การเจริญสติให้ได้ตลอดเวลาคือ

แถมแถม อีกสักโพส

หมูเอย

ใน 21 วิธี นี่นะ

พระพุทธองค์ ไม่เคยห้าม ว่า ภิกษุ เธอต้องทำอย่างใด อย่างนึงเท่านั้นนะ

หรือ
พระพุทธองค์ไม่เคยบอกว่า ภิกษุ
เธอต้อง ทำอันนี้ก่อน เริ่มจากกายก่อนแล้วไปเวทนาแล้วไปจิตแล้วไปธรรม
เป็นลำดับที่1 ที่2 ที่3 ที่4 นะจึงจะบรรลุธรรม

แต่ละวิธี มีแต่ทำให้บรรลุธรรมได้ทั้งนั้นใน 21 วิธีของสติปัฏฐาน

ทีนี้ ท่านไม่เคยห้ามหรือบอกว่า ใน21วิธีนี้ ห้ามทำเกิน 3 วิธี หรือ เกิน 5 วิธี

มีแต่ท่านจะสอนว่า ภิกษุ พึงเป็นผู้ฉลาดในมรรค

นั้นหมายความว่า เวลาที่ นั่งโคนไม้ว่าง เรือนร้างหรือในถ้ำ

นั่งคู้บัลลัง ดำรงสติเฉพาะหน้า
ใครจะกำหนดรู้ลมก็ทำได้
ใครจะกำหนดเวทนาก็ทำได้
ใครจะกำนดรู้จิตก้ทำได้
ใครจะกำหนดรู้ธัมก้ทำได้

แม้ ออกมาจาก การนั่งคู้บัลลัง
กายขยับ อิริยาบทไหน ก็กำหนดรู้ได้
แม้เกิดการกระทบผัสสะ
เกิดเวทนาก้กำหนดรู้ได้
เกิดความคิด ก้กำหนดรู้ได้

นี่จึงเรียกว่าเป้นผู้ฉลาดในมรรค
เพราะวันนึง
เวลามี 24 ชั่วโมง สามารถเจริญสติได้ทั้ง 21 วิธี ใน 24ชั่วโมง

แต่ถ้า ไม่ฉลาดในมรรค มันก็จะไประบุว่า
เฉพาะเวลา นั่งคู้บัลลังเท่านั้นนะ เป็นเวลาของการกำหนดอานาปานสติ
หรือ
เป็นการกำหนดเวทนา
หรือ
เป้นการกำหนดจิต
หรือ
เป็นการกำหนดธัม

 

คำพูดที่ดูฉอเลาะ
...แต่แฝงไปด้วยมารยา
กับ
คำพูดที่แทง..ไปที่ใจ...แบบตรงๆ

มันก็สมน้ำน้ำเนื้อกันแล้ว
.....ไม่ใช่หรือครับ

อย่าปกป้องผู้หญิงอย่างเดียวเลยครับ
ผมใช้คำพูดบางคำแรงกว่านี้
..กับคุณป.ปราบ
...และคุณเอกวีร์...
ปกป้องสองคนนี้ด้วย

การใช้คำแข็งกร้าวของครูบาอาจารย์
ที่กระแทกไปที่ใจ...เยอะแยะไป
ทั้ง
พระพุทธองค์..ตำหนิพระภิกษุ
ก็ทรงใช้คำ....."มาตุคามแสดงของลับ"
จะคิดเห็นว่ายังไง...
ท่านทั้งหลายมีธรรมนำหน้าอยู่

....แต่
สมัยก่อนที่นี่
สมาชิกด่ากันด้วยคำหยายคาย
ท้าทายกันเอาเป็นเอาตาย...
...ไม่กล่าวธรรมกันแม้แต่น้อย
คุณราโซปอาจจะมาไม่ทัน....
ลองถามคุณนพ...ดูเอาครับ
....ผมก็เป็นผู้สังเกตุการณ์
แบบคุณราโซปนี่ล่ะ
แอดมิน....ก็ไม่เห็นจะทำอะไร

ส่วนผมตอนนี้
ให้แอดมิน...แบนได้ทันทีเลยครับ
....ผมก็อิ่มตัว....
กับสนทนาธรรม..แล้วเหมือนกัน
ใจจริงจะเฟดตัวออก
ตั้งแต่ชวนน้องชมพูมาที่นี่แล้ว
แต่ที่ยังเข้ามาอยู่..
จะมาดูความเห็นน้องเค้า....
...แต่ก็เห็นหายไปแล้ว....
จะเฟดตัวเป็นคนดู....กลับมาลงสนามซะเอง
ผมก็เข้ามาเขียนโพสยาวๆตามประสา
ไม่เคยสนใจใครจะปฎิบัติยังไงด้วยซ้ำ
ย้อนกลับไปดูได้
มีแต่โพสยาวๆ
พอโพสยาว....ไม่ได้เกี่ยวกับใคร
....ก็มีคนมาแย้ง
พอมาแย้ง....ก็อธิบายกลับไป
มันไม่มีอันไหน...
ที่ผมไปแย้งพวกเขาด้วยซ้ำ
...ถึงบอกมา...วิ่งมางับกันเอง
อธิบายตอกกลับไป...กลายเป็นผมไปรังแกเค้า
ทั้งที่
พวกเค้าวิ่งเข้ามาหาเองทั้งนั้น
ย้อนไปดูได้เลยครับ

#แม้แต่คำว่า...
เหมือนผู้หญิงแสดงของลับ...
ผมก็พูดกับคุณทีบูน
....ถ้าคุณราโซปจะย้อนไปดู

#save คุณทีบูนด้วยครับ

 

ไปยุ่งอะไรกับทีโบน หรือทีบุญ ความสกปรกมันมีอยู่เต็มไปหมดในข้อความที่โพสต์นี้ อันนี้บอกได้เลยว่า ไม่มีเลยคุณธรรม ไม่แม้กระทั่งสมมุติว่าตัวเองเป็นเหมือนลุงแมว ผมก็คนหนึ่งที่หยาบคาย แต่จะต้องสังเกตุดีดีนะว่าทำไมถึงหยาบคาย มีใครคนหนึ่งโดนผมว่าด้วยคำว่า เจ้าปลาเปรตสามหัว นั่นเพราะเขาไม่รู้อะไรเลยว่าผมกำลังคุยกับใคร เขาเป็นแค่แผนกชอบเชียร์ แถมไม่รู้อะไรทั้งนั้น ชอบบอกว่ารู้รึว่าผมกำลังคุยกับใครแล้วทำไมคุยแบบนั้น ตั้งแต่คนที่ใช้ชื่อขันธ์ เหมือนคุณน่าจะรู้นะ ดังนั้น อย่าประเมินตนเองสูงส่งจนเกินงาม และอย่าคิดว่ามีแต่ตนเองเท่านั้นที่รู้ เพราะมันจะบอกตัวเองทันทีว่า หมูไหม้เหม็นเน่า ไม่ได้รู้อะไรเลย เลิกคิดแบบนั้นเถอะ เขาไม่แบนหรอกเพราะมันไม่ได้เลวร้ายอะไร และที่เขาแบนส่วนใหญ่ก็เพราะทีความเลวร้ายอื่นที่เกิดขึ้นจนทำให้เจาต้องแบน บางครั้งมันก็ตามกติกา แต่นั่นแหละ เพราะทันคือกติกา ถ้าแบบนั้น ธรรมมันก็เป็นเช่นเดียวกัน ไม่ได้มีใครผิด พูดเหน็บมันก็มาจากความชั่วร้ายในใจนั่นแหละ อันนี้ไม่พูดเหน็บนะ เว้นเสียว่า บางอย่างเท่านั้นที่อยากทราบ แต่ว่า หมูเน่าเข้าใจคำสอนครูบาอาจารย์ของหมูเน่าเองผิดหมดเลย เหมือนกันคนที่เก่งกว่าอาจารย์ เหมือนกับคนที่พอได้เรียนรู้กับเขาแค่ไม่นานทำเหมือนรู้มาเยอะ ไหนลองประกาศออกมาดังๆ ขัดๆ สิว่าใครสอนให้เป็นแบบนี้ เอาสิ จะรับฟัง สติ สติ สติ นะหมูเน่าเหม็นไหม้

 

ขี้เกียจแก้แล้ว ถ้ามันผิดก็เดาเอาเองนะ

 

ความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับพี่… ผมว่าคำพูดหรือการโพสต์อะไรที่ไม่เป็น “สัมมาวาจา” หรือพูดและโพสต์อะไรไปแล้วไม่เกิดประโยชน์ก็ไม่ควรทำครับ…

หามิได้ครับพี่… พี่ @หมูไม้ละ5 เข้าใจผิดแล้วครับ… ไม่ได้เกี่ยวกับท่านเหล่านั้นเลยครับพี่... ผมไม่ได้มีเจตนาจะโพสต์ปกป้องผู้หญิง, ผู้ชาย หรือ LGBT ท่านใดเลยจริงๆครับ… สรุปเนื้อหาในโพสต์ #290 ดังกล่าวนั้นผมต้องการจะโพสต์เตือน “สติ” และสื่อถึงพี่โดยตรงในฐานะกัลยาณมิตร… ให้พี่ช่วยกรุณาโพสต์แสดงความคิดเห็นแบบที่พี่เคยโพสต์คุยกับผมที่ห้องจักรวาลคู่ขนานนะครับ… อ่านแล้วรู้สึกดีนะครับ… เท่านั้นเองครับพี่

ในประเด็นนี้ผมขอสงวนท่าที ไม่ขอก้าวล่วงวิจารณ์และออกความเห็นใดๆทั้งสิ้นครับ… No Comment ครับพี่

ผมไม่รู้เรื่องในสมัยก่อนที่นี่ครับพี่... ผมเพิ่งเข้ามาเล่น Web นี้ได้ไม่นานครับ แต่ประเด็นสำคัญผมอยากให้พี่ @หมูไม้ละ5 พิจารณาในปัจจุบัน, ในขณะนี้จะดีกว่าไหมครับ?

ผมว่าบางประเด็นถ้าพี่ @หมูไม้ละ5 ไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของท่านใด... พี่ลองเป็น ผู้สังเกตุการณ์แบบคุณราโซป ก็ดีนะครับ... พี่ @หมูไม้ละ5 ให้เกียรติผมนิดนึงผมโพสต์บอกพี่ไปไม่รู้กี่ครั้งแล้วว่าผมไม่ได้ชื่อราโซป

หลายครั้งผมก็มีความเห็นไม่ตรงกับสมาชิกบางท่าน… ล่าสุดผมขออนุญาตยกตัวอย่างคุณ @๑๓อักษร หรือ คุณ @วิษณุ12 หรือ คุณ @ปราบเทวดา (AKA. เก้ากระบี่เดียวดาย; ลอยลำ; ณุ เชียงใหม่) _/\_ อ้างอิงจากในโพสต์ #3 #683 #688 นี้นะครับ… ตัวอย่างในโพสต์ #169 นี้เด็ดสุด... คือผมเห็นคุณณุ เชียงใหม่โพสต์ภาพกินส้มตำปูเค็ม… ผมเห็นว่า ส้มตำปูเค็ม มันอันตราย… ผมก็โพสต์แสดงความคิดเห็นไว้ในโพสต์ #169 นี้ด้วย “สัมมาวาจา”… ผมไม่เห็นคุณณุ เชียงใหม่ หรือ ใครๆจะมาโพสต์ตำหนิว่าอะไรหรืองับอะไรผมเลยครับพี่…

 

ทั้งคุณเอกวีร์...ทั้งคุณป.ปราบ...
ทั้งคุณทีบูน...หรือจะหลวงพี่
และคนอื่นๆ
บางทีมันตอบโต้กันแรง....
....แต่มันไม่มารยา...แสแสร้งใส่กัน
เอาธรรมใส่กัน....จบคือจบ
และผมเห็นพวกเค้า
...เป็นเพื่อนสหธรรมิกกัน
....แต่กับคุณแนนมันไม่ใช่..แบบนั้น
(คงไม่ต้องขยายเพิ่ม)

หรือใครจะว่า
หมูเน่า... หมูเน่าเหม็นไหม้...
หมูไหม้...โสดาจายลาย...
หรือจะมองผมแค่คนขายหมูปิ้ง...
อะไรก็ตาม
....ผมก็ไม่เคยสนใจ...ไม่ตอบโต้อะไร
มันแค่ลอยลม

แต่เมื่อไหร่ที่ผมพูดธรรม
ทั้งมรรค...ที่มาจากพระพุทธเจ้า
เมื่อมีคนมาบอก...
อย่างที่เห็นนี้
อานาปานสติ...แค่สมถะ...แค่พื้นฐาน
แค่ของเด็กเล่น

ผมควรทำไง?...
ผมต้องเห็นด้วยกับพวกเค้าไหม?

"ใช่ๆคร้าาาบ....เป็นแค่สมถะคร้าาบบ
ผมเห็นด้วยเลยครับ....
อานาปานสติแค่ของเด็กฝึกหัดอย่างนั้น
เข้าใจกันถูกแล้วคร้าาาบบ"

ผมต้องทำอย่างนี้หรือเปล่า
เออออจ๊ะจ๋าาา....
ต้องกลัวเค้าเกลียดไหม...ถ้าเห็นไม่ตรงกัน


ทั้งที่ผมเห็นความจริงของธรรม
ผมก็งัด....ปัญญาที่ผมมี...
อธิบายความจริงให้เค้าเข้าใจทุกแง่...
อธิบายมุมนั้นก็แล้ว...มุมนี้ก็แล้ว
ก็เข้าใจไม่ได้...
ดีกรีมันเลยเพิ่มขึ้นเรื่อย....
ผมก็อยากปล่อยวางธรรมเหมือนกัน
แต่คิดดูแล้ว....
อาจมีซักแง่มุมที่อธิบายไป...แล้วเค้าปิ๊งได้

ถ้าจะเห็นมันเป๊ะเว่อร์
ก็เพราะยิ่งผมดึงธรรมต่างๆเข้ามาประกอบ
ผมกลับยิ่งเห็นธรรมแตกออก...
และสอดคล้องกันเข้าไปอีก....
แม้ใครอ่านแล้วยังเข้าใจตามไม่ได้
แต่ผมเองกลับได้แตกธรรมออก
...ไปอีกมากมาย
ดึงแง่อนุสัยมา....กับมรรค...
ธรรมก็แตกออก....สอดคล้องกัน
เห็นอนุสัยได้ลึกลงไปอีก
ดึงเรื่องวงจรปฎิจฯ...
ธรรมก็แตกออกไปจากที่รู้เดิมไปอีก
เลยเห็นผมร่ายยาว....
มันเกิดจากธรรมที่ยิ่งตีก็ยิ่งแตกออกไป
ผมก็อยากพิมพ์แค่สั้นๆ
...เพราะบางครั้งก็ติดคุยงาน
แต่มันยาวออกไป
...แตกแขนงออกไปของมันเอง

ผมที่เป็นคนอธิบาย...
แก้ต่างแทนพระศาสดา...
...อาจเป็นคนเดียว
ที่ได้ประโยชน์จากธรรมที่แตกออกไปนี้ก็ได้

เพราะคนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ....
ถ้าจะสังเกตุเห็น
ธรรมที่อธิบายไปดู...จะเหมือนเดิม...
แต่มันจะมีแง่มุมเพิ่มเสมอ
...และแง่มุมที่เห็นเพิ่มนี้...
ปัญญามันพาเห็นเพิ่มไปเอง....
และปัญญาพวกนี้....
มันเป็นคุณสมบัติพื้นฐาน
ของคนที่เห็นแจ้งในธรรมอยู่แล้ว

และไม่ต้องเชื่อผม...
ว่าผมจะเห็นแจ้งธรรมจริงหรือเปล่า...
....เพราะเราทั้งหมด
...ไม่รู้จักกันในชีวิตจริง
ไม่มีประโยชน์ที่ผมต้องโกหก...
โกหกแล้ว...เงินในกระเป๋าไม่ได้เพิ่มขึ้น
ผมมีธุรกิจของตัวเอง
และไม่เคยปั้นแต่ง...ให้ดูนิ่งๆน่าเคารพ
เพื่อให้ใครมากราบไหว้
เพราะงั้น...ไร้ประโยชน์ที่จะโกหก

#คุณราโซปคงพอเข้าใจ(หรือเปล่าไม่รู้)
ว่าทำไมยิ่งโต้กัน...ดีกรีมันยิ่งเข้มขึ้น...

แต่เห็นหรือไม่...
ว่าเลือกใช้กับบางคนเท่านั้น
....โหมดต่างกันไปกับแค่บางคน
....ถ้าบางคนที่เค้าไม่เข้าใจจริงๆ
...แต่เค้า"ไม่มีมารยา"
แม้วิจารณ์ผมยังไงก็ตาม...
ผมไม่ตอบ...เป็นเรื่องของเวลาแล้ว
ถ้าไม่อคติ...วันนึงเค้าจะไคร่ครวญธรรม
แล้วจะเข้าใจ...สิ่งที่ผมพูดเอง...
โดยที่ผมไม่ต้องตอบกลับ...
ไปในตอนนี้ด้วยซ้ำ

กับบางคนถ้ามีอคติ....มีความเสแสร้ง
ก็แค่ไปใช้อีกโหมด....
เพราะแน่นอน....อคติที่บังอยู่
...เค้าจะไม่เอาสิ่งที่ถกกันไปใคร่ครวญ
หรือแม้เอาไปใคร่ครวญ...แต่เพราะอคติ
จะบังความจริงนั้นไว้
จึงต้องฟาดกันไปตรงๆ....หน้ากระทู้
กระทู้เลยเดือด...เป็นพักๆอย่างที่เห็นครับ
ความเหนียวแน่นของทิฐิคนภาวนา
มันไม่เหมือน...คนที่เชื่อว่าโลกแบน
พอวันนึงมีการพิสูจน์แล้วว่าโลกกลม....
แล้วจะมาเชื่อเลย
แต่กับการภาวนา...มันมีอะไรซับซ้อนกว่านั้น
มีกับดักมากมาย...
...พร้อมที่จะก่ออุปทานระหว่างเดิน
กับดักพวกนี้...มันพาไม่ให้ถึง
แต่อย่าไปเข้าใจว่า...
....เป็นความไร้วาสนาอะไร
แต่เป็นเพราะ...
ทิฐฐิในปัจจุบันขวางการรับรู้ไว้
....แม้แต่ครูบาอาจารย์...ที่สอนมาก็ตาม
ถ้ามีทิฐฐิเหนียวแน่น...
ก็จะมองไม่เห็นกับดักทั้งหลายนั้น
คนเหล่านั้น...
ก็จะบอกตัวเอง...
"ฉันทำมาแบบนี้มันเห็นผลนี่
อาจารย์เองนั่นล่ะ...ไม่เคยเจอแบบฉัน"

บางคนติดอุปสรรคที่ขวางอยู่เล็กน้อย...
แต่นานวัน
จะกลับพอกพูก....อุปทาน...
จากเล็กน้อย....
กลายเป็นทิฐฐิเหนียวแน่นขึ้น
จนกว่าจะผ่านเวลาไป...
แล้วมาดูตัวเอง...
กลับไม่บรรลุมรรคผลอะไร..
...อย่างพระศาสดาตรัสไว้เลย
บางคนก็ท้อใจ...เลิกล้มกันไป
และพาลนึกว่า...มรรคผลไม่มีจริง
ทั้งที่...เส้นทางที่ไม่มีกับดักนั้น
เคยผ่านหูมามากมาย....
ทั้งยูทูป...ต่างๆ
แต่ความเหนียวแน่นของทิฐฐิปิดปังไว้
เลยเหมือนไม่ได้ยินสิ่งเหล่านั้น

ถ้าทำถูก...
...ธรรมของพระพุทธองค์...
จะเป็นของเห็นได้
....และมรรคนี้ให้ผลเร็ว
แต่เพราะความเหนียวแน่นนั้น
ปิดบัง...ทางนี้ไว้

 

ความหมายของมารยาของคุณหมูคืออะไรคะ
มันผิดศีลธรรมหรือเบียดเบียนใครข้อไหนมั้ยคะ
จะได้เอาไปพิจารณา

คำนี้เกิดมาไม่เคยมีใครมอบให้แนน

แนนเลยงง ว่า มันคืออะไร ที่ผ่านมาก็เน้นแย้งแค่ธรรมะ

แนนทำมารยาอะไรให้คุณเดือดร้อนแล้วโกรธ ขนาดนั้น

แม้ว่ามารยาตัวนี้เป็นบุคลิคที่ไม่เหมาะสมของแนน
ก็บอกมา แนนก็จะได้เอามาดูมาขัดเกลา

แต่ถ้ามันไม่ได้ขัดต่อศีลธรรมข้อใด แล้วคุณยังเดือดร้อน
คุณก็ควรมองอารมณ์ตัวเองนะ
ว่าทำไมมันเดือดง่ายแบบนี้

ดังนั้นขอใช้มุกเดิม
อารมณ์เป็นของแปรปรวน ควรกำหนดรู้…โอเคนะ

 

เอ้า 13 ตัวอักษร ที่คือปราบทวดาเหรอ ถึงว่าอยู่ธรรมมีแต่ 1 2 3

 

จริงๆดูตามรูปการณ์ตั้งแต่แรก
คุณหมูออกอาการแบบนี้
เพราะคุณปราบ กับลุงปัง
ไปจี้โดนจุดอ่อนเขาเต็มๆ
ตั้งแต่สมัยเป็น ซีโร่ โน่นล่ะค่ะ

โดยเอาแนนไปเทียบกับซีโร่
ซึ่งในสายตาเขา แนนเป็นเด็กฝึกหัดมือใหม่
ยังมาถามนักภาวนาด้วยกัน
คือดูเป็นไก่อ่อนนั่นแหล่ะ
ไม่ควรค่าไปเปรียบเทียบกะเขา

คุณปราบกับลุงปัง คงเห็นจุดอ่อนอ่ะ
เลยขยี้ใหญ่เลย

 

แนนเอง ยังเคยโดนคุณปราบ ลุงปัง
พยายามขยี้จุดอ่อนเลย

 

ผมขออนุญาตสงวนท่าทีไม่ก้าวล่วงหรือวิจารณ์และออกความเห็นใดๆในประเด็นนี้ครับพี่... พาดพิงบุคคลที่ 3 ครับ... ผมแนะนำว่าพี่ควรพิจารณาดูที่ตัวพี่เองครับ

ผมว่าผมตอบพี่ @หมูไม้ละ5 ในประเด็นนี้ไปแล้วนะครับ... ผมว่าบางประเด็นถ้าพี่ @หมูไม้ละ5 ไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของท่านใด... พี่ลองเป็น ผู้สังเกตุการณ์แบบคุณราโซป ก็ดีนะครับ

 

สัมมาสติเท่านั้นที่จะไวต่อการตอบสนอง
ต่อกิริยาอาการของกาย กับอาการ
จิต
นอกนั้น เป็นสติปัญญามโนสาเร่ เป็นสติแบบสัญชาติญาณ ฝึกก็เกิดขึ้นง่าย ไม่ฝึกก็มีขึ้นได้ตามธรรมชาติ

 

น่าสนใจนะ สติแบบ สัญชาติญาณ นี่เป็นยังไง
เข้าใจแต่สติอัตโนมัติ คือวิปัสสนา

 

ก็อานาปานสติหมูไหม้ เป็นสมแทะจริงๆ นินา ส่วนไตรลักษณ์ชัดเจน ได้จากอ.ประเสริฐ และวาสนาเก่าติดมา


ถ้าจะบอกคนฝึกทางอื่นที่ไม่ใช่อานาปานสติ คือทางที่ผิดไปจากมรรค เพราะไม่มีวิหารธรรม

มาดู10ปีคนมีวิหารธรรม เอาแบบอินทรีย์ฝึกอ่อนฝุดๆ

365 วัน×2 = ให้วันละ 2นาทีเกือบสามนาที = 1ชม./ปี
10ปี = 10ชม. ยิ่งคนเป็นโสดา กำลังจิตที่หายหลงมีต้นทุนต่างจากปุถุชนอยู่แล้ว25% ,ปกติ 2-3ชม.จิตก็เปลี่ยนแระ คือตัวสมุทเฉทที่เคยเห็นในสภาวะนึง มันกลับออกมาข้างนอกอยู่ในชีวิตประจำเลยอ่ะ แต่นี่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากชั้น2 ที่ท่านเรียก....โหล โหล.. เตง เมื่อไหร่จะมาสักทีอ่ะ รอนานแร้ววนร้าา.. ...อ๋อ เราไม่มาหรอก ก็เตงฝึกเป็นสมถอยู่ง่ะ

ข้าพเจ้าฝึก3 ตัวนี้> กรรมฐาน5, อานาปานสติ ,วิปัสสนา ถ้าขี้เกียจเดินจงกรมจะใช้ขยับมือหลวงพ่อเทียน ..นี่ก็มรรค8 เว่อร์เหมียนกันนร๊าา ~

ส่วนคนสอนวิทยายุทธกำจัดกิเลส ก็จิตเกินเบอร์หมูไหม้ไปไกลหลายรอบมากเบยอ่ะ อิอิ

 

เมื่อก่อน ลุงพยาธิพูดคำนึงว่า หมูไหม้พูดผิดพระไตร ตอนนั้นก็มัวเข้าข้างเขาอยู่ ตอนนี้ชักเห็นด้วยกับลุงพยาธิ

 

สติอัตโนมัติคือสัมมาสติที่ว่องไว
ต่อกิริยาอาการของจิต

 

ลุงแมวคิดว่า สัญชาติฌานเป็นสติไหมคับ
สัญชาติ + ณาน

 

เป็นสติโดยธรรมชาติฮับ

 

กลัวอะไรกับการโดนแบน
ผมก็เคยโดนแบนสามเดือน
โดนยั่วเลยสวนหมัดไปสุดท้ายตัวเองโดนน๊อค..อิอิ

เลยหยุดเล่นไปสามเดือน
กลับมาก็ปรับวิธีเขียนใหม่

ส่วนคนที่หายไปคงแบนตัวเองมากกว่า
คือไม่อยากมาเขียนแล้ว

 

ห้องนี้สนุกกว่าห้องอื่น..

ตรงที่ยั่วกันนี้แหละ