พระราชวัง CORSINIเพชรน้ำเอกแห่งฟลอเร้นซ์

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=middle>ห้องโถงทางเข้าด้านหน้าของพระราชวัง Corsini ภาพของทายาทคนปัจจุบัน Livia Branca </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=200><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>บันใดทางขึ้นทำจากหินอ่อนแผ่นมหึมาประดับด้วยงานประติมากรรม</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ทางเดินวาดเป็นจิตรกรรมแบบเฟรสโกและ Trompe L'oeil</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>รูปด้านของพระราชวังมองจากแม่น้ำ Arno</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>การซ่อมแซมงานจิตรกรรมแบบเฟรสโกโดยผู้ชำนาญ</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>มองจากหลังคาของพระราชวังเห็นสะพานและแม่น้ำ Arno</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ท้องพระโรงของพระราชวังซึ่งปัจจุบันใช้สำหรับงจัดานรื่นเริงและการแสดงดนตรี</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> พระราชวังCORSINIแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพระราชวังที่งดงามที่สุดของเมืองฟลอเร้นซ์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของ Grand Duke Ferirando I เจ้าผู้ครองนครฟลอเร้นซ์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Arno ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของอิตาลี

ความงดงามของอยู่ที่การระดมศิลปินที่มีชื่อทั้งหลายมา สร้างผลงานสำคัญไว้ที่นี่ทั้งสิ้น ตั้งแต่ทางเข้าใหญ่ของพระราชวังซึ่งทำเป็นถ้ำมีการนำงานประติมากรรมรูปเทพและเทพีจากเทพปกรณัมมาใช้ประดับและตกแต่งประตูทางเข้า การใช้ศิลาต่างๆมาประดับประดาจนแลดูเหมือนถ้ำในเทพนิยาย ช่วยทำให้พระราชวังนี้เป็นที่กล่าวขวัญมาตั้งแต่แรกสร้าง
ต่อมาในปีค.ศ.1649 Maria Maddalena Machiavelli ภริยาของ Marchese Filippo Corsini มหาเศรษฐีคนสำคัญซื้อต่อจากทายาท และได้ทำการตกแต่งเพิ่มเติมโดยใช้เวลาถึง 21 ปี เพื่อให้พระราชวังแห่งนี้มีความยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดในเมืองฟลอเร้นซ์ ภายหลังจากนั้นอีกเพียงสิบห้าปีทายาทรุ่นต่อมาของตระกูล Corsini ก็ได้ว่าจ้างให้ Antonio Ferri ผู้เป็นทั้งสถาปนิกและวิศวกร ทำการออกแบบและก่อสร้างต่อเติมพระราชวังนี้อีกครั้งหนึ่งและตกแต่งภายในด้วยงานจิตรกรรมแบบเฟรสโกโดยใช้เวลาถึงแปดปี จนแล้วเสร็จในค.ศ.1700
ผลงานภาพจิตรกรรมแบบปูนเปียกหรือเฟรสโกนี้เป็นผลงานชิ้นเยี่ยมของสามจิตรกรเอก Anton Domenico Gabbiani , Alessandro Gherardini และ Pier Dandini โดยที่ทั้งสามได้แบ่งกันวาดภาพในส่วนที่แต่ละคนถนัดในห้องต่างๆ โดยเฉพาะการวาดบนฝาผนังให้แลดูคล้ายงานสามมิติซึ่งเรียกว่า Trompe l'oeil และการวาดภาพเลียนแบบลายหินอ่อนสีต่างๆ อันเป็นลักษณะเฉพาะตัวที่เริ่มขึ้นในอิตาลีก่อนที่จะแพร่หลายไปทั่วยุโรป
ห้องต่างๆในพระราชวังแห่งนี้ก็มีความคล้ายคลึงกับพระราชวังส่วนใหญ่ คือห้องแต่ละห้องที่ใช้ตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ถูกตั้งชื่อตามเทพยดาองค์สำคัญๆ เช่นอพอลโล จูปีเตอร์ เมอร์คิวรี่ ฯลฯ ซึ่งภาพในแต่ละห้องก็จะเป็นเรื่องราวของเทพองค์นั้นๆวาดอยู่บนเพดาน โดยมีการแบ่งเป็นตอนสำคัญๆปรากฎอยู่ตามคูหาต่างๆ ซึ่งภาพเฟรสโกของพระราชวังแห่งนี้มีพื้นผิวถึง 3,800 ตารางเมตร
บันใดทางขึ้นของพระราชวังทำจากหินอ่อนชิ้นมหึมาแกะสลัก ซึ่งถือว่าเป็นงานชิ้นสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งเพราะถือว่าบันใดหน้าคือหน้าตาของเจ้าของ ซึ่งสามารถวัดความมั่งคั่งร่ำรวยก็ด้วยบันใดหน้านี้เอง
พื้นทางเข้าเป็นหินอ่อนสลับสีและลวดลวยและดูเหมือนพรมผืนใหญ่ที่ลาดไปตามทางเดิน การนำหินอ่อนมาใช้นั้นผู้ออกแบบต้องมีความรู้และความสามารถเป็นอย่างดี เพราะเป็นสิ่งบ่งบอกฐานะอันดับรองลงมาจากบันใดหน้าทีเดียว
พื้นส่วนภายในแต่ละห้องมีการนำไม้เนื้อแข็งที่มีสีสันต่างกันมาใช้ประกอบลวดลายที่งดงาม ล้วนเป็นไม้หายากจากดินแดนต่างๆทั้งในยุโรปและอัฟริกาเช่นไม้โอ้ค ไม้เมเปิลและไม้สีดำจากอัฟริกา ซึ่งการใช้ไม้นี้รวมไปถึงประตูและหน้าต้างที่คัดไม้เนื้อดีเยี่ยมมาใช้
ส่วนตกแต่งที่สำคัญคือผ้าม่านและผ้ากรุผนังที่ใช้ มีการนำเอาผ้าไหมทอเป็นลายน้ำมาใช้ในฤดูร้อนและผ้ากำมหยี่ใช้ในฤดูหนาว
หลังยุคสงครามนโปเลนิคเป็นต้นมาได้มีการรวบรวมและแบ่งแยกดินแดนเป็นประเทศต่างๆ บรรดาเจ้านายในยุโรปต่างก็พากันโยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่ยังต่างประเทศบ้าง ได้เกิดมีการปฏิวัติรัฐประหารบ้าง เศรษฐกิจที่ตกต่ำไปทั่วยุโรปภายหลังสงครามโลกทั้งสองครั้งทำให้อาคารสำคัญต่างๆพากันถูกทิ้งร้างบ้าง ปิดตายบ้างด้วยสาเหตุข้างต้น พระราชวังแห่งนี้ก็เช่นเดียวกัน
นับตั้งแต่ภายหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ถึงแม้ว่าพระราชวัง Corsini จะไม่ถูกทำลายจากระเบิดหากแต่การที่ตั้งอยู่ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำ แรงระเบิดที่ถล่มสะพานก็ทำให้ภาพจิตรกรรมแบบเฟรสโกที่บอบบางชำรุดเสียหายไปหลายแห่ง และยิ่งในปีค.ศ.1966 ได้เกิดอุทกภัยที่น้ำในแม่น้ำ Arno ขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้พื้นไม้ของพระราชวังบางส่วนเสียหายกินเนื้อที่เป็นจำนวนมาก

ในที่สุดทายาทรุ่นปัจจุบันของตระกูล Corsini ได้ทำการระดมทุนเพื่อใช้ในการซ่อมแซมพระราชวังแห่งนี้ ด้วยฝีมือของผู้ชำนาญในการซ่อมโบราณสถานและโบราณวัตถุ ซึ่งล้วนมีประสบการณ์จากการซ่อมงานศิลปะมาแล้วทั่วประเทศ ทำให้พระราชวัง Corsini ได้กลายเป็นความภาคภูมิใจของชาวเมืองฟลอเร้นซ์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้สาธารณะชนได้เข้าชมแล้ว

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE>