เตรียมตัวไปดูนกกันเถอะ

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD bgColor=#669933><HR><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#669933><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD> ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการดูนกมากที่สุด คือ เช้าตรู่ไปจนสาย เพราะเป็นช่วงเวลาที่นกจะถูกกระตุ้นจากแสงอาทิตย์ให้กระปรี้กระเปร่า ส่งเสียงร้องระงม โอกาสเช่นนี้นักดูนกสามารถพบเห็นนกได้มากชนิด เพียงแค่ออกเดินช้าๆ ใช้กล้องส่องหาตัว ครั้นตกสาย อากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้นกเร้นตัวหลบตาตามพุ่มไม้ จะคึกคักอีกครั้งในตอนบ่ายจัดไปจนใกล้ค่ำ
หากเป็นฤดูฝน แดดออกหลังฝนตก จะเป็นช่วงเวลาพิเศษนกหายากหลายชนิดมักออกมาให้พบเห็นมากขึ้น การมองหาลูกไทรสุก หรือดอกไม้ในป่าก็จะช่วยได้มาก เพราะเป็นจุดที่นกจะมาชุมนุมกัน ทั้งนกกินน้ำหวาน และนกกินแมลงที่มากินแมลงที่มาตอมดอกไม้หรือลูกไทร นักดูนกสามารถพบเห็นนกมากกว่า 50 ชนิด
การสอบถามจากนักดูนกที่มีประสบการณ์ หรือผู้ที่ไปดูนกในจุดนั้นๆ มาแล้วก็มีโอกาสได้พบเห็นนก เพราะปกตินกจะหากินวนเวียนอยู่ในอาณาเขตของตัวเอง โดยเฉพาะในช่วงสร้างรังวางไข่ ตอนปลายฤดูร้อนต่อฤดูฝน การไปเฝ้า รอดูในจุดที่มีการพบเห็นบ่อยๆ ก็จะพบนกได้ง่ายกว่าการค้นหาอย่างสเปะสปะ
ในกรณีที่ออกดูนกชายเลน ระดับน้ำทะเลก็มีส่วนสำคัญ หากน้ำลงมาก นกจะหากินชายน้ำซึ่งไกลเกินกว่าจะเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน เวลาที่ดีที่สุดของการดูนกตามชายทะเลก็คือ ช่วงที่น้ำทะเลเริ่มขึ้น ซึ่งระดับจะขยับขึ้นมาทีละน้อย นกที่หากินชายน้ำ ก็ขยับเข้ามาใกล้โดยที่ไม่รู้ตัว แต่หากน้ำขึ้นจนเต็มฝั่ง นกจะบินเข้ามาหากินตอนในของแผ่นดิน เช่นตามนาเกลือ จะพบนกขนาดเล็ก เช่น นกสติ๊นท์ชนิดต่างๆ แต่ถ้าเป็นแอ่งน้ำตื้นๆ จะพบนกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา เช่นนกชายทะเลชาเขียว นกชายทะเลขาแดง นกตีนเทียน ฉะนั้นก่อนออกดูนกชายเลน ควรตรวจสอบเวลาน้ำขึ้นน้ำลง หรือสอบถามจากคนในพื้นที่เสียก่อน

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><HR></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>อุปกรณ์การดูนก
1. กล้องส่องทางไกล ทั้งชนิดสองตา (Binoculars) และแบบตาเดียวกำลังขยายสูง (Spotting Scope) ควรเป็นกล้องขนาดกลาง คือ กำลังขยาย 8 เท่า ขนาดเลนส์ชิ้นหน้า 30 หรือ 32 มม. ซึ่งเขียนว่า 8x30 หรือ 8x32 ไปจนถึงขนาดมาตรฐาน ได้แก่ กำลังขยาย 8 หรือ 10 เท่า เลนส์ชิ้นหน้า 40 หรือ 42 มม. จะเป็นชนิดรูฟ ปริซึม หรือพอร์โรปริซึมก็ได้ กล้องสองตาขนาดกะทัดรัด ขนาดเลนส์ชิ้นหน้า ไม่ถึง 30 มม. ไม่เหมาะสำหรับใช้ในการดูนก เพราะภาพที่เห็นไม่ใสสว่างพอ กล้องสองตาใช้ดูนกในสถานการณ์ทั่วๆ ไป ทั้งในป่าและในสวน หรือแม้กระทั่งที่โล่งที่นกมีระยะห่างไม่มากเกินไปนัก
หากดูนกชายเลนแถบสามร้อยยอด หรือแหลมผักเบี้ย จำเป็นต้องมีกล้องตาเดียวกำลังขยายสูงหรือสโคป ตั้งบนขาตั้ง มักมีกำลังขยายตั้งแต่ 20 เท่าขึ้นไปจนถึงแบบซูม 20-45 หรือ 15-60 เท่า ถ้าเป็นกล้องคุณภาพสูง ราคาแพง ขนาดเลนส์ชิ้นหน้า 78 หรือ 80 มม. การใช้เลนส์ตาแบบซูม ก็ช่วยให้สะดวกขึ้น แต่ถ้าเป็นกล้องราคาประหยัด ขนาดเลนส์ชิ้นหน้า 60 มม. ควรเลือกเลนส์ตากำลังขยายคงที่ 20 หรือ 25 เท่าก็เพียงพอ
2. หนังสือคู่มือดูนก ใช้ประกอบการจำแนกชนิดนกจากภาพเขียน และข้อมูลรายละเอียดหนังสือคู่มือดูนกที่ใช้ในบ้านเรา มีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ มีสองเล่ม เล่มแรก คือ A Guide to the Birds of Thailand โดย นพ. บุญส่ง เลขะกุล และฟิลิป ดี. ราวด์ มักเรียกกันสั้นๆ ว่า "เบิร์ดไกด์" มีนกและภาพประกอบ 915 ชนิด อีกเล่ม A Field Guide to the Birds of Thailand and South-East Asia โดย Craig Robson มีภาพประกอบนก 1251 ชนิด ซึ่งรวมถึงนกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย หนังสือเล่มนี้ยังมีนกใหม่ในประเทศไทย ที่พบเพิ่มขึ้นมากกว่า 30 ชนิด หลังจากคู่มือดูนกของ นพ. บุญส่ง พิมพ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ในเล่มมีนกกะลิงเขียดหางหนาม นกชนิดใหม่ที่พบที่แก่งกระจาน นกปากงอน ที่พบที่แหลมผักเบี้ยด้วย
อย่างไรก็ตาม คู่มือดูนกของ นพ. บุญส่ง ใช้งานได้ง่ายกว่า มีแผนที่ประกอบเพื่อบอกบริเวณที่พบนกชนิดนั้นๆ ในประเทศไทย ขณะที่คู่มือดูนกของ Craig Robson จัดเรียงชนิดนกตามแบบแผนใหม่ ซึ่งอาจสับสนในการค้นหานกสำหรับผู้ไม่คุ้นเคย และไม่มีชื่อภาษาไทยกำกับ
3. สมุดบันทึก ใช้จดบันทึก ลักษณะของนก สีสัน ลายปีก ขนาด วันเวลา สถานที่ ตลอดจนสเกตซ์ภาพเพื่อเป็นประโยชน์ในการกลับมาดูใหม่
4. เก้าอี้พับ การดูนกในป่าเขตร้อน หรือนกชายเลน วิธีที่ดีที่สุดคือการเดินหานกในช่วงเช้าหรือบ่าย หากพบต้นไม้หรือทำเลที่น่าสนใจ ควรหยุดรอเงียบๆ ซึ่งจะมีโอกาสพบนกได้ง่ายกว่าเดินหาไปเรื่อยๆ ยิ่งการดูนกชายเลนควรเลือกร่มไม้ ตั้งสโคปเพื่อเลือกส่องดูนกช้าๆ ทีละตัว เก้าอี้พับขนาดเล็ก น้ำหนักเบาจะช่วยได้มาก ทำให้ผ่อนคลาย และเฝ้าดูนกได้นานๆ
5. หมวกและเสื้อผ้าที่รัดกุม ควรเลือกสีทึม ไม่สดใสมากนัก หลีกเลี่ยงสีขาว เหลือง แดง เพราะเป็นสีที่นกรับรู้ได้ง่าย ทั้งยังเป็นสีเตือนภัยตามธรรมชาติ ควรเลือกเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เพราะในบางสถานการณ์อาจต้องเผชิญกับแมลงรำคาญ หรือผึ้ง เมื่อออกดูนกในป่า นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันแสงแดดได้อีกด้วย หมวกก็จำเป็นไม่เพียงแต่ปกป้องศีรษะจากแสงแดด ยังช่วยรักษาความร้อนของร่างกาย หมวกสีทึม เช่น เทา เขียวมะกอก กรมท่า ยังช่วยพรางตัวนักดูนกได้ดีขึ้น
6. กระติกน้ำ และของว่าง นักดูนกบางคนเลือกออกดูนกตลอดทั้งวัน อาหารและของว่างจึงมีความจำเป็น เพราะเมื่อท้องหิว ไม่เพียงทำให้ดูนกไม่สนุก แต่ยังทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะเมื่อใช้กล้องดูนกนานๆ
7. ครีมทากันแดด โดยเฉพาะการดูนกชายเลน แดดร้อนจัด ควรทาครีมกันแดดป้องกันเสียก่อนที่มันจะก่อปัญหาให้กับผิวของคุณ
</TD><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=text_matt bgColor=#669933>

กลับไปอ่านสกูปแนะนำ 5 สถานที่ดูนกในเพชรบุรี & ประจวบคีรีขันธ์​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ไม่รู้ว่าจะชุดไหนไปดูนกดีระหว่างสองชุดนี้

 

วะฮาๆ เมื่อเลือกชุดที่จะไปได้แล้ว ก้อพร้อมลุย ไปชุดนี้แหละ

 

ฤดูหนาวแล้วสินะ คิดถึง มอนอ แล้วก็ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติมาก ปีนี้จะไปดูนกที่ไหนดีนะ....