ช้างเผือกในป่าอีสาน หลวงตาสมหมาย วัดป่าสันติกาวาส คำสอน/ประสบการณ์/วัตถุมงคล/ (ช่างชิต)

ผมว่าตอนนี้ช่างชิตหล่อกว่าเก่ามากเลย(ชมนะครับไม่ได้ชอบ555)อนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

55555555555

 

....สวัสดีครับทุกท่าน สามสี่วันก่อนช่างชิตหอบเหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์ขึ้นมากรุงเทพเป็นที่สำเร็จแล้วนะครับ ต้องบอกว่ามันโคตร จนนึกในใจว่า"กูนิหาเรื่องให้ตัวเองจริงๆ"555+ จะให้แอดฌานไปรับ ก็จะเสียเวลาทุกท่านที่อยากจะได้เหรียญละ เลยตัดสินใจขนขึ้นรถทัวร์ แบบบ้าหอบฟาง กระเป๋าเป้เกือบ 7 กิโล ลังพระอีกประมาณ 10 โล ไว้ใต้ท้องรถก็ไม่เอาใต้ตีนคน จะซื้อที่นั่งข้างๆก็เต็ม อัดใส่ที่ชั้นวางของก็เกือบไม่ได้ต้องรื้อกล่องใหม่หมด ถึงกรุงเทพ หอบเหรียญข้ามสะพานจากหน้าฟิวมาตรงตลาดรังสิต ไม่ไกลมากแต่"หนักมาก" โอ้ยกูงึดเจ้าของ 555++
......ตอนนี้ก็เรียบร้อยอยู่ในมือแอดฌานแล้วนะครับ ที่มาเล่าให้ฟังไม่มีอะไรจะบอกว่า "ตั้งใจใส่ใจทุกขั้นตอนจริงๆตามสภาพ(อัตคัด)ด้วย" 555++เดี้ยวยังไงแอดฌานจะมาแจ้งรายละเอียดต่อนะครับ
..........มีเรื่องน่าสนใจมาเล่าให้ฟังสั้นๆเดี้ยวจะว่ามาปั่นเหรียญตัวเอง แต่ช่างชิตไม่สนใจหรอก มันเป็นความจริงก็เล่าไปตามที่เกิดขึ้นจริง
....สองวันก่อนน้าที่นับถือของช่างชิตเอาเหรียญให้พระอาจารย์ที่น้านับถือพิจารณาดู พระอาจารย์เก่งเรื่องคาถาอาคมและมีญาณสัมผัสแบบแปลกๆ แต่ท่านไม่เปิดตัว ท่านจับแล้วบอกว่า
"ของบู๊เด้นิเป็นมหาอำนาจนำ"
.....เมื่อวานน้องชายช่างชิตไปกราบพระอาจารย์สุริยันต์ที่ชัยภูมิ(ช่างชิตไม่ได้ไปด้วยและไม่ได้บอกท่านว่าน้องจะไปสรุปคือไม่ได้เตรี้ยมอะไรทั้งนั้น) น้องเอาเหรียญให้พระอาจารย์ท่านพิจารณา ท่านว่า
"เหรียญนี้พระที่อธิฐานหลุดพ้นแล้วไม่กลับมาเกิดแล้ว"
น้องชายจึงมอบถวายท่าน ท่านตอบอย่างหน้าตายิ้มแย้มว่า
"ดีๆ เอาสิ เหรียญของพระอริยะเสก ของฟรีด้วย(ท่านว่าก็หัวเราะ) เป็นบุญเป็นกุศลเด้อเอามาถวายนิ"
เหรียญที่น้องชายให้ไปก็เหรียญ ทองแดงธรรมดานะครับไม่ใช่เนื้อพิเศษ
.....อ๋อ จะบอกว่าน้องชายไปถามเรื่องเดียวกับที่ช่างชิตเคยถาม(คุยกับน้องว่าอย่าไปบอกว่าช่างชิตเคยมาถามละ) ท่านก็ตอบเหมือนกัน แถมรู้เรื่องส่วนตัวของน้องชายแบบลับๆอีก ขนาดต่างคนต่างกรรมต่างวาระ แต่เรื่องเดียวกันท่านก็พูดเหมือนเดิม แสดงว่า "ญาณสัมผัสท่านแจ่มใสจริงๆ"
.....เอามาเล่าสู่กันฟังขำๆนะครับ ไม่มีให้เช่าหรอก อยากได้ไปกราบหลวงตาเอา ใครได้เหรียญไปฝันว่าเหรียญนี้ไม่ดี รู้สึกว่าไม่ชอบ "ส่งมาครับยินดีรับคืนหรือจะมาให้เช่าจะเอาตังก็จะเช่าคืนไม่ต่ำกว่าราคาที่ให้ร่วมบุญ" ขอให้พลังสถิตอยู่กับท่านครับ
‪#‎ในภาพเหรียญลองพิมพ์และเหรียญชำรุดที่ช่างชิตขอโรงงานเก็บไว้เป็นที่ระลึก‬

 

.....นานๆมาเล่นในคอมทีต้องอัดกระทู้หนักๆ 555 ว่ากันยาวๆไปอ่านสนุกๆนะครับไม่ต้องเครียด หลายท่านคงอยากรู้เหตุผลว่า ช่างชิตทำไมถึงเอาเรื่องราวของหลวงตามาเขียนในมุมประสบการณ์มุมเรื่องเล่าวัตถุมงคล ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้หลวงตาสมหมายที่คนรู้จัก คือ "ครูบาอาจารย์พระกรรมฐานที่เน้นสอนธรรมะปฏิบัติภาวนา"
......ขอให้ทุกท่านดูตามรูปเลยครับ นี้เป็นครั้งแรกที่ช่างชิตเอาออกสู่สายตาสาธารณชนในรอบ 3 ปี "สิ่งนี้คือต้นเหตุอุบัติมหากาพย์ปฐมฤกษ์ของทั้งหมด"
....ปะคดปืนแตก.....
นี้คือชื่อที่ช่างชิตเรียกขาน ปะคดเส้นนี้เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวมหากาพย์ของหลวงตาเมื่อ 3 ปีก่อนบนเว็ปบ้านแห่งนี้ บ้านพลังจิต ในชื่อกระทู้ "ช้างเผือกในป่าอีสาน หลวงตาสมหมาย วัดป่าสันติกาวาส"
.....ช่างชิตรู้จักหลวงตาครั้งแรกเมื่อปี 2546 หลวงตาทำให้แนวคิดทางศาสนาของช่างชิตเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ(ก่อนหน้านั้นรู้จักแต่พระแบบทั่วๆไป ซึ่งก็ไม่ได้อะไรมากาย)หลังจากนั้นก็ไปมาวัดหลวงตาตลอด แต่....แต่.....แต่ช่างชิตก็เข้าใจว่าหลวงตาเป็นพระสุปฏิปันโนรูปหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรพิเศษ(หมายถึงอะไรที่เหนือธรรมชาติ)
......จนปี 2556 มาบวชกับหลวงตารอบสอง แล้วขอสร้างเหรียญรุ่นนี้ละ รุ่นปัญญาอิทธิฤทธิ์ ก็นึกในใจว่า เมื่อสร้างแล้วจะนำเหรียญรุ่นนี้ไปยิงลองดู "อยากรู้ว่านอกจากปฏิบัติภาวนาแล้ว หลวงตาจะเก่งเรื่องแบบนี้ไหม"
.....แต่ก็ได้แค่คิดไม่กล้าพูด ซึ่งตอนนั้นศิษย์หลวงตาจะรู้ดีว่า "หลวงตาท่านไม่สนใจที่จะพูดคุยเกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์เลย" ถ้ามาคุยท่านจะเปลี่ยนเรื่องทันที ยิ่งมาพูด ยิงไม่ออกฟันไม่เข้าหมดสิทธิ์ เผลอๆโดนด่าด้วย เอาเป็นว่าตอนนั้นรู้จักมา 10 ปี ช่างชิตไม่เคยได้ยิน
......แต่ปะคดเส้นนี้ ทำให้สิ่งที่เราไม่เคยก็ได้เคย วันหนึ่งช่างชิตนั่งสรงน้ำหลวงตา ใจก็คิดว่า"ทำเหรียญเสร็จจะทำตะกรุดด้วยแล้วจะเอาไปยิง" คิดอยู่แบบนั้น จนครูบาอีกคนที่อุปฐากหลวงตาทำปะคดเส้นนี้ตกน้ำ แล้วมากราบเรียนหลวงตาว่าจะเปลี่ยนเส้นใหม่ให้ หลวงตาก็พูดขึ้นมาว่า
...."ปะคดเส้นนี้หลวงตาใส่มาเป็น10ๆปีไม่เคยซัก เอาไปยิงก็ยิงไม่ออก" พร้อมสายตาที่หันมาจ้องช่างชิตกับรอยยิ้มที่มุมปาก คิดเอาเองนะครับว่ามันมหัศจรรย์ใจขนาดไหน กับคนที่ไม่เคยเจออะไรเลยแบบนี้ในชีวิต
.....เพราะปะคดเส้นนี้ ทำให้ช่างชิต "เลิกเหล้า" ตามมาด้วย "เลิกเล่นการพนัน" และก็(กำลังจะ)เลิกเที่ยว
.....เพราะปะคดเส้นนี้ ทำให้เกิดเรื่องราวหลวงตาในโซเชียล ทำให้ได้พบเจอทุกท่าน ทำให้ได้มีกัลยาณมิตรเข้ามาในชีวิต
......เพราะปะคดเส้นนี้ ทำให้ผู้ชายที่น้องชายคลานตามกันมาและคนที่รู้จักขนานนามเรียกว่า "บุตรแห่งนรก"(จะขนาดไหนคิดดู555++) กลับกลายมาเป็นผู้เป็นคน เป็นนักเขียนเรื่องบุญและเป็นสะพานบุญมีคนร่วมบุญด้วยนับล้านบาท
.....เพราะช่างชิตปัญญาน้อยภาวนาไม่เป็น
.....เพราะช่างชิตกำลังใจอ่อนติดในเครื่องรางของขลัง
.......เพราะช่างชิตยังเป็น"ปุถุชนคนธรรมดา"ที่ไม่ได้หวังนิพพานในชาตินี้
.....แต่การที่ชื่นชอบอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ชอบวัตถุมงคลมันทำให้ "ช่างชิตกลับมาอยู่ในทางที่ดีที่ควรได้" พอจะรู้แล้วหรือยังครับว่า "ครูบาอาจารย์พระกรรมฐานทำไมจึงยังอนุโลมเมตตาให้มีพระเครื่องวัตถุมงคลอยู่ ทำไมยังพาลูกศิษย์ลูกหาทำบุญตรงนั้นตรงนี้อยู่นอกจากการภาวนา"
.......การที่ทุกท่านได้อ่านบทความบทนี้มันก็คือผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลงของคนที่ติดวัตถุมงคลคนนี้ละครับ

 

........สวัสดีครับทุกท่าน เมื่อวานตอนเย็นหลวงตาเทศน์ที่งานมุติตาจิตหลวงปู่วิริยงค์ คนมากมาย พระเถระมากล้น นำภาพมาฝากกันครับ

 

"พี่ขับรถให้หลวงตามาจะ10ปี เชื่อไหมไม่เคยเห็นหลวงตารับเงินถวายกัณฑ์เทศน์ที่ไหนเลย บางที่เงินเป็นกระสอบจนนับไม่ได้ ท่านก็ถวายคืนให้กับวัดเจ้าของงานหมด ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกนะที่รับ"
.
"เงินกฐินเงินผ้าป่าที่ถวายวัดเป็นเงินสงฆ์ หลวงตาท่านไม่เคยเอามาใช้เรื่องส่วนตัวเลยนะ ส่วนเงินที่โยมถวายส่วนตัวท่าน พอมันมากๆท่านก็เอาไปสร้างนั้นสร้างนี่ เดินทางไปโปรดญาติโยมที่นั้นที่นี่ เอาไปจ้างคนที่ไม่มีอาชีพหรือรายได้น้อยแถววัดให้มาทำงานช่วยวัด แม้เป็นเงินส่วนตัวท่านก็ไม่เก็บไม่สะสม ถามพี่นิพี่เป็นคนไปฝากเงิน"
.
"หลวงตาท่านสมถะ ท่านไม่มุ่งหวังพวกยศพวกตำแหน่ง ที่ท่านได้มาก็ล้วนแต่ขัดพระผู้ใหญ่ไม่ได้เหมือนยัดเยียดให้ท่านด้วยซ้ำ ถ้าหลวงตาท่านเป็นอีกแบบนะ โอ้ยยยยย ออยเอ้ย ไม่อดไม่อยากหรอก ทั้งเงินทั้งรถ ทั้งตำแหน่ง แต่หลวงตาท่านไม่เอาเลย ดูเอาโลด"
.
"ยิ่งอยู่ยิ่งเห็น ทั้งวัตรปฏิบัติ ทั้งความเมตตา ทั้งความเคร่งตรงในธรรมวินัย ใครจะมาจับผิดท่านมาโลด ท่านไม่เคยทำอะไรที่ด่างพร้อย และยังเรื่องปาฏิหาริย์ต่างๆอีกจนนับไม่ได้ จิตท่านเร็วมากนะมีแต่จะพูดไม่พูดเฉยๆ ถ้าหลวงตาท่านชอบทางคาถาอาคมบอกเลย "วัดแตก" พี่ลงใจไม่มีสงสัยอะไรในหลวงตานานแล้ว บุญพี่ที่สุดที่ได้มารับใช้ท่าน"
.
‪#‎ความในใจของศิษย์ใกล้ชิดหลวงตาเปิดใจคุยกัน‬
‪#‎หลวงตาท่านไปเทศน์ไปสอนท่านถือว่าไปช่วยคน‬
‪#‎ที่คราวนี้หลวงตารับปัจจัยกัณฑ์ช่างชิตคิดว่าเพราะท่านกำลังจะสร้างโบสถ์‬
‪#‎หลวงตาเป็นแบบอย่างที่ดีของสายครูบาอาจารย์กรรมฐานจริงๆ‬
‪#‎ไม่เด่นเรื่องฤทธิ์แต่ไม่ใช่ไม่มีเสือซ่อนเล็บ‬

 

.....เมื่อวานพี่ชายใจดีมาเปิดตัวเหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์เนื้อชนวนในกลุ่มเฟส ช่างชิตเลยขอเล่าถึงที่มาที่ไปของการสร้างหน่อยละกัน จริงๆเนื้อชนวนนั้นอยู่ในความตั้งใจตั้งแต่แรกที่จะจัดสร้าง แต่ติดที่ว่าโรงหล่อแห่งแรกที่ไปคุยไม่ทำให้ จึงเก็บความตั้งใจตรงนี้ไว้ จนมาคุยกับโรงหล่อสุดท้ายและตกลงทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก่อนวันจะปั้ม 2 วัน ช่างชิตก็มีโอกาสได้คุยกับ พี่พุธสุดหล่อ(ศิษย์ในองค์หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ) และก็เกิดการบิ้วกันไปมาเรื่องโลหะที่ีเอามาสร้างพระ
......สุดท้ายพี่พุธบิ้วขึ้น ช่างชิตจึงทำการรวบรวมชนวนแบบฟ้าผ่า2วันแล้วก็ตามลิ้งค์กระทู้ข้างล่างนี้เลยครับ เคยกล่าวไว้นานแล้ว
.
https://www.facebook.com/groups/938981642780598/permalink/1020575504621211/
.
*ใครดูไม่ได้ก็แอดเข้ากลุ่มเฟสก่อนนะครับ
.
เหรียญชนวนทั้งหมด สงวนสิทธิ์ทำมาเพื่อมอบกับผู้มีอุปการะคุณกับการสร้างเหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์รุ่นนี้
รายละเอียดจำนวนเหรียญ
เหรียญชนวน100%ชำรุด 3 เหรียญ
เหรียญชนวนบล็อกแตก 3 เหรียญ
เหรียญชนวนสมูบรณ์ตอกเลข 18 เหรียญ
.
รายละเอียดชนวนมวลสารที่จำได้มีดังนี้
แผ่นยันต์ - หลวงปู่บุญเกิด หลวงตาสมหมาย หลวงปู่ก้าน หลวงปู่ศรี หลวงปู่ดำ หลวงปู่ขันตี หลวงตาประเวศ หลวงปู่อ่อง หลวงปู่บุญส่ง หลวงพ่อสมเดช
.
ตะกรุด - หลวงปู่เครื่อง ครูบากฤษดา หลวงพ่อพิเชษฐ หลวงปู่คำบุ หลวงพ่อสุนทร ท่านพ่อมนัส หลวงปู่ทองฤทธิ์ หลวงปู่เสงี่ยม
.
เหรียญ - หลวงปู่หงษ์ หลวงปู่ไม หลวงปู่แสง หลวงปู่อ่อน หลวงปู่สมชาย หลวงพ่อคูณ หลวงพ่อฤาษี หลวงพ่อกวย(ย้อนยุค) หลวงปู่บุญหนา หลวงปู่ลี เหรียญใบโพธฺ์วัดอโศก
.
แหวน - นาศบาศท์วัดซับ หลวงพ่อกวย(ย้อนยุค) พ่อท่านผอม
.
ชนวนหล่อพระอุปคุตวัดเทพ
โลหะสัมฤทธิ์บ้านเชียง
ชวนวนก้านพระกริ่งจันทสโร ชนวนเทดินไทพระกร่งจันทสโร หลวงปู่เล็ก
แผ่นชนวนเหรียญเจริญสุข หลวงปู่เล็ก
สร้อยนาถ
แผ่นชนวนหล่อพระหลวงปู่พิศดู
ทองคำ
เงิน
ดีบุก
และอื่นๆที่จำไม่ได้อีกพอสมควร
.....ของทุกชิ้นล้วนสละของส่วนตัวของผู้อุปการคุณทีมงาน หลังจากหลวงตาอธิฐานจิต 6 เดือน ช่างชิตก็มอบให้หลวงตากับหลวงปู่เล็ก มอบให้ผู้หลักผู้ใหญ่และผู้มีอุปการคุณที่มีส่วนร่วมทุกท่านนะครับ ไม่มีให้ร่วมบุญหรือให้เช่าบูชา เอามาเล่าสู่กันฟัง ยังไงก็ดีทุกเนื้อดีทุกเหรียญครับ

 

รูปมวลสารต่างๆ เท่าที่ถ่ายได้

 

รูปเหรียญชนวนชำรุด
เหรียญชนวนบล็อกแตก
เหรียญชนวนสมบูรณ์ตอกหมายเลข
จำนวนตามที่แจ้งด้านบน

 

"มรรค8รวมสรุปก็ ศีล สมาธิ ปัญญา มันต้องมีควบคู่กันทั้งหมดเพราะมันต้องเกื้อกูลกันจะเอาแต่ปัญญาๆ ศีล สมาธิ ไม่เอา มันจะได้ไง ทำให้ดูหน่อยสิ จะเอาแต่ทางลัดมันมีแต่จะหลงทาง ถ้ามันมีทางลัดกว่านี้ครูบาอาจารย์ท่านสอนแล้ว แต่มันไม่มี มันต้องเดินตามทางมรรค8นี้ละตรงละลัดที่สุด"
.
‪#‎เช้านี้รับธรรมมะเย็นเดี้ยวมาเล่าอภิญญาหลวงตา‬
‪#‎ขอบคุณภาพสวยๆจากใครไม่รู้ในเฟสนี้ละ‬

 

.... มาตามที่รับปากกันตอนเช้าดีกว่า วันนี้ขอนำเสนอประสบการณ์เล็กๆน้อยๆ อ่านเพื่อความบันเทิงนะครับ เชื่อไม่เชื่อ อะไรยังไงล้วนตรองจากปัญญาพิจารณาจากตัวท่านเองได้เลย ประสบการณ์ตรงนี้เกิดขึ้นกับพี่คนหนึ่งที่รับใช้หลวงตามาเป็นเวลานาน ถ่ายทอดให้ช่างชิตฟัง เรื่องราวจะเป็นยังไงติดตามกันยาวๆเลย ใครขี้เกียจอ่านพลาดอย่างแรง
..................
เรื่องที่ 1
“จริงๆถ้าไม่ได้หลวงตา พี่ตายไปแล้วนะออย”
“ทำไมละพี่”
“มีวันหนึ่งอยู่ดีๆ ตีห้ากว่า หลวงตาก็โทรมาหาพี่ บอกว่าอยู่ไหน วันนี้อย่าขับรถนะ พี่ก็บอกไม่ไปไหน ฉันเช้าเสร็จก็บอกอีกว่าอย่าไปไหนนะ พี่ก็สงสัยละ จะไปไหนก็ไม่กล้าไป บ่ายก็พูดอีกพี่เลยไม่ไปไหนเลยวันนั้น วันต่อมาท่านถึงมาเล่าให้ฟังว่า คืนนั้นท่านนิมิตเห็นว่าช่วงเช้า พี่จะขับรถแล้วไปชนต้นไม้ตายคาที ท่านเลยรีบโทรมาบอกแต่เช้าและย้ำทั้งวัน”
“วาสนายังไม่ถึงฆาตเนาะ หลวงตาเลยโปรดไว้”
“ใช่ๆ พี่ถึงบอก พี่ตายไปแล้ว 5555”
...................
เรื่องที่ 2
“วันนั้นพี่ไปวัดไม่ได้มีโปรแกรมจะไปไหนเลยนะ แต่พอไปเจอหลวงตาท่านก็ถาม วันนี้จะไปไหน(ว่าก็ยิ้มๆตามสไตร์หลวงตา) พี่ก็บอกไม่ไป ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ผู้ใหญ่แถววัดก็ให้พาไปทำธุระที่อุดร พี่ก็ไม่คิดอะไร ครั้งเดียวมันก็ไม่แปลกอะไรหรอก”
“แล้วหลายวันต่อมาพี่เข้าไปหาหลวงตา วันนั้นก็ไม่มีโปรแกรมไปไหนเหมือนเดิม แต่พอเจอหน้าหลวงตาก็ถาม จะพากันไปไหน พูดแล้วก็ยิ้มๆ
พี่ก็บอกไม่ได้ไปไหน แล้วซักพักแม่ชีที่วัดก็ให้พาไปอุดร โอ้ย งึด55555”
“เออ แปลกดี เหมือนท่านจะรู้อะ”
“พี่ก็นึกว่าพี่เป็นบ้านะ แต่พอเจอมามากๆ(มีอีกหลายเรื่อง) พี่บอกเลย หลวงตาเห็นอนาคต”
..................
เรื่องที่ 3
“พี่ปลูกบ้าน หลังไม่ใหญ่หรอก หลังเล็กๆ แล้วไม่ได้ทำบุญบ้าน ไม่ได้กราบเรียนหลวงตา แต่ก็นึกในใจว่า บ้านหลังเล็กๆไม่ได้ทำอะไรพิเศษแต่อยากให้หลวงตามาโปรดที่บ้านจังเลย ตกกลางคืนพี่ฝัน หลวงตามาหาที่บ้านบอกว่า “เอ้า บ้านก็เป็นตาอยู่ป่านนี้ละ” ตื่นมาก็ไม่คิดอะไรมากคิดว่าฝันดี พอเช้าพี่ก็ขับรถพาหลวงตาไปทำธุระ แต่อยู่ดีๆ ท่านก็บอกให้เลี้ยวไปทางนี้ ทั้งๆต้องไปอีกทาง พี่ก็ยังไม่รู้ว่าท่านจะไปไหน แต่ทางนั้นมันเป็นทางไปบ้านพี่ แล้วพอถึงบ้านพี่หลวงตาก็บอกจอด หลวงตาก็ลงไปบ้านพี่จริงๆ แล้วก็เดินเข้าไปในบ้านพร้อมพูดว่า “เอ้า บ้านก็เป็นตาอยู่ป่านนี้ละ” เหมือนกับในฝันเลย เอางึดบ่ละ 55555”
....................
‪#‎เดี้ยวจะมีมาเรื่อยๆนะครับ‬
‪#‎รูปหลวงตาสมัยหนุ่มๆ‬
...............
.........อนาคตังสญาณ คือ รู้เหตุการณ์ข้างหน้า ส่วนจะต้องฝึกต้องทำยังไงมีบุญวาสนาขนาดไหน ถึงจะมีญาณแบบนี้ ช่างชิตไม่รู้ครับ 5555+
..........แต่ "อนาคต" เป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ฉะนั้นเปลี่ยนแปลงได้เสมอเพียงแต่ว่า เรื่องบางเรื่องก็มีเหตุและผลจนเปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้วหรืออาจเปลี่ยนแปลงได้ยากมาก เรื่องบางอย่างมีทางเลือก ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการกระทำในปัจจุบัน
..........อย่างตอนที่พระสารีบุตรทำนายว่าสามเณรรูปหนึ่งจะต้องตายภายใน 7 วัน ด้วยพระสารีบุตรมีญาณรู้อนาคต แต่ไม่รู้ถึงนิสัยสันดานของสามเณรรูปนั้น สามเณรจึงลากลับบ้าน ระหว่างทางไปช่วยเหลือปลาหลายตัวที่ติดในหนองน้ำแห้งขอดให้รอด ทำให้สามเณรไม่ตายตามที่พระสารีบุตรว่าเหตุเพราะบุญใหม่จากการกระทำในปัจจุบันที่ทำผสมกับบุญเก่าที่เคยมีมาก่อน
..........พระสารีบุตรไม่ได้เห็นผิดพลาด เพราะสามเณรมีกรรมที่จะต้องตายจริงๆแต่เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่รู้แบบ100%ได้ยาก มีเพียงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ว่า อนาคตไหนเป็นที่แน่นอนแล้ว อนาคตไหนยังเปลี่ยนแปลงได้
...........................

 

.......สวัสดีครับทุกท่าน ขอนุญาตนำบทความของกัลยาณมิตรที่เป็นสะพานบุญให้พวกเราได้ส่งเหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์ไปเป็นขวัญกำลังใจกับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ ที่ได้เขียนไว้ในกลุ่มเฟส วันนี้ช่างชิตนำมาให้พวกเราที่ติดตามอยู่บ้านหลังนี้ได้รับทราบกัน
.......
สวัสดีครับ ขออนุญาตแนะนำตัวกับท่านสมาชิกทุกท่านครับ กระผม จ.ส.ต.ตฤณกร วชิราศิริ เคยปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จว.ชายแดนใต้ 10 ปีและเคยดำรงตำแหน่ง งานเก็บกู้วัตถุระเบิด กก.ตชด.44 อ.เมือง จว.ยะลา ปัจจุบันได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งที่ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 อ.เมือง จว.ขอนแก่น ซึ่งย้ายมาได้ 2 ปีแล้ว กระผมได้มีโอกาสศึกษาต่อปริญญาตรีอีกใบที่ ม.มกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตอีสาน ซึ่งก็คือ มหาวิทยาลัยพระนั่นเอง ที่ ม.แห่งนี้ทำให้ได้มีโอกาสเรียน พระไตรปิฏก ศึกษาพระวินัย รวมถึง ภาษาบาลีและสันสกฤต จนเข้าใจได้ระดับหนึ่ง จึงทำให้รู้ว่าตนเองนั้นชอบศึกษาทางด้านนี้มาก นำมาปรับใช้ปฏิบัติกับตน ประกอบกับผมเป็นคนไม่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่หรือเที่ยวกลางคืน จึงทำให้มีโอกาสสวดมนต์เจริญสมาธิอยู่เป็นนิจและทำให้ได้รู้จักปฏิปทาของหลวงตาสมหมายจากพระอาจารย์ที่สอนพระพุทธศาสนา ว่า มีโอกาสก็ไปกราบนมัสการหลวงตานะ ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ ที่ควรค่าแก่การกราบไหว้ และฟังธรรมอย่างยิ่ง ด้วยความบังเอิญหรืออะไรมิทราบที่บ้านอยู่สว่างแดนดินซึ่งห่างจากไชยวานไม่มาก เวลากลับบ้านจะขับรถผ่านเส้นไชยวานทุกครั้ง ทำให้ตั้งใจที่จะไปกราบไหว้หลวงตาสักครั้ง และด้วยความบังเอิญหรืออะไรมิทราบอีกเช่นกัน ทำให้กระผมได้รู้จักกับช่างชิตและพี่โซ่ที่นั่น หลังจากได้ใส่บาตร กราบไหว้หลวงตาและสนทนาธรรมในข้อที่ผมสงสัยเกี่ยวกับการปฏิบัติกรรมฐานแล้ว ก็ได้พูดคุยกับช่างชิตเรื่องเหรียญ"ปัญญา อิทธิฤทธิ์"ที่จุดประสงค์หนึ่งในการจัดสร้างจะนำไปแจก จนท.3จว.ใต้ ซึ่งผมก็รับปากว่าจะเป็นสะพานบุญให้ญาติธรรมทุกท่าน นำเหรียญนี้ส่งถึงมือ จนท.ที่ปฏิบัติที่นั่น ซึ่งกระผมก็ได้ติดต่อเพื่อนที่ทำงานเก็บกู้ฯด้วยกันก็บอกไม่แน่ว่าจะกลับมาปลายเดือนมกราคม จึงให้เพื่อนคนนั้นแวะมารับพระไปแจก แต่วันรุ่งขึ้นติดต่อเพื่อนในกลุ่มอีกครั้งมีคนหนึ่งจะมาวิ่งมาราธอนที่ขอนแก่นในวันที่ 24 ม.ค.นี้ จึงได้แจ้งให้เพื่อนคนนี้มารับพระด้วย จากนั้นกระผมก็ติดต่อเพื่อน พี่ๆที่ทำงานที่นั่นว่าแต่ละชุดปฏิบัติมีกี่นาย จะได้ไม่เกิดความสับสนและแจกจ่ายได้ทั่วถึงมากขึ้นเมื่อนำพระหลวงตาฯไปแจก ...พล่ามมายืดยาวแล้ว สุดท้ายก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับพี่ๆและท่านสมาชิกทุกท่านด้วยนะครับ ผิดพลาดประการใดก็ขอประทานอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ... ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบครับ ^^ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ
.
ปล.เดี๋ยวทางนั้นได้รับพระแล้วจะนำภาพมาลงให้ครับ

 

ประสบการณ์....ครั้งแรกที่ได้กราบหลวงตาสมหมาย
ก่อนที่ผมจะได้ไปกราบหลวงตาสมหมายนั้น ผมรับรู้เรื่องราวของท่านจากการอ่านกระทู้ที่ช่างชิตเขียนใน “เว็บพลังจิต” แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้ติดตามบ่อยๆ นานๆจะเข้าไปอ่านที ทำให้ผมจำหน้าตาของหลวงตาไม่ค่อยได เพราะเห็นรูปท่านผ่านกระทู้ช่างชิตแค่นั้น (แต่ก็ไม่บ่อยทำให้ผมจำท่านไม่ค่อยได้) แต่ตัวเองเป็นคนที่ศรัทธาในพระป่ากรรมฐานอยู่แล้ว จนมีโอกาสได้ร่วมทริปกับช่างชิตไปทำบุญที่ภาคเหนือกัน ทำให้ได้มีโอกาสสนทนาพูดคุยกันมากขึ้น ช่างชิตก็เลยชวนว่าถ้ามีโอกาสก็ไปกราบหลวงตาด้วยกันสิ ท่านมา กรุงเทพฯ บ่อยเหมือนกัน
โอกาสครั้งแรกที่ได้ไปกราบพบหลวงตาคือ ที่ที่พักสงฆ์สายไหม 30 ช่วงปลายปี 57 ด้วยความรีบเพราะกลัวว่าจะไม่ทันหลวงตา เพราะท่านต้องไปขึ้นเครื่องกลับอุดรฯ ไปถึงก็ทักทายกับช่างชิตนิดหน่อย ก่อนจะรีบเข้าไปกราบหลวงตา
ฌาน : กราบนมัสการครับหลวงตา
หลวงตา : อืม เจริญสุข เจริญสุข แล้วนี่เคยกราบหลวงตาหรือยังล่ะ
ฌาน : ยังไม่เคยมาเลยครับหลวงตาเลยครับ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เคยแต่ส่งใจไปกราบหลวงตาที่วัดครับ
หลวงตา : ส่งใจไปกราบน่ะ ส่งไปถูกคนไหมล่ะ (แล้วท่านก็ยิ้มในแบบฉบับของท่านด้วยความเมตตา)
ผมเองหยุดคิดนิดหน่อย แล้วตอบกลับไปแบบลังเลว่า น่าจะถูกนะครับหลวงตา ......???
หลังจากกลับจากกราบหลวงตามาถึงบ้าน ผมรีบไปเอาล็อกเก็ตทึ่เคยทำบุญได้มา เอามาดูสิว่าเป็นองค์เดียวกับหลวงตาสมหมายที่เราไปกราบท่านวันนี้หรือเปล่า พอหยิบมาดู....555 เห้ย..นี่องค์นี้ล็อกเก็ตเป็นคนละองค์กับหลวงตาสมหมายที่เราไปกราบมาวันนี้นี่ ในล็อกเก็ตเป็นหลวงปู่สมหมาย จิตตปาโล (ซึ่งท่านก็เป็นพระเถระอีกองค์หนึ่งในสายกรรมฐานเหมือนกัน) แต่ผมเข้าใจมาตลอดเลยว่าองค์ในล็อกเก็ตที่ผมมีอยู่ที่บ้านเป็นหลวงตาสมหมาย อัตตมโน ผมเลยย้อนกลับไปคิดถึงคำพูดหลวงตาที่ทักผมว่า “ส่งใจไปกราบถูกคนไหมล่ะ” ผมนี่อัศจรรย์ใจตั้งแต่ครั้งนั้นมาเลยครับ (แต่ไม่เคยบอกกล่าวเรื่องนี้กะใครเพราะแอบปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่อเลย 555)
# เรื่องนี้ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง เพราะเก็บไว้ในใจตัวเอง ด้วยเพราะอายว่าจำครูบาอาจารย์ไม่ได้ 555 #
(เมื่อคืนคุยกับพี่ชายใจดีก็เลยเล่าให้แกฟัง แกขำใหญ่เลย 555 เลยนำมาเขียนในกลุ่มด้วยดีกว่า)

 

.......ประสบการณ์ความประทับใจของ พี่ท่านหนึ่งในกลุ่มเฟสหลวงตา ได้ถ่ายทอดเอาไว้ ช่างชิตนำมาให้พวกเราได้อ่านกันครับ
...............................
คนต้นเรื่อง ธัญญารัตน์ โรจนภักดี
........สวัสดีค่ะ ทุกท่าน วันนี้มีเรื่องจะมาเล่าสู่กันฟังนะคะ คือว่าหลานพี่มุกคนนึงชื่อว่าน้องเจ น้องเจนี่นับถือศาสนาอิสลาม(ในนาม)เพราะปกติทำบุญกับพี่มุกตลอดค่ะ บังเอิญว่าน้องเจเค้ามีคุณพ่อเป็นทหาร และมีสมบัติเป็นที่ดินแถวๆเขตสายไหม คุณพ่อเป็นลูกคนเดียวของย่า และต่อมาคุณพ่อเสียชีวิต ตามมาด้วยย่าอีกคน สมบัติทั้งหมดต้องตกเป็นของน้องเจ แต่หาได้เป็นอย่างนั้นไม่ คุณย่าแต่งงานใหม่มีปู่เลี้ยง ซึ่งมีลูกติดมาด้วยหนึ่งคน เกิดการฟ้องร้องกันอีรุงตุงนังฟ้องกันไปมาหลายปี น้องเจก็กลัวอันตรายเพราะเป็นลูกคนเดียวไม่ทราบจะทำอย่างไร พี่นำเรื่องนี้มาปรึกษาหลวงตา
........ตอนแรกที่เรียนท่านๆก็ไม่พูดอะไร พูดเรื่องอื่นไปเรื่อยๆน้องเจ น้องปลาย(ลูกชายพี่)หน้าเสียๆ จนประมาณครึ่งชั่วโมง ท่านบอกว่าเจถ้าหนูจะบนหลวงตาให้สำเร็จต้องบวชนะ เอางี้แล้วกันตอนเช้าไปบอกหลวงปู่กู่แก้ว พี่ก็ไม่รู้จัก ทำไงดี หลางตาบอกว่าไปบอกท่านนะ เป็นพระพุทธรูปซึ่งอยู่ที่วัดกู่แก้วตอนเช้าพวกเราก็ไปที่วัด( น้องโซ่พาไป )จากเรื่องราวต่างๆที่ฟ้องร้องกันมายาวนานทุกอย่างคลี่คลาย
........เดือนกุมภาที่จะถึงนี้น้องเจศาลก็จะสั่งให้เป็นผู้จัดการมรดก และหลวงตาท่านแนะนำว่าต้องแบ่งให้ทุกๆที่เกี่ยวข้อง แม่เลี้ยง น้องเลี้ยง ลุงเลี้ยง เราไม่ต้องโลภมาก ได้พอประมาณ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกมาก น้องเจอยู่บ้านไม่ได้ กลัวคนตามฆ่า คุยตกลงยังไงก็ไม่ยอม ทุกคนต้องได้ทั้งหมด แต่ตอนนี้กลับมาพูดคุยกันดี แปลกมั้ยค่ เพราะบารมีหลวงตาท่านแท้ๆ ซึ่งไม่น่าเชื่อ กราบหลวงตาด้วยเศียรเกล้าเจ้าค่ะ

 

.....สวัสดีครับทุกท่าน กลุ่มหลวงตาสมหมายที่ช่างชิตตั้งขึ้นมาในเฟส วันนี้ก็มีสมาชิกเพิ่มมากขึ้นทุกวัน มีหลายคนที่เอาประสบารณ์มาคุยกันแล้ว มันปิติตรงนี้ละครับช่างชิตเชื่อมาตลอดว่า "คนที่พบเจอประสบการณ์และความประทับใจต่างๆกับหลวงตามีมากมาย" แต่เค้าไม่มีพื้นที่ให้นำเสนอนอกจากคุยกันปากต่อปากบวกกับหลวงตาท่านก็ไม่ใช่ "พระเกจิ" ท่านเป็นพระกรรมฐานเรียบง่าย วัตถุมงคลของท่านก็ทำมาแจกเพื่อเป็นที่ระลึกที่ยึดเหนี่ยวกับคนที่มาทำบุญและกลุ่มลูกศิษย์
......ช่างชิตกล้าพูดแบบตรงไปตรงมาเลยครับว่า 90% ที่ได้ไปเอาไปเก็บไปวางบนหิ้งหมด น้อยคนมากหรือกลุ่มลูกศิษย์ที่ศรัทธาจริงๆถึงจะแขวนพระหลวงตาติดตัว เมื่อ 3 ปีที่แล้วก่อนจะมาเขียนเรื่องหลวงตาในโซเชียล ทุกท่านคงรู้จัก "เหรียญธรรมจักร" ที่หลวงตาดำริสร้างนะครับ เชื่อไหม ช่วงนั้น ใครได้ไปก็แทบจะไม่มีคนเห็นคุณค่าเลย ส่วนหนึ่งก็คงเห็นเป็นของแจก ได้ไปเอาไปแล้วก็เอาไปวางแบบเหรียญบาทเหรียญห้า ช่างชิตเห็นกับตามาแล้ว
......บอกตัวเองทันทีเลย เฮ้ย!! แบบนี้ไม่ใช่ละ ของครูบาอาจารย์ท่านตั้งใจทำ แต่คนกับไม่เห็นคุณค่า แต่ก็เข้าใจส่วนหนึ่งนั้นเพราะ "เค้าไม่รู้ที่มาที่ไป" "ไม่รู้ว่าเพราะเหตุและผลอะไรท่านถึงสร้างมา" ด้วยเหตุนี้เช่นกันจึงเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ให้ช่างชิต นำเสนอ "เรื่องราวที่มาที่ไปวัตถุมงคลของหลวงตารุ่นตางๆเท่าที่จะหาข้อมูลได้"
.......ทุกวันนี้วัตถุมงคลของหลวงตาเริ่มหายากขึ้น ใครมีก็เก็บเงียบ ลงเวปไชด์ไม่นานก็มีคนมาปิด ส่วนเหรียญธรรมจักรที่ไล่แจกกันอยู่สมัยก่อน เดี้ยวนี้สวยๆ มีคนเช่า 400-500 บาท ใครมีต่างก็หวงแหน่มากขึ้น และพอรู้คุณค่า เอาไปพกติดตัวก็มีประสบการณ์นำมาเล่าสู่กันฟัง แบบที่ท่านสมาชิกได้นำเสนอไป เมื่อคืน ลองไล่อ่านดูนะครับ
......จริงๆช่างชิตมีเรื่องเล่าบทความน่าสนใจเกี่ยวกับหลวงตาเยอะแยะมาก เพราะเขียนไว้เป็นบันทึก ยังไงจะทยอยมาให้อ่านกัน ยังไงวันสองวันนี้จะมาเล่าถึงที่มาที่ไปของการ"ออกแบบเหรียญ ปัญญาอิทธิฤทธิ์" กันให้ทราบนะครับว่าทำไมรูปร่างหน้าตาต้องเป็นแบบนั้น ส่วนขั้นตอนการสร้างที่ดราม่าโคตรๆ เขียนบ่อยละ 555++ ข้ามๆจะไม่กล่าวถึง ให้มาดูแรงบันดาลใจดีกว่าว่าการออกแบบทำไมถึงเป็นแบบนั้น อย่าลืมติดตามกันด้วยนะครับ
.
‪#‎เอารูปสวยๆมาฝากกัน‬
‪#‎เอาแหวนของหลวงตามาทำให้ทรงคุณค่ามากขึ้น‬
‪#‎ใครมีวัตถมงคลของท่านให้รู้นะครับว่าไม่ตลาดและให้เห็นคุณค่ากันด้วย‬

 

.......ประสบการณ์ความประทับใจของ สมาชิกท่านหนึ่งในกลุ่มเฟสหลวงตา ได้ถ่ายทอดเอาไว้ ช่างชิตนำมาให้พวกเราได้อ่านกันครับ
......................
คนต้นเรื่อง Natthawaut Sabsuwan
สวัสดีครับ สมาชิก กลุ่ม หลวงตาสมหมายวัดป่าสันติกาวาส "ประสบการณ์&เรื่องเล่า&วัตถุมงคล" ทุกท่าน
เนื่องจากผม มีเรื่องเล่า จากเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง
เลย ขออนุญาต นำมาแบ่งปัน ให้สมาชิค ทุกๆท่านครับ
(โปรดใช้วิจารณญาณ ในการอ่านครับ)
วันอาทิตย์ ที่10 มค.59 ผมเดินทางพร้อมกับแฟนและพี่ที่รู้จักกันอีก2คน
เดินทางกลางคืน จาก กทม.- สมุย เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ เที่ยงคืน - ตี1 ครับ เหตุเกิด ช่วง ประจวบ - ชุมพรครับ ถนนช่วงนั้น จะมึด ไม่มีไฟข้างถนนเลย
รถวิ่ง ขาขึ้น กับ ขาลง ภาคใต้ จะ วิ่งคนละฝั่งเลนส์เลย แล้วมีเกาะกลางถนน ดูเหมือนจะปลอดภัยดี แต่ก็ด้วยคำว่า อุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่เราคาดไม่ถึง
เหตุก็เกิดขึ้น เมื่อ รถพ่วงคนขับ เกิดหลับใน รถพ่วงเสียหลักลงไปเกาะกลวงถนน ฝุ่นตลบอบอวล เกิดได้สติ นำรถกลับเข้าสู่เลนส์ถนน
รถทั่วคันที่ผมโดยสารมา กทม-สมุย และ กทม-ภูเก็ต ที่วิ่งตามซ้อนกันมาติดๆ ต้องขอบคุณ คนขับ ที่หักรถหลบได้ทันควัน แต่ก็ไม่พ้น โดนชนเสยด้านข้างคนขับ ทั้ง2คัน
ทำให้คนขับได้รับบาดเจ็บหนักพอสมควร ซึ่งข่าวที่ออกทางสื่ิอผมก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไงบ้างนะครับ คนขับยังมีสติ หยุดรถใว้ได้ ก่อนรถจะคว่ำ ลงเหวด้านหน้าและก่อนจะชนที่กั้นเหล็กข้างทาง ซึ่งผู้โดยสารก็บาดเจ็บเล็กน้อยต่างกันไป แต่ไม่มีใครเจ็บหนัก ยกเว้น คนขับ
วงกลมแดง คือ ตำแหน่งที่ผมนั่งครับ
ซึ่งวันนั้นผม สวมแหวนหลวงตา สมหมาย1วง ในมือ ส่วนแฟนผมคล้องเหรียญ ธรรมจักร ของหลวงตา ซึ่งปกติ ผมจะคล้องเอง เป็นประจำ ครับ
ก็ขออนุญาตเล่าเพียงเท่านี้นะครับ เพราะเขียนเรื่องราวไม่ค่อยเก่งนะครับ ก็ขอขอบคุณ สมาชิคทุกท่าน ที่สละเวลาอ่านเรื่องราวที่ผมมาแบ่งปันนะครับ

 

.....วันนี้เป็นวันครูและเป็นวันพระ ช่างชิตมีครูบาอาจารย์มากมายทั้งทางโลกและทางธรรม ทางโลกพ่อแม่และตายายคือ ครูบาอาจารย์อันดับแรกของช่างชิต เพราะท่านทั้งหลายเลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็ก
.....ทางธรรม คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก หลวงตาสมหมาย ผู้ที่ทำให้คนๆนี้รู้จักคำว่า "ดี" จริงๆในชีวิต 13 ปีที่เป็นลูกศิษย์หลวงตามา บอกได้คำเดียวว่า "ชาตินี้เราก็ยังมีบุญอยู่บ้างที่ได้ใกล้ชิดรับใช้ท่าน"
.....เรื่องวัตถุมงคลของหลวงตา จริงๆจะบอกว่าหลวงตาเคยให้วัตถุมงคลกับช่างชิตไม่กี่อย่างนะครับ ที่จำได้ประมาณ 10 ชิ้น แต่ชิ้นที่ช่างชิตติดตัวอยู่ตลอดคือ"แหวนวงนี้" มีคุณค่าทางใจสูงมากครับ
.....และเคยได้ยินพี่ชายใจดีที่อุปฐากหลวงปู่ท่อน เคยบอกกับช่างชิตว่า "ของมึงสร้างถวายครูบาอาจารย์ มึงไม่แขวน ใครจะแขวน ของมึงทำขึ้นมา มึงไม่มั่นใจ ใครจะมั่นใจ มึงไม่มั่นใจครูบาอาจารย์ตัวเอง มึงจะมั่นใจใคร"
......เป็นประโยคนักเลงที่โดนใจอย่างที่สุด หลวงตาสมหมายอาจไม่ขลังคาถา ไม่ขลังพิธีการ ไม่ขลังฤกษ์ยาม ไม่มีอำนาจจิตที่สูงส่ง ไม่มีพระเครื่องราคาแพงๆ
"แต่หลวงตาคืออาจารย์ช่างชิต กูถือของกู จบไหม!!!" มาบทนักเลงบู๊ๆก็ทำได้นะ 5555
.....จะนอกเรื่องละ มาๆเข้าเรื่องต่อ เนื่องในวันครูปีนี้ ช่างชิตและลูกศิษย์ที่เคารพรักหลวงตาทุกท่าน ขอส่งดวงจิตกราบขอขมา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ใหญ่ที่ละไปแล้ว อันได้แก่ หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ หลวงตามหาบัว หลวงปู่บุญจันทร์ หลวงปู่อ่อนสา หลวงปู่ขาว หลวงปู่ฝั้น ท่านพ่อลี หลวงปู่พิศดู และที่ไม่เอ่ยนามก็ดี พร้อมพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ยังทรงสังขาร อันมี หลวงตาสมหมาย หลวงปู่ไม หลวงปู่ขันตี หลวงปู่แสง หลวงปู่สนั่น หลวงปู่สุพจน์ หลวงปู่เล็ก หลวงปู่ท่อน เป็นต้น
.......กรรมอันใดที่ประมาทพลาดพลั้ง ด้วยกายก็ดี วาจาก็ด็ ด้วยใจก็ดี จะต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ในอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี ลูกหลานขอกราบขอขมา ให้ครูบาอาจารย์เมตตาอโหสิกรรมแก่ลูกหลานและเมตตาแผ่บารมีคุ้มครองลูกหลานให้เป็นสิริมงคลทุกด้านเถอญ......สาธุ

 

สาธุครับ

 

....................."ชำแหละเหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์"........................
‪#‎ตอน1‬..."กว่าจะเป็นปัญญาอิทธิฤทธิ์"........
.............เมื่อปี 2556 ช่วงช่างชิตบวชหลังจากขออนุญาตหลวงตาเรียบร้อยแล้ว หลวงตาบอกว่า "จะสร้างเหรียญหลวงตาสร้างเป็นพระโมคลาพระสารีบุตรดีกว่า ท่านวิเศษเก่งกว่าหลวงตาเยอะ" .........นั้นคือโจทย์ที่ทำให้ช่างชิตมาคิดต่อ ช่วงนั้นถ้าว่างช่างชิตจะวาดออกแบบเหรียญด้วยมือ ก่อนทำการออกแบบ ช่างชิตมีคอนเซ็ปที่ชัดว่า "พระอัครสาวกของเราจะต้องไม่เหมือนของที่อื่น จะต้องแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์เลยว่า ท่านเด่นตรงไหนแบบไหน " ก็จึงทำการสเก็ตภาพไป พอได้ต้นแบบมาเรียบร้อย สึกออกมา ช่างชิตก็มาหัดใช้โปรแกรม โฟโต้ช็อป เพราะเขียนไม่เป็น ทำตรงนี้เป็น "เดือนๆ" ก็ได้รูปประมาณนี้(รูปที่1)
............หลังจากต้นแบบชุดแรกออกมา ช่างชิตไปปรึกษาน้าที่เคารพ ก็ได้รับคำแนะนำว่ามันเยอะไปและก็ได้ยินหลวงตาพูดที่ไหนจำไม่ได้ละว่า "มีเสือด้วยดี" ก็ งงๆ ว่าทำไมต้องมี จึงมารู้ทีหลังว่า อ๋อ หลวงตาท่านเกิดปีเสือก็มาแก้ไขตามรูป(รูป 2 และ 3)
.........แก้มาแล้วก็ยังไม่โดนใจ ออกแบบใหม่อีกครั้งจนได้ คราวนี้มารู้ว่าหลวงตาเกิดวันศุกร์ก็เปลี่ยนรูปพระพุทธใหม่และเอาแบบพระโมคลาของคุณอาอำพล เจน มาดัดแปลง ต้องขอบพระคุณคุณอา ณ ที่นี้ด้วยครับ เสร็จก็ให้หลวงตาเมตตาเขียนยันต์ให้ ก่อนมาปรับแต่งจนได้แบบสรุป ช่างชิตก็หาโรงหล่อพระ ก็ไปเจอเจ้าหนึ่งที่ทำพระให้หลวงตา ก็เอาให้โรงหล่อที่แรกไปทำแบบ แต่พอเค้าส่งมาก็ยังมีแก้ไขพอสมควร(รูปที่ 4) สุดท้ายทุกอย่างก็หยุดชะงักเป็นเวลา 2 ปี ...
......พอหลังจาก 2 ปี โครงการเหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์กลับมาปัดฝุ่นอีก และช่างชิตก็หาโรงงานใหม่อีกรอบ จนได้เจอโรงงานที่ 2 จากการแนะนำของแอดฌาน ก็ได้ให้โรงงานที่ 2 แก้แบบแต่งแบบใหม่อีก พอเค้าส่งกลับมา(รูปที่ 5)ก็ยังไม่โดนใจอีก จนสุดท้ายเปลี่ยนมาโรงหล่อที่ 3 ก็ได้ทำการปรับแก้จนออกมาโดนใจและตรงตามคอนเซ็ปช่างชิตมากที่สุด(รูปที่ 6) ตอนต่อไปติดตามตัวอย่างที่แกะบล็อกออกมานะครับ จนมาเป็นเหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์ในปัจจุบัน
‪#‎โปรดติดตามตอนต่อไป‬

 

....................."ชำแหละเหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์"........................
‪#‎ตอน2จบ‬..."ปัญญาอิทธิฤทธิ์complete"........
............เขียนต่อละไม่อยากทิ้งช่วงนานเพื่อดึงเรตติ้ง เอาให้มันจบๆเลยละกันจะได้ไปเรื่องอื่นต่อ 5555 ยังไงตามอ่านตามไลค์กันด้วยนะครับ ถ้าอนาคตไม่ว่างมาเขียนจะได้ไม่คิดถึงกันมาก มาต่อกันดีกว่าโรงงานที่ 3 ใช้เวลาแกะบล็อกเกือบ 2 เดือน รบราฆ่าฟันกัน(ทางวาจา) จนได้บล็อกออกมา แล้วปั้มลองพิมพ์ออกมาดู เมื่อเอาลองพิมพ์โรงงานที่ 3 มาให้หลวงตาดูก็มีจุดให้แก้ไขอยู่นิดหน่อย ช่างชิตก็ไปรบกับทางโรงงานต่อ ตรงที่มีปัญหาที่สุดคือ "พญานาคของผมต้อง 3 หัว เท่านั้น" นันโทนันตนาคราชต้องอลังแบบฝุดๆ ให้รู้ไปว่าพญานาคฤทธิ์มากขนาดนี้ พระโมคคลานะก็ปราบเสียอยู่หมัด
.........ทางโรงงานก็บอกว่าแก้ไม่ได้แล้ว ถ้าจะเอาแบบ3หัวต้องแกะใหม่(ของเก่าที่เค้าทำมามี 2 หัวแต่ช่างชิตออกแบบ3หัวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว) ช่างชิตบอกมันต้องได้ จนเจ้าของโรงงานต่อสายให้คุยกับช่างแกะเอง สุดท้ายระดับวิศวกรโครงการร้อยล้านแบบช่างชิต ก็ต้องแก้ไขออกแบบดีไซด์ให้ตามรูป(รูป2 ดูได้ห้ามหัวเราะ 55555) ช่างก็แก้เดี้ยวนั้นแล้วส่งภาพมาให้ดู(รูป3) เป็นที่พอใจจึงเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ สุดท้ายสรุปแบบเรียบร้อย ก็ปั้มเป็นลองพิมพ์แบบตัว 100%(รูป4และ5)
..........ขอย้อนนิดหน่อยก่อนที่โรงงานที่ 3 จะปั้มลองพิมพ์ออกมา ทางโรงงานที่2 ได้ทำการแกะบล็อกและปั้มออกมาแล้ว(รูป6) แต่ก็มีปัจจัยอื่นๆเป็นเหตุไม่ได้ร่วมงานกัน เกือบลืมบอก ตัวยันต์ที่หลวงตาเขียนให้นั้นประกอบไปด้วย
.
ยันต์ พุทโธ รอบตัวพระพุทธเจ้า พุทโธ คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
.
ยันต์ พุฒซ้อน ข้างพระสารีบุตร อุปเท่ห์เป็น เมตตามหานิยม โชคลาภ ทำให้ผู้ใหญ่เมตตา ต้องการเลื่อนขั้น เลื่อนตำแหน่ง เป็นมหาเสน่ห์ ใครเห็นพบปะเจรจาอะไรก็สะดวกสมหวัง สมกับ ปัญญา
.
ยันต์ นะ ข้างพระโมคลา นะ ชื่ออะไรช่างชิตจำไม่ได้ละ แต่หลวงตาท่องคาถาให้ฟังตอนเขียนว่า นะกาโร โหติ จงมาบังเกิด...(บลาๆจำไม่ได้ตอนจบลงด้วย)....อะสังวิสุโลปุสะพุภะ อุปเท่ห์เป็น ตบะมหาอำนาจ แคล้วคลาด กันอาวุธ หยุดลูกปืน สมกับ อิทธิฤทธิ์
.
อักษระรอบหลวงตาคือ คาถา พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ นะโมพุทธายะ
นะ หมายถึง พระกุกกุสันธะ
โม หมายถึง พระโกนาคมน์
พุทฺ หมายถึง พระกัสสปะ
ธา หมายถึง พระโคดม
ยะ หมายถึง พระเมตเตยยะ
อานุภาพครอบจักรวาลสามแดนโลกธาตุก็ต้องยอมพระพุทธเจ้า
.
โค้ตใช้คำว่า ส.บารมี ย่อมาจาก "สร้างบารมีร่วมกัน" ผู้ที่ร่วมสร้างจะได้โค้ตตัวนี้
โค้ต อะ ตอกเพื่อมอบให้หลวงตาไว้แจก
‪#‎ถ้าตอกสองตัวเลยก็คือเหรียญของคณะผู้สร้าง‬
.
.........3 ปีเต็มๆกับเหรียญรุ่นนี้ตั้งแต่ออกแบบจนปั้มเหรียญสุดท้าย หลวงตาอธิฐานจิต 6 เดือน อธิฐานทั้งด้วยกายเนื้อและเดินจิตมาอธิฐาน(ตอนที่ท่านไม่อยู่วัด) วันนี้เหรียญเสร็จสมบูรณ์ ยังความปิติให้กับทีมงานและผู้ร่วมบุญสร้างทุกท่าน
......และในโอกาสนี้ช่างชิตขอประกาศเลยครับว่า "เหรียญปัญญาอิทธิฤทธิ์จะเป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่ช่างชิตจะสร้างถวายหลวงตา จะไม่สร้างเหรียญอะไรอีกแล้ว" ถ้ามีวาสนาจะได้สร้างอีก โครงการต่อไปก็ต้องเป็นอย่างอื่นและก็คงอีกนาน ถ้าไม่มีวาสนาช่างชิตตายก่อน เหรียญรุ่นนี้ก็จะเป็นความทรงจำที่ดีของช่างชิตและทำให้ทุกท่านนึกถึงผู้ชายคนนี้ทุกครั้งที่เห็นเหรียญรุ่นนี้ ขอบพระคุณทุกท่านนะครับที่ติดตามช่างชิตมาโดยตลอด 3 ปี ขอให้เป็นกัลยาณมิตรที่ดีกันแบบนี้ตราบนานแสนนาน ขอบพระคุณครับ