ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย sasiriya, 22 พฤษภาคม 2008.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870



    (||) เก่งมากนะเอย นะเอย
     
  2. Mrs.Kim

    Mrs.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,086
    ค่าพลัง:
    +2,306
    สิ่งที่ควรระวังไว้หน่อยก็ดีคือ หากเปิดเผยสู่ภายนอก
    1 เด็กจะไม่มีความเป็นส่วนตัว
    อาจเกิดความเครียดขึ้นได้มาก (หรือจะรับช่วยคนแต่ในเน็ตจะดีไหม เด็กจะได้มี
    เวลาพักผ่อน มีเวลาเป็นส่วนตัว ในเมื่อคุณเองก็บอกว่าน้องเขาแค่เห็นรูป/ดูชื่อก็สามารถช่วยได้แล้ว)
    เพราะผู้ที่รู้ว่าน้องเป็นใคร อาจตามไปถึงโรงเรียน เมื่อนั้นล่ะยุ่งนะ จะเพิ่มปัญหาตามมาให้มากขึ้่น
    2 ไม่ปลอดภัยจากพวกชอบลองของ (รวมถึงพวกชอบลองฤทธิ์อภิญญา)โดย
    เฉพาะพวกที่มีอิทธิพล ที่จะใช้ความรู้ไปในทางที่ผิด ในเมื่อคุณเองก็เปิดเผยมา
    แล้วว่า รู้แม้กระทั่งเรื่องการเมือง(อันนี้อันตรายมาก เพราะมีการแบ่งฝ่าย อย่าง
    ชนิดจะฆ่ากันให้ตาย)
    เอาอย่างนี้ดีไหม ในเมื่อคุณบอกว่า เป็นที่รู้กันในหมู่ผู้ปฏิบัติของหลวงปู่ท่าน
    หนึ่งอยู่ ก็ไปกราบเรียนท่าน(หลวงปู่ฯ)ว่าควรมิควรประการใด พร้อมกับขอคำแนะนำจากหลวงปู่ท่านด้วย คงจะดีมาก
    เพราะอาจเกี่ยวพันกับชีวิตตลอดชีวิตของน้องเขา
    ................................................

    เห็นด้วยกับคุณอนูดินและบางท่านข้างบนนะค่ะ
    ยิ่งได้อ่านตั้งแต่หน้า 1จนถึงหน้านี้ยิ่งรู้สึกสงสารน้องเค้ามากเลยค่ะ
    แทบจะไม่มีใครเลยที่ไม่อยากเจอน้องเค้ามีแต่คนบอกว่าขอเจอตลอด
    แล้วน้องเค้าจะมีเวลาได้ไปปฏิบัติธรรมและพักผ่อนตอนไหนเนี่ย
    ยังไงก็ขอให้น้องเค้าได้มีเวลาส่วนตัว สร้างบารมี และพักผ่อนบ้างนะค่ะ
    ขออนุโมทนาสาธุ บุญกับทุกท่านที่มีจิตเมตตาไม่ไปรบกวนน้องด้วยค่ะ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  3. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    มีเรื่อง โดยคุณหมอ ประเวศ วะสี มาให้ท่านสาธุชนได้ใคร่ครวญ


    " ความสุขจากการเข้าถึงความจริง "


    มนุษย์เมื่อเข้าถึงความจริงจะประสบอิสรภาพ เกิดความสุขอย่างล้ำลึก เกิดความรักอันไพศาลต่อเพื่อนมนุษยแ์ ละสรรพธรรมชาติทั้งหมด อันเป็นไปเพื่อการอยู่ร่วมกันด้วยสันติ ทั้งระหว่างมนุษยก์ ับมนุษย์

    และระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ผู้ที่ต้องการความสุขอย่างแท้จริง และต้องการการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ จึงควรสนใจการเข้าถึงความจริง

    ขออธิบายว่า จิตมี ๒ ประเภท และธรรมชาติมี ๒ ประเภท คือ



    1.จิตที่ปรุงแต่ง
    2.จิตที่ไม่ปรุงแต่ง หรือจิตสงบ หรือจิตเดิมแท้



    ธรรมชาติที่ปรุงแต่ง กับ ธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่ง


    ธรรมชาติที่ปรุงแต่ง คือ ธรรมชาติที่เรารับรู้ตามปรกติวิสัย เป็นต้นไม้ เป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นก้อน เป็นแท่ง เป็นขาว เป็นดำ เป็นบวก เป็นลบ หรือแยกเป็นส่วนๆ เป็นสภาวะชั่วคราว มีเกิด มีตาย

    ธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่ง คือ ความเป็นหนึ่งเดียวของธรรมชาติทั้งหมด ใหญ่โต กว้างขวาง ไม่มีที่สิ้นสุด เป็นนิรันดร สงบ เพราะไม่ปรุงแต่ง ไม่มีเกิด ไม่มีตาย

    จิตตามปรกติ เป็นจิตที่ปรุงแต่งและรับรู้ธรรมชาติที่ปรุงแต่ง หรือเพราะจิตที่ปรุงแต่งนั่นแหละ จึงเกิดธรรมชาติที่ปรุงแต่งอย่างนั้นๆ จิตที่กิเลส คือ โลภะ โทสะ โมหะ จึงมาปรุงแต่งความคิด และรับรู้สิ่ง
    ต่างๆ ไปตามความคิดที่ปรุงแต่ง

    จิตที่ปรุงแต่งด้วยกิเลส เป็นจิตที่เล็กและคับแคบ เพราะเอาตัวกูของกูเป็นตัวตั้ง เมื่อคับแคบจึงบีบคั้น ขาดอิสรภาพ ก่อความทุกข์ให้ตัวเองและผู้อื่น

    แต่จิตที่สงบ สามารถรับรู้ธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่งหรือเรียกว่าความจริง ธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่ง หรือความจริงนี้มีขนาดใหญ่ ไร้ขอบเขต จิตที่สงบเข้าถึงความจริงที่มีขนาดใหญ่ จิตจึงใหญ่ หลุดพ้นจากความบีบ
    คั้นของตัวกูของกูอันคับแคบ

    เมื่อหลุดพ้นจากความคับแคบจึงเป็นอิสระ อิสรภาพคือความสุขอันล้ำลึก หรือ ความสุขอันเป็นทิพย์ และเพราะมีความเป็นหนึ่งเดียวกันกับทั้งหมด จึงเกิดความรักอันไพศาลต่อมนุษย์และสรรพธรรมชาติทั้งมวล

    คำว่าโลกุตตระ แปลว่าเหนือโลก แต่ไม่ได้หมายความว่านอกโลก โลก หมายถึงโลกแห่งเนื้อหนังมังสาหรือโลกแห่งการปรุงแต่ง การอยู่เหนือโลกสามารถเกิดได้ในชีวิตประจำวันนี่เอง

    เราสามารถทำให้โลกุตรโอสถเป็นยาสามัญประจำบ้าน ที่ช่วยเยียวยาชีวิตของเราได้ จากการเข้าถึงความจริง

    ถ้าเราเข้าใจจิต ๒ ประเภท และธรรมชาติ ๒ ประเภทดังกล่าวข้างต้น เราจะมีทักษะในการเข้าถึงความจริงได้ด้วยพหุวิธี อย่างรื่นรมย์หรือแม้แต่สนุกสนาน เราอาจเข้าถึงความจริงได้ด้วยวิธีต่างๆ เช่น



    . การสัมผัสกับธรรมชาติ


    เมื่อมนุษย์สัมผัสกับธรรมชาติ เช่น ป่าเขา ทะเล ท้องฟ้า แล้วเกิดความสุขสงบ เพราะธรรมชาติกว้างใหญ่ทำให้ลืมนึกถึงตัวเอง เมื่อนึกถึงตัวเองก็บีบคั้น หัดเอาใจไว้กับธรรมชาติ เสมอๆ จิตจะสงบ แท้ที่จริงเราสัมผัสกับธรรมชาติตลอดเวลา แต่เราไม่ระลึกรู้ เพราะไปอยู่แต่ในความคิด
    (ปรุงแต่ง) หัดให้ระลึกรู้ถึงธรรมชาติรอบตัวและในตัวบ่อยๆ ก็จะเข้าถึงความจริงได้ง่ายขึ้นๆ มีความเบาสบาย เป็นอิสระ และมีความสุขมากขึ้นๆ การปลีกวิเวก (retreat) จะไปอยู่ในป่าคนเดียวหรือในทะเลทรายคนเดียว ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้จิตสงบและสัมผัสกับความจริงตามธรรมชาติ



    . ทำความรู้จักจิตที่ไม่ปรุงแต่งบ่อยๆ จนคุ้นเคย


    เราจะคุ้นเคยอยู่กับจิตที่รับรู้ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จิตที่รู้สึกสุขทุกข์ ชอบไม่ชอบ และจิตที่คิดปรุงแต่งไปตามนั้น เช่น เกลียด โกรธ อยากได้ อยากหนี ที่เรียกว่าอยากเป็นอยากเอา แล้วก็วุ่นวาย ฟุ้งซ่าน บีบคั้น แล้วไปก่อกรรมตามจิตที่รู้สึกและคิดปรุงแต่งขึ้นมาตามปรกติ จิตจะเข้าไปวุ่นวายอยู่กับการรับรู้ รู้สึก คิด และทำโดยไม่รู้สึกตัวเอง

    แต่เรายังมีจิตอีกประเภทหนึ่ง เป็นจิตที่รู้เฉยๆ ทดลองดูได้ เหมือนเป็นอีกคนหนึ่งแยกมาดูหรือรู้ตัวเอง มาดูกายดูจิตของตัวเอง โดยดูเฉยๆ ไม่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วย เห็นกายเดิน นั่ง ยืน สัมผัส เย็นร้อนอ่อนแข็ง หรือเจ็บ สามารถเห็นความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง จิตนี้จะเป็นจิตที่สงบ เพียงแต่ดูหรือรู้กายรู้จิตของตัวเองอยู่เฉยๆ

    พระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่นเรียกว่า
     
  4. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    แท้ที่จริง การระลึกรู้กายรู้จิตที่ว่านี้ คือ สติ นั่นเอง ฝึกเจริญสติบ่อยๆ จิตจะสงบ เข้าถึงความจริง เป็นสุขอย่างยิ่ง

    . ไม่ว่าจะทำอะไรๆ ก็โยงเข้ามาสู่การพิจารณาจิตของตัวเองเสมอ



    เช่น การออกกำลัง การทำงาน การทำงานศิลปะ การสร้างความเป็นชุมชน การเรียนรู้ ฯลฯ การโยงมาสู่การพิจารณาจิตของตัวเองจะเกิด
    ปัญญา เรียกว่า จิตตปัญญาศึกษา (Contemplative Education)

    จิตตปัญญาศึกษา ควรเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาทุกประเภทและทุกระดับ และสำหรับคนทั่วไป ปรกติเราทำอะไรๆ ก็เป็นแต่เพียงเรื่องภายนอกตัว ไม่เชื่อมโยงกับการรู้จิตของตัวเอง จึงไม่เกิดปัญญา เข้าไม่ถึงความจริง อยู่ในความทุกข์ความบีบคั้นชั่วกาลนาน

    . สุนทรียสนทนา


    การทะเลาะด่าทอกัน การพูดสวนกันไปมา การพูดเปรี้ยงทำเปรี้ยง เป็นเรื่องที่ตื้นเขิน เมื่อตื้นเขินก็แยกส่วน เป็นเขาเป็นเรา เป็นดำเป็นขาว เป็นบวกเป็นลบ เกิดความขัดแย้งและรุนแรง สุนทรียสนทนาเน้นการฟังอย่างสงบหรือฟังอย่างลึก (deep listening) เมื่อสงบและลึก ก็สัมผัสความจริงได้

    ทำให้เกิดปัญญา จะคิด จะพูด จะทำ ก็ผ่านสภาวะทางปัญญามาแล้ว จึงตรงต่อความจริง และเกิดอรรถประโยชน์มากกว่าการคิด การพูด การทำอย่างตื้นๆ สุนทรียสนทนากำลังได้รับการนำมาใช้มากขึ้น
    เรื่อยๆ เพราะทำให้จิตสงบและประสบอิสรภาพได้


    . การอ่านหนังสือธรรมะบ่อยๆ

    โดยเฉพาะหนังสือธรรมะที่พาเราเข้าถึงธรรม เมื่ออ่านบ่อยๆ ก็ทำ
    ให้เข้าใจมากขึ้น จิตสงบมากขึ้น และเข้าถึงธรรมหรือธรรมชาติอันไม่ปรุงแต่งมากขึ้น มีอิสรภาพและความสุขมากขึ้น

    . การสวดมนต์ และการเข้าถึงสภาวะธรรม



    การสวดมนต์ให้ยาวๆ นานๆ ทำให้จิตสงบ เมื่อจิตสงบก็สัมผัสความจริงตามธรรมชาติได้ สภาวะธรรมคือธรรมชาติ การเข้าถึงสภาวะธรรมทำให้จิตใหญ่เป็นอิสระจากความบีบคั้น ของความคับแคบในตัวกูของกู

    . ฝึกเห็นความเชื่อมโยงของสรรพสิ่งเป็นเนืองนิจ


    ตามปรกติเราเห็นแบบแยกส่วนเป็นก้อนเป็น แท่ง แยกกันอยู่เป็นส่วนๆ ซึ่งไม่จริง เพราะความจริงคือสรรพสิ่งล้วนเชื่อมโยง ไม่มีอะไรอยู่โดดๆ ด้วยตัวของตัวเอง ควรฝึกให้เห็นความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ รอบตัวเรา หรือในตัวเรา หรือกับตัวเรา เช่น เรากินข้าว กินน้ำ สวมเสื้อผ้า ก็ไม่เห็นเพียงเป็นข้าว เป็นน้ำ เป็นเสื้อผ้า อย่างโดดๆ แต่ข้าวย่อมสัมพันธ์กับสรรพสิ่งมากมาย

    เช่น กับพลังงานจากแสงอาทิตย์ กับออกซิเจนในอากาศ กับดิน กับน้ำ กับชาวนาผู้ไถ หว่าน เกี่ยว คนสีข้าว คนขายข้าว คนหุงข้าว ...

    ข้าวไม่ได้อยู่โดดๆ น้ำก็ไม่ใช่เห็นสั้นเพียงก๊อกน้ำ แต่สัมพันธ์กับสรรพ
    สิ่งรวมทั้งคนที่ต้นนํ้าลำธาร เสื้อผ้าที่เราใส่ก็สัมพันธ์อยูกั่บคนปลูกฝ้าย คนทำด้าย คนทอผ้า คนขายผ้า คนตัดเสื้อผ้า ...

    เราไม่สามารถดำรงอยู่โดดๆ แต่ต้องพึ่งพาอาศัยสิ่งอื่นและคนอื่น ถ้าเราเห็นความเชื่อมโยงของสรรพสิ่ง เราจะมีความกตัญญูในหัวใจ อันเป็นจิตใจที่ไม่แข็งกระด้าง ไม่หยาบคาย แต่เป็นจิตใจที่เข้าถึง
    ความจริงได้

    ความจริงคือ ความเป็นกระแสของเหตุปัจจัยของสรรพสิ่ง ที่เรียกว่าอิทัปปัจจยตา ไม่มีตัวตนในตัวของตัวเอง

    การเข้าถึงกระแสของอิทัปปัจจยตา คือการเข้าถึงความจริง


    http://sekhiyadham.semsikkha.org/media/130.pdf
     
  5. kitkanna

    kitkanna สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทนา

    ผมเป็นอีกคนที่มี่ ปัญหา เรื่องเรี่ยน ไม่เคยประสบความสำเร็จ พยายามจนท้อบางครั้งถึงขนาดจะทำร้ายตัวเอง ถ้าเรื่องของคุณมีจริงและสามารถให้คำปรึกษา ได้กรุณา แนะนำ และชี้ทางด้วย หากทั้งหมดที่คุณเขียน เป็นจริง โดยไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง ก็ขอได้โปรดช่วยแนะนำผมและผู้ทุกข์ทนคนอื่นที่มีปัญหา กรุณา ด้วย 0872020721 kitkanna_@hotmail.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2008
  6. kanalove

    kanalove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +386
    ผมชื่อหม่อมครับ อยากสนทนาธรรมกับน้องเค้า คือผมมีปัญหาที่ต้องขอคําแนะนําในเรื่องกรรมจากน้องครับ ถ้าไม่รังเกียจอยากขอความกรุณาคุณแม่และน้องแนะนําผมหน่อยครับ
    เนี่ยเบอร์ผมครับ0840919357ผมหวังว่าคงจะได้รับการพิจารณาจากคุณแม่และน้องด้วยครับขอบคุณมากครับ

    ......................

    พี่ที่ปฎิบัติธรรมคนหนึ่งฝากหนูมาคะ ฝากแม่ช่วยพี่เขาด้วยนะคะ >0<
     
  7. Little Raccoon

    Little Raccoon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +89
    ผมว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนดีที่สุด
    ใครติดหนี้ใครก็ควรจะหาทางชดใช้ด้วยตนเองน่าจะดีกว่าให้คนอื่นช่วยใช้หนี้ให้
    เพราะก็จะเป็นหนี้กันต่อไปอีกไม่รู้จบ...

    แต่ผมสนใจเรื่องภัยพิบัติที่ว่ามากกว่า อยากรู้ว่าผู้มีญาณที่แท้จริงเห็นอย่างไรบ้าง
     
  8. นายจตุพล

    นายจตุพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +177
    อย่ารบกวน น้องเค้าเลยครับ


    ให้น้องเค้าศึกษาเรียนหนังสือ

    ใช้ชีวิต ครอบครัวอย่างปกติ เป็นดีกว่าครับ
     
  9. gentenaar

    gentenaar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +2,320
    อนุโมทนา สาธุ
    มีความต้องการทราบที่จะติดต่อคุณศศิริยะค่ะได้ค่ะ จะได้มีส่วนช่วยให้เพื่อนพ้นทุกข์

    บุญกุศลที่จะเกิดจากการกระทำที่ดีแล้วจงส่งผลให้คุณศศิริยะและครอบครัวมีความสุขกายสุขใจ รวมถึงท่านสมาชิกทุกท่าน
    ดิฉันเป็นสมาชิกใหม่ ขอฝากตัวด้วยค่ะ
     
  10. คณิน

    คณิน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอแสดงความยินดีและร่วมอนุโมทนากับคุณด้วยนะคับ ที่มีลูกสาวที่มีบุญตามมาแต่ปางก่อน และพร้อมสร้างบุญใหม่เพิ่มยิ่งๆขึ้นไป
    ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจในเรื่องนี้ อยากจะรบกวนให้น้องช่วยดูกรรมในอดีตให้ผมหน่อยเพราะทุกวันนี้ผมก็ทำบุญไม่ได้ขาด แต่ก็ยังมีวิบากมากมาย ถ้าได้ผู้ชี้แนะการแก้กรรมให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่ถูกทาง ผมคงมีความสุขในชีวิตมากขี้น คืออยากทราบว่าเจ้ากรรมนายเวรต้องการให้เราทำบุญประเภทไหนให้เขา ผมจะรีบทำด้วยความเต็มใจ
    หากน้องปิดเทอมรบกวนคุณด้วยนะคับ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
    คณิน 089-699-1303 / kittikanin@hotmail.com
     
  11. แม่หมูอ้วน

    แม่หมูอ้วน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +6,061
    อยากรบกวนให้น้องเค้าดูกรรมในอดีตที่ทำให้ดิฉันต้องทุกข์อย่างมากในชาตินี้ อยากจะแก้กรรมให้ถูกและให้หมดกรรมกันในชาตินี้ค่ะ กรุณาติดต่อกลับดิฉันด้วย
    นะคะ รอตอนช่วงที่น้องปิดเทอมก่อนก็ได้ค่ะ ถ้าบอกเบอร์โทรที่ดิฉันจะโทรกลับไป
    ด้วยได้ก็จะขอบคุณมากเลยค่ะ อีเมล์ดิฉันค่ะ wendychua1@hotmail.com
     
  12. nn-supply

    nn-supply สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2007
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +11
    ผมมีปัญหาเรื่องสุขภาพมาก อยากปรึกษาเพื่อแก้กรรมครับ ถ้าเป็นไปได้ช่วยติดต่อณรงค์ 0858140550 หรือ nn-supply@hotmail.com ขอบคุณมากครับ
     
  13. ทางธรรม

    ทางธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +391
    อนุโมทนาสาธุค่ะ ดิฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่ต้องขอความช่วยเหลือจากคุณศศิริยะด้วยค่ะ ตอนนี้ดิฉันกลุ้มใจเหลือเกิน ไม่รู้ว่าทำเวรทำกรรมอะไรมา ทำไมผู้ชายทุกคนที่อยู่ใกล้ดิฉัน ถึงได้อยากได้ดิฉันไปเป็นเมียน้อยอยู่ร่ำไป ไปทำงานที่ไหน ก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะเหตุนี้ ที่ทำงานปัจจุบัน ก็กำลังเจอปัญหานี้อยู่ จะทำอย่างไรดีคะ จะแก้ปัญหาอย่างไง ดิฉันไม่อยากเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ ทำไม ดิฉันถึงไม่เจอใครสักคน ที่รักดิฉันจริงๆ พร้อมที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไปสักที ทุกวันนี้ ดิฉันเองก็ไม่หวังอะไรแล้ว ถ้าอายุมากขึ้น ก็คงจะไปบวชแน่นอน แต่ตอนนี้ ยังไปไม่ได้ เนื่องจากมีแม่ มีน้องต้องเลี้ยงดู รบกวนช่วยดิฉันด้วยนะคะ e-mail ค่ะ addressbaa@yahoo.com 083-7513522
     
  14. ศิริรักษ์ พูลทรัพย์

    ศิริรักษ์ พูลทรัพย์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ทางบ้านมีปัญหา

    ขอความช่วยเหลือ อยากทราบว่าตนเคยทำสิ่งใดผิดพลาดชีวิตถึงได้ลุ่มๆดอนๆ แม่ติดเหล้า แต่หนูก็ทำบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร คิดว่าคงทำไม่ถูกทาง จึงขอความช่วยเหลือมา ขอบคุณคะ 083-7763330 โบว์
     
  15. Pongroch

    Pongroch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,479
    ขอควากรุณาด้วยน่ะค่ะ มีลูกชายเป็นออทิสติก รู้เรื่องทุกอย่าง แต่ไม่ยอมพูด อายุ7ขวบแล้วค่ะ ถ้าคุณเข้ามาอ่านในนี้รบกวนติดต่อกลับด้วยน่ะค่ะ
    orn_boss@hotmail.com 084-0061160 ขอบคุณมากๆค่ะ
    จากทุกข์ของคนเป็นแม่
     
  16. ทิดวี

    ทิดวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +378
    ขอร่วมแสดงความคิดเห็นนะครับ ตอนแรกก็ว่าจะปล่อยวาง ปล่อยให้เป็นไปตามกระแสffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    แต่ก็รู้สึก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 พฤษภาคม 2008
  17. ทิดวี

    ทิดวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +378
    ขอยกตัวอย่าง อีกตัวอย่างเพื่อความสะใจffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    เจ้าพระยาสรรเพชรภักดี ได้มาพบสมเด็จโต แห่งวัดระฆัง ได้ฝันเห็น บิดาร่ายกายเต็มไปด้วยเลือดเนื้อตัวมีแต่ความร่วงโรย เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน ฝันเห็นอยู่ทุกวัน<O:p></O:p>
    เจ้าพระยาสรรเพชรภักดีได้ให้อาจารย์ทอง วัดพลับเป็นผู้ตรวจดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 พฤษภาคม 2008
  18. โสภา จาเรือน

    โสภา จาเรือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,013
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,332
    อนุโมทนาสาธุบุญ

    กับลูกสาวคุณศศิริยะด้วยนะค่ะ...นำเรื่องราวของน้องมาลงกระทู้นี้บ่อยๆ
    นะค่ะจะได้ติดตามอ่าน

    จงเป็นเปลวเทียนที่ ย่อมเผาผลาญตัวเอง เพื่อความสว่างไสวของผู้ื่อื่น
     
  19. khwansan

    khwansan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +56
    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ดิฉันเป็นโรคประจำตัวมาประมาณ 17 ปีแล้วค่ะ รักษาอย่างไรก็ไม่หาก จนคิดว่าคงจะเป็นโรคทางกรรมแล้ว และมีโรคติดตามตัวอีกหลายโรค ตอนนี้อายุ 32 แล้วค่ะ ตอนอายุ 20 ได้บวชชี (โกนผม) อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร บิณทบาท เพื่ออนิสงค์ ทำวัดเช้า ที่สำนักสงฆ์ที่จังหวัดหนึ่งตั้งแต่ตอนนั้นก็ไหว้พระสวดมนต์บ่อยขึ้นมาก ๆ แผ่เมตตา ตักบาท ทำบุญบ่อยขึ้นเมื่อมีการบอกบุญ กรวดน้ำ พยายามรักษาศีล 5 แต่ก็มิได้ผลอย่างไร สงสารก็แต่แม่ ท่านบอกว่าถ้าเป็นโรคกรรมจริงขอเอาชีวิตของท่านไปแล้วให้ลูกหาย ดิฉันก็บอกท่านไป กรรมของใครคนนั้นก็ต้องรับ ต้องชดให้เอง หากบุญที่ดิฉันทำมายังคงส่งผล รบกวนคุณ ศศิริยากรุณาด้วย 085-9186475
     
  20. noolegza

    noolegza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +3,844
    เบื้องต้นนะครับ ก่อนที่จะให้น้องเขาช่วย เราควรปฏิบัติไปพลางๆก่อนนะครับ
    ถามว่า...ทุกวันนี้ท่านทำบุญไหม นั่งสมาธิไหม สวดมนต์ไหม ถ้ายัง กลับไปเริ่มซะนะครับ ปฏิบัติแล้วก็อธิษฐานแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร ผ่อนส่งไปเรื่อยๆ ....ถ้าเรายังไม่เคยช่วยตัวเองเลย แล้วจะรอให้ใครมาช่วยล่ะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...