะมะพะธะ พร้อมกับกำหนดลมหายใจเข้าออกตามที่ได้รับคำแนะนำ นั่งไปสักพัก รู้สึกว่า จิตรวมสงบลงแล้ว

ปรากฎว่า ร่างกายค่อยสั่นไหวเริ่มจากขาที่นั่งขัดสะหมาด จากเบาๆค่อยๆ แรงขึ้นๆ จนสั่นไปทั้งตัว ขนลุกซู่ ผมพยายามรักษากำลังและดำรงสติไว้ ขณะเดียวกันก็ภาวนา นะมะพะธะ ไปด้วยตลอด แต่มันถี่ขึ้นเร็วขึ้น จนรู้สึกว่า มีน้ำมาโดนตัว (เข้าใจว่าเป็นน้ำมนต์ที่พระสงฆ์ท่านประพรม) อาการสั่น ค่อยๆ เบาลงๆ จนนิ่งสงบ

ลมหายใจค่อยๆ เบาลง และละเอียดมากขึ้น มีความรู้สึกเหมือนมีแสงสว่างจากขอบตาด้านล่างที่หลับตาอยู่ ความรู้สึกของใจบอกอย่างนั้น จากนั้นอธิษฐานขอบารมีพระ บารมีหลวงพ่อฤาษีฯ ขอพรท่านนำพาไปพระจุฬามณี แต่ยังมืดๆมัวๆ สักครู่ จึงรู้สึกสัมผัสได้ด้วยใจว่า มีภาพคล้ายๆหน้าจั่วยอดแหลมเหมือนบ้านทรงไทย หรือวิหารอุโบสถตามวัดนี้ละครับ แต่ภาพไม่ชัดเจนสภาพเหมือนคืนเดือนมืดไม่มีไฟสองสว่าง

จากนั้นผมน้อมระลึกถึงพระสมเด็จองค์ปฐมปางพระนิพพาน (พระวิสุทธิเทพ) ปรากฎองค์ท่านทรงนั่งอาสนะบัลลังก์ องค์ท่านทรงแก้วใสสีขาว (เหมือนกับที่ทางวัดให้เช่าบูชา) แต่มืดๆมัวเหมือนเดิม ซึ่งใจรู้สึกว่า เป็นองค์ท่าน จากนั้นภาพก็เลือนหายไป

ปรากฎเป็นภาพองค์พระพรหมองค์สีทองขึ้นมาแทน รูปองค์ท่านเหมือนท้าวมหาพรหมที่อยู่แยกราชประสงค์กรุงเทพฯ ทรงนั่งแท่นบัลลังก์ ถือศาสตราวุธ โดยรู้สึกด้วยใจว่า เหมือนเห็นท่านในเวลากลางคืนเดือนมืด เพียงใจรู้ว่า เป็นองค์ท่าน

ขณะเดียวกัน กายสังขารเกิดเวทนาขึ้น ปวดขาปวดหลังถัดจากต้นคอลงมาเล็กน้อย ผมพยายามประคองรักษาอารมณ์ไว้ แล้วอธิษฐานขอบารมีพระ บารมีหลวงพ่อฤาษีฯ ลูกเบื่อหน่ายการเกิดแล้ว สังขารมันเป็นทุกข์ ขอบารมีหลวงพ่อฤาษีฯ โปรดเมตตาสงเคราะห์ช่วยพาลูกไปพระนิพพานด้วยครับ เพียงเท่านั้นภาพองค์ท้าวมหาพรหมท่านก็หายไปทันที เวทนาร่างกายค่อยๆคลายลงเบาลง สภาวะอารมณ์ดิ่งนิ่งสงบ จนกระทั่งได้ยินเสียงพระอาจารย์ท่านประกาศออกไมโครโฟนยุติการฝึก แต่ผมยังออกจากสมาธิไม่ได้ในทันที ต้องนั่งกำหนดจิต ค่อยๆถอยออกมา สักครู่หนึ่ง จึงลืมตาขึ้นตามปกติ (มีคราบน้ำตาไหลข้างๆ) ครับ

เมื่อพร้อมเพรียงกันแล้ว พระอาจารย์ท่านก็เปิดบันทึกภาพและเสียงหลวงพ่อฤาษีฯ นำอุทิศส่วนกุศล เป็นการเสร็จพิธีการฝึกในวันแรก จะมีการถวายสังฆทานตามแต่ศรัทธา การฝึกใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงครับ

*** ผมเพิ่งไปฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลังเป็นครั้งแรก (ฝึกเพียง 1 วัน วันอาทิตย์มีภารกิจจึงไม่ได้อยู่ฝึกต่อครับ) และยังไม่เคยฝึกมโนมยิทธิแบบครึ่งกำลังมาก่อน จึงขอความกรุณากัลยาณมิตรท่านผู้รู้ทุกท่าน โปรดกรุณาแนะนำแนวทางการฝึกฝนมโนมยิทธิด้วยครับ จะเป็นพระคุณและความกรุณาอย่างสูง ขอบคุณครับ