ขอความรู้ครับ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย อภิมาร, 26 ตุลาคม 2012.

  1. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154

    เคยสูบบุหรี่อายุประมาณ 13 เคยคิดและเลิกหลายครั้ง
    ด้วยสิ่งแวดล้อมและข้ออ้าง เพิ่งเลิกได้ประมาณ 3ปีที่ผ่านมา
    อาจเป็นเพราะมีอาการเจ็บคอแบบเรื้อรัง เลยไปไปซื้อหมากฝรั่ง
    ที่ผสมนิโคตินมากิน เคกินจากขนาด 5 มิลลิกรัม และลดลงมาเหลือ
    2 มิลลิกรัม กินได้ประมาณ 2 ปีกว่า ท้ายสุดไปอยู่สถานที่หนึ่งซึ่งหาซื้อ
    หมากฝรั่งชนิดนี้ไม่มี เลยซื้อหมากฝรั่งชนิดธรรมดามากินเเทนยังรู้สึกเคยชินอยู่

    ขอบพระคุณมาก ที่ให้คำชี้แนะ พร้อมยกตัวอย่าง (ขออภัย) ไม่แน่ใจที่เคยได้ยินมา เมื่อพระนาง บรรลุโสดาบัน และพระนางก็เลิกอาชีพนี้ และถ้าจำไม่ผิด
    น่าจะอยู่อีก7วัน พระนางก็สิ้นชีพ ถ้าข้อมูลนี้ผิดพลาดรบกวนท่านผู้รู้ช่วยแก้ไข

    รู้สึกดีที่ยังมีทางเลือกและพิจารณา
     
  2. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154

    ขณะนี้พอใจแค่ ศีลห้า
    ในข้อที่เคลือบแคลง
    บางข้อของปลีกย่อยตีความเองไม่แน่ใจ

    และที่คุณอธิบายมาไม่แน่ใจที่เขาเรียก อภิธรรมหรือปล่าว
    ไม่เข้าใจ งง!

    และที่เคยได้ยินมา เรื่องคำสบถ นั่นไปโดนกับพระอริยชั้นสูงสุดที่ถ่มเสล็ด
    ต่างเรื่องกัน
     
  3. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    969
    ค่าพลัง:
    +1,174

    ถ้าอย่างนั้น คุณมีสิทธิ์ที่จะผิดศิล มากถึง 99% เพราะคือความเสี่ยง
    ทางที่ดีก็ไม่ควรทำ เพราะเป็นการส่งเสริมคนอื่นๆ ให้ยึดติดในกามมากขึ้น
    จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็ขึ้นซื่อว่ากามอยู่ดี

    เหมือนคนไม่ตั้งใจฆ่าสัตว์ แต่ก็ชีวิตเขาตายไปแล้ว
    เช่นเดียวกับเขาไม่ได้ตั้งใจฆ่าเรานั่นแหละ

    จะตั้งใจหรือไม่ อะไรที่เสียงต่อการผิดก็ไม่ควรไปเกี่ยว (สำหรับผู้รักษาศีล)
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ไม่รู้เหมือนกันว่า เป็น อภิธรรมไหม แต่ มันน่าสนใจตรงที่คุณ เล็งเห็นได้
    ว่ามันมีอะไรมากกว่า ความพอใจแค่ศีล5ตอนนี้

    นี่ๆ เคยได้ยินโศลกธรรมที่ว่า "ใช้ตัณหาละตัณหาไหม"

    บทอธิบายก็ง่ายมาก ตอนแรกนี่ใช้ตัณหานำการกระทำ พอกระทำได้สมความปราถนา
    ความต้องการที่จะทำสิ่งนั้นอีกก็หมดลง ตัณหาจึงชื่อว่าดับลง

    นี่ก็เหมือนกัน

    แรกๆเรา พอใจกับการมีศีล5 ถามว่า แล้วคุณรักษาได้ไหม ซึ่งก็ต้องแน่นอนว่า
    โอ้ย!! รักษาได้สิ หากทำไม่ได้ จะปรารภว่า พอใจศีล5 ได้หรือ

    สรุปว่า คุณใช้ตัณหาพาไปรักษาศีล5 พอสิ้นวันตื่นมาเช้าวันใหม่ ตลอดคืน
    ศีล5ไม่ปกพร่อง นี่ก็แปลว่า ไม่ต้องรักษาศีล5ในวันก่อนอีกแล้ว ตัณหาก็ดับ
    ลง แต่..................

    ตัณหารอบใหม่ มีอะเป่า ถ้ามี ก็ สร้างความพอใจในการรักษาศีล5 อีกวันหนึ่ง
    พอรุ่งเช้าวันใหม่ ก็สำเร็จสมประสงค์ ตัณหาก็ดับลง พรึบ !!!

    ใช้ ตัณหานำ เพื่อดู ตัณหา ดับลง

    ใช้ ตัณหานำ เพื่อดู ตัณหา ดับลง

    ใช้ ตัณหานำ เพื่อดู ตัณหา ดับลง

    ตามเห็น การดับลงของ ตัณหาเนืองๆ จึงชื่อว่า เฝ้นธรรม ตามเห็นธรรม

    วันหนึ่งทำได้ บางวันไม่ได้สมาทานเลย ตามเห็นความไม่เที่ยง ของ การตั้งจิต
    การตั้งอยู่ของจิต ในการใช้ตัณหานำเพื่อดูการดับไปของตัณหา มันแสดงความ
    ไม่เที่ยง ดูไปให้มากๆ เชื่อไหมว่า สุดท้ายมันจะรู้รสว่า สิ้นตัณหา เนี่ยะหน้า
    ตามันเป็นยังไง

    ทำแบบนี้ ศีล5ก็เพียงพอนะ ไม่ขาด ไม่ชื่อว่าขาด

    คลาดการเห็น การสิ้นไปของตัณหาหรือเปล่า ก็ไม่นะ เพราะเรา สมาทานทุกวัน
    ก็ตามเห็นการดับไปของ ความพอใจในการรักษาศีล ถือศีล ลูบคลำศีล ได้เนืองๆ

    จนสิ้นตัณหา ไม่ต้องอาศัยความพอใจในการรักษาศีลอีก แต่ ศีลกลับบริบูรณ์
    ไม่ใช่การลูบคลำศีลพรตอีก เห็นความสงบที่แท้ ประจักษ์ในวิถีที่ว่า

    "ใช้ตัณหาละตัณหา" ตรงตามพุทธวัจนะ ศรัทธามันก็เกิด ไม่คลอนแคลน ง่อนแง่น

    ความลังเลสงสัยในมรรควิธี และ ผลจิตที่ได้รับเป็นอานิสงค์ใหญ่ จะมีหรือไม่
    อันนี้ก็ต้องไม่ประมาทในธรรมทั้งหลายกันหละ ก็ว่ากันไป
     
  5. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    969
    ค่าพลัง:
    +1,174

    อันนี้ คุณต้องไปหาวิธีแก้ความอยากเองนะครับ เพราะพระหลายๆ รูปท่านก็มีวิธีของท่านลองไปหาศึกษาเอา มีเหตุ ก็ต้องมีผล มีปัญหาก็ต้องมีทางแก้

    เพราะถ้าเด็กอนุบาล ถาม อนุบาลเหมือนกันก็คง งงๆ เหมือนกัน แต่ถาม ด๊อกเตอร์ ก็จะ งงๆ เหมือนกัน แล้วทำไงดีนะ
     
  6. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    ผมเรียนมหาลัยจนออกก็ยังไม่เคยมีอะไรกับใคร ไม่ถามผมมั่งเหรอ -.-
     
  7. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    เคยโดนให้ท่ายันห้อง สุดท้ายก็โดนนินทา สารพัด โดนดด่าให้ไปบวชด้วย ตอนผมอยู่มหาลัย-.-
     
  8. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154

    แล้วที่เหลืออีก 1% น่ะเป็นยังไง รบกวนช่วยบอกหน่อยเถอะ ดี้ๆ ไม่น่าจะมีอิธพลต่อคนอื่นขนาดนั้นน๊ะ คนที่เขาไปก็เห็นมีไม่ขาด ไม่เช่นนั้นอาชีพนี้หมดไปแล้ว แต่อย่างทำไปแล้วไม่ค้างคาใจ และถ้าจะเป็นการส่งเสริมต่อคนอื่น ถ้าหายความแคลงใจคราวหน้าและคราวต่อไปจะใส่หมวก :boo:ปิบังโฉม,ลดความเสี่ยงให้สัญญา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2012
  9. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154

    ขอบคุณมากในความเมตตา เเละกรุณา รับไว้เป็นข้อมูลอีกข้อมูลหนึ่งถ้าถึงวันนั้นจริงคงได้นำมาพิจารณา
     
  10. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154

    ก็ต้องบอกตรงๆ อนุบาลก็เลยมาแล้ว
    ด๊อกเตอร์ก็ยังไม่ถึง น่าาจะงง!แบบครึ่งๆกลาง
    งง!ใหญ่ และไม่ค่อยกว้างขวาง นั่นแล้วทำไงดีโอย งง!
     
  11. EterNalStaR

    EterNalStaR Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +86
    กามเป็นเรื่องปกติธรรมดาบนโลกค่ะ ตราบใดที่เราๆท่านๆยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่นี้ก็ย่อมมีกามเป็นของธรรมดา เพราะกามนั้นอยู่คู่กับการเกิด เพศชายต้องมีกามก็เพื่อขยายพันธุ์ไม่ได้ต่างจากสัตว์เลยแม้แต่น้อย ก็ลองเอามาคิดดูถ้าไม่มีกามทั้งโลกบรรดาสัตว์และมนุษย์จะสูญพันธุ์ไหม


    คุณหลายๆคนที่อยู่ในเว็บนี้ชอบเอาแต่ตำหนิและดูถูกคนอื่นจนเป็นวิสัยไปแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องกามทั้งๆที่มันเป็นเรื่องปกติบนโลกแท้ๆ


    ระวัง...อย่าว่ากล่าวคนอื่นในขณะที่ตนก็ยังเป็นอยู่ เพราะสิ่งที่คุณว่ากล่าวไปนั้นมันจะย้อนกลับเข้ามาหาตัวคุณนั่นแหละ ทำให้เวลาที่พวกคุณปฏิบัติธรรมมันจะเล่นงานคุณแรงมากๆ จนคุณคิดที่จะเลิกปฏิบัติธรรมเลยเชียวล่ะ


    ห้ามกามก็เหมือนกับห้ามการเกิด
     
  12. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814

    โมทนาสาธุครับ ขอยืนยัน ที่ประสพมาเป็นอย่างนั้นจริงๆครับคุณ ถ้าคนยังไม่หมดกิเลสแน่นอนกรรมย่อม เข้าหาสู่ผู้กระทำ กรรมแรงมาแรงครับ กรรมเบามาเบา

    ศิล ๕ ผิดบ้างถูกบ้าง แต่รักษารักษาใหม่ได้ ถ้าเป็นพระ ขาดแล้วขาดเลย ต่อไม่ได้ อาบัติร้ายแรงนะ เหมือนตาลยอดด้วน อาบัติเล็กน้อย ปรงแล้ว ยั้บยั้ง ดีครับสำหรับเจ้าของกระทู้ ทุกคนไม่ได้รู้ไปทุกอย่าง สิ่งใดรู้ก็รู้ยิ่งๆขึ้น สิ่งใดไม่รู้ ก็จะได้รู้ ครับ และเป็นประโยชน์ ต่อคนอื่นด้วยไม่มากก็น้อย และมีโทษบ้าง เป็น ธรรมดา แล้วแต่ใครจะเอาอะไรครับ ทางมีให้เดินเลือกเอาครับ ไม่มีใครห้าม ของใครของมันอยู่แล้ว ครั้งพุทธกาล พระอริยะขั้นต่ำ ยังมี ลูกผัวเมีย เยอะแยะครับ เขารู้จักแยกแยะว่าอะไร ดีหรือชั่ว เขามีปัญญา

    เดี๋ยวนี้ก็ยังมีอยู่ ที่เคยประสพมาครับ คนกินเหล้าย่อมไปคบกับคนกินเหล้า เซียนพระย่อม ไปสู่สำนักเซียนพระ นักเลง ย่อมไปสู่วงค์ของนักเลง พวกรถซิ่งก็ไปซิ่งในหมู่คนซิ่ง ผมเคยไปเคยจีบสาวภาคเหนือ เขามวนยาสูบ ใบตอง คืนหนึ่งสาวๆ มวนให้ดูดเป็นสิบๆมวน ยาวเท่าบุหรี่ซิกก้า ยังไม่ติดเลย อยู่ที่ใจเราครับ ผมว่าเจ้าของกระทู้ มีเหตุผลบางอย่างแน่ จึงได้ตั้งกระทู้เช่นนี้มา ทุกอย่างมันอยู่ที่การตกลง กันครับ ตัวเราน่ะรู้ดีที่สุด ว่าควรทำอย่างไร ทุกอย่างอยู่ที่การ ตั้งใจ ไม่ว่า ถูกหรือผิด
     
  13. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    หากสิ่งที่จะเขียนนี้ ทำให้ขุ่นเคือง ก็ขอ อภัยและขอ อโหสิกรรมไว้ล่วงหน้า ขออย่าได้มีการผูกเวร ซึ่งกันและกัน
    ที่กล่าวว่า "กามเป็นเรื่องปกติธรรมดาบนโลก" คงต้องอ้างอิงกับช่วงเวลาด้วย ช่วงเวลาที่กระแสกิเลสรุนแรง จึงเป็นเช่นนั้น
    หากได้ศึกษา อัคคัญญสูตร จะรู้ว่า มนุษย์ยุคช่วงแรกๆ จะไม่มีการเสพกาม
    ยุคที่มนุษย์ ไม่มีการเสพกาม มนุษย์ก็เกิดได้ครับ เกิดแบบ โอปปาติกะ
    สำหรับยุคนี้ หากยังถือพรหมจรรย์ ไม่ได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร เพียงแค่ไม่ทำผิดศีลผิดธรรม ก็เพียงพอ
    หากใครจะมาเกิด สร้างบารมีช่่วงกระแสกิเลสรุนแรงคงต้องมี ตบะที่แข็งแกร่ง หากไม่แกร่งพอ ก็จะเกิดอาการ ตบะแตกได้ง่ายๆ
     
  14. EterNalStaR

    EterNalStaR Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +86

    สำหรับเรานั่นคือยุคแรกเริ่มจริงๆ มีแค่ยุคนั้นยุคเดียว เป็นยุคที่ยังไม่มีพระพรหม ยังไม่มีพระพุทธเจ้า ทุกสิ่งเริ่มจากความว่างเปล่า ขนาดในยุครุ่งเรืองที่มีพระพุทธเจ้าสายเพียรยังต้องใช้กามในการเกิด


    ที่จะเกิดแบบ โอปปาติกะ ได้นั้นมีแค่ เทวดา พรหม สัตว์นรก เปรต อสุรกาย หรือพูดง่ายๆมันก็คือกายทิพย์นั่นแหละ อย่าอ้างช่วงเวลา ขนาดกายทิพย์เทวดาในบางชั้นยังมีกามกันอยู่เลย หรือจะกล่าวว่าเทวดาเสื่อมกันล่ะ


    โอปปาติกะ มีกระจายอยู่หลายภูมิ เช่น นรก เปรตบางพวก อสุรกายบางพวก เดรัจฉานที่เป็นกายทิพย์บางพวก ว่ากันว่ามนุษย์ยุคต้นๆ ก็เป็นโอปปาติกะ เทวดาชั้นต่ำบางจำพวก เทวดาชั้นสูงทั้งหมด รูปภูมิ อรูปภูมิ


    ถ้าไม่มีมารก็ไม่มีพระพุทธเจ้า ถ้าไม่มีกามก็ไม่มีการห้ามการเกิด


    เข้าใจคำว่ายุคต้นแค่ไหน หรือไม่อย่างไร ช่วยอธิบายมาด้วย
     
  15. Nuthsunti

    Nuthsunti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +328
    หากต้องการรู้ รายละเอียด สามารถอ่านได้จาก link นี้ครับ

    http://nkgen.com/447.htm

    จุดประสงค์หลักในการเขียน ตอบกระทู้นี้คือ ไม่อยากให้ผู้กำลังสร้างบารมี ไปให้ความสำคัญ และติดใน กาม มากเกินไป
    หากจะเปรียบเทียบ กาม ก็เหมือนอาหาร
    การกินอาหาร ให้พอเหมาะพอดี จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย
    แต่การกินอาหาร มากเกินความพอดี กลับจะทำให้เกิดโทษ ต่อร่างกาย

    ผู้ฝึกตนมาดี ย่อมไม่ติดในรสของอาหาร ฉันใด
    ผู้ต้องการ หลุดพ้น ห่วงสังสารวัฏ พึงไม่ติดในรสของกาม ฉันนั้น
     
  16. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    คนที่ได้อภิญญาในยุคนี้ยังมีอยู่ ที่เคยไปสำผัสมา ยังศึกหาลาเพศ ไปยุ่งกับกามเลยครับ มันไม่ได้ตัดขาดง่ายนักหรอกครับ ถ้าง่ายดังว่า คงมีพระอรหันต์เต็มเมืองแล้วครับ การตัดกิเลส ที่เคยฝึกฝนมา ทดลองแบบที่องค์ สมเด็จ ว่า ความโกรธ อาศัยความโกรธละได้ ความโลภ อาศัยความโลภ ละได้ ตันหาอาศัยตัณหา นั้นละไม่ได้ ต้องเอากายใจออก ห่างจากกาม จึงจะพอบรรเทาหรือ ออกชั่วคราว กว่าจะละได้ เคยทดสอบมา เป็นดังที่องค์สมเด็จท่านไว้จริงๆครับ ผมก็ละชั่วคราว เข้าป่าไปอยู่ถ้ำ บ้างบางคราว กับมามันเหมือนเดิมแต่ก็ยังดี

    ได้รู้ได้สู้กับกิเลสมัน ถ้าไม่ชนะชาตินี้ ชาติหน้าหรือชาติต่อไป เรายังมีสิทธิ์จะชนะกิเลส ได้แน่นอน หรือ เกิดน้อยชาติลงครับ ถ้ายังมีกิเลสอยู่ ใครว่าแน่ เดี๋ยวโดนดีครับ ใครมาแรง เขาก็จะลองแรงเช่นกัน มาก็ไม่ซ้ำหน้าด้วยครับ พวกเราไม่ชอบใจกัน ยังเห็นหนังสือ ยังเห็นตัวคน แต่กิเลสมาร มันมาทำใจของเราใจจิตของเรา ยุ่งวุ่นวายไปหมดครับ ถ้าไม่ชอบ ในการออกความเห็นก็ขออภัยครับผม
     
  17. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512

    ใช่ครับ :D:cool: ลุงๆครับ ผมชอบคำพูดลุงมากเลยครับ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2012
  18. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    ลุงแยกคำว่าละ กับคำว่าตัดออกด้วยน้อยคนที่จะแยกได้นะครับ
    ..
    ตั้งแต่เล่นมาน้อยคนจริงๆ ที่จะแยกออกว่าละคืออะไร ตัดคืออะไร หมดคืออะไร
    คำพูดลุงเหมือนที่ผมคิดเลยครับ ผมก็ทำได้แบบที่ลุงทำน่ะครับ คือทำได้แค่ละ
    คือหนี หรือลืมๆมันไป แต่ไม่ได้หมด...กิเลส



    ลุงฝึกอะไร ที่ใหนยังไงเหรอครับ
     
  19. EterNalStaR

    EterNalStaR Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +86
    แล้วคุณจะอ้างยุคต้น ยุคเริ่มแรกที่ไม่มีกามไปเพื่ออะไร คุณควรจะพูดในสิ่งที่คุณทำได้มันจะดีต่อตัวคุณมากกว่านะ สอนใครน่ะสอนได้แต่ตัวเองก็ต้องทำให้ได้ด้วยเช่นกัน ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีใครอยากฟังหรอก แล้วคุณเป็นฆราวาสที่ถือพรหมจรรย์ตลอดชีวิตได้หรือยัง เข้าใจอารมณ์เขาไหมถึงได้มาสอนหรือว่าเขา ใครหลายๆคนในเว็บนี้ชอบอ้างธรรม อ้างตำราของท่านโน้นท่านนี้ แต่ปฏิบัติยังไม่ได้เลย เพราะเหตุนี้แหละใครหลายคนจึงหลงคิดว่าตัวเองที่เข้ามาทางธรรมเป็นคนดี คนที่ไม่ศึกษาธรรมเป็นคนไม่ดี

    ทำได้แค่ไหนเจออะไรมาก็ควรพูดตามที่เคยทำ เคยเจอ ไม่ใช่สักแต่ว่าอ้างนู่นอ้างนี่ไปเรื่อย
     
  20. EterNalStaR

    EterNalStaR Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2011
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +86
    ที่พูดมาคุณทำได้แค่ไหน??????
     

แชร์หน้านี้

Loading...