ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ
ถึงจะเป็นคนที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่น
แต่ก็พร้อมจะเข้าไปเคียงข้างกับทุกคนในภาวะวิกฤติ
จะทำเท่าที่เรี่ยวแรงทั้งหมดมีอยู่ค่ะ
เชื่อมั่นอย่างนั้นจริงๆ (ภายในใจตอนนี้ไม่หวาดกลัวต่อสิ่งใดที่จะเกิดขึ้นเลย)
รู้เพียงว่าการที่เราได้รับรู้ข้อมูลทุกอย่างมากกว่าคนรอบข้างไม่ใช่ความได้เปรียบ
แต่มันกลับเต็มไปด้วยความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น
ซึ่งเราจะต้องเป็นผู้เข้าไปประคับประคองเหตุการณ์ทุกอย่างให้ดีที่สุด
ข้อมูลที่เราได้รับรู้มาแล้วทั้งหมด ทำให้เราได้ทราบถึงเหตุและผลที่เกิดขึ้น
เราจึงต้องเป็นผู้เข้าไปช่วยเหลือ มากกว่าจะใช้ข้อมูลที่ได้รับรู้เพื่อหลีกหนีให้พ้นจากสถานการณ์นั้นๆ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ เราต้องช่วยกันนะคะ
เพราะเราคือหนึ่งเดียวกันเสมอ

 

อ่านแล้วก็ซึ้งใจนะครับ
ไม่ว่าเราจะอยู่ตรงไหน สถานที่ใด กับการแสดงออกจากภายใน
ที่เราทุกคนสามารถช่วยกันจุดไม้ขีด เป็นผู้เชื่อมต่อแสงสว่าง
ให้ส่องไปตามที่ต่างๆ แนะนำให้ผู้คนออกมาจากความมืดได้

เพราะยังมีชาวโลกอีกหลายล้านคนที่กำลังกวาดสายตามองหาทางออก
มุ่งมั่นทำภารกิจของหัวใจเราให้สำเร็จนะครับ
นี้คือการแผ่ขยายความรักไปออกไปทั่วทั้งโลก .....
จับมือกันไว้เพื่อจะกลายเป็นนักรบแห่งแสงสว่างที่มีความรู้สึกเดียวกัน
และเราจะสนุกสนานไปกับการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นเหล่านี้ด้วยกันนะครับ

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1731755/[/MUSIC]

 

เห็นด้วยเลยครับ ยิ่งเรารู้มาก ความรับผิดชอบของเราต้องมากขึ้นไปด้วยครับ

 

SALUSA TO ME - Luara Tyco
18 OCT 2011
DISLCOSURE AND FIRST CONTACT AND ASCENSION
http://galacticlauratyco.blogspot.com/2011/10/salusa-to-me-18-oct-2011-dislcosure-and.html#more

การเปิดเผยข้อมูล - การติดต่อครั้งแรก - และการเลื่อนระดับของโลก

ลอร่า : สวัสดี SaLuSa มีเพื่อนของฉันต้องการที่จะถามคำถามคุณดังนี้ค่ะ :
"ผมมีคำถามบางอย่างกับ SaLuSa ว่าเราจะได้พบกับเขาหลังจากที่มีการเปิดเผยหรือไม่?
เขาเป็นส่วนหนึ่งของการประกาศการเปิดเผยข้อมูลหรือไม่?
เขาจะทำอะไรหลังจากการเปิดเผยข้อมูล
เขาจะส่งหรือเขียนข้อความของเขาต่อไปหรือไม่? หรือเขาจะไปปรากฎบนหน้าจอทีวีล่ะครับ?


SaLuSa : ฉันยังไม่ได้รับโอกาสที่จะได้พบกับคุณในทันทีหลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลหรอกนะ
เพราะฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการ "เปิดเผยข้อมูล"โดยตรง
ในส่วนนี้มีไว้สำหรับพันธมิตรของโลกที่จะทำหน้าที่นี้ ซึ่งเป็นงานของพวกเขา
และฉันเองก็จะยังคงมีข้อความสื่อสารเช่นนี้ต่อไป หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเกิดขึ้น
เราจะต้องรอจนกว่า"การติดต่อกันครั้งแรก"เกิดขึ้นและประสบความสำเร็จ
และเกิดความสงบสุขระหว่างโลกของเราและโลกของคุณซะก่อน

สำหรับฉันแล้ว คือเมื่ออยู่ในตำแหน่งที่สื่อทั้งหลายและหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
ได้ให้ความสนใจในการพบปะกันกับเรา และให้โอกาสสำหรับการพูดคุยกับประชาชนทั่วไป
หลังจากจุดนี้ ฉันมั่นใจเราว่าจะสามารถให้ข้อมูลใหม่ๆบนทีวีได้อย่างสม่ำเสมอ
ตราบใดที่สื่อของคุณจะไม่ถูกควบคุมหรือได้รับอิทธิพลจากผู้มีอำนาจใดๆอีก

มีความแตกต่างที่ละเอียดอ่อน ระหว่างการเปิดเผยข้อมูล และการติดต่อครั้งแรกอยู่
ที่เรายังไม่ได้มีการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ว่าจะมีช่องว่างหรือระยะเวลาเท่าใดระหว่างทั้งสองเหตุการณ์นี้
ซึ่งทั้งหมดนี้จะขึ้นอยู่กับความเร็วในการตระหนักรู้มวลรวมของมนุษย์โลก
ที่จะสามารถซึมซับความจริงที่ว่า
"คุณไม่ได้อยู่อย่างโดดเดียวในจักรวาลนี้"
ที่คุณเคยได้รับเพียงคำโกหกจากตัวแทนที่ได้รับเลือกตั้งในรัฐบาลของคุณเอง

ความตระหนักบนความเข้าใจนี้...
จะช่วยให้เกิดการตั้งคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสของรัฐบาลที่เป็นคำสั่งเครื่องผูกมัด
ในเหตุการณ์เหล่านี้ จะเกิดการแทนที่และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใหม่จากอำนาจของคุณ
เมื่อเหตุการณ์เหล่านี้ได้ถูกแทนที่ บรรยากาศแห่งความไว้วางใจจึงจะเกิดขึ้นได้
เราจะพิจารณาหารือกับพันธมิตรของโลก
ว่าเมื่อใดและที่ไหนที่จะดำเนินการเกี่ยวกับ "การติดต่อครั้งแรก"

หากขั้นตอนการติดต่อครั้งแรกทั้งหมดนี้ อยู่ในมือและอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายพันธมิตรโลก
เราจะยินยอมสำหรับความต้องการและความประสงค์ของฝ่ายบริหารของคุณ
เมื่อความไม่ซื่อสัตย์ได้ถูกลบล้างออกจากระบบการเมืองเก่าๆของคุณแล้ว
คุณจะพบว่ามันน่ามหัศจรรย์มากที่จะรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว
ที่สามารถทำได้ในพื้นที่ต่างๆบนโลก ส่วนความกังวลหลักของเราตอนนี้ก็คือ
ทางเลือกสำหรับระบบที่เป็นธรรมในระบอบประชาธิปไตย ที่จะต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม พลเมืองโลกเองจะต้องตั้งค่าให้พร้อมสำหรับการก้าวกระโดดครั้งนี้ด้วย
ในขณะที่เรื่องนี้เกิดขึ้น เราจะทำข้อตกลงกับรัฐบาลต่างๆของคุณทั่วโลก

ด้วยการบินลงมาต่ำๆผ่านในพื้นที่ที่มีประชากรอยู่อย่างคั่บคั่งและหนาแน่น
เพื่อให้ทุกคนสามารถตระหนักได้จริงๆว่า
ยานอวกาศของเราไม่ได้เป็นตัวแทนจากภัยคุกคามใดๆเช่นที่คุณเคยคิด..

 

SALUSA TO ME - Luara Tyco
18 OCT 2011
DISLCOSURE AND FIRST CONTACT AND ASCENSION

http://galacticlauratyco.blogspot.com/2011/10/salusa-to-me-18-oct-2011-dislcosure-and.html#more


มันเป็นความปรารถนาลึกๆของเราสำหรับทุกท่าน
ที่ปรารถนาให้คุณเข้าใจว่าคุณกำลังอยู่ในการดูแลของพวกเราตลอดเวลา
ด้วยวิธีการอันรวดเร็วที่คุณจะสามารถร่วมมือในการปรากฎตัว
ของเราด้วยความสงบและสันติภาพ แม้ว่าจะมีบางอย่างที่ต้องอดกลั้นเป็นที่สุด

สำหรับช่วงเวลาสำคัญที่คุณได้รับความจริงถึงเหตุการณ์ของจักรวาลที่กำลังจะเกิดขึ้น
ในด้านความสัมพันธ์เกี่ยวกับการจัดตำแหน่งของดาวเคราะห์และจักรวาล

เหตุการณ์เหล่านี้ มันอาจเหมือนเป็นวันแรกแห่งความปิติยินดี..
สำหรับผู้รอคอยอย่างมีความหวัง พร้อมกับความคาดหวังของอีกหลายๆคน
แต่ก๋มีความแตกต่างในหมู่มนุษย์ร่วมโลกเช่นกัน
ที่เกี่ยวกับการปรากฎของมนุษย์ต่างดาวบนพื้นแผ่นดินของคุณ

เราหวังว่าการมีอยู่ของเราในท้องฟ้าจะทำให้ผู้คนที่กลัวเรา รู้สึกวางใจเรายิ่งขึ้น
ซึ่งตามกฎแห่งทางเลือกเสรีแล้ว แน่นอนว่าทุกคนย่อมได้รับความเคารพ
ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้ที่ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราย่อมมีอยู่
พวกเขารับรู้เพียงว่า มันเป็นสัญญาณรบกวนสำหรับธุรกิจส่วนตัวของเขา
เราจึงต้องเคลื่อนย้ายพวกเขาไปบนเส้นเวลาที่แตกต่างกันเสียก่อน
หรือทำให้ความเป็นจริงเหล่านั้นสลับกัน หากเราไม่ได้รับการต้อนรับ
และพวกเขาจะต้องผ่านขั้นตอนการเลื่อนระดับขึ้นไปแต่เพียงลำพังเท่านั้น

การจากไปของพวกเขามีความเป็นไปได้ที่จะสิ้นสุดในปลายเดือนตุลาคมนี้
และเมื่อถึง 11-11-11 จะเป็นวันที่ซ่อนเร้นสำหรับผู้ที่กำลังลังเลในการตัดสินใจ
กับสภาพบรรยากาศ ที่เราจะได้รับการต้อนรับหรือไม่
และจะมีคนอื่นๆที่จะออกจากโลกนี้ไปด้วยเหตุผลอื่นๆ ในวันเหล่านั้น
และมีบางส่วนของคุณจะเลื่อนระดับขึ้นไปก่อนคนอื่นๆด้วย
แต่แผนการของสวรรค์ ก็คือโลกจะเลื่อนระดับขึ้นไปพร้อมกับพลเมืองผู้อาศัยของเธอ
ดาวเคราะห์โลก ต้องการให้พวกคุณจำนวนมาก ช่วยกันส่งเธอขึ้นไปสู่มิติที่สูงขึ้น
ซึ่งยังมีงานอีกมากมายหลายด้านที่เรายังไม่ได้ทำ
และเราจำเป็นจะต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ที่มีความตั้งใจทั้งหมดด้วยเช่นกัน

หลังมิถุนายน 2012 ไปแล้ว
อุปสรรคที่กีดขวางทั้งหมดจะถูกลบออกจากเส้นทางของคุณ

ฉัน SaLuSa จาก Sirius ตามที่คุณเห็น มันมีเวลาเพียงเล็กน้อยที่ยังเหลืออยู่
ถึงแม้ว่าการทำงานในขั้นตอนสุดท้าย บางครั้งเป็นสิ่งที่ท้าทายมากที่สุด
และดูเหมือนว่าเวลาจะถูกลากออกไปตลอด กับช่วงระยะเวลาที่เข้มข้นถึงที่สุด
และมาไกลจนเรามีความกังวลในการเลื่อนระดับขึ้นของโลกตามกำหนดเช่นกัน
ดังนั้น คุณจะเห็นเพื่อนที่รัก ว่าไม่มีอะไรที่น่ากลัวในเรื่องนี้
และทั้งหมดกำลังเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้

Thank You
SaLuSa

 

ขอบคุณค่ะพี่มี๊ด ขนาดยุ่งกับน้ำท่วมยังสละเวลามาแปลข้อความต่างๆ

โอ๋ขอเป็นกำลังใจให้

ให้ผ่านพ้นภาวะน้ำท่วมที่กำลังส่งผลกระทบกับทุกๆท่านอยู่
ไปได้ด้วยดี และเปี่ยมไปด้วยกำลังใจนะคะ
จะส่งกำลังใจไปให้ทุกๆท่าน ที่มีโอกาสตลอดเลยค่ะ
สู้สู้ นะคะ

 

ขอบคุณ คุณ mead มากเลยน่ะครับ รับและเติมเต็มแสงสว่างแล้วครับ ^^

 

ข้อความต่อไปนี้ นำมาจาก FB ของคุณ SkyLight นำมาให้อ่านกันครับ
New Consciousness of Indigo in Thailand

ตอนที่ 1 กำเนิดใหม่ของเหล่า Indigo , Thailand






หลังจากที่สีคราม(นามปากกา)ได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาทำงานในฐานะของ
Indigo และ Lightworker
สีครามก็ได้พยายามรวบรวมเหล่า Indigo
แล้วปลุกให้ตื่นขึ้นมาทำงานเพื่อโลกของเรา

และสร้างกลุ่มขึ้นมาใน Facebook อย่างลับๆโดยไม่มีใครสังเกต
เป็นเวลาเกือบ 2 ปีได้
และเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 54 ที่ผ่านมา สีครามได้ทำการปิดกลุ่มลง

หลังจากที่เราได้ทำงานอย่างลับสุดยอด
ภายในกลุ่ม "เด็กแห่งแสงสว่าง Indigo to the Lightworkers. (New Consciousness)"
โดยมีแนวคิดที่ว่า

"การจะเปลี่ยนแปลงโลกต้องเริ่มที่จิตใจ
การสร้างจิตสำนึกใหม่ให้แก่โลก นั้นคืองานของเรา
New Consciousness"

หลังจากที่ปิดกลุ่มเหล่า Indigo ก็มาขอร้องให้เปิดต่อ
แต่เรา ได้สร้างตำนานฉบับใหม่ต่อจากเดิมโดยการสร้างเป็นเพจขึ้นมา

*อัล เบิร์ต ไอน์สไตน์ กล่าวว่า "ถ้ามนุษยชาติจะอยู่รอดได้ ต้องการวิถีคิดใหม่โดยสิ้นเชิง" (We shall require a substantially new manner of thinking if mankind is to survive.)

*ท่านทะไลลามะตรัสว่า อนาคตของมนุษยชาติอยู่ที่การปฏิวัติจิต (Spiritual Revolution)

*โกรฟ, ลาซโล และรัสเซลล์ (Grof, Lazlo and Russell) กล่าวว่า ทางรอดจากวิกฤตปัจจุบันคือ "การปฏิวัติจิตสำนึก" (Consciousness Revolution)



โดยได้แรงบันดาลใจจากความเจ็บปวดของแม่โลก
ที่มนุษย์ได้ทำไว้ มาทำให้เรามีแรงที่จะเปลี่ยนแปลงโลก
และสร้างจิตสำนึกใหม่ให้แก่ทุกคน
โดยหวังว่า วันนี้และวันต่อไปเราจะทำสิ่งที่ดีงามคืนแก่โลก
เพื่อเป็นการรักษาแผลใจของแม่โลก

ถึงแม้จะเป็นกลุ่มเล็กๆแต่เราก็สามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เหมือน" เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว"



และเราจะทำให้เพจนี้เป็นเพจที่จะเคียงข้างกับแม่โลก
และทำงาน เพื่อเปลี่ยนแนวคิด และจิตสำนึกของมนุษย์
ให้รู้จักกับแม่ของตัวตนที่แท้จริง

เราและธรรมชาติจะไม่ทิ้งกัน
"เพราะเราคือโลก และโลกก็คือเรา"

 

ตอนที่ 2 สิ่งที่เรามองข้าม โดย จอร์จ คอลลิน





บทความนี้เขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน ซึ่งเป็นดาราตลกที่โด่งดัง เขาเขียนขึ้นในวันที่ 11 กันยายน (ตึกเวิรด์เทรดถล่ม) หลังจากที่ทราบว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตในตึกนั้นด้วย.. ทำ..ในสิ่งที่อยากจะทำ อยากให้ทุกคนได้อ่าน ข้อความนี้ มีความหมายดีนะ
ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้นแต่ความอดกลั้นน้อยลง
เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวของเรากลับเล็กลง
เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง
เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น
เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า
แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น…………
เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง
เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง
เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้นแต่สุขภาพแย่ลง
ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น……จากนี้ไป……ขอให้พวกเรา อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ
เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ ……โอกาสที่พิเศษสุด……แล้ว
จงแสวงหา การหยั่งรู้
จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับความ…..อยาก…
จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น…….
กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป
ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุขไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด
เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย
น้ำหอมดี ๆ ที่ชอบ จงหยิบมาใช้เมื่ออยากจะใช้
เอาคำพูดที่ว่า…….สักวันหนึ่ง……..ออกไปเสียจากพจนานุกรม
บอกคนที่เรารักทุกคนว่าเรารักพวกเขาเหล่านั้นแค่ไหน
อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ที่จะทำอะไรก็ตามที่ทำให้เรามีความสุขเพิ่มขึ้น
ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที มีความหมาย
เราไม่รู้เลยว่าเมื่อไรมันจะสิ้นสุดลง
และเวลานี้….
จงอย่าลืมคิดว่า….สักวันหนึ่ง…..วันนั้น คุณอาจไม่มีโอกาสมานั่งตรงนี้เพื่อทำอย่างที่คุณต้องการอีกก็ได้

 

ตอนที่ 3 อย่าปิดกั้นหัวใจตน




สิ่งที่เกิดขึ้นอาจทำให้คุณหวาดกลัว แต่นี่คือการเตือนเพียงเท่านั้น เป็นการทดสอบจิตของคุณให้มั่นคง อย่ากลัวอนาคต อย่าจมกับอดีต อยู่กับปัจจุบันทำตนให้ดีเป็นพอ เพราะผู้ที่กำหนดไม่ใช่ใครก็คือคุณ กรรมของคุณคือผู้กำหนดคุณ จิตคือผู้นำพาเดินบนเส้นทาง ความคิดคือสิ่งที่ไม่มีตัวตนมันมักจะจมอยู่กับอดีตและอนาคต คุณอยากจะอยู่ในความคิดของตน หรือเดินต่อไปด้วยจิตของคุณเอง

เหตุการณ์ที่ผ่านมา เรารับรู้ รับทราบ นั้นคือกฎของจักรวาล สรรพสิ่งเปลี่ยนแปลง นั้นเป็นเพราะกรรมของแต่ละสรรพสิ่งนั้น ความสำคัญท่านทำให้จิตท่านสงบนิ่งเป็นพอ สัญชาตญาณท่านจะออกมาเองว่าท่านควรจะทำอย่างไร อยู่ที่ไหน จะคุยกับใคร จะเดินไปทางไหน ปล่อยให้จิตเป็นอิสระ ดั่งนกที่กำลังเริ่มบินออกจากรัง

เหตุการณ์ข้างหน้าที่ต้องเจอจะเป็นเช่นไร มันก็ไม่สำคัญแล้ว ถ้าเราเข้าใจในจิตของตน ทุกสิ่งทุกอย่างจะดำเนินการเอง โดยไม่ต้องมีใครมาพูดกรอกหู สัญชาตญาณจะบอกเองว่าคุณควรจะเชื่อ หรือไม่เชื่อ

อย่าถามว่าเหตุการณ์ข้างหน้าจะเป็นเช่นไรต่อ เมื่อถึงเวลาที่คุณควรรู้ คุณจะรู้ และถ้าไม่ถึงเวลาคุณก็ไม่รู้ แต่ไม่ต้องไขว่คว้าหรอกยิ่งไขว่คว้าเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งทุกข์ นั้นไม่ใช่แนวทางที่เราอยากให้เป็น

- ใช้หัวใจนำพา ทุกครั้ง ที่คุณเดิน อย่าถามความคิดว่าคุณจะเดินไปไหน จงถามหัวใจของตนเอง -



สาส์นนี้ไม่ต้องการสิ่งใด นอกจากการที่คุณเชื่อในหัวใจของตนเอง

สาส์น ฮิโอรุ

 

<LABEL class=uiButton for=ue1zq8_4></LABEL></FORM>
ตอนที่ 4 จุดจบแห่งกาลเวลาจุดเริ่มต้นแห่งความเป็นอมตะ





ปี 2012 คือ จุดจบเเห่งกาลเวลา ในอดีตชาวมายันได้สร้างปฏิทินขึ้นมาเพื่อสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตในจักรวาลอื่นเพราะในเเต่ละสุริยจักรวาลมีระบบช่วงเวลาที่เเตกต่างกัน ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนกับเวลาในประเทศไทย กับ ประเทศอเมริกา

เเค่ในโลกเวลาฉลองปีใหม่ยังเเตกต่างกันเห็นได้ชัดหลังจาก 21.12.2012 คือ ช่วงเวลาที่อินเตอร์เน็ตเเห่งจักรวาลจะได้รับการต่อสาย พวกเราจะสามารถสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตอื่นในอีกไม่ช้า เหตุผลง่ายๆ คือ พวกเราเป็นส่วนนึงของจักรวาล เเละเป็นสิ่งเดียวกับกับเเสงสว่าง พวกเรา คือ หนึ่งเดียวกันทำให้พวกเราสามารถสื่อสารด้วยกันได้อย่างง่ายดาย

ไอน์สไตน์ กล่าวว่า พวกเราอยู่ในมิติที่สาม เวลาจะมีเฉพาะในมิติที่น้อย (เช่น โลกของเรา)เเละเมื่อไรที่พวกเราก้าวสู่มิติที่สี่ มิติเเห่งวงล้อ มิติที่ไม่มีจุดเริ่มต้นเเละจุดจบก็จะมีเเค่การหมุนไปรอบๆ หรือ ความเป็นนิรันดร์ ที่เรียกว่า สวนเเห่งอีเดน อย่างนั้นเอง

มีข้อพิสูจน์หลายๆอย่างกล่าวว่า 2012 คือ จุดจบเเห่งกาลเวลา จุดจบเเห่งการเติบโตขณะนี้โลกของเรากำลังจะอัพเกรด เเละ ขับเคลื่อนตัวเองไปสู่ความถี่ที่สูงขึ้นพวกเราจะได้สื่อสารกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆในจักรวาล ที่มีระดับที่สูงกว่าพวกเรามีหน้าที่ในการปรับคลื่นความถี่ตัวเองให้ได้(ด้วยความรัก,ความสงบ,ปล่อยวาง)

ศาสนาต่างๆ,ลัทธิต่างๆที่ทำให้คุณดีงาม เมตตาผู้อื่นคือ สิ่งที่จะช่วยให้คุณรอดพ้นจากการคัดเลือกเมื่อโลกอัพเกรด พวกเราก็ต้องอัพเกรด ถ้าพวกเรายังคงอยู่ในความถี่ในเเง่ลบพวกคุณก็ไม่สามารถที่จะไปพร้อมกับโลกใบนี้ได้เช่นกันจงอย่าหวาดกลัวกับการเปลี่ยนเเปลง โลกก็เหมือนกับเด็กน้อยเเห่งจักรวาลที่กำลังจะโตเป็นสาวเต็มตัวเท่านั้นเอง

 

ตอนที่ 5 ย้ายมิติขณะมีชีวิต




การย้ายมิติเเห่งจิตวิญญาณ เมื่อจิตวิญญาณของคุณมีระดับความเชื่อเเละความศรัทธาเเตกต่างกั&shy;นคุณจึงอยู่ใน สถานที่ที่เเตกต่างกันคนจิตสูงจึงอยู่ด้วยกัน คนจิตต่ำจึงเป็นเพื่อนกันตามอัตภาพของสติเเละปัญญาเพราะฉะนั้นส&shy;ิ่งที่เกิด ขึ้นกับคนอื่นจึงไม่มีวันที่จะเกิดขึ้นกับเรา เช่น ขณะที่โลกใบนึงกำลังเกิดสงครามหรือภัยพิบัติอย่างน่าสยดสยอง โลกอีกใบนึงกำลังมีเเต่ความสงบเเละธรรมชาติที่สวยงามเพราะจิตวิ&shy;ญญาณได้เเยก มิติต่างๆออกไปเป็นโลกมิติคู่ขนาน เเต่ทุกอย่างเชื่อมโยงถึงกันเราถึงมีโอกาสได้รับรู้ข้อมูลข่าวส&shy;ารต่างๆ ถึงเเม้เราจะอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย การรับรู้ของสัญชาตญาณของมนุษยชาติเเละสรรพสัตว์ทั้งหลายในเเต่&shy;ละมิติ จากอาการเจ็บป่วยภายในหรือ ความเครียดที่เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุผลในบางครั้ง ...

 

ตอนที่ 6 เลข 11.11 หมายถึงอะไร ?




คงมีหลายๆคน ที่มีโอกาส เห็นหมายเลข 11.11 อยู่บ่อยครั้ง

เเต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เห็นเลขนี้ ความหมายของเลขนี้ เกี่ยวกับความทรงจำในสมอง เเละเกี่ยวเนื่องกับปี 2012


เพราะเป็นการเริ่มต้นใหม่ของ การตื่นทางจิตวิญญาณของทั้งสากลจักรวาล
วันเริ่มต้นการเดินทางของจิตวิญญาณเพื่อเข้าสู่ปี 2012 คือ วันที่ 1/1/11 เเละ 11/11/11

คนที่เห็นหมายเลข 11.11 มักจะเป็นคนที่มีสัมผัสที่ 6, รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับปฏิทินมายัน,ปี 2012, เกมส์ อิลูมิเนติ,

เเละเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งลี้ลับเหนือปรากฎการณ์ธรรมชาิติเป็นอย่างดี

การที่คนธรรมดาเห็นหมายเลข 11.11 เหมือนกับ คำใบ้ เเละ การติดต่อสื่อสารจากพระเจ้า หรือ เทพเทวานั้นเอง

หรือ การเรียกร้องความสนใจให้เราได้รับรู้ว่า ถึงเวลาที่เราต้องติดต่อกับจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์เเล้วนั้นเอง

เเล้วหมายเลขนี้ คือ อะไร?

หมายเลขนี้ไม่ว่าจะเห็นที่ใด ไม่ว่าจะเป็นเวลาในนาฬิกา,ปฏิทิน และ สิ่งรอบๆตัว

หมายเลข 11 คือ หมายถึง การรวมกันเป็นหนึ่ง เป็น สัญลักษณ์ เเห่ง เเสงสว่าง ตัวเเทนของ เทพเจ้า หรือ พระเจ้านั้นเอง

ดังนั้น ผู้ใดก็ตามที่เห็น หมายเลขดังกล่าวอยู่เป็นประจำ หมายความว่า

ร่างกายของท่านกำลังปรับสภาวะ คืนสู่ ความบริสุทธิ์เเห่งจิตวิญญาณ

หรือ ที่เรียกว่า ปรับสภาวะ DNA เตรียมเข้าสู่ยุคเเห่งโลกใหม่ เชื่อมโยงตนเองเข้าสู่ จุดเดียวกับพระเจ้า

ผู้ใดก็ตามที่เห็นหมายเลข 11.11, 1111, 1234, 22.22 เเละเลขเรียงกันเหล่านี้

หมายความว่า ถึงเวลาที่คุณกำลังจะรู้จักตัวตนที่เเท้จริงของตนเองเสียที

นอกจากนี้ หมายเลข 1 เมื่อเทียบกับตัวอักษรโบราณ อ่านว่า isa แปลว่า "อดทน"

ดังนั้นคนบางคนไม่ต้องเเปลกใจว่าทำไมถึงเห็น หมายเลข 11.11 อยู่บ่อยครั้ง เมื่อคุณกำลังท้อใจ และ ต้องการกำลังใจ

 

ตอนที่ 7 ตราประทับครั่งของเอกภพ 1/1/11





Symptoms of Vibrational Sickness
หวาดระแวง พลังงานชีวิตต่ำ ซึมเศร้า เป็นหวัด นอนกระสับกระส่าย ถ่ายท้อง เหงื่อออกกลางคืน หรืออยากนอนทั้งวัน

ใน วันขึ้นปีใหม่ตราประทับได้ถูกแกะ ตราประทับครั่งของเอกภพได้ถูกประทับผนึกอยู่นานมากแล้วโดยสัญญาของผู้สร้าง สำหรับวิวัฒนาการของการระลึกรู้ (the evolution in consciousness) ของดาวเคราะห์โลกและทุกชีวิตที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ดังกล่าว ตราถูกผนึกปิดพร้อมคำสั่งว่าไม่สามารถถูกแกะจนกว่าจะถึงวันขึ้นปีใหม่ คศ ๒๐๑๑ ถ้าการระลึกรู้ของมนุษย์และการสั่นสะเทือนจะวิวัฒน์ถึงจุดที่พันธสัญญาจิต วิญญาณจะถูกเปิดออกและเริ่มใช้งาน โชคช่วยที่จิตวิญญาณของมนุษย์ณ วันดังกล่าวมาถึงจุดที่เป็นไปได้ จึงมีการแกะตราประทับและเปิดพันธสัญญาในวันปีใหม่ที่ผ่านมา

มิตรทั้ง หลาย แปลว่าโลกและทุกผู้ทุกนามที่ใช้ชีวิตบนดาวเคราะห์นี้ได้เข้าสู่เวลาแห่งการ ขยายและการตื่น แม้ว่ารอบตัวท่านดูจะเต็มไปด้วยสัญญาณแห่งความสับสนและความตกต่ำเชิงความ สัตย์จริงของความเป็นมนุษย์ ศักดิ์ศรี และการดำรงอยู่ แต่ทว่าในขณะนี้ท่านได้เข้าสู่เวลาที่นำสิ่งตรงข้ามกับสิ่งที่ท่านกำลัง เผชิญอยู่มาให้ ท่านได้เข้าสู่การเกิดที่แท้จริงของดาวเคราะห์โลก คือรุ่งอรุณของยุคแห่งการตื่นรู้นั่นเอง

เนื่องจากตราประทับของ พันธสัญญาได้หลุดออกแล้ว อรุณรุ่งแห่งยุคการตื่นรู้ได้มาเยือนโลกแล้ว พลังงานที่หนาแน่นกว่ายุคสมัยใดๆ ในประวัติศาสตร์ของดาวเคราะห์โลกทำให้หลายท่านหรือเกือบทุกท่านได้สัมผัสกับ ผลของคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น เกิดเป็นความไม่สบายอย่างยิ่งหรือการเจ็บป่วยของกายเนื้อ แม้ว่าบางอาการอาจจะเคยเกิดกับท่านก่อนหน้านี้แล้ว แต่ในครั้งนี้จะรู้สึกว่าหนักกว่าเดิม เราขอส่งความรัก ความเข้าใจ และการสนับสนุนมาสู่ท่าน

 

ตอนที่ 8 การจัดการความเจ็บป่วยจากความถี่เปลี่ยน





เนื่องจากตราประทับครั่งได้ถูกเปิดออก และโลกกำลัง
เคลื่อนตัวเข้าสู่มิติที่ 5 จึงมีคลื่นความถี่สูงขึ้น
บางคนอื่นจะมีอาการปวดหัว หรืออาการเจ็บป่วยต่างๆ
เนื่องจากร่างกายไม่สามารถรับคลื่นความถี่นั้นได้
และมีอีกกรณีหนึ่ง คือร่างกายกำลังอัพเกรดเพื่อรองรับคลื่นความถี่ที่สูงขึ้น
วันนี้จึงนำข้อแนะนำในการจัดการกับความเจ็บป่วยจากการเปลี่ยนความถี่
มาบอกกัน

๑ ดื่มน้ำเพิ่มขึ้น ให้ดื่มมากขึ้นร้อยละ ๒๕ ถึง ๕๐ เพราะปรกติพวกท่านดื่มน้ำสะอาดไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอยู่แล้ว น้ำสะอาดจะช่วยเพิ่มพลังงานสั่นสะเทือน ช่วยปรับสมดุลสนามพลังงานแม่เหล็กของท่านซึ่งจะทำให้ความหวาดกลัวของท่านลด ลง ช่วยขับพลังงานที่เป็นพิษและของเสียออกจากร่างกายอันมาจากสิ่งแวดล้อม ความคิดของท่าน และพลังงานที่ส่งเข้ามาจากการมีปฏิสัมพันธ์ต่อผู้อื่นและกระแสที่ได้รับจาก สื่อทุกรูปแบบ น้ำสะอาดคือเครื่องล้างอารมณ์ที่เป็นพิษได้ดีที่สุด

ขณะ อาบน้ำให้จินตนาการว่าน้ำแต่ละหยดเป็นแสงบริสุทธิ์พาเอาพลังงานลบจากผิวกาย ไปกับหยดน้ำที่มีแสงบริสุทธิ์ดังกล่าวลงท่อน้ำทิ้งไป ให้แสงสว่างเกาะผิวกายแทนสิ่งแปดเปื้อนที่เพิ่งชำระไป


๒ ออกกำลังกายทุกวัน วิธีใดก็ได้ เดิน เต้นรำ เล่นกับหมาแมวและเด็กๆ หรือใช้บันไดแทนลิฟต์สักสามสี่ชั้น การออกกำลังกายนอกจากดีกับระบบไหลเวียนโลหิตแล้วยังทำให้พลังงานดีๆและความ ถี่สูงๆที่มาสู่ร่างกายเราได้มีการหมุนเวียนไม่ติดขัดในร่างกายและทำให้เกิด ความไม่สบายกายขึ้น ถ้านั่โต๊ะทั้งวันก็ให้เปลี่ยนอิริยาบททุกชั่วโมงและดื่มน้ำสะอาดด้วย
๓ ท่องบ่นมนตรา บอกตัวเองทุกวันว่า
"ฉันเป็นผู้สร้างการไหลเวียนและความสุขสมบูรณ์ให้แก่ร่างกายฉัน ฉันเป็นผู้สร้างชีวิตของฉัน"
หรือจะสวดมนต์ก็ได้

๔ กินดี รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมื้อเล็กวันละสี่ถึงห้ามื้อแทนมื้อหลักสามมื้อ รับประทานพืชผักผลไม้ในท้องถิ่นของตน ลดการบริโภคข้าว แป้ง น้ำตาลขัดขาวและอาหารจั้งค์อื่นๆ บางท่านอาจอยากลดอาหารเนื้อสัตว์ ฟังร่างกายของท่านเอง

๕ รู้ถึงแรงต้าน แรงต้านของร่างกายและในสนามพลังงานของร่างกายเป็นการเพิ่มปฏิกิริยาทาง กายภาพต่อการเพิ่มแรงสั่นสะเทือนซึ่งท่านกำลังสัมผัสอยู่ เมื่อคุณต้านหรือต่อสู้กับบุคคล เหตุการรืหรือความคิดท่านจะสร้างเครื่องกั้นพลังงานที่เส้นกึ่งกลางกายเด เป็นความบอบช้ำหรือเจ็บปวดทางกายหรือทางจิตวิญญาณได้ ขอให้สังเกตเช่น ภาวะที่ท่านต้องการควบคุมสถานการณ์หรือผู้อื่นหรือขวางกรแส พยามยามปล่อยสิ่งเหล่านี้ไปเสีย เรียนรุ้เทคนิคในการไม่ยึดติดกับผลของการกระทำ เมื่อพลังงานผ่านกึ่งกลางตัวของท่านได้ง่ายก็จะลดอาการไม่พึงประสงค์ได้

๖ ดูเจตนา มนุษย์ไม่จำเป็นต้องทุกข์หรือทรมานตัวเองให้เป็นที่รักของศาสดาหรือพระเจ้า ผู้สร้างใดๆ ท่านต่างเป็นมนุษย์ที่เต็มสมบูรณ์และได้รับความรักอย่างไม่มีเงื่อนไขจาก จักรวาลทั้งมวล ตั้งใจให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปด้วยความง่ายดายทั้งทางกายภาพ จิตใจ อารมณ์และจิตวิญญาณ กรุณาให้ของขวัญชิ้นนี้ต่อตนเอง ท่านจะผ่านเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงไปได้ง่ายกว่าเดิม

ด้วยรัก จาก I AM My Greater Presence

 

วันนี้ไปเจอรูปคุณ Senju ใน FB ด้วย
ได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้นแล้ว รวมตัวกันไว้นะครับ

 

จากข้อความต่างมิติของ Salusa ด้านบนและจาก Inelia
ดูเหมือนจะมีความไม่ปกติเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลา-พฤศจิกายนซะแล้วครับ

The United States of America - Call to Action

The United States of America - Call to Action



October 2011


ฉันถูกปลูกฝังให้ “เกลียดชัง” ประเทศสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่เด็ก ด้วยเหตุผลที่ว่า
ไม่ว่ายังไงก็ตาม “พวกเขา” ก็คือผู้ที่จ่ายเงินสนับสนุนให้เกิดการปฏิวัตรัฐประหารอย่างโหดเหี้ยมและนองเลือดขึ้น
ของกองกำลังฝ่ายขวาในประเทศชิลี ตอนที่ฉันอายุได้ 7 ขวบ ซึ่งทำลายครอบครัวของฉัน
และฆ่าเพื่อนๆของพวกเราตายไปหลายคน

และเมื่อฉันย้ายมาอยู่และโตที่ประเทศอังกฤษ ฉันก็ยิ่งถูกสอนให้ “เกลียดชัง” ประเทศ USA มากขึ้นไปอีก
ประกอบกับผู้อพยพส่วนใหญ่ที่พวกเรารู้จัก ที่มาจากส่วนต่างๆของโลก ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า
สิ่งที่พวกเขาสอนกันมาในท้องถิ่นของพวกเขาเกี่ยวกับ USA นั้นๆมันเป็นความจริงจริงๆ

..ใช่แล้วประเทศ USA จะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด..

แต่เมื่อฉันถูกนำทางมาที่นี่ มาอยู่ที่ดินแดนแห่งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน California
ฉันมีโอกาสมากพอที่จะ “หนี” ไปจากดินแดนแห่งนี้ เพื่อไปอยู่ที่อื่นที่ปลอดภัยกว่า ที่สมดุลมากกว่า
และวุ่นวายน้อยกว่า แต่ฉันก็ไม่ทำ ฉันเลือกที่จะอยู่ที่นี่ แล้วฉันก็ตัดสินใจที่จะเริ่มสังเกตและศึกษา
“พลังงานมวลรวมของชาว USA ทั้งประเทศ” และรวมถึงเริ่มสังเกตและศึกษาวัฒนธรรมและตัวชาว USA เองด้วย


และสิ่งแรกที่ฉันได้รู้อย่างแจ่มแจ้งก็คือ
“มันไม่ใช่ชาวอเมริกัน” แต่อย่างใดเลย ที่เป็นคนทำลายประเทศชิลีของฉัน
แต่มันคือกลุ่มคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่ง ที่ “เคยมี” พลังอำนาจต่างหากหละ

เพราะว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ ไม่รู้แม้กระทั่งว่า
ประเทศชิลีอยู่ตรงไหนเสียด้วยซ้ำ
หรือไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีประเทศที่ชื่อชิลีอยู่ในโลกนี้ด้วย


และอย่างที่สองที่ฉันรู้อย่างแจ่มแจ้งอีก
และเป็นประเด็นที่สำคัญมากอันหนึ่งก็คือ
ชาวอเมริกันเอง ก็เป็นพลเมืองของโลกอีกชนชาติหนึ่ง
ที่กำลังถูกกดขี่ข่มเหงมากที่สุดอยู่เหมือนกัน


พวกเขาถูกวางยาในน้ำดื่ม (เช่นการเติมสารฟลูออไรด์ ซึ่งเป็นสารที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่ง ลงไปในน้ำดื่ม
แต่โฆษณาชวนเชื่อว่า เพื่อเสริมสร้างสุขภาพ เช่น ให้ฟันแข็งแรง เป็นต้น – ผู้แปล),
พวกเขาถูกวางยาในอาหาร, พวกเขาถูกทำ Chemtrials (การโปรยสารพิษในอากาศ เพื่อลดภูมิต้านทางมนุษย์
หรือเพื่อบั่นทอนสุขภาพของผู้คน ซึ่งเกิดขึ้นใน USA แคนนาดา และอีกหลายประเทศ โดยเฉพาะทางแถบยุโรป
ซึ่งเป็นฝีมือของกลุ่มอิลลูมินาติ – ผู้แปล) ,

พวกเขาถูกทำร้ายด้วยเทคโนโลยีสร้างความสั่นสะเทือน (เช่น HAARP และอื่นๆ) ,
พวกเขาถูกทำให้ติดยาตามแพทย์สั่ง, ถูกทำให้ติดแอลกอฮอล์,
พวกเขาถูกทำให้กลายเป็นคนโง่ที่ถูกหลอกลวงโดยโทรทัศน์ และวิทยุ,

และพวกเขาก็มีระบบการศึกษา และโปรแกรมการศึกษา ที่เป็นอันตรายร้ายแรงและเลวร้ายที่สุดในโลกอีกด้วย
ระบบประกันสุขภาพของพวกเขา ก็ถูกออกแบบมา เพื่อทำให้พวกเขาป่วยอยู่ตลอดเวลา
และพวกเขาก็ไม่ได้รับการเอาใจใส่ที่จะเยียวยาให้หายจริงๆซะด้วย
(เพราะว่าถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว มันก็จะไปทำลายอุตสาหกรรมยาเข้าหนะสิ)


ฉันเคยถามตัวเองว่า ทำไมพวกเขา (กลุ่มอิลลูมินาติ – ผู้แปล) ถึงจะต้องทุ่มเงินลงทุนนับล้านล้านดอลล่าร์
เพื่อกดขี่ประชากรของประเทศนี้เอาไว้ด้วยหละ? ประชากรของประเทศนี้ มีอะไรสำคัญนักหรือ
หรือมีอะไรพิเศษอย่างนั้นหรือ ถึงต้องโดนกระทำอย่างที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดนี้
เพื่อที่จะทำลายเสรีภาพพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ของพวกเขา และเพื่อที่จะทำลายศักยภาพของพวกเขา
หรือพลังอำนาจที่มีมาแต่กำเนิดของพวกเขาไปให้จงได้?


เอาหละ..เรามาดูกันนะ..ประเทศ USA คือประเทศที่เป็นผู้ริเริ่มการเคลื่อนไหวสู่ยุคพลังงานใหม่ (New Age Movement) ,
เป็นผู้ให้กำเนิดระบบอินเตอร์เน็ต, เป็นผู้ให้กำเนิดเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล,
เป็นผู้ริเริ่มการเคลื่อนไหวเรื่อง “โลกสีเขียว” และอื่นๆอีกมากมาย

ประเทศนี้มีความเกี่ยวข้องกับหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ถูกนำออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงในมิติที่ 3 แห่งนี้
แล้วสามารถเปลี่ยนโลกไปทั้งโลกได้

ใช่แล้ว..วิถีชีวิตแห่งสันติภาพของพวกเขา ได้ถูกปล้นสดมไปเสียแล้ว ครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยวิธีการต่างๆ
แม้แต่การใช้วิธีการทำให้ประเทศนี้ตกเป็นจำเลย (ของเรื่องชั่วร้ายทั้งหลาย – ผู้แปล)
เพื่อให้ผู้คนทั้งโลกเกลียดชังประเทศนี้ และประชาชนของประเทศนี้ก็ตาม

..แต่ก็ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่คงเหลืออยู่ บางอย่างยังคงอยู่ที่นั่นเสมอ..


ขณะนี้..คือเดือนตุลาคม และเดือนพฤศจิกายน ปี 2011

ประชาชนพากันออกมาชุมนุมตามท้องถนนต่างๆ เพื่อเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ซึ่งก็ไม่ใช่เพียงแต่ใน USA เท่านั้น แต่หมายถึงทั่วทั้งโลก

ในประเทศ USA รัฐบาลของพวกเขา ได้ยึดเอาสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลของพวกเขาไปอย่างเป็นระบบ
ดังนั้น ฉันจึงไม่รู้สึกแปลกใจแต่ประการใดเลย ที่หากอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ พวกเขาจะประกาศกฎอัยการศึก
เพื่อทำให้ประเทศนี้กลายเป็นประเทศที่อยู่ภายใต้การปกครองของเผด็จการทหาร..
หรืออย่างน้อยก็พยายามจะทำให้เป็นเช่นนั้น

ฉันเห็นมาตลอดว่า ผู้คนทั่วโลกหัวเราะเยาะสปิริตของชาวอเมริกัน ว่า
“มันจะไม่เกิดขึ้นที่นี่ ฉันรับประกันได้” แต่ฉันรู้สึกมั่นใจว่า ถ้า “ผู้ที่เคยมีอำนาจ”
พยายามที่จะทำลายประเทศนี้แล้วหละก็ จะไม่เพียงแต่ชาวอเมริกันเท่านั้น
แต่จะเป็นประชาชนทั่วทั้งโลก ที่จะออกมายืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่กัน
เพื่อให้การสนับสนุนสิ่งที่กำลังจะมาถึง.. แล้วอะไรหละที่กำลังจะมาถึง?

มันก็คือการเกิดใหม่อีกครั้งที่กำลังจะแผ่ขยายไปทั่วทั้งโลกอยู่ในขณะนี้นั่นเอง
ธรรมชาติของคลื่นลูกใหม่นี้ คือ “การตื่นขึ้นครั้งใหญ่ของคนทั้งโลก” อย่างหนึ่ง

ใช่แล้ว มันจะเป็นการตื่นขึ้นที่จะส่งผลกระทบไปถึงแม้กระทั่งคนที่หลับลึกที่สุดด้วย
แม้ว่าบางคนอาจจะยังไม่ตื่นขึ้นมาสู่กระบวนทัศน์ใหม่นี้อย่างเต็มที่ก็ตาม แต่อย่างน้อย
ก็พอจะทำให้พวกเขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในยุคพลังงานใหม่นี้ โดยไม่ช็อกมากเกินไปนัก


เมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมานี้ ฉันถูกขอให้เพิ่มเวลาในการทำสมาธิของฉันขึ้นอีก
(โดยส่วนตัวแล้ว ฉันคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาแห่งการปรับเปลี่ยนช่วงหนึ่ง ที่พลังงานสามารถหลั่งไหลเข้ามาสู่โลกได้)
จากเดิมวันละครึ่งชั่วโมง เป็นวันละ 4 ชั่วโมงแทน และตอนนี้ ฉันก็ยังปฏิบัติแบบนี้อยู่
แต่ร่างกายของฉันไม่ได้ถูกฝึกมาแบบนี้ ดังนั้นจึงยังต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่

มันเกี่ยวข้องกับการดูดซับเอาความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น เข้ามาสู่สถานที่ๆเราอยู่อาศัย
และเข้ามาสู่หมู่คณะของเราทุกๆคนด้วย


เพราะฉะนั้น วันนี้ ฉันจึงได้รับลิงค์ๆหนึ่ง มาจาก Lance White (Zany Mystic)
เกี่ยวกับเรื่องที่น่าทึ่งมากเรื่องหนึ่ง ซึ่งเขียนโดย Cal Garrison อธิบายถึงสิ่งที่ผู้อาวุโสชาวมายันของพวกเรา
ได้วางแผนเอาไว้สำหรับสองสามเดือนหรือปีข้างหน้านี้ และมันก็สอดคล้อง และตรงกันกับ
ข้อมูลที่ฉันได้รับมาก่อนหน้านี้พอดีซะด้วย

ซึ่งลิงค์ที่ว่านั้นก้คือลิงค์นี้:

"THE MAYAN ELDERS, THE THIRTEEN CRYSTAL SKULLS,
AND THE SIGNIFICANCE OF THEIR UPCOMING CEREMONIAL PILGRIMAGE
ACROSS THE UNITED STATES"

The Spirit of Ma'at — October, 2011 — THE MAYAN ELDERS, THE THIRTEEN CRYSTAL SKULLS, AND THE SIGNIFICANCE OF THEIR UPCOMING CEREMONIAL PILGRIMAGE ACROSS THE UNITED STATES — By Cal Garrison

(เดี๋ยวสักประเดี๋ยวผมจะแปลและโพสต์เนื้อหาของลิงค์นี้ให้อ่านนะครับ – ผู้แปล)


แล้วพวกเราทั้งหลาย จะสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อให้การสนับสนุน
และให้ความช่วยเหลือในกระบวนการแห่งการเกิดนี้หละ?

คำตอบก็คือ

- โดยการใช้เครื่องมือที่ฉันได้เคยให้เอาไว้แล้ว ในการจัดการกับความกลัวของพวกคุณเอง
จากนั้นก็ขยายขอบเขตออกไปจัดการกับความกลัวระดับประเทศของพวกคุณ แล้วก็ระดับโลกต่อไป
ซึ่งทั้งนี้ก็เพื่อที่จะทำให้พวกคุณเองมีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงนั่นเอง

- โดยการช่วยกันจินตนาการถึงโลกที่ปราศจากมลภาวะ
- โดยการชำระสะสางสิ่งที่เป็นตัวถ่วงให้พวกคุณตกต่ำลงให้ออกไปให้หมด

- โดยการปฏิบัติตามหลักสูตรการเลื่อนระดับขึ้น (the Ascension Course) ของฉัน
และโปรดจำไว้ว่า การไม่มีเงินนั้นไม่สามารถใช้เป็นข้อแก้ตัวได้เลย

(เพราะว่าหลักสูตรอบรมหรืออะไรต่างๆทั้งหมด ที่แม้ว่าจะเกี่ยวกับทางด้านจิตวิญญาณก็ตาม
ของพวกฝรั่งนี่ ส่วนใหญ่จะต้องจ่ายตังค์ซื้อหนะนะครับ – ผู้แปล)
เพราะว่าคุณสามารถเขียนจดหมายมาถึงพวกเราได้ แล้วคุณก็จะได้รับ copy ฟรีๆไปใช้ศึกษาและปฏิบัติ
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการทำภารกิจช่วยเหลือโลกของพวกคุณเอง
แต่สิ่งที่คุณจะต้องอธิบายในจดหมายนั้นก็คือ บอกพวกเรามาว่าปัญหาของคุณคืออะไร
และคุณจะต้องให้สัญญากับพวกเราว่า คุณจะเรียนให้จบหลักสูตรนั้นจริงๆ

- โดยการใช้เครื่องมืออื่นๆและวิธีการปฏิบัติแบบอื่นๆทั้งหมด ที่พวกคุณได้เรียนรู้มาแล้ว
ที่จะสามารถช่วยเพิ่มพลังอำนาจ หรือช่วยให้มีพลังอำนาจขึ้น ในตัวพวกคุณแต่ละคน
และในตัวพวกคุณทุกๆคนบนโลกใบนี้ได้

- จงจำไว้ว่า ตอนนี้พวกเราคือ “คนๆนั้น” แล้ว คนที่พวกเราเฝ้ารอคอยที่จะเป็นมานานแสนนานแล้ว
ตอนนี้พวกเราเองนี่แหละคือ “ทวยเทพ” หรือ “ผู้ไถ่บาป” ที่ชาวโลกได้อธิษฐานขอเอาไว้มาหลายชั่วอายุคนแล้ว
พวกเราจะมาเพื่อทำให้ตัวเองรู้แจ้ง และมาเพื่อช่วยชีวิตตัวพวกเราเอง

- และโดยการ “ส่งแสงสว่างอันบริสุทธิ์” และ “ความรักที่ปราศจากเงื่อนไข” ไปให้กับชาว USA
(จงจัดการกับความรู้สึกไม่ดีใดๆที่เกิดขึ้นในขณะที่พวกคุณอ่านข้อความเมื่อตะกี๊นี้ซะด้วย)


เหตุการณ์แห่งความน่าสะพรึงกลัวหลายอย่าง
ที่จะเกิดขึ้นในประเทศ USA ภายในเดือนตุลาคม และพฤศจิกายนปีนี้
ได้ถูกวางแผนเอาไว้แล้ว และบางทีอาจจะมีประเทศอื่นๆด้วยก็ได้

จงอย่าไปเห็นด้วยหรือยินยอมกับแผนการเหล่านี้
และจงเห็นด้วย และยินยอมกับการมีชาวโลก และดาวเคราะห์โลกที่ใสสะอาดแทน

และในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ ฉันกำลังจะเดินทางกลับไป และอยู่ใน “US of A” ให้นานที่สุดเท่าที่จำเป็น


(ปล.วิธีการ “ไม่ยินยอม” กับเรื่องราวใดๆในชีวิตของพวกเรา หรือของโลกก็ตาม Inelia บอกไว้ว่า:


“ให้เลือกบุคคล, สถานการณ์, สถานที่, เรื่องราวส่วนตัว หรือเหตุการณ์ระดับโลกก็ตาม
ที่พวกคุณไม่เห็นด้วยมา จากนั้นก็ให้วงกลมสีแดงไว้รอบๆมัน หรือขีดฆ่ามันด้วยเส้นสีแดง
แล้วพูดออกมาว่า “ฉันไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้”


จากนั้น ก็ให้จินตนาการถึงสิ่งที่พวกคุณอยากจะเห็น หรือเห็นด้วยแทน
แล้วทำเครื่องหมายถูกสีเขียวไว้ตรงเรื่องนั้นๆ

มันเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายๆและรวดเร็วมากๆเลย แต่หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า
มันจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องราวความเป็นไปใดๆในชีวิตได้เลย..

..แต่มันทำได้..

ลองดูสิ! ลองทำกับเรื่องใหญ่ๆดูสิ!
แล้วก็ลองทำกับเรื่องเล็กๆดูด้วย
ทำทุกๆวัน แล้วจับตาดูผลลัพธ์ของมันให้ดี..

..Inelia Benz..”
ที่มา: Agreement - our choice. )

 

ครับ คุณ Mead มี Facebook รึปล่าวครับขอหน่อยได้มั๊ยครับ ^^

 

ผมมีเรื่องหนึ่งอยากเล่าให้ฟังหนะครับ

คือเมื่อเดือนก่อนหรือไงนี่แหละ คุณเดรดเธอเกิดอาการแปลแล้วหยุดไม่ได้
เธอก็เลยแปลข้อความออกมาให้ผมติดๆกันถึง 3 ข้อความ
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Quantum จากครายออน,
เรื่องปิระมิด ของท่านเทพเมตาตรอน
และเรื่องปฏิทินชาวมายา + กะโหลกคริสตัลทั้ง 13 ของท่านเมตาตรอนอีก
และเร็วๆนี้ แถมมาอีก 1 ข้อความเป็นเรื่อง Law of Attraction

ก็..ตามสไตล์ของผมหละครับ คือผมเกลาและโพสต์ไม่ทันทั้งหมดหรอกครับ
ผมเลยใช้ Sense เลือกเอามาเกลาและโพสต์ทีละข้อความ

ตรงนี้แหละที่อยากจะเล่าให้ฟังครับ..เพราะว่า..
มันเกิด "ความบังเอิญที่เหลือเชื่อ" อีกแล้ว

ก็ใครจะไปรู้หละว่าทำไมคุณเดรดเธอถึงอยากจะแปลข้อความพวกนี้นัก
และทำไมผมถึงเลือกลำดับในการเกลา และ โพสต์ข้อความเหล่านี้แบบนี้

คือภายใน 4 ข้อความนี้ ผมเลือกโพสต์ของครายออนก่อน
เพราะเนื้อหาในนั้นดูเหมือนจะต่อเนื่องกับกระทู้ก่อนๆอยู่
แต่ที่ผมประทับใจก็ตอนที่เลือกโพสต์เรื่องปิระมิดเป็นเรื่องที่สอง
แล้วตามด้วย เอาเรื่อง Law of Attraction มาแทรกก่อนนี่แหละ

มันยังไงดีหละ..คือเนื้อหาของข้อความจากต่างมิติที่พวกเราโพสต์ๆกันอยู่นี่
ถ้าสังเกตให้ดี จะเห็นว่า มันเข้ากันได้กับสถานการณ์ในขณะนั้นๆพอดีเลยนะครับ
เช่น เรื่อง Law of attraction ของท่านเทพเมตาตรอนนี่
เข้ากันได้กับสถานการณ์น้ำท่วมเป๊ะๆเลย นี่ถ้าชาวไทยที่กำลังเจอภัยน้ำท่วมอยู่
ได้มาอ่านข้อความนี้ทุกๆคน ก็น่าจะคลายทุกข์ไปได้เยอะเลยทีเดียวนะครับผมว่า

และข้อความสุดท้ายของคุณเดรดในชุดนี้ ที่ผมตั้งใจจะโพสต์ต่อไปก็คือ
เรื่องปฏิทินมายันและกะโหลกคริสตัลนี่แหละครับ
ก็พอดี้พอดี..ไปอ่านและแปลของ Inelia มา ก็พูดถึงเรื่องนี้พอดี้พอดี
เลยนึกเอะใจว่า..

เอ..หรือว่ามันต้องได้จังหวะ และเวลาของมันซะก่อนนะ
มันถึงจะมีแรงกระตุ้นให้เราอยากไปแปลและอยากโพสต์มัน

สนุกดีเหมือนกันนะครับ..มีเรื่องบังเอิญๆเกิดขึ้นเรื่อยๆ
....ไม่เบื่อดี...

................................................

 

เมื่อคืน ตื่นกลางดึก ดูเวลาและเผื่อจะมีข้อความส่งมา เวลาในโทรศัพท์ 01:11 น.