ร่วมทำบุญสร้างห้องสุขา 14 ห้อง ณ สำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ จ.กาญจนบุรี

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์รุ่นจิ๋ว, 29 มิถุนายน 2025 at 20:22.

  1. ศิษย์รุ่นจิ๋ว

    ศิษย์รุ่นจิ๋ว นิพพานัง ปัจจโยโหตุ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2017
    โพสต์:
    70,484
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +85,946
    FB_IMG_1751204094624.jpg

    #บุญปลดทุกข์
    #บุญเศรษฐี
    #บุญกำจัดโรค
    #บุญมีหน้ามีตาเป็นที่นับถือเป็นที่รัก

    ✨ ขอเชิญทุกท่านร่วมทำบุญสร้างห้องสุขา
    ณ สำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ จ.กาญจนบุรี
    (ทดแทนห้องเดิมที่ชำรุดเนื่องจากใช้งานมากว่า 14 ปี แล้ว)
    จำนวน 12 ห้อง
    ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพ ห้องละ 25,000 บาท
    *โถปัสสาวะชาย 6 ชุด เจ้าภาพชุดละ 5,000 บาท

    ทุกท่านสามารถร่วมทำบุญได้ที่
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์
    เลขที่บัญชี 403-977784-8
    ชื่อบัญชี พระครูวินัยธรยุคลธรณ์

    ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพ ห้องละ 25,000 บาท
    รับวัตถุมงคล 4 ชิ้น
    1.คนขนเงินขนทอง แร่โคตรเศรษฐีบนพลอยอเมทิสต์ (พุทธาภิเษก เสาร์ 5)
    2.เหรียญวชิรปรอท ยันต์ทำน้ำมนต์
    3.พระขรรค์ "มหาวชิระพรหม" ขนาด 5 เซนติเมตร
    4.ผ้ายันต์พิชัยสงคราม สำนักสงฆ์เจโตวิมุตติ

    ร่วมทำบุญกองละ 500 บาท
    รับเม็ดผงยาโบราณที่หลวงพ่ออุตตมะได้รับมาจาก ท่านปู่ครูพูพูอ่อง 1 เม็ด
    เม็ดยาผงโบราณนี้ เวลาขับขันเมื่อเราพกติดตัวไว้ก็จะแคล้วคลาด ช่วยชีวิตคนได้

    **********************************
    ติดต่อรับวัตถุมงคล แจ้งที่ชื่ออยู่ได้ที่ไลน์วัตถุมงคลเจโต https://lin.ee/1R2Cl6A
    **********************************
    พระผงเม็ดยานี้ ถูกพบเจอในถ้ำเช่นเดียวกับ พระยอดขุนพลบุเรงนอง

    ปรากฎพุทธคุณอันยอดเยี่ยมดีเด่นในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในทางเมตตา แคล้วคลาด แต่จะหนักไปในแนว " อิทธิฤทธิ์ " คือทางด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี มหาอุด มหาอำนาจ เป็นหลักใหญ่ จนกระทั่งกองทัพของพระเจ้าบุเรงนอง สามารถปราบปรามหัวเมืองใหญ่น้อยในทุกหนแห่ง จนราบคาบอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในพงศาวดาร ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุให้พระเจ้าบุเรงนองได้รับพระสมัญญานามอีกพระนามหนึ่งว่า " ผู้ชนะสิบทิศ " ในเวลาต่อมา
    โดยพระบุเรงนองนี้ พระฤาษีภูภูอ่องได้บรรจุไว้ที่ถ้ำแถวเมืองมะละแหม่ง ใกล้ชายแดนไทย-พม่า อยู่ 2 ถ้ำด้วยกัน คือ ถ้ำผาบง และ ถ้ำผาพะ แต่ก็ไม่มีผู้ใดทราบว่าถ้ำทั้งสองแห่งนี้อยู่ที่ไหนกันแน่
    อนึ่ง พระมหาฤาษีภูภูอ่องนั้น แต่เดิมเคยบวชเป็นพระภิกษุในบวรพระพุทธศาสนา มีนามว่า " ญาณรังสี " แต่ต่อมาพระญาณรังสีพิจารณาเห็นว่าการที่พระภิกษุอยู่ในป่า บางครั้งก็มีเหตุให้จำต้องล่วงอาบัติของพระพุทธองค์อยู่เนือง ๆ ก็ให้รู้สึกไม่สะดวกใจ ด้วยเกรงจะเป็นบาปเป็นกรรม พระญาณรังสีจึงลาสิกขาออกมาถือพรตเป็นฤาษี พร้อมตั้งใจประพฤติพรหมจรรย์ รักษาศีล 8 ได้เป็นอย่างดีจนบรรลุอภิญญาสมาบัติขั้นสูงสุด จนได้สำเร็จฤทธิ์อภินิหารอันยอดยิ่งด้วยเหตุถึง 4 สถาน คือ
    1. ยา ( รอบรู้ในตัวยาสมุนไพร และว่านยาที่มีฤทธิ์ทุกประเภทอย่างเจนจบ )
    2. ยันต์ ( ปรีชาในอักขระคาถายันต์อันศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง )
    3. ปรอท ( สำเร็จในการเรียกและใช้ปรอท ธาตุกายสิทธิ์ที่มีฤทธิ์กว่าธรรมดา จนถึงขั้นเหาะเหินเดินอากาศได้ )
    4. ประคำ ( เครื่องช่วยกำหนดจิตภาวนาให้บังเกิดสมาธิจิต อันเป็นบาทฐานแห่งอภิญญาฤทธิ์ ซึ่งเป็นของมีมาเก่าแก่ สืบทอดมาแต่โบราณกาลนับเป็นพัน ๆ ปี )
    สำหรับเหตุที่หลวงพ่ออุตตมะได้พระยอดขุนพลบุเรงนองมานั้น ต้องเท้าความไปตั้งแต่เมื่อครั้งที่หลวงพ่ออุตตมะยังเดินธุดงค์อยู่ มีเด็กชายชาวกะเหรี่ยงคริสต์คนหนึ่ง ( ซึ่งต่อมาได้เป็นหัวหน้ากะเหรี่ยง ) ซึ่งอยู่ในเขตประเทศพม่า ได้ป่วยเป็นโรคร้าย จนเพื่อนบ้านต่างพากันทอดทิ้ง ไม่มีใครกล้ามาดูแล และบังเอิญหลวงพ่ออุตตมะได้ธุดงค์มาพบเข้า ด้วยความเมตตาหลวงพ่อจึงได้ช่วยรักษาจนหาย ทำให้เด็กชายคนนี้นับถือหลวงพ่ออุตตมะเป็นอย่างยิ่ง กาลต่อมาหัวหน้ากะเหรี่ยงคริสต์รายนี้ได้มาเล่าให้หลวงพ่ออุตตมะฟังว่า ( ตอนนั้นหลวงพ่อมาอยู่เมืองไทยใหม่ ๆ ราวปี พ.ศ. 2490 กว่า ) วันหนึ่งขณะที่พวกตนถูกพวกพม่าตามไล่ล่า จนกระทั่งหนีเข้าไปหลบซ่อนในถ้ำ ๆ หนึ่ง แถวเมืองมะละแหม่ง พวกทหารพม่าได้ใช้ปืนกล และอาวุธสงครามยิงเข้าไปในถ้ำ แต่ไม่มีใครเป็นอะไรเลย ตรวจดูในถ้ำพบว่ามีพระยอดขุนพลอยู่ในถ้ำ

    **********************************
    #อานิสงส์การสร้างห้องน้ำ
    **********************************
    “...ดูกรภิกษุทั้งหลาย ทานของสัปบุรุษเหล่านี้ 8 อย่าง คือ 1. ให้ของที่สะอาด 2. ให้ของประณีต 3. ให้ถูกกาล 4. ให้ของที่สมควร 5. เลือกให้ 6. ให้เสมอๆ 7. กำลังให้ยังจิตให้เลื่อมใส 8. ครั้นให้แล้วปลื้มใจ สัปปุริสทาน ทานทั้ง 8 อย่างนี้ประเสริฐยิ่งนักหนา..”
    กาลครั้งนั้น องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าสถิตสำราญอยู่ในป่าเชตวัน อันเป็นอารามของนายอนาถปิณฑิกมหาเศรษฐี มีพระราชานามว่า มหานามะ เอาธูปประทีปคันธรสของหอม แล้วพาหมู่บริวารทั้งหลายเข้าไปสู่ที่เฝ้า แล้วจึงทูลถามพระสัพพัญญูเจ้าว่า “ข้าแต่องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าบุคคลผู้ใดเลื่อมใสศรัทธา มาก่อสร้างสรรพทานหลายๆ ชนิด ก็จักมีอานิสงส์อย่างใด”
    องค์สมเด็จพระศาสดาจารย์เจ้าจึงเทศนาว่า ดูกรมหาบพิตร นรชนหญิงชายทั้งหลายมีใจเลื่อมใสศรัทธามาก่อสร้างสรรพทานหลายๆ ชนิดเป็นต้นว่า ผู้ใดได้สร้างเวจกุฏี (ห้องน้ำ ห้องส้วม) ได้อานิสงส์ถึง ๔๐ กัลป์
    สรรพทานทั้งหลายชนิดเหล่านี้ บุคคลผู้ใดมีศรัทธากล้าหาญอาจสละสมบัติออกสร้างวัตถุประสงค์ดังแสดงมานี้ ก็มีอานิสงส์ผลบุญพูนสุขในชั่วภพนี้และชั่วภพหน้า
    อานิสงส์ที่ได้ปัจจุบันนี้คือ จะไปมาทางใดก็มีคนนับหน้าถือตา ไม่ได้เป็นที่รังเกียจของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง มีแต่ผู้อยากให้ร่วมกินร่วมอยู่ทั้งนั้น
    เราจะเข้าไปสู่สมาคมใดๆ ก็ไม่ครั่นคร้าม สยดสยอง เกรงกลัวต่ออำนาจผู้ใด
    การทำมาหากินก็สมความมุ่งมาตรปรารถนาสมประสงค์
    ครั้นสิ้นบุพกรรมมนุษย์ในโลกนี้แล้ว ก็จะถือเอาตนเมื่ออุบัติขึ้นบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสายามาตุสิตาโดยลำดับ จนถึงพรหมโลก
    ครั้นจุติจากพรหมโลกลงมาเกิดในมนุษย์โลก ก็ไม่ได้ไปเกิดในหิเนกุลชั่วร้าย และจักได้ไปเกิดในตระกูลท้าวพระยามหากษัตริย์ หรือตระกูลพราหมณ์ผู้มั่งคั่งมั่งมีเศรษฐีกฎุมพี แล้วก็จักได้บารมีแก่กล้า ก็จะได้บ่ายหน้าเข้าสู่เมืองแก้วนิพพาน
    **********************************
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน กล่าวไว้ว่า
    “ทุกข์อะไรมันหนักเท่าทุกข์เข้าส้วม นี่จริงๆ นะ เป็นบุญใหญ่มาก และประการที่ 2 ล้างส้วม ล้างห้องน้ำ ในจิตใจก็ได้ล้างไปด้วย คิดไปด้วยว่าไอ้สิ่งสกปรกนั้นมันมาจากร่างกายคน ร่างกายคนมันสกปรกแบบนี้ใช่ไหม ร่างกายเลวๆ แบบนี้ไม่ต้องการมันอีก ถ้าใช้อารมณ์อย่างนี้เรื่อยๆ นะ แม้แต่ครั้งเดียวล้าง 10 ห้อง ถ้าคิดห้องเดียวก็ได้แล้ว”
    https://www.facebook.com/share/p/1AaAAgXKut/
     

แชร์หน้านี้

Loading...