ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

ธรรมบัวบานจึงนำมาเพื่อต่อสู้กับภัยพิบัติโดยเฉพาะเลยครับ

 

เขามาเพื่อเกื้อหนุน ส่งเสริมกัน...ถ้าไม่มีภัยพิบัติ..มนุษย์ก็..ไม่รู้สำนึก

 

โลกจึงถูกขับเคลื่อนแบบสองขั้วอีกครั้ง
ขั้วหนึ่งถือธรรมบัวบาน มีเด็กรุ่นใหม่เยอะๆ
ขั้วหนึ่งเป็นขั้วอำนาจเก่า บริวารของมารฟ้า


หน้าที่ใครหน้าที่มัน ต้องต่อสู้กันต่อไปครับ

 

ขอตัวพักก่อนนะครับ

 

ข้อนี้...เรารู้ดีครับว่า...ต้องเจอกับ คนรุ่นเก่าที่ สละทิ้งผลประโยชน์แห่งตน และอำนาจที่เคยมีได้ ยากยิ่ง...ดังนั้นจึงต้องมี ภัยพิบัติเพื่อทำลายทรัพย์สมบัติทั้งหลายที่พวกมัน หลง ยึดมั่นถือมั่น ว่าเป็นของพวกมัน.เป็นของดีของพวกมัน.ให้พวกมันได้รู้ว่า...เวลามันจะตาย เวลามันมีความทุกข์ ความเจ็บป่วย ความหิวโหย...นั้น...ทรัพย์สมบัติช่วยอะไรพวกมันไม่ได้เลย.... ที่ช่วยได้คือ..น้ำใจจากมนุษย์ด้วยกัน...น้ำ สักแก้ว ข้าวสักจาน..คงมีค่ากว่า ทองคำแสนกระบุง...

 

คนเรา...เป็นอะไรตาย....ก็คงไม่ได้สำนึกเท่า...ถูกปล่อยให้อดตาย หิวตาย...หรอกนะ

รึใคร...จะเถียง....

 

ถ้าตัวเองอดตาย หิวตาย...ก็คงไม่ได้สำนึกเท่า ..มองเห็น พ่อแม่ตนเอง ลูกตนเอง คนที่เรารัก อดตาย หิวตาย ต่อหน้า ต่อตา หรอกนะ...

ขอเตือนท่านทั้งหลายว่า....อย่า..ให้ถึงวันนั้นเลยนะ

 

เมื่อ..วันนั้นมาถึง...อย่าแม้แต่เรียกร้องหา..พระเจ้า..
เพราะวันนี้....ได้ให้โอกาส...แก่พวกท่านทั้งหลาย...มามากแล้ว

จงตัดสิน ชีวิตของตัวเอง....ด้วย ตัวของท่านเอง เถิด...มนุษย์ทั้งหลาย

 

พระเจ้า..ฝากบอก มาว่า...

มนุษย์เอ๋ย...เมื่อวันที่พวกเจ้า ดับดิ้นลงต่อหน้า ข้าจักกลั้นน้ำตา..ด้วยใจที่เจ็บปวดยิ่ง...เพราะข้า..พระเจ้า แม้จะมีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่เพียงใด ก็ยื่นมือให้ความช่วยเหลือพวกเจ้าไม่ได้เลย แม้นิดเดียว...นั่นเพราะชะตากรรมเหล่านั้น ล้วนเป็นชะตากรรมที่พวกเจ้าได้เลือกเอง โดยแท้...(ใช้เสียงพากษ์ของ..ออฟติมัส พาร์ม...จะใด้อรรถรส กว่าเดิม)

 

ในนามของพระเจ้า....ถ้าอยากให้ข้าเล่นบทพญามาร...ข้าก็ทำได้...

ในนามของมนุษย์โลก จะให้พวกเจ้าทำดี...พวกเจ้าก็ทำได้..แต่พวกเจ้า..ไม่สนใจที่จะทำ..

ในนามของโลก...อยากให้ ความสุขเกิดแก่..ทั้ง มนุษย์และพระเจ้า...

ในนามของ...พญามาร..ถ้าไม่ถึงที่สุด..ข้าไม่ลงมือ

 

ตัวอย่างการเดินธรรมแบบ "ธรรมบัวบาน" ที่คุณอาจไม่คาดคิด


ให้ชายงามไปหลอกให้ผู้หญิงรัก หลอกให้เขาเอาเงินมาให้เยอะๆ
แบบนี้เขาก็จะได้ทานบารมี และเมตตาบารมี มันต้องหลอกครับถ้า
ไม่หลอก เขาก็ไม่ทำความดี ใช่ไหม? พอหลอกแล้ว เขาจะรู้ในที่
สุด เขาก็จะใจสลาย ตายจากข้างใน เหมือนนางยักษ์ที่รักพระอภัย
ต้องอกแตกตาย หรือนางเมรีกลั้นใจตายฉะนั้น เขาก็จะกำเนิดใหม่
เป็นพระโพธิสัตว์ได้ ดังนั้น ชายงามจึงต้องไม่ทำงานอะไร และมัก
ใช้เงินเก่งครับ แล้วกลายร่างเป็นแวมไพร์ไปดูดเลือดผู้หญิง ปล่อย
ให้ผู้หญิงมารักเหมือนติ่งเกาหลีที่ชอบดาราเกาหลีอะไรแบบนั้นครับ


แต่ชายงามนั้นต้องมีบารมีระดับ "อวโลกิเตศวรปางจันทราวารี" นะฮะ
ไม่เช่นนั้น ตัวเองก็ไม่รอด เพราะทำกรรมหลอกลวงคนอื่นมาก ตัวเอง
ไม่มีบารมีธรรม จะดำรงอยู่ได้อย่างไร? เห็นไหม การโปรดสัตว์มัน ไม่
ใช่อย่างที่เราคิด ไปนั่งเทศน์ธรรมะอะไร มันได้แค่ความรู้ เข้าสมองไป
แค่นั้น จิตวิญญาณไม่เปลี่ยนแปลง จิตใจไม่พัฒนา ห่าอัลไลเลยอ่ะคับ
ทีนี้ มันไม่ค่อยมีผู้หญิงที่รับได้กับการถูกหลอกนัก ในยุคก่อนๆ จะมีแต่
ยุคใหม่ครับ เรียกว่า "สาววาย" สาววายอาจหลงรัก "ชายรักชาย" แม้
ไม่สมหวัง เขาก็รักของเขาแบบนี้ เห็นไหมครับ ยุคสมัยสร้างพวกเขามี
ธรรมทั้งนั้น แล้วแต่ว่าใครจะสำเร็จธรรมที่ตนได้รับหรือไม่? ก็เท่านั้นเอง


พูดไปนี่ ไม่ใช่ให้ไปทำนะครับ ถ้าคุณมีบารมีธรรม สวรรค์จะจัดสรรเอง

 

คุณสมบัติของผู้ขับเคลื่อน "ธรรมบัวบาน"


1 เป็นชายงาม รูปงาม มีเสน่ห์ต่อทั้งเพศชายและหญิง
2 เป็นคนไม่มีอาชีพใดๆ เสเพล ทำตัวไร้สาระไปวันๆ
3 เป็นคนใช้เงินเก่ง ใช้เงินเป็น ชอบซื้อของดีราคาแพง
4 เป็นคนเย็นชาหรือตายด้าน หรือไม่ค่อยรักใครจริงๆ
5 เป็นคนเก่งในการใช้อุบายให้คนอื่นมาทำดีกับตนเอง
6 เป็นคนมีบารมีธรรมมากแล้วแต่หนหลัง ไม่ต้องทำอีก


เมื่อมีคุณสมบัติครบ ก็เดินธรรมได้ โดยไม่ต้องเทศน์ธรรมะอะไรเลยครับ

 

ติงต๊องไปแล้ว...นายดอกไม้น้ำแข็ง..สงสัยจะมโนได้ สุดๆแล้วสินะ...
อะไรที่ตนเองไม่รู้..ก็อย่ามโนเองนะครับ

 

กฏแห่งกรรม...ไม่เว้น..ใคร
จะบารมีมากแค่ไหน...ก็ต้องรับผลกรรม ของตัวเอง ด้วยตัวเอง

 

คุณฟังให้ดีนะ คนจะบรรลุโพธิจิตได้
จิตวิญญาณปุถุชนต้องตาย ดับสลายก่อน
จึงเกิดใหม่เป็นโพธิสัตว์ได้


และมีแต่ "ความรัก" เท่านั้น ที่จะทำให้คนบรรลุโพธิจิต
ในเวทีนี้ ไม่มีพระธิดาเมี่ยวซ่านหรือนางเอื้อยและไม่มีมารร้าย
ชายงาม (อวโลกิเตศวรปางจันทราวารี) จะต้องลงมือเอง
เราไม่ใช่มาร แต่เราต้องใช้อุบายเพื่อทำให้เขาบรรลุโพธิจิต
ให้ได้ไม่ต่างจากมาร


ถ้าเราไม่เล่นบทตัวร้าย เขาจะบรรลุโพธิจิตได้หรือ ไม่มีทาง!

 

บทร้าย...ให้ธรรมชาติ เป็นผู้เล่นเองไง...จะได้หมด..โจทย์ หมด ผู้ต้องหา..

 

คุณดอกไม้เย็น...คุณว่า...จิตจักรวาล จริงๆแล้ว คืออะไร...ที่คุณเข้าใจว่า จิตจักรวาลนำภัยพิบัติมา

จริงๆ แล้วจิตจักรวาล..มันวนกลับมาที่จุดเริ่มต้น ของมัน นั่นเอง...ตามกฏแห่งกรรม

 

แล้วนี่มาพล่ามจะเล่นบทมารทำพระแสงดาบอัลไลล่ะ
แค่บทนี้ยังตีไม่แตก เล่นไม่ได้ แล้วจะเล่นบทมารได้หรือ?

 

สิ่งที่จิตจักรวาลทำนั้น กระทบสมมุติ
เพราะจิตจักรวาล ไม่มีสมมุติธาตุขันธ์ครอง
เขาจึงไม่เข้าใจการดำรงอยู่ของมนุษย์ที่มีสมมุติ


แต่ธรรมจากพุทธเกษตรของพระศากยมุนี
เปลี่ยนแปลงเฉพาะ "จิตวิญญาณ" ข้างใน
ไม่กระทบสมมุติ เราหลอกคนอื่นให้มารัก
ให้มาทำความดี จนใจสลาย ภายนอกก็ยัง
ปกติดี สมมุติไม่ถูกทำลาย แต่ภายในจะไม่
เปลี่ยนแปลง ไม่มีดับ แล้วจะเกิดโพธิจิต


ได้ยังไง?

 

คุณก็ใช้คำ ใช้สมมุติให้ถูกต้องสิว่า...ธรรม ทำลายอัตตาตัวตน ความหลงผิด กิเลสตัณหา ความอยากทั้งหลาย ในใจ...ไม่ไช่ให้ใจสลาย..

ใจสลายน่ะ...อธรรม แล้ว ...หลอกลวงกันน่ะ....พวกอธรรม
แต่ธรรมจริงๆ ล้วนเต็มใจ ที่จะถูกชำระ อวิชชา