ทุกร่างมีองค์คุ้มครอง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สันโดษ, 12 พฤษภาคม 2008.

  1. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    การเปิดพระโอษฐ์นั้นน่าจะเหมาะกับคนที่ไม่เชื่อว่ามีการเวียนว่ายตายเกิด
    แล้วก็เหมาะกับคนที่มีอาการแปลกๆเจ็บป่วยไม่รู้สาเหตุ
    พวกที่ถูกทักว่ามีองค์
    อย่าเพิ่งไปเชื่อที่เขาให้รับขันธ์
    ท่านอาจเสียเงินฟรีแถมได้ผีมาอยู่ด้วยแทนที่จะเป็นเทวดาประจำตัว
    เพราะถ้าไปเปิดพระโอษฐ์ก้บอาจารย์ประหยัดที่อยู่เชียงใหม่
    หรือคุณชาญยุทธที่อยู่หาดใหญ่
    จะได้ทราบว่ามีองค์จริงหรือเจ้ากรรมนายเวรหรือวิญญาณอะไรกันแน่
    แล้วก็เชิญเทพมารักษาตัวแต่ท่านจะมีองค์ที่รักษาเป็นเทพหรือเปล่านั้นไม่แน่นอน
    ตามแต่บุญบารมีของท่าน
    ที่สำคัญอาจารย์สองท่านนี้ไม่ต้องเสียเงิน
    ท่านทำให้เอาบุญสร้างบารมี

    ท่านใดสนใจยินดีบอกเบอร์ให้

    แต่ก็อย่างว่าไม่ใช่ทางหลุดพ้น
    แต่ทำให้มั่นใจว่าบาปบุญมีจริงเวรกรรมมีจริง
    แล้วถ้าท่านเชิญองค์เทวดาประจำตัวมาแล้ว
    ท่านก็ควรหมั่นสร้างสมคุณงามความดีให้ยิ่งขึ้น
    แล้วอย่าลืมอุทิศบุญให้ท่านบ้างนะคะ
    แล้วการเปิดพระโอษฐ์กับการที่ถูกเจ้าทรงองค์จับไม่เหมือนกันเลย
    เพราะกรณีเปิดพระโอษฐ์เรารู้ตัวทุกอย่างรู้ว่าทำอะไรแสดงอาการอย่างไร
    แต่ควบคุมไม่ได้ทั้งหมดเท่านั้นแต่พอฝืนได้บ้าง
    ยิ่งพูดภาษาเทพนั้นเคยคุยกับคนที่เป็นร่างทรงเขาพูดไม่ได้เวลาองค์ไม่ลง
    แต่ถ้าเปิดพระโอษฐ์สามารถพูดได้ตลอด
    บางคนก็อาจรู้ว่าพูดอะไร
    แต่ส่วนใหญ่ไม่รู้แต่พูดได้ก็แปลกดี
    แต่บางพวกก็ไม่พูดมากเอาแต่นั่งสมาธิอย่างเดียวก็มี
    ถ้าไม่ยึดมั่นไม่หลงคิดว่าตัวเองเป็นเทพไปก็คงไม่เป็นอะไร
    ถ้าใครอยากจะลองก็แล้วแต่
    ก็อย่างว่าอาจโดนสิ่งไม่ดีมาแฝงเอาได้
    แต่ก็อยู่ที่ตัวเราด้วยแต่อาจารย์สองท่านนี้รับรองได้ว่าเป็นของจริงในเรื่องอย่างนี้
    แถมไม่เสียเงินเสียทองอะไรทั้งสิ้น
     
  2. หล่อสะท้านภพ

    หล่อสะท้านภพ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +66
    ไม่รู้จะทำเพื่ออะไรแค่ขันธ์5ของตัวเองก็หนักมากแล้วยังจะไปรับขันธ์ของผู้อื่นมาเพิ่มอีกหรือและที่สำคัญพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนด้วยว่าต้องไปหาสัตว์ที่อยู่คนละภพภูมิมาสิงร่างตัวเอง เพียงแค่เรารักษาศีลให้ดี ให้ทาน ขยันสวดมนต์และเจริญภาวนา เดี๋ยวเทวดาก็ช่วยเราเอง เผลอๆถ้าทำจริงจังอย่างเสมออมิได้ขาดอาจจะได้พบกับหลวงปู่เทพอุดรก็ได้ ท่านจะมาสอนวิชาทางธรรมให้เราถ้าเราทำอย่างจริงจัง
     
  3. แพน้อย

    แพน้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +25
    เรื่องของเรา ใช่เรื่องของเขา
    รู้เรื่องเรา รู้เรื่องเขา
    รู้ตนในตน รู้ตนในอื่น
    ดูจิตตัว รู้จิตอื่น

    สติตาม สมาธิเกิด รับปัญญา
    มีองค์ไม่มีองค์ ศีลดีศีลคุ้มตนนะคะ


     
  4. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +494
    ไล่พระพรหมได้จริงผมไหว้เลยละ(ฮา)
    ถามองค์(เหมือนกัน)เค้าบอกไม่มีทุกคน
     
  5. best_pd

    best_pd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +320
    อืมมมม อย่างงี้นี่เอง
     
  6. ืnokyam

    ืnokyam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +25

    ก็เพิ่งจะได้เข้ามาอ่านเรื่องที่คุณสันโดษ ได้กรุณานำเรื่อง "เปิดพระโอษฐ์" มาเขียนลงในเว็บนี้

    "การเปิดพระโอษฐ์" นั้น ไม่สามารถจะเอา วิญญาณ ของคนอื่นหรือของใครก็ได้มา สวมในร่าง นอกจากองค์พระบารมีของตนเอง หรือองค์ประจำสังขารนั่นแหละ

    เท่าที่เปิดพระโอษฐ์มานั้นเกือบจะถึงหนึ่งหมื่นคน ยังไม่ปรากฎว่าจะมีวิญญาณอื่นใดมาใช้ร่างของศิษย์ผู้ถูกเปิดพระโอษฐ์ เพราะว่าถ้ามี ก็จะถูก อาจารย์ประหยัด ขับไล่ออกไปเกือบทั้งหมด

    ส่วนมากวิญญาณที่จะมาแทรกศิษย์นั้นก็คือ ศิษย์ที่สอบได้ระดับ "เนร" แล้ว (เนร=เนรคุณ)
    ก็จะตั้งตนเป็นอาจารย์เสียเอง เพราะฉะนั้นอาจารย์ประหยัดจึงได้มีเว็บใหม่ ล่าสุดก็คือ เว็บ www.satusanya.com

     
  7. ืnokyam

    ืnokyam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +25

    ปกติธรรมดานั้น เทวดาหรือองค์ที่คุ้มครองสังขารมิได้อยู่ในร่างของคนเรา

    เมื่อได้รับการ "เปิดพระโอษฐ์" ก็คือเชิญองค์คุ้มครองลงสวมร่าง ซึ่งเราจะรู้ว่าองค์ของเรา
    เป็นองค์อะไรนั้นก็ต้องเปิดพระโอษฐ์เสียก่อน

    จะแตกต่างกับร่างทรงก็คือว่า ที่อาจารย์ประหยัด เปิดแล้วไม่ได้เป็นร่างทรงนอกจากว่า
    ต้องการเป็นเพื่อจะได้ลาภ สักการะเท่านั้นเอง

     
  8. ืnokyam

    ืnokyam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +25

    คุณDis-esp ถามว่า ไล่พระพรหมได้จริงไหม ? ก็ขอตอบว่าไล่ไม่ได้
    ถ้า....ท่านเป็นองค์ประจำสังขาร แต่ถ้าเป็นองค์พระพรหมที่ท่านตั้งตามโรงแรมต่าง ๆ
    ไม่จำเป็นต้องไล่ เพียงแค่ไปยืนต่อหน้าพระรูปของท่าน แล้วพูดว่า ท่านตกงานในสวรรค์หรือ
    จึงต้องลงมารับจ้างเฝ้าโรงแรม ก็แค่นี้แหละ ท่านก็จะรีบกลับสวรรค์ทันที

    องค์ของคุณDis-esp; นั้นถามได้จริงหรือ หมายถึงว่าคุณปฏิบัติได้มีบารมีถึงจนถามองค์ได้
    ในฐานะที่อาจารย์ประหยัด เป็นอาจารย์เปิดพระโอษฐ์ ให้คนมามากเกือบหมื่นคน
    ขอเรียนให้คุณ Dis-esp; ทราบว่าที่ได้เปิดมานั้นมีองค์กันทุกคนแหละ แต่มีข้อยกเว้นเหมือนกัน
    คนที่จะเดินทางไปอรหันต์นั้น จะมีบางคนเปิดไม่ได้ เพราะองค์เขาไม่ต้องการให้เปิด
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    แร้ว ถ้า อาจารย์ประหยัด ไม่อยู่แร้ว ต่อไปจะไปพึ่งใครอีก ล่ะ

    ต่อไปถ้าไม่มีใครให้พึ่ง แร้วก็พึ่งตัวเองไม่ได้ (เพราะตัวเองโหลยโท่ย อะนะ)

    ก็แย่ อะดิ แถม มีลูกสิดระดับ เนรคุณ อีก ยุ่งกันตาย.. ห่า เรย นิ

    ทางปลอดภัยสุดๆ ไม่เป็นภัยต่อตนเอง และผู้อื่น

    เราว่า อาศัย พุทธคุณ เป็นทางที่ดีที่สุด แระ นะ

    มี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง ก็พอแร้ว อ่า

    ตอนนี้ ยังมี อยู่ครบ เป็นโอกาสอันดี ถ้าไม่รีบทำวันนี้ จะรอถึงเมื่อไร เล่า

    พระรัตนตรัย ไม่ใช่จะเกิด ได้ง่ายๆนะ

    ต้องมีพระพุทธเจ้า อุบัติ บังเกิดมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครบองค์

    แร้ว เราก็ต้องมาเกิด มาเจอ มารู้ มายอมรับ มาน้อมเข้าตัว

    ถ้าไม่ครบ ก็ ล่องจุ๊น เหมือนเดิมนะ มาทางไหน ก็ไปทางนั้น หรือ หลงอยู่ในนั้น

    ไม่ได้เห็นเดือน เห็นตะวัน เหมือนเดิม อยู่กะของเคยๆ ซะงั้น
     
  10. ืnokyam

    ืnokyam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +25

    ถ้าคิดว่าตัวเราเองนั้น ในอดีตชาติทำบุญ สร้างกุศลมาดี ชาตินี้ก็ทำแต่ความดี
    ก็ไม่จำเป็นต้อง "เปิดพระโอษฐ์"

    แต่หากชาตินี้ยังมีเวรกรรมที่ติดมาจากอดีตชาติ ถ้าไม่เปิดก็จะไม่รู้ว่า มีผีอยู่ในตัวหรือไม่ เป็นผีประเภทใด โดยเฉพาะผีประเภทที่ถูกทำคุณไสย ผีบรรพบุรุษ หรือมีมารแทรกอยู่ในตัว เหมือนนายสนธิที่ถูกมารแทรก จนต้องเอาโกเต็กซ์ไปฝังเอาไว้รอบพระบรมรูปทรงม้านั้นแหละ


     
  11. ืnokyam

    ืnokyam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +25

    ก็ไม่ทราบว่า คุณเค เข้าไปอ่านในเว็บหรือยัง เพราะว่าสายสัญญานั้นมิใช่เป็นของอาจารย์ประหยัด
    แต่อาจารย์ประหยัดนั้นเป็นเพียงแค่ผู้เข้ามาปฏิบัติ และเป็นผู้ถ่ายทอดเท่านั้นเอง บรรดาลูกศิษย์ที่ได้เข้ามาปฏิบัตินั้น เวลานี้ก็มีผู้สามารถรับการยกถาดได้แล้ว แต่ก็อย่าไปห่วงว่าอาจารย์ประหยัดจะรีบด่วนไป ขอให้คุณเคนั้นพยายามรักษาเนื้อรักษาตัวให้มีอายุยืนยาวเท่าอาจารย์ประหยัดในเวลานี้ก็นับว่าเก่งอยู่แล้วแหละ

    อย่าคิดว่าตัวเองนั้นนับถือศาสนาพุทธ เพียงแค่ทะเบียนบ้านเท่านั้นเอง พระพุทธเจ้าท่านไม่สามารถช่วยใคร ๆ ได้หรอก นอกจากคนคนนั้นนำเอาพระธรรมคำสั่งสอนของท่านไปปฏิบัติ
    ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์แล้ว ก็หาได้ทำให้ชีวิตของเราประสบแต่ความสุขไม่
    แต่ก็อย่างว่าคนที่เขาไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ เขาก็มีความเป็นอยู่ทีดีกว่าประเทศไทยเสียอีก

    พระพุทธเจ้านั้น ท่านเป็นคนอินเดีย ท่านตรัสรู้ในประเทศอินเดีย แต่ศาสนาพุทธ ก็มิได้เจริญรุ่งเรืองในประเทศอินเดีย แต่มาเจริญรุ่งเรืองในประเทศไทย จนคนไทยลืมไปว่า พระพุทธเจ้าท่านเป็นคนอินเดีย คนไทยจึงชอบพูดว่า พระพุทธเจ้าของเรา
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ก็ ว่า กัน ไป นะ เรา ก็ งั้น ๆ แหละ เรา ไม่ ชอบ ผูก มัด

    อ่าน เว็บ คำสอน ของ หลวงปู่ หลวงพ่อ ที่ปฏิบัติ ปฏิบัติชอบ ก็พอแระ

    แล้วก็ชอบความเป็น อิสระ แค่นั้น รู้ แค่ไหน ก็ บอก ไป อย่างนั้น

    ใครจะชอบ หรือ ไม่ชอบ ก็ ใช้ สติ พิจารณา กัน เอาเอง

    เพราะ พุทธกาล ก็ 5000 ปี ตามที่ฟังมาอีกที ไม่ได้ รู้ เอง

    ถ้า ไม่ชอบ ก็ ไม่ว่าอะไร หรอกนะ ไม่ได้มาขาย ความคิด มาแชร์ เฉยๆ
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พระพุทธเจ้า ท่านเป็น สากล ใน อนันตจักรวาล
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พระรัตนตรัย เป็น สากล ใน อนันตจักรวาล

    เป็นสิ่งบังเกิด ในโลก ได้ ยาก โลก อื่น ไม่มี

    รู้ มา แค่ นี้
     
  15. ืnokyam

    ืnokyam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +25

    คนอื่นก็คงจะหมายถึง นายโกเต๊กซ์ ลิ้มโกตั๊ก,นายจำลอง ศรีเมือง.
    นายสุริยะใส กตะศิลา
    นายพิภพ ธงไชย
    และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข

     
  16. ืnokyam

    ืnokyam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +25

    ถ้าคุณเต้าเจี้ยว อ่านบทความที่คุณสันโดษ นำเอามาจาก กระปุก และกระปุก ก็ไปเอามาจาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ คอลัมน์ "เหนือฟ้าใต้บาดบาล" โดย คุณก้อง กังฟู

    ก็จะเห็นว่า คุณก้อง กังฟู นั้น ท่านเป็นนักข่าว ของหนังสือพิมพ์ ที่คุยว่าขายเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย โดยคุณก้อง ฟู นั้น ท่านไปพิสูจน์ที่บ้านอาจารย์ประหยัด ก็ไปไม่มาก ๑๑ คน แล้วคน ๑๑ คนนั้นทุกคนมี ตา มี หู สำคัญที่สุดก็คือมีมันสมอง ที่เฉลียดฉลาดไปด้วย เมื่อได้พิสูจน์แล้วจึงได้นำมาเขียนลงในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

    ซึ่งถ้าอาจารย์ประหยัด จะต้มใครนั้นก็น่าจะต้มคุณ ก้อง กังฟู เสียก่อน ซึ่งถ้าคุณก้องกังฟู ไม่มีความรู้จริงก็คงจะไม่ได้เป็นนักข่าวไทยรัฐ ถ้าคุณก้องกังฟู นำเอาเรื่องที่โกหก เขียนไป ท่านก็จะถูกต่อว่า แต่เมื่อหนังสือพิมพ์ลงข่าว ก็มีคนหลายพันคนที่ไปทดสอบลองของกับอาจารย์ประหยัด ยังไม่เคยมีใครต่อว่าและด่าว่าอาจารย์ประหยัดนั้นต้มพวกเขาเลย ทุกคนที่ไปหาอาจารย์ประหยัดนั้นไม่ได้เสียเงินเสียทอง เมื่ออาจารย์ประหยัดไม่เก็บเงินใครแล้วใครจะไปต่อว่าให้ท่านได้

    ที่กล่าวว่าถ้าทำดี เทพก็จะมาเองนั้น คงจะมาไม่ได้หรอก น่าจะเป็นมารมาแทรกแบบนายโกเต๊กซ์เสีย มากกว่า คืออยู่ดี ๆ เอาโกเต็กซ์ไปเช็ดฐานพระบรมรูปทรงม้า หาว่าแก้ไสยศาสตร์ของหมอเขมร เชื่อเทพนั้นก็ดีอยู่แล้ว แต่อย่าไปเชื่อลัทธิใหม่ของนายโกเต๊กซ์ ลิ้มโกตั๊ก ก็แล้วกัน

     
  17. ืnokyam

    ืnokyam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +25

    อาจารย์ประหยัด เปลี่ยนเว็บใหม่เป็นเว็บที่ ๕ แล้ว

    www.satusanya.com
     
  18. ืnokyam

    ืnokyam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +25

     ;aa36
    มนุษย์เราเกิดมาจะมีองค์บารมีคุ้มครองสังขารกันทุกคน จะเป็นองค์เทพ-พรหมหรือสัมภเวสี ก็แล้วแต่กุศลมูลเดิมหรือสัญญาที่ได้ให้กันไว้ตั้งแต่ในอดีตชาติ คนเราไม่สามารถที่จะเลือกองค์บารมีประจำสังขารได้ บุคคลใด ที่พูดว่าเทพองค์นั้นองค์นี้ เสด็จมาประทับร่างของตนนั้น เป็นการพูดเพื่อยกตนให้สูงขึ้น โดยไม่รู้จริง องค์เทพที่เจ้าตัวได้คุยเอาไว้นั้น แม้แต่ช่วยตัวร่างเองไม่ได้แล้ว ยังจะมีฤทธิ์ไปช่วยเหลือมนุษย์อื่นใดได้หรือ?

    การเชิญองค์บารมีของตนเองมาประทับร่าง หรือเรียกว่า “การเปิดพระโอษฐ์” ใช่ว่าเมื่อเปิดแล้วจะได้เป็น “คนทรง” หรือ “ร่างทรง” กันทุกคนไป เพราะว่าเทพแต่ละองค์นั้นท่านจะมีหน้าที่ไม่เหมือนกัน บางองค์ลงมาเพื่อสร้างบารมีโดยการช่วยเหลือมนุษย์ เช่น เปิดพระโอษฐ์ รักษาโรคภัยไข้เจ็บ ปราบมาร ปราบผี ปราบคุณไสย หรือชี้แนะในทางโชคชะตาราศี เทพส่วนมากจะลงมาเพื่อคุ้มครองร่างของตนเองเท่านั้น โดยจะไม่ยอมช่วยเหลือมนุษย์คนใดเลย

    มีสำนักทรงจำนวนมากที่เทพของตนเองไม่มีหน้าที่ หรือว่าร่างทรงไม่มี “บารมี” พอที่จะเปิดพระโอษฐ์ได้ แต่ชอบที่จะใช้คำพูดเพื่อที่จะให้พ้นๆ ตัวไปว่า “ยังไม่ถึงเวลา” คือถ้าหากจะพูดว่าตัวเองเปิดไม่ได้ ก็จะทำให้คุณค่าของตัวอาจารย์นั้นลดน้อยด้อยคุณค่าลงไป ยังไม่พอยังทำให้เกิดการหลงทางบอกไปผิด ๆ ว่าองค์ของศิษย์เป็นเทพองค์ใหญ่ ไม่จำเป็นต้องเชิญท่านลงมาประทับ ท่านจะสื่อกับสังขารเข้ามาหาภายในจิตเอง อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการยกย่องศิษย์คนนั้นไปในตัว เพื่อที่จะผูกมัดใจให้ศิษย์คนนั้นให้หลงอยู่กับเจ้าสำนัก เพื่อที่จะให้ลูกศิษย์คนนั้นพาญาติสนิทมิตรสหายมาหา เพื่อที่จะได้ลาภสักการะต่อไป

    องค์บารมีประจำสังขาร ถ้าเปรียบกับพระไตรปิฎก (คนหรือ “พระ” ที่มีไว้แต่ไม่เคยเปิดอ่านเลย หรือเมื่อเปิดอ่านแต่ก็ไม่เข้าใจก็คงจะต้องมีพระผู้รู้มาแปลให้ และถึงแม้ว่าจะได้เล่าเรียนพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ที่ได้ตกทอดกันมา ๒๕๕๑ ปีแล้วก็ตาม หากไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์ ก็หาเกิดประโยชน์อันใดแก่ผู้อ่านไพระไตรปิฎกไม่)

    องค์บารมีประจำสังขารก็เช่นเดียวกัน เมื่อไม่ได้เปิดองค์ลงมาประทับร่าง ก็มีไว้เพียงคุ้มครองเจ้าของร่างได้เป็นบางคนเท่านั้น (แต่ไม่ทุกคน) หากองค์บารมีคุ้มครองสังขารของมนุษย์ได้ทุกคน คนเราก็คงจะไม่ประสบกับเคราะห์กรรม เจ็บป่วย ไม่ประสบอุบัติเหตุ ไม่ถูกผีเข้า หรือถูกคุณไสย และอีกประการหนึ่ง องค์บารมีก็ไม่สามารถป้องกันร่างจาก เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ ที่ติดตามมาทวงหนี้ในชาตินี้ได้

    การ “เปิดพระโอษฐ์” หรือการเปิดให้คนเรานั้นพูดภาษาเทพได้ จะทำให้เทพที่คุ้มครองร่างของเราสามารถลงมาประทับร่างได้ บางคนได้สร้างสมบารมีเอาไว้ในอดีตชาติมามาก มีกุศลมูลเดิมมามาก เมื่อเปิดแล้วจะพูดภาษาเทพได้อย่างคล่องแคล่ว ภายในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งถ้าปฏิบัติไปอีกไม่นานก็จะสามารถสื่อกับองค์บารมีเป็นภาษามนุษย์ได้ “คนที่ไม่ได้มีสะสมบารมีมาตั้งแต่อดีตชาติ และในชาตินี้ไม่ได้สร้างตนโดยการสวดมนต์ไหว้พระ นั่งวิปัสสนากัมมัฏฐาน ไม่รู้จักให้ทาน ก็จะเปิดให้พูดภาษาเทพได้ยาก (ต้องทำการประจุองค์พระธรรมให้มากๆ)

    ส่วนมากองค์เทพเหล่านี้จะลงประทับร่างเพื่อมาคุ้มครองร่างเท่านั้น บางคนที่เปิดออกมา แทนที่จะเป็นองค์บารมีประจำสังขาร กลายเป็นว่าเป็นวิญญาณแฝงเข้ามา เป็นวิญญาณเร่ร่อน หรือวิญญาณที่ถูกส่งมาด้วยวิชา ไสยดำ ซึ่งส่วนมากจะเป็นวิญญาณผีตายโหงทั้งสิ้น

    ศิษย์ที่อาจารย์เปิดปากให้พูดภาษาเทพได้ เป็นส่วนมากที่ “พูดภาษาเทพได้ แต่ฟังภาษาเทพที่ตนเองพูดไม่รู้เรื่อง” คือ แปลภาษาเทพไม่ได้ แต่ก็อยากจะแปลให้ได้ทันที ซึ่งยังไม่ทันได้ลงทุนก็ขอกำไรเสียก่อนแล้ว

    เทพ-เทวดานั้น มนุษย์ที่จะสื่อกับท่านได้รู้เรื่องจะต้อง
    ๑. เป็นผู้ที่มีจิตใจสะอาดพอสมควร
    ๒. มีบารมีสะสมมาจากอดีตชาติ
    ๓. ศรัทธาในองค์บารมีประจำสังขารของตนเอง
    ๔. ปฏิบัติตน สร้างบารมีเพื่อหาความรู้เพิ่มเติม
    ถ้าเปิดพระโอษฐ์แล้วไม่ปฏิบัติตนเลย ส่วนมากจะพูดว่าไม่มีเวลา ในที่สุดก็จะห่างเหินจากองค์บารมีของตนเอง ก็จะไม่สามารถที่จะพูดภาษาเทพได้อีกเลย และในที่สุดก็จะไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากองค์พระบารมีได้

    ผลพลอยได้จากการเปิดพระโอษฐ์
    ๑. ทำให้ทราบว่ามีวิญญาณของบรรพบุรุษที่เรียกว่า “ผีปู่ย่า” วิญญาณทั่วๆ ไป เช่นวิญญาณผีตายโหง ซึ่งถูกส่งมา
    ด้วยวิชาคุณไสย อยู่ในร่างของผู้มาเปิดพระโอษฐ์ หรือไม่?
    ๒. บรรพบุรุษของบางท่านที่มีเชื้อสายจีน ถ้าลูกหลานไม่ทำบุญทำทานไปให้ ก็จะมาเกาะกินกับลูกหลานเป็นวิญญาณที่อด ๆ อยาก ๆ เพราะไม่ได้รับส่วนบุญส่วนกุศล แทนที่จะมาช่วยร่างกลับกลายเป็นว่าไม่เป็นผลดีกับลูกหลานเลย วิญญาณประเภทนี้แก้ไขด้วยการทำสังฆทาน กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลไปให้ วิญญาณประเภทนี้ไม่สามารถขับไล่ได้ (ปัจจุบันใช้ส่งบุญและโอนบุญให้ ด้วยวิธีของ หลวงปู่เกษม อาจิณฺณสีโล)
    ๓. วิญญาณที่มาเกาะหรือแฝงอยู่ในตัว จะทำให้สังขารของคนผู้นั้นไม่สบาย ปวดหัว ปวดแขน ปวดขา กลายเป็นคนอ่อนเปลี้ยเพลียแรง วิญญาณพวกนี้จะต้องขับไล่ออกไป เพราะว่ามิใช่ให้โทษเฉพาะการเจ็บป่วยเท่านั้น แต่จะส่งผลให้กิจการค้าและครอบครัวมีแต่ความวุ่นวายไปหมดทุกอย่าง ไม่มีความเจริญก้าวหน้าใด ๆ ในชีวิตของคนผู้นั้นเลย
    ๔. วิญญาณระดับสูงที่เรียกว่า “มาร” นั้นจะเป็นเทวดาฝ่ายมาร ซึ่งเรียกว่า “มารเบื้องสูง” สังขารที่มารเหล่านี้สิงสถิตอยู่ จะเป็นมนุษย์ขี้คุยโม้โอ้อวด ชอบที่จะอ้างว่าตนเองนั้นมีเทพองค์ใหญ่ ๆ ทั้งนั้นลงมาประทับร่าง มารประเภทนี้มีฤทธิ์มากพอสมควร ร่างทรงไม่สามารถปราบได้ นอกจากร่างทรงที่มี “บารมี” สูงเท่านั้น (แต่หาได้ยากมาก)
    ๕. วิญญาณประเภท เจ้าพ่อ เจ้าแม่ หรือ ปู่ทั้งหลายนั้น ถ้ามิใช่ “พ่อปู่ใหญ่” หรือ“พระฤษี ๑๐๘ องค์” ถือว่าเป็น “สัมภเวสี” วิญญาณประเภทนี้เป็นวิญญาณที่มาสร้างบุญช่วยเหลือมนุษย์ มีดีบ้างไม่ดีบ้างแล้วแต่สังขารที่สิงอยู่ ผู้ที่ไปหาคนทรงประเภทนี้ต้องใช้สติปัญญา จริงหรือไม่จริง ควรสังเกตดูจากผลงานที่ท่านได้รับจากการทำพิธีกรรมของเจ้าทรงเหล่านี้ ซึ่งบางท่านกว่าจะรู้ตัวก็หมดเงินทองไปหลายพันหลายหมื่นบาทแล้ว “เพราะฉะนั้นกรุณา ดู ฟัง ใช้สติปัญญาคิด ไตร่ตรองดูเสียก่อน จึงค่อยเชื่อ ก็ยังไม่สายเกินไป”
     
  19. ืnokyam

    ืnokyam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +25

    จากบทความของทิดวี กองบิน ๔๑ เชียงใหม่

    1. ให้ท่านมาเปิดพระโอษฐ์ กับอาจารย์

    เปิดพระโอษฐ์ ก็คือการที่จะดูว่า ร่างของท่าน มีเทพองค์ใด วิญญาณ ใด เป็นผู้ดูแล บางครั้งก็จะทำให้รู้ว่ามีวิญญาณใดเกาะมา หรือถูกทำคุณไสย ใส่มา เมื่อท่านเปิดพระโอษฐ์แล้ว ทุก ๆ วัน ขอให้ท่านมีเวลาสวดมนต์ แล้ว “อาราธนาองค์พระบารมีประจำสังขารมาร่วมสวดมนต์” เมื่อท่านพูดภาษาเทพคล่องแล้ว

    ขั้นต่อไป “ก็หัดสนทนาระหว่างท่าน กับองค์พระบารมีของท่าน” ทำถึงขั้นตอนนี้”ก็สุดยอด”แล้วครับ ท่านอยากรู้อะไร ท่านถามได้หมด แต่ต้องถามถึงเรื่องที่”สมควร” นะครับ

    เช่น อยากรู้ว่า นักบินที่ขับเครื่องบินตกที่เขาใหญ่ จะรอดหรือไม่, จะค้นหาเจอหรือไม่,บุตรของเพื่อนที่กำลังจะคลอด ออกมาเป็นเพศใด, พระเครื่ององค์นี้ ได้ถูกปลุกเสกจากสมเด็จองค์นี้ใช่หรือไม่,พระเครื่ององค์นี้ เด่นในเรื่องโชคลาภ หรือไม่, คู่รักสองคนนี้ จะสมหวังในรักหรือไม่ ฯลฯ สำหรับคำตอบทุกอย่างที่ผมได้รับ ผมส่งเข้าหาเมล์ของผมตลอดเพื่อเป็นหลักฐานในอนาคตว่าจริงหรือไม่ ผลการทดสอบที่ได้ คำตอบคือ “เป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2008
  20. ืnokyam

    ืnokyam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +25

    แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า คำว่า "สวัสดี" ภาษารัสเซีย เขาพูดว่ายังไง

    ในเมื่อเรายังไม่ได้เรียน

    ภาษาเทพนั้นเมื่อรู้แล้ว คำว่าสวัสดีของท่านก็มีหลายภาษา
    ซึ่งถ้าอยากรู้ก็ต้องไป "เปิดพระโอษฐ์" เสียก่อน

     

แชร์หน้านี้

Loading...