สับสนๆ ไม่รู้จะใช้คำภาวนาอะไรดี เยอะแยะไปหมด ช่วยด้วย

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย kim_pornpat, 17 มิถุนายน 2008.

  1. kim_pornpat

    kim_pornpat สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +3
    ถ้าเป็นแบบที่โรงเรียนสอน ก็จะบอกว่าให้ภาวนา "พุท โธ" อาณาปานสติแบบง่ายๆ

    ถ้าเป็นแบบกรรมฐานเบื้องต้นก็จะให้ภาวนาว่า "ยุบหนอ พองหนอ"
    (ไม่เข้าใจด้วยว่า หายใจเข้านี่ยุบหรือพอง)

    ถ้าเป็นแบบมโนยิทธิ ก็จะภาวนาว่า "นะมะพะธะ"

    บางท่ีก็บอกว่าให้กำหนด "ว่าง" อย่างเดียวเลย

    แล้วไหนต้องกำหนดฐานจิตด้วยว่าจะให้อยู่บริเวณไหน
    หน้าผาก(บริเวณตาที่สาม) หน้าอก เหนือสะดือ 2 นิ้ว

    สับสนๆ ถ้าอย่างไรช่วยแนะนำด้วยนะคะ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เผื่อจะแนวทางปฏิบัติที่เป็นตัวของตัวเอง

    ขอบคุณมากค่ะ และโมทนาสาธุกับทุกความคิดเห็น
     
  2. กตัญญุตา

    กตัญญุตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +109
    เลือกบริกรรมอะไรก็ได้ครับ สักอย่างที่คิดว่าเหมาะกับจริตของตนเอง อยู่กับลมหายใจไม่วอกแวกไปที่อื่น อย่าส่งจิตออกนอก ปฏิบัติไปเรื่อยๆครับ เหนื่อยก็หยุดพักก่อน พร้อมแล้วค่อยเริ่มใหม่...สำหรับผมถนัดบริกรรม พุท-โธ ครับ เนื่องด้วยรู้จักสมาธิ จากพุท-โธ มาตั้งแต่ต้น แต่ทั้งนี้จะบริกรรมภาวนาเช่นไร ก็เพื่อเข้าสู่สมาธิสู่ทางสงบเป็นเบื้องต้น...เพื่อบรรลุธรรมในที่สุด...ขอเจริญในธรรมครับ สาธุ
     
  3. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,513
    ค่าพลัง:
    +27,181
    นอนหงาย เอามือสองข้างประสานวางบนท้อง
    ถ้ามันพองก็นึกว่า พองน้อ
    ยุบก็นึกว่ายุบน้อ
    สติจดจ่ออยู่กะหนังท้อง
    ปล่อยกายนอนไปตามสบาย

    ทำแบบนี้ไปก่อนนอนทุกคืน
    เอาแค่นี้ก่อน
     
  4. jarnan

    jarnan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +9
    ส่วนตัวชอบภาวนาว่า นิพพานัง ปรมัง สุขัง รู้สึกว่าจิตสุข และจับอารมณ์นิพพานไว้ก่อน จะได้ไม่ตกอบายภูมิค่ะ แล้วแต่ใครถนัดค่ะ
     
  5. สายลมยามเย็น

    สายลมยามเย็น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +12
    มีครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งได้สอน เรื่องความสับสนนี้ไว้ อย่างน่าสนใจ และผ่อนคลายมากครับ ท่านคือ หลวงปู่ โต๊ะ วัดประดู่ฉิพลี พระอาจารย์ ท่านหนึ่งของในหลวง และบางเล่มว่า เป็นหนึ่งในพระอาจารย์ของ ของ สมเด็จพระสังฆราช พระสังฆราชได้นิมนต์ท่านมาบรรยายที่วัดบวร ในบางครั้งด้วย เป็นที่รับรองว่า ท่านเก่งเรื่องสมาธิมาก

    และท่านสอนให้วางใจไว้หลายที่ด้วย อีกทั้งอธิบายเหตุผล ลองศึกษาดูนะครับ
     
  6. kim_pornpat

    kim_pornpat สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +3
    อนุโมทนากับ
    คุณ pum_anatta,
    คุณกตัญญุตา,
    คุณอักขรสัญจร,
    คุณjarnan,
    คุณสายลมยามเย็นมากๆค่ะ ขอให้ผลบุญที่ท่านทั้งหลายได้กระทำในครั้งนี้ส่งผลให้ท่านเข้าถึงพระนิพพานโดยเร็วพลันเถิด สาธุ
     
  7. lepus

    lepus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,881
    จริง ๆ แล้วคำบริกรรมภาวนาจะใช้อะไรก็ได้ครับ เป็นเพียงสิ่งที่ใช้รวมใจให้สงบเท่านั้นเอง
    โดยมากแล้วพระป่าสายหลวงปู่มั่นจะนิยมใช้บริกรรม พุทโธ แต่ก็ไม่ได้ตายตัวเสมอไป หลวงปู่มั่นเองท่านก็เคยสอนลูกศิษของท่านแตกต่างกันไปตามจริตนิสัยแต่ละคนไป

    อย่างหลวงพ่อพุธ ฐานิโยท่านเคยสอนให้โยมคนหนึ่งบริกรรมพุทโธ พอโยมคนนั้นพอบริกรรมพุทธ ๆ จิตก็ไม่สงบสักทีกลับเผลอไปคิดถึงแต่หน้าแฟนอยู่ตลอด หลวงพ่อพุธท่านเลยให้เปลี่ยนเสียใหม่โดยให้บริกรรมเป็นชื่อแฟนไปเสียเลย ปรากฎว่าก็ทำให้จิตของโยมคนนั้นสงบรวมลงเป็นสมาธิได้

    ดังนั้นคำบริกรรมจึงไม่ได้มีกำหนดตายตัวไว้ หากคำไหนที่คุณใช้แล้วรู้สึกว่าสบายใจทำให้เป็นสมาธิได้ง่ายก็เลือกใช้คำนั้นน่าจะดีที่สุดครับ
     
  8. ขอมจำแลง

    ขอมจำแลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +1,274
    ขออนุญาต เอาที่ครูบาอาจารย์ท่านเมตตาแนะนำมา เล่าให้ฟังนะครับ

    *** การแก้อาอรม์ฟุ้งซ่าน หรือเครียด วิธีดีที่สุด คือการกำหนดรู้ลมหายใจเข้า และออก แต่ผู้ที่สติมีมาก ก็สามารถรู้ได้โดยไม่ต้องภาวนา หรือ พวกพุทธิจริตก็น่าจะเช่นเดียวกัน
    *** ส่วนหากเรารู้แล้วเกิด เบาไป ตามไม่ทัน มันลืม ก็ว่าพุท ตอนเข้า โธตอนออกแทนกันลืม เพราะขาดสติตอนรู้ลมแบบไม่บริกรรมภาวนาด้วยก็ดีนะครับ แต่จะว่าแบบไหน อยู่ที่เลือก และเลือกแล้วต้องทำจริง คือทำจนถึงที่สุด ไม่ใช่มาเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ใครว่าอะไรดี ก็ว่าไปหมด จะไม่ได้ดีทุกคำภาวนาเลย แต่หากเอาดีกันจริงๆ พุทโธ สัมมาอะระหัง ฯลฯ ก็ได้ทั้งหมด ทำให้ละนิวรณ์ได้ก็ค่อยเปลี่ยนคำภาวนาครับไป เลือกๆเอามีค่าเท่าๆกัน
    *** หากสติไม่ทัน หรือฟุ้งซ่านมาก ภาวนาแล้วยังมีช่องว่าให้ใจคิดแทรกอีก ก็ว่าพุทโธ พุทโธ พุทโธ เหมือนสวดมนต์ไปเลย แบบไม่ว่าควบกับลมเข้าออก แต่ว่าติดๆกัน แต่รู้ลมเข้าออกไปด้วยครับ จนสมาธิดีแล้วค่อยทิ้งคำภาวนา จับลมเพียงอย่างเดียว
    *** ท่านว่าอารมณ์สมาธิ(สมถ) กับ การพิจารณา นั้น เหมือน ขา 2 ข้าง หากจะให้ก้าวหน้า เมื่อภาวนาจนสงบแล้ว มันทำได้แค่นี้ไม่สงบยิ่งกว่านี้ พอมันถอน เราก็พิจารณาต่อครับ สลับกันไป ๆ มา ๆ สมาธิก็จะสูงขึ้นโดยลำดับ เพราะมันก้าวเท้าเดินไปได้ คือมีความก้าวหน้านะครับ หากพิจารณาแล้วเริ่มฟุ้งก็จับลมหายใจเข้าออก หรือจะภาวนาควบก็ได้ ให้สงบ จิตมีกำลัง เพื่อที่จะเป็นแรงให้เป็นฐานในการพิจารณาต่อไป ทำสลับกันไป
    *** บางที่ก็นับประคำด้วย ให้จิตทำงานมากขึ้น และเป็นการทรงอริยาบทในมหาสติด้วยอย่างหนึ่ง กันความฟุ้งซ่าน พร้อมกับภาวนา และจับลมหายใจด้วย แล้วแต่ชอบ ให้เลือกเอา
    *** แต่ที่สำคัญต้องทำเพื่อละความทุกข์ ความวุ้นวายสับสน และทำนี่ต้องทุกวัน สม่ำเสมอ ตื่นใหม่ๆ รวบรวมกำลังใจให้ดีๆ และก่อนล้มตัวลงนอนก็ว่าสักหน่อยครับ ไม่นานเราจะเป็นนักปฏิบัติที่ดีกันนะครับ มาทางนี้ เป็นทางประเสริฐที่สุดแล้ว ขอให้ทำดี หากเครียด สับสนแสดงว่าเร่งเกินไป จะเอาผลไวๆ ให้ได้เดี๋ยวนี้ มันยาก ต้องสะสม ต้องใจเย็นๆ สาธุ
    *** เราก็กำลังหัดอยู่ รวบรวมประมวลมาได้ แค่นี้ ผิดถูกใช้เหตุใช้ผล รับฟังเอา อารมณ์สบายใจ เบาใจ ไม่ฟุ้งซ่านน่าจะเป็นสมาธิที่ถูกทางครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2008
  9. พระศุภกิจ ปภัสสโร

    พระศุภกิจ ปภัสสโร เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    2,015
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +11,166
    เอาที่รัก จักได้ผล

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
    (*) บริกรรม (พุท-โธ * สัมมา-อะรหัง *นะมะ-พะทะ-*(นับ)12-34 )ก็เลือกเอาที่ชอบเหมาะกับการภาวนาของตนไม่บังคับเพราะสุดท้ายบริกรรมก็ต้องปล่อยวางอยู่ดี[​IMG]
    [​IMG]
     
  10. อัตตา

    อัตตา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +10
    ถ้าสับสนไม่รู้จะใช้อะไรดี ลองเปลี่ยนมาฟังเทปธรรมะหรือเพลงบรรเลงที่แนบมาให้ดูซิครับ ที่จริงหาอะไรก็ได้ที่เป็นกุศลเป็นเพียงอุบายครับ ถ้าจิตมันชอบทำแล้วสงบมีความสุขก็อันนั้นนั่นแหละ จุดประสงค์หลักคือตามรู้สภาวะธรรมปัจจุบันกับธาตุรู้ว่ามันไปรู้อะไรอยู่ตอนนี้ อย่างผมชอบฟังเพลงบรรเลงครับ ไม่ชอบความสงบ ไม่ชอบนั่งนิ่งๆ นั่งนิ่งๆแล้วแยก สภาวะธรรม-->จิตที่ไปรู้สภาวะธรรม-->สติ ไม่ค่อยออกครับมันคอยแต่จะเคลิ้ม,ซึม แล้วก็หลับครับ แล้วคุณละภวนาเพื่ออะไร เพื่อความสงบหรือเพื่อ
    ที่จะยกจิตขึ้นสู่วิปัสนา
     
  11. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817

    ตอบ...
    ความจริงแล้วข้าพเจ้าเองไม่อยากสอนใครแบบตรงๆ คุณลองหาอ่านกระทู้ชื่อ "บรรทัดฐานการปฏิบัติสมาธิ" มีสองตอน ลองอ่านดู น่าจะให้ข้อคิด หรือความรู้ความเข้าใจได้มากขึ้น

    อนึ่ง คุณอย่าหลงเชื่อผู้ใดเป็นอันขาดว่า "ให้ฝึกไปตามที่ตัวเองชอบ" เพราะคุณต้องระลึกนึกถึงว่า ตัวคุณไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิที่ถูกต้องมาก่อนเลย ถึงแม้ว่า สมาธิ จะเป็นสิ่งที่มีอยู่ในตัวคุณอยู่แล้วก็ตามที

    ส่วนคำถามที่คุณถามมาทั้งหมด ข้าพเจ้าจะให้ข้อคิดสั้นๆกับคุณว่า

    "การปฏิบัติธรรม ต้องคำนึง หรือระลึกนึกถึง หรือต้องรู้ให้เป็นไปตามหลักธรรมชาติของมนุษย์ "
    กล่าวคือ จะฝึกปฏิบัติ สมาธิ ก็ต้อง มีหลักการให้เป็นไปตามหลักธรรมชาติของร่างกายอยู่แล้ว
    เพียงแต่ต้องทำความเข้าใจว่า การปฏิบัติสมาธิ คืออะไร เพื่ออะไร จากผู้รู้ จากครูอาจารย์ผู้ปฏิบัติ ดีแล้ว ฉะนี้"
     
  12. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2008
  13. ตามรอยเท้าพ่อ-แม่

    ตามรอยเท้าพ่อ-แม่ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +32
    มีท่านผู้หนึ่งเคยใช้คำภาวนาว่า นะ โม พุท ธา ยะ บ้างทีก็ วิ ระ ทะ โย และก็ สัม ปะ ติจ ฉา มิ เหมือนกันครับ แต่ก็ไม่รู้ความหมายว่าที่แท้จริงหมายความว่าอย่างไร แต่ยังงัยก็ลองปฏิบัติดูนะครับ เผื่อจะช่วยได้ ขออนุโทนาด้วยครับ สาธุ.
     
  14. kaenlukson

    kaenlukson เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +2,126
    อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ กับทุกทุกท่านค่ะ

    ______________________________________

    ทาน ศีล สมาธิ
     
  15. nerazzurriboyz1908

    nerazzurriboyz1908 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    713
    ค่าพลัง:
    +763
    อนุโมทนากับข้อมูลดีๆ ครับ ของผมใช้ พุท โธ 2 คำ ไม่ถนัดกับ สัมมาอรหัง หรือ นะมะพะทะ เพราะหลายคำครับ ผมกำหนดลมหายใจ เข้า และออก จึงชอบใช้พุท โธ ลองอ่านหลายหลายกระทู้ แล้วพิจารณษนะครับ แต่ถ้าเป็นไปได้หาผู้รู้ช่วยสอนจะดีกว่าครับ
     
  16. นาๆจิตตัง

    นาๆจิตตัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +412
    สวัสดีครับ

    การฝึกพระกรรมฐานก็มีหลายรูปแบบหรือหลายแนวทาง
    ก็ต้องกำหนด...เลือกหรือฝึก ให้ชัดเจนลงไป แล้ว
    ยึดถือ ยึดมั่น ตกลงให้แน่วแน่ แน่นอน....หมายมั่น
    อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือเรียกว่าต้องมีสัจจะให้แก่ตนเอง
    ไม่อย่างนั้นแล้ว ความลังเลสงสัยหรือตัววิจิกิจฉา..หนึ่ง
    ในนิวรณ์ห้าประการ จะมาแทรกหรือมาเยี่ยมเยียนท่าน
    ทำให้ไม่เป็นสมาธก สมาธิเอาได้....

    ลองโหลดไฟล์หรือเปิดอ่าน...ศึกษาดู ตามลิงค์นี้ได้

    http://www.aranyawiwake.com/books.html

    ของ หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
    วัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
    ในหมวดหนังสือของ จิตตภาวนาหรือทางปฏิบัติไปสู่ความสงบ เป็นต้น

    ขอความเจริญในธรรมจงมี จงบังเกิด แก่ท่านเทอญ

    สาธุ
     
  17. arsenal2002

    arsenal2002 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +17
    อ่านกระทู้นี้แล้วได้ความรู้เยอะจัง สงสัยต้องลองเอาไปปฏิับัิติ บ้างแล้ว อนุโมทนาด้วยครับ
     
  18. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ลองใช้ "ความรู้สึก" เป็นองค์ภาวนาสิครับ ส่วนฐานของจิตก็ใช้ร่างกายนี้ทั้งร่างเป็นฐาน ไม่ต้องกำหนดที่จุดใดจุดหนึ่งแต่ดูไปทั้งตัวเลย แล้วก็ฝึกฝนปรับเปลี่ยนสติให้เหมาะสมกับสถานการณ์และสิ่งที่กำลังกระทำอยู่ เช่นนี้ก็จะสามารถมีสติสัมปชัญญะได้เนืองๆในทุกอิริยาบถแล้วล่ะครับ
     
  19. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    อะไรก็ได้..........ผลมันลงร่องเดียวกันหมด ไม่ต้องถกเถียงเพระเป็นของว่าง แค่อุบายให้ใจทำงาน เข้าวิถีแห่งธรรมในการปฏิบัติ.............................
     
  20. varakorn

    varakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2005
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +435
    ได้ทุกคำ ที่กล่าวมา

    อยู่ที่ว่าเราจะภาวนาจริงหรือเปล่าเท่านั้นเอง ครับ

    อนุโมทนาด้วยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...