ข้อเท็จจริง จากเจ้าของภาพเขียน หลวงปู่เทพโลกอุดร

อ่านภาษิตของหลวงปู่เดิม นะครับ เพื่อความสันติอยู่ร่วมกันด้วยความสุขใจ ทั้งสองฝ่าย

 

เอาละค่ะ ไหนก็เข้ามาแล้วรู้สึกเหมือนมีเขาอยู่บนหัวสองข้างไปด้วย ก็ขอทำตัวมั่วนิ่มเป็นมันไปด้วยเลยก็ละกัลลลลลลลล

ใครเขาจะละเมิดอย่างไรในเบื้องต้นก็มิทราบค่ะ ทราบแต่ว่าเราก็มีภาพข้างต้นบูชาด้วยกะเขาเหมือนกัล เราบริสุทธิ์ไม่รู้เห็นด้วยกะเขา พระท่านน่าจะสงเคราะห์ให้เป็นที่พึ่งพิงแก่ผู้บูชานะค่ะ

ขอเล่าว่า จำไม่ได้ว่าประสบการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้มาก่อนหรือหลังภาพนี้ ก็จำไม่ได้แน่ แต่คิดว่ามาภายหลังบูชาไปร่วมเกือบเดือนค่ะ

วันหนึ่งฝันไปว่า(ตื่นแล้วกำลังจะหลับไปใหม่ บางท่านเขาก็เรียกว่า ภวังค์) ได้กลิ่นอะไรก็บอกไม่ถูก รู้แต่ว่าหอม ๆ โชยเข้ามา ดมกลิ่นได้ชัดเจน และในฝันก็เห็นบุคคล(ขอเรียกว่าเทพ) มาเยือนจำนวน 5 ท่าน ไร้การสื่อสารด้วยคำพูดใด ๆ มีแต่ภาพท่านให้ชมบารมีเพลิน ท่านให้พิจารณา ใบหน้า 1 ท่าน อีกท่านให้พิจารณาก้านคอลงมาถึงช่วงอก มีสัญญาลักษณ์เป็นลิง/หนุมาน/สิงห์ ตัวสีขาว 1 ตัว อีกท่านหนึ่งไม่ยอมให้พิจารณาใบหน้าเลย และอีก 2 ท่านไม่ปรากฎใด ๆ

โม้ ๆๆๆ ไปเสียมากมาย ห้ามเชื่อได้ แต่ห้ามลบหลู่ ลักยิ้ม ทนไม่ได้จ้า

 

โถ ที่แท้ก็(ทำ)เป็นคนดี

 

คุณคาสโนว่าปกป้องสิทธิ์ให้ใครเพื่ออะไรหรือครับ........
ที่ถูกต้องคือต้องไปขอขมาผู้วาดคนแรกเพื่อจะขออนุญาติพิมพ์เผยแพร่หรือครับ.........ตรรกะแบบไหนกันครับ
ถ้าผมจะเผยแพร่ธรรมหรือคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ก็ต้องไปขอสิทธิ์ก่อนหรือครับ..........(บ้ากฏหมายมากไปหรือเปล่าครับ)

 

เบื่อที่จะสีซอ แล้วล่ะครับ

ประเด็นมันอยู่ที่ มีคนละเมิดสิทธิ์ จากที่ตกลงกันไว้ว่าถ้าจะสั่งพิมพ์หรือทำการใดใดกับภาพเขียนที่ผู้เขียนมอบให้ไว้ด้วยน้ำใจนั้น ต้องมีการบอกกล่าวกันก่อน

แต่กลับมีการเผยแพร่ โดยไม่ได้บอกกล่าว และเซ็นต์ลายเซ็นต์ตนเองลงไปในภาพ พร้องเขียนสงวนสิทธิ์ ซะงั้น

และสั่งพิมพ์ ภาพออกแจก หรือจำหน่าย สุดแท้แต่ พร้อมปั๊มหมายเลขหลังภาพที่พิมพ์มา

ผู้เขียนภาพ ไม่ได้้ต้องการเรียกร้องอะไร เพียงแต่ผู้พิมพ์เผยแพร่ ควรจะแสดงความประสงค์ต่อผู้เขียนเสียก่อน ว่าจะขออนุญาตนำไปพิมพ์

และผู้เผยแพร่ สมควรแล้วหรือ ที่จะสวมลายเซ็นต์ของตนเองบนภาพของผู้อื่น

นี่คือประเด็นหลัก

ภาพ มีการละเมิดตีพิมพ์โดยไม่ขออนุญาต ผู้ละเมิดก็ขออนุญาต หรือขอขมา ขอโทษต่อผู้เขียนภาพ ก็คงไม่มีปัญหาอะไรแล้ว

นี่ยังไม่อยากพูดต่อเรื่องความรู้ หรือข้อมูลที่เล่าๆ กัน ว่าเป็นมายังงัยนะ




ถ้าใช้กฏหมายตัดสิน ก็คงได้เห็นคนแก่ๆ อย่างอาจารยถม ต้องเทียวไล้ เทียวขื่อให้การล่ะสิครับ เลยไม่อยากทำอย่างนั้น แค่ทวงถามเฉยๆ ว่าตอนตีพิมพ์น่ะ ลืมสัญญาอะไรหรือเปล่า ถ้าลืมก็ทำตามที่เคยรับปากเขาไว้ซะ แค่นั้นเอง




เบื่อแล้ว ไปละ ไปกินอะไรให้อร่อยๆ ดีกว่า

สีซอมากๆ ก็เมื่อยแขน เมื่อยมือ

 

ก็เอาภาพที่เขาให้มา แล้วเซ็นต์สงวนสิทธิ์เองน่ะ มันสมควรมั้ย

คำสอนของพระองค์ฯ ท่านประกาศ เผยแพร่ครับ อย่าเบี่ยงประเด็น อย่าดึงฟ้าลงมาต่ำ ครับ ไม่คู่ควรแลยจริงๆ



สมมติ คุณวาดภาพผู้ที่คุณเคารพ ไว้เพื่อแสดงความเคารพของคุณเอง โดนส่วนตัว ผมเห็นผมสนใจอยากขอไปเคารพที่บ้านบ้าง คุณก็ให้ผมมาภาพหนึ่ง และบอกว่าถ้าจะเผยแพร่ให้บอกกันก่อน
อยู่มาวันนึง คุณเห็นภาพนั้นแหละ แต่มีลายเซ็นต์ของผม และเขียนสงวนสิทธิ์ คุณจะคิดอย่างไรครับ


คิดเองนะ ไปจริงๆ ละ บ้าย บายยยยยยยยย

 

ไม่ค่อยสุภาพเลย
เป็นทัพพีตักแกงหรือเปล่าหนอ

 

ถ้าเอาตามตรรกะของคุณเป็นผมถ้าผมจะให้ภาพคุณบูชาผมคงไม่บอกคุณหรอกว่าถ้าจะเผยแพร่ให้มาขออนุญาติผมก่อน แต่ถ้าผมบังเอิญไปเห็นภาพวาดของผมที่ให้คุณไปบูชาแล้วคุณไปเซ็นสงวนลิขสิทธิ์ ผมก็อาจโมโหหรือโกรธคุณผมว่าประเด็นมันเป็นแบบนี้มากกว่า และถ้าจะเผยแพร่ให้บอกกันก่อน(ประโยคนี้มันเพื่ออะไรครับ) ถ้าผมวาดรูปพระพุทธเจ้าไว้บูชาเองคุณมาขอผมไปบูชาผมไม่บอกคุณประโยคนี้หรอก นี่เอาตามตรรกะของคุณเลยนะและถ้าอาจารย์ประถมทำแบบคุณว่าจริงก็ไม่สมควรแต่ประเด็นของคุณคืออะไรคุณเป็นคนวาดหรือครับเห็นเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเจ้าของภาพที่คุณอ้างอีก

 

สมมติ คุณวาดภาพผู้ที่คุณเคารพ ไว้เพื่อแสดงความเคารพของคุณเอง โดนส่วนตัว ผมเห็นผมสนใจอยากขอไปเคารพที่บ้านบ้าง คุณก็ให้ผมมาภาพหนึ่ง และบอกว่าถ้าจะเผยแพร่ให้บอกกันก่อน
อยู่มาวันนึง คุณเห็นภาพนั้นแหละ แต่มีลายเซ็นต์ของผม และเขียนสงวนสิทธิ์ คุณจะคิดอย่างไรครับ


คิดเองนะ ไปจริงๆ ละ บ้าย บายยยยยยยยย

และถ้าเป็นผมถ้าคุณนำภาพพระ ที่ผมให้ไปพิมพ์เผยแพร่ผมจะอนุโมทนาอย่างสูงๆๆๆๆๆเลยครับ
ปล.ที่บ้านผมมีภาพพระ และหนังสือธรรมมะบานเลยครับคุณจะเอาไปใส่ชื่อคุณและครอบครัวคุณแล้วพิมพ์แจกผมจะยินดีอย่างยิ่งเลยครับ
นี่ตอบตามที่คุณถามเลยนะเนี่ยลงชื่อ ที่อยู่มานะครับจะส่งไปให้(ถ้าคุณสนใจพิมพ์แจกจริงๆ)

 

ผมไม่ใช่ลูกศิษย์อาจารย์ประถม ผมเชียร์ให้คุณฟ้องศาลเลยครับ
(ถ้าคุณรู้สึกว่ามันเสียหาย,เสียความรู้สึก)
ไม่ต้องไปสงสารท่านเพราะแก่หรอกครับเพราะที่คุณนำมาโพสต์เรื่องนี้ก็คงจะสงสารแกมากแล้วครับ

 

โกยเถอะโยม

 

ถ้าผมไปเอาหนังสือธรรมะที่มีขายอยู่อย่างของหลวงพ่อองค์นั้นองค์นี้มาพิมพ์ขายต่อก็ไม่ผิดใช่ไหมครับ ไม่ได้กวนนะครับอยากรู้จริงๆ คือถ้าเกิดเขาไม่ได้้เขียนว่าสงวนลิขสิทธ์ไว้นะ

หากว่าทำได้ผมควรจะบอกกล่าวท่านก่อนดีมั้ย หรือว่าพิมพ์แจกพิมพ์ขายไปเลยดี
เพราะผมเห็นว่าข้อความบนเน็ตรวมถึงรูปภาพบนเน็ตนี่บางทีก็ไม่ได้บอกว่าสงวนสิทธิ์ ก้อบมาแปะๆ ไว้เพื่อใ้ห้ความรู้คนอื่นยังโดนว่าเลยว่าให้บอกกล่าวที่มาด้วย ให้ความเคารพเจ้าของหน่อยบ่อยมากๆ

 

สงสัยคุณLOVEจะอ่านไม่รู้เรื่อง ทั้งคนตั้งกระทู้ทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยและแม้กระทั่งตัวผมเค้าถกกันในกรณีพิมพ์แจกครับ......มายังไงเนี่ยมาพิมพ์ขาย กรณีพิมพ์ขายยังต้องมาถามอีกหรือครับ
เค้าพูดกันถึงกรณีพิมพ์แจกกันอยู่ครับ

 

ขอโทษอย่างมากเลยครับ ผมปัญญาน้อย ไม่ค่อยเข้าใจถึงเรื่องที่เถียงกันจริงๆ ครับ เพียงแต่ลองถามเรื่องที่ผมพอเข้าใจได้ง่ายๆ ดู ลองถามใหม่ครับ
ถ้าผมได้หนังสือที่ทางวัดพิมพ์แจกญาติโยมมาเล่มหนึ่ง ซึ่งไม่ได้บอกกล่าวพิมพ์ลิขสิทธิ์ไว้ แล้วผมก็นำมาพิมพ์เพิ่มเติมเพื่อแจกจ่ายเอง พร้อมกับใส่สิขสิทธิ์เป็นชื่อผมไว้ด้วย เจตนาหวังดีจะเป็นคนจัดการบุญต่างๆ แจก(หรืออาจจะจำหน่ายในราคาถูก หรือแม้กระทั่งรายได้จากลิขสิทธ์เพื่อนำเงินเข้าวัด) โดยไม่ได้บอกกล่าวขออนุญาตทางวัด ด้วยเข้าใจเอาเองว่าทางวัดคงยินดีให้ทำเพราะเป็นเรื่องบุญ ทางวัดจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ

 

ตัดมาจากโกยเถอะโยม ภาคพิสดาร


หลวงพี่....เอ่อ โยม ภาพเขียนของโยม อาตมาขอเก็บไว้ดูเล่นบ้างได้มั้ย

โยม.... ก็ได้นะหลวงพี่ ผมให้หลวงพี่ไว้ภาพนึงนะ แต่ตกลงกันก่อนถ้าหลวงพี่จะให้ใครต่อ หรือจะก๊อปปี้ ต้องบอกผมก่อนนะ

หลวงพี่.....ตกลงโยม ขอบใจจ๊ะ

-------------เวลาผ่านไป----------------------
หลวงพี่ก็บรรเลงลายเซ็นต์บนภาพ เขียนสงวนสิทธิ์ และำพิมพ์ภาพนั้นแจก อาจจะแจกฟรี หรือตอบแทนคนทำบุญก็แล้วแต่

ถ้าหลวงพี่บริสุทธิ์ใจ หลวงพี่เซ็นต์สงวนสิทธิ์ ทำไมกันล่ะครับ
หลวงพี่พิมพ์เผยแพร่้เฉพาะภาพก็ได้ ถ้าไม่ได้ประสงค์อยากดัง หรือแอบอ้าง หรือเพื่ออื่นๆ (ผมไม่ทราบว่าหลวงพี่ประสงค์อะไร)

ประเด็นอยู่ที่ หลวงพี่ผิดคำพูดที่ให้คำมั่นไว้กับโยม ว่าถ้าจะเผยแพร่จะบอกกล่าวกันก่อน ไม่ได้อยู่ที่นำสิ่งที่เป็นที่เคารพไปเผยแพร่นั้นผิดหรือไม่

 

โยม.... ก็ได้นะหลวงพี่ ผมให้หลวงพี่ไว้ภาพนึงนะ แต่ตกลงกันก่อนถ้าหลวงพี่จะให้ใครต่อ หรือจะก๊อปปี้ ต้องบอกผมก่อนนะ

ปัญหามันมาตั้งแต่ประโยคนี้แล้วครับ.....
เพราะถ้าไม่มีประโยคนี้ ปัญหาประเด็นต่อๆมาไม่เกิดเลย

ประเด็นอยู่ที่ หลวงพี่ผิดคำพูดที่ให้คำมั่นไว้กับโยม ว่าถ้าจะเผยแพร่จะบอกกล่าวกันก่อน

อันนี้มันกรณีหลังกรณีแรกแต่อันนี้ผมเห็นด้วยครับ

ประเด็นคือกรณีต้นเหตุถ้าจะเอาไปพิมพ์แจกเพื่อให้ผู้อื่นบูชาต่อทำไมต้องมาบอกขออนุญาติกันก่อนครับ
ผมเห็นด้วยว่าตามมารยาทคนนำไปพิมพ์แจกต่อน่าจะขออนุญาติกับผู้วาดคนแรก
ในกรณีถ้าบุคคลทั้งสองคนจิตใจดีทั้งคู่คนแรกวาด คนที่สองพิมพ์แจกคนแรกน่าจะอนุโมทนากับคนที่สอง(ไม่ทราบว่าอันนี้คุณคาสโนว่าเห็นด้วยหรือเปล่า)
แต่ในทางกลับกันถ้าคนแรกวาด คนที่สองไปพิมพ์แจกเพื่อพาณิชย์หรือผลประโยชน์อื่นๆส่วนตัวโดยมิได้บออกล่าวขออนุญาติคนแรกอันนี้คนที่สองผิดอย่างแรงสุดๆ(ไม่ทราบว่าคุณคาสโนว่าหมายถึงกรณีนี้หรือเปล่า)
แต่ปัญหามันเป็นแบบนี้ตามข้อมูลของคุณคาสโนว่าเองก็ต้องว่าไปตามเนื้อเรื่องทั้งหมดจะไปตัดเอา(ประเด็นอยู่ที่ หลวงพี่ผิดคำพูดที่ให้คำมั่นไว้กับโยม ว่าถ้าจะเผยแพร่จะบอกกล่าวกันก่อน)ประโยคนี้ประโยคเดียวได้ยังไงครับและอีกอย่างประโยคนี้มันเป็นปัญหาหลังประโยคนี้ครับ(แต่ตกลงกันก่อนถ้าหลวงพี่จะให้ใครต่อ หรือจะก๊อปปี้ ต้องบอกผมก่อนนะ)

 

ขอโทษอย่างมากเลยครับ ผมปัญญาน้อย ไม่ค่อยเข้าใจถึงเรื่องที่เถียงกันจริงๆ ครับ เพียงแต่ลองถามเรื่องที่ผมพอเข้าใจได้ง่ายๆ ดู ลองถามใหม่ครับ
ถ้าผมได้หนังสือที่ทางวัดพิมพ์แจกญาติโยมมาเล่มหนึ่ง ซึ่งไม่ได้บอกกล่าวพิมพ์ลิขสิทธิ์ไว้ แล้วผมก็นำมาพิมพ์เพิ่มเติมเพื่อแจกจ่ายเอง พร้อมกับใส่สิขสิทธิ์เป็นชื่อผมไว้ด้วย เจตนาหวังดีจะเป็นคนจัดการบุญต่างๆ แจก(หรืออาจจะจำหน่ายในราคาถูก หรือแม้กระทั่งรายได้จากลิขสิทธ์เพื่อนำเงินเข้าวัด) โดยไม่ได้บอกกล่าวขออนุญาตทางวัด ด้วยเข้าใจเอาเองว่าทางวัดคงยินดีให้ทำเพราะเป็นเรื่องบุญ ทางวัดจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ

ประเด็นนี้ถ้าเจ้าของไม่ได้สงวนสิทธิ์คุณไปพิมพ์แจกมีแต่คนอนุโมทนาครับ
ส่วนประเด็นที่ว่า(แล้วผมก็นำมาพิมพ์เพิ่มเติมเพื่อแจกจ่ายเอง พร้อมกับใส่สิขสิทธิ์เป็นชื่อผมไว้ด้วย)
อันนี้ผมไม่ทราบว่าคุณถามจริงๆหรือเอาไปเปรียบเทียบกับกรณีอ.ประถมถ้าถามจริงๆขอตอบว่าคุณไปจดลิขสิทธิ์เป็นของคุณแล้วเอาไปจำหน่ายหรือทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดจากสาระเดิม(เช่นกรณีภาพวาดถ้าผู้วาดวาดอีกแบบแล้วผู้ลอกไปวาดอีกแบบแล้วมาใส่ชื่อตัวเอง)อันนี้ผิดมารยาทครับแต่ถ้าคุณพิมพ์ชื่อ-นามสกุลของตัวเองหรือจะแถมครอบครัวญาติโยมอะไรก็แล้วแต่แล้วพิมพ์แจกอันนี้ไม่ผิดครับ ทางวัดไม่ว่าหรอกครับวัดไหนจะไปว่าคุณถ้าวัดนั้นไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์แล้วคุณนำธรรมมะไปพิมพ์แจกถ้ามีวัดไหนว่ากรุณาโพสต์บอกด้วยครับจะได้รู้ว่ามีวัดแบบตรรกะคุณคาสโนว่า แต่ถ้าอยากรู้ว่าวัดไหนไม่ว่าบ้างก็ไปเว็บหลวงปู่เกษม ก็ได้ครับมีแต่คนอยากเอาหนังสือและซีดีคำสอนให้ช่วยกันไปก็อปปี้แจกเยอะๆ
แต่ถ้าคุณถามเพราะเปรียบเทียบเกี่ยวกับกรณีอ.ประถม ไม่ทราบว่าคุณรู้ได้ไงครับว่าที่อาจารย์เขาเซ็นหรือลูกศิษย์ไปเซ็นเนี่ยเค้าตั้งใจเซ็นเพราะสงวนลิขสิทธ์

 

ยิ่งอ่านยิ่งมึน ผมรู้สึกว่าจะตีความไปคนละเรื่องเลยครับ มันเถียงกันไม่จบหรอกครับ ผมว่านะเจ้าของภาพออกมาชี้แจงจะดีกว่านะครับ หรือไม่ก็จ้างผมก็แล้วกันผมจะฟ้องอาจารย์ประถมให้ และทางอาจารย์ประถมไม่พอใจทางคุณcassanovaก็จ้างผมฟ้องหมิ่นประมาทก็แล้วกันครับ ไอ้ที่เถียงกันอยู่เนี่ยก็ไม่ใช่คู่ความกันเลยเป็นแค่ตัวแทนแล้วมาเถียงกัน ใช้ความคิดตัวเองเป็นหลัก ไปศาลกันเถอะ

 

คือผมถามจริงๆ ครับ เพราะผมกำลังคิดจะพิมพ์หนังสือพร้อมรูป เล่มเล็กๆ แจกอยู่บ้างเหมือนกัน จะได้ทำให้ถูกต้องเหมาะสม ไม่เกิดโทษต่อตนเองครับ ต้องขอขอบคุณที่สนทนาให้ความรู้กันครับ

ผมเคยคิดๆ ว่าทำไมกรรมถึงซื่อตรงมากมาย จนเหมือนไม่ยุติธรรม ไม่ลดหย่อนผ่อนปรนกันบ้างเลย ผิดก็คือผิด ถูกก็คือถูก ไม่เหมือนศาลตัิดสินของมนุษย์ แล้วก็คิดได้ว่าระบบของกรรมไม่ใช่ระบบของความยุติธรรม ระบบของกรรมคือทำสิ่งใดได้สิ่งนั้นตอบแทน ผิดเป็นผิด ไม่มีลดหย่อน ผมต้องระวังเรื่องการทำบุญได้บาปแทนไว้ด้วย คือถ้าทำอะไรผิดแต่ต้นแม้จะเรื่องบุญ ผลที่ได้ก็ไม่รู้ว่าจะออกด้านไหนนะครับ

ส่วนตัวผมไม่ได้สนใจเรื่องการตกลงว่าอะไรจะผิดจะถูก เงื่อนไขเป็นอย่างไร เพราะทุกคนก็ต้องมีเหตุผลของตน แต่เมื่อให้สัจจะก็ต้องเป็นสัจจะ ผมก็กำลังพยายามทำบารมีด้านนี้อยู่ เพราะรู้ดีว่าตัวเองมีบารมีด้านนี้น้อย หากทำได้ก็จะมีอานิสงค์มากๆ ต่อผมเอง

เรื่องข้างบนๆ ที่กำลังพิจารณากันอยู่นั้น ผมก็พิจารณาบ้างแต่น้อยตามสติปัญญา แบ่งเป็น

เป็นเรื่องที่ศิษย์จัดการกันเองด้วยต้องการบูชาครู ไม่รู้ถึงข้อผูกพันธ์กันมาก่อน แต่ต้องการเผยแพร่ให้รู้ที่มาที่ไป

เป็นภาพที่เห็นเหมือนกัน เพราะต่างก็เป็นผู้มีบุญบารมีได้นิมิตเหมือนกัน วาดออกมาต่างกรรมต่างวาระ

และอีกมากมาย ฯลฯ เลย

แต่ในเรื่องนี้ก็ถ้าเป็นอย่างที่คุณคาสโนว่า "กล่าว" ซึ่งก็เป็นอีกประเด็นที่พิจารณา ผมก็มองว่าไม่น่าใส่สงวนสิทธิ์ (ผมก็ยังไม่ได้มองให้ละเอียดเลย ว่าเหมือนหรือแตกต่างตรงไหนบ้าง)

และทั้งหมดนั้นผมก็ไม่ได้กล่าวว่า ใครถูกใครผิด ผมไม่สามารถตัดสินใครได้ นอกจากตัวผมเอง เพราะมีอีกหลายสิ่งที่ผมยังไม่รู้ แต่ที่รู้ละเีอียดสุดคือตัวเอง เพียงแต่ผมหัดพิจารณาแยะแยะประเด็นในเบื้องต้นเท่านั้นเอง และเท่าที่เคยรู้มาแต่ไม่ชัวร์ว่า ภาพวาดภาพเขียนถือเป็นวรรณกรรมที่จะถูกปกป้องโดยอัตโนมัติว่าเป็นสิทธิ์ของผู้วาดแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นภาพวาดจึงต้องมีลายเซ็นของผู้วาดเสมอ ซึ่งเดี๋ยวนี้รวมไปถึงรูปถ่ายด้วย ผิดถูกอย่างไร เสนอแนะด้วยครับ