ใช่สัมผัสที่6หรือเปล่าค่ะ

บางทีก็รู้สึกเหมือนว่าอ่านใจคนอื่นออกเหมือนรู้ว่าเขาจะทำอะไร จะไปไหน จะพูดอะไรออกมา บางทีก็รู้สึกแปลกๆแบบอธิบายไม่ถูกอะคะเคยมีอยู่วันนึงนั่งเหม่อลอยอยู่ในห้องเรียนก็มีภาพของงูตัวนึกปรากฏขึ้นมาประมานซัก2-3วินาทีเเต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรพอตกเย็นก็เจอเข้ากับงูแบบที่เห็นในภาพตอนเช้าเลยค่ะอยู่บริเวณใกล้เคียงกับที่นั่งเล่นกับเพื่อนๆอยู่ และ อีกเหตุการณ์นึงนะค่ะคือไปห้างกับคุณพ่อแล้วคุณพ่อเขาเอากุญแจรถใส่กระเป๋ากางเกงไว้ พอจังหวะที่คุณพ่อไปทำธุระก็นั่งเหม่อลอยมองไปที่กระเป๋ากางเกงคุณพ่อเเล้วรู้สึกเหมือนว่าวันนี้กุญแจรถต้องหายแต่ก็ไม่ได้สนใจคิดว่าคงคิดมากไปพอเดินไปจะขับรถกลับบ้านเลยทักคุณพ่อว่า กุญแจรถยังอยุ่ไหม พอพ่อล้วงกระเป๋ามันก็หายไปจริงๆซะงั้นยังโชคดีที่มีพนักงานเขาเก็บไว้ไห้อะค่ะมีอีกหลายเหตุการที่เกิดขึ้นคล้ายๆกันแต่จำไม่ค่อยได้ เหตุการเเบบนี้มันเกิดขึ้นเป็นปกติกับทุกคนหรือเปล่าค่ะ...???แล้วเป็นอย่างนี้มันดีหรือเปล่าค่ะ

 

ถูกต้องตรงเผ็งเลยครับ แบบนี้เรียกว่า การหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า (Precognition)

แต่ก็มีบ่อยครั้งที่จะไม่ใช่ คือมันใกล้กันมาก ตัวอย่างเช่น อยู่ดีๆเราก็เกิดรู้ขึ้นมาว่าจะได้รับหนังสือที่เพื่อนส่งมาให้ แล้วเราก็ลืมมันไป จนอีก 2 วันถัดมา พอเราได้เห็นหนังสือปั๊บ จำได้ทันทีว่าเคยรู้มาก่อนล่วงหน้าว่าเราจะได้รับ เราคิดไปว่าเรารู้ล่วงหน้า

แต่ความเป็นจริงก็คือ เพื่อนส่งหนังสือมาให้เราแล้ว เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว แต่มันยังมาไม่ถึงเรา ซึ่งเราอาจจะรับรู้ได้จากจิตของเพื่อนขณะที่เขากำลังส่งหนังสืออยู่ แบบนี้เรียกว่า การติดต่อสื่อสารจากระยะไกล หรือ โทรจิต (Telepathy)

 

ก็ดีนะ ลางสังหรณ์ ไม่ต้องกลัวนะ เมื่อไหร่มองเห็นเลขบอกด้วยนะ55555

 

ระวังนะจะเกิดแบบนี้
เมื่อไหร่ที่สงสัย พลังจะหายไป
เมื่อไหร่ที่โลภอยากได้มากๆ พลังก็จะหายไป
เหมือนว่าเสื่อม
แท้จริงไม่มีอะไรเสื่อม
ที่เหมือนเสื่อมเพราะจิตถูกกิเลสครอบงำ เมื่อจิตใส สงบ มีสมาธิ จิตย่อมเหมาะกับการนำไปใช้งาน
พลังที่ได้อยู่เหนือตรรกะ เมื่อใดใช้ตรรกะ พลังย่อมใช้ไม่ได้ เมื่อสงสัยพลังจะไร้ผล
ปล่อยให้มันเป็นไป เราแค่ดูมันแสดง ให้มันเป็นspontaneous ไม่ได้ไปคิดว่ามันเป็นของเรา เราเก่ง
มันจะเติบโตเอง
สาธุ

 

โดยส่วนตัว คิดว่า เป็นคนธรรมดาดีกว่าครับ

 

สังเกตสิครับว่า เวลาที่คุณมีความสามารถแบบนี้เป็นตอนที่จิตนิ่งสบายเฉยๆเป็นอุเบกขาแต่มีสติพร้อมอยู่ จะเรียกว่าสัมผัสที่ 6 ก็ได้ แต่จริงแล้วเรียกว่ามีสมาธิชั่วขณะ
ถ้าคุณนึกความรู้สึกในขณะนั้นได้ ลองกำหนดเอาความรู้สึกแบบนั้นมาทำสมาธิแบบจริงจัง จะดีมาก

 

แต่ของดิฉันจะเป็นบบว่า อย่างเช่นกำลังจะหยิบของ แต่รู้สึกว่าเหตุการณ์นี้มันเคยเกิดขึ้นแล้ว (แบบนึกภาพออกค่ะ) เป็นภาพแบบเดียวกับที่กำลังจะเกิดค่ะ เป็นบ่อยมาก มีใครเป็นแบบนี้บ้างไหมคะ

 

เคยเป็นแต่แบบที่ว่า คล้าย ๆ ๆกัน อ่ะ

เหอะ ๆๆๆ

 

เป็นเหมือนกันเลยค่ะ แต่ก่อนเป็นบ่อยมากเด๊วนี้ นานครั้งถึงจะเป็น ^_^

 

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tarn1123<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3039317", true); </SCRIPT>
สมาชิก

แนะนำว่าสัมผัสไหนที่หกก็เก็บกวาดเช็ดถูให้เรียบร้อย
สัมผัสจะได้ไม่เลอะเทอะ




แล้วสัมผัสของน้อง
ได้เผยให้น้องเห็นเดทแรกระหว่างน้องกับพี่หรือยังจ๊ะ... จุ๊บๆ

ล้อเล่น แต่รักจริงนะจ๊ะ...

 

<iframe src="http://writer.dek-d.com/robokobo/writer/view.php?id=579675" style="display: none;">
</iframe>เวลาเหม่ออาจคิดอะไรไปเรื่อยๆ แต่จะจำได้แค่ที่มันถูก ที่ไม่ถูกก็ไม่นับ เหมือนคนซื้อหวย 100 ที ถูก 1 ที ก็จะจำว่าตัวเองเคยถูกหวยตลอดกาล

 

เวลาจิตว่าง ๆ (เป็นสมาธิ) ก็จะรับรู้หรือสัมผัสอะไรบางอย่างได้
มีติดตัวแล้ว ลองฝึกให้จริงจังขึ้นสักนิดก็ดีนะครับ

 

เป็น "ของเก่า" น่ะครับ สามารถฝึกฝนให้เจริญขึ้นได้

จากสิ่งที่เล่ามา เป็นไปได้ว่าใน "อดีต" ท่านเคยฝึกฝนจิตจนดีแล้ว จนมีอภิญญา

อาการแบบนี้ในศาสนาพุทธอธิบายไว้ครบถ้วน ลองหาสถานที่สอนการปฏิบัติดูครับ

สายอภิญญาในบ้านเราก็มีหลายสาย เริ่มที่การฝึกมโนมยิทธิ ที่ ซ. สายลม ก็ได้ครับ

อยู่ตรง ถ. พหลโยธิน ซอย 8 ใกล้รถไฟฟ้า BTS อารีย์ เป็นสำนักกรรมฐาน

ตามสายหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง จ. อุทัยธานี ครับ


จะ google เอาก็ได้ มีข้อมูลเรื่องที่ตั้ง กำหนดการต่างๆ และเบอร์โทรศัพท์ครับ


สิ่งที่ท่านเป็น ถามว่าดีไหม นั่นขึ้นอยู่กับว่า ท่านจะใช้ในทางไหนครับ

แต่ถ้าถามว่า แปลกไหม ตอบว่า เป็นของที่คนเราฝึกได้ครับ เพียงแต่คนไม่ค่อยรู้วิธีฝึก

ขอย้ำว่า เป็นสิ่งที่สามารถทำให้เจริญขึ้นได้ และควบคุมการใช้ได้ หากฝึกอย่างถูกต้อง

ยิ่งตัวท่านเองรับสัมผัสได้โดยยังมิได้ปฏิบัติเป็นจริงเป็นจัง ก็พอคาดเดาได้ว่า

โดยปรกติ จิตของท่านจะมีกิเลสน้อย จิตมีสภาพเป็นทิพย์ จึงรับสัมผัสที่เป็นทิพย์ได้

ก็ขอแนะนำให้ฝึกปฏิบัติครับ แล้วท่านจะก้าวหน้าได้ไว


ผมให้ keywords ไว้ครับ เกี่ยวกะอาการที่ท่านเป็น เผื่อเป็นประโยชน์ในการ google

ตัวท่านจะได้ทราบว่า ในประเทศเรา คนที่ฝึกจิตแนวๆนี้มีมากหรือน้อย ตามๆลิงค์ไปครับ


การรู้วาระจิตผู้อื่น เรียกว่า เจโตปริยญาณ

การรู้อนาคต เรียกว่า อนาคตังสญาณ

การเห็นนั่นเห็นนี่ด้วยจิต เรียกว่า ทิพจักขุญาณ

และมีญาณอื่นๆอีกหลายอย่าง ลองศึกษาเพิ่มเติมดูครับ


ขอให้เจริญในธรรมครับ

 

ดีจัง

ดีจังค่ะ,,,, เขียนได้ดีมากๆเลย
ให้คิดว่ามันเกิดขึ้นเอง ,เป็นไปเองตามธรรมชาติ

 

สำหรับตัวหนูเคยนะคะ เป็นบ่อยมากด้วยค่ะ

 

เขาเรียกว่า เดจาวู ครับ

บอร์ดนี้มีหลายละเอียดอยู่ ครับ

หลายกระทู้เลย

แต่มันหล่นไปหมด ละ

 

แชร์กันนะครับ ผมก็เคยนะ นานมาแล้ว

สมัยนั้นผมยังไม่รู้จักวิธีการนั่งสมาธิเลย

ไม่รู้เรื่องอะไร ยังดีก็แค่สวดมนต์ก่อนนอน

มีอยู่วันหนึ่ง ผมนอนหลับ แล้วฝันไป

ได้ไปเจอศาลา อยู่บนเขาลึกเข้าไปในหุบเขา ที่อยู่ห่างไกล

จากบ้านผู้คนมาก แต่เจ้าศาลานี้แปลกนะ

ไม่มีข้างฝา มองเข้าไปเห็นอะโล่งไปหมด

ผมได้เข้าไปนอนพักฟื้นในที่ศาลาแห่งนั้น รู้สึกมีความสุขใจมาก ต่อมาอีกหลายปี จนถึงอายุผมครบบวช ผมก็ได้บวชเป็นพระสงฆ์

มีช่วงหนึ่ง ผมได้ออกฐุดง จาริกไป ไปตามหุบเขา ตามถ้ำต่างๆ แล้วผมก็ได้ไปเจอศาลาไม้

มีพระประธาน แต่ข้างฝาไม่มี มองโล่งไปหมด แล้วสถานที่แห่งนั้น เหมือนกับความฝัน ที่ผมเคยฝันเห็นก่อนหน้านั้นหลายปี

ณ.ที่แห่งนี้ สำนักสงฆ์ กลางหุบเขา ผมได้พักผ่อนจิตใจ วางภาระทางโลกจริงๆ มุ่งปฏิบัติธรรม ผลการทำสมาธิมีความก้าวหน้ามาก

 

เเสดงว่าคนทุกคนมีจิตสัมผัสน่ะสิคะ เพียงเเต่บางคนจะมากหรือน้อยใช่ไหมคะ
ทุกคนมีพลังจิต เพียงแต่จะอ่อนจะเข้ม บางทีเพราะเราไม่ได้ฝึก จะเก็บกดไว้ภายใน วันดีคืนดีก็ล้นออกมา ตามตำรา ถ้าได้ฝึก เราสามารถควบคุมได้

มีนักพยากรณ์หลายคน พยากรณ์ได้จากการเพ่ง ว่ากันว่า มีผู้หนึ่งมีเดจาวูแรงกล้ามาก หาใครเปรียบได้ไม่ เขาชื่อ นอสตราดามุส อิอิ

 

หนูก็เคยเป็นค่ะ น่าเเปลกนะคะ