ร่วมทำบุญบูชา มงคลสุภูติมหาเถระสำเร็จภัตกิจจิตปรารถนา(ผู้เกิดมาดีแล้ว) พ่ออาจารย์พล

พูดคุยยามเช้า​

มาต่อกันด้วยเรื่องอุปนิสัยคนจะเหมาะกับพระเครื่องแบบไหน หลายๆคนอาจจะมองลักษณะประเมินตัวเองว่าเราเป็นคนยังไงแล้วก็ไปศึกษาว่าควรห้อยพระแบบไหนหรืออ่านเอาจากที่เกิดวันอะไรควรห้อยพระประเภทไหนตระกูลไหนถึงจะดี

พวกหมอรึนักเขียนที่ทำความเชื่อมาแบบนี้ก็ผิดไปอย่างหนึ่งเพราะคนที่เค้าอ่านแล้วเชื่อมากๆเขาก็จะคิดว่าเขาเกิดมาห้อยได้แต่พระประเภทนี้มากกว่านี้หรือแบบอื่นเขาห้อยไม่ได้ไม่เป็นมงคลแก่ชีวิต เรียกว่าจำกัดตระกูลของวัตถุมงคลที่ควรห้อยของแต่ละคนเพื่อการตลาดของตัวเองตรงนี้มันก็ทำให้หลายๆคนเสียโอกาสไปถ้าไปเชื่อเรื่องเพ้อเจ้อพวกนั้น เพราะจุดประสงค์ของคนสร้างจุดประสงค์และกำลังที่ผู้สร้างมีต่อพระศาสนาและพระศาสดานั้นไม่ได้แบ่งแยก หากหลวงปู่หลวงพ่อแลครูบาอาจารย์ท่านลุกขึ้นมายืนคุยได้ท่านก็คงจะเสียใจว่าเพียรสร้างพระมาให้สำเร็จซักรุ่นหนึ่งเพื่อสนองความศรัทธาให้คนเกิดวันเดียวใช้เท่านั้นหรือ..วันอื่นใช้ไม่ได้หรืออย่างไร แม้ในพระประจำวันเกิดหากไม่ใช่วันเกิดเราก็ยังเอามาห้อยได้เป็นมงคลแก่ชีวิตเสมอพระที่เราถือว่าเป็นพระประจำวันเกิดนั่นทีเดียว เพราะคติเหล่านี้มันเพิ่งมีมาไม่นานและไอ้คนกำหนดกฏเกณฑ์ต่างๆก็ประดิษฐ์คิดทำกันเอง ไม่ใช่พระศาสดาท่านจะชี้ว่าฉันยืมอุ้มบาตรต้องวันนี้ฉันยืนห้ามญาติต้องวันนี้ ก็เป็นอย่างงั้นไปใครที่เชื่อก็ไม่ผิดและไม่เชื่อก็ไม่ผิด

ดั่งพ่ออาจารย์ท่านที่พระบางประเภทท่านตั้งใจทำเพื่อให้คนบ้าใช้...(เดี๋ยวค่อยมาลงลึกคำว่าบ้าของท่านอีกที) ทีนี้คนดีล่ะ คนปกติล่ะใช้กันไม่ได้หรือกลับกลายเป็นว่าคนดีๆนี่แหละที่แสวงหาและถามหาพระประเภทนี้เอามาใช้มากที่สุดทั้งนี้เพราะศรัทธาไม่ได้เลือกที่ศาสนาและไม่ได้แบ่งแยกตัววัตถุจะชนชาติไหน จะเคยศรัทธาอะไรมาก่อน จะเกิดวันคืนปีเดือนยามอะไรย่อมถือย่อมใช้ได้เสมอกัน ไม่ใช่ว่าฉันเกิดวันนี้ไปใช้พระวันอื่นแล้วมันร้อน..อันนี้ต้องคิดดีๆว่าพระร้อนหรือคนร้อน พอจิตเราปรุงแต่งไปว่ามันไม่เป็นมงคลมันก็จะมานั่งจับผิดกิจวัตรประจำวันตัวเองพออุปสรรคความทุกข์ยากมันบังเอิญเกิดในช่วงวิตกจริตนั้นเราก็จะโทษพระได้เต็มๆและตอกย้ำความเชื่อเข้าไปว่าเพราะห้อยพระผิดประเภทไม่เกื้อหนุนดวงชะตาดังนี้

ที่จริงนั้นเราคิดไปเองทั้งนั้นและก็เป็นคนปกติอย่างเราๆนี่แหละที่กำหนดกฏเกณฑ์จัดหมวดหมู่ขึ้นว่าดินชินผงพระเผาพระหล่อคนเกิดวันนั้นวันนี้ต้องห้อยอะไรหากมองให้แจ้งแทงตลอดจะรู้ว่าไม่ใช่สาระเลยแต่ถ้ามันเจริญศรัทธาตัวเองได้และคิดว่าดีว่าสมควรแล้วนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง ส่วนเรื่องความเหมาะสมและอารมณ์ของคนนั้นพ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าถ้าใจเขาร้อนเราเอาน้ำเย็นมาราดมารดเขาแล้วเขาจะเปลี่ยนเป็นคนใจเย็นก็หาไม่ ...เขาก็ยังเป็นเขายังเป็นคนใจร้อนเหมือนเดิมเพราะเราทำให้เย็นลงได้เพียงร่างกายไม่ใช่ใจของเขา เช่นนั้นใดใดในโลกที่จะทำให้เขารู้สึกเย็นลงได้ก็คือความพอใจ พอใจในสิ่ง นี้พึงใจในสิ่งนี้ ชอบอะไร.. เมื่อได้ดั่งใจคือสมใจสมความคิดความชอบของตนนั่นจึงจะเรียกว่าควรแล้วเหมาะแล้ว

อุปนิสัยอย่างไรควรห้อยพระอะไรแทนที่เราจะไปศึกษาและบีบกรอบตั้งกรอบว่าเราห้อยได้แค่พระจำพวกนี้เท่านั้น แต่ถ้าเราเปิดกว้างและลองมองย้อนกลับไปสนองใจ..สนองศรัทธา..สนองความต้องการที่ใจเราอิ่มเช่นนี้ก็เราก็จะได้เครื่องมงคลที่คู่ควรกับเราจริงๆ พ่ออาจารย์ท่านไม่เคยระบุเลยว่าพระรุ่นนี้คนเกิดวันจันทร์อังคารพุธห้อยได้ ดั่งที่ท่านพูดเสมอว่าบางครั้งสิ่งที่เรามองเป็นสาระมันก็ไร้สาระในตัวมันเอง

​

 

แจ้งการส่ง ems​

พี่ธีธัช ED 7280 0740 5 TH

พี่ฐิตกาญจน์ ED 7280 0741 9 TH

พี่จารุวรรณ ED 7280 0742 2 TH

พี่พิสุทธิ์ ED 7280 0743 6 TH

พี่ภิญโญ ED 7280 0744 0 TH

พี่ชัยวัฒน์ ED 7280 0745 3 TH

พี่เกษมธิดา ED 7280 0746 7 TH

 

ร่วมทำบุญบูชา สมเด็จพระศรีอาริย์ชุดช่วงชิงตามใจคน..บ้า(ขุนโจรมหายักษ์ปุณณกอำมาตย์)
​

เครื่องรางของคนบ้า..ที่หวังมาก..เอามาก
"เทียบกับปุณณกยักษ์แล้วมหาโจรใดๆก็น่ารักไปหมด เล่ห์ลวงทั้งหลายล้วนเป็นเรื่องขี้ผง"
พ่ออาจารย์ท่านสรรเสริญวิชายักษ์ปุณณกที่จะทำประสิทธิ์ในรูปปุณกยักษ์ว่าเป็นยอดแห่งผู้รู้ใจ ด้วยเพื่อจะทำกิจใดให้สำเร็จปุณณกยักษ์ย่อมไม่กลัวเกรงที่จะทำผิดต่อใคร..ไม่เลือกวิธีไหน..ไม่สนใจใครทั้งสิ้นนอกจากเป้าหมายที่ต้องทำและต้องได้มาโดยเร็ว

- หากกล่าวถึงปุณณกยักษ์แล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าหลายคนมักจะเมินเพราะไม่รู้ว่าเค้าเก่งอย่างไร ..ประหลาดขนาดไหน ..และกล้าามากเพียงใด เป็นยักษ์มาจากที่ไหน

- ปุณณกยักษ์นั้นแท้จริงแล้วเป็นเทวดาระดับเทพบดีอยู่จตุมหาราชิกา มีตำแหน่งเป็นมหาเสนาบดีของท้าวเวสสุวัณมหาราช นอกจากนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นหลานรักของท้าวเวสสุวัณเรียกได้ว่าใต้ฟ้านี้แม้อินทร์พรหม,ยม,ยักษ์ที่ไหนปุณณกยักษ์ก็ไม่กลัว..และไม่เกรงทั้งสิ้น จะเคารพและกลัวก็เพียงท่านลุง(ท้าวเวส)ของตนเองเท่านั้น

- ปุณณกยักษ์มีม้าแก้วคือมโนมัยสินธพอันเป็นรัตนะแห่งจักรพรรดิ์ที่สามารถเหาะไปไหนก็ได้ดั่งใจปรารถนา

- ปุณณกยักษ์เป็นสวามีของนางนาคอิรันทตีธิดาพระวรุณซึ่งเป็นยอดหญิงงาม

- ปุณณกยักษ์นั้นมากเล่ห์.. ดั่งเมื่อคราวจะชิงตัวพระวิธุรบัณฑิต ก็ยังออกอุบายกับท้าวเวสสุวัณไปรายงานความตามจริงว่าจะไปทำอะไรเพราะหากท้าวเวสสุวัณไม่อนุญาติก็ยังไปไม่ได้ แต่บังเอิญที่ท้าวเวสสุวัณท่านติดกิจตัดสินกรณีพิพาทของเทวดาสององค์เรื่องอาณาเขตของทิพย์วิมาน ทำให้ไม่ได้ฟังสิ่งที่พ่อหลานขวัญกราบทูล ปุณณกยักษ์จึงไปปรากฏตัวอยู่ที่เทวดาที่ท้าวเวสสุวัณตัดสินให้เป็นผู้ชนะคดี เพราะผู้แท้ท่านยังไม่ให้ลุกขึ้นแต่ท่านท้าวตรัสแก่เทวดาที่ชนะว่าให้กลับวิมานไปได้ ...ก็นั่นแหละปุณณกยักษ์จึงถือทิพย์อำนาจวาจาสิทธิ์ของท่านลุงพร้อมกับบอกเทวดาแถวๆนั้นที่มาเฝ้าท้าวเวสสุวัณให้เป็นพยานให้ตนเองด้วยว่าท้าวเธออนุญาติแก่เราแล้ว ท่านลุงของเราส่งเราไปแล้วดังนี้..จึงออกไปกระทำเรื่องสั่นสะเทือนสามโลกได้ดั่งปรารถนา

- ปุณณกยักษ์คือยอดจอมโจรแห่งสวรรค์ ด้วยสมัยนั้นโลกยังไม่ปรากฏพระเจ้าจักรพรรดิ เครื่องบริโภคอันได้แก่มณีรัตนะที่จะลอยไปปรากฏเบื้องหน้าพระเจ้าจักรพรรดินั้นจึงยังไม่มีเจ้าของ ได้แต่สถิตย์รอเวลาอยู่ที่วิบุลบรรพตใกล้นครราชคฤห์..เพื่อรอเวลาที่พระเจ้าจักรพรรดฺ์จะอุบัติขึ้น อันมณีรัตนะแห่งพระเจ้าจักรพรรดิ์นี้สามารถบันดาลได้ทุกสิ่งในสี่มหาทวีปแม้สมบัติสวรรค์ชั้นไหนตลอดไปจนถึงพรหมโลกหรือสิ่งวิเศษใดๆก็สามารถปรากฏขึ้นได้ด้วยฤทธิ์ของมณีรัตนะ ซึ่งดวงมณีนั้นย่อมประกอบด้วยเกียรติยศโชติช่วงรุ่งเรือง..พ่ออาจารย์ท่านว่าก็นั่นแหละปุณณกยักษ์ท่านก็ทำเรื่องที่ไม่เคยมีใครกล้าทำ คือไปชิงนำมณีรัตนะมาเป็นสมบัติไว้ใช้แข่งพนัน

- ปุณณกยักษ์นั้นมากฤทธิ์ ...พ่ออาจารย์ท่านว่าที่เขากลัวท้าวเวสสุวัณนั้นก็เป็นดั่งหลานที่กลัวลุงไม่เช่นนั้นแล้วทั้งสวรรค์จรดพรหมโลกหรือใต้พิภพจะไม่มีผู้ใดปรามปุณณกยักษ์ได้เลย ดั่งเมื่อตอนชิงมณีรัตนะที่ต้องรบกับยักษ์เทวดาผู้เฝ้าอารักขาสมบัติจักรพรรดิ์ สมัยนั้นมณีรัตนะอยู่ในอารักขาของกุมภิระซึ่งเป็นยักษ์เทวดาเช่นกันมีบริวารหนึ่งแสนคอยอารักขาแก้วมณี..แต่กาลปรากฏว่าเพียงปุณณกยักษ์ถลึงตาดุใส่ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำเพียงเท่านั้นจริงๆ..แค่ทำตาดุจริงๆกุมภิระผู้เทวดายักษ์ก็หวาดกลัวตัวสั่นสะดุ้งตกใจหนีไปแอบซ่อนตัวอยู่ยอดเขาจักวาล...เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าปุณณกยักษ์นั้นมีฤทธิ์มากเพราะกุมภิระนี่เป็นราชายักษ์ระดับเดียวกับอาฬาวกยักษ์ทีเดียว

- ปุณณกยักษ์นั้นแม้ปรารถนาสิ่งใดก็ได้ดั่งใจนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะเขามีดวงแบบนี้คือไปหยิบไปเอามาได้ทุกสิ่ง อยากได้อะไรไม่ต้องรบให้เสียกำลังก็ได้มาอย่าลืมว่าปุณณกยักษ์ไม่ใช่พระเจ้าจักรพรรดิแต่ก็ยังมีทั้งม้าแก้วและไปชิงมณีรัตนะมาได้..เป็นคติว่าถ้าไม่มีก็ลำบากเพียงไปชิงมันมา

ด้วยมียศใหญ่รุ่งเรืองในฤทธานุภาพนอกจากลุงจะตั้งให้เป็นมหาเสนาบดีอันเป็นตำแหน่งของเทพบดีในภพจาตุมหาราชิกาซึ่งมีสิทธิ์เข้านั่งในตำแหน่งท้าวมหาราชแล้ว ยังพ่วงตำแหน่งหลานขวัญหลานรักแห่งท้าวเวสสุวัณด้วย ทั้งยังมีฤทธิ์มากพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่ได้เกรงใจท่านลุงของเขาเอาจริงๆแล้วฤทธิ์แต่กำเนิดของปุณกยักษ์ยังมากเสียกว่าท้าวเวสเสียอีก นอกจากนั้นยังเป็นผู้มากความสามารถมากเล่ห์มากกลอุบายในหลายๆครั้งปรารถนาอยากได้สิ่งใดแม้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเทวดาปุณณกยักษ์ก็ยังทำได้สำเร็จโดยไม่มีความผิด พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเทียบง่ายๆก็เหมือนเป็นนายน้อยผู้มากบารมีแห่งจตุมหาราชิกามีครบทั้งคุณสมบัติและชาติตระกูลทั้งยังมีเมียสวยอยากได้อะไรก็ได้ไปทั้งหมด ในแง่เล่ห์กลและอุบายเพื่อที่จะนำมาซึ่งสิ่งที่ปรารถนาไม่มีเทพเจ้าใดๆจะเกินหน้าปุณณกยักษ์นี้เทียบกับคดีชิงแก้วจักรพรรดิ์แล้ว "มหาโจรใดๆก็น่ารักไปหมด เล่ห์ลวงทั้งหลายล้วนเป็นเรื่องขี้ผง" ### พ่ออาจารย์ท่านว่ากรณีของปุณณกยักษ์มหาอำมาตย์คือผู้ทำความผิดที่ไร้ซึ่งความผิด..ทำผิดแล้วกลับถูกต้องเพราะทำไปตามโองการท้าวเวสสุวัณโดยใช้กลอุบายสุดท้ายก็ได้ดีคือได้ครอบครองทุกอย่างได้เมียสวยนี่คือนิสัยของปุณณกยักษ์ถ้าเทียบกับบนโลกก็ต้องเรียกว่าขาใหญ่และทำแต่เรื่องบ้าๆที่บ้ามากๆจริงๆ อย่างแก้วจักรพรรดิ์นี้เทวดาที่ไหนเขาก็รู้ที่เก็บในแต่ละยุคสมัยกันทั้งนั้นแต่ไม่เคยปรากฏว่าใครจะไปเอามาเล่นรึมาใช้เป็นของพนันได้เช่นปุณณกยักษ์ เพราะพระอินทร์ได้แต่งตั้งยักษ์เทวดาผู้มากฤทธิ์คอยอารักขาพร้อมบริวาร พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ดูเอาเถิดถ้าระดับมณีรัตนะยังดึงมาใช้เพื่อทำอุบายขอสาวได้ ก็ไม่มีสิ่งใดในโลกแล้วที่ปุณกยักษ์จะไม่กล้าคิดและก็ไม่กล้าทำ

บ้าแบบนี้..จะรวย
ด้วยนิสัยของปุณณกยักษ์มหาอำมาตย์เช่นนี้ ท่านจึงถือว่ามันเรื่องบ้าที่บ้ามากๆและก็เป็นเครื่องรางสำหรับคนบ้าๆที่มีความปรารถนาแต่มองไม่เห็นหนทางเลยว่าจะเดินไปถึงยังไง ทั้งไม่มีวิธีการทั้งมืดมนไม่รู้ต้นรู้ปลาย เรียกว่ามีแต่ความปรารถนาแต่ทำไม่ได้ไม่มีความสามารถเช่นนั้นจึงต้องใช้ปุณณกยักษ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเครื่องรางบ้าๆสำหรับคนบ้า..คนบ้าในที่นี้ก็คือคนที่รู้ตัวว่าตัวเองทำไม่ได้ไปไม่ถึงแต่ก็ไม่เลิกคิดไม่เลิกฝันที่จะเอาในสิ่งที่ตนปรารถนาคือรู้ว่าไม่ได้..แต่ก็ยังจะเอา เครื่องมงคลปุณณกยักษ์นี้จึงมีอาถรรพ์มากด้วยว่าเรื่องบ้าๆก็ยังเอามาได้..แม้เรื่องไม่เป็นเรื่องเกินการณ์ที่มนุษย์จะทำจะคิด..ได้แค่ฝันก็ยังเป็นจริงได้
*** พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ท่านใช้มาตั้งแต่รุ่นๆและเก็บไว้ขอแค่เรื่องบ้าๆ ยิ่งถ้าความคิดความหวังเราเป็นสิ่งที่บ้ามากๆนั่นยิ่งง่าย ถ้าไม่ขอเรื่องบ้าๆรึปรารถนาอะไรที่เรารู้ตัวว่าสำหรับชีวิตเราแล้วมันเกินเรื่อง..มันเป็นเรื่องที่บ้ามากๆก็ไม่ต้องขอกับปุณณกยักษ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าปุณณกยักษ์ของท่านต้องแกะจากมะเขือบ้าเท่านั้นถึงจะมากอาถรรพ์และทำเรื่องบ้าๆได้เห็นจริง ### จะเห็นได้ว่าเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์ท่านที่แกะจากไม้มะเขือบ้านั้นมีน้อยมากเพราะเป็นไม้อาถรรพ์และหายากแม้เครื่องรางที่อื่นซึ่งแกะจากไม้มะเขือบ้าก็มักจะมีราคาสูงหลักหมื่น พ่ออาจารย์ท่านเอาไม้มะเขือบ้านี้มาฝานแกะสลักลงอาถรรพ์วิชาปุณณกยักษ์ด้วยว่าจะได้บ้าซ้ำบ้าซ้อน..ทำเรื่องบ้าๆและความปรารถนาที่ไม่มีใครทำได้ให้สำเร็จดั่งคติว่าแม้เรื่องบ้าๆอย่างชิงแก้วมณีรัตนะก็ยังทำได้

เครื่องมงคลชิ้นนี้เป็นของสูงพ่ออาจารย์ท่านว่ามีสองคติถ้าทำอาถรรพ์ปุณกยักษ์คือร่างเทพบุตรกับร่างยักษ์ ถ้าทำร่างยักษ์แบบนี้จะเน้นอาถรรพ์รุนแรงเพื่อเอาในสิ่งที่เอาไม่ได้และเป็นร่างที่แสดงฤทธิ์ได้สูงสุดด้วยชาติกำเนิด ท่านว่าติดตัวไว้เถอะนอกจากขอให้ท่านช่วยทำเรื่องบ้าๆของเราแล้วยังเป็นมหาระงับดับทุกข์สะกดคนแลสรรพสัตว์ได้ทั้งสิ้นทั้งยังแฝงมหาอำนาจเทวดาก็ดีภูมิเทวดาก็ดี,ผีสางนางไม้,วิญญาณอาถรรพ์แค่สัมผัสของปุณณกยักษ์ลอยมาที่หนีได้หนีไวก็ต้องหนีไปซ่อนตัวถึงเขาจักรวาลนั่นเพราะเกรงเดชของปุณณกยักษ์..อุปมาเหมือนเทวดาเกรงเดชพญาครุฑเพราะนึกว่าเป็นพระอัคนี ปุณณกยักษ์ก็เช่นกันเขาจะกลัวเดชกันมากเพียงแรกเห็นกลัวที่เรียกว่าลืมตัว..ลืมหน้าที่..ลืมตาย เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงอุปมาว่าถ้าปุณณกยักษ์นี้ยังอยู่กับเราเธอไม่ต้องไปกลัวเทวดาที่ไหนในพื้นโลกทั้งนั้นเพราะมีแต่เขาต้องกลัวเราปิดประตูตัดปัญหาเรื่องโดนเขารังแกไปได้เลย(ด้วยในโลกนี้มีแต่ปุณณกยักษ์จะรังแกเขามากกว่า) ทั้งอาถรรพ์แห่งปุณณกยักษ์นั้นยังจะลดทอนกำลังอุปสรรคบาปเคราะห์และกรรมหนักใดๆก็ดีที่จะเข้าถึึงตัวเราให้เบาลงได้อุปมาว่าแม้ตัวเองผิดมีโทษทัณฑ์ยิ่งใหญ่รอติดตามให้ใช้เวรใช้กรรมก็เข้าไม่ถึงตัว

พ่ออาจารย์ท่านสร้างมงคลช่วงชิงตามใจคน..บ้าพ่อยักษ์มหาโจรปุณณกอำมาตย์เอาไว้สงเคราะห์คนที่ขาดสิ่งพึ่งพิง ด้วยปุณณกยักษ์นั้นมากฤทธิ์เรียกว่ามีพระเดชมาก,เป็นผู้ทำลายล้างจะได้ทำลายสิ่งไม่ดีไม่งามต่างๆในชีวิตเราให้หมดไปได้ทั้งวิสัยปุณณกยักษ์ยังแตกต่างจากลุง(ท้าวเวสสุวัณ)ตัวเองอย่างสิ้นเชิง เรียกว่าใจร้อนคิดเดี๋ยวนั้นก็จะเอาและทำเดี๋ยวนั้นนี่คือนิสัยท่านคือใจร้อนใจเร็วมุทะลุ แบบนี้เรื่องใดๆที่ขอกับท่านพ่ออาจารย์ท่านว่าฉันไม่ต้องบอกอีกหรอกนะว่ามันจะช้าหรือจะเร็วเพราะพ่อยักษ์มหาอำมาตย์ท่านค่อนข้างซื่อตรงและจริงใจกับผู้ศรัทธา ทั้งท่านยังเก่งทางแย่งชิงหรือช่วงชิงสิ่งที่ไม่ใช่ของตนเองพ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องแบบนี้เชื่อเถอะพ่อปุณณกยักษ์นี่ไม่เป็นสองรองใคร จะอาราธนาไปเพื่อปกปักรักษาดูแลตัวเองก็ใช้ได้ดั่งประสงค์ จะทำการแข่งขันชิงดีชิงเด่นกับผู้ใดก็มีแต่โชคชัยอำนวยพรรองรับให้ทุกโอกาส พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตใครถ้าปุณณกยักษ์เข้าข้างนี้มันเหนือกว่าสิ่งที่เรียกว่าดวงมาหรือโชคเข้าข้างอีกนะ ด้วยโชคเข้าข้างยังมีวันหมด..โชคยังมีขีดจำกัดมีสิ่งที่ไม่อาจเอื้อมแต่ปุณณกมหาอำมาตย์เข้าข้างนี่มันเป็นโชคแบบกดหัวคืนอื่นเขาไปทั่วเลย ทั้งใครที่คิดร้ายหรือจะทำร้ายเราท่านจะสนองตอบคืนกลับให้อย่างแรงและทันทีจนมันเหล่านั้นแพ้ภัยในสงสารแพ้แก่แรงกรรมแรงอาฆาตการกระทำของตนเอง พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าอาถรรพ์แห่งมงคลชิ้นนี้นอกจากกันผีแล้วยังไล่เทวดาเกเรที่ไม่รักษาหน้าที่ออกไปพ้นเขตของตนได้ ถ้าใครที่เจ้าที่ให้โทษเทวดารังแกนี่ท่านขับออกไปหมดเลยนะทั้งยังจะเป็นธุระหาแบบที่ดีที่อยู่ในหน้าที่มาประจำให้ใหม่แต่ว่าพ่ออาจารย์ท่านกำชับไว้ว่าอย่าไปขอท่านเรื่องพวกนี้มันก้าวก่ายเรื่องของข้างบนแล้วจะเดือดร้อนกันเป็นลำดับไป(จำไว้ว่าไม่ต้องขอถ้าเจอเดี๋ยวท่านจัดการของท่านเองมันเป็นหน้าที่มหาอำมาตย์ในจตุโลกบาลอยู่แล้ว) แล้วก็พวกของต่ำคุณไสยมนต์ดำก็เลิกไปคิดถึงมันได้เลยเพราะปุณณกอำมาตย์อยู่ตรงนี้ของพวกนี้เข้าใกล้ไม่ได้ที่ทำมาใส่เราเจอปุณณกยักษ์อารักขาจะสลายไปทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ล้างอาถรรพ์ถอนของถอนวิชาดีนัก

ปุณณกยักษ์เนื้อไม้มะเขือบ้าของฉันนี้หากอาราธนาติดตัวจะช่วยขับสง่าส่งราศีให้เราดูมีบุญลักษณะดูแปลกตาในสายตาผู้อื่นดุจร่างเทพของปุณณกยักษ์ที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพน้อยรูปงามยิ่งนัก จะอาราธนาใช้เสริมดวงเสริมบารมีหนุนฐานมหาอำนาจเพิ่มกำลังวังชาแก่เราล้วนได้ทั้งสิ้นสุดแต่จะอาราธนา ...พ่ออาจารย์ท่านว่าดีนะแต่ที่ดีที่สุดคืออยากได้อยากทำอะไรแล้วไอ้ตัวสิ่งที่เราจะเอานั่นแหละมันจะได้มาเองแบบง่ายๆฟลุ๊คๆไม่ต้องเปลืองตัวเปลืองแรงนั่งหายใจทำธุระตนเองไปปุปปัปมันจะเข้ามาเองเลยนี่คืออำนาจของปุณณกยักษ์ ท่านเป็นได้ทั้งผู้ช่วงชิงและผู้ทำลายล้างย่อมกระทำไปทุกอย่างตามใจปรารถนาเพื่อให้ได้มาซึ่งจุดหมายไม่มีอะไรไปต้านทานท่านได้ แม้ต้องใช้เล่ห์ลวงแต่เชื่อเถอะว่าหากมีเป้าหมายพ่อยักษ์เดินลุยไม่มีชักเท้าถอยที่อยากได้ต้องได้ที่ไม่มีก็ต้องมี พ่ออาจารย์ท่านอุปมามงคลปุณณกยักษ์มีค่ายิ่งกว่าแก้วสารพัดนึกเสียอีกเพราะแก้วจักรพรรดิ์สารพัดนึกจริงๆเขาก็ไปหยิบเอามาได้เช่นนั้นตัวของท่านจึงเป็นยิ่งกว่าแก้วสารพัดนึกเพราะท่านจะทำทุกอย่างทุกทางให้ได้มา เราเป็นคนใช้คนขอมีแต่ได้ไม่มีเสียไม่ต้องไปปล้นใครชิงใครฆ่าใครอยากได้อยากให้ชีวิตตัวเองเป็นอย่างไรก็บอกพ่อยักษ์เช่นนี้ฉันจึงกล้าพูดว่ามีแต่ได้กับได้ แม้นปรารถนาวาสนา,ทรัพย์สินเงินทอง,อำนาจยศฐาบรรดาศักดิ์,บริวาร,คู่ครอง,เครื่องบันเทิงและสิ่งอำนวยความสุขช่วยให้ชีวิตเสพย์สุขใดๆก็ดี..นั่นแหละบอกท่านเถิด

เคล็ดวิธีใช้
อีกประการหนึ่งผู้ช่วงชิงมักจะเป็นที่หวาดเกรงของคนทั่วไปแม้ในเหล่าเทวดาก็ดี พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคำพูดติดปากเทวดาทั้งหลายอยู่ประโยคหนึ่งแรกๆท่านได้ยินยังนึกแปลกใจ นั่นก็คือ "มีของดีของแปลกอะไรให้รีบยกให้ปุณณกยักษ์เองดีกว่ารอให้เขามาช่วงชิงเอาไป.."นี่แปลว่าไปที่ไหนใครก็เกรงกลัวเกรงขามแม้ตัวเราอาราธนาได้ชื่อว่าทำกิจใดในสังคมไหนจะสมาคมกับผู้ใดชนทั้งหลายย่อมต้องเกรงใจเราหลายส่วน ท่านมีทั้งพระเดชและพระคุณเช่นนี้จะช่วยเพิ่มตบะอำนาจบารมีให้กิจการและความตั้งใจเราเจริญรุดหน้าก้าวหน้าได้รวดเร็ว..อยากได้อะไรต้องได้มา ทั้งปุณณกยักษ์นั้นแม้ทำผิดมีโทษมหันต์ย่อมรอดพ้นได้โดยสะดวกสบายจึงมีคุณแก่ผู้ใช้ให้รอดและพ้นความทุกข์และข้อจำกัดทั้งปวงแม้นตัวเองทำผิดก็ยังรอดแคล้วคลาดปลอดภัย พ่ออาจารย์ท่านว่ามีกฏท่านก็แหกเอาง่ายๆนี่คือนิสัยของท่าน พ่ออาจารย์ท่านเสกหนุนวิชามหาโจรทุกอย่างใส่มงคลปุณณกยักษ์นี้ให้ไล่ล่าฉกชิงทุกความฝันได้รวดเร็ว
*** หากอยากใช้ปุณณกยักษ์ให้แรงแบบโดดๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ห้อยท่านองค์เดียวหรือจะห้อยกับอะไรก็ดี ขอแค่ห้ามห้อยกับท่านลุงคือท้าวเวสสุวัณเท่านั้นนอกจากนั้นอินทร์พรหมยมยักษ์ใดๆไม่มีปัญหาเลย แล้วอาถรรพ์ความเฮี้ยนความแรงในมงคลชิ้นนี้จะรุนแรงอย่างมากเพราะไม่มีใครปรามหรือทำให้ท่านกลัวได้
*** ห้ามเอาเหล้าขาวรึสุราใดๆเซ่นพ่อปุณณกยักษ์เด็ดขาด ท่านไม่ใช่ยักษ์อสูรแต่ท่านเป็นเทวดาเว้นจากน้ำเมาทั้งยังโปรดปรานสิ่งที่สวยงามหอมหวานเป็นพิเศษ ถ้าจะขอจะบนท่านเอาให้แรงๆพ่ออาจารย์ท่านให้ใช้น้ำอบน้ำปรุงหรือน้ำหอมเจิมท่านก่อนอธิษฐาน ท่านว่าไม่ได้จำกัดกลิ่นขอให้เป็นเครื่องหอมของหอมก็ป้ายพ่อยักษ์ท่านได้หมด ยิ่งป้ายยิ่งเจิมยิ่งแรง ยิ่งหอมยิ่งขยันป้ายยิ่งเห็นผลไว ขอท่านไปเถิดเปิดเนตรเปิดตาชวนท่านมาทำงานให้เราด้วยเครื่องหอมเหล่านี้ไม่ว่าจะเรื่องดีเรื่องร้ายหรือต้องสำเร็จด้วยกลอุบายท่านทำให้ทั้งสิ้น

ด้วยพ่ออาจารย์ท่านว่ารูปอาถรรพ์วิชาปุณณกยักษ์นี้ฉันเคยใช้มาตั้งแต่รุ่นๆ ไม่เพียงเอาไว้รับมือความบ้าในบางโอกาสบางเวลาบางห้วงความคิดตัวเองแต่ยังเอาไว้รับเคราะห์แทนตัวเราได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาไว้ใช้ในทางที่ดีจะมีแต่ความสุขความเจริญเพราะพ่อยักษ์ท่านไม่เลือกคนใช้จะคนดีคนบ้าเอาไปอธิษฐานใช้ได้ทุกทาง ท่านเลือกปลุกเสกในโจโรฤกษ์ทั้งขอบารมีเทพฝ่ายมารคือสายพญามารมาหนุนฤทธิ์ให้อยู่เหนือกว่ากามคุณกามภพมีอำนาจบงการและช่วงชิงสิ่งที่เป็นกิเลสตัณหาความปรารถนาอยากได้ใคร่ดี เช่นนี้พ่อปุณณกยักษ์จึงมากฤทธิ์ดั่งพ่ออาจารย์ท่านว่าจะคนบ้าคนดีขอให้มีความฝันย่อมใช้ได้เหมือนกันอยากได้อะไรก็ขอเขาแต่ถ้าเราเดือดร้อนพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเป็นความปรารถนานี่ต้องขอ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ทำให้ชีวิตเราเดือดร้อนมีผลต่อชีวิตเราเขาจะช่วยทันที ทั้งพ่อยักษ์ปุณณกะยังถือคฑาวุธเป็นอาวุธปราบปรามได้ทั่วไปพ่ออาจารย์ท่านว่าหน้ายักษ์จับอาวุธนี่แหละจะเสริมแรงกันลำพังแค่ถลึงตามองเทวดาด้วยกันก็หนีไปหลบเขาจักรวาลแล้ว ถ้าลองจับอาวุธด้วยนี้ยิ่งกลัวขวัญกระเจิดกระเจิงเลยท่านว่ารูปปุณกยักษ์นี้มีอาถรรพ์มากท่านทำให้ครั้งเดียว ทำให้เหมือนกับที่ตัวท่านเองทำใช้สมัยรุ่นๆ

พ่อปุณณกยักษ์นี้ไม่แพ้อะไรทั้งนั้นจะแพ้อยู่อย่างคือผู้ทรงความดีเหมือนเมื่อท่านทรมานพระมหาสัตว์ตอนเกิดเป็นวิธุรบัณฑิต เช่นนั้นเมื่อจะทำรูปปุณณกยักษ์พ่ออาจารย์ท่านจึงฝังไว้ด้านหลังสมเด็จพระศรีอาริย์ผู้เป็นบ่อเกิดแห่งสัจธรรมทั้งปวงในเทวโลก พ่ออาจารย์ท่านว่าพระศรีกับปุณณกยักษ์นี้ท่านไม่ต่อต้านกันนะแต่หลับหนุนให้เก่งให้ดีมากยิ่งขึ้นไป ด้วยคติชนนั้นล้วนมุ่งหวังที่จะได้ไปเกิดทันในยุคพระศรีอาริย์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเวลาที่ทุกสิ่งจะบริบูรณ์พร้อมมูลทั้งความสุข ความสมหวัง จะเห็นว่าเวลานับพันปีที่ผ่านมานั้นแม้ตามศิลาจารึกและถาวรวัตถุต่างๆก็มักจะปรากฏคำอธิษฐานซึ่งเต็มไปด้วยการตั้งความปรารถนาจะได้ไปเกิดในยุคของพระศรีอาริย์ ซึ่งสมเด็จพระศรีอาริยเมตตรัยบรมโพธิสัตว์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าพระองค์ก็ได้บำเพ็ญบารมีอยู่และยังมีกิจที่ต้องทำกับมนุษย์อีกหลายประการ พูดง่ายๆจิตของพระองค์ท่านก็ไปๆกลับๆระหว่างมนุษย์โลกกับเทวโลกนั่นแหละ เป็นความผูกพันธ์ที่ยังตัดกันไม่ขาด ทิ้งกันไม่ได้หากมีคนตั้งใจปรารถนาจะเกิดทันยุคของท่านนี่ก็เท่ากับเป็นบริวารของท่าน เป็นคนของท่าน คนเหล่านี้ท่านจะไม่ทิ้งเด็ดขาด

ทำไมต้องสร้างพระศรี..พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่(องค์ปฐม)ท่านบอกให้ทำ เรียกว่ามีบัญชาหรือต้องการให้ทำนั่นก็ได้ ซึ่งทีแรกพ่ออาจารย์ท่านก็คิดว่าสมเด็จพระศรีนั้นเวลาท่านทำพิธีต่างๆท่านก็ออกนามเชิญพระองค์อยู่เสมอแล้ว แต่เสด็จพระใหญ่ท่านบอกว่าเท่านั้นยังไม่พอจึงให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างรูปพระศรีซึ่งเรียกว่าพระศรีสัมฤทธิ์ขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่า เพราะคนจำนวนมากที่มีบารมียังไม่เข้มข้นเรียกว่ายังสร้างบารมีกันมาไม่เต็ม ทั้งสมเด็จพระศรีท่านก็มีบริวารอยู่มากไม่ว่าจะเป็นคนที่คอยติดตามท่านมาแต่ก่อน คนที่ปรารถนาจะเกิดให้ทันในยุคของท่าน คนทั้งหลายที่อ้างนามท่านเวลาทำการกุศลต่างๆ ด้วยคนเหล่านี้ปัจจุบันก็เอากำเนิดเกิดขึ้นมานับล้านนับแสน และสมเด็จพระศรีท่านก็ถือเสมือนเป็นคนของท่านและตั้งใจจะช่วยกันไปให้ถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าพอตั้งจิตจะทำแล้วก็มานึกอยู่ว่า เอ..จะทำอย่างไรหนอ จะเอาอะไรไปทำรูปท่านหนอ นึกได้เท่านั้นเสด็จพระใหญ่ก็พาท่านไปที่ปราสาทเลย เมื่อไปถึงก็พาเข้าไปในห้องโถงอันโอ่อ่าได้พบกับเทวดาองค์หนึ่งนั่งอยู่บนแท่นสูงมีหน้าตาสดสวยใส่เครื่องประดับแพรวพราวและมีรัศมีสว่างมากเป็นพิเศษ พ่อครูท่านว่าพอเข้ามาท่านก็ทักเราเฉยเลยว่าเจอกันอีกแล้วและหนนี้เสด็จพระใหญ่ท่านพามาท่านจึงรีบลงมารับ และพูดกับเราว่าไม่ต้องกังวลไปหนาก็ทำฉันแบบที่เป็นฉัน แบบที่เธอเห็นนั่นก็พอส่วนเรื่องจะเอาอะไรไปทำเดี๋ยวฉันจะให้คนเอาลงไปให้ พ่ออาจารย์ท่านจึงพูดกับสมเด็จพระศรีว่าทำขึ้นมาแล้วก็หวังจะให้ท่านลงมาช่วยมนุษย์ ซึ่งท่านก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงไปเพราะในกาลข้างหน้ามนุษย์จะได้รับความเดือดร้อนจากภัยต่างๆมากมายบรรดามี แต่ก็ให้จำเอาไว้อย่างหนึ่งว่า "คนของฉัน ฉันไม่ทิ้ง"

พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จพระศรีอาริย์นั้น ท่านสถิตย์อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตอันเป็นที่ประทับของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายและว่าที่พระอัครสาวก หลายๆคนพอพูดถึงสวรรค์ชั้นนี้ก็จะคิดเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือเป็นที่อยู่ของเทพที่ได้ชื่อว่าเป็นโพธิสัตว์ แต่ความจริงนอกจากจะเป็นที่อยู่ของเหล่าพระบรมโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตจำนวนมากแล้ว แม้เหล่าเทพบุตรที่สร้างบารมีปรารถนาเป็นพระสาวกเพื่อตามเสด็จพระบรมโพธิสัตว์ลงมาตรัสรู้ในอนาคตก็อยู่ร่วมกันที่ชั้นดุสิตนี่ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ใครๆก็ปรารถนาจะอยู่ชั้นดุสิตแม้เทพ พรหม ที่มีกำลังบุญมากมายพอทีจะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นใดก็ได้ตามปรารถนาก็ยังมาเลือกสวรรค์ชั้นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะได้อยู่กับพระอนาคตวงศ์อันมีสมเด็จพระศรีเป็นประธานใหญ่แล้ว สวรรค์ชั้นนี้ยังมีอะไรที่พิเศษอยู่มาก กล่าวคือเหล่าเทพแห่งดุสิตสวรรค์นั้นแม้ประสงค์จะสร้างบารมีธรรมในโลกมนุษย์แล้วเพียงทำสมาธิอธิษฐานจิตก็จะดับวูบลงมาสู่ภูมิมนุษย์ได้ทันที ไม่ต้องรอให้จุติเพราะความโกรธ เพราะหมดบุญ หมดอายุขัยเฉกเช่นสวรรค์ชั้นอื่น นอกจากนี้เหล่าเทพแห่งดุสิตสวรรค์ยังเป็นพวกพ้องเป็นกัลยาณมิตรที่เอื้อเฟื้อต่อกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนเอาคนที่มีลักษณะนิสัยใกล้เคียงกันมารวมกันไว้ในที่เดียว แต่ละคนท่านก็คิดถึงแต่พระนิพพานคิดถึงแต่การฝึกตัวเองเช่นนี้จึงไม่วุ่นวายและไม่มีเทพที่ดำรงค์ตัวอยู่อย่างประมาทเช่นสวรรค์ชั้นอื่น ทั้งเมื่อเถิงวันพระ สันดุสิตเทวราชก็จะเชิญเหล่าพระอนาคตวงศ์ผู้เป็นใหญ่ทั้งสิบอันมีสมเด็จพระศรีเป็นประธานให้รับนิมนต์นั่งแสดงธรรมเพื่อความเบิกบานในอรรถในธรรมนั้นจะพลันเกิดมีแก่เหล่าเทพแห่งดุสิตสวรรค์ทั้งหลาย

ด้วยเหตุนั้นพระศรีท่านจึงมีบริวารมาก มีพวกพ้อง มีกำลัง มีบารมีมาก เพราะใครก็อยากเป็นคณะของพระศรี เป็นเทพในสังกัดของพระศรีเช่นนั้น เมื่อมีดำริจะสร้างและองค์พระศรีท่านอนุญาติแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงแกะบล๊อคแม่พิมพ์เป็นซุ้มปราสาทและมีสมเด็จท่านทรงเครื่องเต็มยศนั่งสำแดงบารมีอยู่บนรัตนบัลลังค์เช่นนั้นตามที่ท่านเห็น พร้อมกันนี้พ่ออาจารย์ท่านยังได้รวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเช่นผงไม้ตะเคียนตกน้ำมันบนภูลังกา ว่านเสน่ห์จันทร์ทั้งห้า ดินเจ็ดโป่ง ดินขุยปู ว่านมหาลาภ เปลือกเหียง ว่านกุมารทอง รากผักหวาน ว่านเพชรน้อย ว่านเพชรหลวง ว่านนมนางว่านทอง ว่านเงินไหลมา ผงเครือเถาหลง ว่านขุนแผนสะกดทัพ เครือร้อยปลา เครือเขาหลงตัวผู้ตัวเมีย ข้าวก้นบาตรหลวงปู่ขาว ดอกรักซ้อน ดอกกาหลง กาฝากมะยม ผงไพรปลุกเสก ผงตระไคร่เสมาเจ็ดวัด พ่ออาจารย์ท่านเอาว่านต่างๆมาเขียนเป็นผงสำคัญซึ่งเรียกว่าผงยันต์พันคาถา
- ผงยันต์พันคาถา ผงนี้เกิดจากการเขียนคาถาพันบท เขียนยันต์พันรูป ซึ่งจะมีอานุภาพดุจฝอยท่วมหลังช้างที่เรียกว่าอธิธฐานใช้ได้ทุกด้าน เสมือนเรามีทรัพย์สินมากมายหลายประการปรารถนาสิ่งใดก็นำไปใช้แลกเปลี่ยนได้ไม่รู้หมด พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้เราทำมาเป็นปีและต้องใช้ความอุตสาหะมาก ให้คิดเอาเองว่าลำพังยันต์หนึ่งนั้นยังมีอุปเท่ห์ใช้ได้นับสิบนับร้อย เช่นนั้นยันต์พัน คาถาพัน ยิ่งไม่ต้องพุดถึง เอาว่าที่นำมาใช้เป็นมวลสารก็เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคนบูชา ทั้งยังเป็นคติของสมเด็จพระศรีอาริย์ที่ใครจะเกิดในยุคท่านก็ให้ฟังเทศนามหาเวสสันดรชาดกในวันเดียวจบทั้งพันพระคาถา เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงทำผงคาถาพันขึ้นเสมือนใครมีไว้ก็เกิดทันท่านและได้อยู่กับท่านเป็นคณะของท่านนั่นเอง
เมื่อได้ผงยันต์พันคาถาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านท่านได้เขียนผงยันต์ธงพระฉิมเรียกทรัพย์ ผงมนต์มหาลาภ ผงคาถาเรียกทรัพย์ ผงคาถาเงินแสน ผงคาถาเงินล้าน ผงยันต์มหาโสฬสสะระตะใส่ลงไปอีกด้วย ท่านว่าเอาผงทั้งหมดมาคลุกกับน้ำมันตานีที่ต้องพลีปลีกล้วยตานีมาเคี่ยวกับว่านเจ็ดชนิดในโบสถ์เจ็ดโบสถ์ตอนเที่ยงคืน พ่ออาจารย์ว่าท่านทำเก็บไว้นานก็เพิ่งได้นำมาใช้เพราะสมัยนี้จะไปขออนุญาตินั่งเคี่ยวน้ำมันในโบส์ตอนเที่ยงคืนพระท่านก็จะมองเราไม่ดีไปเสียอีกท่านจึงไม่ทำน้ำมันตัวนี้แล้ว ท่านว่าน้ำมันนี้แรงนะเพราะตอนเคี่ยวเราต้องใช้เตโชกสิณไม่ใช่ใช้ไฟเคี่ยว ต้องเคี่ยวไปเรื่อยๆจนน้ำมันเดือดขึ้นฟองนั่นจึงถือว่าสำเร็จ ท่านว่าน้ำมันนี้โดยรวมจะดีทางเมตตามหานิยม แต่ที่แน่ๆทางเสี่ยงโชคลาภลอยก็ได้ไม่หยอกเหมือนกัน

พอสำเร็จเป็นองค์พระพ่ออาจารย์ท่านว่าเราก็ยังไม่ได้เสกอยู่ดีเพราะทั้งหมดนี้ต้องเชิญสมเด็จพระศรีท่านทำของท่านเป็นรูปนิมิตของท่าน ให้ท่านนิรมาณกายของท่านมาสถิตย์รูป ท่านว่าเราจะได้ทำก็เพียงดั้นเมฆซึ่งสมเด็จท่านบอกให้เราทำและท่านจะช่วย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้คือการยกเมฆบังรัศมีดวงอาทิตย์ระหว่างประกอบพิธี แต่โบราณนั้นเชื่อว่าการดั้นเมฆเชื่อว่าจะดับทุกข์ คลายเหตุการณ์ที่เดือดร้อนทั้งปวงให้กับผู้บูชาได้ ทั้งยังยกชีวิต ยกจิตใจ ยกดวงชะตาคนใช้ไม่ให้ตกต่ำ ไม่ให้ล้ม ให้เป็นสุขอยู่ตลอดเวลา ท่านว่าเป็นความเมตตาของพระศรีท่าน นี่ถ้าใครมาถามฉันว่าพระนี่ดียังไง ฉันคงตอบเขาว่าตาบอดรึเปล่าถึงไม่รู้ เพราะพระศรีท่านทำให้ทุกอย่างตรงนี้ก็สุดแล้วแต่วาสนาเขาเท่านั้น

คาถาบูชา (นะโมสามจบ)
ธุระนะสิ ธุรินะสะ กะระ นะโมพุทธายะ การะไมตรีเมตตัง จิตติธะนัง ชีวิตจุติ อุอะยุยะ นะมะสัจเจ นะเมสัจจะ วะภะนะโม โหติ

**** พ่ออาจารย์ว่าพระศรีชุดพิเศษที่ฝังพ่อปุณณกยักษ์นี้ฉันทำกดไว้นานแล้วมีอยู่ห้าองค์และจะเก็บไว้ใช้เององค์หนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้ารู้ว่าตัวเองรอพระศรีเป็นคนของพระศรี ..รู้ว่าตัวเองมีคิดความปรารถนาบ้าๆที่ต้องพึ่งปุณณกยักษ์ก็มาเอาไป รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างห้องน้ำในวัดที่ขาดแคลนต่อไป

ร่วมทำบุญบูชา สมเด็จพระศรีอาริย์ชุดช่วงชิงตามใจคน..บ้า
(ขุนโจรมหายักษ์ปุณณกอำมาตย์)บูชา 4,000 บาท​

​

 

ความปรารถนาบ้าๆของตัวเราหนึ่ง
พ่อปุณณกยักษ์ที่มีนิสัยบ้าระห่ำหนึ่ง
ฤทธิ์พ่อยักษ์ซึ่งเกิดจากเกิดจากมะเขือบ้าหนึ่ง
...พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงเท่านี้ก็เอาไม่มีอะไรเอาอยู่ ฉันรับรองว่าพ่อยักษ์จะช่วงชิงเรื่องบ้าๆมาให้เธอได้อีกมาก

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

เรื่องปุณณกยักษ์นี่มีสอบถามกันมามากผมถือว่าเป็นเครื่องมงคลที่น่าสนใจจริงๆเพราะความพิเศษในตัวเองที่ต้องบ้า..และกล้าขอ

ส่วนที่ถามขอแยกบูชารายการนี้ไม่มีให้แยกนะครับเพราะท่านกดไว้ตั้งแต่สมัยทำสมเด็จพระศรีสัมฤทธิ์แล้ว เป็นชุดที่ทำยากมากเพราะพ่ออาจารย์ท่านต้องนั่งผ่านั่งขัดนั่งเกลาไม้จนเนื้อเนียนเรียกว่าปุณณกยักษ์ที่ฝังหลายๆคนอาจมองไม่ออกแต่ความจริงแล้วมีขนาดเท่ากับพระศรีเลยถือเป็นงานแกะที่องค์ใหญ่มาก ไซด์นี้องค์เดียวคุ้มไปดูรายการวัตถุมงคลของวัดอื่นๆที่สร้างด้วยไม้มะเขือบ้าก็ขึ้นหลักหมื่นถึงหลายๆหมื่นกันหมดแล้ว เช่นนี้จึงบอกได้แค่ใครทันก็โชคดีทั้งองค์พระยังเบามากๆห้อยคอได้โล่งสบายตัวเพราะชุดนี้ไม่ได้ฝังเครื่องมงคลที่มีน้ำหนักมากเน้นแต่ความแรงที่บ้ามากๆแทน

 

ช่วงนี้ก็มีพิธีไหว้ครูครอบครูกันหลายที่ จริงๆต้องเรียกว่าหากคนที่เขาหาครอบจริงๆคงหาได้ทั้งปีตามฤกษ์ยามแต่ละที่เค้าถือเค้าจัดกันทีนี้ก็มีคำถามน่าสนใจอยู่ข้อนึงว่าจำเป็นมั๊ยที่ต้องตระเวณครอบเศียรครูให้ได้หลายๆสิ่งหลายๆแบบ

อันนี้หลายคนคงจะเป็นเหมือนกันที่ว่าตระเวณครอบหลายๆที่อย่างวัดนี้ครอบพ่อแก่ไปอีกที่นึงครอบพระพิราพอีกที่หนึ่งครอบพระพิฆเนศ...อีกที่หนึ่งครอบพระลักษณ์หน้าทอง....ทั้งนี้หลายๆท่านก็พยายามหาตระเวณครอบแล้วก็นำมาอวดมาพูดคุยกันว่าเคยครอบเศียรนี้ๆ

ซึ่งแท้จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องจำเป็นหรือเรื่องที่ต้องตระเวณเก็บแต้มครอบให้ได้เยอะๆและแม้แต่ต้องเอามาพูดอวดกันข่มกัน เพราะพิธีเหล่านี้โดยแท้แล้วย่อมชุมนุมเทวดาชุมนุมครูบาอาจารย์เหมือนกันหมด เพียงเขาสมมติตัวเลขกลมๆจำง่ายๆว่าครูในสากลนี้มีร้อยแปดองค์ซึ่งหากนับจริงๆแน่นอนว่าต้องเกินอยู่แล้ว ดังนั้นพิธีไหว้ครูก็ไม่เคยมีที่จะนำเศียรทั้งร้อยแปดเศียรมาเรียงครอบทีละเศียร เพราะเขาเลือกเศียรที่เป็นประธานเป็นตัวแทนครูทั้งหมดในพิธีนั้นๆมาครอบให้

พูดให้เห็นภาพง่ายๆก็เหมือนเชิญนายกอไก่ไปจนถึงฮอนกฮูกมานั่งร่วมในพิธีเดียวกัน แต่จะขอใช้รูปสมมติของนายกอไก่แทนจำนวนสมาชิกทั้งหมดตั้งแต่นายกอไก่ไปถึงฮอนกฮูกเพื่อทำการมงคล กรณีนี้ก็เหมือนกันเพราะทุกๆพิธีไหว้ครูที่จัดถูกต้องแรงครูย่อมลงเทวดาย่อมมากันครบไม่ใช่แค่เราครอบเศียรพ่อแก่แล้วปีนี้ยังขาดไปอีกหลายเศียรต้องตระเวณหาครอบให้ครบอันนี้ไม่จำเป็น

ถ้าทำแล้วสบายใจก็แล้วกันไปแต่ถ้าทำแล้วลำบากหรือเสียเวลามันก็ไม่จำเป็นต้องทำเพราะถ้าครอบหนเดียวก็เสมอด้วยครอบถ้วนครบทุกองค์อยู่แล้ว พิธีเหล่านี้เค้าเชิญครูลงมากันหมดแล้ว ไอ้ที่ไปสำนักไหนเลือกเศียรนั้นเศียรนี้ค่าครอบเท่านั้นเท่านี้ต้องครอบหลายๆที ขอให้รู้ไว้ว่ามันเป็นการตลาดการครอบครูจริงๆครอบแค่เศียรเดียวที่ผู้เป็นประธานเลือกก็เสมอได้ครอบครบทุกครูอุปมาว่าร้อยแปดพระองค์เช่นนี้

ฝากคำถาม PM ไว้นะครับ อันไหนตอบและน่าสนใจจะยกมาพูดคุยอีกทีหนึ่ง

 

อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้จัดส่งของแล้วมาติดตามพูดคุยกันนะ

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่ณธพรหม ED 7280 2295 0 TH

พี่พรเทพ ED 7280 2296 3 TH

พี่พิสุทธิ์ ED 7280 2297 7 TH

พี่ภาคภูมิ ED 7280 2298 5 TH

พี่ประดิทรรศ ED 7280 2299 4 TH

พี่ธวัช ED 7280 2300 5 TH

พี่บุญชนะ ED 7280 2301 4 TH

พี่นฐมน ED 7280 2302 8 TH

พี่เมธี ED 7280 2303 1 TH

พี่ธนากร ED 7280 2304 5 TH

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

วันนี้มาติดตามพูดคุยกันนะครับเรื่องของศักดิ์สิทธิ์กับของวิเศษ ซึ่งเครื่องมงคลและพระเครื่องอย่างที่ทราบกันดีเมื่อผ่านการอธิษฐานจิตจากครูบาอาจารย์เราก็จะนับถือกันเป็นของศักดิ์สิทธิ์..แต่บางสิ่งนั้นแม้ไม่เสกก็ยังนับว่าเป็นของวิเศษคือสำเร็จแล้วใช้ได้เลย

อันนี้ถือว่าน่าสนใจเพราะของวิเศษก็คือของที่มีคุณพิเศษในตัวเองด้วยตัวของมันเอง ...เกริ่นไว้แบบนี้ถือว่าน่าติดตามแล้วเดี๋ยวมาพูดคุยกันต่อรอบเย็นนะครับ

 

ต่อที่เรื่องเมื่อเช้า นอกจากของทนสิทธิ์คือของธรรมชาติที่มีดีในตัวเองแล้วสิ่งที่ขลังโดยไม่ต้องเสกก็ยังมีอีกหลายอย่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าพระยันต์บางพระยันต์นั้นแค่เขียนเป็นไม่ต้องเสกก็ลองได้เลยของแบบนี้เรียกว่าของวิเศษ คืออาศัยแรงครูทำแม้ไม่ต้องเสกก็ใช้ได้ทันทีไม่มีทางจะเสกให้เต็มรึล้นมากไปกว่านี้...แบบนี้เป็นแค่บางยันต์บางวิชา

ในขณะเดียวกันท่านว่าถ้าจะพูดถึงของวิเศษแบบที่ทำแล้วได้ชื่อว่าเป็นของวิเศษเลยไม่ใช่ของศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องเสกก็ยังมี แต่ของเหล่านี้ย่อมไม่ปรากฏคนทำและไอ้ที่ทำเกร่อๆกันนั้นก็ไม่ได้ทรงอิทธิคุณรุนแรงอุปมาว่าทำได้แค่เปลือกแต่ไม่ดีถึงเนื้อใน ด้วยของวิเศษบางตำรับนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าสร้างได้หนเดียวทำได้ครั้งเดียว..ทำเสร็จแล้วคนสร้างต้องตายลงด้วยเช่นนี้ก็มี จึงไม่ปรากฏว่าจะมีใครสร้างได้และที่สร้างๆกันก็ยังไม่เห็นผู้สร้างจะตกตายลงไป เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงย้ำว่าของบางอย่างที่โบราณจารย์ทำบางทีมันก็แลกมาด้วยอายุขัยหรือชีวิตของท่าน ของวิเศษเหล่านี้ย่อมประเมิณค่าไม่ได้เลยทั้งยังเป็นมากกว่าของศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาๆที่จะสร้างเมื่อไหร่ก็ได้

**** วันนี้ลงไว้คร่าวๆ..พรุ่งนี้ติดตามพูดคุยกันต่อนะครับ

 

มีคนถามกันเข้ามาหลายท่านว่ามีเครื่องมงคลแบบไหนที่แลกชีวิตทำของพ่ออาจารย์ท่านบ้าง

ก็ต้องตอบว่าท่านยังไม่ตายเช่นนั้นแลกชีวิตทำคือทำแล้วตายย่อมยังไม่มี แต่ก็ถือว่ามีที่เข้าข่ายเหมือนกัน นั่นคือท่านรู้ว่าถ้าทำแล้วต้องตายและตายจริงๆแต่ท่านต่อรองเอาไว้ตอนยมบาลมารับตัวท่านว่าจะขออยู่ต่ออีกยี่สิบปีไม่มากไปกว่านี้เพราะอายุขัยจริงๆของท่านยังไม่หมดโดยมีข้อแลกเปลี่ยน(เป็นเรื่องส่วนตัวในการสร้างบารมี)...ด้วยครูยมราชก็เป็นหนึ่งในครูองค์สำคัญของท่านเช่นนั้นท่านจึงได้มีอายุต่อมา เครื่องมงคลเช่นนี้จึงเข้าข่ายเป็นเครื่องมงคลที่ทำโดยแลกด้วยอายุและชีวิต

ท้้งเครื่องมงคลแบบนี้ย่อมเป็นสิ่งที่มีค่ามากและผู้สร้างจะห่วงแหนดั่งหนึ่งชีวิตตน คนที่ไม่รู้ค่าไม่เห็นค่าหรือตีค่าเป็นเพียงวัตถุชิ้นหนึ่งนั้นท่านจะอธิษฐานไว้ว่าไม่ให้คนเหล่านี้เข้าใกล้หรือได้สัมผัสเลย ทั้งท่านจะไม่ให้คนแบบนี้บูชาในกรณีใดๆทั้งสิ้น แต่กลับกันในคนที่รู้ค่าว่าสิ่งใดมีคุณค่าเทียมเท่าที่ครูบาอาจารย์ยอมแลกชีวิตเพื่อสร้างไว้ซักครั้งซักหน "นั่นจึงจะเป็นคนที่คู่ควร"

 

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดฑูตแปลงสวรรค์เทียบพลัง(ฟ้าสลับ)​

- ผู้ใดใช้สิ่งใดไม่เป็นผล
- ผู้ใดทำมาหากินไม่ขึ้น
- ผู้ใดทำการสิ่งใดไม่เป็นผล....ผู้นั้นให้ใช้ฟ้าสลับแก้ไขทุกสิ่ง

คนที่ใช้สิ่งใดไม่เป็นผลก็คือถือของไม่ขึ้นใช้ของไม่ขึ้นเหตุเพราะอดีตกาลนั้นเคยหมิ่นประมาทครูบาอาจารย์ดูถูกความเชื่อของผู้อื่นก็ดีทั้งยังไม่เชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำให้ชาติปัจจุบันไม่ได้รับความสุขสมหวังหรือการช่วยเหลือใดๆจากสิ่งเหนือธรรมชาติ แม้จะจับได้ของดีที่มีพลังรุนแรงทั้งหลายกรรมนั้นก็เป็นดั่งชนวนขวางกั้นการเชื่อมต่อและกระบวนการความช่วยเหลือทั้งปวง คนเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอาภัพนักเพราะอดีตขาดศรัทธาดูถูกครูคนอื่นทั้งเคยย่ำยีความศรัทธาของผู้อื่นแม้ปัจจุบันจะศรัทธาอย่างไรก็เข้าไปไม่ถึง แต่ด้วยแรงครูที่เมตตาท่านช่วยชะลอทุกข์บ้างช่วยปัดเป่าอัปมงคลทั้งหลายบ้างจากที่ควรจะหนักมากๆถึงมากที่สุดก็ให้บรรเทาลงในระดับนึงแม้ไม่ถึงขั้นได้ดีมีสุขก็ไม่ทุกข์สาหัสจนเอาตัวไม่รอดทำให้เค้ารู้ว่าแรงครูนั้นมีจริงและไม่อาจตัดศรัทธาอันจะทำให้ชีวิตจ่อมจมดิ่งลงไปมากกว่านี้ได้ คนเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้เขาไม่เห็นผลแต่เขาก็ยังยึดถือเคารพครูอยู่ร่ำไปเพราะใจลึกๆเขารู้ว่าถึงครูจะช่วยตามคำขอเขาไม่ได้แต่ในหลายๆเรื่องของชีวิตเขาครูก็ยังช่วย แม้จะพลาดไปโทษดวงว่าดวงปิดชะตายังไม่เปิดอยากเปิดดวงแต่ความจริงแล้วดวงไม่ได้ปิดเป็นกรรมเฉพาะที่เฉพาะทางเหล่านี้ที่ปิด

### เพื่อจะเปลี่ยนแปลงกำลังกรรมอันแรงกล้าที่กั้นขวางปิดบัง จากใช้สิ่งใดไม่เป็นผล...มงคลทั้งหลายในจักรวาลไม่ประสิทธิ์...เทพยดาไม่ช่วยเหลือ...ผลบุญทานการกุศลไม่เกื้อหนุน ถ้ารู้ตัวว่าติดปัญหากรณีนี้ให้ใช้ฟ้าสลับแก้ไขที่ตัวตนของตัวเอง

คนที่ทำมาหากินไม่ขึ้น ก็ด้วยกรรมอดีตชาติและอาจจะเป็นที่กรรมปัจจุบันด้วยให้ผลพ่ออาจารย์ท่านว่าคนประเภทนี้เขาเคยก่อกรรมกับบิดามารดาและผู้มีพระคุณพูดโดยง่ายก็คือไม่รู้คุณผู้ที่ควรตอบแทน เคยเป็นคนทรลักษณ์อกตัญญูมาแต่ก่อนไม่ว่าจะชาติไหนก็ตามเมื่อกรรมนี้ตามทันเนื้อตามันตัวมันจะทำให้เราทำมาหากินไม่ขึ้น ไม่เลือกว่าเราจะเคยมีชีวิตรุ่งเรืองอยู่ดีก็ดิ่งเหวลงไปดื้อๆท่านว่าแบบนี้อย่าเข้าใจผิดไปว่าโดนคุณโดนของแล้วดวงตก มันเป็นเรื่องที่ตอนเราได้ดีนั้นเพราะกรรมมันยังตามตัวเราไม่เจอ แต่พอมันพบเราแล้วเจอเราแล้วก็นั่นแหละหลังจากนั้นคุณจะทำอะไรไม่ขึ้นอีกเลย จะไปทำบุญล้างซวยหนุนดวงต่อชะตาใดๆก็ไม่เป็นผลด้วยแรงกรรมนั้นเชี่ยวกรากใช้เวรแม้ชาติดเดียวยังไม่หมด พ่ออาจารย์ท่านว่ากรรมแบบนี้พอมันเจอตัวแล้วสิบชาติร้อยชาติพันชาติเกิดเป็นมนุษย์เมื่อไหร่มันก็เอาเราทันที คนที่ไม่เคยรู้ตัวและไม่เคยโทษตัวเองไม่เคยมองเห็นบาปอกุศลที่ติดตามตัวเองทันเหล่านี้ก็จะพาลนึกโกรธน้อยใจเทวดาฟ้าสวรรค์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนสักการะบูชาทั้งๆที่ท่านไม่รู้อะไรด้วยเลย พอกรรมมันตามทันตัวเองแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าแม้เทพยดาที่เคยเอื้อเฟื้อการุณย์ยังจะพากันรังเกียจ นั่นก็เพราะบุคคลผู้เคยทำกรรมอันทรลักษณ์อกตัญญูต่อพ่อแม่บังเกิดเกล้าหรือผู้มีพระคุณนั้นเทวดาเขารังเกียจกันที่สุดนอกจากจะไม่ช่วยเหลือแล้วคนประเภทนี้ถ้าเทพองค์ไหนเห็นก็จะสาปแช่งทันทีที่ได้พบเจอนั่นทีเดียว จากที่ทำมาหากินไม่ขึ้นด้วยกรรมเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพอไปไหนมาไหนหวังจะไปขอพรให้เขาช่วยเหือกลับกลายเป็นสะสมคำสาปคำแช่งให้ตัวเองตกต่ำลงยิ่งๆขึ้นกว่าเดิมมากๆมันก็หมดทางเยียวยา พอทำมาหากินไม่ขึ้นแล้วแม้จะอุตสาหะมานะอย่างไรก็ล้มเหลวลงเรื่อยๆอยู่ดีแม้จะมีความพยายามมากมายเท่าไหร่มีความคิดไอเดียดีเลิศอย่างไรพอกรรมบังฟ้าปิดแล้วแม้แต่หมูหมามันก็ยังข้ามหัวเราได้

### เพื่อจะเปลี่ยนแปลงกระแสกรรมอันเชี่ยวกรากที่พัดพาทุกข์เวทนาเปลี่ยนคนที่ทำมาหากินไม่ขึ้น....โดนสังคมรังเกียจ...โดนตัดขาดออกจากคุณประโยชน์และผลประโยน์ถ้วนทุกประการ...โดนชนทั้งหลายแทงข้างหลังบ้างอกตัญญูบ้าง...เทวดาไม่นิยมอินทร์พรหมไม่เมตตา ถ้ารู้ตัวว่าติดปัญหากรณีนี้ให้ใช้ฟ้าสลับแก้ไขที่ตัวตนของตัวเอง

คนที่ทำการสิ่งใดไม่เป็นผล จะคิดอ่านทำกิจใดจะใช้สติปัญญาความรู้ความสามารถทุ่มเทอย่างไร จะใช้ความพยายามมากกว่าผู้อื่นอย่างไรเรียกว่าจะทำสิ่งใดก็ไม่เป็นผลเลย ไม่มีผล ไม่สำเร็จ ล้มเหลวซ้ำๆซากๆคนแบบนี้จะพัฒนาตัวเองไม่ได้ทั้งยังก้าวหน้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงลำดับชนชั้นในสังคมที่ตัวเองอยู่ก็ทำไม่ได้ ที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นพอมีเรื่องมีความคิดเราอยู่ในกิจการงานของผู้ใดก็พาลให้วิบัติฉิบหายไปทั้งกระบวนการ จะตั้งตัวให้ตรง..จะทำตัวให้ดี..จะยกฐานฐานะให้มั่นคงสำหรับคนที่คิดทำการสิ่งใดไม่เป็นผลเหล่านี้ท่านว่าเสียเวลาชีวิต เพราะเขาเกิดมาเพื่อเสียเวลาชีวิตจริงๆด้วยบุพกรรมอันหนุนนำ ด้วยผลเหตุอันจะบันดาลให้เขากลายเป็นคนไร้ค่าเช่นนี้นั่นก็เพราะเขาเคยติดสินบาทคาดสินบน ติดคำบนบานศาลกล่าวต่อพระอรหันต์เจ้าก็ดี,เทยดาเจ้าก็ดี,ผู้ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็ดี แรงบนบานที่สำเร็จแล้วแต่เราลืมแก้และยังไม่ได้แก้ทั้งจากภพนี้ก็ดีหรือในภพภูมิก่อนที่เราเคยเกิดก็ดีย่อมบันดาลให้เราคิดหรือจะทำสิ่งใดก็ไม่เกิดผลไม่เป็นผลสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นโทษทัณฑ์สถานเบาที่สุดเท่านั้น ถ้าหนักหนากว่านี้จะต้องเรียกว่าคนซวยซ้ำซวยซ้อนซวยลามปามไปทุกเรื่อง ก็แรงกรรมนั่นแหละที่ไปยืมแรงยืมความช่วยเหลือผู้อื่นแล้วไม่ได้กระทำตามสัจจะวาจาที่ลั่นไว้เหมือนไปใช้งานเขาฟรีไม่จ่ายค่าจ้างที่ตัวเองคิดและเสนอออกไปเองดั่งว่าทำตัวคิดคดต่อผู้ที่เราไปพึ่งพิง ทั้งยังทำผิดวาจาและสัตยาธิษฐานที่ลั่นสาบานไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเวรกรรมนั้นก็จะทำให้เราทำสิ่งใดไม่เป็นผล คนประเภทนี้น่าสงสารมากเพราะเจ้าทุกข์เขาไม่ใช่จิตวิญญาณธรรมดา เจอแบบนี้เข้าไปก็เหมือนมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นเทวดาผู้ยิ่งใหญ่นั่นเลยท่านมีสิทธิ์เอาเราถึงตายเมื่อไหร่ก็ได้จะช้าหรือเร็วเพราะไปผิดคำพูดกับท่าน

### เพื่อจะเปลี่ยนแปลงเจตน์จำนงค์แห่งกรรมศักดิ์สิทธิ์ที่เปลี่ยนคนให้ทำกิจไม่สำเร็จทำการสิ่งใดคิดอ่านอะไรไม่เป็นผล...เป็นคนซวยซับซ้อน..เป็นคนวินาศวิบัติ..เป็นคนอันถูกเติมเต็มไปด้วยทุกข์เวทนา...เป็นคนอันเทวดาไม่กล้าช่วยเหลือเพราะกลัวจะทรยศคำพูดตัวเองซ้ำซาก ถ้ารู้ตัวว่าติดปัญหากรณีนี้ให้ใช้ฟ้าสลับแก้ไขที่ตัวตนของตัวเอง

*** พลังฟ้าแก้ไขได้ทุกอย่าง
*** พลังฟ้าชนะทุกสิ่ง
*** พลังฟ้าเปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่าง
ตะกรุดดอกเอกนี้มีคุณวิเศษเฉพาะตัวที่พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ต้องเสียอายุไปเท่าไหร่ฉันก็จะทำ เนื่องด้วยสามารถใช้แก้ไขเหตุทั้งสามประการอันเป็นอุปสรรคใหญ่ในชีวิตคน ซึ่งท่านพิจารณาแล้วว่าแต่ละคนที่ตกอับตกต่ำกันอยู่ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งในสามสิ่งนี้ แล้วที่หนักกว่านั้นก็คือมีทั้งสองหรือครบทั้งสามไปเลย เช่นนั้นจึงเหมาะที่จะใช้วิชาฟ้าสลับสับเปลี่ยน เพราะสิ่งใดที่สูงสุดนั่นก็ย่อมเป็นฟ้า พลังใดที่ขัดขืนแก้ไขไม่ได้ก็ย่อมเป็นพลังฟ้า วิชาฟ้าสลับนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาไว้ใช้สำหรับคนที่ไปทดลองไปลองผิดลองถูกใช้หลายวิธีหลายกรณีมาแล้วแก้สิ่งบกพร่องในชีวิตแต่กลับแก้ไขไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ท่านว่าอะไรที่แก้ไม่ได้ทั้งหมดทั้งปวงฟ้าสลับแก้ไขได้ทันทีและชะงัดนัก อาเพศใด เหตุวิปริตใด อุทาหรณ์อันร้ายแรงอย่างใดที่พึงมีพึงเปลี่ยนชีวิตเราแล้วเกินกำลังยากจะแก้เมื่อนั้นท่านว่าให้ใช้ฟ้าสลับ

เทียบพลังฟ้า
นอกจากนี้เหตุผลหลักเลยที่พ่ออาจารย์ท่านยอมทำตะกรุดตัวนี้ก็เพราะอิทธิคุณแฝดสำคัญอันหาได้ยาก ด้วยตะกรุดนี้มีคุณเกินเมืองเกินสมบัติเทพพรหมใดๆด้วยว่าใช้ได้หลายกรณี
- สามารถใช้เทียบพลัง ก็คือการนำตะกรุดไปวางไว้บนวัตถุมงคลและเครื่องมงคลต่างๆเทียบพลังนั้นก็เหมือนการเทียบเท่า พอวางให้สัมผัสกันชั่วครั้งชั่วคราวประมาณธูปหมดดอกอาราธนาครูบาอาจารย์ขอใช้ตะกรุดเทียบพลัง ตะกรุดนั้นจะมีพลังดั่งวัตถุมงคลและเครื่องมงคลชิ้นนั้นๆ ทีนี้เราก็เทียบไปเรื่อยๆสะสมไปเรื่อยๆ..องค์นี้ดีทางไหน..องค์นี้มีกำลังอย่างไร พอเทียบไปมากๆก็กลายเป็นว่าพกตะกรุดดอกเดียวแต่ใช้คุณของพระทุกองค์ได้ทุกทางมันสะดวกสบายแบบนี้

- ทับทวีกำลัง การเทียบพลังนั้นจะทับถมเพิ่มพูนทวีกำลังอำนาจให้ตะกรุดมากและมหาศาลมากขึ้นๆไปเรื่อยๆไม่รู้หมดรู้สิ้น ไม่จำกัดว่าต้องใช้ได้กี่องค์สามารถเทียบได้กี่ครั้ง พ่ออาจารย์ท่านว่ามีปัญหามาเท่าไหร่ก็ค่อยๆเทียบสะสมไปทีละองค์ๆใช้ได้ไม่จำกัด ไม่เลือกว่าจะเป็นของสูงของต่ำเพราะกำลังฟ้านั้นเป็นของกลางสรรพสิ่งใดๆไม่ว่าจะสูงหรือต่ำย่อมเคยอยู่ใต้ฟ้าทั้งสิ้น เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงจะเพิ่มพุนไม่มีลดเสื่อมถอย จะเพิ่มไปงอกไปสะสมไปเรื่อยๆ

- งอกเงยบังเกิด เมื่อเราเพิ่มพูนพลังหลายๆด้านของพระเครื่องและเครื่องรางหลายๆชิ้นแก่ตะกรุดอิทธิคุณต่างๆก็จะผสมผสานและงอกเงยจนบังเกิดฤทธิ์แก่เรา

- ติดเนื้อสัมพันธ์ตัว ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านทำเพื่อให้ใช้ติดเนื้อตัวอย่าถอดห่างร่างกาย เมื่อเราเทียบพลังวัตถุมงคลทั้งหลายและทำไปเรื่อยๆยามใดที่เราเอาตะกรุดมาคาดเอวก็ดีหรือสวมคอก็ดี เมื่อนั้นย่อมเท่ากับเราได้เทียบพลังทั้งหมดที่ตะกรุดเสพย์และตกผลึกพลังงานทั้งหลายเทียบเข้าสู่ร่างกายเราเช่นกัน ทำแบบนี้ต่อไปบ่อยๆพ่ออาจารย์ท่านว่าต่อไปไม่ต้องคล้องพระเลยเพราะพระอยู่ในตัววิมานแก้วจะครอบใจ ในตัวในร่างจะมีกำลังพุทธคุณพิเศษของพระเครื่องตระกุลต่างๆที่เทียบพลังไว้อย่างสมดุลย์ ดุจคนบางคนที่เขามีเสน่ห์มีคนรัก,บางคนหาเงินง่ายจับเงินคล่อง,บางคนเป็นที่รักของโชคชะตา,บางคนเป็นอัจฉริยะภาพประสบความสำเร็จ...สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ติดตัวมาหรือเรียกว่าคุณสมบัติพิเศษ ตะกรุดเทียบพลังนี้เมื่อเราเทียบพลังงานสิ่งใดๆแล้วสุดท้ายพอนำมาห้อยมาสวมก็คือเทียบพลังกับตัวเราเอง.."เพิ่มคุณสมบัติพิเศษอันไม่เคยมีอยู่ในตัวแก่ตัวเอง..เพื่อตัวเอง"

ไม่เพียงจะแก้ไขเหตุการณ์เร่งด่วนสามสถาน..ทั้งยังเทียบพลังเพิ่มคุณสมบัติต่อตัวตะกรุดเองและตัวผู้ใส่พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเล่นเป็นใช้เป็นนี่ถือเป็นของวิเศษดีๆนี่เองเหมือนเพชรพญาธรถือยอดปรอทสำเร็จ..เหมือนเทพยดามีพระขรรค์เพชร..แม้นตัวเราก็มีตะกรุดฟ้าสลับเป็นของวิเศษประจำกายด้วยการเทียบพลังนั้นจะเปลี่ยนคนให้กลายเป็นยอดคนทั้งคุณสมบัติดีทั้งหลายที่เพิ่มเข้ามาในร่างกายตนนั้น ย่อมจะทำให้หนทางชีวิตลิขิตชะตาและเส้นทางกรรมเปลี่ยนรูปเปลี่ยนทางสลับทิศไปทั้งหมด ก็ไอ้สิ่งที่ไม่เคยมีมันปรากฏแล้วแก่เราคุณสมบัติเหล่านั้นย่อมสลับกลับทางมาจากข้างในให้เราดีได้จากภายใน ไม่ต้องบนไม่ต้องขอไม่ต้องพึ่งใครให้ดีได้และได้ดีด้วยความสามารถของตนเองดั่งมงคลสุภาษิตว่าตนนั้นแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ใครจะรักตัวเราเท่าตัวเรานั้นไม่มี..ใครจะเห็นแก่เราเท่าตัวเรานั้นไม่มี..ใครจะทุกข์จะสุขไปกับเราเท่าตัวเรานั้นไม่มี เช่นนี้ตะกรุดฟ้าสลับจึงเป็นของวิเศษที่ใช้เพื่อพัฒนาตนเองให้สูงขึ้นพ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าเหมือนส่งคนไปเหยียบดวงจันทร์(คือสูงขึ้นไปเรื่อยๆเทียบ..สลับ..เทียบ..สลับ สูงไปจนพ้นโลก)

ฑูตแปลงสวรรค์
ตะกรุดชนิดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าลงยากดอกนึงต้องดูฤกษ์ยามใช้เวลาหลายชั่วโมง จะมีจิตเจตสิกดลให้ผู้ถือมีพัฒนาการในฤทธิ์ทางใจเพื่อพัฒนาจิตวิญญาณตัวเองให้สูงขึ้นไปตามลำดับขั้น พ่ออาจารย์ทานว่าตะกรุดนี้ใช้ง่ายขอให้ห้อยติดตัวหรือพกติดตัวไว้เท่านั้นไม่จำเป็นก็อย่าถอด แต่เหนือสิ่งใดคือตะกรุดฑูตแปลงสวรรค์นั้นเป็นวิชาของท้าวบรมพรหม(องค์สฮัมบดี) ตัวตะกรุดจะมีหน้าที่เป็นดั่งสื่อกลางของสวรรค์ที่คอยแปรเปลี่ยนให้ชีวิตคนแตกต่างกันออกไป..ดั่งตัวเราต้องต่างและต้องดีกว่าคนอื่นดุจเป็นคนละคนกับอดีต นี่คือการแปรเปลี่ยนที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าการแปรสภาพไปเพื่อให้ดีขึ้นดุจไม่ใช่คนเดิม

ทั้งแปลงสวรรค์นี้ยังใช้ทางแปลงพลังงานรอบกายไม่เลือกว่าจะดีหรือร้ายบวกหรือลบแปลงมาเพื่อเป็นกำลังและพลังของเราอยู่ตลอดเวลา พ่ออาจารย์ท่านว่าสังคมเมืองนั้นจะหาพลังบวกหรือพลังดีพลังงานที่บริสุทธิ์ได้ยาก ถ้าเครื่องมงคลใช้กลั่นเฉพาะพลังบริสุทธิ์ได้ส่วนเดียวก็ถือว่าไร้ประโยชน์เต็มทีเพราะวิถีชีวิตคนนั้นแตกต่างมันต้องใช้ได้ทุกสภาพถึงจะครอบคลุม เช่นตะกรุดฑูตนี้ขอให้เป็นใต้ฟ้าไม่ว่าจะพลังดีหรือร้ายบวกหรือลบหยินหรือหยางเค้าย่อมแปรสภาพปรับสมดุลย์เทียบสู่ตัวเราได้ทุกรูปแบบ
### เหนือสิ่งอื่นใดถ้าวัตถุมงคลใดๆก็ดี(ต้องเป็นของแท้มีญาณสถิตย์) สิ่งเหล่านั้นถ้าไม่เคยให้คุณแก่เราเลยไม่นับว่าตัวเราโง่เองแบบเขาช่วยให้ตายก็ไม่รู้ตัวจ้องแต่จะโทษเขาเช่นนี้ เรียกว่าถ้าคิดว่าเค้าไม่เคยให้คุณกับเราหรือเข้ากันไม่ได้ท่านว่าให้นำตะกรุดนี้ไปเทียบและอธิษฐานบอกองค์พรหมขอให้กำลังแปลงสวรรค์ วางเทียบไว้ครู่หนึ่งตกธูปหมดดอก จากสิ่งที่นิ่งเฉยไม่เคยให้คุณกับเราจะถูกแปลงกลับมากลายเป็นคุณประโยชน์เป็นมรรคเป็นผลเป็นมงคลต่อตัวเราทั้งสิ้น

ฑูตแปลงสวรรค์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสูงเพราะไม่ได้ใช้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชั่วครั้งชั่วคราว แต่ใช้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรกับตัวเอง จะคนดีคนไม่ดีก็เอาดีได้ด้วยตัวตะกรุดนั้นจะเป็นดั่งสื่อกลางคืออุปมาเหมือนเป็นฑูตที่ทำหน้าที่ส่งผ่านสิ่งที่เราปรารถนา *** พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าคนฉลาดหรือเค้าใช้ปัญญาเป็นอยู่บ้างแม้ตื่นขึ้นมาอยากจะสักการะฟ้าสวรรค์ทั้งหมดให้เป็นสิริมงคลต่อตัวเองก็แค่กำตะกรุดไว้อธิษฐานถึงเบื้องบน หรือเวลาไหว้พระที่ไหนไหว้เทพที่ไหนจะขอพระก็ให้นำตะกรุดมากำไว้ก่อนจะออกนามสิ่งศักดิ์สิทธิ์เวลาขอพรนั้นๆ นี่แหละสำคัญนักเพราะมันเป็นอาถรรพ์ที่จะแปลงคำพูดแปลงลมปากเราให้เป็นคำจริงให้ผู้ศักดิ์สิทธิ์ประทานพรด้วยอาถรรพ์ของวิชาปรารถนาสิ่งใดจะได้รับการเติมเต็มช่วยเหลือแก้ไขเร่งด่วน ของแบบนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้สารพัดร้อยช่องพันช่องเพียงแต่ท่านพูดไม่ได้ เพราะเวลามันแปลงเนี่ยไม่ใช่จะใช้เพียงเรื่องดีเท่านั้น หากเราเอาไปอธิษฐานเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตใครให้เลวลงแย่ลงมันจะเหมือนไปสาปแช่งเขาทันที กรณีตรงข้ามกลับกันถ้าเราใช้ตะกรุดให้พรเขาให้เขาอธิษฐานให้สมความปรารถนาแบบนี้ก็ถือว่าได้ช่วยคน

คาถาบูชา
ริติติ มุมุติติ ธรณีติติ คงคาติติ อากาสาติติ

### รายการนี้เป็นของวิเศษชนิดหนึ่งซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่จะทำได้ง่ายและจะไม่ให้ตกถึงมือคนไร้ค่าอย่างเด็ดขาด ท่านว่าต้องใช้โชคชะตากันพอสมควร(ที่จริงท่านจะให้เปิดจองโดยไม่ลงรายละเอียดใดๆเลยซักบรรทัด) ท่านตั้งใจจะให้ลงรายละเอียดหลังยอดเต็มแต่ผมลงไว้ให้คร่าวๆส่วนหนึ่งก่อนจะได้พอทำความเข้าใจกันได้

*** เช่นที่ท่านบอกและย้ำและย้ำหนักขึ้นว่าต้องใช้โชคชะตาอย่าไปเปิดเผยอำนาจฟ้า(ตะกรุดฟ้าสลับ)ทั้งหมด ก่อนที่เขาจะได้เลือกและตัดสินใจด้วยมโนสำนึกของตัวเอง ปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตาแห่งแรงกรรมทั้งสาม
- ทั้งคนที่เคยขัดขวางความเชื่อกระทำย่ำยีต่อแรงศรัทธาของผู้อื่น
- คนที่เคยทรลักษณ์อกตัญญูผู้มีพระคุณ
- คนที่เคยติดสินบาทคาดสินบนไม่รู้คุณคนคุณเทวดา
ทั้งสามสถานนี้ถ้าแรงกรรมมันทำให้ตามืดบอดไปนั่นก็แปลว่าแก้ไขใดๆไม่ได้แล้ว แต่ถ้าจิตยังมีหวังชีวิตยังเห็นทางรอดทางไปอยู่พ่ออาจารย์ท่านก็ภาวนาให้ครูพระสฮัมบดีบรมพรหมท่านดลบันดาลให้พบเจอกับวิชาฟ้าสลับ

*** ตะกรุดฟ้าสลับนั้นเป็นตะกรุดที่เข้าข่ายแลกอายุขัยแลกชีวิตของผู้สร้างผู้ทำเช่นนั้นจึงเป็นของรักของหวงที่ท่านจะขอแรงครูให้เลือกคนใช้และจะไม่มีโอกาสทำได้อีก รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น

*** แอบบอกไว้ซักนิดว่าขึ้นชื่อแล้วเป็นของวิเศษเช่นนี้ย่อมใช้เล่นได้หลายทางไม่ใช่เพียงแต่ใช้เทียบพลัง....ยังใช้สลับ.(จะเป็นสลับอะไรเอาไว้ติดตามกัน..) ขึ้นชื่อว่าของวิเศษย่อมใช้ได้พิเศษและถ้าคนที่ชอบเล่นชอบลองชอบทำไปเรื่อยๆทดลองดูว่าทำแล้วสนุกทำแล้วสัมผัสได้ว่าตะกรุดแรงขึ้นมีคุณหลากหลายขึ้นและตัวเราพิเศษขึ้น..เหนือกว่าใคร ถ้าชอบเล่นชอบลองแบบนี้ก็ค่อยเอาไปใช้

ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดฑูตแปลงสวรรค์เทียบพลัง(ฟ้าสลับ) บูชา 4,000 บาท

​

 

ใครจะจองตะกรุดฟ้าสลับ รบกวนค่อยๆอ่านให้ชัดทุกคำทุกประโยคนะครับ รายการนี้ถ้าทันก็เหมือนได้ของวิเศษดีๆนี่เอง

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่กฤตยชญ์ ED 7280 5345 8 TH

พี่วุฒิชัย ED 7280 5346 1 TH

พี่พรหมพล ED 7280 5347 5 TH

*** วันนี้รวบรวมเงินที่เหลือจากค่าส่งของในหลายๆยอดบิลที่ผ่านมาทำบุญวัดพระบาทน้ำพุไป 1,200 บาทอนุโมทนาร่วมกันนะครับ

 

ฝากคำถาม PM กันไว้นะครับ

วันนี้ผมลงรายละเอียดตะกรุดเพิ่มเติมให้อีกส่วนหนึ่งกับคาถาและวิธีใช้อีกหลายๆอย่าง ซึ่งตะกรุดรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้ร้อยช่องพันช่องไอ้เรื่องแปลงนั้นมันต้องดูที่ตัวคนด้วยว่าจะใช้อะไรแปลงอะไรเพราะชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน พูดง่ายๆคือใช้แปลงสิ่งไหนก็ใช้ไปตามนั้นจิตใต้สำนึกมันจะบอกแก่เราเองอย่าเอาไปทำเป็นเล่นก็พอ

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

ก็ตั้งใจจะมาพูดคุยกันตั้งแต่เมื่อวานพอดีพี่ท่านนึงเล่าประสบการณ์มาเกี่ยวกับการให้ยืมใช้เครื่องมงคล

สรุปย่อๆได้ความว่าพี่เขาเอาแม่ย่ากาลีที่ฝังตะกรุดองค์เล็กๆให้มิตรสหายไปบูชาแต่เขาไม่ได้ห้อยคอเพียงแต่นำมาอาราธนาทุกเช้า(โดยโดนพี่เขาหลอกให้รักเหมือนแม่มีอะไรบ่นมีอะไรขอกับท่านได้ทุกอย่าง)

พี่เค้าว่าเกิดมาไม่เคยเจอใครใช้แม่ย่ากาลีขึ้นเท่าคนๆนี้ ทั้งขอทั้งบ่นได้ทั้งวันทุกปัญหาทุกความติดขัดท่านแม่ช่วยทุกเรื่องย้ำว่าทุกเรื่องจริงๆ ทั้งเรื่องไร้สาระในมุมมองของพี่เค้าเองแบบอีหยังว่ะท่านแม่ก้ช่วย ช่วยแบบนึกถึงขอปุ๊ปปัญหาหยุดเลยเอากันแบบนี้

เค้าศรัทธาและงงมากเพราะเรื่องมันเกินวิทยาศาสตร์ไปและไม่มีทางเป็นไปได้แต่ท่านแม่ขอได้และปัญหาหยุด จากนั้นผมให้พี่ม้าก็มีประสบการณ์เรื่องติดขัดสำเร็จไว ล่าสุดให้ยืมพระไพรีพินาศองค์นี้ดุมากตอนนี้ยังไม่มีประสบการณ์แต่ดูท่าทางเขาเด็ดขาดมากขึ้น ทั้งสามสิ่งนี้ผมให้เขาอาราธนาแล้วเอามาวางบนหัวลูบหน้าลูบแขนทั้งสองข้างแล้วนำไปเก็บในที่สูงเพราะเขาไม่แขวนพระแต่ผลที่ได้แทบไม่ต่างจากแขวนเลย

*** ในกรณีนี้ก็ต้องสรรเสริญกุศโลบายของพี่เขาก่อนที่หลอกเพื่อนจนเชื่อได้ ที่ผมฟังมาก็เพราะเชื่อแบบไม่มีข้อกังขานี่แหละถึงใช้ขึ้นได้แบบแรงมาก

อีกปัจจัยหนึ่งคือเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์ท่านทำมาดีจริงๆ เพราะท่านตั้งใจทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมดจริงๆเหมือนที่ท่านย้ำไว้ว่าถ้าเราใจมาเขาก็ใจกลับคือใจเราเต็มร้อยผลมันก็ออกมาเต็มร้อย

ทั้งเรื่องที่ย้ำเสมอก็คือว่าไม่ต้องห้อยนะ..แต่ใช้ได้ ขอให้อาราธนาก็พอ ในกรณีนี้ก็เห็นได้ชัดขอให้อาราธนาแล้วจงมั่นใจหมั่นอาราธนาพูดบ่นคุยปรึกษาเหล่านี้ ต่อให้เราวางท่านไว้อยู่บ้านไม่นำมาคล้องคอ..แต่ครูตาม นี่คือเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์ที่ไม่จำเป็นต้องห้อยแต่กลับใช้ได้เหมือนห้อยติดคอ...ถ้าเราใช้เป็น

​

 

แจ้งการส่ง EMS
​

พี่ธีรนนท์ ED 7280 4406 2 TH

พี่วิระพัฒน์ ED 7280 4407 6 TH

พี่วิชัย ED 7280 4408 0 TH

พี่วุฒิชัย ED 7280 4409 3 TH

พี่วุฒิชัย ED 7280 4410 2 TH

พี่ศิระ ED 7280 4411 6 TH

พี่วิศณุกร ED 7280 4412 0 TH

พี่พรเทพ ED 7280 4413 3 TH

พี่ณธพรหม ED 7280 4414 7 TH

พี่ปรีชา ED 7280 4415 5 TH

 

มีคำถามเข้ามาเรื่องบูชาครูหลายๆวัดหลายๆที่แต่เงียบเข้าไม่ถึง

ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนอย่างแรกก็คือครูนั้นใช่ครูที่ควรบูชาจริงมั๊ย เหตุที่พูดแบบนี้เพราะยุคสมัยนี้มันมีของที่นายทุนสร้างให้กับวัดเยอะมาก และหลายๆที่มันไม่ใช่เรื่องไม่ใช่วิชาของพระรูปนั้นๆท่านก็หลับตาเสกๆไป ถ้าไปได้ของฉาบฉวยแบบนี้มันก็ขาดแรงครูไปแล้ว

กับอีกกรณีหนึ่งเราเข้าถึงขุมพลังงานศักดิ์สิทธิ์ของครูที่เราบูชาอยู่แล้วรึยัง บางคนชอบคิดไปเรื่อยไปหามาร้อยแปดวัดเป็นรูปเทพรูปฤาษีบ้างพอนานๆก็มาคิดได้ว่าทำไมตัวเองใช้ของไม่ขึ้นนั่นก็เพราะ..ย้อนกลับไปตั้งแต่องค์แรกเรายังเข้าไม่ถึงท่านเลย แท้จริงแล้วแรงครูนั้นคือขุมพลังงานอย่างดีที่เปลี่ยนชีวิตและช่วยเสริมชะตาชีวิตหรือดึงดูดเรื่องดีๆเข้ามาในชีวิตเรา ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านพูดเสมอว่าครูหนุนนำย่อมสุขสำเร็จ

ไอ้ความสุขสำเร็จนี่แหละที่เกิดขึ้นจากขุมพลังงานที่เรียกว่าแรงครูซึ่งบางคนก็เข้าถึงแต่บางคนก็เข้าไม่ถึง ในส่วนคนที่เข้าไม่ถึงนั้นกลับยิ่งแสวงหาอีกหลายๆที่หลายๆวัดมาสะสมพอรู้ตัวว่าเท่าเดิมมันใช้ไม่ได้ก็เพราะเราไม่ได้ซื่อสัตย์กับครูตัวเอง ครูที่เราเลือกตั้งแต่แรกดั่งว่ามีครูนั่งอยู่ด้วยก่อนที่จะไปแสวงหาครูที่อื่น ครูที่อยู่กับเรานั้นดูแลท่านดีหรือยัง บูชาเข้าถึงท่านรึยังเช่นนี้

สุขทุกข์ยากดีมีจนเคยบอกท่านมั๊ย ตื่นมากระทำสักการะบูชาท่านเป็นปฐมทุกวันหรือไม่ มีจิตผูกพันธ์คอยระลึกถึงเสมอด้วยปรนนิบัติบิดามารดารึไม่ เวลาจะทำระยำกระทำชั่วรูปครูที่ห้อยได้ถ่วงคอถ่วงความคิดไว้รึไม่ เห็นหรือไม่ว่าถ้ามองในแง่ของศิษย์กับครูเราปฏิบัติสมควรแก่การเป็นครูเป็นศิษย์กับสิ่งที่เรายกมือไหว้รึเปล่าหรือเราปฏิบัติกับท่านเป็นเพียงแค่ของสะสม ดั่งที่พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้ครูให้รุ่งก็ใช้ให้มันเป็นที่เป็นทางจะเอาที่ไหนก็ถือไว้ให้มั่นซักที่ ก่อนจะไปแสงหาครูที่อื่น..ครูที่ยืนดูอยู่เบื้องหลังชีวิตเราเคยสนใจท่านรึยังหรือรับมาเพียงฉาบฉวยเท่านั้น

​

 

แจ้งการส่ง EMS​

พี่เท็น ED 7280 5812 9 TH

พี่เกษมธิดา ED 7280 5813 2 TH

พี่ธนากร ED 7280 5814 6 TH

พี่วีรภัทร ED 7280 5815 0 TH

 

คืนนี้เดี๋ยวจะมาพูดคุยเรื่องของที่ห้ามหาย รึห้ามห่างตัวเด็ดขาดนะครับ