พระสหธรรมิกราช และ โพธิสัตว์เถระ สรุปว่าคือใคร ครับ

คือ ได้อ่านหลายๆกระทู้ ที่บอกว่า จารึกที่เสาอโศก ประเทศอินเีดีย พระพุทธเจ้า ทรงทำนายไว้ว่า ณ เวลากึ่งพุทธกาล จะมีพระสหธรรมิกราชา และ พระโพธิสัตวเถระ สองรูป มาจุติ ณ มัชฌิมประเทศ สรุปว่า คือใครบ้างหรือครับ

เพราะนี่ก็ค่อนกึ่งพุทธกาลไปแล้ว ยังไม่ปรากฎ (เอ หรือว่าปรากฎแต่เรายังไม่รู้นะ)

เลยอยากลองถาม ว่า ท่านเหล่านั้น คือใครบ้าง เหรอครับ ช่วยตอบที

พระสหธรรมิกราช ความคิด ผมน่าจะเป็น ในหลวงของเรา แต่ปัญหา คือ พระโพธิสัตว์เถระ นี่ คือใคร ครับ สองรูป เพราะอีกกระแส จากลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีบอกว่า พระโพธิสัตว์เุถระ นี่ยังไม่แสดงตน ให้รอไปอีก

แต่ผมว่ามันค่อนพุทธกาลแล้วนะครับ สรุปว่า ท่านประกาศตัวหรือยังครับงง

(แอบคิดแย้งในใจนิดนึงครับ ความเห็นส่วนตัว ถ้าพระโพธิสัตว์เถระ ปรากฎตัวแล้ว นี่ พระพุทธเจ้าบอกว่า จะช่วยเผยแพร่ศาสนาให้กว้างออกไป พร้อมกับปกครองประเทศ ร่วมกับพระสหธรรมิกราช บ้านเมืองจะสงบสุขทั่วหน้า)

เอ แต่ตอนนี้ผมว่าบ้านเมืองเรา มันไม่ค่อยจะสงบสุขเท่าไหร่นะครับ เลยเริ่มงงๆกับคำทำนาย
ช่วยแสดงความคิดเห็น ด้วยนะครับ

 

อายันตุ โภนโต อิธะ ทานะ สีละ เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจาธิฏฐานะเมตตุเปกขา ยุทธายะ โว คัณหะถะอาวุธานีติ.
ดูก่อนพระบารมีทั้งหลาย ขอเชิญพระบารมีคือ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิฐานะ เมตตา และอุเบกขา จงมาที่นี่โดยเร็วพลัน แล้วพากันถือเอาอาวุธ เพื่อยุทธ์กับพญามาร (กิเลส) เถิด.
อนุโมทนาครับ.
บริจาคเงินช่วยวัดพระบาทน้ำพุ
โทร.1900-222-200 6บาท/นาที​

 

พระยาธรรมิกราชท่านสร้างวัดธรรมมิกราชที่มีรูปปั้นสิงห์ล้อมรอบอุโบสถจะมาตรัสเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่8นามว่าพระนรสีหะ
พระยาธรรมิกราชปัจจุบันมาจุติอยู่ในตระกูลวานิช อยู่ในความอุปถัมถ์พระภิกษุผู้ทรงธรรมฤทธิ์จริงๆแล้วท่านมาจุติในเมืองเดียวกันกับพระยาธรรมมิกราชเป็นฤาษีผู้ทรงธรรมฤทธิ์

 

อยากเห็นข้อความที่จารึกนะครับ...ว่าเขียนว่าอย่างไรบ้าง....

 

ก่อนการกำเนิดภัยที่๕ จะมาแน่นอนในพุทธทำนาย ในพระปริตร"อภยปริตร" มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องของพระยาธรรมิกราช ไม่ใช่เรื่องที่แต่งขึ้น พระยาธรรม คือผู้รู้และเห็นธรรมเดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ทรงตรัสรู้เห็น แต่ไม่มีทศพลณญาน ๑๐ และมหาปุริลักษณะ บารมีก็ไม่อาจนำไปเปรียบเทียบกับพระพุทธทั้งหลายได้ พระยาธรรมิกราชเป็นผู้มีปฎิสัมภิทาญานอย่างไม่ต้องสงสัย ชัดเจนเด็ดขาด เป็นผู้มีฤทธานุภาพ ชี้แจงแก้ไขพระไตรปิฎกที่ถูกตีพิมพ์และจารึกเขียนขึ้นได้อย่างชัดเจนตามแบบพระธรรมแม่บทฉบับทิพย์ เป็นผู้ลงทัณฑ์สงฆ์ผู้ล่วงละเมิดสิกขาบททั้งหลายโดยฐานะกรรมบันดาล เป็นผู้รู้ทิพย์ภาษาเป็นผู้ประกาศธรรมเหนือโลก เหนือลัทธิความเชื่อมายาคติต่างๆจะพีงพินาศเป็นผู้รวบรวมจักรวรรดิธรรม จากแตกแยกนิกายเป็นหนึ่งเดียว เป็นผู้ช่วยบอกทางและสรรเสริญในพระธรรมอย่างที่สุด แม้มีใครชื่นชมท่าน ท่านก็จะชี้แนะให้สรรเสริญแด่พระธรรม พระพุทธ และพระสงฆ์ผู้อยู่ในสารคุณเพียงเท่านั้น! ตราบใดที่ยังไม่ปรากฎปาติหาริ์ย3 ตราบนั้น พระยาธรรมิกราชก็จะยังไม่ปรากฎ ผู้ใดที่แสดงปาติหาริ์ย3ในพระธรรมได้ พึงสำเหนียกไว้ว่าเป็นผู้เข้าใกล้ชิดพระยาธรรม กิจต่างๆย่อมเกิดขึ้นตามการ ภาระเป็นไปตามกรรม เมื่อพระธรรมิกราชปรากฎ. อวิชาและอาสวะกิเลสทั้งมวลจะสิ้นไปในผู้ที่สั่งสมบุญบารมีมาดีแล้ว. พึงเข้าใจเถิดว่า. ในยุคนี้ ผู้ที่แสดงพุทธภาษิต แค่เพียงภาษิตเดียว ก็ยังไม่สามารถแสดงได้เทียบเทียมพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย พระขีณาสพและพระอรหันต์ผู้ที่อยู่ในสารคุณ ให้ผู้รับฟังได้เข้าใจแจ่มแจ้งเข้าถึงวิมุติได้เลยแม้สักผู้เดียว (เมื่อผู้เสวยวิมุติแสดงธรรม ธรรมนั้นย่อมเป็นวิมุติ). ผู้ไม่รู้จริงไม่ควรแก้อรรถที่เราแสดง เหล่าสหชาติของพระยาธรรมเป็นผู้มีบุญรู้ธรรมตามกาลเป็นอย่างยิ่ง. สาธุธรรม ขออนุโมทนาบุญ ขอจงเจริญในภาวะธรรมตามกาล

 

สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน มาขอแจมเป็นกระสายยาดองครับ หลังจากกรึ่ง พุทธกาลมานี่ จะมีแต่พระโพธิสัตว์ ลามาประกาศช่วยพระศาสนา ขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ให้เจริญรุ่งเรือง สืบต่อไป ให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี ถ้าจะพูดเรื่องนี้ คุยกันเป็นวันก็ไม่จบ เพียงแต่ผมพอรู้มาบ้าง และสำผัส ของจริงมาหลายๆครูบาอารย์ จึงอุปมาได้ดังนี้ครับ ปู่แหวน หลวงปู่มั่น ในสายของท่าน มาจากพุทธภูมิลา เมื่อลาพุทธภูมิ ก็คือ จบกิจเป็นพระอรหันต์ เสียส่วนใหญ่


และอีกหลายสาย ๆสายหลวงพ่อ วัดปากน้ำ บางองค์พระองค์ และมากมาย ในประเทศของเรา มาขอย้อนดู ในยุคนี้ พระราชาธรรมิกราชก็คือในหลวงของเรา ร.๙ นี่เอง และพระสหธรรมมิกราช ที่มาจากพระโพธิ์สัตว์ ลามาเป็นพระสาวก และได้นำคำสอน ขององค์สมเด็จ มาสอนเหล่าเรา พุทธบริษัท ที่ดู ที่ท่านนำคำสอน ขององค์สมเด็จ ที่มีบารมีล้น สอนแบบพระพุทธองค์ ในยุคนี้คือ หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ วันท่าซุงเท่านั้น ที่สอนตรงทุกเรื่อง ทางโลก ทางธรรม จากเล็กไปหาใหญ่ จากใหญ่มาหาเล็ก จากต้นไปหาปลาย และทรงแสดง แบบ สุขวิปัสโก วิชชาสาม อภิญญาหก ปฏิสัมภิทายาน กรรมฐาน ๔๐ มหาสติปัจฐาน ๔ ยุคนี้ มีองค์เดียว ที่สอนได้ ครูบาอารบ์ ท่านด้วย หลวงปู่ปาน และเรื่องนี้ ขอให้ทุกท่านได้ใช้ พิจรณาเอาเถิด อย่าพึ่ง ปฏิเสธ หรือเชื่อ ท่านต้องหาเหตุผล มาดูให้ครบถ้วน หรือกรึ่งหนึ่ง ก็ยังดี แล้วค่อยเชื่อครับผม

 

ไร้สาระ มือเท้าตนก็มี หวังจะมารอแต่ใครที่มีตัวตนหรือเปล่าก็ไม่รู้ เหมือนเรากินข้าวเราก็ต้องใช้มือหยิบหรือตักกินเอง ถ้าเป็นเด็กเล็กหรือผู้ที่ไม่สามารถตักหรือหยิบหรือแม้แต่จะใช้ปากก้มกินเองได้ก็ว่าไปอย่าง

 

วันนี้มาขอต่อนิดหนึ่ง คนมีปัญญาจริงๆ ถึงจะพอเข้าใจ ส่วนไอ้พวก เดรถี อาศัยผ้าเหลืองหากิน ทำลายพระศาสนานั้นมีอยู่ มากพอควร ผมเอง มีประสบการณ์จริงๆตรง ไม่ต่ำกว่า ๙๐ เปอร์เซ็น และพวก อลัชชี พวก ปะทะปะระมะ มันมีอยู่มาก ตถาคต เป็นเพียงผู้บอก หรือสั่ง สอน ส่วนจะเอาไปปฏิบัติ หรือ ไม่ หรือคัดค้าน มันเป็นเรื่อง ของคนบางคนเท่านั้น พระพุทธศาสนา มีคุณต่อโลก หาประมาณมิได้ การจะทำหรือไม่ทำนั้น ก็แล้วแต่ท่านจะไปเกิด เป็น จะไปนรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัชฉาน หรือ จะเป็นคน มนุษย์ เทวดา พรหม หรือไปพระนิพพาน ล้วนเรา ต้องทำเองทั้งสิ้น ส่วนเด็ก ที่ยังช่วยเหลือตนเองไม่ได้นั้น พ่อ แม่มีหน้าที่ สั่งสอน เลี้ยงดู จนกว่าเขา จะทำเองได้ พระพุทธเจ้า ยังโปรด คนไป สวรรค์ นิพพาน ได้ไม่หมดเลย แล้ว พวก ปะทะปะระมะ พระพุทธเจ้าไม่ทรงสั่งสอน ทรงหลีกไป ถึงให้สอนอย่างไร พวกนี้ ไม่รับฟัง อยู่แล้ว กรรมใด ใครก่อ คนอื่นเอาไปไม่ได้ นอกจาก คนๆๆนั้นกระทำเอง แต่ถ้ายินดีกับเขา มันมีผล เหมือนโมทนาสาธุ เหมือนกัน ไม่ว่าชั่ว หรือดี และคนทำบุญร่วมกันมา จึงจะเข้าใจกัน และจิตใจคน มันมี ๔ ระดับครับ


รู้จักคำว่า บัว ๔ เหล่าไหม ถ้าไม่รู้จัก ไปหาอ่านเอาเองครับ ในเว็ป พลังจิต เขามีให้อ่านหลาย พ่อแม่ครูบาอารย์ ซึ่ง ท่านเหล่านั้น นำคำสอนมาจากพระพุทธเจ้า แค่นี้นะครับ สำหรับ คนใจดีทั้ง หลาย อย่าเข้าใจผิด คนในโลกมีทั้ง คนชั่ว และคนดี ปะปนกันไป ใครจะเลือกไปไหน ก็เชิญครับ ผมออกมาแสดงความ คิดเห็น อย่าให้มีโทษ ต่อผู้ใด ส่วนผมไม่ขออาฆาตใครครับ


ขอต่ออีดนิด มันไม่มี ไอ้มนุษย์ หน้าไหน แม้กระทั่ง สัตว์เดรัชฉาน พ่อแม่ของมันคอยช่วยเหลือ สั่งสอน ผมยังไม่เคยเห็นเลย ว่า ไอ้สัตว์ตนใด มันรู้ เองมาแต่ในท้อง ถ้าไม่ได้เรียน มาจาก พ่อแม่ผู้ให้กำเนิด มันมา เป็นครูคนแรก ของเราๆท่านทั้งหลาย ถ้าใครเถียงตรง ผมถือว่า ไอ้คนๆนั้น เนรคุณ ต่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ผู้ให้กำเนิด จิตใจของมัน เป็นสัตว์ อยู่ในร่างของคน

 

จะกินยังต้องบอกให้กิน ข้าวก็มีวางไว้ให้ต่อหน้าแล้ว คงจะต้องสอนว่าหยิบช้อนหยิบข้าว เคี้ยวข้าวแล้วกลืนข้าวอย่างไรด้วยเลยละมั้ง

ถ้าเป็นอย่างนี้ ผมว่าเขาคนนั้นที่จะมาสอนกลับไปนอนเล่นถ้าจะง่ายกว่า เขาคงท้อตั้งแต่เห็นข้าวที่วางอยู่ตรงหน้าแต่ไม่มีใครรู้ว่าเป็นข้าวและควรจะกินอย่างไรแล้ว

ธรรมชาติของสัตว์โลกถ้าหิวก็ต้องหาอะไรกินแล้ว คงไม่ต้องรอใครมาป้อน

 

แค่นี้มึงยังไม่เข้าใจ มึงออกมาจาก ห.แม่มึง มึงกินเองได้ไหม แม่มึงต้องเอานมป้อน ให้กิน เช็ดผ้า เช็ดเยี่ยว ขี้ กูอยากจะถามว่า มึงคนเดียวแหละมั่ง ที่ออกมาทำเองได้เลย แค่นี้แหละที่กูจะพูด

 

ใจเย็นๆๆ ครับ
โตๆๆๆ กันแล้วครับ
ต่างคน ต่างความคิดครับ(ไม่มีใครผิด ใครถูก)
การใช้ภาษาพิมพ์ ต้องสุภาพครับ จะตัวคุณ รึอวัยวะเพศ ก็เก็บไว้ในใจนะครับ อย่าแสดงออกมาครับ มันบ่งบอกถึงวาสนา(นิสัยเดิมๆๆ ที่สั่งสมมานาน)เดิมนะครับ
พี่ๆๆ น้องๆๆ กันทั้งนั้นนะครับ

ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

ผมขอพูดในกระทู้นี้ เป็นครั้งสุดท้าย ในหัวข้อกระทู้นี้ จะไม่ออกมาพูด ตอบโต้ใดๆอีก เพราะ พ่อเป็น ค. แม่เป็นตัว ห. ๒ สิ่งนี้ เป็นของสิ่งศิกดิ์สิทธิ์ ที่ทำให้สัตว์ ทั้งหลาย ได้เกิด แก่เจ็บตาย กันมาช้านาน จริงๆ มันไม่ได้ เป็นคำหยาบ มันคำ ภาษาไทยๆเรา ไปศึกษาต้นกำเนิด ให้ดีๆ แล้วจะรู้ว่า เป็นอะไร สัตว์ทั้งหลาย เกือกกั่ว กับมันมาช้านาน เกิดในสิ่งนี้ สัตว์ ทั้งหลาย ก็ยังชอบ ในสิ่งนี้ ตัวผมเองก็ยัง ชอบในสิ่งนี้ และยังหลงในสิ่งนี้ การฆ่ากันตาย ทะเลาะกัน ก็เพราะ ไอ้สิ่งนี้ และต้องขอโทษด้วยนะ ที่ไม่ถูกใจ ในคุณ และท่านทั้งหลาย ทั้งๆ มันเรื่องจริง แต่คนไม่ชอบ แต่ไอ้แบบว่า ชอบหรอกลลวง ใส่หน้า กาก จอมปลอมเข้าหากัน ทุกสิ่งทุกอย่างจะให้ชอบใจใครทั้งหมดนั้น คงเป็นไปไม่ได้ ตัวตน ของผมเป็นแบบนี้ ชอบของจริงมากกว่าของปลอมครับ

 

ครับผม
จะอวัยวะเพศแม่ รึจำคำว่าตัวคุณ นั้นไม่ได้เป็นคำหยาบครับ มันมีมานานจนนับประมาณมิได้นะครับ แต่เอามาใช้ต่อว่ากันนั้นมันไม่สมควรครับ
มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐครับ 2 สิ่งที่กล่าวมานั้นจะต้องปกปิดไว้ด้วยอาภร แต่ถ้าเป็นสัตว์เดรัจฉานนั้น เปิดเผยได้โดยไม่ต้องใส่อาภร เราไม่ได้เป็นสัตว์เดรัจฉานครับ ถามว่า 2 สิ่งนั้นผมชอบไหม...!!! ชอบครับมากด้วย เพราะมันเป็นธรรมดาของสัตว์โลกนะครับ
การตอบโต้กันนั้น ด้วยความคิดของแต่ล่ะคนนั้น ไม่ใช่เป็นการหลอกลวง ใส่หน้ากาก จอมปลอมเข้าหากันนะครับ อย่ารวมคำให้คนอื่นเขาเป็นคนดูไม่ดีสิครับ
เราๆๆ ต้องเปิดใจกว้างในความคิดคนอื่น และดูความคิดของตัวเองบ้าง ว่าของใครจริง เท็จ ปลอมนะครับ
สิ่งต่างๆๆๆ ในโลกยังมีอะไรให้รู้อีกเยอะ ยังมีสิ่งที่เราโดนหลอกลวง+มโนไปเองอีกเยอะ แต่ประเด็นนั้นไม่สำคัญ มันสำคัญว่าจะเปิดใจยอมรับความเป็นจริงไหมก็เท่านั้นเอง

ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

555 ++++
บอกได้เลยครับ เจอตัวต่อตัวยิ่งดีครับ อยากรู้เหมือนกัน ใครกันแน่ที่จะเงียบนะครับ เด็กๆๆนะครับ ไม่หวั่นครับ....โลกันตนรก+++

คนเรานี้ก็แปลกเนอะ มองคนอื่นเป็นควาย ใจเป็นสัตว์ ในร่างคน แล้วตัวคุณล่ะมองคนอื่นต่ำขนาดนี้ ถามหน่อยเหอะครับ เป็นคนรึเป็นสัตว์ ใจคนรึใจสัตว์ ในร่างคน(หน้าตายิ่งไม่เหมือนคนเข้าทุกวันอยู่ล่ะ ยังมีความคิดต่ำๆๆ ดูถูกคนอื่นอีกเนอะ เห้อๆๆๆ นี้เหรอชาวพุทธ) มือก็พิมพ์ว่าไม่สนใจแต่ดูถูกคนอื่นซะๆๆๆ
อย่าลืมใช้กรรมกับจิตใจที่ชอบดูถูกคนอื่นเป็นสัตว์ ด้วยนะครับ
น่าจะมองกลับกันบ้างนะ ว่าควายเป่าปี่ให้ สัตว์โลกฟังนะ

ไม่ได้หยาบคายนะครับ แค่อธิบายให้อ่านก็เท่านั้นเองนะ

ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

กล้ามากไปก็ไม่ดีครับ มันเป็นเหมือนหนังหักมุมหนะครับ อย่างเวลาเราอยากได้อะไรมากๆ
เวลาจะจ่ายเงินซื้อเท่าไหร่เราก็ยอมจ่ายได้ แต่พอไม่อยากได้แล้วก็ไม่อยากได้สุดๆเหมือนกัน ตอนยังอยากเกิดเท่าไหร่ก็เกิดได้เต็มที่ แต่พอไม่อยากเกิดก็เต็มที่เหมือนกันจะเรียก
ร้องแต่นิพพานอย่างเดียว อะไรมาแลกให้เกิดก็ไม่เอาแล้วเหมือนหนังหักมุมหนะครับ
อะไรๆมันก็ไม่แน่ ไม่มีใครกล้ามากแล้วได้เป็น แต่เรื่องกตัญญูกับเคารพและให้เกียตร
ผู้มีอายุมากกว่านี้ก็ไม่แน่ พระท่านยังเกรงใจผู้มีอายุศีลมากกว่าตามพรรษา จะกระด้างหรือละเอียดนี้ผมดูที่อายุด้วยเป็นส่วนประกอบบางส่วน คนที่เป็นผู้ใหญ่ พูดมึงกูกับคนที่เด็กกว่านี้ผมว่่าไม่หยาบกระด้าง
เรื่องอาหารการกินนี้ เรากินเองก็จริง แต่การระลึกถึงคุณข้าวคุณน้ำ ก็สมควรนะผมว่า
เรื่อง พระสหธรรมิกราช และ โพธิสัตว์เถระ นี้ผมไม่รู้ แต่ถึงหากสมมุติผมรู้นี้
ผมก็ไม่บอกหรอก 555 เพราะหากท่านจะบอกนี้ท่านก็ออกมาเปิดเผยตัวแล้วบอกไปนานแล้ว อยู่ดีๆจะให้ไปพูดอะไรๆแทนได้ยังไง แต่ที่พิมนี้มือมันว่างๆพอดีเลยขอเกรียนหน่อยนึงนะ *-*

 

พูกให้ละเอียดก็คือ พระพุทธศาสนายังตั้งอยู่ แต่กลับไปหวังพึ่งใครที่ไม่รู้ว่ามีจริงหรือไม่

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน สุภาษิตนี้ก็ก็คือให้รู้จักช่วยเหลือตนเอง

เพราะธรรมมันรู้ได้เฉพาะตน ธรรมที่ผู้อื่นยกมาพูดนั้นไม่จริงเมื่อเปรีบกับธรรมที่เกิดกับตนเอง

อย่าได้มองข้ามธรรมของพระพุทธเจ้าว่าเป็นของง่าย เพราะแต่ละข้อถ้าจะเอาเนื้อธรรมจริงๆ ผู้ที่เรียนมากว่าจะเข้าใจได้เลือดตาเขาแทบกระเด็น

 

เราเสียใจมาก และ เสียดายที่เขาลบกระทู้นั้นไปแล้ว อย่างน้อยควรเก็บไว้ในห้อง"แบล็คโฮล"ก็ยังดี ทั้งๆที่เป็นเรื่องจริง ของการปรากฏ ของ พระสัทธรรมพระไตรปิฏกพระธรรมคัมภีร์ดั้งเดิม และอสัทธรรมคัมภีร์อักขระพยัญชนะมาร โดยแท้ๆ เฮ้อ คงต้องปล่อยไปตามกรรม น่าเสียดาย น่าเสียดายแทนสัตว์โลก ทั้งๆที่จะมีโอกาสเตรียมการล่วงหน้า ช่วยเหลือชีวิตคนได้มากแท้ๆ น่าเวทนา เฮ้อ สุดท้ายเราต้องนั่งคนเดียวบนยอดไม้อย่างในมหานิมิตจริงๆหรือนี่ ไฟประลัยกัลป์เจ้าเอย เขาคิดว่าเราโกหกเขาหรืออย่างไรกัน? เราอุตส่าห์นำมาบอกแล้ว เฮ้อ!!!:'( ผมหนีออกบวชครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ หนีเข้าป่าภูเขา คงเร็วๆนี้ไม่กี่เดือนกี่ปี หมดโอกาสถาม เพราะผมวางอุเบกขาแล้วตอนนั้น เมตตาสงสารแต่ช่วยไม่ได้ครับ กรรมใดใครก่อ คงต้องรับกรรมกันไปเอง เตือนแล้วแท้ๆ หรือจะแอบมาช่วยดีนะ ห่วงก็ห่วง สงสารก็สงสาร เวทนาก็เวทนา

ท่านใดสนใจในเรื่องนี้ ส่งข้อความมาได้นะครับ ผมยินดีตอบ:'(
http://palungjit.org/threads/ครั้งแ...จุติ-พระไตรปิฏกพระธรรมคัมภีร์ดั้งเดิม.548241/

 

ที่ท่านกล่าวมามันก็ถูกอยู่แล้วธรรมพระพุทธเจ้าไม่มีใครเถียงหรอก แต่ทีนี้ทำไมบางคนจึงได้ไปวัด
นี้บ้าง ไม่ได้ไปวัดนี้บ้าง ทำไมบางคนได้ฟังคำสอนจากหลวงปู่องค์นี้บ้าง ไม่ได้ฟังคำสอนจาก
หลวงปู่องค์นี้บ้าง ทำไมบางคนรู้สึกอยากไปหาหลวงพ่อองค์นี้จัง มันเป็นเรื่องกรรมสัมพันธ์กันมา
ผมก็เห็นท่านหลายๆท่านพูดถึงหลวงพ่อฤษีลิงดำ แต่ผมนี้ก็ไม่เคยไปเลยวัดนั้น แต่ทีนี้หาก
มีคนมาพิมว่าอยากไปวัดนั้นจัง แล้วผมพิมว่าไร้สาระ นี้มันจะได้ใหม เขาไปหนะมันก็ดีสิ
แต่ทีนี้บางที่มันหายากบางที่มันอยู่ที่แจ้งมันหาง่าย แต่จะไปปิดกั้นว่าไม่ต้องหาซะเลยมันก็ไม่ได้
เพราะหากในที่ๆมันหายาก แต่มันมีอยู่จริงหละจะทำยังไง
เหมือนการไปเยี่ยมญาติจะซื้อของไปฝาก คนที่ไม่ใช่ญาติก็ต้องบอกว่า จะให้เราไปทำไมเราไม่รู้จักเขา
แต่คนที่เป็นญาติเขาก็ไปเยี่ยม เพราะเขาสัมพันธ์กัน ก็เท่านั้นเอง ที่พิมว่าคุณข้าวคุณน้ำ
คือให้ลองมุมอื่นๆ ที่ไม่ใช่มุ่งเน้นแต่ตรงธรรมอย่างเดียว ใช่ว่าทุกคนจะอยากทำอาชีพนั้นอาชีพนี้
แต่ผลสุดท้ายหละถึงอยากไม่อยาก มันก็ต้องทำ จะไปว่าไร้สาระหมดอย่าไปทำ อาชีพบวชดีกว่า
แบบนี้ไม่ได้หรอก อันนี้พิมแบบโลกๆ เพราะผมไม่ได้มีภูมิธรรมอะไรก็พิมแบบคนโลกธรรมดาๆ

 

นิทานก็คือนิทานนั่นแหละครับ ไม่มีอะไรมากกว่าการส่งมอบงานให้ผลัดต่อไป ผลัดแรกจะได้ไปตกนรกหรือเกิดเป็นเดรัจฉานฟอกตัวขึ้นมาทำงานช่วงท้ายๆ งานได้

 

มนุษย์กล้า เดรัจฉานกลัว เปรตหิว อสุรกายลามก นรกร้อน