หน้าตาผ่องใสช่วยเเม่ชีเเนะนำด้วยนคับ

เเม่ชีคับ มีเรือง่ถาทเเก้ความสงสัยคับ

1. ถามเกี่ยวกับ พระ คับ พระที่ผมเห็นเเต่ล่ะวัดทำไมหน้าตาผ่องใสจังคับ
ทั้งๆที่ผมรุว่าพระท่านนอนน้อยกว่าเรา ท่านทำยังไงหน้าตาถึงผ่องใสอิ่มเอิบคับ

2. ผมอยากหน้าตาผ่องใสเเบบท่านคับโดยไม่ต้องไปศัลยกรรมทำไงคับ

3. คือผมเปนคนนอนไม่หลับนอนน้อยประมาณ 4 ชั่วโมงเเต่ถ้านอกนั้นมั้นไม่หลับเเต่อยากหน้าตาผ่องใสเเบบท่านคับโดยเเบบไม่นอนหรือนอนน้อยต้องทำยังไงคับ

4. ผมก็อยากหน้าตาผ่องใสเเบบเเม่ชีด้วยคั้บทำยังไง

 

อิอิ.....จิตไม่เศร้าหมอง...

 

เจริญธรรม...

หนุ่มเอ้ย...อยากหน้าตาผ่องใสเหมือนพระกับแม่ชี ก็มาบวชอยู่วัดสิ

บุคคลเหล่านี้ไม่ต้องสาละวนกับดอกผลกำไรในการค้าขาย เรียกง่ายๆคือ ไม่ได้ทุกข์ร้อนในการทำมาหากิน

ตื่นขึ้นมาก็บิณฑบาตรขออาหารโยมกินตามสมควร ชีวิตไม่ต้องรีบเร่งหาเงินและหางาน

วันๆก็อยู่กับธรรมชาติและการศึกษาธรรมะและการค่อยๆสละละวางจากกิเลส อันเป็นเครื่องเศร้าหมอง

เห็นสัจจธรรมได้เร็วไว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเจ็บและการตาย
ปฏิบัติธรรม ทำสมาธิเพื่อการมีสติมั่น ไม่คิดเพ้อฝันในเรื่องอันไร้สาระ แล้วอย่างนี้จะให้แก่ไวได้อย่างไร? เนื่องใจไม่อยากมากนะ

หนุ่มอยากหน้าตาผ่องใสก็ทำสมาธิให้มีสติ ลดความอยากให้น้อยลงตามลำดับ อย่าคิดอะไรที่ทำให้เป็นทุกข์

แต่ต้องคิดอย่างผู้มีสติ มีปัญญา อย่าเบียดเบียนใคร ก็จะนอนหลับสบายและไม่ฝันร้าย

ตื่นขึ้นมาหน้าตาก็จะผ่องใสโดยไม่ต้องกินยาสวยเลยนะ แต่ถ้าหน้ากร้านเพราะการโดนแดดมากๆ อย่างนี้ก็ต้องหาวิธี "หลบแดด"
เราไม่ได้มีเนื้อหนังหนาอย่างกับ วัวควาย หนังบางๆของเรา เราต้องดูแลด้วย
พระกับชีบางทีก็ยังต้องใช้ครีมทากันเนื้อแตก เวลาหน้าหนาวเช่นกัน ข้อนี้อยู่ในคิลานะ ฯคือ ยารักษาตามกาล

หน้าหนาว อากาศหนาวก็ต้องใส่ผ้ากันหนาว แดดแรงๆก็ต้องหลบแดด ทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะและอนามัย

ป่วยไม่สบายก็ต้องกินยาหาหมอรักษา นี่คือหลักความจริงไม่ใช่อิงนิยายนะ

อย่าคิดอะไรที่ไม่ดี ทำใจให้ผ่องแผ้ว เบิกบานผ่องใส ทานน้ำมากๆ บอกสวัสดีก่อนนอนกับคนในบ้าน

รับรองว่านอนหลับฝันดี ไม่มีฝันร้าย ตื่นขึ้นมาสดใส ลุยกับงานในชีวิตประจำวันต่อไป เกิดปัญหาก็รีบแก้ไข

ใช้ปัญญาอย่างผู้มีสติ อย่างนี้ฉลุยจ้า....

(verygood)(verygood)(verygood)

ธรรมะสวัสดี สาธุ!!!

 

ขอบคุณแม่ชีมากๆเลยค่ะ อ่านไปยิ้มไปเลยค่ะ
หนูทำตามแม่ชีแนะนำตรงทุกอย่างเลยค่ะ ไม่สงสัยแล้วว่าทำไมมีแต่คนทัก
ความจริงอายุมากแล้ว แต่คนชอบทักว่าหน้าตาสดใสจัง ดูไม่ออกเลยว่าอายุมากแล้ว

 

สวดมนต์ ไหว้พระ ปฏิบัติภาวนา สละเวลาในช่วงหนึ่งของวัน ถือศีลให้ได้ยิ่งดีเลยค่ะ มีเวลามากอีกหน่อยก็ไปวัดปฏิบัติอย่างที่แม่ชีท่านแนะนำก็ดีมากค่ะ ขออนุโมทนานะคะ

 

…วิธีการทำให้ใบหน้าใสสวยมีการพูดถึงตั้งแต่สมัยพุทธกาล <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
โดยพระนางมัลลิกาทูลถามพระพุทธเจ้า อะไรเป็นเหตุให้ผู้หญิงบางนางจึงมีผิวพรรณของใบหน้าแลดูใสสวยยิ่งนัก???? <o></o>
...พระพุทธเจ้าตรัสตอบว่า ผู้หญิงผู้ไม่เป็นโกรธ ไม่ฉุนเฉียว ไม่แสดงความไม่พอใจ <o></o>
...ผู้นั้นจะมีรูปร่าง หน้าตาดูน่าชม ผิวพรรณสดใสงามยิ่ง <o></o>
...สิ่งที่เป็นปัญหาในจิตใจของเราในวันนี้ เพราะเราเป็นบุคคลที่มีแผลในใจ เราสะสมปฏิฆะ ความขุ่นข้องหมองใจ <o></o>
...ในแต่ละวันเราปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เราจะสะสมปฏิฆะ บางคนมีเป็นคอลเลกชั่นจนพัฒนากลายเป็นโทสะ <o></o>
...หากกระทบปั๊บ จิตเราจะไปทันที เวลาโกรธเราจะแสดงที่ใบหน้า แววตาของเรา <o></o>
...ไม่ว่าจะเมกอัพขนาดไหนก็เห็น ซึ่ง เวลาโกรธเราจะแปลงร่างจากสุภาพชนกลายเป็นทรชนจากมนุษย์เป็นมารร้าย พระพุทธเจ้าตรัสว่า คนที่สะสมความโกรธนั้น เรากำลังสะสมภพภูมิของอสุรกาย....

 

การปฏิบัติธรรมนั้น

ไม่ทราบว่าท่านปฏิบัติธรรมไปเพื่อที่จะหวังความพ้นทุกข์
หรือเพื่อที่จะอยากให้ร่างกายของท่านสวยงาม
พระพุทธเจ้าปฏิบัติธรรมเพื่อที่จะไปนิพพาน
พระอริยสงฆ์สาวกปฏิบัติธรรมเพื่อที่จะไปนิพพาน
เมื่อเรามีหน้าตาดีแล้วมันก็เกิดการหลงในสังขารร่างกายของตัวเองอีกเกิดเป็นอุปาทานโดยไม่รู้ตัว
...ความสุขนั้นไม่ใช่ใช่ของเรา
แต่เราไปหลงถือไว้เพราะว่าเรารู้จักมันน้อยเกินไป เราไม่รู้ว่ามันเป็นเพียงแค่สภาวะธรรม เราลองหวนกลับไปถามดูสิว่าความสุขนั้นมันมีเจ้าของไหม
...ปล่าวมันไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา มันก็เป็นเพียงแค่สภาวะธรรมเท่านั้นเอง มันเกิดขึ้นมาตามธรรมชาติของมันแล้วมันก็ดับไปตามสภาวะของมันเช่นกัน เพราะว่ามันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน
มันเกิดขึ้นมาเพียงชั่วครูแล้วมันก็ดับไปบางที่ ..บางทีน่ะเช่นเมื่อเวลา 10.00 โมงยังมีความสุขอยู่เลย แต่พอ 10.02 เกิดความอิจฉาผู้อื่นแล้วว่าหน้าตาเขาดีกว่า แล้วลองมาถามดูอีกซิว่าความสุขที่มันเกิดขึ้นนั้นมันยังอยู่กับเราอยู่เหรอไม่ ...แน่นอนมันหายไปแล้วแต่ว่ามันเกิดเป็นความทุกข์ขึ้นมาเเทน
นี่แหละเราปฏิบัติธรรมมาก้เพื่อที่จะให้รู้จัก ทุกข์...ตัวนี้แหละ มันเป็นคำคำเดียวที่มีค่าที่สุดสำหรับการปฏิบัติธรรม นะครับ
สุดท้ายนี้ผมขอแนะนำให้ท่าน
1. พิจารณาอสุภะ
2. เจริญวิปัสสนา
3. เจริญสติปัฏฐานให้ตลอดบ่อยๆ
4. ระลึกถึงความตายอยู่เนืองๆ
นะครับ

 

เอาพรหมวิหาร4เปนเครื่องอยู่ รับรองเดือนเดียวรู้ผล

 

เอาพรหมวิหาร4เปนเครื่องอยู่ รับรองเดือนเดียวรู้ผล