ติดตามสถานะการณ์

แม้ว่าจะไม่มีเปียโนอยู่ในบ้าน แต่ผู้ชมก็สามารถเนรมิตรให้นักเปียโนชื่อดังมาเล่นเพลงโปรดของนักดนตรีระดับโลกให้ฟังได้ถึงที่บ้าน โดยผ่านแอปพลิเคชัน AR ที่พัฒนาโดยวงดนตรีคลาสสิคชื่อดัง ซึ่งได้ร่วมมือกับผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน ช่วยให้ผู้ชมได้สัมผัสกับบรรยากาศของการบรรเลงเพลงดังได้เสมือนจริง
.
การจำลองนักเปียโนผ่านแอปพลิเคชัน AR ไม่เพียงทำให้ห้องรับแขกไม่เงียบเหงา แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศเสมือนจริงการแสดงคอนเสิร์ตของนักดนตรีชื่อดัง ผู้ใช้งานสามารถใช้งานแอปพลิเคชันนี้ร่วมกับเปียโนที่บ้าน หรือแม้แต่ไม่มีเปียโนอยู่ที่บ้าน ก็สามารถใช้งานผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เพื่อสร้างความบันเทิงภายในบ้านได้
.
แอปพลิเคชันจำลองนักเปียโน ถูกพัฒนาโดยนักพัฒนาแอปพลิเคชัน AR / VR ในประเทศแคนาดา โดยได้รวมเอาเทคโนโลยีหลากหลายมาช่วยในการพัฒนาแอปพลิเคชันนี้ ไม่ว่าจะเป็นระบบการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ระบบการวิเคราะห์การเคลื่อนไหว (Motion synthesis) ระบบการจดจำเสียงจากโน้ตดนตรี ช่วยให้นักเปียโนจำลองสามารถบรรเลงเพลงได้ตามเวลาจริง
.
นอกจากผู้ใช้งานจะสามารถจำลองนักเปียโนมาบรรเลงดนตรี โดยใช้งานแอปพลิเคชันผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟนแล้ว ยังสามารถเปลี่ยนหน้าตาของเปียโนในแบบที่ต้องการได้ ด้วยการตั้งค่าการใช้งานต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เช่น การเลือกจังหวะช้าหรือเร็วได้ตามต้องการ หรือเลือกมุมมองการเล่นให้เห็นเฉพาะมือของนักดนตรี และยังมีโน้ตดนตรีปรากฏตามจังหวะการบรรเลงเพลงของนักดนตรีด้วย
.
การจำลองการบรรเลงเปียโนผ่านแอปพลิเคชัน AR ไม่เพียงสร้างความเพลิดเพลิน แต่ยังช่วยเพิ่มประสบการณ์การรับฟังดนตรีผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ และยังสามารถนำไปประกอบการเรียนการสอนในวิชาดนตรี เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับนักเรียนได้ศึกษาท่วงท่าในการฝึกซ้อมจากการใช้งานแอปพลิเคชัน
.
ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันและวงดนตรีคลาสสิคได้วางแผนในการพัฒนาต่อยอด ให้แอปพลิเคชันมีเนื้อเพลงที่หลากหลายมากขึ้น และให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงประสบการณ์ได้เหมือนเรียนรู้จากนักเปียโนชื่อดัง
.
--------------------------
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ #ThaiPBS
อย่าลืมกด Like, Follow และ ⭐ See First
เพจ Thai PBS Sci & Tech
#ThaiPBSSciAndTech

 

29.11.20

เทศบาลเมือง Moss เพื่อประกาศมาตรการเข้มงวดระดับท้องถิ่น เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก Kristian Krogshus หัวหน้าแพทย์ประจำเทศบาล กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า มีเทศบาลอีกสามแห่งที่เกี่ยวข้องกับการระบาดใน เมืองMoss คือ Asker, Vestby และ Lillestrøm

มาตรการของเมือง Moss มีผลตั้งแต่ 00.00 น. วันที่ 01 - 14.12.20

1.ห้ามจัดงานกิจกรรมในร่มทั้งหมด
2.ขอแนะนำให้ทุกคนใช้หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะที่อยู่ภายในร่ม เมื่อคุณไม่สามารถรักษาระยะห่างกันได้ 1 เมตร
คำแนะนำนี้ใช้ไม่ได้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และสำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้หน้ากากอนามัยด้วยเหตุผลทางการแพทย์หรืออื่นๆ
3.ห้ามจัดงานในที่สาธารณะ โดยมีข้อยกเว้นคือ งานศพ สามารถมีผู้มาร่วมงานได้ไม่เกิน 50 คน / การแข่งขัน ที่ไม่มีผู้เข้าชม / งานแต่งงาน หรือ พิธีรับศีล ที่ไม่มีผู้เข้าร่วม
4.สถานที่จัดกิจกรรม ทางวัฒนธรรม/ความบันเทิง หรือ สันทนาการทั้งหมดปิดให้บริการ
5.โรงภาพยนตร์/โรงละคร/ศูนย์เด็กเล่น/ห้องฝึกในศูนย์ออกกำลังกาย ปิดบริการ
6.ห้องโถงซ้อมกีฬา /สระว่ายน้ำสาธารณะ ฯลฯ ปิดให้บริการ
7.งานกิจกรรมกลางแจ้งสามารถมีผู้เข้าร่วมได้ถึง 200 คน
8.ห้างสรรพสินค้า ต้องจำกัด ผู้ที่มาใช้บริการไม่ให้แออัดอยู่ภายใน และ ทุกคนต้องมีระยะห่างจากกัน 1 เมตร
9.จำนวนคนที่มารวมตัวกันสังสรรค์ในบ้านส่วนตัว/ หรือ นอกบ้านส่วนตัว สูงสุดไม่เกิน 10 คน และ ทุกคนต้องเว้นระยะห่างจากกันอย่างน้อย 1 เมตร ยกเว้น สมาชิกที่มาจากครัวเรือนเดียวกัน
10.ไม่อนุญาตให้มีการสังสรรค์ส่วนตัวในที่สาธารณะ หรือ ในสถานที่เช่าหรือ ยืมชั่วคราว
11.ควรสวมหน้ากากอนามัย ในขณะนใช้บริการขนส่งมวลชน ที่ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ 1 เมตร หากพบว่า บริการขนส่งสาธารณะที่ตนเองต้องการใช้ แออัด ให้หลีกเลี่ยงไปใช้วิธีอื่น หรือ รอรอบต่อไป
12.แนะนำสำนักงานที่บ้าน
13.ไม่อนุญาตให้ร้านอาหาร เสริฟ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตลอดทั้งวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 01 - 14.12.20 โดยที่ ร้านอาหาร จะต้องปฏิบัติตามกฏควบคุมการติดเชื้อ อย่างเคร่งครัด โดยการเว้นระยะห่างระหว่างลูกค้า และรักษาสุขอนามัยที่ดี ในการทำความสะอาด
14.ร้านกาแฟ ที่ ไม่เสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรลงทะเบียนแขกทุกคนที่มาใช้บริการ รับประทานอาหารและดื่มกาแฟ ฯลฯ ที่ร้าน

.
อ่านรวมข่าว และ มาตรการโคโรน่าต่างๆของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com/

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ที่มา Moss kommune : https://www.moss.kommune.no/koronav...g-lokale-rad-tiltak/advice-and-rules-in-moss/

 

30.11.20

Espen Rostrup Nakstad ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบัน FHI เชื่อว่า เรากำลังเข้าใก้ลจุดสูงสุดของการระบาดระลอก 2 และยังเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรักษามาตรการฯ ต่อไป

1.Espen Nakstad กล่าวกับ NRK ว่า ตอนนี้ดูเหมือนว่าเรากำลังเข้าใก้ลจุดสูงสุด ของการระบาดระลอก 2 ในขณะเดียวกัน จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็เริ่มลดลง ในหลายเขตเทศบาล เช่นกัน อันเป็นผลมาจากการใช้มาตรการเข้มงวดระดับชาติ/ท้องถิ่น แม้ว่า กราฟของอัตราผู้คิดเชื้อจะเริ่มลดลงแล้ว แต่สถานการณ์ยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แบบที่เราคาดไม่ถึง และ เรายังไม่ปลอดภัย

2.ผช.ผอ.FHI Nakstad กล่าวว่า น่าเสียดายที่ รัฐบาล ยังจำเป็นต้องคงมาตรการต่อไปอีกซักระยะ เพื่อให้สามารถลดอัตราการติดเชื้อลงได้มากกว่านี้ มีข้อบ่งชี้หลายประการว่า การติดเชื้อระลอกที่ 2 ยังคงอยู่เหนือการควบคุม

3.ผช.ผอ.FHI Nakstad เชื่อว่าเมื่อยังดำเนินมาตรการต่อไปอีกใน เดือนธันวาคม จะสามารถวัดได้ว่า อัตราการติดเชื้อลดลงมากพอ จนเราสามารถมีงานฉลอง คริสต์มาส ที่ปกติได้หรือไม่ อย่างน้อยก็เป็นไปได้ที่คนส่วนใหญ่จะเฉลิมฉลองกับคนที่พวกเขาอาศัยอยู่ด้วย และ อาจจะเป็นคนในครอบครัวที่ใกล้ชิด คำถาม คือ คุณจะพบผู้คนใหม่ๆ ได้กี่คนในช่วงคริสต์มาส? นี่ยังเป็นคำถามที่ตอบได้ยากในเวลานี้

4.เมื่อวันอาทิตย์ มีรายงาน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 52 รายในเขต Gamle Østfold ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทางด้านเมือง Moss และ Halden ได้ออกมาตรการที่เข้มงวดหลายประการเพื่อหยุดยั้งการติดเชื้อภายในเมืองส่วน ใน เมืองออส โลมีการจดทะเบียนผู้ติดเชื้อรายใหม่ใหม่ 112 ราย ซึ่งน้อยกว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 39 ราย

.
อ่านรวมข่าว และ มาตรการโคโรน่าต่างๆของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com/

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ผู้ทำข่าวต้นฉบับ :
Mette Kristensen : Journalist

ข่าวต้นฉบับ NRK :
https://www.nrk.no/norge/nakstad_-mye-tyder-pa-at-andre-smittebolge-er-over-kneika-1.15266334

 

30.11.20

ข้อมูลจาก Aftonbladet เมือง Stockholm ประเทศสวีเดน เป็นเมืองหลวงที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดอันดับที่ 3 ของยุโรป ในด้านของจำนวนผู้เสียชีวิตอันเป็นผลมาจาก โคโรน่าไวรัส

1.เมืองหลวง ใน ทวีปยุโรป ซึ่งได้รับผลกระทบหนักที่สุดในจำนวนผู้เสียชีวิตจากการระบาดของ ไวรัสโคโรนาระลอกที่2 ใน 3 อันดับแรกได้แก่ คือ บรัสเซลส์ มาดริด และ สตอกโฮลม์ (ข้อมูล ณวันที่ 29.11.20)
▪บรัสเซลส์ เมืองหลวงของ ประเทศเบลเยียม มีผู้เสียชีวิต 193 คน ต่อประชากร 100,000 คน รวม 2,361 คน
▪มาดริด เมืองหลวงของ ประเทศสเปน มีผู้เสียชีวิต 170 คน ต่อประชากร 100,000 คน รวมทั้งหมด 11,349 คน
▪สตอกโฮล์ม เมืองหลวงของ ประเทศสวีเดน มีผู้เสียชีวิต 113 คน ต่อประชากร 100,000 คน มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 6,681 คน

2. เมืองออสโล อยู่ในอันดับสุดท้าย มีผู้เสียชีวิต 9 คน ต่อประชากร 100,000 คน เมื่อเทียบกับข้อมลูการเสียชีวิตของ ประชากรในเมืองหลวงต่างๆเช่น เบอร์ลิน ลอนดอน มาดริด ปารีส โรม และ สตอกโฮล์ม

3.Johan Styrud หัวหน้าแพทย์ของ Danderyd Sykehus เมืองสตอกโฮล์ม กล่าวว่า เมืองสตอกโฮล์ม มีผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้สูงอายุจำนวนมาก นี่เป็นโศนาฏกรรมที่แท้จริง นายแพทย์ Styrud เชื่อว่า อาจมีสาเหตุหลายประการที่ทำให้ สวีเดน มีอัตราการติดเชื้อสูงมาก และ มีผู้เสียชีวิตจากไวรัส มากขึ้น

4.ย้อนกลับไปเมื่อ ฤดูหนาวที่ผ่านมา นักท่องเที่ยว ในช่วงวันหยุดฤดูหนาวจำนวนมากจากหลายประเทศนำ โคโรน่าไวรัส กลับบ้าน หนึ่งในกรณีที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักคือ หลังจากพักที่ สกีรีสอร์ท ใน เทือกเขาแอลป์ นอร์เวย์ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่พบว่า การระบาดในช่วงต้นสามารถสืบย้อนกลับไปยัง สกีรีสอร์ท ได้

5.ทางด้าน Jan Albert ศาตราจารย์ด้านการควบคุมโรคติดเชื้อฯ จากสถาบัน Karolinska สวีเดน กล่าวว่า ตัวเลขนี้เปรียบเทียบได้ยากเล็กน้อยเนื่องจากไม่มีการคำนวณในลักษณะเดียวกันใน ทุกประเทศ หากต้องการตัวเลขที่ถูกต้อง เราจะต้องรู้ด้วยว่า สตอกโฮล์ม เป็นเมืองหนึ่งของ สวีเดนที่มีการแพร่กระจายของเชื้อมากที่สุด หรือ มีการติดเชื้อน้อยกว่าในเมืองอื่นๆ ในยุโรปด้วย

6.ข้อมูลของ ประเทศสวีเดน ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน ผู้เสียชีวิต 6,302 เหล่านี้ อยู่ในช่วงอายุ 60 ปี ผู้เสียชีวิตจำนวน 5,866 มีอายุมากกว่า 70 ปี และ ผู้เสียชีวิตจำนวน 4,480 มีอายุมากกว่า 80 ปี
.
อ่านรวมข่าว และ มาตรการโคโรน่าต่างๆของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com/

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ผู้ทำข่าวต้นฉบับ :
Aud Darrud : Journalist

ข่าวต้นฉบับ NRK :
https://www.nrk.no/urix/stockholm-tredje-hardest-rammet-av-korona-i-europa-1.15265675

 

30.11.20

เมือง Bergen จัดงานแลงข่าว วันนี้ เวลา 14.00 น. นำโดย Beate Husa (KrF) ที่ปรึกษาสภาเมืองด้านการบริการสุขภาพ และ Trond Egil Hansen ผู้อำนวยการด้านการแพทย์เมือง Bergen เพื่อรายงานสถานการณ์โคโรน่า และ ประกาศขยายมาตรการออกไปอีก 1 สัปดาห์

1.มาตรการควบคุมการติดเชื้อที่เข้มงวดต่างๆ จะขยายออกไปอีก 1 สัปดาห์ โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 13.12.20 (แต่เดิมสิ้นสุดในวันที่ 06.12.20)

2.Beate Husa กล่าวว่า ในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเมือง Bergen มีการพัฒนาของอัตราการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และ ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน จึงยังเร็วเกินไปที่จะผ่อนคลายมาตรการในตอนนี้ สภาเมืองฯ จะตัดสินใจอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ ว่าจะทำอย่างไรต่อไป

มีการเปลี่ยนแปลงกฏควบคุมการติดเชื้อของท้องถิ่น Bergen บางประการ ตามรายการต่อไปนี้
▪พนักงานในร้านค้า ไม่จำเป็นต้อง สวมหน้ากากอนามัย หากมีการใช้มาตรการควบคุมการติดเชื้ออื่น ๆ เช่นการใช้ที่ฉากกั้นและสิ่งอื่นๆที่คล้ายกัน
▪การจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม (ซึ่งมีการขายตั๋วล่วงหน้า และ มีหมายเลขที่นั่งถาวร) ได้รับการยกเว้นจากกฎ 22.00 น. อนุญาตให้จัดงานเกินเวลาได้
▪กิจการโรงแรม ไม่จำเป็นต้องปิดในเวลา 22.00 น. แต่ต้องหยุดขายเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ ภายในเวลา 21.30 น.

อ่านมาตรการของเมือง Bergen ได้ที่นี่ค่ะ


3.ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีการลงทะเบียน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18 ราย ในเขตเทศบาลเมืองBergen ผู้ติดเชื้อ มีอายุตั้งแต่ 10 - 86 ปี 4 รายมีเส้นทางการติดเชื้อมาจากแหล่งที่ไม่รู้จัก และ 1 ราย ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ

อนึ่ง วันนี้คุณ Roger Valhammer สมาชิกสภาเมืองฯ ไม่ได้มาร่วมงานแถลงข่าวเนื่องจาก อยู่ในระหว่างการกักกันตนเอง หลังจาก ป่วยเป็นไข้หวัด และกำลังรอคำตอบสำหรับการทดสอบของเขาอยู่ค่ะ (ขอให้หายเร็วๆค่ะ)

.
อ่านรวมข่าว และ มาตรการโคโรน่าต่างๆของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com/

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ผู้ทำข่าวต้นฉบับ :
Valentina Baisotti : Journalist

ข่าวต้นฉบับ NRK :
https://www.nrk.no/vestland/direkte...koronasituasjonen-og-lokale-tiltak-1.15266774

 

30.11.20

บริษัทผู้ผลิตวัคซีน Moderna กำลังยื่นขออนุมัติจาก หน่วยงานของสหภาพยุโรปและ สหรัฐอเมริกา สำหรับวัคซีน mRNA ถือเป็นบริษัทที่ 2 ที่ได้ยื่นขออนุมัติให้ใช้วัคซีนในหมู่ประชากร รองจาก Pfizer และ BioNTech

1.หลังจากที่ Pfizer และ BioNTech ได้ยื่นขออนุมัติให้ใช้วัคซีน BNT162b2 ไปก่อนหน้านี้เมื่อ 10 วันที่แล้ว ก็ถึงคราวของ บริษัทผู้ผลิตวัคซีน Moderna ที่ได้ยื่นเรื่องขออนุมัติวัคซีนกับ สพภาพยุโรป และ อเมริกา

2.ใบสมัครของบริษัท Moderna จะถูกส่งหลังจาก การตรวจสอบผลการทดสอบฉบับสมบูรณ์ ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อที่เพิ่มมมากขึ้นของวัคซีนมากถึง 94.1 %

3.หากได้รับการอนุมัติจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) วัคซีน อาจพร้อมให้บริการสำหรับ กลุ่มเสี่ยง ในสหรัฐอเมริกา ช่วง ต้นเดือนธันวาคม

4.รายงานจาก บริษัท Moderna กล่าวว่า พวกเขามีปริมาณวัคซีนเพียงพอที่จะฉีดให้กับ ชาวอเมริกัน 10 ล้านคนก่อนปีใหม่ แต่วัคซีนจะไม่สามารถใช้ได้กับ ผู้คนในประเทศอื่นๆ จนกว่าจะถึงไตรมาสแรกของปี 2021

5.ในส่วนของ ประเทศเยอรมนี ณ เมืองเบอร์ลิน กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการ ฉีดวัคซีนป้องกันโคโรนาไวรัส ให้กับผู้คนจำนวนมาก โดยมีเป้าหมายคือ การฉีดวัคซีนให้ได้ 20,000 คนต่อวัน ขณะนี้ได้มีการปรับปรุงสถานที่ 6 แห่งในเมือง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเป็น ศูนย์กลางการฉีดวัคซีน

เพิ่มเติม : การแข่งขันของ ผู้ผลิตวัคซีน ก็ยังเข้มข้น แบบหายใจรดต้นคอกันเลยทีเดียว ส่วนสุดท้ายใครจะเข้าวิน เราต้องรอดูกันต่อไปค่ะ

.
อ่านรวมข่าว และ มาตรการโคโรน่าต่างๆของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com/

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ข่าวต้นฉบับ NRK :
https://www.nrk.no/urix/moderna-soker-om-vaksinegodkjenning-1.15267101

ข่าวเมืองเบอร์ลิน : https://www.nrk.no/urix/nedlagd-flyplass-far-nytt-liv-i-kampen-mot-viruset-1.15266237

 

01.12.20

รายงานจาก Avisa Oslo อัยการต้องการให้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรับโทษจำคุกโดยไม่มีเงื่อนไข คำตัดสินในคดีนี้จะกลายเป็นคำตัดสิน "ประวัติศาสตร์" สำหรับโทษของการละเมิดกฎการกักกันตนเอง โดยจะได้รับการตัดสินใน วันพฤหัสบดี นี้

1.คดีนี้เป็นเรื่องราวของ เจ้าหน้าที่เลขานุการสาธารณสุข ของศูนย์การแพทย์ในออสโล ที่ฝ่าฝืนกฎการกักกันตนเอง หลังจาก เดินทางกลับจากไปเยี่ยมแฟนหนุ่มของเธอที่ สหราชอาณาจักร โดยไม่กักกันตัว ถึง 3 ครั้ง คาดว่าจะมี ผู้ป่วยที่หญิงคนนี้ติดต่อด้วยราว 137 คน

2.หลังจากกลับมา เธอได้ไปทำงานต่อเลย โดยไม่ได้กักกันตนเอง ในช่วงเวลาที่ หญิงผู้ต้องหา ฝ่าฝืนกฏการกักกันตนเองทั้ง 3 ครั้ง เธอได้ให้บริการและติดต่อกับผู้ป่วยที่มารับบริการในศูนย์การแพทย์ มีการสัมผัสกับผู้ป่วย 137 ราย ซึ่งรวมถึง การตรวจเลือด / ตรวจเช็คคลื่นไฟฟ้าหัวใจและ บริการดเกี่ยวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่

3.ขณะนี้ เจ้านายของ หญิงผู้ต้องหา ได้รับแจ้งและ ได้ให้ผู้ต้องหาออกจากงานไว้ก่อน ผู้หญิงคนนี้ยอมรับว่า ตัวเองละเมิดการกักกัน แต่เชื่อว่าเธอไม่ได้กระทำโดยเจตนาเนื่องจากเธออ้างว่าไม่รู้กฎฯ เจ้านายของเธอยังให้การปฏิเสธว่า หญิงผู้ต้องหา ไม่ทราบกฎการกักกันเมื่อเดินทางกลับเข้ามาใน ประเทศนอร์เวย์

4.ทางด้าน Karianne Worren ทนายความของตำรวจ ซึ่งเป็น อัยการ ในคดีนี้เชื่อว่าเป็นการฝ่าฝืนกฏอย่างร้ายแรง และ ซ้ำเติมสถานการณ์ให้แย่ลงไปอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ต้องหาทำงานเป็น เจ้าหน้าที่เลขานุการสาธารณสุข ของศูนย์การแพทย์ เนื่องจาก ผู้ป่วยเหล่านี้ ได้เข้ารับการรักษาที่สำนักงานแพทย์ แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดฯ แต่เนื่องจากพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ พวกเขาก็ควรได้รับการรักษา และ รู้สึกปลอดภัย อย่างแท้จริง

5.จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกตัวเธอ อัยการ ไม่เชื่อว่า ผู้หญิงคนนี้ จะไม่ทราบเกี่ยวกับกฏการกักกัน เพราะเมื่อเธอให้บริการผู้ป่วย เธอสามารถบอกกับผู้ป่วยได้ว่า คุณไม่สามารถมาที่ สำนักงานแพทย์ได้ หากไปต่างประเทศ และ คุณต้องถูกกักกันหลังจากเดินทางกลับมา

6.Annette Barlinn ทนายความของ ผู้ต้องหา ได้ยื่นข้อเรียกร้องว่า ผู้ต้องหา ควรถูกตัดสินให้บำเพ็ญประโยชน์แทนการจำคุก เนื่องจากยังไม่มีรายงานว่า พฤติกรรมของเธอ มีผลกระทบกับผู้ป่วยคนอื่นๆที่มาใช้บริการศูนย์การแพทย์ (จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครติดเชื้อจากผู้หญิงคนนี้, และเธอก็ไม่ได้ป่วยค่ะ)

7.ย้อนกลับไปเมื่อ เดือนมีนาคม Monica Mæland รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ชี้ให้เห็นว่า การปฏิบัติตามกฎการกักกัน นั้นมีความสำคัญเพียงใด ตำรวจ มีอำนาจบังคับใช้บทลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนการกักกัน เพื่อที่จะได้รับโทษ ปรับ หรือ จำคุก การละเมิดกฏฯ ถือเป็นเรื่องร้ายแรงมาก

.
อ่านรวมข่าว และ มาตรการโคโรน่าต่างๆของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com/

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ผู้ทำข่าวต้นฉบับ :
Martin H. W. Zondag : Journalist

ข่าวต้นฉบับ NRK :
https://www.nrk.no/osloogviken/akto...etinget-fengsel-for-karantenebrudd-1.15267158

 

01.12.20

เรียกได้ว่าไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว สำหรับ ผู้ผลิตวัคซีน โคโรน่า ล่าสุด บริษัท Pfizer และ Biontech ได้ยื่นขออนุมัติวัคซีนกับ สหภาพยุโรปแล้ว ถือเป็น บริษัท ลำดับที่ 2 ที่ยื่นต่อ สหภาพยุโรป

1.Reuters รายงานว่า หลังจากที่ บริษัท Moderna ประกาศว่า พวกเขาได้ยื่นเรื่องขออนุมัติวัคซีนให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินกับ องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (European Medicines Agency - EMA) เมื่อวานนี้ ล่าสุด บริษัท Pfizer / BioNtech ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้ยื่นขออนุมัติแล้วกับ EMA เช่นกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Pfizer / BioNtech ได้ยื่นเรื่องกับ สหรัฐอเมริกาเท่านั้น

2.หากได้รับการอนุมัติจาก EMA นั่นก็หมายความว่า ประเทศนอร์เวย์ จะได้ใช้ วัคซีนตัวนี้ด้วย หากเป็นไปตามคาด Pfizer / BioNtech จะสามารถเริ่มต้นฉีดวัคซีน ใน สหรัฐอเมริกาได้ตั้งแต่วันที่ 29.12.20 ส่วน วัคซีนของ Moderna จะมีการหารือกันกับ EMA ในวันที่ 12.01.21

3.สถาบัน FHI จะเผยแพร่คำแนะนำเกี่ยวกับ แผนงานว่า ใครควรได้รับวัคซีนก่อน/หลัง - ควรได้รับกี่โดส - นานเท่าไหร่ที่นอร์เวย์จะได้รับวัคซีน ฯลฯ ภายในวันที่ 15.12.20

4.ก่อนหน้านี้มี สัญญาณแรกจาก สหภาพยุโรป ว่าการอนุมัติวัคซีนครั้งแรกอาจเกิดขึ้นในเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ Ursula von Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า วัคซีนสองชนิดนี้ อาจสามารถได้รับการอนุมัติใน เดือนธันวาคม

5.Steinar Madsen ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ของ legemiddelverk กล่าวว่า การพัฒนาวัคซีนได้ดำเนินไปอย่างรวดเร็วกว่าปรกติ แต่ในขณะเดียวกัน ก้ได้รับการดูแลความปลอดภัยอย่างดีเช่นกัน เหนือสิ่งอื่นใด มีการตรวจสอบผลการทดสอบเบื้องต้นอย่างละเอียด และจะถูกตรวจสอบโดยมาตรฐานของ ยุโรป อีกครั้งก่อนอนุมัติให้ใช้

6.วัคซีนจะต้องได้รับการประเมินจาก คณะกรรมการผลิตภัณฑ์ยาเพื่อการใช้งานในมนุษย์ CHMP เพื่อตรวจสอบ ผลข้างเคียง และ ประสิทธิภาพของหารใช้งาน EMA จะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย ขณะนี้ ในส่วนของ ประเทศนอร์เวย์ Legemiddelverket และ FHI ได้ทำงานร่วมกันในเรื่องนี้

.
อ่านรวมข่าว และ มาตรการโคโรน่าต่างๆของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com/

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ผู้ทำข่าวต้นฉบับ :
Martin H. W. Zondag : Journalist
Hallvard Sandberg : Journalist

ข่าวต้นฉบับ NRK :
https://www.nrk.no/urix/pfizer-soker-om-hastegodkjenning-av-koronavaksine-i-eu-1.15268399

 

❗️ #โควิดฮ่องกงวันนี้ (1 ธค)
ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด +82, ติดในฮ่องกง +72
.
#เคสต่างประเทศ (10 คน) - ยังไม่มีรายละเอียด
.
#เคสในฮ่องกง (72 คน)
เชื่อมโยงเคสเก่า 49 คน, ไม่ทราบต้นตอ 23 คน
.
#ตัวอย่างผู้ติดเชื้อ
- 32 คน เกี่ยวโยงกับ dance group (รวม cluster นี้ 552 คน)
- 3 คน คนทำงานในไซต์งานก่อสร้าง Phase 9, LOHAS Park, Tseung Kwan O (อีก 8 คน รอยืนยันผลตรวจ)
- 3 คน จาก Ho Yuk Chung Willow Lodge (Sham Shui Po)
- 1 คน ผู้อาศัยใน Pak Lok Nursing Home (San Po Kong)
- 1 คน คนขับแท็กซี่ทะเบียน SL8379
- 5 คน รพ Union Hospital (Tai Wai)
- 5 คน Fong Sha Chuen Home (Shau Kei Wan)
- 2 คน หมอประจำ รพ Queen Elizabeth (Yau Ma Tei) คุณหมอทั้ง 2 คน สนิทกัน มักกลับบ้านด้วยกัน
- 2 คน นักเรียน รร SC Gaw Memorial College (Tsing Yi) และ Tung Wah Group of Hospitals Wong Fut Nam College (Kowloon Tsai)
- 1 คน ครู รร West Island School (Sandy Bay) และ Hong Kong Sze Yap Commercial and Industrial Association (HKSYC&IA) Chan Nam Chong Memorial College (Kwai Chung)
- 60+ คน รอผลยืนยัน
.
#บังคับตรวจ ผู้เคยไปยังที่เหล่านี้ตั้งแต่ 15 พย
(1) ร้านอาหาร Pine Tree Hill Seafood (Tsim Sha Tsui)
(2) ไซต์งานก่อสร้าง Phase 9, LOHAS PARK, Tseung Kwan O
.
อื่นๆ รายงานพรุ่งนี้ค่ะ
.
#eatlike852 #covid19hongkong

 

ด่วน! เกิดเหตุคนร้ายขับรถพุุ่งชนบนทางเดินเท้าในเมือง Trier ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของเยอรมนี ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน บาดเจ็บนับสิบ เบื้องต้นแต่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ขณะที่ล่าสุดตำรวจได้จับกุมตัวผู้ก่อเหตุและยึดรถที่ใช้ในการก่อเหตุ พร้อมเตือนประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่ดังกล่าว และทำการสอบสวนหาสาเหตุต่อไป
.
#เยอรมนี #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #MONO29

 

ชาวญี่ปุ่นแตกตื่นหลังลูกไฟพุ่งลงมาจากท้องฟ้า ผู้เชี่ยวชาญคาดเป็นชิ้นส่วนอุกกาบาตตกลงมาบนพื้นโลก
.
ที่ประเทศญี่ปุ่นพบปรากฎการณ์ที่หาได้ยากเกิดขึ้น เมื่อจู่ๆก็มีลูกไฟพุ่งลงมาจากท้องฟ้าในหลายเมืองของประเทศ เช่นเมืองโอซากา นาโกยา และกิฟุ
.
ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทำเอาชาวญี่ปุ่น ผู้พักอาศัยในพื้นที่เหล่านั้นต่างพากันแตกตื่น หลังเห็นลูกไฟตกลงมาจากท้องฟ้า โดยลูกไฟได้พุ่งลงมาอย่างรวดเร็วผ่านชั้นบรรยากาศของโลก
.
ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ฮาราสึกะ ในจังหวัดคานากาวา ซึ่งเป็นผู้เห็นปรากฎการณ์ดังกล่าว บอกว่า ลูกไฟที่ตกลงมาจากท้องฟ้าสว่างราวกับพระจันทร์เต็มดวงในช่วงเวลาสั้นๆ
.

ด้านผู้เชี่ยวชาญ แสดงความเห็นว่า แสงของลูกไฟที่เกิดขึ้นนั้น เป็นไปได้ว่าอาจเป็นอุกกาบาตชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่ตกลงมาบนพื้นโลกก็ได้
.
#ญี่ปุ่น #ลูกไฟ #อุกกาบาต #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #MONO29

 

ปิดตำนาน “หวยชุดใหญ่”
ทำราคางวดสุดท้ายพุ่ง!
.
งวดนี้จะเป็นงวดสุดท้ายที่ ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล จะสามารถรวมชุดสลากฯ เพื่อจำนวนได้พร้อมกันหลายใบ เพราะในงวดหน้า จะเป็นการพิมพ์สลากฯ รูปแบบใหม่ ทำให้สลากฯ รวมชุดในงวดนี้ มีราคาสูงตามความต้องการ
.
มีรายงานว่า สลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำงวดวันที่ 1 ธันวาคม ผู้ซื้อมีความต้องการซื้อสลากฯ รวมชุดเป็นจำนวนมาก เนื่องจากงวดนี้ จะเป็นงวดสุดท้าย ที่มีการรวมสลากฯ เป็นชุดใหญ่ เพราะตั้งแต่งวดวันที่ 16 ธันวาคมเป็นต้นไป สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะมีการปรับสูตรการพิมพ์และเรียง ชุดสลากใหม่ เป็นแบบไม่เรียงเลข และเปลี่ยนการจัดชุดเพื่อแก้ปัญหาสลากฯ ราคาแพง โดยจะรวมได้สูงสุดไม่เกินชุด 5 ใบเท่านั้น
.
จากความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ทำให้มีรายงานว่า งวดนี้ราคาสลากฯ ชุดใหญ่ 10 ใบ มีราคาปรับสูงถึงชุดละ 1,600-1,800 บาท ส่วนชุด 20 ใบ บางแห่งปรับราคาสูงถึง 3,500 บาท
.
#หวย #ลอตเตอรี่ #สลาก #หวยแพง #หวยชุด #สลากกินแบ่งรัฐบาล #รางวัล #ข่าวโมโน29 #mono29 #mono29news

 

ชุลมุน! ตร.ยูกันดายิงแก๊สน้ำตาสลายกลุ่มหนุนผู้ท้าชิงประธานาธิบดี ขณะที่เหตุสลายชุมนุมโดยใช้กระสุนจริงเมื่อต้นเดือนพ.ย. ที่ผ่านมาพบยอดผู้เสียชีวิต อยู่ที่ 45 คนและอีก 800 คนถูกจับกุมตัว
.
เกิดเหตุชุลมุนบริเวณชานเมืองกัมปาลา ในประเทศยูกันดา ระหว่างนายบ๊อบบี้ ไวน์ (Bobi Wine) หรือชื่อจริงคือนายโรเบิร์ต คยากุลานิ ผู้ท้าชิงประธานาธิบดียูกันดา พร้อมด้วยกลุ่มผู้ชุมนุมผู้สนับสนุนออกมารณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 14มกราคม ปีหน้า
.
โดยนายไวน์ได้รณรงค์ให้ประชาชนงดกากบาทเลือก นายโยเวริ มุสเซเวนิ (Yoweri Museveni) ประธานาธิบดีประเทศยูกันดาวัย 76 ปีที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2529
.
จากเหตุดังกล่าวนายไวน์ อ้างว่าตำรวจและทหารได้ทำลายบรรยากาศการหาเสียงของเขา โดยการทำร้ายกลุ่มผู้สนับสนุนของเขา ด้วยการสังหาร กักขัง และเฆี่ยนตี ขณะที่ตำรวจและทหารยูกันดาได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และระบุว่า การกระทำของพวกเขาชอบด้วยกฎหมาย
.
ต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาตำรวจและทหารได้ใช้กระสุนจริง แก๊สน้ำตา และวิธีการต่างๆเพื่อปราบปรามการชุมนุมในหลายเมือง ล่าสุดมียอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 45 คนและอีก 800 คนถูกจับกุมตัว
.
#ยูกันดา #ประท้วง #เลือกตั้ง #ข่าวการเมือง #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #MONO29

 

เกิดเหตุจลาจล และมีการปะทะกันในเรือนจำของศรีลังกา มีผู้เสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บมากกว่า 50 คน
.
ทางการศรีลังกา เปิดเผยวานนี้ (30 พ.ย. 63) ว่า ทันทีที่ได้รับแจ้งเหตุ มีเจ้าหน้าที่รุดเดินทางไปยังเรือนจำมาฮารา อยู่ห่างจากกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงไปทางตอนเหนือ ราว 15 กิโลเมตร
.
รายงานข่าวระบุว่า ภายในพื้นที่เรือนจำมีไฟลุกไหม้ปะทุขึ้นมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายร้อยนายเดินทางมายังเรือนจำดังกล่าว เพื่อช่วยตรึงกำลังรักษาความปลอดภัย
.
ตำรวจ ระบุว่า ล่าสุดสามารถควบคุมสถานการณ์ได้สงบแล้ว และได้ส่งตัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลแล้ว โดยจากนี้เป็นกระบวนการสืบสวนหาสาเหตุต่อไป
.
ขณะเดียวกัน รายงานข่าวระบุว่า ความรุนแรงเกิดขึ้นจากสาเหตุความเครียดของผู้ต้องขังที่อยู่อย่างแออัด และไม่มีมาตรการเกี่ยวกับการควบคุมโรคระบาด
.
เหตุรุนแรงครั้งนี้ปะทุขึ้น เนื่องจากผู้ต้องขังหลายคนไม่พอใจ ที่จะมีการย้ายตัวผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 จากเรือนจำอื่น เข้ามาคุมขังยังพื้นที่เรือนจำมาฮารา
.
ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ต้องขังในเรือนจำหลายแห่งของศรีลังกามีการประท้วงตำรวจ และเรียกร้องให้มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น และให้มีการกักตัวแยกผู้ต้องขังที่ติดเชื้อไปยังอาคารอื่นที่ทางการจัดหา
.

สำนักข่าวเอพี รายงานว่าในศรีลังกา ผู้ต้องขังมากกว่า 1 คน ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด โดยมี 2 คนที่เสียชีวิตแล้วจากโควิด นอกจากนี้ ยังมีผู้รักษาความปลอดภัยในเรือนจำอีก 50 คนที่ติดเชื้อโควิด
.
เรือนจำในศรีลังกาแออัดอย่างมาก มีนักโทษมากกว่า 2.6 หมื่นคน แออัดอยู่ในเรือนจำที่สามารถรองรับนักโทษได้เพียง 1 หมื่นคนเท่านั้น
.
#ศรีลังกา #โควิด19 #เรือนจำ #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #MONO29

 

ทำไมค้างคาวจึงนอนห้อยหัว
(เรียบเรียง โดย ยิ่งยศ ลาภวงศ์)

ค้างคาว เป็นหนึ่งในสัตว์ที่เต็มไปด้วยความพิศวงไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการบิน การออกหากินยามค่ำคืน และที่สำคัญ พวกมันนอนห้อยหัวด้วยการเอานิ้วเท้าที่มีเล็บเกี่ยวกับกิ่งไม้ หรือแง่งหินภายในถ้ำ ซึ่งความแปลกประหลาดเหล่านี้มีที่มาที่ไป และเชื่อมโยงผ่านช่วงเวลาหลายสิบล้านปีของวิวัฒนาการของค้างคาว

แม้ว่าค้างคาวจะหน้าตาเหมือนหนูมีปีก แต่จากการศึกษาพันธุกรรมของค้างคาว นักวิทยาศาสตร์พบว่าพวกมันมีสายสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการที่ใกล้ชิดกับวาฬ และโลมา มากกว่าหนูจริง ๆ เสียอีก อย่างไรก็ตาม ต้นกำเนิดของค้างคาวยังคงเป็นปริศนาใหญ่ในวงการวิทยาศาสตร์ แม้ว่าเราจะค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของค้างคาวโบราณมากมายหลายชนิดจากทั่วโลก แต่เราไม่เคยเจอซากของสัตว์ที่คาดว่าจะเป็นบรรพบุรุษของค้างคาวเลย นั่นทำให้เราไม่ทราบว่าบรรพบุรุษของค้างคาวหน้าตาเป็นอย่างไร และเคยอาศัยอยู่ที่ส่วนไหนของโลก

สิ่งหนึ่งที่เราพอจะสัณนิษฐานได้ก็คือ บรรพบุรุษของค้างคาวน่าจะอาศัยอยู่ในเขตร้อนชื้น ทำให้ซากของพวกมันเน่าเปื่อยและย่อยสลายอย่างรวดเร็ว จนไม่เหลือชิ้นส่วนมาให้ค้นพบในปัจจุบัน

เดิมที นักวิทยาศาสตร์เข้าใจว่า ค้างคาวแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ตามอาหารการกิน นั่นคือ ค้างคาวกินผลไม้ (เรียกว่า Megabat เพราะมักมีขนาดใหญ่) และค้างคาวกินแมลง (เรียกว่า Microbat เพราะมักมีขนาดเล็ก) นอกจากอาหารที่กิน และขนาดร่างกายแล้ว ลักษณะสำคัญที่ใช้แยกค้างคาว 2 กลุ่มนี้ก็คือ ความสามารถในการนำทางด้วยเสียง (Echolocation) โดยค้างคาวกินแมลงนั้นออกหากินแมลงในเวลากลางคืน พวกมันจึงมีวิวัฒนาการระบบโซนาร์ในตรวจจับเสียงสะท้อน เพื่อระบุตำแหน่งของเหยื่อ และสภาพแวดล้อม โดยไม่จำเป็นต้องใช้สายตาในการมองเห็น ในขณะที่ค้างคาวกินผลไม้กลับใช้สายตา และจมูกในการค้นหาอาหารแน่นอนว่าผลไม้ไม่สามารถบินหนีได้เหมือนแมลง พวกมันจึงไม่ได้พึ่งพาระบบโซนาร์มากนัก

แต่ด้วยวิทยาการด้านชีวโมเลกุลที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ทำให้นักวิทยาศาสตร์พบว่าสิ่งที่เชื่อกันมาโดยตลอดนั้นไม่ถูกต้องนัก เพราะ ค้างคาวกินแมลงบางชนิด มีความใกล้ชิดกับค้างคาวกินผลไม้มาก นั่นหมายความว่า บรรพบุรุษของค้างคาวไม่ได้มีวิวัฒนาการแตกออกเป็นสองสายหลักตามลักษณะอาหารที่กิน แต่อาจจะแยกออกด้วยปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ

วิวัฒนาการในการใช้เสียงนำร่องก็ไม่ได้เกิดขึ้นในบรรพบุรุษแรกเริ่มของค้าวคาวเช่นกัน แต่เกิดขึ้นทีหลังเมื่อค้างคาวได้มีวิวัฒนาการแยกเป็นกลุ่ม ๆ ไปแล้ว
.......................................................

งานวิจัยล่าสุด Anderson และ Ruxton (2020) ได้สัณนิษฐานว่า บรรพบุรุษของค้างคาว น่าจะเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่บนต้นไม้ พวกมันมีนิ้วที่ยาว และมีผังผืดระหว่างนิ้ว ช่วยให้มันสามารถจับสัตว์ตัวเล็ก ๆ กินได้ง่าย และผังผืดนี้อาจจะช่วยในการกระโจน หรือร่อนจากต้นไม้ต้นหนึ่ง ไปยังอีกต้นหนึ่งได้ คล้ายกับปาดบิน หรือบ่างที่เราพบเห็นได้ในปัจจุบัน

อ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะมีคนร้อง เอ๊ะ! แล้วมันเกี่ยวกับค้างคาวนอนห้อยหัวยังไง? ในเมื่อนักวิทยาศาสตร์ไม่เคยค้นพบบรรพบุรุษของค้างคาว เราจึงต้องมาสืบเอากับค้างคาวที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน เพื่อที่จะค้นหาคำตอบ ว่าอะไรทำให้บรรพบุรุษของค้างคาวต้องนอนห้อยหัว

ตอนนี้เราพอจะทราบแล้วว่า บรรพบุรุษของค้างคาว น่าจะอาศัยอยู่บนต้นไม้เป็นหลัก มีนิ้วยาว มีผังผืดระหว่างนิ้ว และจับสัตว์เล็ก ๆ กินเป็นอาหาร ' ในบางโอกาส พวกมันอาจจะใช้มือ หรือขาหน้าในการจับอาหาร และใช้เพียงขาหลังยึดกับกิ่งไม้ ' แต่ในขณะที่กระรอก และลิงสามารถเด็ดผลไม้ แล้วมานั่งกินบนกิ่งไม้ได้ง่าย ๆ บรรพบุรุษของค้างคาวอาจจะต้องผาดโผนกว่านั้น เพราะมันกินสัตว์ที่ดิ้นได้เป็นอาหาร บรรพบุรุษของค้างคาวจึงมีวิวัฒนาการ จนนิ้วและเล็บเท้า มีลักษณะคล้ายกับตะขอ ในที่สุด การเกาะห้อยหัวของพวกมันจึงเป็นเรื่องง่าย และไม่ต้องใช้พลังงานเลย และนี่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการห้อยหัวของค้างคาว

แต่การใช้ขาหลังในการยึดเกาะ และใช้มือในการจับเหยื่อเพียงแค่นั้น คงไม่สามารถผลักดันให้ค้างคาวมีวิวัฒนาการจนต้องนอนห้อยหัวตลอดเวลา อีกปัจจัยที่ผลักดันให้ค้างคาวต้องห้อยหัวตลอดเวลา ก็คือ ความสามารถในการบินของค้างคาวนั่นเอง

ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่สิ่งมีชีวิตถือกำเนิดขึ้น มีสัตว์เพียง 4 กลุ่มเท่านั้น ที่สามารถบินได้อย่างแท้จริง นั่นก็คือ แมลง เทอโรซอร์ (Pterosaur) นก และค้างคาว ในขณะที่ปีกของนกประกอบไปด้วยขนที่ติดอยู่บนแขน ปีกของค้างคาวคือฝ่ามือที่มีนิ้วยืดยาว นั่นแปลว่าเมื่อมือที่ใช้ยึดเกาะ เปลี่ยนเป็นปีกขนาดใหญ่ พวกมันจึงไม่สามารถใช้มือเกาะเกี่ยวต้นไม้ กิ่งไม้อีกต่อไป และต้องใช้เพียง 2 ขาหลังในการยึดเกาะไปโดยปริยาย และนี่เห็นเป็นสาเหตุที่ค้างคาวในปัจจุบันต้องนอนห้อยหัวนั่นเอง

การห้อยหัวของค้างคาว แม้จะดูเป็นผลพลอยได้จากพฤติกรรมการหาอาหาร และการบิน แต่มันก็ทำให้ค้างคาวได้เปรียบในหลายๆเรื่อง อย่างแรกเลย เนื่องจากค้างคาวมีขาหลังที่เล็ก ทำให้การขึ้นบิน (take off) แบบนกเป็นไปไม่ได้ การที่มันเกาะห้อยหัว จึงช่วยให้การบินเป็นเรื่องง่าย นั่นก็คือแค่ปล่อยตัวจากสิ่งที่มันยึดเกาะ และก็กระพือปีก แค่นั้น จบ

นอกจากนี้ การที่พวกมันนอนห้อยหัว และใช้เพียงนิ้ว และเล็บเกี่ยวกับพื้นผิว ทำให้ค้างคาวสามารถเลือกสถานที่ยึดเกาะ ที่สัตว์อื่น ๆ เข้าถึงได้ยาก เช่น ในถ้ำ หรือยอดไม้ ทำให้มันปลอดภัยจากสัตว์นักล่า ข้อได้เปรียบเหล่านี้ บวกกับความสามารถในการบิน ทำให้ค้างคาวกลายเป็นหนึ่งในกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด พวกมันมีความหลากหลายมาก และกระจายอยู่ทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยแล้วเราพบค้างคาวมากกว่า 100 ชนิด และยังมีการค้นพบค้างคาวชนิดใหม่อยู่เรื่อย ๆ

อ้างอิง
(1) Tsagkogeorga, G.; Parker, J.; Stupka, E.; Cotton, J. A.; Rossiter, S. J. 2013. Phylogenomic analyses elucidate the evolutionary relationships of bats (Chiroptera). Current Biology. 23 (22): 2262–2267. doi:10.1016/j.cub.2013.09.014
(2) Springer, Mark S. 2013. Phylogenetics: bats united, microbats divided. Current Biology 23:R999-R1001. doi:10.1016/j.cub.2013.09.053.
(3) Anderson, S. C., and G. D. Ruxton. 2020. The evolution of flight in bats: a novel hypothesis. Mammal Review 50:426-439. doi:10.1111/mam.12211.
(4) Gunnell, G., and N. Simmons. 2005. Fossil evidence and the origin of bats. Journal of Mammalian Evolution1210.doi:1007/s10914-005-6945-2.

อ่านเพิ่มเติม https://theconversation.com/curious...and-other-stories-of-animal-adaptation-112518

 

นักวิทย์คิดวิธีขนส่งวัคซีนโดยไม่ต้องแช่เย็น
(เรียบเรียงโดย สัมโมทิก สวิชญาน)

จากข่าววัคซีนโควิด-19 ที่ถาโถมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
จะเห็นได้ว่าวัคซีนเป็นสิ่งที่เปราะบางมาก การขนส่งต้องมีการควบคุมอุณหภูมิเป็นอย่างดีตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง โดยต้นทุนค่าขนส่งอาจแพงกว่าค่าวัคซีนด้วยซ้ำ

วัคซีนของ Pfizer/BioNTech ต้องขนส่งที่อุณหภูมิต่ำถึง –70 องศาเซลเซียส ซึ่งแน่นอนว่า โรงพยาบาลที่จะให้บริการวัคซีนสูตรนี้ต้องมีเครื่องมือพร้อมในการเก็บรักษาและละลายเพื่อใช้งาน

วัคซีนบางตัวสามารถหลีกเลี่ยงข้อจำกัดนี้ได้โดยนำมาแปรรูปเป็นผงด้วยกระบวนการที่เรียกว่า freeze-drying เช่น วัคซีน Attenuvax ที่ใช้สร้างภูมิคุ้มกันโรคหัด ส่วนวัคซีนโควิด-19 ที่กำลังค้นคว้าวิจัยกันอยู่ ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะมีตัวไหนที่ freeze-dry ได้ ซึ่งถ้าได้ก็จะสามารถขนส่งไปใช้ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญได้โดยสะดวกและไม่แพง

คำถามคือ มีวิธีอื่นอีกหรือเปล่า?

คณะนักวิจัยนำโดยศาสตราจารย์มาเรีย ครอยล์ (Maria Croyle) จากวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเท็กซัส ออสติน (University of Texas at Austin) ได้ตีพิมพ์งานวิจัยที่สั่นสะเทือนวงการขนส่งวัคซีน โดยพัฒนาแผ่นฟิล์มบางที่สามารถเก็บรักษาวัคซีนได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น

ศาสตราจารย์มาเรีย ครอยล์ เล่าว่า ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความมหัศจรรย์ของอำพันในการเก็บรักษาแมลงที่ห่อหุ้มอยู่ไว้ได้นาน ฟิล์มบางที่ผลิตขึ้นมาเก็บรักษาวัคซีนทำจากสารจำพวกน้ำตาล ผสมกับสารจำพวกเกลืออีกนิดหน่อย จะมองว่าเหมือนลูกกวาดก็ได้ ตัววัคซีนถูกพาเข้าร่างกายโดยแปะให้ซึมผ่านใต้ลิ้น (sublingual) หรือกระพุ้งแก้ม (buccal) จึงเป็นข่าวดียิ่งสำหรับคนที่กลัวเข็มฉีดยา

วัคซีนแต่ละชนิดต้องใช้ฟิล์มบางสูตรต่างๆ กัน แต่ไม่ว่าจะสูตรไหน กระบวนการผลิตเป็นกระบวนการง่ายๆ ที่ทำได้ในห้องปฏิบัติการทั่วไป ผลการวิจัยพบว่าสามารถเก็บรักษาไวรัส แบคทีเรียที่มีชีวิต และแอนติบอดี้ได้เป็นเวลาหลายเดือนที่อุณหภูมิห้อง วัคซีนบางสูตรสามารถเก็บด้วยวิธีนี้ได้ 3 ปีเลยทีเดียว

การทดสอบให้วัคซีนไข้หวัดใหญ่ H1N1 กับหนูทดลองโดยแปะฟิล์มบางที่ใต้ลิ้นและกระพุ้งแก้ม พบว่า ให้ผลไม่ต่างจากวัคซีนที่ฉีดเข้าทางกล้ามเนื้อและพ่นเข้าทางจมูก

ล่าสุด งานวิจัยฉบับนี้ได้ถูกต่อยอดทางธุรกิจกลายมาเป็น startup ชื่อบริษัท Jurata Thin Film ซึ่งออกมาแถลงว่าฟิล์มบางรุ่น MSI-TX มีศักยภาพพร้อมสำหรับนำมาปรับใช้กับวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้ขนส่งโดยไม่ต้องแช่แข็ง และลดน้ำหนักในการขนส่งได้ว่า 900 เท่า แผ่นบางๆ แค่ 5 กรัม ขนาดประมาณ A4 สามารถบรรจุวัคซีนได้ถึง 500 โดส

หากเทคโนโลยีนี้ได้รับการพัฒนาจนใช้งานได้จริงจะทำให้วัคซีนเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ง่ายขึ้น และเร็วขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง

อ้างอิง
Novel technology for storage and distribution of live vaccines and other biological medicines at ambient temperature โดย Irnela Bajrovic และคณะ ในวารสาร Science Advances (doi.org/10.1126/sciadv.aau4819)

 

"ล้อ" เครื่องกลอย่างง่าย แต่ยิ่งใหญ่อย่างมาก
.
ล้อมีวิวัฒนาการและความเป็นมาอย่างไร? นอกจากล้อยางที่เราเห็นกันในทุกๆวัน ล้อทำมาจากวัสดุอะไรได้อีก? มาหาคำตอบไปพร้อมกันในภาพชุดนี้ครับ

 

เวียดนามแซงไทย? จับกุมนักเคลื่อนไหวอย่างน้อย 170 คน
มือโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ติดคุกร่วมๆ 70 คน
.
รอยเตอร์ - องค์การนิรโทษกรรมสากลรายงานว่า นักเคลื่อนไหวที่ถูกจำคุกในเวียดนามมีจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ และกล่าวหาการเซ็นเซอร์เนื้อหาของเฟซบุ๊กและกูเกิลในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้
.
รายงานระบุว่า ในเวียดนามมีนักโทษทางความคิดอย่างน้อย 170 คน โดยราว 70 คน รับโทษจำคุกจากการเคลื่อนไหวทางออนไลน์ ที่ส่วนใหญ่ดำเนินการผ่านเฟซบุ๊กและยูทิวป์ของกูเกิล
.
“แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์กลายเป็นเขตปลอดสิทธิมนุษยชนอย่างรวดเร็ว ที่ผู้เห็นต่างหรือการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลเวียดนามมีแนวโน้มที่จะถูกเซ็นเซอร์” รายงานระบุ
.
จำนวนนักโทษทางความคิดในเวียดนามเวลานี้นับว่าสูงที่สุดที่องค์การนิรโทษกรรมสากลเคยรายงานตั้งแต่เริ่มเผยแพร่ตัวเลขในปี 2539 โฆษกองค์การนิรโทษกรรมสากลเผยกับรอยเตอร์
.
องค์การนิรโทษกรรมสากลให้คำจำกัดความนักโทษทางความคิดคือผู้ที่ไม่ใช้หรือสนับสนุนความรุนแรง แต่ถูกจำคุกเพราะอัตลักษณ์ หรือความเชื่อของพวกเขา
.
แม้เวียดนามจะดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจและเปิดกว้างรับความเปลี่ยนแปลงทางสังคม แต่พรรคคอมมิวนิสต์ยังคงควบคุมสื่ออย่างเข้มงวด และอดทนต่อการต่อต้านคัดค้านเพียงเล็กน้อย และได้ทวีการปราบปรามผู้เห็นต่างและนักเคลื่อนไหวทางออนไลน์ก่อนการประชุมพรรคในปีหน้า
.
เมื่อเดือนก่อน รอยเตอร์รายงานว่า เวียดนามได้ข่มขู่ที่จะปิดเฟซบุ๊กในประเทศหากไม่ยินยอมที่จะเซ็นเซอร์เนื้อหาทางการเมืองให้มากขึ้น รัฐบาลเวียดนามระบุในช่วงเวลานั้นว่าเฟซบุ๊กควรปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น
.
รายงานขององค์การนิรโทษกรรมสากลกล่าวว่า สื่อสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ ไม่ดำเนินการมากพอที่จะต่อต้านแรงกดดันของรัฐบาลในการเซ็นเซอร์โพสต์ โดยรายงานอ้างถึงการสัมภาษณ์นักเคลื่อนไหวชาวเวียดนามที่กล่าวว่า โพสต์ของพวกเขาถูกเซ็นเซอร์
.
ทั้งเฟซบุ๊กและกูเกิลได้กล่าวว่า พวกเขาเพียงจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาหากเนื้อหานั้นละเมิดกฎหมายท้องถิ่น เช่น มาตรา 117 ที่กำหนดห้ามชาวเวียดนามผลิต จัดเก็บ หรือแพร่กระจายข้อมูลต่อต้านรัฐ.
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://mgronline.com/indochina/detail/9630000123358
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

กลายเป็นประเด็นที่ทั่วโลกต้องจับตากันขึ้นมาทันที จากปมการเสียชีวิตของนักฟุตบอลในตำนานสัญชาตอาร์เจนตินา อย่าง “ดิเอโก มาราโดนา” โดยล่าสุด ทางอัยการ ได้มีการสั่งสอบแพทย์ประจำตัวของ ดิเอโก มาราโดนา นักฟุตบอลระดับตำนานทีมชาติอาร์เจนตินาที่เสียชีวิต เพราะอาจมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา
.
เป็นข่าวช็อกวงการลูกหนังระดับโลก เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อ ดิเอโก มาราโดนา นักฟุตบอลระดับตำนานทีมชาติอาร์เจนตินา เสียชีวิตลงด้วยภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ล่าสุด สื่อต่างประเทศรายงานว่า อัยการได้สั่งสอบแพทย์ประจำตัวของ ดิเอโก มาราโดนา หลังอาจมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา โดยตำรวจบูโนสไอเรส 30 นาย ได้เข้าค้นบ้านพัก และตรวจค้นคลินิกของแพทย์รายนี้ เพื่อรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ และบันทึกทางการแพทย์ว่าเขารักษา มาราโดนา โดยประมาทจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตหรือไม่
.
หลังมีข้อสงสัยว่า เมื่อ “มาราโดนา” กลับมารักษาตัว ที่บ้านแล้วไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของการออกจากคลินิก เช่น ต้องมีทีมพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านการใช้สารเสพติดดูแล 24 ชั่วโมง, มีแพทย์ และรถพยาบาล พร้อมเครื่องช่วยหายใจรอหากเกิดเหตุฉุกเฉิน และจะต้องสอบสวนด้วยว่า แพทย์ประจำตัวของมาราโดนา มีการเตรียมความพร้อมในการรักษาอย่างไร
-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.aljazeera.com/news/2020...ors-investigate-death-of-soccer-star-maradona

https://www.infobae.com/sociedad/po...opoldo-luque-por-la-muerte-de-diego-maradona/

https://news.ch7.com/detail/452670
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

นายกฯ รับทราบ S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยในระดับมีเสถียรภาพ เช่ือมั่นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัว และเติบโตได้ดีในปี 2564
.
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานที่ บริษัท S&P Global Ratings (S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) เนื่องจากประเทศไทยมีความเข้มแข็ง ภาคการคลังและภาคการเงินต่างประเทศอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้ หนี้รัฐบาลอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวล และสถานการณ์ ทางการเมืองปัจจุบันไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวในช่วง 1 – 2 ปี ข้างหน้า
.
ส่วนภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) ประเทศไทยยังคงมีความแข็งแกร่ง เป็นผลจากการบริหารจัดการทางการคลังอย่างรอบคอบ แม้ว่าการดำเนินนโยบายการคลังผ่านมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จะทำให้การขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 – 2564 และหน้ีของรัฐบาลเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่ยังคงไม่ส่งผลกระทบต่อสถานภาพทางการคลัง โดย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2563 ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะจำนวนทั้งสิ้น 7.8 ล้านล้านบาท มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เท่ากับร้อยละ 49.34 ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้กรอบวินัยทางการคลังที่กำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 60 และเป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 เพื่อรักษาวินัยทางการคลังอย่างเคร่งครัด
.
ทั้งนี้ S&P เช่ือมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวและเติบโตในระยะปานกลางได้ โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น เป็นผลจากการภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากสามารถควบคุมการระบาดของ COVID-19 ได้ อีกทั้งรัฐบาลยังสนับสนุนการลงทุนอย่างต่อเนื่องให้เป็นไปตามแผนแม่บทภายใต้ ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรูปประเทศ อาทิ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor) และโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง อีกทั้ง ยังส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน (Public Private Partnership) เพื่อลดความเสี่ยงทางการคลังของรัฐบาลให้เป็นไปตามกรอบวินัยการเงินการคลังของภาครัฐ
.
นอกจากนี้ ภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสภาพคล่องและทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง โดย S&P คาดว่าสภาพคล่องต่างประเทศ (External liquidity) ของประเทศไทยยังอยู่ในระดับคงท่ีและไม่น่ากังวล นอกจากน้ี การดำเนินนโยบายทางการเงินและการรักษาเสถียรภาพด้านราคาเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยสนับสนุนอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศอีกด้วย
.
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ S&P ให้ความสนใจและติดตามอย่างใก้ลชิดคือ การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างต่อเนื่อง และเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งอาจมีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในอนาคต
.
นายอนุชา กล่าวว่า สำหรับการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจในระยะถัดไปรัฐบาลจะมุ่งส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนให้รักษาระดับการจ้างงานภายในประเทศ และการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นแรงสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวและมีความยั่งยืนต่อไป ตามแนวคิด “ล้มแล้วลุกไว” หรือ Resilience ของรัฐบาล ที่ได้กำหนดเป้าหมาย เพื่อให้คนไทยสามารถยังชีพอยู่ได้ มีงานทำ กลุ่มเปราะบางได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง สร้างอาชีพและกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น มุ่งให้เศรษฐกิจประเทศฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ผ่านมาตรการต่างๆของรัฐบาลที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/37131
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision