เกจิแห่งเมืองร้อยเอ็ดเพชรอีสาน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย DevilBitch, 23 มิถุนายน 2005.

  1. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    "หลวงปู่มา ญาณวโร" เกจิแห่งเมืองร้อยเอ็ดเพชรอีสาน





    [​IMG] เมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ต้องคดีซุกหุ้นเมื่อปี ๒๕๔๐ นั้น นอกจากใช้การต่อสู้ด้านกฎหมายเพื่อให้หลุดพ้นข้อกล่าวหาแล้ว การทำบุญสะเดาะเคราะห์ก็ยังเป็นอีกทางหนึ่ง โดยในครั้งนั้น นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอซีที) ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ทั่วภาคอีสานมาทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ณ วัดแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น

    พระมงคลญาณเถร หรือ หลวงปู่มา ญาณวโร วัดสันติวิเวก บ้านโนนคำ ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ก็เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่ได้รับนิมนต์ให้ไปร่วมงานในครั้งนั้นด้วย ที่สำคัญคือหลวงปู่มาได้รับนิมนต์ให้เป็นตัวแทนพระเกจิอาจารย์ทั้งหมดในการผูกข้อมือนายกฯ ทักษิณด้วยด้ายสายสิญจน์

    หลวงปู่มา ชื่อนี้อาจจะไม่เป็นที่รู้จักของคนภาคกลางเท่าใดนัก แต่ถ้าเป็นคนในภาคอีสานโดยเฉพาะใน จ.ร้อยเอ็ด ขอนแก่น หรือมหาสารคราม ต่างรู้จักกันดี ท่านมักจะได้รับนิมนต์ให้ไปนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลบ่อยครั้ง ส่วนกรุงเทพฯ และจังหวัดในภาคกลางนั้น ท่านจะได้รับนิมนต์ให้มานั่งปรกเฉพาะพิธีมหาพุทธาภิเษกใหญ่ๆ เท่านั้น



    นอกจากนี้แล้วเหล่าบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่เข้าไปกราบไหว้ท่าน ต่างมีความเชื่อว่า "หลวงปู่มาสำเร็จเป็นพระอรหันต์"

    ส่วนท่านจะสำเร็จจริงหรือไม่นั้น ต่อไปนี้คือบทสัมภาษณ์ หลวงปู่มา แบบ "คม ชัด ลึก"

    * หลวงปู่บวชด้วยเหตุใดครับ ?

    - ตอนแรกก็บวชเป็นสามเณรก่อน บวชมาตั้งแต่อายุ ๘ ขวบโน้น เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี บริบูรณ์จึงบวชเป็นพระ ความคิดที่จะสึกไปใช้ชีวิตอย่างฆราวาสไม่เคยเกิดขึ้นในสมองสักครั้งเดียว คิดเพียงว่าให้หลุดพ้น และขอตายคาผ้าเหลือง

    * พระที่บวชรุ่นเดียวกันยังอยู่อีกหลายรูปหรือเปล่าครับ ?

    - ตายไปเกือบหมดแล้ว เหลืออยู่ไม่กี่รูป ที่เป็นรุ่นเดียวกันก็มีสมเด็จพระสังฆราช หลวงตามหาบัว เจ้าคุณเทพวุฒาจารย์ อดีตเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น และก็อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ อีกรูปหนึ่ง [​IMG]

    * ทำอย่างไรอายุจะยืนเหมือนหลวงปู่ครับ ?

    - ตายช้า ตายเร็ว มันอยู่ที่กรรม อันนี้มันแล้วแต่บุญกรรม นอกจากนี้แล้วยังอยู่ที่อารมณ์ ฉันน้อย กินแต่พอดี กินเพื่ออยู่ไม่ได้อยู่เพื่อกิน หรือภาษาพระเขาเรียกว่า โภชเนมัตตัญญุตา ซึ่งหมายถึง รู้จักการประมาณในการกินอาหารให้พอเหมาะ ถ้าน้อยไปก็ผอม ถ้ามากไปก็อ้วน จำไว้ว่าหนังท้องตึงเมื่อไรหนังตาก็ยานเมื่อนั้น ที่ขาดเสียไม่ได้ คือ ความเพียรพยามยามรักษาคุณความดีที่ตนสร้างไว้ ไม่คิด ไม่มีอารมณ์

    * บวชมาแต่เด็กตัดกิเลสได้หมดหรือเปล่าครับ ?

    - ยังมีอยู่เต็มไปหมดเลย ที่มานั่งคุมสร้างกุฏินี่ก็เพราะกิเลสยังมีอยู่ นั่งคิดนอนคิดว่า จะเสร็จเมื่อไร จะหาปัจจัยที่ไหนมาสร้าง

    * มีพระบางองค์บอกว่าตัดกิเลสหมดแล้ว หลวงปู่เชื่อหรือเปล่าครับ ?

    - ฉันไม่เชื่อ เพราะตราบใดที่ยังมีลมหายใจอยู่ โลภะ โทสะ โมหะ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา กิเลส ๓ ตัวนี้ตัดได้อยากมาก ขนาดฉันบวชมาตลอดชีวิตก็ยังมีอยู่เลย แต่มันน้อยกว่าคนธรรมดาทั่วไป

    * ทำไมยังมีกิเลสอยู่ครับ ?

    - มันก็ยังมีความโลภ ความโกรธ ความอยากเหมือนคนทั่วๆ ไป ใครด่าฉันก็ยังรู้สึกโกรธ รู้สึกฉุนเฉียวเหมือนคนทั่วๆ ไป

    * ญาติโยมมาหาท่านด้วยเหตุอันใดบ้างครับ ?

    - มันก็มาขอฉันทุกอย่าง มันคิดว่าฉันเป็นผู้วิเศษ ที่จะช่วยดลบันดาลให้ได้ตามที่ขอ ที่มาขอเลขขอหวยก็เยอะ ขอให้รวย ขอให้ประสบความสำเร็จก็มากมี มันคิดว่าฉันสำเร็จเป็นพระอรหันต์ แต่ฉันก็ย้อนไปว่าฉันยังเป็นพระที่มีกิเลสเต็มตัวเหมือนพระทั่วๆ ไป [​IMG]

    * เหตุใดคนถึงคิดเช่นนั้นครับ ?

    - คนเรานั้นนานาจิตตัง ใครจะคิดอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา ฉันไม่เคยพูด และถ้าฉันพูดออกไปว่าตัวเองสำเร็จอรหันต์ ฉันก็ต้องพ้นจากความเป็นพระทั้งๆ ที่ยังห่มผ้าเหลืองอยู่ พระรูปใดบอกว่าตัวเองสำเร็จอรหันต์หรือพูดว่าได้ฌาณระดับโน้นระดับนี้ ยิ่งเชื่อไม่ได้ใหญ่ ผู้ที่สำเร็จย่อมไม่โอ้อวดตัวเอง

    เขาว่ากันเอง เห็นเราบวชมาตั้งแต่เด็ก อยู่จนแก่เฒ่าก็คิดว่า เราสำเร็จอรหันต์ ฉันบอกได้เลยว่า พระเกจิอาจารย์ทั้งอดีตและปัจจุบัน ไม่มีรูปใดกล้าที่จะประกาศว่าสำเร็จอรหันต์ พระรูปใดถ้าสำเร็จอรหันต์จริงต้องฉันอาหารเพื่อให้มีชีวิตอยู่เท่านั้น ใครด่า ใครว่า ใครพูดอะไรต้องไม่หวั่นไหวและโต้ตอบ

    พระที่ออกมาด่าคนโน้น ออกมาด่าคนนี้ รวมทั้งพระที่ออกมาเคลื่อนไหว แสดงว่ายังมีตัณหา ไม่สิ้นกิเลส ยังมีความยากได้ ความโลภอยู่ แล้วยังมาบอกว่าตัวเองสำเร็จอรหันต์ ยิ่งเชื่อไม่ได้ใหญ่

    * หลวงปู่ช่วยได้ทุกคนหรือเปล่าครับ ?

    - คนที่อยากรวย มันคงคิดว่า วัดของฉันเป็นโรงงานผลิตเหรียญผลิตแบงก์ ไอ้พวกที่มาขอเลขมันคงคิดว่าวัดเป็นกองสลาก ถ้าฉันรู้ฉันจะไปบอกบุญญาติโยมทำไมกัน

    ฉันจะไปช่วยมันหมดทุกคนได้อย่างไร ขนาดฉันยังต้องช่วยตัวเองเลย และฉันยังต้องให้คนอื่นช่วยเหลือฉันด้วย อย่างกับห่มจีวรฉันยังต้องให้ลูกศิษย์ช่วยเลย

    [​IMG]* แล้วพวกที่มาขอของดีล่ะครับ ?

    - อันนั้นมันเป็นเรื่องของเขา เมื่อมันอยากได้อะไรฉันก็ให้ไป มันก็คิดว่าเป็นของดีหมด

    * ของดี ดีจริงหรือเปล่าครับ ?

    - มันคิดว่าเป็นของขลัง โดนยิงก็ยังตายอยู่ พวกที่มาเพื่อให้ค้าขายเจริญรุ่งเรืองนั้น ฉันก็บอกไปว่าพยายามรักษาทรัพย์ที่หามาได้ ใช้แต่พอประมาณ อย่าน้อยหรือมากเกินไป ฉันจะบันดาลให้ใครรวยทันตาเห็นนั้นเป็นไปไม่ได้เลย คิดเอาง่ายๆ ก็แล้วกัน ขนาดกุฏิฉันยังต้องออกแรงสร้างเองเลย

    * หลวงปู่กลัวตายหรือเปล่าครับ ?

    - ก็ยังกลัวอยู่ เป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม

    * ตายแล้วไปไหนครับ ?

    - ตายแล้วเป็นไปตามกรรม ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าทำกรรมดีไปอยู่ภพภูมิที่ดีหรือที่เรียกว่า สวรรค์ ส่วนผู้ที่ทำกรรมชั่วก็ไปอยู่ภพภูมิที่ไม่ดีหรือนรกนั่นเอง

    ตัวอย่างง่ายๆ ที่เห็นในปัจจุบันก็คือ ไอ้พวกที่ฆ่าคนตาย มันต้องตกนรกทั้งเป็น ต้องหนีไปตลอดชีวิต หากถูกจับได้ก็ไปอยู่ในคุก อาจจะมีโทษถึงประหาร

    * ทำอย่างไรถึงมีความสุขครับ ?

    - ไปตายเสีย ใครถามฉันก็ตอบอย่างนี้ทุกคน

    [​IMG]* ทำไมหลวงปู่ถึงพูดแบบนี้ครับ ?

    - ตายแล้วมันสบาย เป็นหนี้เขาก็ไม่ต้องใช้ ไม่หิว ไม่อิ่ม ไม่ต้องกิน ฯลฯ ตายก็สิ้นสุด หมดภาระหน้าที่ เมื่อคืนวันก่อนฉันก็เทศน์สอนญาติโยมว่า ใครอยากสบายให้ตายเสีย เหมือนเจ้าคุณที่นอนตายอยู่ในโรง คนตายไปไม่รู้สึกอะไรหรอก คนที่อยู่ต่างหากที่เดือดร้อน ต้องหาเงินหาทองจัดเตรียมทำงานศพ

    * ส่วนใหญ่หลวงปู่เทศน์อะไรสอนญาติโยมครับ ?

    - แล้วแต่ ส่วนใหญ่ฉันจะเทศน์ด่า ไม่ใช่ด่าคน แต่เทศน์ด่ากิเลสในตัวคน กิเลสที่ว่าก็ คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง

    * หลวงปู่ได้รับนิมนต์ไปนั่งปรกบ่อยหรือเปล่าครับ ?

    - บ่อย ถ้าพอไปได้ก็ไป แต่ถ้าทางไกลนักก็ไม่ไป นั่งนานไม่ได้ เพราะเป็นโรคต่อมลูกหมากโต นั่งนานถ่ายปัสสาวะไม่ออก

    * ระหว่างนั่งหลวงปู่บริกรรมหรือภาวนาอะไรครับ ?

    - ไม่ได้บริกรรมอะไรเลย นั่งหลับตาเฉยๆ ทำสมาธิของเราต่างหาก [​IMG]

    * นั่งเฉยๆ แล้วของมันจะขลังได้อย่างไรครับ ?

    - ขลังไม่ขลัง มันเป็นเรื่องของเขา ถ้าเขาว่าไม่ขลังก็ไม่ขลัง ถ้าเขาว่าขลังมันก็ขลัง มันอยู่ที่คนถือ จะถืออะไร ถ้าคิดว่าอะไรขลังมันก็ขลัง มันอยู่ที่จิตของเขาไม่ได้อยู่ที่จิตของเรา

    * หลวงปู่สักยันต์ด้วยหรือครับ ?

    - สักยันต์เมื่อครั้งยังเป็นสามเณรโน้น สักยันต์กันหมากัด มันก็แปลกดี โดนหมากัดหลายครั้ง แต่หมากัดไม่เข้า หมาตัวไหนที่ว่าดุๆ เดินเข้าไปหามันก็กัดไม่เข้า เพราะยันต์มีคาถากำกับอยู่ นอกจากนี้แล้วยังสามารถป้องกันสัตว์ร้ายอื่นๆ ได้อีกเช่นกัน แต่มีข้อยกเว้นว่าต้องเป็นสัตว์ที่มีฟันสีขาวเท่านั้น แต่ถ้าเป็นสัตว์อย่างพวกตะขาบ แมลงป่องก็กัดเข้า

    * ทำบุญอย่างไรถึงจะได้บุญครับ ?

    - เรื่องการทำบุญมันอยู่ที่ความบริสุทธิ์ของใจเป็นที่ตั้ง ทำน้อยแต่ทำด้วยใจบริสุทธิ์ ทำโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ได้บุญมากกว่าคนทำบุญด้วยการถวายปัจจัยมากๆ เพื่อหวังชื่อเสียง ลาภยศ และสรรเสริญ คนบุญมากๆ แล้ว ต้องนอนเอามือก่ายหน้าผาก พวกนี้ได้แต่หน้า ได้แต่ชื่อเสียง แต่บุญจริงๆ นั้นไม่ได้

    * หลวงปู่ดูแลสุขภาพอย่างไรครับ ?

    - เอาแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน หมอไม่ให้พูดมาก เวลาสวดมนต์ก็ให้สวดเบา เพราะไปผ่าตัดกล่องเสียงมา และไปผ่าตัดลำไส้ออกไป ๒ ฟุต เมื่อถึงเวลากินก็กิน เมื่อถึงเวลานอนก็นอน


    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=8 bgColor=#006666 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff>ชาติภูมิหลวงปู่มา

    [​IMG]ชื่อ มา นามสกุล วรรณภักดี เกิดวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๔๕๖ ตรงกับวันอังคารขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล ณ บ้านโนนคำ ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด บิดาชื่อ คูณ มารดาชื่อ ตั้ว มีพี่น้องร่วมสายโลหิตเดียวกัน ๕ คน

    บรรพชา เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๔๖๔ ณ วัดดอนประดิษฐาราม บ้านดอนน้อย ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด โดยมีพระอธิการสอน อุตฺตโม เป็นพระอุปัชฌาย์

    อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๔๖๗ ตรงกับวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๖ ปีฉลู ณ พัทธสีมา วัดดอนประดิษฐาราม บ้านดอนน้อย ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด พระครูอุตตรานุรักษ์ (อินทร์ อินทสาโร) วัดกลาง (วัดมิ่งเมือง) อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์ฉิม ชินวํโส วัดศรีทองนพคุณ (วัดตาล) อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูใบฎีกาสะอาด โฆสโก วัดเหนือเสลภูมิ อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    วิทยฐานะ พ.ศ. ๒๔๖๖ สำเร็จประโยคประถมศึกษาปีที่ ๓ จากโรงเรียนวัดบ้านดอนน้อย ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    พ.ศ. ๒๔๗๓ สอบได้ประโยคนักธรรมชั้นเอก ในสนามหลวงวัดศรีทองนพคุณ ต.กลาง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด การศึกษาพิเศษ เรียนจบอักษรขอม (เขมร) ภาษาธรรม ภาษาไทยน้อย

    งานการเผยแผ่ เป็นวิทยาการอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน ประจำศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดป่าซำทอง วัดป่าหัวคู วัดป่าคูขาด วัดป่าบ้านคำแดง เป็นพระธรรมทูตประจำสายที่ ๕ จ.ร้อยเอ็ด เป็นวิทยากรอบรมศีลธรรมวัฒนธรรมและจริยธรรม แก่กลุ่มเยาวชน เป็นรองประธานคณะกรรมการหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล อ.เสลภูมิ

    ความชำนาญพิเศษ เป็นช่างไม้ ช่างปูน ทำการก่อสร้างกุฏิสงฆ์ ก่อสร้างอุโบสถ ศาลาการเปรียญ และอาคารต่างๆ อีก นวกรรม เขียนแบบแปลนอุโบสถ แบบแปลนกุฏิสงฆ์ แบบแปลนศาลาการเปรียญ และแบบแปลนอาคารอื่นๆ อีก หัตถกรรม จักสาร ตะกร้า กระจอ กระเบียน กระติบข้าว กระบุง

    ศิลปกรรม เขียนลายไทยและแกะสลักลายไทย บานประตูหน้าต่าง พระอุโบสถช่างลงลักปิดทอง ติดมุก ติดกระจก ช่อฟ้า ใบระกาในอุโบสถ ช่างปั้นหล่อ เช่น ช่างปั้นช่อฟ้า ใบระกาอุโบสถ และประดับด้วยลายไทย

    หน้าที่การงานคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๔๘๓ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสมานสามัคคีธรรม ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    พ.ศ. ๒๔๘๖ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลเมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    พ.ศ. ๒๔๘๙ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งพระอุปัชฌาย์

    พ.ศ. ๒๔๙๐ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านนาทม ต.ภูเงิน อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    พ.ศ. ๒๔๙๕ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลภูเงิน อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอเสลภูมิ

    พ.ศ. ๒๕๐๙ ได้ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดนาทม ไปสร้างสำนักวิเวกอาศรม ต.ภูเงิน อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    พ.ศ. ๒๕๑๐ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าสำนักวิเวกอาศรม ต.ภูเงิน อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    พ.ศ. ๒๕๓๑ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าสำนักสันติวิเวก ต.เมืองไพร อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเสลภูมิ

    สมณศักดิ์ พ.ศ. ๒๔๘๑ ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระปลัดมา ญาณวโร ฐานานุกรมของพระครูวิโรจน์ผดุงศาสน์ เจ้าคณะอำเภอเสลภูมิ วัดมิ่งเมือง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

    พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นตรี ในราชทินนามที่พระครูสารธรรมนิเทศ

    พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ชั้นโท และรองเค้าคณะอำเภอชั้นโท ในพระราชทินนามเดิม พ.ศ. ๒๕๓๔ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะอำเภอชั้นเอกในพระราชทินนามเดิม พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญฝ่ายวิปัสสนาธุระในราชทินนามที่ พระมงคลญาณเถร


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,402
    ชอบวรรคนี้ครับ โมทนาด้วยนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...