จริงหรือไม่??ถ้าท่องคาถา"ชินบัญชร" ย้อนกลับได้จะสามารถเปิดเนตรเห็นนรกได้

ความเิดิม ท้าว ชินปัญชะระ เป็นเจ้าของคาถา อาจจะเป็นพรมหรือพรมอนาคามีไม่แน่ใจเคยอ่าน มาประทานให้ท่าน สมเด็จพุทฒาจารย์ โต พรมรังสี ของเราเป็นการอารธนา พระพุทธเจ้าและ พระอรหันต์สีติมหาสาวกทั้งหลายอีกและพระบารมีทั้ง พระสูตร ต่างๆมาคุ้มครองเราทุกส่วนไม่เว้นแม้เส้นผม ส่วนที่บอกท่องถอยหลัง ผมเคยได้ยินมาส่วนใหญ่เป็นหัวใจ คาถาต่าง ๆมีไว้ ถอนของกระทำย้ำยี่ทางไสย ส่วนชินบัญชร ไม่มีครูบาอาจารย์คนไหนกล่าวถึงว่าให้ถอยหลัง ลองนึกความหมาย สิ มันก็จากคุ้มตรองมันออกกลับไปหมด และเป็นการไม่เคารพ ดูหมิ่นครูอาจารย์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เจ้าของคาถา ผมเคยเหงพ่อเพื่อนท่องถอยหลังด้วยความคะนอง หรือว่ามีคนมาท้าแบบในเว็บนี้ล่ะ ผลสุดท้าย ตายเลือดออกเจ็ดทวาร โดยไม่มีสาเหตุ อารายที่เรารู้ไม่จริงก็อย่างเพิ่ง นำไปใช้หรือให้ึคนอื่นใช้เลย จากได้ประโยชน์ จักเป็นโทษมหันต์แล เจริญพร

 

ที่นครสวรรค์มีคนจีนคนหนึ่ง ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว ตอนนี้แกยังมีชีวิตอยู่ แกท่องคาถาชินบัญชรทั้งเดินหน้าและถอยหลังได้ เคยแถมแกดูว่ามีอะไรแปลกไปหรือไม่ หรือเห็นอะไรบ้าง แกไม่ยอมตอบ เพียงบอกว่าให้ลองดูเอง แล้วจะรู้ จนบัดนี้ผมยังท่องถอยหลังไม่ได้ ก็เลยไม่รู้จะตอบว่าไง

 

ความเห็นส่วนตัว
ผมอ่านมาจากหนังสือของวัดบวรนะครับ ความจริงแล้วคาถาชินบัญชร มีสวดตั้งแต่สมัยพระเจ้าบุเรงนองของพม่า เดิมเรียกว่า รัตนาช่วยใช่ เป็นภาษาบาลีนะครับ ต่อมาได้แพร่เข้ามาทางเหนือ ทางเหนือ ก็มีคาถาที่เรียกว่า ไชยเบงชร ซึ่ง สมเด็จฯ ท่านได้พบ และได้นำมาดัดแปลงให้ความฉันทลักษณ์ที่เหมาะสมสำหรับคนไทยมากขึ้น

ส่วนคำว่า ชินบัญชร หมายถึง กรงทองแห่งองค์พระชิน คำว่า พระชิน-ชิ-นะ ในที่นี้ หมายถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง มิได้หมายถึง พระพรหมที่ชื่อว่า ชินะปัญชระ นะครับ การได้อยู่ในกรงทองแห่งพระชิน อันรายล้อมด้วยพระอิติสาวก อรหันต์ขีณาสพ ทั้งหลาย ย่อมจะอยู่ในความปลอดภัย

ผมเห็นว่าการท่องถอยหลังนั้น ถ้าเป็นคาถา เขาเรียกว่า อณุโลม กับปฏิโลม เหมาะสำหรับคาถาที่เป็นคาบ เช่น นะมะพะทะ จะภะกะสะ ยาวที่สุดไม่น่าจะยาวกว่า อิติปิโสฯ นะครับ เพราะยาวกว่านี้ ต้องใช้สัญญาในการจำมาก แทนที่จะทำให้จิตไว กลับจะทำให้จิตหนักนะครับ แล้วอีกอย่างก็คือ ไม่มีความหมาย สู้กำหนดเวลานะครับว่าภายใน 3 อึดใจ เราต้องท่องให้จบ อย่างนี้ น่าจะเป็นการฝึกให้จิตคล่องตัวมากกว่า

 

ท่องธรรมดาดีกว่าครับ เชื่อผม
ไม่ต้องดิ้นรนไปท่องถอยหลังหรอก

สิ่งสำคัญไม่ได้ขึ้นอยู่กับท่องไปหน้า ถอยหลัง
มันขึ้นอยู่กับความศรัทธา ความเคารพ และสมาธิ ต่อพระคาถานะครับ

มันอยู่ที่ใจครับ

 

ดีแล้วล่ะ สวดต่อไปนะ ลำพังแค่สวดธรรมดาไม่ต้องดูหนังสือก็2ปีแล้วล่ะสวดถอยหลังก็ไม่รู้อีกกี่ปี สาธุ สาธุ สาธุfishh_

 

ผมเคยเข้าไปนอนรักษาอยู่ในโรงพยาบาลของรัฐอยู่ช่วงหนึ่งแต่ผ่านมานานหลายปีแล้วหละครับ ได้เห็นอะไรหลายอย่าง ผมก็เลยเรียกโรงพยาบาลว่ามหาวิทยาลัยชีวิต เพราะอะไรลองไปคิดกันดูเองนะ ไม่มีคำตอบที่ตายตัวหรอกครับ ขึ้นอยู่กับมุมมองและการพิจจารณาของแต่ละบุคคล:z7