ช้างเผือกในป่าอีสาน หลวงตาสมหมาย วัดป่าสันติกาวาส คำสอน/ประสบการณ์/วัตถุมงคล/ (ช่างชิต)

สุดยอดมากเลยครับ

 

มาถ่ายทอดประสบการณ์ต่อนะครับหลังจากหายไปหลายวัน(แม้จะไม่มีคนเข้ามาอ่านผมก็จะเขียนไปเร่อยๆก็แล้วกัน)
เรื่องนี้เป็นประสบการณ์จาก ครูจารย์ ส พระอีกรูปที่อยู่กับหลวงตามานาน ผมให้ชื่อเรื่องนี้ว่า "เกือบจูบ(ดาก)"

เรื่องคือว่า อาจารย์ ส ท่านได้ขอหลวงตาสร้างเหรียญ(รุ่น เสาร์ 5 วัดถ่ำสูง นครพนม)แล้ววันนั้นมีธุระเข้าจังหวัดอุดรธานี
ในย่ามท่านก็มีเหรียญหลวงตาอยู่ถุงหนึ่ง เอามาเพื่อจะแจกญาติโยมท่านก็นั่งเบาะหน้ามากับคนขับ ช่วงจังหวะนั้นเป็นช่วงที่ทำความเร็วคนขับจึง
ขับเลนขวามาตลอด จังหวะนั้นเองรถเก๋งในเลนซ้ายอยู่ข้างหน้าได้หักตัดหน้ารถของท่าน เหมือนหักหลบอะไรมาซักอย่างด้วยความกระชั่นชิด
คนขับก็ตกใจเพราะมันใกล้มากไม่สามารถเหยียบเบรกทันแน่ๆ อาจารย์ ส ที่เห็นเหตุการณ์ตลอดเตรียมตัวเตรียมสติว่ายังไงต้องชนท้ายเขาแน่นอน
เพราะมาด้วยความเร็วสุงมาก จังหวะนั้นเองอาจารย์ ส กำย่ามแน่นระลึกถึงหลวงตาว่าขอให้อย่าเป็นอะไรมากเลย(คิดว่าชนแน่ๆ)เดชะบุญ เสี้ยววินาที
รถเก๋งคันนั้นก็หักหลบกลับแล้วพลิกคว่ำตีลังกาไปต่อหน้าต่อตาของอาจารย์ ส กับคนขับ รถของท่านที่ไม่ทันแม้จะเหยียบเบรกก็ผ่านไปเหมือนหนังบู๊ที่กำหนดฉาก
ไว้ชัดเจน อาจารย์ ส ตื่นเต้นกับเรื่องนี้มากท่านเชื่อว่าเป็นเพราะ บารมีหลวงตาแท้ๆจึง แคล้วคลาดปลอดภัยมาได้ นี้ก็เป็นอีกประสบการณ์ที่คนใกล้ตัวผมผากถ่ายทอดมา
ส่วนท่านจะเชื่อหรือไม่ล้วนพิจารณาเอาเองนะครับ (รูปเรียญรุ่น เสาร์ 5 ครับ)

 

ชอบครับเขียนไปเรื่อยๆครับ ผมก็คนอุดรครับ
ถ้ามีโอกาศจะไปกราบหลวงพ่อครับ

 

ขอบคุณมากครับที่ตามอ่าน บ่ายๆเดี้ยวผมจัดให้อีกเรื่องครับ

 

เกี่ยวกับการรู้ว่าละจิตของหลวงตานิใครได้อยู่ใกล้ได้สัมผัส ย่อมรู้แน่นอนครับว่าสุดยอด จริงๆเรื่องประสบการณ์ด้านนี้ผมมีเยอะมากที่คนใกล้ตัวเล่าให้ฟังแต่ผมจะยังไม่เขียน ณ ตอนนี้จะเอาประสบการณ์ด้านอื่นมาฝากทุกท่านก่อนนะครับ

 

มาต่อครับ พระอาจารย์สาจ เป็นลูกศิษย์หลวงปู่บุญจันทร์เช่นเดียวกับหลวงตา
พูดง่ายๆคือ เป็นศิษย์น้องของหลวงตา พระอาจารย์สาจนั้นด้วยพรรษาพระเกือบ 40 พรรษาถือว่าเป็นพระเถระผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง แต่ทุกครั้งที่มาเจอหลวงตาหรืออยู่กับหลวงตา
พระอาจารย์สาจจะนอบน้อมเคารพหลวงตาเป็นอันมาก เสมือนท่านเป็นเณรน้อยก็ไม่ปานท่านบอกว่ากับหลวงตาสมหมายท่านสุดใจจริงๆ พระอาจารย์สาจจะยกย่องหลวงตามาก เพราะท่านเจอสัมผัสมากับตัวเองในเรื่องคุณธรรมการปฏิบัติว่าหลวงตาท่านไปถึงจุดไหนแล้ว พระอาจารย์สาจเคยเทศและเล่าให้ลูกศิษย์ฟังเกี่ยวกับหลวงตาด้านความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์และมีอยู่เรื่องที่ผมจะนำมาถ่ายทอดให้ทุกท่านได้อ่านในวันนี้ ผมให้ชื่อเรื่องว่า "ด้วยแรงอธิฐาน"
พระอาจารย์สาจท่านเคยเล่าว่าสมัยเมือ 30 กว่าปีก่อนตอนที่ท่านบวชใหม่ๆหลวงตาสมหมายเคยไปอุปฐาก หลวงปู่คงแก้ว ที่โคราช (ผมไม่ทราบประวัติของหลวงปู่ท่านนะครับ)เพราะเห็นหลวงปู่คงแก้วไม่สบายแล้วไม่มีใครคอยอุปฐากท่าน หลวงตาสมหมายจึงไปคอยอุปฐากท่านที่โรงพยาบาลทั้งกอบขี้เช็ดขี้เช็ดเหยี่ยวสารพัดทำโดยไม่รังเกลียดเลย อุปฐากอยู่ช่วงหนึ่งแล้วหลวงตาต้องพาพระอาจารย์สาจไปทำธุระที่กรุงเทพ ท่านจึงลาหลวงปู่แล้วเดินทางด้วยรถไฟกับพระอาจารย์สาจไปกรุงเทพด้งยกัน ในระหว่างนั้นเองหลวงตาท่านนึกถึงเรื่องของจิตที่เขาเล่ากันมาแต่ก่อนว่าครูบาอาจารย์มีพลังจิตแก่กล้าสามารถบังคับหรือทำสิ่งที่พิเศษได้บวกกับเรื่องของบารมีของพ่อแม่ครูบาอาจารย์จะมีจริงไหม.....ท่านอยากพิสูจน์ท่านจึงยกมืออธิฐานว่า "ถ้าสิ่งที่ท่านทำให้กับพ่อแม่ครูบาอาจารย์มาโดยตลอดไม่ว่าจะองค์ไหนรูปไหน เป็นสิ่งที่ถูกที่ควรพ่อแม่ครูบาอาจารย์รับรู้ถ้าทราบถึงเจตนาของท่านรับรู้สิ่งที่ท่านทำขอให้รถไฟขบวนนี้หยุดด้วยเถอะ" .............แล้วทันใดนั้นรถไฟก็หยุด ตัดมาที่พระอาจารย์สาจท่านก็สงสัยว่ารถไฟเป็นอะไร(ไม่รู้ว่าหลวงตาอธิฐาน)แต่ท่านก็ไม่ได้จะว่าอะไรเพราะซักพักรถไฟก็ติดวิ่งปรกติแล้วไม่นานมันก็หยุดอีก........พระอาจารย์สาจท่านก็หงุดหงิดว่าทำไมรถไฟเสียบ่อยจังแล้วซักพักมันก็ติดแล้ววิ่งต่อ ทันใดนั้นเอง..........รถไฟหยุดเป็นครั้งที่สามแล้วมันก็เสียเลย พระอาจารย์สาจกับหลวงตาต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟกันใหม่แล้วท่านจึงมารู้ความจริงที่หลังว่าที่รถไฟหยุดทั้งสามครั้งเพราะอะไร หลวงตาเล่ากับพระอาจารย์สาจตอนรอเปลี่ยนรถไฟว่า ท่านอยากรู้ว่าพลังจิตสมาธิบารมีครูบาอาจารย์มีจริงไหม เลยอธิฐานจิตขอดู แล้วรถไฟก็ดับ หลวงตาคิดว่ามันบังเอิญเลยขอให้ดับอีกรอบสองแล้วก็ดับ เพื่อความมั่นใจว่าท่านไม่คิดไปเองแบบนั้นแบบนี้ท่านจึงขอให้ดับอีกครั้ง แล้วรถไฟก็ดับเป็นครั้งที่สาม คราวนี้รถพังเลย (คล้ายๆเรื่องหลวงปู่ฝั่นไหมครับ ผมว่าผมคิดเองนะหลวงตาคงจะได้ยินเรื่องนี้มาละเลยอยากลองพิสูจน์กับตนเองดู)พระอาจารย์สาจท่านสงสัยหลวงตาว่าอธิฐานแบบไหนทำได้ยังไงถามหลวงตาก็ตอบแต่ว่า "เป็นเพราะบารมีของครูบาอาจารย์" ท่านไม่เคยบอกว่าตัวเก่งตัวเองวิเศษแบบนั้นแบบนี้เลย จนผ่านมาถึงปัจจุบัน พอพระอาจารย์สาจได้ฝึกจิตสมาธิธุดงค์ในป่าในเขามาเกือบ 40 พรรษา ท่านได้ภูมิธรรมขั้นไหนผมไม่รู้แต่ท่านไม่มีสงสัยในหลวงตาสมหมายแล้วจริงๆ ท่านคงมีคำตอบที่ชัดเจนในใจว่าเพราะอะไร ส่วนหลวงตาแม้ใครจะถามท่านจะบอกว่า "แรงอธิฐานบารมีครูบาอาจารย์อย่างเดียว"(น้อยคนมากเพราะไม่มีใครรู้ หลวงตาไม่ได้จะมาเล่าให้ใครฟังท่านเคยเทศน์ในเรื่องความกตัญญูบารมีของครูบาอาจารย์แล้วยกตัวอย่างนี้ขึ้นมาครั้งหนึ่งเท่านั้นนานมาแล้วและคนที่ฟังคงลืมไปแล้วด้วยซ้ำ จึงน้อยคนนักจะรู้เรื่องนี้ ผมเองละที่หน้าด้านเอามาเขียนให้ท่านได้อ่านกันจริงๆเขาไม่เล่าไม่พูดกันนะครับหลวงตาท่านไม่ชอบให้ใครมาหาท่านเพราะเรื่องแบบนี้ ท่านอยากให้คนมาฝึกจิตทำสมาธิทำบุญฟังธรรมะกันมากกว่า) นี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมนำมาถ่ายทอดกันจริงๆลูกศิษย์หลวงตาที่นำเรื่องราวหลวงตามาเสนอสู่สาธารณะมีแล้วนะครับแต่เป็นอีกด้าน ด้านที่เกี่ยวกับการปฏิบัติฝึกจิตสมาธิฟังเทศน์ฟังธรรมะกัน แต่ด้านนี้ผมคงเป็นคนแรกที่นำเสนอเพราะผมมันพวกนอกคอก 55555 แต่ผมมาเขียนไม่ได้จะมาหวังหากินอะไรกับเรื่องราวตรงนี้อยู่แล้ว ผมแค่อยากสะท้อนอีกมุมของหลวงตาให้คนที่อาจชอบแบบผมได้รู้เท่านั้นเอง *จะมาเขียนต่อนะครับถ้ามีคนอ่าน

 

ติดตามอ่านครับ

 

ขอบคุณครับมีคนอ่านเป็นกำลังใจดีๆแบบนี้ เดี้ยวผมจะกลับมาเขียนต่อนะครับ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูล ดีๆครับ

 

ช่วงบ่ายได้โทรไปสอบถามกับพระอาจารย์อู้ที่วัดมา(วันนี้ที่วัดมีกฐิน)ยอดกฐินได้ 2,184,187.50 บาท อนุโมทนาสาธุ ด้วยครับ สาธุๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

ต่อเลยครับจะติดตามตลอด

 

มาต่อครับ เรื่องต่อจากนี้ไปเป็นเรื่องสดๆร้อนๆที่ผมได้คุยกับอาจารย์อู้มากำลังฮือฮากันแถววัดกันเลยทีเดียวเป็นเรื่องที่มาเกี่ยวพันกับการมรณะภาพของสมเด็จพระสังฆราชเมื่อวานนี้ ผมให้ชื่อเรื่องนี้ว่า "นิมิตบอกเหตุ"

ทุกเช้าก่อนจะฉันจังหันกันหลวงตาท่านจะเทศน์โปรดญาติโยมคนมาใส่บาตรทุกวัน เทศน์ออกไมค์แจ้งข่าวคราวในแต่ละวันละวันไป ประมาณวันพุธหรือวันพฤหัสนี้ไม่ทราบหลวงตาก็เทศน์ปรกติก่อนจังหันแต่ครั้งนี้หลวงตาบอกว่า "เมื่อคืนนั่งสมาธิเกิดเห็นนิมิต ในหลวงกับพระราชินีไปงานศพของพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งเห็นคนมากมายไปเคารพพระศพท่านแต่หลวงตาไม่รู้ว่าเป็นใคร หลวงตากลัวว่าในไม่ช้าจะมีพระผู้ใหญ่มรณะภาพในบ้านเมืองเรา" แล้ววันศุกร์สมเด็จท่านก็จากพวกเราชาวพุทธไป ผมคิดว่าพระอาจารย์อู้คงไม่กุเรื่องมาเล่าให้ผมฟังเป็นแน่เพราะพยานมีเป็นร้อย(ญาติโยมที่มาใส่บาตรถวายอาหาร)และวิสัยพระป่าท่านจะไม่พูดปดผิดศีลอยู่แล้ว ก็ลองพิจารณาเอาเองนะครับ *เรื่องนี้มาแทรกคิวเรื่องที่จะตั้งใจเขียนเดี้ยวผมจะมาต่อแล้วกันนะครับ (ถ้ามีคนอ่านไม่มีผมกะพูดคนเดียว 5555)

 

นั่งอ่านไม่ไหวเลยตัวหนังสือแน่นขนัดขนาดผมอายุเลข2ต้นๆนะพี่ อิอิ ขอให้ขยายฟร้อนกว่านี้ได้ไหมครับพี่

 

ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับที่ชี้แนะเดี้ยวผมจะปรับปรุงด่วน

 

ภาพงานกฐินที่วัดหลวงตาองค์นั่งขวามือตามรูปนี้คือ พระอาจารย์สาจหรือหลวงตาสาจ ครับ

 

ภาพตอนเย็นวันงานกฐินหลวงตาครับ เอามาฝากคั่นเวลา

 

"หลวงตาสมหมายนิถ้าเปรียญเทียบนึกภาพให้เห็นท่านมีภูมิธรรม "ด้านปัญญา"
เหมือน พระสารีบุตร หลักธรรมอุบายธรรมต่างๆการทำกรรมฐานทำสมาธิ ที่ยากๆขั้นสูงหลวงปู่ทำได้นะแต่สอนคนอื่นบอกคนอื่นไม่ค่อยเป็นไม่รู้จะเอาคำไหนมาบอกให้เขาเข้าใจ ไม่เหมือนหลวงตาสมหมายทำได้บอกสอนคนอื่นแก้ไขได้ ปัญญาท่านมาก"

หลวงปู่บุญมา พระอริยะสงฆ์ที่ดำรงขันต์อยู่ วัดป่าสีห์พนม สกลนคร กล่าวถึงหลวงตาสมหมาย

 

ภาพหาดูยาก หลวงตาสมหมายนวดปรนิบัตพ่อแม่ครูอาจารย์ หลวงปู่บุญมา วัดป่าสีห์พนม สกลนคร ที่กุฏิหลวงตา

 

ครับพี่

 

ขอตามอ่าน น่าสนใจมากๆครับ