การเจริญสติให้ได้ตลอดเวลาคือ

ลุงว่า สัตว์มีสติไหมคับ

 

มีคับ
เช่น จำเจ้าของได้ หลังจากไม่เจอหน้ากัน
หลายๆ ปี เป็นต้น

 

สติ กับ สัญชาตญาน แนนว่ามันคือคนละอย่างนะ

สติคือความระลึกรู้สึกตัวเองได้ เกิดจากการฝึกฝน ทำให้เกิดบ่อยๆ

คนสัตว์ ไม่ได้มีความระลึกรู้สึกตัวเองเป็นปกติ …เพราะจิตมักจะส่งออกไปรู้แต่สิ่งนอกๆ ลืมกายลืมใจ ลืมว่าตัวเองกำลังทำอะไร รู้สึกยังไง

สัญชาตญาน เป็นการตอบสนองของร่างกายอัตโนมัติผสมกับอนุสัยที่มีติดตัวมาแต่กำเนิด เป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้คน สัตว์ เอาชีวิตรอดได้ทันท่วงที ทำให้สัตว์มีความรักตัวกลัวตาย รักเผ่าพันธ์ุ

 

บอกให้ดูไทม์ไลน์แล้ว
...สังเกตเห็นอะไรไหม?
xeforce....ปฎิบัติอะไร...ได้อะไร?
zero2zero....ฟังธรรมอะไร...ได้อะไร?

ช่วงเวลาไหน?...ยังไง?

ไม่สงสัยหรือ...xeforce...
ทำไมพูดถึงแต่...อานาปนสติ...
....แล้วบรรลุธรรม

และทำไม....zero2zero....
บอกว่า...ฟังธรรมจากอ.ประเสริฐ

ทำไมมรรคจิตเกิดตอนนอน
ทำไมมรรคจิตเกิดตอนขับรถ

ทำไม xeforce เมื่อ8ปีก่อน
...ไม่พูดถึงอ.ประเสริฐ

แต่ช่างเถอะ
มรรคจิตเกิดยังท่าไหน
หรือกี่ครั้ง....มันไม่สำคัญ

....แต่
สิ่งที่ควรสงสัยมากกว่า
คือ...
ทำไมต้องผมปกป้องอานาปานสติ
ทำไมถึง...แจกแจงอานาปานสติ...
....ได้เกือบทุกแง่...ถ้าไม่ได้ผลจากมรรคนี้
และ
ทำไมเมื่อ8 ปีที่แล้ว...
การบรรลุธรรมทั้งหมด
ชี้ไปที่....อานาปานสติ

สงสัยหรือเปล่าครับ

 

คุณลุง อันนั้นเขาเรียก สัญญา อ่ะนะ

 

อานาปานสติสูตร ก็บอกชี้ทางไว้ครบถ้วน

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานาปานสติ อันภิกษุเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อม
มีผลมาก มีอานิสงส์มาก ภิกษุที่เจริญอานาปานสติแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อม
บำเพ็ญสติปัฏฐาน ๔ ให้บริบูรณ์ได้ ภิกษุที่เจริญสติปัฏฐาน ๔ แล้ว ทำให้มากแล้ว
ย่อมบำเพ็ญโพชฌงค์ ๗ ให้บริบูรณ์ได้ ภิกษุที่เจริญโพชฌงค์ ๗ แล้ว ทำให้มาก
แล้ว ย่อมบำเพ็ญวิชชาและวิมุตติให้บริบูรณ์ได้ ฯ

 

ถ้าพูดถึง อ.ประเสริฐ ในพันทิป อาจมีคนไม่เห็นด้วย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่นับถือฆราวาส เรื่องความมีน้ำหนัก คำพูดพระสงฆ์ที่นิพพานแล้ว มี นน.มากกว่าฆราวาสเยอะ

เรื่องสงสัย? ....ไม่สงสัย จะพูดในไอดีไหน ก้อไม่สงสัย ..อานาปนสติข้าพเจ้าก็ฝึก

เรื่องชี้เป้าไปที่กรรมฐานกองไหน ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้ากองนั้นทำให้ตัวเองไปพบขุมทรัพย์ได้ ก็อวยกองนั้นนั่นแหล่ะ

เหมือนวัดหลายๆ ที่ ที่เปิดสอนกรรมฐานต่างกันออกไป พระท่านบรรลุมาจากกองไหน ก้อเปิดสอนกองนั้น ส่วนเราชอบแนวทางของท่านไหน ก็เข้าไปเรียนวัดท่าน ตามจริตที่ชอบ

ตัวชี้วัดไม่ใช่สภาวะน่าปลื้มปริ่มกับเรื่องอดีต... แต่เป็นผลงานที่ควรพัฒนาไปต่อของปัจจุบันต่างหาก

 

บอร์ดแสดงความคิดเห็น
ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ ที่จะห้ามความคิดกันไม่ได้ ที่จะบอกว่าคนนี้ยั่วหรือคนนี้ไม่ยั่ว


ส่วนนักภาวนาเขาไม่ได้ยั่วกันหรอก

แต่เอาสิ่งที่พูด ที่ฝึกมา พูดตามจริง มันจะได้อรรถได้รส

แต่ถ้า ไม่ได้ฝึกมา เอามาพูดอะไรก็ไม่มีรสไม่มีอรรถ ไม่มีเสน่ปลายจวัก

 

การชก ก็มีแต่หมัด 1 2 1 2 1 2 1 2 จังหวะดีสามน๊อก เมื่อโดนเต็มๆ

แย๊บ หนึ่งสอง หนึ่งสอง หลบหลีก
แย๊บ หนี่งสอง หนึ่งสอง หลบหลีก

ขึ้นเวธี ไม่กล้าแยบ กิเลสที่ไหนจะสะเทือน

มัวแต่เต้นฟลุ๊กเวิค หนีไป หนีมา รอระฆังเอ้า หมดยก กิเลสไม่เคยโดนแย๊บ
มันจะเอาอะไรไปจบ สักพัก หมดเวลา ตายเปล่า

 

อย่า ว่าแต่หมูปิ้งพูดผิดพระไตรเลย

หมูวาฬ นี่ก้เหมือนกัน

 

หายไปนานเลยนะคะ

 

หายไปนานเลยนะคะ

 

เอ๊า...นึกว่าโดนแบนถาวรไปแล้ว เข้าไปถามในเฟสตอนนั้น ทั้งหลวงพี่ด้วย ก็ไม่ตอบกัน

 

สายตาป่วยหรือไงค๊ะ

 

อ้าว โดนลบ อีกแล้ว

เพราะแนนป่าวเนี่ย

กราบขออภัยคร้าบบบ

 

วี วี่ ก๊ะ

 

สติไม่มีสัญญาไม่มา
หมามันต้องระลึกได้ คนหุ่นนี้ทรงนี้
เคยให้อาหาร ให้ความรักมันมาก่อน

 

พวกเราก็เป็นสัตว์ ลุงว่าสิ่งที่เราแตกต่างคืออะไร
สิ่งที่แค่พลังรู้คือเข้าใจว่าสัตว์มีโมหะ ไม่สามารถรับรู้ตามความเป็นจริงได้
แต่สัตว์ที่เป็นเดรัจฉาน ไม่น่าจะมีสตินะ ไม่ว่าจะเป็นสัมมาสติ หรือมิจฉาสติ เพราะหากมีสติก็สามารถ เข้าใจธรรมได้ เพียงแต่ฝึกจริงๆ

 

วีวี่ ที่ไหนจะโพสแบบนี้

พูดเรื่องสติ

คนไม่ยอม มาศึกษา

สติ มีสัญญา เป็นเหตุใกล้ให้เกิดสติ

ภาษาบ้านๆ ความจำได้หมายรู้ เป๋นเหตุใกล้ให้เกิดสติ

ทีนี้ หากคน แยก สติ สองประเภท ระหว่าง มิจฉาสติ กับ สัมมาสติไม่ออก
ก็จะ งง ก๊งๆ ไปเรื่อยๆ

สติที่เป็นมิจฉาสติ คือ สติ ของร่างกาย สติของโลก สติของโลกียะ

ส่วน
สติที่เป็น สัมมาสติ ก็คือ สติที่พ้นโลกเป้นสติฝ่ายโลกุตระ


สติไม่ว่าจะเป็น สัมมาสติ หรือมิจฉาสติ ก็ไม่ได้เกิดลอยๆ

มีเหตุให้เกิด ก็คือ มีผัสสะ กระทบ
ความจำได้หมายรู้ ก้หมายเอาว่า จำได้ปั๊ปเลยระลึกขึ้นได้

สติของสัตว์เดรัชฉาน ไม่สามารถ เอามาฝึก ให้เป็นสติที่เรียกว่าสัมมาสติได้

แม้จะอาศัย ความจำได้หมายรู้มาก้ตาม

แต่สติสำหรับภูมิ มนุษย์ หรือเทวดาพรหม สามารถฝึกให้เกิดสติ ที่เป็นสัมมาสติได้

มนุษย์ จะมีสติที่พร้อมในการบรรลุธรรม เมื่อร่างกายผ่านเกณฑ์ อายุตั้งแต่ 7 ขวบขึ้นไป

ต่ำกว่า 7ขวบ ยิ่งยังเป็นทารก ร่างกายยังไม่พร้อมบวก


พุทธองค์ พร่ำสอน การกำหนดรู้ ก้เพื่อ ให้จิตมันจดจำสภาวะ ที่เกิดขึ้นตามจริง

กำหนดรู้ลมหายใจ ก้เพื่อให้จิต จดจำสภาวะ
กำหนดรู้เวทนาก้เพื่อให้จิตจดจำสภาวะ
กำหนดรู้จิตก้เพื่อให้จิตจดจำสภาวะ
กำหนดรู้ธัมก้เพื่อให้จิตจดจำสภาวะ

เหตุนี้แล้ว จึงได้ ชื่อว่า มหาสติปัฏฐาน และยังแยกย่อยไปอีก 21 วิธี

ฐานกาย เวทนา
เป็นพวกอินทรีย์ปัญญาอ่อน

ฐาน จิตฐานธัม เป้นพวกที่มีอินทรีย์ปัญญากล้า
อย่างฐานธัม ไม่ค่อยมีใครยกมาเปรียบพูดถึง ว่า มีอะไรบ้าง

ฐานธัม เช่น
ยก
นิวรร์มากำหนดรู้

ยก
อายตนะมากำหนดรู้ เป็นต้น
คนไม่รู้เรื่องก้บอก อายตนะเป้นของหยาบ เป็นขั้น ป้อแป้ ป้อแป้
พวกนี้คือยังไม่รู้เรื่อง เลยเข้าใจผิด

 

จิตอยู่ที่ใด ไม่มีทางที่จะพ้นอายตนะ
แม้จะถอดกายทิพย์ออกก็ตาม แม้จะอยู่แต่จิตเพียวๆในภวัง ก้ยังมิพ้น อายตนะ