ปาฏิหาริย์! สมเด็จวัดระฆังของ...พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 16 กันยายน 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ปาฏิหาริย์! สมเด็จวัดระฆังของ...พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] [​IMG] "พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีต ส.ว.กทม.และอดีตอธิบดีกรมตำรวจ ชกต่อยนายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ อดีตส.ว.แม่ฮ่องสอน กลางห้องประชุมวุฒิสภา" ถือเป็นภาพเหตุการณ์และประวัติศาสตร์การประชุม ส.ว. ของประเทศไทยก็ว่าได้ หลังจากนั้น พล.ต.อ.ประทิน อธิบายผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ว่า "การตัดสินใจครั้งนั้น เพราะเป็นการป้องกันตัวก่อนที่จะให้ตนเองถูกทำร้าย"


    อย่างไรก็ตาม หากนำเหตุการณ์ในสภาไปเปรียบเทียบกับชีวิตจริงแล้ว พล.ต.อ.ประทิน บอกว่า "ชีวิตที่ผ่านมายังมีเหตุการณ์เฉียดตายมานับครั้งไม่ถ้วน"
    สำหรับเหตุการณ์เฉียดตายครั้งแรกนั้น พล.ต.อ.ประทิน เล่าว่า เมื่อครั้งทำงานเป็นตำรวจสันติบาลในเรื่องคอมมิวนิสต์ที่ภาคใต้ ระหว่างเดินออกลาดตระเวนไปตามสวนยางพารา เชื่อไหมว่า เกือบโดนฟันตาย โชคดีว่า มีดพลาดไปถูกกับชายคา จนมีเสียงดัง เสียงที่ได้ยินทำให้หลบทันรอดตายจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
    ส่วนเหตุการณ์เฉียดครั้งที่สอง เกิดขึ้นสมัยเป็นผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ตรวจจับรถบรรทุกสินค้าเกินกำหนด ตำรวจจับรถที่บรรทุกน้ำหนักเกินเป็นจำนวนกว่าพันคัน ทำให้มีปัญหาเกิดขึ้น
    วันหนึ่งไปตรวจราชการ ระหว่างตรวจอยู่นั้นมีรถบรรทุกน้ำมันวิ่งเข้ามาจะชนรถของตนเอง พร้อมกับตำรวจนอกเครื่องแบบ เมื่อเห็นว่า รถกำลังวิ่งเข้ามาจึงรีบหลบลงข้างทาง เหตุการณ์ในวันนั้นก็รอดตายมาได้
    พล.ต.อ.ประทิน เล่าถึงเหตุการณ์เฉียดตายครั้งที่สามว่า ครั้งนี้เกือบตาย เพราะมีคนว่าจ้างมือปืนมาทำร้าย หลังเสียผลประโยชน์จากการจับปรับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ระหว่างนั้นจึงมีการว่าจ้างมือปืนตามเฝ้าติดตามตนเองตลอดทั้งวัน
    กิจวัตรประจำวัน ประมาณตีห้ากว่าๆ ก็ขับรถออกไปเล่นกอล์ฟใส่รองเท้าแตะ ไปทำงานที่ตำรวจทางหลวง ก็เดินตรวจตามปกติ ไม่มีอะไรที่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร
    ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้มือปืนกลับใจ ไม่ยอมลงมือสังหาร ไม่น่าเชื่อ มือปืนคนนี้มาสารภาพบอกว่า เขาทำไม่ลง พอฟังแล้วเกิดสงสัย จึงถามว่า ต้องการอะไร เขาก็บอกว่า ไม่ต้องการอะไร ทำท่านไม่ลง เพราะเห็นว่าท่านดูเป็นคนที่ไม่มีพิษสงอะไร เห็นท่านเป็นคนง่ายๆ
    จึงถามต่อว่า ใครเป็นคนจ้างมา ถ้าบอกรับรองว่า จะไม่เอาเรื่อง เราถามแบบนี้เพื่อต้องการให้สติ เพราะถ้าเขาทำร้ายตนถึงตาย ครอบครัวเราจะต้องเสียใจ ส่วนครอบครัวมือปืนจะถูกจับลงโทษจำคุก หรือถูกประหารชีวิต ครอบครัวของเขาก็ต้องเสียใจ แล้วในที่สุด ครอบครัวก็ต้องขาดที่พึ่ง
    "ผมถามว่า คนจ้างวานนั้นคือใคร เขาก็บอกผมหมด พอเขาบอกมา ผมก็ให้ตำรวจไปตามผู้ว่าจ้างมาหา พอเขามาพบผม เชื่อไหมว่า เขากลัวผมจนปัสสาวะแตก สาเหตุมาจากช่วงนั้นสนามบินดอนเมืองถมที่ใหญ่ แล้วเขาได้ตกปากรับคำจะจ่ายเงินให้เพื่อบรรทุกน้ำหนักเกิน ซึ่งเขาก็เคยมาหาผมแล้ว แกล้งลืมกระเป๋าเอาไว้ในห้อง พอเปิดดูก็พบว่า มีเงินเต็มกระเป๋า ผมบอกทำแบบนี้ไม่ได้ ย้ำว่าต้องบรรทุกได้ ๒๑ ตัน ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ต้องจับกุม ตรงนี้จึงเป็นที่มาของการผูกใจเจ็บจ้างมือปืนมาฆ่าผม แต่วันนี้เขาก็ไปมาหาสู่ผมเหมือนเพื่อนคนหนึ่งไปแล้ว"
    นี่ความภูมิใจของ พล.ต.อ.ประทิน ที่สามารถเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นเพื่อนได้
    สำหรับเหตุที่ทำให้แคล้วคลาดมาได้หลายๆ ครั้งนั้น พล.ต.อ.ประทิน บอกว่า คิดว่าการรอดตายมาทุกครั้งน่าจะเป็นพระเครื่องที่แขวนติดตัว คือ พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ ที่ได้มาจากคุณปู่และคุณย่า ผมแขวนพระองค์นี้มาตลอดชีวิต จนทุกวันนี้อายุ ๗๒ ปีแล้วก็ยังคงแขวนอยู่ โดยทุกวันก่อนออกจากบ้านจะต้องบูชาพระองค์นี้ โดยขอให้เดินทางออกจากบ้านแคล้วคลาดปลอดภัย พบเจอแต่สิ่งที่ดีงาม และยังมีการอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรมาตลอดเช่นกัน
    อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เคยเป็นอธิบดีกรมตำรวจ พล.ต.อ.ประทิน ได้ฝากข้อคิดถึงเพื่อนตำรวจในยุคปัจจุบันว่า อาชีพตำรวจจะมีเรื่องผลประโยชน์อย่างมาก จึงต้องออกมาตรการเข้ม ยกเลิกจ่ายส่วยให้นาย โดยบอกว่า นายที่เก็บเงินจากลูกน้อง ถือเป็นนายที่ชั่วช้าเลวทรามมาก เป็นการเบียดบังลูกน้อง ดังนั้นขอให้เลิกกัน ใครทำงานดี ประชาชนก็ศรัทธา ให้ความเคารพ เชื่อไหมว่า การกำจัดตำรวจชั่ว รีดไถคนขับรถบรรทุก เพื่อต้องการแก้ปัญหานี้ จึงนั่งมากับรถบรรทุก จากเหนือสู่ภาคใต้ ทำให้รู้ทันทีว่า มีตำรวจกลุ่มไหนบ้าง รีดไถรับเงินรถบรรทุก
    "ตำรวจหลายคนที่ผมเรียกมาคุย มีจำนวนไม่น้อยปฏิเสธ ผมก็ชี้แจงทันทีว่า ผมจดไว้หมดคันนี้ เวลานี้ ตรงจุดนี้ กำลังเรียกรับเงิน เขาถึงรับ เพราะว่าผมนั่งอยู่ในรถคันนั้นด้วย วันนี้ผมจึงอยากบอกว่า ผมเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ในอาชีพ คงมาจากการปลูกฝังของแม่ (นางประทวน สันติประภพ) ที่สอนว่า ลูกซื่อกินไม่หมด เชื่อไหมว่า ผมเป็นตำรวจแบบนี้ ทำให้ประชาชนเข้ามาขอบคุณ เพราะลดการจ่ายเงินให้ตำรวจทางหลวงประมาณ ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ตรงนี้จึงทำให้ผมภูมิใจ ผมทำแบบนี้เชื่อไหมว่า มีตำรวจผู้ใหญ่บางท่านบอกว่า คุณประทินชื่อเสียงกินได้ไหม มาวันนี้ผมก็ยังภูมิใจมากๆ ที่ลูกทั้งสามคนเป็นคนดี ซื่อสัตย์เหมือนผม" พล.ต.อ.ประทิน กล่าวทิ้งท้าย 0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ สุรจิตร ศิริ 0

    -->[​IMG]
    "พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีต ส.ว.กทม.และอดีตอธิบดีกรมตำรวจ ชกต่อยนายอดุลย์ วันไชยธนวงศ์ อดีตส.ว.แม่ฮ่องสอน กลางห้องประชุมวุฒิสภา" ถือเป็นภาพเหตุการณ์และประวัติศาสตร์การประชุม ส.ว. ของประเทศไทยก็ว่าได้ หลังจากนั้น พล.ต.อ.ประทิน อธิบายผ่านสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ว่า "การตัดสินใจครั้งนั้น เพราะเป็นการป้องกันตัวก่อนที่จะให้ตนเองถูกทำร้าย"
    อย่างไรก็ตาม หากนำเหตุการณ์ในสภาไปเปรียบเทียบกับชีวิตจริงแล้ว พล.ต.อ.ประทิน บอกว่า "ชีวิตที่ผ่านมายังมีเหตุการณ์เฉียดตายมานับครั้งไม่ถ้วน"
    สำหรับเหตุการณ์เฉียดตายครั้งแรกนั้น พล.ต.อ.ประทิน เล่าว่า เมื่อครั้งทำงานเป็นตำรวจสันติบาลในเรื่องคอมมิวนิสต์ที่ภาคใต้ ระหว่างเดินออกลาดตระเวนไปตามสวนยางพารา เชื่อไหมว่า เกือบโดนฟันตาย โชคดีว่า มีดพลาดไปถูกกับชายคา จนมีเสียงดัง เสียงที่ได้ยินทำให้หลบทันรอดตายจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
    ส่วนเหตุการณ์เฉียดครั้งที่สอง เกิดขึ้นสมัยเป็นผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ตรวจจับรถบรรทุกสินค้าเกินกำหนด ตำรวจจับรถที่บรรทุกน้ำหนักเกินเป็นจำนวนกว่าพันคัน ทำให้มีปัญหาเกิดขึ้น
    วันหนึ่งไปตรวจราชการ ระหว่างตรวจอยู่นั้นมีรถบรรทุกน้ำมันวิ่งเข้ามาจะชนรถของตนเอง พร้อมกับตำรวจนอกเครื่องแบบ เมื่อเห็นว่า รถกำลังวิ่งเข้ามาจึงรีบหลบลงข้างทาง เหตุการณ์ในวันนั้นก็รอดตายมาได้
    พล.ต.อ.ประทิน เล่าถึงเหตุการณ์เฉียดตายครั้งที่สามว่า ครั้งนี้เกือบตาย เพราะมีคนว่าจ้างมือปืนมาทำร้าย หลังเสียผลประโยชน์จากการจับปรับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ระหว่างนั้นจึงมีการว่าจ้างมือปืนตามเฝ้าติดตามตนเองตลอดทั้งวัน
    กิจวัตรประจำวัน ประมาณตีห้ากว่าๆ ก็ขับรถออกไปเล่นกอล์ฟใส่รองเท้าแตะ ไปทำงานที่ตำรวจทางหลวง ก็เดินตรวจตามปกติ ไม่มีอะไรที่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร
    ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้มือปืนกลับใจ ไม่ยอมลงมือสังหาร ไม่น่าเชื่อ มือปืนคนนี้มาสารภาพบอกว่า เขาทำไม่ลง พอฟังแล้วเกิดสงสัย จึงถามว่า ต้องการอะไร เขาก็บอกว่า ไม่ต้องการอะไร ทำท่านไม่ลง เพราะเห็นว่าท่านดูเป็นคนที่ไม่มีพิษสงอะไร เห็นท่านเป็นคนง่ายๆ
    จึงถามต่อว่า ใครเป็นคนจ้างมา ถ้าบอกรับรองว่า จะไม่เอาเรื่อง เราถามแบบนี้เพื่อต้องการให้สติ เพราะถ้าเขาทำร้ายตนถึงตาย ครอบครัวเราจะต้องเสียใจ ส่วนครอบครัวมือปืนจะถูกจับลงโทษจำคุก หรือถูกประหารชีวิต ครอบครัวของเขาก็ต้องเสียใจ แล้วในที่สุด ครอบครัวก็ต้องขาดที่พึ่ง
    "ผมถามว่า คนจ้างวานนั้นคือใคร เขาก็บอกผมหมด พอเขาบอกมา ผมก็ให้ตำรวจไปตามผู้ว่าจ้างมาหา พอเขามาพบผม เชื่อไหมว่า เขากลัวผมจนปัสสาวะแตก สาเหตุมาจากช่วงนั้นสนามบินดอนเมืองถมที่ใหญ่ แล้วเขาได้ตกปากรับคำจะจ่ายเงินให้เพื่อบรรทุกน้ำหนักเกิน ซึ่งเขาก็เคยมาหาผมแล้ว แกล้งลืมกระเป๋าเอาไว้ในห้อง พอเปิดดูก็พบว่า มีเงินเต็มกระเป๋า ผมบอกทำแบบนี้ไม่ได้ ย้ำว่าต้องบรรทุกได้ ๒๑ ตัน ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ต้องจับกุม ตรงนี้จึงเป็นที่มาของการผูกใจเจ็บจ้างมือปืนมาฆ่าผม แต่วันนี้เขาก็ไปมาหาสู่ผมเหมือนเพื่อนคนหนึ่งไปแล้ว"
    นี่ความภูมิใจของ พล.ต.อ.ประทิน ที่สามารถเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นเพื่อนได้
    สำหรับเหตุที่ทำให้แคล้วคลาดมาได้หลายๆ ครั้งนั้น พล.ต.อ.ประทิน บอกว่า คิดว่าการรอดตายมาทุกครั้งน่าจะเป็นพระเครื่องที่แขวนติดตัว คือ พระสมเด็จ วัดระฆัง พิมพ์ใหญ่ ที่ได้มาจากคุณปู่และคุณย่า ผมแขวนพระองค์นี้มาตลอดชีวิต จนทุกวันนี้อายุ ๗๒ ปีแล้วก็ยังคงแขวนอยู่ โดยทุกวันก่อนออกจากบ้านจะต้องบูชาพระองค์นี้ โดยขอให้เดินทางออกจากบ้านแคล้วคลาดปลอดภัย พบเจอแต่สิ่งที่ดีงาม และยังมีการอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรมาตลอดเช่นกัน
    อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เคยเป็นอธิบดีกรมตำรวจ พล.ต.อ.ประทิน ได้ฝากข้อคิดถึงเพื่อนตำรวจในยุคปัจจุบันว่า อาชีพตำรวจจะมีเรื่องผลประโยชน์อย่างมาก จึงต้องออกมาตรการเข้ม ยกเลิกจ่ายส่วยให้นาย โดยบอกว่า นายที่เก็บเงินจากลูกน้อง ถือเป็นนายที่ชั่วช้าเลวทรามมาก เป็นการเบียดบังลูกน้อง ดังนั้นขอให้เลิกกัน ใครทำงานดี ประชาชนก็ศรัทธา ให้ความเคารพ เชื่อไหมว่า การกำจัดตำรวจชั่ว รีดไถคนขับรถบรรทุก เพื่อต้องการแก้ปัญหานี้ จึงนั่งมากับรถบรรทุก จากเหนือสู่ภาคใต้ ทำให้รู้ทันทีว่า มีตำรวจกลุ่มไหนบ้าง รีดไถรับเงินรถบรรทุก
    "ตำรวจหลายคนที่ผมเรียกมาคุย มีจำนวนไม่น้อยปฏิเสธ ผมก็ชี้แจงทันทีว่า ผมจดไว้หมดคันนี้ เวลานี้ ตรงจุดนี้ กำลังเรียกรับเงิน เขาถึงรับ เพราะว่าผมนั่งอยู่ในรถคันนั้นด้วย วันนี้ผมจึงอยากบอกว่า ผมเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ในอาชีพ คงมาจากการปลูกฝังของแม่ (นางประทวน สันติประภพ) ที่สอนว่า ลูกซื่อกินไม่หมด เชื่อไหมว่า ผมเป็นตำรวจแบบนี้ ทำให้ประชาชนเข้ามาขอบคุณ เพราะลดการจ่ายเงินให้ตำรวจทางหลวงประมาณ ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ตรงนี้จึงทำให้ผมภูมิใจ ผมทำแบบนี้เชื่อไหมว่า มีตำรวจผู้ใหญ่บางท่านบอกว่า คุณประทินชื่อเสียงกินได้ไหม มาวันนี้ผมก็ยังภูมิใจมากๆ ที่ลูกทั้งสามคนเป็นคนดี ซื่อสัตย์เหมือนผม" พล.ต.อ.ประทิน กล่าวทิ้งท้าย


    0 เรื่อง สุทธิคุณ กองทอง / ภาพ สุรจิตร ศิริ 0



    ที่มา: เดลินิวส์
    http://www.komchadluek.net/2006/09/16/j001_47698.php?news_id=47698
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...