ตัวตนเชิงซ้อน และระบบพลังงานเชิงซ้อน ในร่างกายมนุษย์ มันมีกี่มิติกันแน่?

ประมาณนั้นอ่านะ

 

บางคนชอบบอกว่า อะไรๆก็อุปาทาน นี่แสดงว่ามองไม่เห็นข้อดีของอุปาทาน ตัณหาและ อวิชชา แสดงว่า คุณอยากจะนิพพานภายใน 5000 นี้ ไปพร้อมกับพระพุทธเจ้าพระองค์นี้(เหลือเวลาอีกประมาณ 2500 ปี) งั้นคุณก็จบๆไปเหอะ นิพพานไปภายในพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ ไม่ต้องมาเวียน ว่าย ตาย เกิดอีก เพราะการเวียน ว่าย ตายเกิด อีกต้องอาศัยสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ในการเรียนรู้

ซึ่งถ้าคุณ เจออะไรมามากแล้ว ฉันไม่เอาแล้ว ก็ fade away ไปเหอะ ไม่ต้องมาพูดเอาว่า คนทำไมท่านยังมีกิเลสอยู่ ยังโกรธอยู่ ยังนั่น ยังนี่อยู่

ก็เพราะว่าจะมาเกิดอีกน่ะสิ จึงต้องเหลือสิ่งเหล่านี้ไว้

แล้วยิ่งไอ้พวกที่คอยเหน็บคนอื่นอ่านะ(เออ Gu ก็เหน็บเหมือนกันแหละวะ แต่จุดประสงค์มันต่างกัน) ว่าคนอื่นยังมีกิเลส มีอย่างนั้นอย่างนี้ งั้นคุณก็รีบๆสะสางตัวเอง ชำระบุญและบาปให้หมด ก็คือ ใช้เวรใช้บุญ และใช้กรรม ทำให้มันหมดๆไปซะ แล้วทำดวงจิตให้บริสุทธิ์ แล้วเป็นพระอรหันต์พร้อมๆกับนิพพานไปซะ ภายใน 5000 ปีนี้



ของแบบนี้อ่านะ จะเอามาเป็นบรรดทัดฐานคนที่อยากจะเกิดมาอีกเรื่อยๆไม่ได้หรอก

ซึ่งถ้าคุณนิพพานไปภายใน 5000 ปี ไม่ทัน คุณก็จะนิพพานแบบพระปัจเจก ซึ่งวิถีนี้น่ะ มันไม่ง่ายนักหรอก ลำบากและทุกข์ทรมานแสนสาหัส

 

บางคนจะไปรอเอาไปเป็นพระสาวกของพระศรีฯ ในข้างหน้านี้ แล้วอะไรล่ะ ที่จะเป็นตัวรับประกันว่่า คุณจะได้ไปกับศาสนาพระศรีฯ จริงๆ ในอนาคตข้างหน้านี้น่ะ

นี่เรียกว่า "หวังน้ำบ่อหน้า" ถ้าผิดหวังมาไม่รู้ด้วยนะ ทรมานทรกรรมตัวเองเอาซะเปล่าๆ จะไปหวังเอาอะไรกับน้ำบ่อหน้่า พระพุทธเจ้าองค์นี้ท่านเป็นยังไงรึ ท่านแสดงธรรมไม่ถูกใจท่านรึ แล้วที่ถูกใจท่านเป็นอย่างไรกันล่ะ อยากเห็นต้นกัลปพฤกษ์มากนักหรือ อยากเห็นความเจริญรุงเรืองในศาสนาพระศรีอาริย์ฯ มากนักหรือ

แล้ว ณ ปัจจุบันนี้ ความเจริญรุ่งเรืองในศาสนาพระโคดม ท่านยังมิเห็น ยังมิพออยู่อีกรึ จะอยากมากให้มันลำบากตัวเองไปทำไมกัน แล้วถ้าตัวเองจะต้องเกิดๆ ตายๆ แล้วมาเจอทุกข์อย่างนั้นอย่างนี้ มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้หรอกนะ