คำทำนายภัยพิบัติ อ.ทิพากร รินไธสงค์ จากปัจจุบัน ไปจนหลังสิ้นปี 2561

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย ลุงมหา๑, 7 พฤศจิกายน 2012.

  1. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    อดีต ปัจจุบัน อนาคต

    คำทำนาย บอก อดีต อนาคต
    มรรค วิธี-การกระทำ
    ผล ผลของการกระทำ
    นิพพาน ความสำเร็จ จากการกระทำ

    ขออนุญาตครับ

    ธรรมเพื่อความหลุดพ้น นั้น

    คำทำนาย บอก อดีต อนาคต ว่า ท่าน มี บุญวาสนาบารมี อยู่เท่าไร
    เหมือนอย่างที่ พระพุทธเจ้าพระองค์ต่างๆ ได้ทรงเมตตา ทำนาย พระพุทธเจ้า ในอนาคต เอาไว้

    คำทำนายแบ่ง ออกได้หลายระดับ ตั้งแต่ หมอดู ไปจนถึง ผู้มีอภิญญาญาน อันสูงส่ง

    เห็นหลายๆกระทู้ บอกเล่า คำทำนาย มากมาย
    เห็นหลายๆท่าน ออกกระทู้มากมาย
    ก็ออกกันไป ตามภูมิรู้ ภูมิธรรม ตามบุญวาสนาบารมีของตน

    มรรค ก็ คือ มรรคแปด อันโด่งดังนั่นล่ะครับ
    ที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ท่านอบรมสั่งสอน ท่านนำ ท่านพา ปฏิบัติ ก็คือ อันนี้

    ผล ก็คือ ผลของการปฏิบัติ ของมรรคแปด ตาม ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา

    นิพพาน คือ ผลสูงสุด ของ การปฏิบัติ ตาม มรรค แปด
    นอกจากจะสิ้นสุดที่ พระอรหันต์ แล้ว ยังมีประเภท คุณวิเศษ เกิดขึ้น เพิ่มมาอีก ตามบุญวาสนาบารมีที่สั่งสมไว้

    ธรรมสู่ความเป็นพระพุทธเจ้าของพระโพธิสัตว์

    ก็ บารมี ๑๐ ทัศน์ ที่แตก ออกไปเป็น บารมี ๓๐ ทัศน์ นั่นล่ะครับ
    เพราะว่า การบำเพ็ญบารมีของ พระโพธิ์สัตว์นั้น มั่นคงและยาวนานมาก
    ในแต่ละยุค ในแต่ละสมัย ท่านจึงไม่รีบร้อน ทำไปเรื่อยๆ สะสมไปเรื่อยๆ
    ในแต่ละยุค ในแต่ละสมัย ท่านอาจจะบำเพ็ญบารมี เด่น ด้านใด ด้านหนึ่ง เป็นพิเศษ
    เพื่อให้ บารมีสะสมไปๆ จนครบถ้วนบริบูรณ์ โดยไม่รีบ โดยไม่ร้อน

    ต่างจากพระอรหันต์ ที่ยิ่งในสมัยที่มนุษย์มีอายุขัย แค่ ๘๐ ปี อย่างในยุคปัจจุบัน
    ท่านจึงต้องเร่ง ต้องรีบ สำเร็จให้ทัน ในยุคนี้
    มิฉะนั้น อาจจะไปตกค้าง อยู่บน เทวโลก พรหมโลก
    ที่ท่านบอกว่า เสียเวลาเปล่า

    ในภาคของคำทำนายนั้น แม้แต่องค์ปรมาจารย์ในยุคปัจจุบัน
    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เอง ท่านก็บอกไม่ได้ว่า
    ลูกศิษย์ท่านไหน จะสำเร็จเมื่อไร วันไหน เดือนไหน ปีไหน
    ท่านนำ ท่านพา เร่งความเพียร สุดฤทธิ์ สุดเดช อย่างเดียว

    แม้แต่องค์หลวงตามหาบัว เอง ท่านก็เมตตา บอกเล่าว่า
    ท่านนิมิตรเห็น ตาผ้าขาว(เทวดา) มาบอกว่า
    ท่านจะสำเร็จใน ๙ พรรษา นับแต่ ออกธุดงค์ปฏิบัติแบบเอาเป็นเอาตาย

    แต่พอท่านมาประคบประหงม คุณแม่ชีแก้ว กลับนำพาท่านสำเร็จในเวลาเพียงแค่ ๓ ป๊

    นับว่าองค์ท่านมีคุณธรรม ล้ำเลิศ อย่างแท้จริง
    เพราะองค์ท่านเอง ปฏิบัติแทบเป็นแทบตาย นานถึง ๙ ปี
    ท่านกลับยอมนำพา ลูกศิษย์ สำเร็จในเวลาเพียง ๓ ปี

    เมื่อพระโพธิ์สัตว์ ท่านไม่รีบไม่ร้อน เหมือนพระอรหันต์
    ดังนั้น พระโพธิ์สัตว์ หลายๆท่าน หรือ บางท่าน อาจมีความเป็นอยู่ ไม่ต่างจาก คนธรรมดาทั่วๆไปมากนัก ก็เป็นไปได้
    เป็นหน้าที่ของญาติธรรมชาวพุทธ ต้องสังเกตุ ต้องสำรวมระวังเอาเอง
    อย่าได้สร้างบาปให้แก่ตนเอง ด้วยการไปละเมิดล่วงเกินท่าน
    ให้เป็นกรรมหนักแก่ตนเอง

    อยากรู้ว่า พระอรหันต์ เป็นอย่างไร
    ก็ให้ดูที่ ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา ของท่าน

    อยากรู้ว่า พระโพธิ์สัตว์ เป็นอย่างไร
    ก็ให้ดูที่ บารมี ๑๐ ทัศน์ บารมี ๓๐ ทัศน์ ของท่าน

    อยากรู้ว่า พระมหาโพธิ์สัตว์ ผู้ได้รับ พุทธพยากรณ์ เป็นอย่างไร
    ก็ให้ดูว่า บารมี ๑๐ ทัศน์ บารมี ๓๐ ทัศน์ ของท่าน
    ก็ให้ดูว่า ปฏิปทา ของท่านนั้น ยิ่งใหญ่ สมคำล่ำลือ สมบุญบารมีของท่านหรือไม่
    ก็ให้ดูว่า สิ่งที่ท่านคิด สิ่งที่ท่านทำนั้น เกินกว่า มนุษย์ทั่วๆไป
    หรือแม้แต่พระอริยะเจ้าระดับใดๆ จะคิด จะคาด จะคำนวณได้

    หรือถ้าท่านญาติธรรมชาวเว็บจะพากันคิดสักนิดว่า กระทู้ใดๆในห้องนี้

    มีองค์ประกอบของ ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา อยู่เท่าใด
    มีองค์ประกอบของ บารมี ๑๐ ทัศน์ บารมี ๓๐ ทัศน์ อยู่เท่าใด
    มีองค์ประกอบของ คำทำนาย มรรค ผล นิพพาน อยู่เท่าใด

    หรือถ้าท่านญาติธรรมชาวเว็บจะพากันคิดสักนิดว่า ผู้เขียน ผู้ตอบกระทู้ใดๆในห้องนี้

    มีองค์ประกอบของ ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา อยู่เท่าใด
    มีองค์ประกอบของ บารมี ๑๐ ทัศน์ บารมี ๓๐ ทัศน์ อยู่เท่าใด
    มีองค์ประกอบของ คำทำนาย มรรค ผล นิพพาน อยู่เท่าใด

    ท่านจึงจะดูออก ท่านจึงพอจะสรุปได้ว่า
    กระทู้นั้นๆ พอจะเป็นจริง หรือไม่
    กระทู้นั้นๆ พอจะเป็นประโยชน์ต่อคนหมู่มาก ต่อส่วนรวม หรือไม่

    เพราะถ้าท่าน เข้าไปอ่าน เข้าไปเขียน เข้าไปตอบ กระทู้ที่ไร้สาระ กระทู้ไร้ประโยชน์

    ใยมิใช่ ท่านเป็น ผู้ไร้สาระ เป็นผู้ไร้ประโยชน์ไปด้วย

    เรื่อง ภัยพิบัติ เรื่อง การแก้ไข ภัยพิบัติ นั้น
    ผมก็บอก ผมก็ยืนยันว่า มันเกินกว่า กำลังของพระอริยเจ้าใดๆ จะทำได้

    ผมก็บอก ผมก็เล่าแล้วว่า

    ภัยพิบัติ เป็น อิทธิฤทธิ์ ของ สองพญามาร ผู้มีดีกรี เป็นถึงพระมหาโพธิ์สัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรณ์ไว้แล้ว

    แล้วท่านทั้งหลายที่ออกกระทู้ ที่เขียนที่อ่านกระทู้กันอยู่นี่
    พวกท่านกำลังพากันทำอะไรอยู่

    เพราะสูงสุดยอด ก็คือ พระพุทธเจ้าในแต่ละยุค ในแต่ละสมัย
    สูงสุดยอดคือ พระมหาพุทธานุภาพของพระพุทธเจ้า ในแต่ละยุคในแต่ละสมัย

    สิ่งใดๆ อาจจะโกหก หลอกลวงกันได้

    มีแต่ "พระมหาพุทธานุภาพของพระพุทธองค์" จึงโกหกหลอกลวงกันไม่ได้

    ผู้ใด ได้รู้ ได้เห็น ก็จะเข้าใจได้เอง

    ส่วนผู้ใดมี บุญวาสนาบารมีมากพอ ก็จะเข้าใจว่า

    ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นอย่างไร สร้างสมได้อย่างไร

    ส่วนผู้ใดมี บุญวาสนาบารมีมากพอ ก็จะเข้าใจว่า
    บารมี ๑๐ ทัศน์ บารมี ๓๐ ทัศน์ เป็นอย่างไร
    จะตักตวงเอาประโยชน์เข้าสู่ตนได้อย่างไร

    ที่น่าเสียดายสุดๆ กลับเป็น ผู้ที่ค้นคว้า ศึกษา จนรวบรวมออกกระทู้ว่า
    พระโพธิสัตว์ เป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้
    แต่กลับไร้สติปัญญาคิดต่อไปว่า
    พระโพธิ์สัตว์ ที่จุติมาแล้วในปัจจุบันมีหรือไม่ อยู่ที่ใด กำลังทำอะไรอยู่
    จะร่วมสร้างสมบุญบารมีร่วมกับท่านได้อย่างไร

    และที่น่าเสียดายแทนสุดๆคือ กลุ่มที่บอกว่า
    ครูบาอาจารย์ของตนนั้นระดับ มุ่งพุทธภูมิที่บารมีเกือบจะเติมแล้ว
    และศิษย์รุ่นหลังๆ ก็เต็มไปด้วยผู้มุ่งพุทธภูมิทั้งสิ้น
    แต่กลับไม่มีปัญญา คิดต่อไปว่า
    พระโพธิ์สัตว์ ที่จุติมาแล้วในปัจจุบันมีหรือไม่ อยู่ที่ใด กำลังทำอะไรอยู่
    จะร่วมสร้างสมบุญบารมีร่วมกับท่านได้อย่างไร

    หรืออยากละทิ้งโอกาสอันงาม แต่มุ่งหน้าต่อไปด้วยความยากลำบาก ก็ตามใจ

    ขอโมทนาบุญร่วมกับญาติธรรมชาวเว็บทุกๆท่าน
    ขออนุโมทนาขอขอบพระคุณครับ
    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2012
  2. EscherichiA

    EscherichiA Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +25
    มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก เท่าที่ทราบไม่มีสิทธิอนุมัติตำแหน่งวิชาการ และไม่สามารถจัดการเรียนการสอนและให้ปริญญาได้นี่ครับ

    มหาวิทยาลัยดังกล่าวไม่ได้ผ่านกระบวนการจัดตั้งที่ถูกต้องตามกฎหมาย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    โลก-ธรรม สมมุติ-บัญญัติ

    ขออนุญาตครับ
    พวกเราชาวพุทธทั้งหลายคงเคยได้ยิน ได้ฟัง ที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์
    ท่านบอก ท่านเล่า ท่านสอนว่า

    "เรื่องธรรมชั้นสูงนั้น หรือแม้แต่ธรรมพื้นๆก็ตาม"
    "เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก สำหรับผู้ที่ภูมิรู้ ภูมิธรรมยังไม่ถึง"
    "จึงได้มีการตั้งสมมุติบัญญัติขึ้นมา เพื่อที่จะอธิบายให้ผู้ที่ ภูมิรู้ ภูมิธรรมยังไม่ถึง ได้พอมีโอกาสจะเข้าใจได้บ้าง"
    "เช่นต้นไม้ มันก็ไม่รู้ว่าตัวมันเองเป็นต้นไม้"
    "ภูเขา มันก็ไม่รู้ว่าตัวมันเป็นภูเขา"
    "เพราะทั้งต้นไม้และภูเขา เป็นชื่อที่ผู้คน ตั้งเป็นสมมุติ บัญญัติขึ้นมา"
    "เพื่อจะได้เรียก เพื่อจะได้เขียน เพื่อจะได้เข้าใจได้เร็วขึ้น เท่านั้นเอง"


    ดังนั้นการที่ท่าน อ.ทิพากร ท่านเมตตารับ ปริญญาใดๆ ก็เป็นเรื่องของ สมมุติบัญญัติ

    เพราะบุญบารมีของ ผู้ที่จะไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้า ดังเช่นท่าน
    มันเกินเลยสิ่งเหล่านี้ไปใกลสุดกู่ สุดลูกหู สุดลูกตาไปใกลแล้ว

    คุณยังจะเอาเรื่องโลกๆ ไปเปรียบเทียบกับ เรื่องของธรรมอีกหรือ

    ที่องค์หลวงตามหาบัว รับปริญญา จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
    องค์ท่านก็ยังบอก ยังเล่าว่า


    "หลวงตา ป.3 สอนดอกเตอร์ จบมหาวิทยาลัย"

    หรือ ไทเกอร์ วู๊ด รับปริญญา จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
    ก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสมทั้งสิ้น

    เมื่อเป็นเรื่องสมมุติบัญญัติ ดังนั้น สิ่งใดๆ เรื่องราวใดๆ
    ที่นอกเหนือจากธรรม ก็ล้วนเป็นสิ่งสมมุติบัญญัติทั้งสิ้น

    การที่คุณตั้งคำถามโดยไม่ได้พิจารนาให้รอบคอบว่า
    คำถามของคุณนั้น สมควรถามหรือไม่
    ก็ขอให้คุณพิจารนาเอาเอง

    ท่าน อ.ทิพากร นั้น ท่านได้บอกเล่ายืนยัน ในวงอาหาร เมื่อเวลาประมาณบ่ายสามโมง ของวันที่ ๓๐ ธันวาคมที่ผ่านมาว่า

    "องค์ สุริยะวรมันต์ที่๒ คือ ผู้สร้างนครวัด"
    "แต่ องค์ ชัยวรมันต์ที่๗ สร้างปราสาทเพียงอย่างเดียว"

    เมื่อในชาตินั้น ท่าน อ.ทิพากร ท่านเป็นนักบวช เป็นฤๅษี
    และเป็นพี่ชายของ องค์ สุริยะวรมันต์ที่๒ ท่านจึงบอกเล่าว่า

    "ผมนี่ละเป็นผู้ให้คำแนะนำ
    ให้การสนับสนุนการสร้างนครวัด"


    เราก็มาติดตามดูกันว่า

    ท่าน อ.ทิพากร ที่ท่านมีอดีตชาติเป็นพี่ชาย ของบรมกษัตริย์ของชาวขอมผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้สร้างนครวัด

    มาในชาตินี้ ท่านเป็นผู้นำในการสร้าง พระใหญ่ชัยภูมิ ด้วยตัวท่านเอง นั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป

    ท่าน อ.ทิพากร ท่านยังได้บอกเล่าอีกว่า

    "ศรัทธาในพระใหญ่ชัยภูมิไปถึงไหน การแก้ไขภัยพิบัติก็ไปถึงนั่น"
    ท่านยังถามกลับมาว่า
    "ผู้ที่เจอภัยพิบัตินั้น ถามเขาด้วยว่า ทำบุญกับพระใหญ่หรือยัง"

    เมื่อชายผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสร้าง นครวัด ที่ถือว่า เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
    มาในชาตินี้ ท่านมาสร้าง พระใหญ่ชัยภูมิ
    เพื่อเป็นพุทธบูชา เพื่อเป็นสิ่งเคารพ สักการะของคนทั่วโลก
    เพื่ออัญเชิญพระมหาพุทธานุภาพ ของพระพุทธองค์
    มาปกป้อง มาแก้ไข ภัยพิบัติ ที่จะเกิดแก่โลก

    ยังมีคนมาสงสัยในพระมหาพุทธานุภาพ
    ยังมีคนสงสัย ในปริญญาบัตร ที่มีผู้มอบให้
    ยังมีคนสงสัย ในมหาวิทยาลัย ที่มอบปริญญาบัติให้ท่าน

    แล้วทำไมคุณไม่สงสัยบ้างว่า


    "ในโลกใบนี้ มีใครยิ่งใหญ่ว่า ผู้สร้างนครวัดบ้าง"
    "ในโลกใบนี้ มีใครมีบุญบารมี ยิ่งใหญ่กว่า ผู้ที่จะไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตบ้าง"

    เรื่องบางเรื่อง ผมก็รับรู้มาจากกลุ่มศิษย์ใกล้ชิดของท่าน อ.ทิพากร มาอีกต่อหนึ่ง
    เรื่องราวเหล่านั้น ยังเด่นชัดกว่าที่ผมเขียนซะอีก
    แต่ต้องขออภัยอย่างยิ่ง ผมไม่อาจบอกเล่าออกมาได้
    เพราะผมไม่ได้ยิน ไม่ได้ฟัง จากท่าน อ.ทิพากร โดยตรง

    ผมเฝ้ามองผู้คน ในโลกใบนี้ เฝ้ามองไปในทุกๆเรื่อง
    ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่า
    ผมเองเป็นใครกัน มีอดีต มีอนาคต เป็นอย่างไร
    ทำไมผมจึงมาอยู่ตรงนี้ได้

    ทั้งๆที่โลกใบนี้ มีผู้มีบุญวาสนาบารมี สูงส่งกว่าผมมากมายนัก

    แล้วทำไมท่านเหล่านั้น จึงมองไปได้แค่ "ธรรมเพื่อความหลุดพ้น" เท่านั้นหรือ
    แล้วธรรมเพื่อการเป็นพระพุทธเจ้า
    แล้วธรรมเพื่อการแก้ไขภัยพิบัติ ไม่มีท่านผู้ใดศึกษาค้นคว้ากันเลยหรือ

    แล้วทำไม จึงเป็นภาระ จึงเป็นหน้าที่ ที่ผมต้องมาบอก มาเล่า มาอธิบายว่า


    กรรม ที่แท้เป็นอย่างไร
    กรรม ขอขมากรรมได้อย่างไร
    กรรม ขออโหสิกรรมได้อย่างไร
    การสร้างบุญบารมี อย่างไร จึงสามารถ
    ขอขมากรรม ขออโหสิกรรม กันได้

    การสร้างบุญบารมี อย่างไร จึงสามารถ ขอขมากรรม ขออโหสิกรรม
    ในกรรมหนักๆ ที่เราได้สร้างกับเจ้ากรรมนายเวรเอาไว้ได้

    การสร้างบุญบารมีอย่างไร จึงจะสามารถ ขอขมากรรม ขออโหสิกรรม ให้คนหมู่ใหญ่
    ที่ใหญ่จนสามารถป้องกันแก้ไขภัยพิบัติ ระดับต่างๆไปจนถึงระดับโลกได้

    ผมก็จะรอดูว่า เมื่อสร้างพระใหญ่ชัยภูมิเสร็จแล้ว
    ผู้มีศรัทธากับพระใหญ่ชัยภูมิ นั้น มากราบขอพร แล้วแก้ไขภัยพิบัติได้จริงๆ

    เพื่อจะได้พิสูจน์ พุทธทำนายฉบับจริงของพวกเทวดา ที่บอกเล่าโดยท่าน อ.ทิพากร ที่ท่านบอกเล่าว่า


    "พระสงฆ์ ดูแลพระพุทธศาสนา ๒๕๐๐ ปี"
    "เทวดา ดูแลพระศาสนา ๑๐๐๐ ปี"
    "ผู้มีฤทธิ์ ภูตผีปีศาจ ดูแลพระศาสนา ๑๕๐๐ ปี"
    "ก็จะครบ พุทธกาล ๕๐๐๐ ปี พอดี"

    ท่านอาจารย์ทิพากร ท่านได้บอกเล่าว่า
    "การสร้างพระใหญ่ชัยภูมินั้น แบ่งแยกออกเป็นสี่ยุค"
    "ยุคที่๑ ผู้มีบุญบารมี มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา เข้ามาร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ"
    "ยุคที่๑นี้ เริ่มจาก การเริ่มบอกข่าวการสร้าง ไปจนถึงการสร้างฐานรากพระใหญ่เสร็จ"
    "ก็คือ จากเริ่มต้นไปจนถึง กลางปี พ.ศ.๒๕๕๕"
    "ยุคที่๒ คือ การเริ่มสร้างรัตนบัลลังค์ ก็คือการสร้าง ตึกสูง ๑๐๐ เมตร เพื่อเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้า"
    "เริ่มจาก กลางปี พ.ศ.๒๕๕๕ ที่เริ่มรับจอง รับบริจาค ทุนสร้างรัตนบัลลังค์
    ไปจนสิ้นสุดการสร้างรัตนบัลลังค์ ประมาณ ปลายปี ๒๕๕๗"
    "ยุคที่๓ คือ การเริ่มสร้างองค์พระใหญ่ชัยภูมิ ซึ่งจะเริ่มในปี ๒๕๕๘"


    ซึ่งอานิสงค์ของการเข้าร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ ช้าหรือเร็ว จะส่งผลต่ออนาคตชาติคือ
    "อายุขัยของมนุษย์ แบ่งออกเป็น ๔ ช่วง"
    "ผู้ร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ ในแต่ละช่วง ก็จะได้อานิสงค์ ต่อชีวิตในอนาคตชาติ ตามช่วงที่มาร่วมสร้างนั้น"
    "ผู้มาร่วมสร้างตั้งแต่ต้นไปจนจบ"
    "ก็จะได้รับความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่เกิดไปจนหมดอายุขัย"


    มาถึงช่วงยุคที่ ๒ นี้ เป็นการสร้าง รัตนบัลลังค์ ๒๕๐,๐๐๐ ตารางเมตร
    ราคา ตารางเมตรละ ๕๐,๐๐๐ บาท
    ล่าสุดมีผู้จองเข้ามาแล้ว ประมาณ ๘๐๐ ตารางเมตร

    ขอโมทนาบุญ
    ขออนุโมทนาบุญ ร่วมกับบุญทุกบุญ ที่ได้มาร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิทุกๆบุญ
    ขอขอบพระคุณครับ
    ลุงมหา


    แจ้งตารางเปิดบุญ ประจำเดือน มกราคม ๒๕๕๖

    http://palungjit.org/posts/7207620
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มกราคม 2013
  4. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    เรียนรู้มากมาย พอเจอพระโพธิ์สัตว์เป็นๆกลับไม่รู้จัก?


    ขออนุญาตท่าน wisdom เจ้าของกระทู้ที่นำข้อเขียนของท่านมาอ้างอิง

    ญาติธรรมพระใหญ่ชัยภูมิ อ่านแล้ว คงมีความมั่นใจในท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์มากยิ่งขึ้น

    ส่วนพวกท่านที่ว่ากันว่า พากันปรารถนาพุทธภูมินั้น จะทำอย่างไรต่อไป
    ก็ขอให้พากันพิจารนากันเอาเอง

    บุญบารมีระดับผม คงแนะนำท่านไม่ได้่ ก็ได้แต่ เขียนตัวหนังสือให้ท่านอ่าน
    อั๊พโหลดวีดีโอให้ท่านดู ให้ท่านพิจารนากันเอาเอง

    ท่านหลวงตาม้า ท่านก็อธิบายได้ละเอียดขนาดนี้

    ผมก็ อั๊พโหลด วีดีโอให้ดู มากกว่า ๔๕๐ ตอนแล้ว

    http://www.youtube.com/user/Pootarach#g/u

    ถ้าระดับที่พากัน ว่ากันว่า ปรารถนา พุทธภูมิ ยังไม่เข้าใจ

    ยังพากันมะงุม มะหง่า กันอยู่นั่นล่ะ

    หรือว่า ขนาดพากันปรารถนา พุทธภูมิ กันแล้ว
    ยังมีบุญบารมีไม่ถึง ยังสู้ ญาติธรรมพระใหญ่ชัยภูมิ ไม่ได้

    เหมือนที่ผมเคยบอกเอาไว้
    บุญบารมีที่พวกท่านพากันสะสมมาจะมีประโยชน์อันใด

    บทสนทนาธรรมล่าสุด ท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์ ท่านบอกเล่าว่า


    "ญาติธรรมที่มาปฏิบัติที่เจริญปุระนคร"
    "อย่างน้อย ผมจะนำพาปฏิบัติ จนรู้ภาษาสัตว์กันทุกคน"

    เคยมีครูบาอาจารย์ท่านใด กล้าพูด กล้าบอก กล้าเล่า อย่างนี้ไหม

    ขอโมทนาบุญ
    ขออนุโมทนาบุญ ร่วมกับญาติธรรมพระใหญ่ชัยภูมิทุกๆท่าน
    ที่มีความปรารถนาจะร่วมสร้าง หลวงพ่อทันใจ
    ที่มีความปรารถนาจะร่วมสร้าง พระใหญ่ชัยภูมิ
    ที่มีความปรารถนาจะร่วมป้องกัน แก้ไขภัยพิบัติ ทุกๆท่าน
    ขอขอบพระคุณครับ
    ลุงมหา




    แจ้งตารางเปิดบุญ ประจำเดือน มกราคม ๒๕๕๖

    http://palungjit.org/posts/7207620
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2013
  5. ปลายธาตุ

    ปลายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +225
    เห็นด้วยกับคุณ PIPATZ นะครับ น่าจะตาสว่างกันใด้แล้ว ทำบุญอิฐหินปูนทรายนี่จะใด้อะไร อะไรๆก็ใหญ่ที่สุดในโลก แสนกอง อยู่บนความเชื่อกันทั้งนั้น ไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้เลยว่าทำแล้วได้อะไร นอกจากสบายใจที่ใด้ทำแล้ว บุญตัวเป็นอย่างไรไม่มีใครเคยเห็นสักคนเดียว พิสูจน์ไม่ได้ว่าได้บุญหรือไม่ใด้บุญ สิ่งนี้เจ็บปวดเกินกว่าคนมีศรัทธากล้าจะฉุกคิด พวกเขาจะพินาศเพราะหลงผิดปฏิบัติผิด คนทำผิดย่อมเจอภัยพิบัติ อะไรๆก็อ้างพุทธพจน์ ทั้งๆที่ไม่มีใครเคยใด้ยินจากพระโอฐน์ท่านเลยสักคนเดียว ใครอ้างก็ถูกหมด พระพุทธเจ้าท่านไม่เคยเขียนหนังสือสักตัวด้วยซ้ำ แต่ทุกคนก็อ้างตำรา ท่านสำเร็จด้วยจิต เราจะสำเร็จอิฐปูนทรายกันเหรอ ไม่ฉุกคิดกันบ้างเลย ผมคิดว่าภัยที่จะเกิดก็จากพวกท่านที่หลงทำผิดๆเช่นนี้เอง
     
  6. ปลายธาตุ

    ปลายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +225
    พระโพธิ์สัตว์ก็น่านับถือในความตั้งใจ แต่โลกมันไม่เหมือนในนิยายน้ำเน่า ผ่านทุกข์โศกระทมเคี่ยวกรัมแล้วสุดท้ายจะประสพความสำเร็จสว่างไสว คิดแบบเด็กๆเล่นขายของ เพราะท่านฉลาดไม่พอ ท่านไม่รู้สภาวะของธรรมชาติทั้งในโลกและนอกโลก ไม่รู้ภาวะปกครองภพต่างๆเลย ท่านเลยพลาดเป้าหมายที่ควรทำ ได้ทำแต่เป้าหมายที่คิดว่าใช่ ทำบุญสร้างบารมีให้มารกินแท้ๆ แตะหมูเข้าปากหมา ให้ไปศึกษาภาวะนิพพานเป็นและนิพพานตายให้กระจ่างแล้วค่อยตั้งเป้าใหม่ ไม่ต้องรอขนาดบรรลุธรรมอะไรหรอก ศึกษาด้วยจิตคนธรรมดาแบบสมมุตินี่แหละ ก็เหมือนที่ท่านต้องการเป็นสิ่งที่ยังไม่เป็นก็ด้วยความคิดของจิตปุถุชนอยู่นี่แหละ ถ้าอยากช่วยธาตุขาวของท่านก็ลองดูละกัน ดีกว่าเสียเวลามาทำปฏิบัติต่อตีนโจรทำร้ายเหล่าพระพุทธเจ้าที่ท่านเคารพนักหนา โดยไม่รู้ตัว
     
  7. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    ทาน ศีล ภาวนา... ศีล สมาธิ ปัญญา จบ
     
  8. PShinex

    PShinex เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +382
    ถ้าจะให้ผมเปรียบเทียบ การสร้างพระใหญ่ก็เหมือนกับการสร้างบ้านให้กับประเทศไทย
    เพื่อป้องกันภัยต่าง ๆ ให้ประเทศไทยอยู่อย่างสบายและมีความสุข เช่นกัน คนไทยก็ย่อม
    ปลอดภัยและมีความสุขไปด้วย การเสียสละเล็ก ๆ น้อยเพื่อสร้างบ้านของเราไม่น่าจะมาก
    เกินไปครับ
     
  9. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    มีภูมิรู้ มีภูมิธรรม แค่ไหน เข้าใจแค่นั้น?

    ขออนุญาตครับ
    ปัญหาใหญ่ของชาวพุทธ ที่ต้องใช้ปัญญาของตนพิจารนากันเอาเอง
    ไม่มีไครจะมาช่วยได้


    ๑.ศรัทธาในธรรม เฉพาะในส่วนของธรรมเพื่อความหลุดพ้น

    ก็เพราะธรรมส่วนใหญ่ของพระพุทธองค์ที่ได้ทรงถ่ายทอด
    บันทึกกันมานั้น ส่วนมากเป็นธรรมในส่วนนี้
    ผู้คนส่วนใหญ่ อย่างมากสุด ก็เข้าใจในธรรมส่วนนี้
    รวมถึงพระเจ้า พระสงฆ์ด้วย

    ทำให้สติปัญญา ในการพิจารนาธรรมที่เกินเลยจากนี้ไปไม่มี
    เมื่อขาดธรรมช่วงนี้ไป ก็เลยไม่สามารถเข้าใจเรื่อง พระใหญ่ชัยภูมิ ได้


    ๒.พระเจ้า พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ในยุคนี้ หาท่านที่เก่งเรื่องไตรโลกยาก

    แม้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ องค์ท่าน อาจารย์ปู่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    ท่านได้เมตตามอบมรดกสุดท้ายเอาไว้ว่า


    "พระโพธิ์สัตว์ เป็นผู้มีบุญบารมีมาก"
    "เป็นผู้ที่จะไปเกิดเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต"
    "ต้องให้ความเคารพท่านด้วย"


    กลับพากัน วางเฉยเสีย บางท่านถึงกับกล่าวออกมาว่า

    "ไปเคารพเขาเป็นครูบาอาจารย์ เขาถือศีลกี่ข้อหรือ?"

    บางท่านก็ว่า

    "อ.ทิพากร รินไธสงค์ ไม่้ใช่พระพุทธเจ้า"

    ผมก็แสนเสียดาย แทนหลายๆท่านที่แม้เข้ามาช่วยงานสร้างพระใหญ่ชัยภูมิแล้ว
    ผมก็ไม่ทราบว่า กลัวจะได้บุญน้อยไปหรืออย่างไร ยังเข้าวัด อยู่เหมือนเดิม
    แทนที่จะทุ่มเทเวลาช่วยงานสร้างพระใหญ่มากขึ้นๆ

    สำหรับผมแล้ว เข้าวัดไป ก็ได้ฟัง ธรรมแค่ ธรรมเพื่อความหลุดพ้น
    สู้มาฟังธรรม เพื่อ พุทธภูมิ บารมี ๑๐ ทัศน์ บารมี ๓๐ ทัศน์
    สู้มาฟังธรรม การสร้างบุญบารมี
    เพื่อ ขอขมากรรม
    เพื่อ ขออโหสิกรรม
    เพื่อ อุทิศกุศลผลบุญ
    ให้ บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณทั้งหลาย
    ให้ บรรพชน วีระชน บูรพกษัตริย์ ผู้ปกป้อง ผู้รักษาชาติบ้านเมืองทั้งหลาย
    ให้ ตัวข้าพเจ้า ญาติทั้งหลาย ญาติธรรมทั้งหลาย
    ให้ เจ้ากรรมนายเวร ของ ตัวข้าพเจ้า ญาติทั้งหลาย ญาติธรรมทั้งหลาย
    ให้ ดวงวิญญาณไร้ญาติขาดมิตร ในทุกภพ ทุกภูมิ
    เพื่อ ป้องกัน เพื่อ แก้ไข ภัยพิบัติ

    ก้าวหน้ากว่ากันเยอะ มันกว่ากันเยอะ
    เรื่องเหล่านี้
    พวกหัวโบราณ
    พวกไม่เคย ตั้งปฏิภานว่า จะแสวงหา ครูบาอาจารย์ ที่เก่งที่สุด
    พวกไม่เคย ตั้งปฏิภานว่า จะแสวงหา ครูบาอาจารย์ ที่มีบุญบารมีสูงส่งที่สุด
    พวกไม่เคย ตั้งปฏิภานว่า จะแสวงหา หนทางสร้างบุญบารมี ที่ให้ผลสูงส่งที่สุด
    จะเข้าใจได้อย่างไร

    การสร้างบุญบารมีใดๆ หรือจะมาเทียบกับ การสร้างบุญบารมี
    เพื่อป้องกัน เพื่อแก้ไขภัยพิบัติ

    การสร้างบุญบารมีใดๆ หรือจะมาเทียบกับ การสร้างบุญบารมี
    เพื่อนำพาผู้คน ได้สัมผัส พระมหาพุทธานุภาพของพระพุทธองค์

    การสร้างบุญบารมีใดๆ หรือจะมาเทียบกับ การสร้างบุญบารมี
    เพื่อนำพาผู้คน ได้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ด้วยความเข้าใจที่แท้จริง


    ๓.เพราะครูบาอาจารย์ พระเจ้า
    พระสงฆ์ ท่านมีหน้าที่สืบทอดพระศาสนา

    ท่านจึงทำหน้าที่อย่างขยันขันแข็ง
    ทั้งสร้างวัดวาอาราม ศาลา กุฏิ โบสถ์ วิหาร ลาน เจดีย์

    ท่านจึงต้องรวบรวมศัทธาชาวพุทธ รวบรวมลูกศิษย์ลูกหา ทั้งอบรมสั่งสอน
    ทั้งรับเงินบริจาค เพื่อบำรุงวัด เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของท่าน

    เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ ศรัทธาชาวพุทธยังเหนียวแน่น มาตลอดทุกยุคทุกสมัย

    บางวัด บางสำนักสงฆ์ อยู่ทางน้ำไหลผ่านแท้ๆ น้ำมาเมื่อไร ก็ท่วมเมื่อนั้น
    ถ้าเป็นวัดเก่าแก่ ก็สมควรแก้ไขกันไป

    แต่เห็นสำนักสงฆ์ตั้งใหม่ ก็ขอบริจาคเหมือนกัน ทั้งๆที่น่าจะ ขยับขยายย้ายไปหาที่ที่เหมาะสมกว่านั้น

    เป็นหน้าที่ของชาวพุทธ ที่ต้องช่วยเหลือตนเอง
    ใช้เงินที่หามาด้วยความยากลำบากให้คุ้มค่ามากที่สุด
    แสวงหาสายบุญที่ช่วยให้ตนเอง สามารถสร้างบุญบารมีให้ได้มากที่สุด

    อย่าได้หวังลมแล้งๆว่า ครูบาอาจารย์ของตน จะแนะนำทางที่ดีที่สุดให้

    ขนาดตัวผมเอง ในงานสร้างหลวงพ่อทันใจ ยังถูกชักชวน
    ให้ไปช่วยสร้างวัดวาอาราม ศาลา กุฏิ โบสถ์ วิหาร ลาน เจดีย์
    ผมต้องปฏิเสธว่า ผมต้องช่วยงานสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ ก็เต็มกำลังผมแล้ว


    ๓.การที่ท่าน อ.ทิพากร ท่านออกมาในช่วงที่ ศัทธาชาวพุทธ บอบช้ำมาก
    เพราะผ่านการ ปรากฏตัว ของพระเจ้า พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์
    ที่หลงผิด ตั้งตนเด่นเกิน ภูมิรู้ ภูมิธรรม บุญวาสนาบารมี ของตน

    ทำให้ชาวพุทธผู้บุญวาสนาบารมีน้อย เลยหวาดผวาว่า
    "มาอีกแล้วหรือ"

    ทั้งที่ท่าน อ.ทิพากร ท่านก็บอกเล่ายืนยันว่า

    ถ้าเปิดบุญแล้ว ชีวิตไม่ดีขึ้น ก็ไม่ต้องมาช่วยสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ

    ถ้าท่านไม่ช่วยญาติธรรม แปลงบุญฤทธิ์ เป็นทรัพย์สินเงินทอง ไม่ได้
    ก็ไม่ต้องมาบริจาค ร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ

    ท่าน อ.ทิพากร ท่านไม่ได้มีเจตนา ให้ญาติธรรม นำเงินที่หามาได้ด้วยความยากลำบาก มาร่วมบริจาคสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ

    ท่านแนะนำให้บริจาคเพียงแค่ 2% ของเงินที่งอกเงย
    จากการที่ท่านนำพาญาติธรรม สร้าง แปลง บุญฤทธิ์ เป็น โภคทรัพย์ ความอุดมสมบูรณ์เท่านั้นเอง

    ท่านไม่ได้สนับสนุน ให้ผู้หนึ่งผู้ใด นำเงินที่หามาได้ด้วยความยากลำบาก
    หรือนำเงินที่ตนเก็บสะสมเอาไว้มาบริจาคสร้างพระใหญ่ชัยภูมิแต่อย่างใด

    ท่านจึงเน้น ให้มาร่วมพืธีเปิดบุญก่อน อยู่เสมอ

    เป็นเรื่องของชาวพุทธเองว่า ท่านจะทำบุญแบบเดิมๆ
    แบบ สร้างวัดวาอาราม ศาลา กุฏิ โบสถ์ วิหาร ลาน เจดีย์

    หรือท่านจะร่วมทำบุญ เพื่อสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ เพื่อ ป้องกัน เพื่อ แก้ไขภัยพิบัติ

    ผมก็บอก ผมก็เตือนอยู่บ่อยๆว่า

    ข้อคิด ข้อเขียน ของท่าน มันก็บอก ภูมิรู้ ภูมิธรรม ของท่านเองอยู่แล้ว


    วันนี้ ขอตอบแต่เพียงเท่านี้ก่อน

    ขอโมทนาบุญ
    ขออนุโมทนาบุญ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสนับสนุนการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้เห็นดี เห็นงามในการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ขอขอบพระคุณครับ
    ลุงมหา


    ขออนุญาติย่อ แยกใจความสำคัญ ของบทอ้างอิงคราวที่แล้ว

     
  10. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    ลุงมหา๑ (แอบอ่านว่าลุงมหาดนะเนี่ย แอบขำ คิคิ) ไม่ต้องไปตีกับใครหรอกลุง
    แล้วก็ กด Like ให้พุทธภูมิสายเลือดเข้ม โมทนากับทุกท่านที่ร่วมกันสร้างพระใหญ่ชัยภูมิด้วยจ๊ะ มาตอนปลายๆแล้วก็ต้องวางอุเบกขาให้ลง ถ้าวางไม่ลงก็แอบตีสักเปรี้ยง แต่ถ้าไม่รู้สึกก็ปล่อยมันไปเห๊อะ คนเราถ้ามันไม่ทุกข์นี่มันก็จะไม่คิดหาทางพ้นทุกข์ อุ้มมากไปมันไม่ดี
     
  11. longhorn48

    longhorn48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2006
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +874
    เปลือก.....
     
  12. pipatz

    pipatz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +199
    สารพัดถ้อยคำลิเกอันโน้นอันนี้ ทำเป็นให้เข้าใจยากภาษาแปลกประหลาด หาว่า ใครไม่เข้าใจต้องภูมิธรรมไม่ถึง อาศัยความอ่อนแอแห่งจิตของประชาชนหลอกลวงหากินกับการสร้างพระ อ้างว่าต้านภัยพิบัติโลก ยังกะอุลตร้าแมน ยกตนต่างนา ๆ ก็ว่ากันไป โลกนี้มีเกิดมีดับ ภัยธรรมชาติเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย คนมีเกิดมีตาย ของธรรมชาติมันเป็นของมันเอง ไม่รู้ว่าศึกษาศาสนาพุทธกันมาขนาดไหน ถึงได้คิดกับแบบนั้นว่าประเทศนี้โลกนี้จะต้องเที่ยงแท้ไม่มีภัยใดเพราะสร้างพระ ผมว่าเป็นความคิดที่โง่เอามากๆ ท่านสร้างพระท่านสร้างเพราะศรัทธาต่อศาสนาพุทธสิ ถ้าไม่ดูฟุ่มเฟือจนเกินงาม จะทำบุญช่วย เพราะเราก็อยากให้พุทธศาสนาอยู่กับประชาชน

    อย่ามาอ้างต้านภัยพิบัติให้รู้สึกเสื่อม
     
  13. bulb

    bulb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +301
    ว่าหมอดูอีทีมั่วไม่ได้เพราะ หาเงินได้เยอะ 350 ล้าน? ตรรกะดีจัง ?
     
  14. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ทาน>>เปลือก
    ศีล>> กระพี้
    ภาวนา>>เเก่น

    ทานบารมีเต็มจะอัพ>เป็นศีลบารมี>ศีลบารมีเต็มจะอัพเป็น>ภาวนาบารมี>เเละอัพเป็นปัญญาบารมี ไปฝืนกระโดดข้ามขั้นใครจะไปถูก
     
  15. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เปลือกก็ต้องผ่าน กระพี้ก็ต้องผ่าน เเล้วค่อยต่อยอดเข้าถึงเเก่น
    ช้าหรือเร็ว อยู่กัาบารมีเก่าเเละการบำเพ็ญเพียรของใหม่ด้วย
    นั่งวิจารณ์เปลือกก็ไม่ได้ กระพี้ก็ไม่เจอ เเก่นยิ่งหมดโอกาสเพราะไปอบายภูมิซะก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2013
  16. pipatz

    pipatz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2011
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +199
    กรณีนี้ไม่ใช่แม้แต่เปลือก เรียกว่าการหลอกสร้างพระต้านภัยพิบัติ ไม่มีสอนในศาสนาพุทธเลย ไม่เป็นแม้แต่ส่วนหนึ่งส่วนใดของศาสนาพุทธ เพราะพุทธไม่ได้สอนว่าธรรมชาติต้านได้ แต่สอนให้เข้าใจธรรมชาติ

    กรณีหลอกลวงสร้างพระต้านภัยพิบัติ โดยยกตนว่าเป็นผู้วิเศษ เช่นนี้ เป็นเรื่องนอกศาสนา นอกรีต เป็นได้ก็แต่เพียงเศษดินเศษหินนอกธรรมชาติ การหลอกลวง นอกศาสนา ไม่ใช่เปลือก กระพี้ หรือแก่นใด ๆ ทั้งสิ้น จริงๆไม่น่าเอาศาสนาพุทธมาเกี่ยว น่าจะไปสร้างรูปปั้นบ้าบออะไรก็ได้แล้วก็อ้างเป็นยอดมนุษย์สุดพิสดารมากอบกู้โลก อะไรก็ว่ากันไป ทำไมต้องอ้างถึงศาสนาพุทธด้วย ไม่ดีเลย แย่มากๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มกราคม 2013
  17. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    เรื่องเหนือสามัญที่พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสก็มีอีกมากมายก่ายกอง
     
  18. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    เพียงเพราะมุมมองของคนไม่รู้จริง ของหลายๆระดับ


    ขออนุญาตครับ
    ความจริงคือ การอุบัติของพระพุทธเจ้า เป็นเรื่องยากมากๆ
    แต่ที่คนทั่วไปไม่รู้คือ การอุบัติของพระโพธิ์สัตว์ ที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว
    ก็ยากเกือบจะพอๆกัน
    เพราะในพุทธันดรหนึ่งนั้น พระโพธิ์สัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว
    ท่านจะลงมาจุติ เฉพาะช่วงที่ในโลกเกิดยุคเข็ญเท่านั้น
    เพราะเป็นช่วงที่ท่านสามารถสร้างบุญบารมีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

    ่เหมือนที่ท่าน อ.ทิพากร ท่านได้เมตตา ติวเข้มผมเป็นการส่วนตัว


    "พระโพธิ์สัตว์ ที่ได้รับพุทธพยากรแล้ว มี ๑๐ พระองค์"
    "พระโพธิสัตว์ ที่บารมีพร้อมจะรับพุทธพยากร มี ๕๐๐ พระองค์"
    "นอกจากนี้ยังมี ผู้ปรารถนาพุทธภูมิ อีกนับไม่ถ้วน"
    "เมื่อโลกเกิดยุคเข็ญ พระโพธิ์สัตว์ ๑ ใน ๑๐ พระองค์ ก็จะจุติลงมาช่วยโลก"
    "เหมือนตอนนี้ที่ผมต้องลงมา"


    เมื่อผมเรียนถามท่านเรื่องพระโพธิ์สัตว์ ที่ได้รับพุทธพยากรแล้ว พระองค์อื่นๆ
    คำตอบที่ได้ก็น่าตกใจอย่างยิ่ง ท่าน อ.ทิพากร ท่านตอบว่า


    "การจุติบนโลกของพระโพธิ์สัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรแล้ว"
    "๑๐๐๐ ปีที่ผ่านมา ไม่มี อีก ๑๐๐๐ ปีข้างหน้า ก็ยังไม่มี"


    เป็นอย่างไรบ้างครับ เห็นคำตอบของท่าน อ.ทิพากร แล้ว สะท้านทั้งโลก หรือไม่

    เพราะไม่ว่าท่านผู้ใด มีบุญบารมีระดับไหน ก็ตาม
    ถ้าไม่ใช่ พระพุทธเจ้า หรือไม่ก็ องค์พระโพธิ์สัตว์ที่ได้รับพุทธพยากร ๑๐ พระองค์แล้ว

    การบอกเล่าใดๆ ที่บอกว่า ท่านนั้นท่านนี้ ครูบาอาจารย์ท่านนั้นท่านนี้
    เป็นพระโพธิ์สัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรแล้ว ล้วนไม่ถูกต้องทั้งสิ้น

    แล้วเรื่องที่เกินเลยไปจากนี้ จะถูกต้องได้อย่างไร


    ถ้าคุณคิดว่า ผมจะอุ้มไคร ก็ลองฟังคำสอนติวเข้มของท่าน อ.ทิพากร ที่ท่านบอกว่า

    "ถนนทุกสาย มุ่งสู่ พระใหญ่ชัยภูมิ"
    "ชาวพุทธทุกๆคน จะได้มาที่นี่ ที่พระใหญ่ชัยภูมินี้"
    "แม้แต่คนที่ไม่เคยมา ก็บอกลูกบอกหลานว่า ถ้าตายก่อนก็ให้เอาศพ ไปที่พระใหญ่ให้ได้"


    ดูความเมตตาของท่าน อ.ทิพากร ดูซิว่าขนาดไหน

    ผมเห็นเจ้าภาพ สร้างหลวงพ่อทันใจ ท่านอื่นๆ
    ช่วยกันบริจาค คนละเป็นหมื่น คนละหลายๆหมื่น
    ไปจนถึง คนละแสน คนละหลายๆแสน


    ผมก็กลัวว่าชาวบ้านธรรมดา จะไม่ได้มีโอกาสได้เป็นเจ้าภาพกับเขาบ้่าง
    ก็เลยกราบเรียนท่าน อ.ทิพากร ไปว่า


    "ท่าน อ. ครับ ผมจะทำโครงการสร้างหลวงพ่อทันใจ"
    "โดยให้คนหมู่มาก มีโอกาสเป็นเจ้าภาพ โดยจะหาเจ้าภาพ ๑๐๐๐ คน"
    "ช่วยกันบริจาค คนล่ะ ๑,๐๐๐ บาท เก็บ ๓ เดือนๆละ ๓๐๐ กว่า บาท"
    "ก็จะได้เงินบริจาค ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทพอดี"


    ท่าน อ.ทิพากร ท่านกลับเมตตาตอบว่า

    "ทำไมไม่เอา ๑๐,๐๐๐ คน บริจาคคนละ ๑๐๐ บาท"

    เห็นความเมตตาของท่านไหม
    ถ้าไม่ใช่ผม ท่านจะบอกแบบนี้ไหม


    ก็เพราะหลายๆท่าน ก็เพราะครูบาอาจารย์หลายๆท่าน
    ที่บุญบารมีไม่ถึง

    กลับบอกเล่า กลับถ่ายทอด กลับสร้างภาพว่า
    พระโพธิ์สัตว์ที่ท่านได้รับพุทธพยากรแล้ว
    ต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้ ตามความเข้าใจของตน

    ท่านคงนึกไม่ถึงว่า จะมีพระโพธิ์สัตว์ที่ท่านได้รับพุทธพยากรแล้ว

    มาเกิดในยุคปัจจุบัน
    มาเกิดในยุคที่ท่านผู้บอกเล่าเรื่องราวละขันธ์ไปไม่นานนัก
    มาเกิดในยุคที่ท่านผู้บอกเล่าเรื่องราว ยังมีธาตุขันธ์อยู่ด้วยซ้ำ

    ที่น่าเสียดายยิ่งไปกว่านั้น ท่านผู้บอกผู้เล่า ที่ยังมีชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบัน
    ก็ยังไม่รู้จัก พระโพธิ์สัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรแล้ว เช่นเดียวกัน

    ที่น่าเสียดายที่สุด แม้ปัจจุบัน ท่านก็ยังบอก ยังเล่า ของท่านอยู่ต่อไป


    ส่วนท่าน อ.ทิพากร นั้น ท่านก็บอกเล่าบ่อยๆว่า


    "เพราะผมต้องเร่งสร้างพระใหญ่ชัยภูมิให้ทันตามกำหนด"
    "ผมก็เลยไม่มีเวลาไปช่วยไคร"
    "ไครไม่เข้าใจเรื่องพระใหญ่ ก็ให้ลุงมหา ช่วยบอก ช่วยอธิบายให้เขาเข้าใจนะ"

    จะเห็นว่า ลูกศิษย์ใกล้ชิด ท่าน อ.ทิพากร น่าจะได้ รับฟังเรื่องราวต่างๆ
    จากท่าน อ.ทิพากร มากที่สุด
    แต่ท่านเหล่านั้น ก็ถูกขนาบหนักกว่าผู้อื่นเช่นกันว่า
    อันไหนพูดได้ อันไหนพูดไม่ได้


    ภาระก็เลยมาตกอยู่ที่ผมโดยไม่ได้ตั้งใจ
    เพราะสันดานผมนั้น

    ชอบทำในสิ่งที่ไม่มีไครทำ
    ชอบคิดในสิ่งที่ไม่มีไครคิด
    แม้สิ่งที่คนทั่วไปกระทั่งคิด ยังไม่กล้าคิด
    แต่ผมกลับ ทั้งคิด ทั้งทำ
    ก็เพราะผมเป็นของผมอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว


    ท่านที่มาช้า ท่านที่มาสาย จะมานั่งเสียดาย จะมานั่งเสียใจ
    ก็เพราะว่า มีศิษย์ใกล้ชิดของท่าน อ.ทิพากร บางท่าน
    รู้แล้วว่า สร้างพระใหญ่เสร็จแล้ว ท่าน อ.ทิพากร จะไปอยู่มุมไหนของโลกใบนี้


    ส่วนผม ก็เฝ้ามองดูต่อไปว่า
    ชาวพุทธ ท่านไหน หมู่ไหน กลุ่มไหน
    จะมาร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    จะมารับรู้เรื่องราว ที่เป็นธรรมแท้ๆ
    เป็นธรรมที่แม้แต่ หลวงตาม้า ท่านก็บอกว่า


    "พระอรหันต์ก็ไม่รู้ ก็บอกไม่ได้ ก็สอนไม่ได้"
    "ต้องไปตามหา พุทธภูมิที่ท่านบารมีสูงๆ กันเอาเอง"
    "ต้องไปตามหา พระโพธิ์สัตว์ ที่ท่านบารมีสูงๆ กันเอาเอง"


    เมื่อผมต้องมาทำหน้าที่บอกเล่า เรื่องราวที่
    "พระอรหันต์ก็ไม่รู้ ก็บอกไม่ได้ ก็สอนไม่ได้"
    เมื่อมีท่านที่ไม่เชื่อ เมื่อมีท่านที่ไม่เข้าใจ โต้แย้งมา

    ก็ขอบอกเล่าเพิ่มเติมว่า
    นอกจากท่านที่โต้แย้งมาจะ ภูมิรู้ ภูมิธรรม ไม่ถึงแล้ว
    แม้กระทั่ง พระอรหันต์ ท่านก็ ภูมิรู้ ภูมิธรรม ไม่ถึงเช่นเดียวกัน


    ดังที่หลวงตาม้าท่านบอกว่า

    "ถ้าเราไปเรียนกับพระอรหันต์"
    "ท่านก็สอนแนวทางการสร้างบารมีของโพธิสัตว์ไม่ได้"
    "ท่านสอนเพียงทางไปพระนิพพานเท่านั้น"


    เพราะท่าน อ.ทิพากร ท่านบอกเล่าว่า

    "ญาติธรรมพระใหญ่ชัยภูมินั้น

    ศรัทธาสูงส่งไม่มีประมาณ"


    ขอโมทนาบุญ
    ขออนุโมทนาบุญ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสนับสนุนการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้เห็นดี เห็นงามในการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ขอขอบพระคุณครับ
    ลุงมหา

     
  19. ◎สุริunร์

    ◎สุริunร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2013
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,200
    เมื่อคืนฝันเห็นพระพุทธรูป ลักษณะอยู่บนโต๊ะหมู่บูชา จึงเดินเข้าไปจับที่ยอดเศียร

    ก็เลยทำบุญนี้ล่ะ สร้างพระใหญ่ชัยภูมิ โอนวันนี้ เข้า ธ.กรุงไทย มูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ 111 บาท

    ดูลุงมหาใส่แว่น ตั้งกล้อง คงจะเหนื่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2013
  20. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ชาวพุทธผู้หลับไหล ผู้วางเฉย เริ่มปรากฏตัวออกมา

    ขออนุญาตครับ
    ขอแสดงความชื่นชม ในบุญบารมีของท่านด้วยนะครับ
    สู้อุตสาห์ กล้าหาญชาญชัย ออกมาแสดงความคิดเห็น

    ความจริงคือ ผมจะเขียนอะไร ผมก็พิจารนาจาก
    ข้อเขียนของท่านที่ตอบกลับมานั่นล่ะครับ

    ไม่อย่างนั้น จิตผมมันจะอยู่ของมันเฉยๆ มันจะไม่ทำงาน
    เหมือนที่ผมเคยบอกเล่าไว้

    "ธรรมมันอยู่ในจิต แม้ตัวเราก็ไม่รู้ว่า เรารู้จักธรรมนั้น"
    "ต่อเมื่อเราพิจารนาธรรมนั้น เราจึงได้รู้ว่า เราก็รู้จักธรรมนั้น"

    เหมือนกับผมนี่ล่ะครับ ก่อนเขียนบทความใดๆ
    ผมก็ไม่ได้รู้เรื่องใดๆ เช่นเดียวกัน
    ต่อเมื่อผมได้เขียนบทความออกไปแล้ว
    ผมจึงได้รู้ว่า ผมก็รู้เรื่องราวนั้นๆ พร้อมๆกับท่านที่เข้ามาอ่าน

    เพราะชีวิตฆราวาส ผู้รู้ธรรมนั้น มันแตกต่างจาก
    พระอริยะสงฆ์ ยิ่งนัก

    เพราะพระอริยะสงฆ์ ท่านมี ศรัทธา ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา สมบูรณ์
    ด้วยพระวินัยที่บังคับ กำหนดเอาไว้

    ครูบาอาจารย์ ท่านเลยเตือนสติผมอยู่บ่อยๆว่า


    พระเจ้า พระสงฆ์นั้น เจอกันเมื่อวานยังอยู่ดีๆ
    มาวันนี้ ท่านอาจข้ามขั้นขึ้นไปไกลแล้วก็ได้
    ยิ่งการข้ามจาก พระอนาคามี ไปเป็นพระอรหันต์ ด้วยแล้ว
    เปรียบได้แค่ "ประตูบานเดียว"
    เราจึงต้องสำรวมระวังในครูบาอาจารย์ให้มากเข้าไว้

    แต่เรื่องที่คนทั่วไปไม่ค่อยจะรู้คือ

    พุทธภูมิที่ท่านบารมีสูงๆ
    พระโพธิ์สัตว์ที่ท่านบารมีสูงๆ
    ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับ พระเจ้า พระสงฆ์ ขั้นใดๆได้
    แม้ท่านจะไม่มี ขีดขั้น โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ แบบพระสงฆ์
    แต่ญาณบารมี ในการรู้เห็น กลับแตกต่างกันไกลสุดกู่ สุดลูกหู สุดลูกตา

    ไม่อย่างนั้น พ่อแม่ครูบาอาจารย์ องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เองท่านคงจะไม่สอนว่า

    "พระโพธิ์สัตว์ เป็นผู้มีบารมีมาก"
    "เป็นผู้ที่จะไปเกิดเป็นพระพุพุทธเจ้าในอนาคต"
    "ต้องให้ความเคารพท่านด้วย"

    และองค์ท่านยังบอกอีกว่า

    "เมื่อเฮาตายไปแล้ว จะมีช้างเผือกหนุ่ม มาเกิด"

    ครูบาอาจารย์รุ่นหลังๆ ถึงกับพากันตีความว่า ช้างเผือกหนุ่ม เป็น พระสงฆ์ไปโน่น

    ส่วนใครก็ตาม หรือ ครูบาอาจารย์ พระเจ้า พระสงฆ์ ก็ตาม
    ที่ทำการ เตือนสติ ก็ดี บอกเล่าเรื่อง ภัยพิบัติ ก็ดี
    เมื่อท่านได้บอกผิดไป
    ทั้งการเกิด หรือ ไม่เกิด ภัยพิบัติ
    หรือ วัน เวลา ที่จะเกิด ภัยพิบัติ
    การบอกเล่านั้น ต้อง ผิด พลาด คลาด เคลื่อน กันแน่นอน อยู่แล้ว

    เพราะผู้จะบอกเล่าเรื่อง ภัยพิบัติ ได้ถูกต้อง มากที่สุด ก็คือ
    ผู้มีบุญบารมี มีญาณบารมี มากอย่าง พอเพียง
    และ ยิ่งท่านผู้กำลัง ทำการแก้ไขภัยพิบัติ ด้วยแล้ว ยิ่งจะรู้ดีที่สุด

    เพราะท่านต้อง รู้ทั้ง สาเหตุและ วิธีแก้ไข
    เมื่อท่านกำลังทำการแก้ไข ท่านย่อมต้องรู้ดีว่า
    กำลังแก้ไขภัยพิบัติ ไปถึงไหน อยู่ในขั้นไหน
    ช้าไป หรือ ยังทันอยู่
    ถ้าช้าไป จะเพิ่มเติม อะไร
    ต้องแก้ไขแบบไหน
    เพื่อหยุดยั้ง ภัยพิบัติ เอาไว้ก่อน

    ทั้งนี้ ทั้งนั้น ต้องมองภาพรวมส่วนใหญ่ เป็นหลักด้วย
    เพราะท่าน อ.ทิพากร ท่านฝากบอกมาว่า

    "ศรัทธา พระใหญ่ชัยภูมิ ไปถึงไหน"
    "การป้องกัน แก้ไข ภัยพิบัติ ไปถึงนั่น"

    ท่าน อ. ท่านยังถามมาอีกว่า

    "ท่านได้ทำบุญ ร่วมกับพระใหญ่ชัยภูมิกันหรือยัง"

    ผมก็จะถามทุกๆท่าน ในคนไทย ทั่วโลกว่า

    ญาติธรรมเพียงเท่านี้ กับเงินบริจาคเพียงเท่านี้
    ในช่วงที่การดำเนินการก่อสร้างพระใหญ่อยู่นี่
    จะสามารถ ต้านภัยพิบัติ ได้ในระดับไหน
    เฉพาะเขตญาติธรรม มีความสามัคคี อยู่กันอย่างหนาแน่น
    บริเวณรอบนอกที่ห่าง ออกไปๆๆ
    ครอบคุม พื้นที่ ๕๐, ๖๐, ๗๐, ๘๐, ๙๐, ๑๐๐% ของพื้นที่ประเทศไทย

    เพราะอย่างไรๆ ท่าน อ.ทิพากร ท่านก็รู้ทั้งสาเหตุ และวิธีแก้ไข ดีอยู่แล้ว
    และท่านคงไม่ฝากความหวังไว้ที่ไคร อย่างคราวก่อน
    คราวที่น้ำท่วมใหญ่ ปี ๒๕๕๔
    ท่านฝากความหวังไว้ที่ชาวอยุธา
    เมื่อชาวอยุธยาวางเฉย ก็เลยเป็นเรื่องขึ้นมา

    อย่างไรก็ตาม พื้นที่ๆน้ำท่วมใหญ่ปั ๒๕๕๔ ก็อย่าได้ชล่าใจ
    เพราะญาติธรรมพระใหญ่ ในพื้นที่เหล่านี้ ยังน้อยมากๆ
    ถ้าท่าน ยังอยู่รอดปลอดภัย ก็ขอให้ทร่บเอาไว้ด้วยว่า
    ท่านอยู่รอดปลอดภัย เพราะแรงอุ้ม จากบุญบารมี ของคนพื้นที่อื่นๆ

    เพราะครูบาอาจารย์ ท่านต่างๆ ก็จะทะยอย ปรากฏออกมาเองว่า
    ท่านช่วยแก้ไขภัยพิบัติไม่ได้
    เพราะแค่ทำนายยังบอกไม่ถูก
    แล้วจะเป็นที่พึ่งได้อย่างไร
    ยิ่งท่านที่เจอ ภัยพิบัติเสียเองแล้ว ก็พิจารนากันเอาเองก็แล้วกัน

    ท่าน อ.ทิพากร ท่านให้ผมมาถามกลับว่า

    "ท่านที่พากัน พยากรณ์ กันนั้น ท่านใช้ ญาณ อะไร"
    "เพราะ ถ้าบอกชื่อญาณ บอกระดับญาณ ไม่ถูกต้อง"
    "การพยากรณ์ จะไปถูกต้อง ได้อย่างไร"
    "จะไปเห็นสาเหตุ จะไปเห็น วิธีแก้ไข ได้อย่างไร"


    ท่านผู้ใดจะเมตตา ครูบาอาจารย์ ท่านนั้นๆ
    ก็ช่วย เอาเรื่องราว ท่าน อ.ทิพากร เอาเรื่องราวการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ไปให้ท่านดู ไปให้ท่านศึกษา หน่อย เผื่อจะได้ตาสว่างขึ้นมาบ้าง

    จะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาทำในสิ่งที่ตนเอง บุญบารมี ไม่ถึง

    เรื่องธรรมที่พระพุทธองค์ ได้ทรงสอนทวยเทพ เทวดาเอาไว้
    ก็ต้องถาม เหล่า ทวยเทพ เทวดา กันล่ะครับจึงจะบอกออกมาได้

    ส่วนเรื่องที่เป็นญาณบารมีระดับ
    พุทธภูมิระดับสูง
    โพธิสัตว์ระดับสูง
    โพธิ์สัตว์ที่ได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว

    ก็ต้องพากันพิจารนากันเอาเอง เพราะท่านเหล่านี้
    ท่านคงไม่บอกตรงๆว่า ท่านอยู่ระดับไหนกันบ้าง

    ส่วนท่านที่พากันออกมาบอกว่า
    ภัยพิบัติ ผิดพลาดคลาดเคลื่อน เพราะเหตุนั้น ผลนี้
    ก็ว่ากันไปตามบุญวาสนาบารมี ภูมิรู้ ภูมิธรรม ของตน

    แต่ที่ท่าน อ.ทิพากร บอกเล่า ก็คือว่า


    "ภัยพิบัติ คุมอยู่แล้ว"

    "ต่อไปก็คือ การเหนี่ยวนำ ความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ เข้ามาในประเทศไทย"
    "ท่าน อ.ทิพากร ท่านได้กำหนดเอาไว้แล้วล่วงหน้าว่า
    ๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท"
    "ส่วนที่จะใช้ในการก่อสร้าง รัตนบัลลังค์ ก็คือ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท"


    นั่นก็คือ การขอรับบริจาคแค่ 2% ของความมั่งคั่ง ที่ท่านเหนี่ยวนำเข้ามาให้

    ส่วนเงินจำนวนนี้ จะไปผ่านผู้ใดบ้าง ก็แล้วแต่บุญวาสนาบารมี ของท่านนั้นๆ

    ตัวผมเอง ก็ได้สัมผัสโดยตรงกับผู้มีบุญวาสนาารมี
    ที่กระแสการเงินไหลผ่านโดยไม่คาดคิดมาบ้างแล้ว
    ว่างๆจะเล่าให้ฟังว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร

    เรื่องว่าผมดูเหนื่อยนั้น ก็ยอมรับครับ
    เพราะบ้านผมห่างจาก พระใหญ่ชัยภูมิ ไปกลับ ประมาณ ๑,๐๐๐ กิโลเมตร
    ถ้าไปถึง เจริญปุระนคร ด้วยไปกลับ ก็บวกเข้าไปอีก ๑๕๐ กิโลเมตร
    แล้วคนอายุ ใกล้ ๖๐ อย่างผมจะไม่เหนื่อยได้อย่างไร

    ขอโมทนาบุญ
    ขออนุโมทนาบุญ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้ร่วมสนับสนุนการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ร่วมกับญาติธรรมผู้เห็นดี เห็นงามในการสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ
    ขอขอบพระคุณครับ
    ลุงมหา

     

แชร์หน้านี้

Loading...