*รวมมิตรเที่ยวกรุงเทพฯ ยลแง่งามเมืองบางกอก*

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 29 ธันวาคม 2005.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 ธันวาคม 2548 19:03 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พระราชวังพญาไท งดงาม คลาสสิค</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> นับจากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็เป็นเวลาหลายปีแล้ว ที่ฉันได้จรลีจากบ้านเกิดเมืองนอนในชนบท(หรือที่คนเมืองกรุงส่วนใหญ่มักจะเรียกว่าบ้านนอกคอกนา) มุ่งสู่เมืองหลวงที่เต็มพรึ่ดไปด้วยป่าคอนกรีต

    กรุงเทพฯวันนี้แม้จะไม่ใช่เมืองฟ้าอมรอย่างเช่นในอดีต แต่กระนั้นในบางซอกบางมุมของกรุงเทพฯก็ยังมีแง่งามของความเป็นเมืองหลวงแห่งสยามประเทศให้ชวนค้นหาและสัมผัสในความงดงาม ซึ่งหากมองอย่างเพ่งพินิจกรุงเทพฯมีสถานที่งดงามและสถานที่น่าสนใจอยู่เป็นจำนวนมาก เพียงแต่ว่าบางครั้งอาจถูกหลายๆคนมองข้ามไป เพราะภาพปัจจุบันของกรุงเทพฯถูกฉาบเคลือบไปด้วยสีสันความทันสมัย ความพลุกพล่าน การแข่งแย่งแข่งขัน และวิถีแห่งทุนนิยมสารพัดสารพันของยุคโลกาภิวัตน์

    แต่ด้วยความที่คนชนบทอย่างฉันอยากค้นหาในแง่งามของกรุงเทพฯ ฉันจึงเลือกที่จะเที่ยวท่อมๆตะลุยเมืองกรุงไปตามเส้นทางของคนที่ไม่ประสีประสาต่อวิถีแบบเมืองหลวง ซึ่งก็มีทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไป แต่เนื่องในวันปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ "หนุ่มลูกทุ่ง"อย่างฉันขอเลือกส่งความสุขด้วยการพาไปสัมผัสกับแง่งามบางส่วนของเมืองกรุงเทพฯ ในรูปแบบของรวมมิตรลุยกรุงเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่แด่แฟนานุแฟนมิตรรักนักอ่านทุกท่าน

    สีสันสนามหลวง

    ถ้าพูดถึงกรุงเทพฯ สิ่งแรกที่ฉันนึกถึงและยึดเป็นจุดตั้งต้นเสมอเวลาเดินทางไปไหนต่อไหน ก็คือ "ท้องสนามหลวง" ที่หลายๆคนอาจไม่รู้ว่ากรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนสนามหลวงให้เป็นโบราณสถานมาตั้งแต่ปี 2520 โน่นแน่ะ

    สนามหลวงจะเป็นพื้นที่รูปทรงรีๆขนาด 74 ไร่ 63 ตารางวา ที่ไม่น่าเชื่อว่าผืนดินธรรมดาที่ไม่ธรรมดาแห่งนี้ จะมีเรื่องราวน่าสนใจมากมาย ที่นี่เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่ฉันเปรียบเป็นเหมือนสมุดบันทึกเล่มใหญ่ๆ ที่ได้บันทึกเหตุการณ์ต่างๆ ของบ้านเมืองเอาไว้มากมาย เพราะเท่าที่ฉันรู้ สนามหลวงนี้ก็มีมาพร้อมๆ ตั้งแต่เมื่อแรกสร้างกรุงเทพฯ คือเคยเป็นที่ทำนาของชาวบ้านมานับตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเลยทีเดียว

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สนามหลวงที่ไม่ใช่ทุ่งนาเหมือนในอดีต แต่ได้กลายเป็นสถานที่จัดงานต่างๆอยู่เสมอ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากจะเคยเป็นผืนนาแล้ว ท้องสนามหลวงยังเคยเป็นสถานที่สร้างพระเมรุมาศถวายพระเพลิง พระบรมศพพระมหากษัตริย์ พระราชินีและบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ ชาวบ้านจึงได้จึงเรียกติดปากว่า "ทุ่งพระเมรุ" จนเมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชดำริว่านามนี้ไม่เป็นมงคล จึงโปรดเกล้าฯ ให้เรียกใหม่ว่า "ท้องสนามหลวง"

    มาวันนี้สนามหลวงยังเป็นพื้นที่สาธารณะ ที่มีคนแวะเวียนไปสนามหลวงกันไม่ได้ขาด ไม่ว่าจะเป็นการจัดงานรื่นเริงบันเทิงต่างๆ ไฮปาร์ค เล่นว่าวช่วงลมว่าวมา ส่วนยามปกติสนามหลวงก็ไม่เงียบเหงาเพราะถูกใช้เป็นพื้นที่จอดรถ นอกจากนี้ยามค่ำคืนตามใต้ต้นมะขามที่มีอยู่ 365 ต้น หลายๆต้นจะมีหมอดูไปนั่งตักลูกค้ารอดูดวง นี่คือวิถีแบบไทยๆที่บางคนอับจนหนทางก็ต้องหันไปพึ่งพาหมอดูเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเอง ส่วนบางคนที่ไร้หนทางก็ไปใช้บริการที่ใต้ต้นมะขามเหมือนกัน แต่ไม่ได้ไปดูหมอหรอกนะ พวกเขาไปส่งหาผีมะขามที่หากว่าถูกใจก็พาขึ้นรถเดินทางไปสู่สวรรค์ในชั่วข้ามคืน ซึ่งถึงแม้ว่าผู้ว่าหล่อเล็กจะพยายามปิดสนามหลวงในช่วงดึกๆแต่กระนั้นผีมะขามก็ยังมีอยู่เกลื่อนสนามหลวง ที่นับวันยิ่งมาผีมะขามยิ่งอายุน้อยลงเรื่อยๆ

    เฮ้อ...ฉันว่าจะพูดแต่มุมแง่งามแล้วนะแต่ก็ไม่วายหลุดไปเรื่องผีมะขามจนได้พับผ่าสิ...กลับมาที่สนามหลวงกันต่อ แถวบริเวณรอบๆ ที่ด้านหนึ่งโดดเด่นมองเห็นกำแพงวัดพระแก้วโดดเด่น(สำหรับเรื่องวัดพระแก้วไว้วันหลังฉันจะเขียนเล่าโดยละเอียดอีกที) ถัดจากวัดพระแก้วไปทางหัวมุมสนามหลวงก็เป็น
     

แชร์หน้านี้

Loading...