เรื่องเด่น ปาฏิหาริย์พระบรมธาตุที่ยอดเขาพระพุทธบาท : หลวงพ่อปาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 6 เมษายน 2017.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    17796124_1751383218508943_6165909763709471220_n.jpg


    มื่อเวลาใกล้ค่ำ คณะห้าธุดงค์มีหลวงพ่อปานเป็นประมุข ต่างก็หาที่ปักกลดตามที่ตนเห็น สมควร เมื่อปักกลดเสร็จ ทำวัตรสวดมนต์ตามระเบียบของพระที่เดินไปหาที่ตายเพราะอยู่วัดสบายกว่า ท่านเดินไปกันอย่างชนิดไม่ทราบว่าอาหารมื้อหน้าหรือมื้อนี้จะมีที่ไหน ไม่มีใครสนใจเรื่องอาหาร เพราะคิดว่าตายเดี๋ยวนี้ไปนิพพานเดี๋ยวนี้ ไปนิพพานดีกว่าอยู่เป็นพระกินข้าว เมื่ออารมณ์ทุกท่านเป็นอย่างนี้ นอกจากหลวงพ่อปานท่านปรารถนาพระโพธิญานอย่างเดียว แต่ท่านก็มีชั้นดุสิตเป็นที่ไปเป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว สมัยก่อนท่านสอนไปนิพพานช้า ไม่ใช่โตแล้วเรียนลัด แต่ท่านหวังผลแน่นอน ถ้ามีอารมณ์ถึงสวรรค์ชั้นกามาวจร ท่านก็สอนให้ไปชั้นที่ตัวมีวาสนาถึงเป็นประจำเพื่ออารมณ์จะได้ผูกพัน เมื่อตายอารมณ์จะแจ่มใส มีที่ไปแน่นอน หรือท่านองค์ใดไปพรหมตามกำลังฌานได้ ท่านก็ไปของท่านเป็นประจำ พวกที่เบื่อสวรรค์กามาวจรหรือพรหม มีอารมณ์ถึงพระนิพพาน ถ้าได้มโนมยิทธิต่างก็ไปนอนนิพพานเป็นปกติ ตอนนี้พวกนักธรรมอาจจะสงสัยว่านิพพานนี่สูญนี่เจ้าประคุณ ไปนอนกันได้อย่างไร เอาอย่างนี้นะขอตอบแบบนักเทศน์ก่อน เพราะนักธรรมเป็นพวกนักเทศน์ เมื่อนิพพานสูญเรามีอารมณ์ถึงนิพพานได้และได้ มโนยิทธิ เราก็ไปนอนมันที่สูญตามที่เราเข้าใจ มันจะสูญแบบหมดไปเหมือนกระดาษเผาไฟ หรือสูญจากอำนาจกิเลสตัณหาก็ตามใจเถิด นอนมันตรงนั้นแหละ ทีนี้ถ้าตอบอย่างนักปฏิบัติตามลำดับคำสอน ก็ไม่มีอะไรยาก เราไปสวรรค์ได้ไปพรหมได้ ทำไมจะไปนิพพานไม่ได้ ถ้าอารมณ์เราละเอียดพอที่จะเข้านิพพานได้ ถ้าสงสัยเชิญทำให้ถึงจะหมดสงสัยเอง นักปฏิบัติต้องค้นคว้าด้วยการทำจริง ไม่ควรยึดอุปาทานที่ได้ยินได้ฟังมาเป็นหลัก ถ้าคิดอย่างนั้นไม่มีทางถึงอะไรเลย

    คุยฟุ้งไปเสียนาน ลูกหลานคงอยากฟังเรื่องพระบรมธาตุแสดงปาฏิหาริย์กันแย่แล้ว ฉันมันคนแก่ ลงได้บ่นอะไรแล้วก็มักจะบ่นเลอะเทอะเสมอ พวกลูกหลานจงจำไว้เมื่อเวลาที่เธอแก่ลงมากแล้ว อย่างไหนที่ฉันทำไว้หรือคนแก่คนอื่นทำไว้เห็นว่าไม่ดีจงอย่าลอกแบบไปทำ จงเป็นคนแก่ที่ทรงอารมณ์ปกติ ดีกว่าเป็นคนแก่ขี้บ่นอย่าฉัน ฉันคงรักพระพุทธศาสนามากไปกระมัง เรื่องของฉันเองไม่ใคร่บ่น แต่เห็นใครทำให้พระศาสนาผันแปรฉันอดบ่นไม่ได้ ถ้ารำคาญจงคิดว่าเราฟังเสียงลิงของหลวงพ่อบ่นให้ฟังก็แล้วกัน และจงภูมิใจที่ฟังเสียงสัตว์ดิรัจฉานรู้เรื่อง คงจะโก้กว่าคิดว่าฟังเสียงตาแก่บ่น

    เมื่อยามค่ำมาถึงเวลาประมาณ 20 น. อากาศกำลังสบาย ท่านเรียกพระเข้าประชุม ให้ทุกองค์ทรงพุทธานุสสติกรรมฐานจนอารมณ์ทรงฌานตามความพอใจของท่าน ท่านตรวจของท่านรู้ ไม่ต้องมานั่งถามให้ลูกศิษย์โกหกอาจารย์ เมื่อท่านพอใจแล้วท่านสั่งให้ทุกคนถอนออกจากฌาน ตั้งอารมณ์อยู่อุปจารสมาธิ เรื่องนี้เป็นเรื่องปกติของพระชุดนั้น เมื่อทุกองค์ทรงอุปจารสมาธิพร้อมแล้ว ท่านเปล่งวาจาดัง ๆ ว่า ด้วยข้าฯ เคยบำเพ็ญบารมีมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ถ้าการบำเพ็ญบารมีนี้จะเป็นปัจจัยให้ข้าฯ ได้บรรลุพระโพธิญาณในอนาคตแล้ว ขอสมเด็จองค์พระประทีปแก้วสัมมาสัมพุทธเจ้า โปรดแสดงปาฏิหาริย์ให้เป็นมหัศจรรย์ จะเป็นปาฏิหาริย์อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ตามแต่พระพุทธองค์จะทรงเมตตา เพื่อปลูกฝังศรัทธาของพระที่ร่วมเดินทางมา ณ บัดนี้เถิดพระพุทธเจ้าข้า แล้วท่านก็เข้าสมาธิ บรรดาลิงหน้าพลับพลาทั้งหลายก็เข้าสมาธิบ้าง เรียกกันตามภาษาชาวบ้านว่าพยายามขี้ตามช้าง เมื่อเห็นช้างขี้ลิงก็ขี้บ้าง แต่ทว่าจะขี้ก้อนเท่าช้างหรือไม่ ไม่สำคัญ ขอให้ขี้อย่างช้างได้ก็แล้วกัน เมื่อต่างคนต่างขี้ตามช้าง เวลาผ่านไปไม่ถึง 2 นาที ก็ปรากฏเป็นดวงดาวดวงใหญ่ ประมาณว่าผ่าศูนย์กลางสัก 200 เซนต์กว่า ใหญ่เหลือเกิน ขึ้นมาจากยอดเขาที่พระพุทธบาท มี 3 ดวงด้วยกัน มีแสงสว่างมาก หลวงพ่อปานมีคำสั่งให้บรรดาลิงหน้าพลับพลาทั้งหลายลืมตาชมพระพุทธบารมี ดวงดาวดวงนั้นตั้งอยู่ที่ยอดเขานานประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วก็ลอยวนรอบเขา 3 รอบ แล้วมาตั้งอยู่ที่พระพุทธบาทนานประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วค่อย ๆ เลื่อนไปที่เดิมอย่างช้า ๆ หลวงพ่อปานท่านกราบ พวกลิงหน้าพลับพลาก็กราบ กราบด้วยอารมณ์ปีติชุ่มชื่น เมื่อดวงดาวหายเข้าที่เดิม หลวงพ่อสั่งเจริญพุทธานุสสติตลอดเวลาที่ตื่นอยู่ ลูกหลานทั้งหลาย พระที่ไปคราวนั้นแต่ละท่านบอกว่าเกิดธรรมปีติบอกไม่ถูก ตลอดคืนไม่มีใครหลับ อารมณ์โพลงตลอดคืน อารมณ์สมถะและภาวนาแจ่มใสกว่าที่เคยทำมาแล้วหลายเท่า เชื่อมั่นในพระพุทธศาสนาอย่างไม่มีอะไรสงสัย เชื่อมั่นในหลวงพ่อปานว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีบารมีแก่กล้าจริง ความเชื่อ 2 ประการนี้เป็นผลใหญ่ ทำให้ไม่มีใครหลับ เมื่อไม่หลับก็ต้องออกเที่ยวเป็นการสร้างความเพลิดเพลินให้แก่อารมณ์ การเที่ยวไม่ได้เที่ยวป่า ด้วยเกรงว่าเสือจะอ้วนเร็วเกินไป สถานที่เที่ยวก็คือกามาวจรทุกชั้น พรหมโลกทุกชั้น และไปหยุดเอาที่นิพพานที่พวกนักธรรมว่าสูญ ไปไหนมีเจ้าถิ่นต้อนรับด้วยดีอย่างบอกไม่ถูก อารมณ์แจ่มใส ร่างที่ออกไปใสกว่าเดิมหลายเท่า เรื่องคบอาจารย์ชั้นจานแก้วนี่ดีนัก ดีกว่าคบจานถ้วยเพราะแตกง่าย จานกะละมังก็มีกระเทาะ จาน 2 อย่าง ความสวยสดสะอาดน้อยกว่าจานแก้ว จานแก้วสะอาดกว่ามาก ศักดิ์ศรีก็ดีกว่าเยอะ อาจารย์ผู้สอนธรรมก็เหมือนกัน ถ้าไปพบจานกะละมังหรือจานถ้วยก็แย่หน่อย พบจานแก้วก็บุญตัว เรื่องนี้เป็นเรื่องกฎของกรรม ช่วยอะไรใครไม่ได้ พระชุดนั้นท่านมีบุญ ท่านพบจานแก้ว ท่านเลยเป็นแก้วไปด้วย แต่ละท่านต่างเอาตัวรอดได้ไปตาม ๆ กัน เรื่องนี้หมดเท่านี้ วันนี้พักเท่านี้นะเพราะฉันมีงานมาก ต้องมีภาระเป็นพ่อบ้านเอง ขอพักไปทำงานอื่นก่อน วันพรุ่งนี้ถ้ามีเวลาจะเล่าให้ฟังใหม่ แต่ไม่แน่นัก ด้วยพวกศาลไม่ใช่ศาลเจ้าเป็นศาล ตัดสิน เขาว่าเขาจะมาหา ถ้าเขามีก็คงไม่มีเวลาคุย ถ้าเขาไม่มาจะเล่าเรื่องพระพุทธฉายให้ฟัง มีปาฏิหาริย์เหมือนกัน ที่แปลกออกไปก็คือ พระเขียนที่ร่วมเดินทางไปด้วยเกือบเสียทียักษ์ เอาไว้รู้กันวันหน้า วันนี้เหลืออีก 15 นาที จะ 11 น. จะพักฉันเพล และทำงานอื่น ขอลูกหลานทุกคนที่รับฟังจงทรงตัวอยู่ในความดีโดยธรรมทั่วกันเถิด

    ประวัติหลวงพ่อปาน ( เล่มปัจจุบัน )
    https://www.facebook.com/groups/287049074816527/
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ".....ไปนิพพานดีกว่าเป็นพระกินข้าว...."
    ท่านปรารภได้ถึงพริกถึงขิงจัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...