"สังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ คืออะไร "

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 21 มกราคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,174
    [​IMG]
    ปุจฉา.....

    "สังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ คืออะไร ๕ "


    *****************
    วิสัชนา.....

    สังโยชน์ คือ กิเลสอันผูกใจสัตว์, ธรรมที่มัดสัตว์ไว้กับทุกข์ หรือผูกกรรมไว้กับผล ดังนี้
    ( พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕ พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๒ วิภังคปกรณ์ ปัญจกนิเทศ)

    สังโยชน์เบื้องต่ำ หรือ โอรัมภาคิยสัญโญชน์ ๕ เป็นไฉน

    โอรัมภาคิยสัญโญชน์ ๕ ได้แก่
    .....๑. สักกายทิฏฐิ (ความเห็นว่าเป็นตัวของตน)
    .....๒. วิจิกิจฉา (ความสงสัย, ความลังเล ไม่แน่ใจ)
    .....๓. สีลัพพตปรามาส (ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตามๆ กันไปอย่างงมงาย เห็นว่าจะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้เพียงด้วยศีลและวัตร)
    .....๔. กามฉันทะ (ความกำหนัดในกาม, ความติดใจในกามคุณ)
    .....๕. พยาบาท (ความขัดเคือง, ความคิดร้าย)

    เหล่านี้เรียกว่า สังโยชน์เบื้องต่ำ หรือ โอรัมภาคิยสัญโญชน์ ๕

    ท่านพระอานนท์นั่งเรียบร้อยแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ..

    ภิกษุนามว่าสาฬหะ มรณภาพแล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้าของเธอเป็นไฉน
    ภิกษุณีนามว่า นันทา มรณภาพแล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้าของเธอเป็นไฉน
    อุบาสกนามว่า สุทัตตะ ...ทำกาละแล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้าของเขาเป็นไฉน
    อุบาสิกานามว่า สุชาดา ... ทำกาละแล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้าของเขาเป็นไฉน
    อุบาสกนามว่า กกุธะ ... ทำกาละแล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้าของเขาเป็นไฉน
    อุบาสกนามว่า การฬิมพะ ทำกาละแล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้าของเขาเป็นไฉน
    อุบาสกนามว่า นิกฏะ ...ทำกาละแล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้าของเขาเป็นไฉน
    อุบาสกนามว่า กฏิสสหะ ...ทำกาละแล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้าของเขาเป็นไฉน
    อุบาสกนามว่า ตุฏฐะ ...ทำกาละแล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้าของเขาเป็นไฉน
    อุบาสกนามว่า สันตุฏฐะ ..ทำกาละแล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้าของเขาเป็นไฉน.
    อุบาสกนามว่า ภฏะ ...ทำกาละแล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้าของเขาเป็นไฉน
    อุบาสกนามว่า สุภฏะ ทำกาละแล้วในนาทิกคาม คติและภพเบื้องหน้าของเขาเป็นไฉน ฯ

    พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรอานนท์.......

    ภิกษุนามว่าสาฬหะ กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะสิ้นไป ด้วยปัญญา อันยิ่งของตนเองในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่

    ภิกษุณีนามว่า นันทา เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ สิ้นไป เป็นโอปปาติกะ ปรินิพพานในภพนั้น มีอันไม่กลับมาจากโลกนั้นเป็นธรรมดา

    อุบาสกนามว่า สุทัตตะ เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป และเพราะ ราคะ โทสะ โมหะเบาบาง เป็นพระสกทาคามี กลับมายังโลกนี้คราวเดียวเท่านั้น แล้วจักทำที่สุดแห่งทุกข์

    อุบาสิกานามว่า สุชาดา เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป เป็นพระโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง มีอันจะตรัสรู้ในภายหน้า

    อุบาสกนามว่า กกุธะ เพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ สิ้นไป เป็นโอปปาติกะ ปรินิพพานในภพนั้น มีอันไม่กลับมาจากโลกนั้นเป็นธรรมดา

    อุบาสกนามว่า การฬิมพะ ... อุบาสกนามว่า นิกฏะ ... อุบาสกนามว่า กฏิสสหะ ... อุบาสกนามว่า ตุฏฐะ ... อุบาสกนามว่า สันตุฏฐะ ... อุบาสกนามว่า ภฏะ ... อุบาสกนามว่า สุภฏะ เพราะ สังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ สิ้นไป เป็นโอปปาติกะ ปรินิพพานในภพนั้น มีอันไม่กลับมาจากโลกนั้นเป็นธรรมดา ฯ

    ดูกรอานนท์ .......

    พวกอุบาสกในนาทิกคาม อีก ๕๐ คน กระทำกาละแล้วเพราะสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ สิ้นไป เป็นโอปปาติกะ ปรินิพพานในภพนั้น มีอันไม่กลับมาจากโลกนั้นเป็นธรรมดา

    พวกอุบาสกในนาทิกคาม ๙๖ คน ทำกาละแล้วเพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป และเพราะราคะ โทสะ โมหะเบาบาง เป็นพระสกทาคามี กลับมายังโลกนี้คราวเดียวเท่านั้น แล้วจักทำที่สุดแห่งทุกข์

    พวกอุบาสกในนาทิกคาม ๕๑๐ คน ทำกาละแล้ว เพราะสังโยชน์ ๓ สิ้นไป เป็นพระโสดาบัน มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง มีอันจะตรัสรู้ในภายหน้า ฯ
     

แชร์หน้านี้

Loading...