นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (ที่สุดแห่งปี...รุ่นอภิญญาใหญ่)

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย konun88, 20 มิถุนายน 2016.

  1. ton 2499t

    ton 2499t เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +435
    น้อมกราบครูบา สู่นิพพาน ครับ
     
  2. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    uaako1-jpg.jpg

    28bacac1c1c75c50afc55fbd921df314.jpg
     
  3. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    ffa1fa731e4de9dd8a8f5e50b3d887f2.jpg

    ปฐมฤกษ์การอธิษฐานจิต โดยหลวงปู่...อายุ 98 ปี

    ผมเคยไปทำบุญกับท่าน 2 ครั้งแล้ว ครั้งแรกคือไปทำบุญปกติ ถวายน้ำมันนวด พอดีท่านปวดเมื่อยอยู่ ศิษย์ท่านเลยให้ผมนวดให้ท่าน ก็โชคดีไป

    สัมผัสแรกที่เห็นก็ดูท่านเหมือนพระทั่วไป ดูธรรมดาแต่พอได้นวดท่านเลยชักไม่แน่ใจ "เอ๊ะ สูงส่งคืนสู่สามัญนี่หว่า (คิดในใจนะ)"

    จนแน่แก่ใจว่าท่านสูงส่งคืนสู่สามัญชัวร์ ๆ จนศึกษาประวัติท่านเลยหายสงสัย

    ครั้งที่ 2 นำผงมวลสารขอท่านอธิษฐานจิตเพื่อสร้างล็อคเก็ตหลวงปู่ใหญ่

    ท่านบวชมายาวนานตั้งแต่อายุ 20 และได้ออกธุดงค์ ปฏิบัติธรรมกับครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่นหลายรูป ไม่ว่าเป็นหลวงปู่เทสก์ หลวงปู่ขาว หลวงปู่ดูลย์ ฯ และได้ปฏิบัติกับสายหลวงปู่มั่นมาแล้วด้วย ออกธุดงค์มายาวนาน เชี่ยวชาญวิปัสสนาและวิทยาคมอย่างยิ่ง

    จึงไม่แปลกใจในความสงบ สูงส่งของท่าน

    ตอนที่ไป ฝนก็ตก พอไปถึงวัด ซึ่งเป็นการไปครั้งที่ 3 เห็นป้ายหน้ากุฏิท่านสะดุ้งเลย55

    "ช่วงโควิดห้ามเข้าใกล้หลวงปู่ จะทำบุญถวายของให้ถวายพระที่ดูแล" (ยุ่งล่ะสิ สงสัยอดได้เสก55)

    ก็รอจนพระดูแลท่านมาก็หยิบของไปถวายทำบุญ กรวดน้ำ พระที่ดูแลก็เมตตา บอก "หลวงปู่ท่านหลับอยู่ " จนผมกรวดน้ำเสร็จ เห็นหลวงปู่ในห้องกระจกท่านลุก ๆขึ้นมาดู เลยบอกพระท่าน

    พระที่ดูแลท่านก็ใจดี บอก "เอ้าเข้ามาเลย" เลยได้นำของถวายทำบุญกับหลวงปู่เอง (ผมฉีดพ่นแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ ของ ปัจจัยหมดแล้วเด้อ)

    จากนั้นเลยได้โอกาส ยกรุ่นพระเจ้าครอบไตรภพ ขอความเมตตาท่าน

    ท่านก็หยิบพิจารณาพระแล้วอธิษฐานให้สมใจ... นับว่าโชคดีเกือบเสียเที่ยว55

    ไม่ต้องถามถึงความขลังครับ แค่ทิชชู่ห่อพระยังขลังขนาด ยังว่า จบได้เลยนะเนี่ย แต่ยังไม่พอ ... นับว่าสมฤกษ์ชุ่มเย็นเพราะฝนตกหนักมาก ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2021
    • อนุโมทนา อนุโมทนา x 5
    • ถูกใจ ถูกใจ x 2
    • รักเลย รักเลย x 1
    • ไม่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย x 1
    • ดูรายการ
  4. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    fbbc374af91393390314dd5ede966a75.jpg

    ได้คุยกับรุ่นพี่ท่านมอบผงหลวงปู่โตให้ คุยไปคุยมาทราบว่าแต่อดีตพี่เขาได้สร้างพระเหรียญหลวงปู่เอี่ยมมาแล้ว

    ผมได้ถามเรื่องการหลอมทำเหรียญ เพราะตอนไปบ้านเขา พี่เขาได้หยิบเหรียญหลวงปู่เอี่ยมที่สร้างให้ชม คือทราบว่าชนวนมาก แต่ผมไม่ทราบว่าจะมากขนาดแทบช็อค

    เขาได้นำเหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนังแท้ๆ ทันท่านผสมด้วย บวกกับตะกรุดโสฬสในตำนานหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูงผสมด้วย

    พี่เขาบอกเองตอนจะหยิบหลอม โรงงานยังขอซื้อต่อเลยในราคาหลักแสน แต่พี่เขาใจเด็ดผสมหลอมทันที55

    และคุยไปคุยมาถึงมีด พี่เขาก็มีมีดหลวงพ่อเดิมด้วย????

    ซึ่งแน่นอน ยุคปัจจุบันจะเสกให้เท่ามีดหลวงพ่อเดิมยากแล้ว อาจารย์ฆราวาสเขาก็ยืนยัน

    มีดหลวงพ่อเดิมพี่เขาบอก ตอนไปซื้อมา ไม่ว่าหนังเหนียวแค่ไหนก็เฉือนเข้าทั้งที่มีดหลวงพ่อเดิมไม่ได้ทำคมมากนะครับแต่เฉือนเนื้อคนได้

    โดยได้มีการลองเฉือนเนื้อดู หากเป็นแผลแล้วไม่ว่าจะเย็บยังไงแผลจะไม่ติด นอกจากวิธีแก้คือ นำตัวใบมีดไปฝนกับหินผสมน้ำล้างแผล (ตรงนี้ผมถามอ่านมาไม่ใช่เอาด้ามมีดฝนกับน้ำล้างแผลเหรอ พี่เขาบอกไม่ใช่ใช้ตรงใบมีดเลย ซึ่งต้องบิ่น) โดยได้ทดลองแล้วแผลถึงจะปิด

    ฟังไว้เป็นสาระครับ

    ในภาพ เป็นการร่างแบบมีดโดยอาจารย์ฆราวาสที่พี่เขานับถือ ซึ่งเราจะทดลองตีมีดขึ้นมาใช้เอง แน่นอน ทำน้อยต้นทุนสูงเพราะทำไม่เกิน 10 เล่ม อาจไม่ทำเหล็กลายเพราะจะใช้ชนวนมวลสารได้น้อย คิดว่าจะทำ 5 นิ้วพกพาง่าย ด้านชนวนมวลสารไม่ต้องกังวล ผมเห็นภาพเหล็กสังขวานรแล้วแทบช็อค เพราะแต่ละแห่งหาได้ยากยิ่งไม่มีขายตามท้องตลาด...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2021
  5. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการปลุกเสกแบบจัดเต็ม จัดหนัก โดยชุดนี้เป็นการสร้างพระเจ้า 5 พระองค์ ผมจึง plan ว่าจะขอครูบาอาจารย์ 5 ท่าน เพื่อให้ครบ 5 พระองค์

    เนื่องจากมีเวลาอีกถึงสิ้นเดือน ก็จะค่อยๆ ให้ชมการเสก อาทิตย์ละท่านนะครับ...

    ชุดนี้ บางท่านเรียกร้องมาขอด้านโชคลาภ เรียกเงินเรียกทอง ก็จัดให้ครับ เพราะผมก็ต้องการ...

    กระซิบอีกนิด ผมได้นำมวลสารที่เหลือจากการสร้างพระเจ้าครอบไตรภพ ใส่กะปุกเล็ก ๆ ไปร่วมเสกด้วย เพื่อว่าหากได้สร้างชุดต่อไป สร้างเสร็จก็จะได้ทุ่นแรง เพราะ plan ไว้หากมีโอกาสได้ทำรุ่นถัดจากนี้จะฉีกแนวคือ เสกพระ 1 ฆราวาส 1 แต่ เสกปิดท้ายฆราวาสจะเสกนาน โดยเป็นแนวทางที่ยังไม่เคยทำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องรอมวลสารครับ เพราะผู้ให้บอกจะให้ แต่ก็ต้องรอประมาณ 3 เดือนนิด ๆ ซึ่งเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนเขาแจ้งมาว่าจะส่งให้หลังสิ้นเดือนตุลาคม ก็รออยู่นี่ล่ะครับ

    หากได้ทำนะ ก็นำมวลสารที่เข้าเสกรุ่นนี้ 5 ยก (ปกติก็เสกมามากแล้ว) สร้าง แล้วเสกตามที่วางไว้เลย โดยอาจทำเยอะหน่อยประมาณ 15 องค์ แต่ ก็ต้องรอมวลสารครับ ถ้าเขายังไม่ให้ ก็ไม่ต้องทำ55
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2021
  6. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    22dd658e6a9bb44cded816f981f0927b.jpg

    การเสกยกแรก ๆ ก็จะเน้นหนัก ดังองค์ปฐมฤกษ์ คือเชื่อมตรงกับกระแสพุทธบารมีไปเลย องค์ถัด ๆ มาก็เป็นการอัดลงให้แน่น และค่อยๆเสริมด้านทางโลกไปทีละขั้นๆ จนปิดท้ายก็รวมธาตุรวมกระแสเสริมในสิ่งที่ต้องการไปเลยซึ่งก็คอยรอชม ทีละท่าน ๆ ไปแต่ planที่ออกมาจากแนวทางครูบาอาจารย์ชี้แนะได้มาแล้ว... คือพอเข้าใจแล้วว่าจะไปขอท่านใดลงให้บ้าง ก็อาทิตย์ละท่านไปครับ...

    แต่ละท่านก็จะมีความแตกต่างตามหลักวิชาของท่านไป
     
  7. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    อ้างอิงให้เครดิต ที่มา


    คาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย หรือ คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
    ที่หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กรุงเทพฯ ถวายล้นเกล้า ร.๕ ก่อนเสด็จประพาสยุโรป จนกลายเป็นตำนานเล่าขานที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
    พระคาถาว่าดังนี้
    "อิติปิโส วิเสเสอิ
    อิเสเส พุทธะนาเมอิ
    อิเมนา พุทธะตังโสอิ
    อิโสตัง พุทธะปิติอิ "ฯ
    ผู้มีวาสนาได้พบเห็น จงร่ำเรียนเอาเถิดประเสริฐนักแล ฯ ความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่เอี่ยมนั้น เป็นที่เล่าขานกันมายาวนานของคนเฒ่าคนแก่ย้านฝังธน ด้วยความเป็นพระผู้ทรงศีลบารมี มีตบะบารมีธรรม และอำนาจจิตแก่กล้า ทั้งเป็นพระผู้ประกอบด้วยเมตตาธรรมสูงแก่ญาติโยมและศิษยานุศิษย์ ในยุคนั้นศิษย์วัดหนังขึ้นชื่อในเรื่องความคงทนหนังเหนี่ยว อย่างที่แมลงวันไม่ได้กินเลือดเลยก็ว่าได้ จนเป็นที่เลืองลือและเกรงขามของบรรดานักเลงต่างถิ่น ด้วยคำคุ้นหูที่ว่า "หนังไม่เหนี่ยว อย่าริเที่ยววัดหนัง" วันนี้เพจ (ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญาครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม) จึงขอนำเอาเรื่องราวอันเป็นตำนาน เกี่ยวกับคาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย หรือคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า มาเล่าสู่กันฟัง..................
    เล่ากันว่า เมื่อล้นเกล้า ฯ รัชกาลที่ ๕ ได้รับคำแนะนำจากพระเจ้าน้องยาเธอ "กรมหลวงนเรศวรฤทธิ์" ให้เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เข้านมัสการ "หลวงปู่เอี่ยม" วัดโคนอน เพื่อขอรับคำพยากรณ์ก่อนที่จะเสด็จประพาสยุโรป ครั้งที่ ๑ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๐ นั้น ภายหลังที่กำหนดการเสด็จวัดโคนอนได้ถูกกำหนดขึ้นเป็นการส่วนพระองค์เรียบร้อยแล้ว ก็ได้ส่งหมายกำหนดการไปถวายแด่หลวงปู่เอี่ยม เป็นการภายใน เพื่อที่จะได้เตรียมตัวรับเสด็จ
    ขบวนเสด็จประกอบด้วย เรือพายสี่แจวที่ทรงประทับ และขบวนเรือคุ้มกัน ควบคุมโดยพระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงนเรศวรฤทธิ์ ได้เคลื่อนที่เข้าคลองลัดสู่วัดโคนอน ชาวบ้านละแวกนั้นไม่ได้ไหวตัวหรือเอะใจแต่อย่างใด เพราะเห็นเป็นขบวนเรือธรรมดา มิได้ประดับประดาธงทิวให้แปลกไปกว่าเรือลำอื่นดูเหมือนกับเรือที่ขุนนางหรือเศรษฐีผู้มีทรัพย์ใช้กันทั่วไป และผู้ที่ขึ้นมาจากเรือสี่แจวต่างก็แต่งกายแบบธรรมดา มีหมวกสวมไว้บนศีรษะ ใบหน้าบ่งบอกถึงเป็นผู้มีบุญ หนวดบอกถึงผู้มีอำนาจดวงตาฉายแววแห่งความเมตตาปราณีตลอดเวลา เวลาเดินมีคนล้อมหน้าล้อมหลัง ทุกคนไม่ได้เฉลียวใจเลยว่า "บุรุษผู้ขึ้นมาจากเรือสี่แจวนั้น คือ เจ้าชีวิตแห่งกรุงสยาม พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า ผู้ทรงประกาศเลิกทาสโดยสิ้นเชิง"
    พระปลัดเอี่ยมนั่งรออยู่บนอาสนะอันสมควรแก่ฐานานุรูป ภายในพระอุโบสถอันแคบ แบบวัดราษฏร์ในเขตอันไกลจากพระบรมมหาราชวัง กรมหลวงนเรศวรฤทธิ์ก้าวนำเสด็จเข้ามาภายในพระบาทสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้าทรงจุดธูปเทียนบูชาสักการะพระประธาน กราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์ แล้วจึงเสด็จกลับมาถวายนมัสการพระปลัดเอี่ยม ซึ่งกราบทูลให้ทรงประทับนั่งธรรมดาตามสบายพระองค์
    "ที่รูปมาในวันนี้ ("รูป" เป็นคำที่พระมหากษัตริย์สมัยก่อนใช้แทนพระนามเมื่อมีพระราชดำรัสกับพระสงฆ์) เพื่อขอให้ท่านปลัดได้ช่วยตรวจดูเหตุการณ์ว่า การที่รูปจะเสด็จไปยุโรปเพื่อเจริญสัมพันธไมตรีกับราชสำนักในยุโรปนั้น จักเป็นอย่างไรบ้าง ด้วยหนทางไกลและอันตรายมีอยู่รอบด้าน"
    "มหาบพิตร อาตมาจักตรวจสอบให้ อย่าได้ทรงมีพระหทัยกังวล ทั้งนี้ด้วยพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสมมติเทพแบบพระองค์นั้น มีบุญญาธิการ สามารถผ่านพ้นความทุกข์ได้อย่างมั่นคง"
    พระปลัดเอี่ยมลุกจากที่นั่งไปคุกเข่าลงหน้าพระประธาน ก้มลงกราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์ระลึกถึงองค์พระรัตนตรัย และหลวงปู่รอดผู้มรณภาพไปแล้ว ขอบารมีในการจะเข้า "ฌาน" เพื่อดูอนาคตด้วย "อนาคตังสญาณ" จากนั้นก็กลับเข้ามาสู่ท่านั่งสมาธิตัวตรง เจริญอานาปานสติ แล้วเข้าสู่ฌานที่ ๔ ตามลำดับ จากนั้นเข้าสู่อนาคตังสญาณ โดยกำหนดจิตไว้มั่นเพื่อให้นิมิตเกิด
    ในท่ามกลางความคะนองของท้องทะเล และคลื่นลมตลอดจนวังวนของทะเล เรือพระที่นั่งกำลังอยู่ในปากแห่งวังวนนั้น น้ำในวังวนเชี่ยวกราก และส่งแรงดูดมหาศาล ภายใต้วังวนนั้น ซากเรือใหญ่น้อยจมอยู่เป็นอันมาก พ้นจากทะเลมาสู่บก พลันภาพของกลุ่มคนที่นั่งกันอยู่เป็นชั้น ๆ ส่งเสียงจ้อกแจัก ด้านล่างเป็นผืนหญ้า และมีผู้จูงม้าเข้ามาในที่นั้น ม้าตัวนั้นมีคนถือเชือกที่ล่ามขาทั้งสี่คอยดึงไว้ไม่ให้พยศ ดวงตาของมันเหลือกโปน น้ำลายฟูมปาก
    ภาพของฝรั่งแต่งตัวด้วยเครื่องแบบประหลาด ผายมือให้พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้าทรงเสด็จไปรับม้าเพื่อประทับ แล้วทุกอย่างก็ดับวูบหายไป ถึงวาระที่ออกจากญาณพอดีลุกขึ้นเดินมานั่งบนอาสนะที่เดิม ก่อนจะกราบทูลความถวายว่า
    "มหาบพิตร การเสด็จพระราชดำเนินสู่ยุโรปครั้งนี้ จะต้องประสบภัยสองครั้ง ครั้งแรกในทะเลที่วังวน อาตมาจะถวายผ้ายันต์พิเศษและคาถากำกับ เมื่อเข้าที่คับขันขอให้ทรงเสด็จไปยืนที่หัวเรือ แล้วภาวนาคาถากำกับผ้ายันต์แล้วโบกผ้านั้น จะเกิดลมมหาวาตะพัดให้เรือหลุดจากการเข้าสู่วังวนได้
    ภัยครั้งที่สองเกิดจากสัตว์จตุบท (สี่เท้า) คืออัศดรชาติอันดุร้ายที่ฝ่ายตรงข้ามจะทดลองพระองค์อาตมาจะถวายคาถาพิเศษสำหรับภาวนาเวลาถอนหญ้าให้อัศดรอันดุร้ายนั้นกิน จะคลายพยศและสามารถประทับบังคับให้ทำตามพระราชหฤทัยได้เหมือนม้าเชื่อง"
    ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เล่าลือกันมาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าหลวง ปู่ย่าตายายได้เล่าสืบทอดกันมาอันมีส่วนหนึ่งเกี่ยวพันกับพระบรมรูปทรงม้าที่ลานพระราชวังดุสิต
    คาถาเสกหญ้าให้ม้ากินที่หลวงปู่เอี่ยมถวายนั้น คือ "คาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย" หรือ "มงกุฎพระพุทธเจ้า" มีตัวคาถาว่า "อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ "
    หลังจากได้ทรงมีพระราชดำรัสกับพระปลัดเอี่ยมพอสมควรแก่เวลาแล้ว ก็ทรงถวายจตุปัจจัยไทยทานแด่พระปลัดเอี่ยม จากนั้นได้เสด็จทอดพระเนตรโดยรอบวัดโคนอน ซึ่งตอนนี้มีผู้จดจำพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้าได้แม่นยำ ได้บอกกันออกไป ทำให้มีผู้มาหมอบเฝ้ารับเสด็จกันเป็นจำนวนพอสมควร ครั้นทรงสำราญพระอิริยาบถพอสมควรแล้ว ก็เสด็จกลับสู่พระบรมมหาราชวัง เพื่อเตรียมพระองค์ไปทวีปยุโรปต่อไป
    การเสด็จประพาสยุโรปในครั้งแรก เมื่อ ปี พ.ศ. ๒๔๔๐ (ร.ศ. ๑๑๖) ได้ทรงเตรียมการทุกอย่างไว้เป็นอย่างดียิ่ง ในส่วนที่เป็นกิจการภายในประเทศ ได้ทรงแต่งตั้งสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ต่อหน้ามหาสมาคม จากนั้นได้ทรงถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้ามหาสมาคมซึ่งประกอบไปด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เหล่าเสนามหาอำมาตย์ ข้าราชบริพาร และพระราชาคณะอันมีสมเด็จพระสังฆราชเป็นประธาน ในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร บางลำภู กทม. มีใจความสำคัญ ดังนี้
    ๑. จักไม่เปลี่ยนแปลงจากพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาอื่น
    ๒. จักเสวยน้ำจัณฑ์ (เหล้า) ต่อเมื่อไม่เป็นการผิดพระราชประเพณีต่อฝ่ายที่จะกระชับสัมพันธไมตรี และจะเสวยเพียงเพื่อไมตรีไม่ให้เสียพระเกียรติยศ
    ๓. จะไม่ล่วงประเวณีต่อสตรีไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด ตลอดเวลาที่พ้นออกไปจากพระราชอาณาเขตสยาม
    ซึ่งท่านผู้อ่านจะเห็นได้ว่า การเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ ไม่ได้เป็นไปเพื่อความสำราญส่วนพระองค์ แต่ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์เพื่อประเทศชาติโดยแท้ จากจดหมายเหตุและพระราชหัตถเลขา ที่ทรงมีมายังพระพันปีหลวงผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ทรงบอกชัดเจนว่า
    ทรงต้องผจญภัยในท้องทะเล กับคลื่นลมที่แปรปรวน ทรงพบกับความลำบากนานาประการอาทิ ต้องทรงงดเสวยพระโอสถหมากและพระโอสถมวน (หมาก พลู บุหรี่) และต้องให้ช่างมาขูดคราบพระทนต์ (ฟัน) ที่เกิดจากคราบหมากคราบปูนออกเพื่อให้พระทนต์ขาว ห้องพระบรรทมในเรือพระที่นั่งก็ไม่สะดวกสบาย อากาศร้อนเป็นที่สุด การเสวยก็ไม่เป็นไปตามที่ทรงพระประสงค์ ฯลฯ ซึ่งความยากลำบากเหล่านี้เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาแรมเดือน ในช่วงที่ต้องใช้ทะเล มหาสมุทร เป็นเส้นทางเสด็จและในช่วงที่เสด็จรอนแรมในท้องทะเลนั่นเอง คำพยากรณ์ข้อที่ ๑ ของหลวงปู่เอี่ยม วัดโคนอนก็เป็นจริง
    เมื่อเรือพระที่นั่งแล่นอยู่ในบริเวณใกล้กับ สะดือทะเล หรือ "ซากัสโซ ซี" อันบริเวณนั้นมักจะเกิดน้ำวนเป็นประจำ และเรือลำใดบังเอิญหลงเข้าไปในวังน้ำวนนั้น ก็มีหวังจมลงอับปางเป็นแน่แท้ และแล้วเรือพระที่นั่งมหาจักรี ก็พลัดเข้าไปในวังวนนั้นจนได้
    กัปต้นคัมมิง (Commander Cumming) แห่งราชนาวีอังกฤษซึ่งไทยได้ขอยืมตัวมาเป็นผู้บังคับการเรือพระที่นั่งเป็นการชั่วคราว ได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มสติกำลังความสามารถ บังคับเรือให้สู้กับแรงหมุนและดูดอย่างเต็มที่ ด้วยหากเรือพระที่นั่งเข้าปากวังวนแล้ว การรอดออกมานั้นหมดหนทาง
    ในขณะที่วิกฤตินั้น ได้มีผู้เข้าไปกราบทูลให้ทรงทราบ เมื่อระลึกถึงคำพยากรณ์ของพระปลัดเอี่ยมข้อแรกขึ้นมาได้ ก็ทรงจัดฉลองพระองค์ให้รัดกุม อาราธนาผ้ายันต์ของพระปลัดเอี่ยมติดมาด้วย เมื่อเสด็จมาถึงตอนหัวเรือ กัปตันกำลังแก้ไขสถานการณ์สุดกำลัง ทรงไม่รบกวนสมาธิของกัปตัน แต่เสด็จไปยืนอธิษฐานจิตถึงพระรัตนตรัย พระสยามเทวาธิราช และบารมีทศพิธราชธรรม และการเลิกทาสที่ทรงพระวิริยะอุตสาหะในการช่วยเหลือพสกนิกรให้พ้นจากการเป็นทาส จบลงด้วยพระปลัดเอี่ยมและผ้ายันต์ ทรงโบกผ้ายันต์นั้นไปมาด้วยความมั่นพระราชหฤทัย แล้วปาฎิหาริย์ก็ปรากฎ เหตุการณ์ก็แปรเปลี่ยน จู่ ๆ ก็เกิดลมมหาวาตะพัดมาในทิศทางที่อยู่ในแนวเดียวกับวังวน แรงลมทำให้เกิดกระแสคลื่นสะกัดกระแสวนของวังน้ำ ดันเรือพระที่นั่งให้พ้นจากแรงดูดสามารถตั้งเข็มเข้าสู่เส้นทางได้ ท่ามกลางเสียงร้องตะโกนว่า "ฮูเรย์" ของกัปตันและลูกเรือ
    ส่วนผู้ติดตามเสด็จนั้นอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูก จนทรงพับผ้ายันต์เก็บแล้วนั่นแหละ จึงค่อย ๆ ร้องว่า สาธุ สาธุ คำพยากรณ์ข้อแรกเป็นที่ประจักษ์แก่พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงว่า "แม่นยำยิ่งนัก" คงเหลือแต่คำพยากรณ์ข้อที่สองซึ่งยังมาไม่ถึง แต่ก็ทรงเตรียมพระองค์รับสถานการณ์หากจะเกิดขึ้น
    เส้นทางเสด็จพระราชดำเนินนั้น มีช่วงที่รอนแรมในมหาสมุทรอินเดียยาวนานถึง ๑๕ วัน ๑๕ คืน คือเส้นทางระหว่างเมืองกอล (Galle) ประเทศศรีลังกา ไปยังเมืองเอเดน (Aden) เมืองท่าปากทางเข้าสู่ทะเลแดงของประเทศเยเมน ช่วงนี้แหละที่น่าจะเป็นช่วงอันตรายที่สุดและลำบากที่สุด เหตุการณ์ตามคำพยากรณ์ข้อที่ ๑ ข้างต้น คงเกิดในช่วงเส้นทางนี้ คือระหว่างวันที่ ๒๓ เมษายน ถึง ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๐ (ขอย้ำอีกครั้ง เป็นเรื่องเล่า ไม่ได้มีบันทึกไว้ในพระราชหัตถเลขา - เล็ก พลูโต)
    ขอรวบรัดตัดตอนเส้นทางเสด็จ ไม่ขอนำความมากล่าวโดยละเอียด ณ ที่นี้ เมื่อพระองค์เสด็จถึงประเทศฝรั่งเศส ประธานาธิบดี เฟลิกซ์ ฟอร์ ได้ถวายการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ แม้จะไม่เต็มใจนัก แต่แรกไม่คิดจะต้อนรับขับสู้อย่างดีหรอกครับ แต่สืบข่าวดูแล้ว ทุกประเทศที่พระองค์เสด็จผ่านมาก่อนหน้าที่จะเข้าฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นสวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ออสเตรีย ฮังการี รัสเซีย เดนมาร์ก อังกฤษ เบลเยี่ยม เยอรมัน ต่างก็ถวายการต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ โดยเฉพาะรัสเซีย พระเจ้าซาร์ นิโคลัสทรงยกย่องนับถือเสมือนหนึ่งพระอนุชาร่วมอุทรของพระองค์เอง มีการฉายภาพพระบรมฉายาลักษณ์คู่กัน เผยแพร่ไปทั่วยุโรป แล้วอย่างนี้ "เจ้าเศษฝรั่ง" จะทำเป็นทองไม่รู้ร้อนได้อย่างไร
    ในช่วงที่ทรงพำนักในกรุงปารีส ฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ ๑๑ กันยายน ถึง ๑๗ กันยายน ๒๔๔๐นี่เอง ที่พระองค์ได้ประสบกับความแม่นยำในอนาคตังสญาณของพระปลัดเอี่ยม ข้อที่ ๒ หากไม่ได้เตรียมการ หรือเตรียมพระองค์ล่วงหน้าแล้ว มีหวังที่จะต้องเอาพระชนม์ชีพไปทิ้งเสียที่นี่กระมัง
    โบราณว่าไว้ "หากไม่เข้าถ้ำเสือ แล้วจะได้ลูกเสืออย่างไร ? " เป็นบทท้าทายคำพิสูจน์ให้เห็นเด่นชัดตอนที่ล้นเกล้า ร.๕ พระปิยมหาราชเสด็จพระราชดำเนินเหยียบดินแดนของผู้ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นศัตรู ที่ร้ายกาจ หวังจะครอบครองแผ่นดินไทยให้ได้ทั้งหมด แม้จะได้เป็นบางส่วนแล้วก็ตามก็หาเป็นที่พอใจไม่
    ในช่วงที่เสด็จพระราชดำเนินเยือนทวีปยุโรปครั้งแรก เมื่อ ร.ศ. ๑๑๖ (พ.ศ. ๒๔๔๐) นั้น สยามประเทศของเรายังคงมีกรณีพิพาทต่อกันในเรื่อง "สิทธิสภาพนอกอาณาเขต" กล่าวคือเราต้องยอมให้อังกฤษและฝรั่งเศสตั้งศาลกงสุลของตนในดินแดนไทย สำหรับตัดสินคดีความต่าง ๆ เมื่อคนของเขา หรือคนใดก็ตามแม้แต่คนไทยหัวใสบางคนที่ยอมตนจดทะเบียนเป็นคนในบังคับ (คล้าย ๆ กับการโอนสัญชาติ แต่ไม่ใช่ เพราะยังไม่มีสิทธิที่จะพำนักในประเทศของเขา ) ซึ่งก็มีจำนวนไม่น้อย เพราะเวลาทำผิดแล้วไม่ต้องขึ้นศาลไทย ไม่ใช้กฎหมายไทยตัดสิน คนไทยเองก็เถอะ หากทำความผิดต่อคนของเขาแล้ว ต้องขึ้นศาลเขาและต้องยอมเขาทุกอย่าง แม้ศาลไทยจะตัดสินว่า "ถูก" หากเขาเห็นว่า "ผิด" คนผู้นั้นก็ต้องถูกลงอาญา ซึ่งเป็นหนามยอกอกของคนไทยในสมัยนั้นมาก ต้องยอมให้คนต่างชาติต่างแดนมากดหัวเรา มาเอาเปรียบเรา เป็นการยั่วยุให้เราหมดความอดทน หากก่อสงคราม ก็มีหวังสูญเสียเอกราชของชาติแน่นอน
    กรณี "พระยอดเมืองขวาง" แขวงเมืองคำเกิดคำมวน วีรบุรุษไทยที่รักผืนแผ่นดินไทย รักในองค์พระมหากษัตริย์ไทย ได้ดับความอหังการ์ของทหารฝรั่งเศส ที่บุกรุกอธิปไตยของไทยที่เมืองขวาง จนต้องถูกจำคุกเสียหลายปี แม้ศาลไทยจะให้ปล่อยตัวเพราะเป็นการทำตามหน้าที่ แต่ศาลกงสุลของฝรั่งเศสในไทยตัดสินให้จำคุก ท่านก็ต้องติดคุกเพื่อชาติ เรื่องนี้คนไทยทั้งแผ่นดินในขณะนั้น แค้นแทบจะกระอักเลือดเลยครับ เกือบจะทำสงครามกันรอมร่ออยู่แล้ว ดีแต่องค์พระปิยมหาราชเจ้า ท่านทรงดำเนินวิเทโศบายด้านต่างประเทศด้วยการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศต่าง ๆ ในยุโรปเสียก่อน แล้วพระองค์ก็ทรงทำสำเร็จเสียด้วย ผู้ที่แค้นแทบจะกระอักเลือดแทน ก็คงจะเป็น "เจ้าเศษฝรั่ง" น่ะเองซึ่งมันก็รอจังหวะและโอกาสที่จะล้างแค้นเหมือนกัน มันคิดว่า
    "หากไม่มีล้นเกล้า ฯ ร.๕ เสียพระองค์หนึ่ง สยามประเทศเราก็เปรียบเสมือนมังกรที่ไร้หัว" ที่นี้คงมีโอกาสมากขึ้นหากจะฮุบประเทศชาติของเราไว้ในกำมือ และแล้วแผนการอันแยบยลก็อุบัติขึ้นเมื่อพระองค์เสด็จเยือนประเทศฝรั่งเศส แม้เขาจะต้อนรับพระองค์อย่างสมพระเกียรติก็ตาม แต่นั่นเป็นเพียงหน้าฉากเท่านั้น หลังฉากน่ะหรือ ? ได้กำหนดขึ้นเพื่อต้อนรับพระองค์ไว้เรียบร้อยแล้ว ในสนามแข่งม้าชานกรุงปารีสนั่นเอง เมื่อพระองค์ได้รับคำทูลเชิญให้เสด็จทอดพระเนตรการแข่งม้านัดสำคัญนัดหนึ่งซึ่งมีขุนนาง ข้าราชการ พระบรมวงศานุวงศ์ฝรั่งเศสมาชมกันมาก พวกมันได้นำเอาม้าดุร้ายและพยศอย่างร้ายกาจมาถวายให้ทรงประทับ โดยถือโอกาสขณะที่อยู่ท่ามกลางมหาสมาคม แม้รู้ว่าม้านั้นดุร้าย พระปิยมหราชเจ้าก็จะไม่ทรงหลีกหนี ด้วยขัตติยะมานะที่ทรงมีอยู่ในฐานะผู้นำประเทศ หากทรงพลาดพลั้งนั่นคือ "อุบัติเหตุ" ใครก็จะเอาผิดหรือต่อว่าเจ้าเศษฝรั่งไม่ได้
    ม้าตัวนั้นเล่าลือกันว่า เคยโขกกัดผู้เลี้ยงดูและผู้หาญขึ้นไปขี่ตายมาแล้วหลายคน จะเอาไปไหนต้องมีคนจูงด้วยเชือกล่ามเท้าทั้งสี่ไว้ เพื่อป้องกันการพยศและขบกัดผู้คน นัยว่าเป็นม้าของเจ้าชายแห่งฝรั่งเศสพระองค์หนึ่ง เมื่อถูกนำเข้ามาในสนาม ทุกคนก็ส่งเสียงร้องด้วยความตกใจและหวาดกลัว ตัวแทนรัฐบาลฝรั่งเศสเริ่มวางหลุมพราง โดยกราบบังคมทูลว่า
    "ไม่ทราบเกล้าว่าเมื่ออยู่ในสยามประเทศเคยทรงม้าหรือไม่ พระเจ้าข้า"
    "แน่นอน ข้าพเจ้าเคยทรงอยู่เป็นประจำ เพราะในสยามประเทศก็มีม้าพันธุ์ดีอยู่มาก"
    "โอ วิเศษ ขออัญเชิญพระองค์ทรงเสด็จขึ้นทรงม้า ตัวที่กำลังถูกจูงเข้ามานี้ให้ประจักษ์ชัดแก่สายตาของผู้คนในสนามม้านี้ด้วยเถิดพระเจ้าข้า"
    ตัวแทนรัฐบาลฝรั่งเศสกราบทูลด้วยความกระหยิ่มใจ
    "แน่นอน ข้าพเจ้าจะแสดงให้ท่านทั้งหลายได้ดูว่า กษัตริย์แห่งสยามประเทศนั้นไม่เคยหวาดหวั่นกลัวแม้แต่อัสดรที่พยศดุร้าย หรือผู้คุกคามที่มีอาวุธพร้อมสรรพ "
    จบพระราชดำรัสก็ทรงลุกขึ้นเปิดพระมาลาขึ้นรับการปรบมืออันกึกก้องสนามม้าแห่งนั้น แล้วเสด็จพระราชดำเนินลงจากอัฒจันทร์ สู่ลู่ด้านล่างซึ่งขณะนั้นม้ายืนส่งเสียงร้องและเอากีบเท้าตะกุยจนหญ้าขาดกระจุยกระจาย
    คำพยากรณ์ของพระปลัดเอี่ยมยังกึกก้องอยู่ในพระกรรณ ทรงก้มพระวรกายลงใช้พระหัตถ์ขวารวบยอดหญ้าแล้วดึงขึ้นมากำมือหนึ่ง ทรงตั้งจิตอธิษฐานถึงพระรัตนตรัย พระสยามเทวาธิราชและพระปลัดเอี่ยม เจริญภาวนาพระคาถาอิติปิโสเรือนเตี้ยที่พระปลัดเอี่ยมถวายสามจบ ทรงเป่าลมจากพระโอษฐ์ลงไปบนกำหญ้านั้น แล้วแผ่เมตตาซ้ำ ยื่นส่งไปที่ปากม้า เจ้าสัตว์สี่เท้าผู้ดุร้ายสะบัดแผงคอส่งเสียงดังลั่นก่อนจะอ้าปากงับเอาหญ้าในพระหัตถ์ไปเคี้ยวกินแล้วก็กลืนลงไป
    ผู้แทนรัฐบาลฝรั่งเศสโบกผ้าเช็ดหน้า เป็นสัญญาณให้แก้เชือกที่ตรึงเท้าม้าออกไปพ้นทั้งสี่เท้าบัดนี้เจ้าสัตว์ร้ายพ้นจากพันธนาการ และบรรดาผู้ที่จูงมันเข้ามาก็ผละหนี เพราะเกรงกลัวในความดุร้ายของมัน พระปิยะมหาราชเจ้าทรงทอดสายพระเนตรจับจ้องอยู่ที่นัยน์ตาของม้านั้น ก็เห็นว่ามันมีแววตาอันเป็นปกติ มิได้เหลือกโปนดุร้าย ทรงเอื้อมพระหัตถ์ไปตบที่ขาหน้าของมันสามครั้ง เจ้าม้านั้นก็ก้มหัวลงมาดมที่พระกรไม่แสดงอาการตื่น หญ้าเสกสำริดผลตามประสงค์
    อาชาที่ดุร้ายกลับเชื่องลงเหมือนม้าลากรถ เจ้าชีวิตแห่งสยามประเทศยกพระบาทขึ้นเหยียบโกลนข้างหนึ่งแล้วหยัดพระวรกายขึ้นประทับบนอานม้าอย่างสง่างามไร้อาการต่อต้านของม้าที่เคยดุร้ายเสียงคนบนอัฒจันทร์ส่งเสียงตะโกนขึ้นเป็นเสียงเดียวกันว่า "บราโวส บราโวส" อันหมายถึงว่า "วิเศษที่สุด เก่งที่สุด ยอดที่สุด" ทรงกระตุ้นม้าให้ออกเดินเหยาะย่างไปโดยรอบสนาม ผ่านอัฒจันทร์ที่มีผู้คนคอยชม เปิดพระมาลารับเสียงตะโกนเฉลิมพระเกียรติบางคนก็โยนหมวก โดยมีดอกกุหลาบลงมาเกลื่อนสนามตลอดระยะทางที่ทรงเหยาะย่างม้าผ่านไปจนครบรอบ จึงเสด็จลงจากหลังม้ากลับขึ้นไปประทับบนพระที่นั่งตามเดิม
    บรรดาพี่เลี้ยงม้าก็เข้ามาจูงม้านั้นออกไปจากสนาม คำพยากรณ์ข้อที่สองและคาถาที่พระปลัดเอี่ยมแห่งวัดโคนอนถวาย ได้สำริดผลประจักษ์แก่พระราชหฤทัย ทรงระลึกถึงพระปลัดเอี่ยมว่า เป็นผู้ที่จงรักภักดีโดยแท้จริง และได้ช่วยให้ทรงผ่านสถานการณ์อันเลวร้ายมาถึงสองครั้งสองครา และทั้งหมดนี้คือจุดเล็ก ๆ ในเกร็ดพระราชประวัติ เป็นปฐมเหตุแห่งพระบรมรูปทรงม้า หน้าพระราชวังดุสิต ที่เล่าขานกันต่อมาช้านาน และยังคงกึกก้องในโสตประสาทของปวงชนชาวไทยต่อไป ชั่วกาลปาวสาน
     
  8. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    ผมได้คุยกับรุ่นพี่ที่มอบผงหลวงปู่โตให้ และทำให้ได้ทราบว่า พี่เขานับถือหลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง กับหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูงมาก

    ดังเล่าเขาเคยสร้างพระแล้วนำเหรียญหลวงปู่เอี่ยมวัดหนัง กับตะกรุดโสฬส หลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูงที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นตะกรุดอันดับสุดยอดของเมืองไทย หลอมไปด้วยเลย คือไปใส่เองคุมเองไม่งั้นโรงงานชอบอิ๊บ ซึ่งแม้ตอนจะหย่อนโรงงานยังขอซื้อราคาหลักแสนแทนการหย่อน

    ทีนี้สาระสำคัญ ก็สมเป็นผู้มีผงหลวงปู่โตแท้ๆ

    ผมได้มีโอกาสชมตะกรุดที่ทำจากฝาบาตร 2 ท่านเจ้าคุณระดับสุดยอดของเมืองไทย คือหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง และฝาบาตรหลวงปู่ผลวัดหนัง ซึ่งก็แรงกล้าชนิดที่ปราบได้ทศทิศแท้ ๆ

    โดยพี่เขาไปประมูลได้มาโดยถูกต้อง...

    ประเด็นสำคัญ หลวงปู่เอี่ยมดังทราบท่านเป็นเจ้าตำรับพระคาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย หรือคาถามงกุฎพระเจ้านั่นล่ะครับ และเป็นสุดยอดพระเกจิระดับ Top ของประเทศไทย

    สิ่งที่สำคัญที่สุด พี่เขาทราบโครงการถัดไป (โดยรอมวลสารอีกตัวถ้ายังไม่ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ ผมคงต้องไม่ต้องใช้แล้ว)

    จึงได้มอบมวลสารสำคัญสำหรับโครงการถัดไปให้ ซึ่งหลวงปู่เอี่ยมกับหลวงปู่ผล 2 ท่านเจ้าคุณปลุกเสกมาให้แล้ว และพี่เขาได้นำติดพระเครื่องส่วนตัวปลุกเสกมาตลอดสิบกว่าปี (เสกเพิ่มมา 10 กว่าปี)

    มวลสารนี้มีอายุ 90 กว่าปีครับ...


    และได้ทาบทามอาจารย์ฆราวาสที่ระดับพี่เขาเชื่อมือใช้ตะกรุดที่ท่านจารไว้แล้ว ว่าจะขอปลุกเสกปิดท้ายให้อย่างน้อย 1 เดือน ก็คงรอหลังปีใหม่ล่ะครับ เป็นของขวัญปีใหม่เลย

    พี่เขาเล่าว่า "อาจารย์ยังถาม ทำไมมาทำน้อยจัง (แค่ไม่เกิน 20 องค์) ไม่เอามาเยอะ ๆ ล่ะ เพราะจะเสกมากน้อย ค่าของไหว้ครูก็เท่ากัน"

    ผมว่า "ทำเยอะไม่ไหวครับ ปวดบ่า ไม่ได้เหมือนตอนทำพระสมเด็จนะครับ"

    555 ก็นั่นล่ะครับ นับจากตอนได้ผงหลวงปู่โต ผมว่ายินดีมากแล้ว แต่คราวนี้ก็ยินดีด้วยเช่นกัน

    a1f99879bcd35337567593ffa8afd337.jpg

    f3233ba33cb7457f9cc15172b42e78b5.jpg

     
  9. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    7ecc6581d7bbe79e15e199ee80557f1c.jpg
    f3233ba33cb7457f9cc15172b42e78b5-jpg.jpg

    ชันนะโรงที่นิยมนำมาอุดเบี้ยแก้ ปกติก็ถือเป็นของทนสิทธิ์ (ขลังโดยธรรมชาติ) อย่างหนึ่ง

    หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังท่านนำมาอุดพระชัยวัฒน์ของท่าน โดยชันนะโรงถ้ามีอายุมาก ๆ ก็จะแข็งโดยธรรมชาติ เรียกว่าเหมือนยางมะตอยเลย แต่ก็โดนความร้อนหรือตากแดดก็จะอ่อนตัวลง

    ในภาพเป็นของเก่าอายุ 90 กว่าปีเลยครับ ได้มาจากกุฏิหลวงปู่เอี่ยม วัดหนังเลย

    พ่อของพี่เขาเป็นศิษย์ของหลวงปู่ท่าน ผ่านการเสกโดยหลวงปู่เอี่ยมมาแล้วและหลวงปู่ผลด้วย
     
  10. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    f3092f6f8b23af3e93bcbd3a770ebfac.jpg
    2c6f4958fa17967e35b9c66945bc7757.jpg

    โครงการที่คิดกันเองนะครับ ผมกับพี่เขาลงทุนเยอะหน่อย55
    สมเป็นเจ้ากรมหลวงปู่เอี่ยม
     
  11. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    udxbqt-jpg.jpg
    3f0ce26263021fe395241af5635beadc.jpg

    ปลุกเสกครั้งที่ 2 กับตบะ 100 ปี

    ดังความประทับใจในรุ่นมณีรัตนมงคลที่พบท่านครั้งแรก ครั้งนี้ก็ฝ่าสายฝนตกหนักไปเช่นกันที่ภาคตะวันออก

    พอไปถึงวัดฝนตกหนักมาก เข้าไปในกุฏิ ท่านนั่งรออยู่เลยครับองค์เดียว ไม่มีศิษย์ เลยสบายใจหน่อย อย่างแรกก็นำของสำคัญยกถวายท่าน ท่านก็เช่นเดิม

    "ตั้งนะโม" ก็ตั้งนะโมแล้วท่านก็นำกล่าวคำถวายภัตตาหารของบริวาร จากนั้นยกถวาย กรวดน้ำ

    ผมจึงนำพระทั้งหมดขอความเมตตาท่าน โดยแจ้งท่านไปเป็นพระเจ้าห้าพระองค์

    ท่านก็อธิษฐานให้สมดังปรารถนา ดุดันแข็งแกร่งเช่นเดิม แล้วก็กราบลาท่าน

    ก็ไม่ต้องพูดถึงความปลาบปลื้ม ครบถ้วนสมบูรณ์เช่นเดิม เพราะรอบนี้ผมตั้งใจจากรอบก่อนแล้วว่าจะนำนมเอนชัวร์มาถวายท่านด้วย...ได้ทำบุญก่อนปลุกเสกก็ถือว่าดียิ่ง

    หมายเหตุ : มีมวลสารใส่กระปุกเล็ก ๆ ที่จะสร้างในโครงการต่อไปด้วยครับ จะได้แรงๆ ยิ่งขึ้น
     
  12. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    9d4b3bca46d05dfd3704ba754acac7a9.jpg
    92e57da2835b196f681f1c5a1ab457f3.jpg
    e7a7a7dad7abbdf10a1492ee0cbb03cc.jpg

    คิดไว้แล้วต้องมีเหตุการณ์แบบนี้
     
  13. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    e9ed885d202236884c91e16709eff363.jpg

    มวลสารสำหรับโครงการต่อไป ที่ผมรอคอยมา 3 เดือน อีกไม่กี่วันผู้มอบให้จะส่งมาให้ล่ะครับ

    ซึ่งรอมวลสารอื่นๆ เสกพร้อมพระเจ้าห้าพระองค์ครบก็เริ่มดำเนิการได้เลย

    รุ่นนี้จะทำเยอะหน่อยประมาณ 20 องค์ (555 เยอะมาก) มีทั้งแบบฝังตะกรุดทองคำ และตะกรุดเงิน ซึ่งตอนนี้ราคาทองคำก็ขึ้นเอา ๆ

    รุ่นนี้ได้รับการควบคุมคุณภาพโดยอาจารย์ฆราวาสของรุ่นพี่เขาครับ

    8b4d4ee2c9df3a8edd7b0fbc9dca1b06-jpg.jpg

    ดังผมได้เล่า พี่ท่านนี้คือผู้มอบผงหลวงปู่โตให้ผม โดยผมไปรับที่บ้านเขาเองครับ

    คุณพ่อของพี่เขาเป็นศิษย์หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง จึงมีพระหลวงปู่เอี่ยมตกทอดมามาก

    พี่เขาสมัยเด็กก็ไปเป็นเด็กวัดระฆัง นอนกุฏิหลวงปู่หิน หลวงปู่นาควัดระฆังเลย และเคยไปนอนวัดหลวงปู่โต๊ะด้วย

    เมื่อวานคุยกันพี่เขาเล่าสมัยวัยรุ่นก็ใช่ย่อย ยกพวกตีกันบ่อย พี่เขาห้อยหลวงปู่เอี่ยม อีกฝ่ายก็มีอาจารย์ดี เรียกว่า มีด ไม้ครบเครื่องฟันแทงไม่เข้ากันจริง ๆ 55

    พี่เขารู้จักอาจารย์ที่จารตะกรุดในภาพเมื่อ 20 กว่าปีก่อนสมัยอาจารย์เขายังบวชพระอยู่ โดยอาจารย์เขาเรียนวิชามาตั้งแต่ 10 ขวบ เรียนมา 4 สาย

    1.สายท้าวมหาพรหม ที่สร้างเหรียญจักรเพชรอันโด่งดัง

    2.สายเขาอ้อ เป็นศิษย์ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี

    3.สายหลวงปู่ทอง วัดราชโยธา

    4. สาย จ.สุพรรณบุรี

    พี่เขาเล่าว่า รู้จักเพราะมีการนำตะกรุดอาจารย์เขาไปยิงแล้วยิงไม่ออก ขนาดตัดแบ่งครึ่งตะกรุดก็ยังยิงไม่ออก จึงนับถือ

    จนอาจารย์เขาสึกมาเป็นฆราวาสก็ยังขลังไม่คลาย โดยพี่เขาใช้ตะกรุดอาจารย์ท่านนี้มายาวนาน 20 กว่าปี เชื่อมือได้

    รุ่นนี้ยังเป็นแค่โครงการ และไม่มีเปิดจองนะครับ รอให้เสร็จเลย เพราะ plan ไว้ว่าจะนำขอพระเสกให้ก่อน แล้วฆราวาสเสกปิดเป็นเดือน จึงเผื่อหาย เผื่อโดนขอ จึงรอให้เสร็จทีเดียวค่อยเปิดบูชาเลย

    มวลสารสุดท้ายคืออะไร ไว้จะมาเฉลยนะครับ สัมพันธ์กับที่จะสร้าง และผู้เสกปิดแน่นอน นับว่าเหตุบังเอิญไม่มีในโลกจริง ๆ ... ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว..

    บอกใบ้ว่า จะเป็นการลงวิชาพิชัยสงคราม แน่นอน...
     
  14. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    32434984102532259e053ddf49a82c66.jpg
    f3233ba33cb7457f9cc15172b42e78b5-jpg-jpg.jpg

    เม็ดชันนะโรงหลวงปู่เอี่ยม ที่จะฝังด้านหลังพระในโครงการต่อไป...
     
  15. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    77383ed9cd3fbd7e9ac17fd4745f093f.jpg
    7a297c6710b20c167e1ef1dcc22a6283.jpg

    มีดหมอนี้พี่เขากับครูบาอาจารย์วางโครงการไว้ 2 ปีแล้วยังไม่ลงตัว

    จนเขาบอกมาพบผม เลยลงตัวซะที555 ก็หารกันคนละครึ่งครับ แต่ชนวนของพี่เขาล้วน ๆ

    เห็นชนวนผมอ้าปากค้าง ออกอากาศไม่ได้เลย จะตี 5 นิ้วครับได้พกพาง่าย

    การทำไม่ใช่อยากทำก็ทำตามใจ อ้างอิงหลักตำรากันเลย ตั้งแต่
    ด้ามมีดบรรจุตะกรุดประจุขาด

    ผงวิเศษแล้วแต่ครูบาอาจารย์เลย ขึ้นชื่อศิษย์ อาจารย์ชุม ไชยคีรีของดีเยอะอยู่แล้ว

    เหรียญหลวงปู่เอี่ยมจะหลอมทำปลอกรัดตรงฝัก55 (ลงทุนขนาด)

    และอะไรอีกมากมาย ตอนนี้จะรอนัดช่างคุย โดยช่างเป็นคนที่ไว้ใจได้เป็นศิษย์ของพระที่มา
    ฉันเพลบ้านพี่เขา เพื่อมาขอบูชาของดี จึงไม่มีการอิ๊บมวลสารแน่

    โดยจะถวายพระท่าน 1 เล่ม ถวาย อาจารย์ 1 เล่ม

    อ่านถึงตรงนี้ผมจะได้กี่เล่ม อันนี้ยังไม่ลงตัวครับ เน้นมวลสารไม่อิงมาขาย ราคาจึงสูงมาก ๆ เพราะทำน้อย และส่งคนไปดูการหลอมที่อุตรดิตถ์กันเลย

    อย่างที่ผมเคยทำมาก็สูตรตรงกัน การหลอมเหล็กหลายชนิดต้องไปหลอมที่อุตรดิตถ์ เพราะมีโรงหลอม จะไปหลอมเหมือนช่างตีมีดไม่ได้ การหลอมกับการตีคนละอย่างกัน

    และจะใส่ชนวนมวลสารเต็มที่ ตรงนี้ล่ะครับพี่เขากับผมเหมือนกันคือไม่ไว้ใจโรงงาน ไม่ไว้ใจช่างคนอื่น เพราะเราต้องไปดูกับตาเองว่าใส่กันจริงๆ จึงส่งพระกับศิษย์ไปดูกับตากันเลย

    และจะมีการใส่เหล็กน้ำพี้กันด้วยผสมตามสูตรตีดาบฟ้าฟื้น เหล็กเก่าที่เรียกว่าหมดยางแล้วจะหลอมตัวยากจะเปราะก็จะมีสูตรลับทำให้หลอมรวมตัวได้กับชนวนมวลสารอื่น


    ผมจะได้กี่เล่มก็ต้องรอลุ้น ถ้าได้มากก็จะนำออกให้บูชาครับ (มากนี่คงไม่เกิน3) ชนวนมวลสารถ้าออกอากาศเรียกว่าช็อคกันเลย กล้าการันตีไม่ดีจริงผมไม่กล้าลงขันอย่างแพงด้วย ไม่ด้อยกว่ามีดหมอที่เคยสร้างมา....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2021
  16. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    d044a3b02d2ed061f756878833ab3e08.jpg

    ปลุกเสกยกที่ 3

    ผมได้รับการแนะนำจากพรรคพวกว่าหลวงปู่ท่านนี้ "เป็นพระอริยเจ้าที่สูงส่งมาก ๆ"

    ท่านสำเร็จวิชาธรรมกายโดยฝึกกับหลวงพ่อสดมา และเป็นศิษย์สายวัดป่าอย่างหลวงปู่แหวน หลวงปู่พระพุทธบาทตากผ้าฯ ด้วย และยังได้ร่ำเรียนมากับสายขลังอย่างหลวงพ่อกวย สายหลวงปู่กลั่นวัดพระญาติอีกด้วย (เขาว่ามานะผมก็ไม่ได้ถามท่านตรงๆ กลัวคุยนาน)

    ก็เลยเดินทางไป สอบถามชาวบ้านจนได้พบท่าน ก็ตามสูตร ทำบุญถวายของก่อน จากนั้นขอความเมตตาท่านอธิษฐาน โดยแจ้งท่านว่า เป็นพระเจ้าห้าพระองค์ครับ ท่านก็ว่า "พระเจ้าห้าพระองค์ดีๆ มาก"

    ซึ่งก็ผิดคาดอีกครั้ง... ระหว่างท่านอธิษฐานให้ผมก็สะดุ้งเฮือก สูงส่งคืนสู่สามัญอีกท่านจริง ๆ เรียกว่าพอท่านเสกเสร็จต้องหยิบปัจจัยทำบุญเพิ่มทันที555
    "พบช้างเผือกอีกท่านแล้ว" กระแสจิตท่านสูงส่งมาก ๆ พระอริยเจ้าจริงๆ

    ท่านก็ชมว่า "พระสวยงามมาก ๆ เนื้อดี" จากนั้นก็สนทนาพอควรก็เลยลากลับ พร้อมบอกท่านว่า "ว่างๆ จะมาทำบุญด้วยอีกครับ" เป็นอีกที่หนึ่งที่ตั้งใจว่าเป็นเนื้อนาบุญอันยิ่งใหญ่อีกที่ ๆ ต้องมาอีก ยุทธจักรมีเสือมังกรซ่อนกายจริงๆ

    การเสกครั้งนี้เรียกว่าไม่แพ้ครั้งไหน ๆ เพราะกระแสจิตท่านแรงกล้ามากจริงๆ มีความหลากหลายสมกับที่ท่านเรียนวิชามามากมาย เรียกว่าเน้นมหาลาภจริง ๆ ...

    อาทิตย์หน้าจะมาเล่าการปลุกเสกยกที่ 4 ยกสำคัญเพราะผมต้องเดินทางไปถึง 3 ครั้งกว่าจะได้พบ และไปหาท่านติด ๆ กันในวันต่อมาเป็นครั้งที่ 4จนท่านไว้ใจให้เบอร์โทรส่วนตัว พร้อมได้รับรู้ตำนานอีกยิ่งใหญ่ของสายหลักวิชาท่าน จากที่ท่านเล่าให้ผมเอง สาย อาจารย์เฮง ไพรวัลย์ที่ขลังสร้างของมีราคาหลักล้าน และสาย อาจารย์ฟ้อน ดีสว่างที่ท่านร่ำเรียนมาโดยตรง และยังเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่ดู่ด้วย

    โดยครูบาอาจารย์หลักของท่านเป็นศิษย์ อาจารย์ฟ้อน ดีสว่าง ท่านเล่าให้ผมฟังเอง ว่าตอนท่านไปเรียน อาจารย์ท่านหายตัวได้!!!!!!!...

    หมายเหตุ : ไม่รู้ว่าเพราะพระรุ่นนี้ขลังสมชื่อพระเจ้าครอบไตรภพ หรือดวงดี ตั้งแต่สร้างและนำเสกมาจนเกินครึ่งทาง ผมได้พบเรื่องดี ๆ และอัศจรรย์มากมาย เรียกว่า อุปสรรคต่างๆ ที่ค้างคามาตั้งแต่โควิดล่อมา ก็ผ่านพ้นไปได้ อยากเล่ามากแต่ก็เดี๋ยวเป็นการโอ้อวด (แม้ยอดจองจะเต็มแล้วก็เถอะ55) เอาเป็นว่าผู้บูชาเตรียมพบความอัศจรรย์เองได้ครับ พอได้รับพระสิ้นเดือนนี้ก็จะรู้ได้เองว่าผมยกย่องรุ่นนี้มาก...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤศจิกายน 2021
  17. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    52bb8893928b79d57b9e7fa48bd89bcf.jpg

    นี่ก็เป็นเรื่องดีอีกเรื่องที่รอคอย ผมเองเข้าใจว่าตัวเองสร้างมีดมาหลายรุ่นจนเจนจบครบเครื่องแล้ว

    แต่พอเห็นชนวนต้องตัดสินใจลงขันสร้างทันทีแม้ราคาแพงมาก55

    เป็นศาสตร์และศิลป์ที่ไม่เคยพบ ตามหลักวิชาสายท้าวมหาพรหมธาดาที่อาจารย์รุ่นพี่เขาร่ำเรียนมา ซึ่งพี่เขาบอกตอนไปรับจะให้รับกับมืออาจารย์เองเลยค่อยสนทนาสอบถามท่าน...

     
  18. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    ec6185b39937b3d52d0530e65e0b0281.jpg
    ea37aacfb069b94bdd1868777cd2193a.jpg

    อ้างอิงเครดิต http://www.pralanna.com/boardpage.php?topicid=95518

    ฝอยดังกล่าวผมcopy มาจากในเน็ต แต่สรรพคุณการใช้คล้ายกัน

    ตะกรุดมหาบุรุษ 8 จำพวกมีหลายที่ทำมา ซึ่งโดยหลักคือลาภผลดึงคนเข้ามา

    ผมพึ่งคุยกับพี่เขาเมื่อวานเลยเข้าใจ จริง ๆ หลายวันก่อนผมพึ่งบูชาจากพี่เขามาดอกนึงเพราะกระแสพลังต่างจากแนวทางที่พี่เขาโชว์ตะกรุดให้ดู เพราะโดยหลักสายวิชาอาจารย์เขาเน้นมหาอุตม์ พิชัยสงครามป้องกันภัย แต่ตะกรุดนี้ต่างไปเลยเข้าใจภายหลังที่เขาอธิบายว่า คือ ตะกรุดมหาบุรุษ8จำพวก

    พี่เขาบอกไม่ค่อยอยากโชว์มาก เพราะหลายคนดูพลังจากภาพได้ชอบมาวอแว 555

    b33c2026fe7a3b6378613c6dbf5eae94.jpg

    ในภาพคือที่ผมบูชามาครับเป็นตะกรุดเงิน โดยใช้เงินหลายอย่างหลอมรีด เช่นตะกรุดเงิน เหรียญเงินเก่าของ อาจารย์ชุมมาหลอมทำ โดยลงแบบย่อให้ดอกเล็ก

    ตอนนี้ผมเอาไปฝังหลังพระผงไว้เป็นของประจำตัวไป55

    ทีนี้ เรื่องมันเชื่อมโยงตามที่เขาพูดถึงวันก่อนว่า...

    7a297c6710b20c167e1ef1dcc22a6283-jpg.jpg

    มีศิษย์จะขออาจารย์ท่านทำตะกรุดมหาบุรุษ 8 จำพวกให้

    ซึ่งในสูตรเต็มจะต้องทำ 2 แผ่นคือ ยันต์ตัวผู้และตัวเมีย โดยตัวผู้ใช้แผ่นทองคำ ตัวเมียใช้แผ่นเงิน แล้วม้วนซ้อนกัน 2 ดอก ตัวผู้ทับตัวเมีย

    ตะกรุดนี้ในแต่อดีตอาจารย์เคยทำไว้แจกลูกหลาน สรรพคุณมีมากมายแต่ที่ได้ผลคือ...

    หากใครอยากขายที่ดิน อาจารย์ให้นำตะกรุดใส่กล่องพลาสติกแล้วไปฝังกลางที่ดินไว้ ซึ่งก็ได้ผลจะขายได้ แต่...พอขายได้เสร็จให้ไปขุดนำตะกรุดมาคืนอาจารย์ (อย่าเผลอฝังลืมเสียดายของคนซื้อเฮเลย..55)

    ปัญหาตะกรุดนี้ทำไว้ขนาดเล็กประมาณ 1-1.5 นิ้ว ปัจจุบันอาจารย์ท่านบอก สายตาไม่ค่อยดีเนื่องจากอายุมากแล้วเลยไม่อยากทำ และอีกประเด็นมันทำยาก ด้วยเวลาจารแนวเมตตาโชคลาภใช้พลังจิตสูง ต่างจากคงกระพันมหาอุดใช้พลังจิตง่ายกว่า

    พูดง่ายๆ ก็ตามเคยได้ยินมา คงกระพันทำง่ายแต่เมตตามหาลาภทำยาก

    ผมไม่แปลกใจเพราะพระเก่งๆ มักจะ want อยากได้ลาภกันจังแฮะ55แต่ส่วนใหญ่ยิ่งโลภมักจะลาภหาย..

    ทีนี้พี่เขาเล่า เลยเสนอขอให้ทำอีกแต่อาจารย์ยังไม่อยากทำ แม้พี่เขาจะเสนอแบบเด็ด ๆ คือจะเอาเงินพดด้วงที่พี่เขาสะสมมาหลอมรีดทำ อาจารย์ว่า "อย่าเลยเสียดายของ"

    ส่วนแผ่นยันต์ตัวผู้ที่ต้องใช้แผ่นทองคำ ตอนนี้ทองแพงจะใช้วิธีนำแผ่นเงินชนวนไปทำกะไหล่ทอง ซึ่งอาจารย์ก็ว่าได้อยู่ แต่ต้องจารเสร็จไปทำกะไหล่ทอง ไม่งั้นทำกะไหล่มาจาร ตรงอักขระทองจะหลุดออกผิดสูตรไป...

    ประเด็นนี้ผมได้ความรู้ว่า การเปียกทอง กะไหล่ทอง กับชุบทองมันต่างกัน...

    ต่างกันด้วยวิธีการและผลที่ออกมา คือชุบทองจะคล้ายทองคำมากกว่า แต่การทำกะไหล่ทองจะออกแดง ๆ คล้ายทองโบราณซึ่งดูคลาสสิค

    แต่นี้สรุป พี่เขาว่ารออาจารย์จะให้ทำค่อยว่ากัน...

    ผมเองก็ว่า หากตะกรุดนี้ได้ทำ นับว่าเข้ากับสถานการณ์เลย55 เพราะเงินพดด้วงแท้ ๆ ที่พี่เขามีก็หายากและราคาแพง และตามเคล็ดเลย

    พวกเงินเก่านี่ปกติผู้เรืองวิชานิยมเอาไปทำหวย หาเลขกันด้วย555
     
  19. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    62df3e8ac62d179bbdabebec14b3c815.jpg

    ออกไปแต่เช้าพึ่งกลับถึงที่พัก โม้กันสนั่นหวั่นไหว

    ผมไปธุระทำบุญช่วงเช้าพอใกล้ ๆ เที่ยงถามพี่ที่มอบผงหลวงปู่โต เพื่อคุยธุระเรื่องมีดหมอ

    0052717bfccf442481d6bf914ba07a06.jpg

    สุดท้ายโม้กันยาวตั้งแต่ 11 โมงฟาดไปถึงเกือบ 6 โมงเย็นไม่มีพักเบรค

    จนต้องตัดบทจะหกโมงแล้วครับ 555 ลากลับไม่งั้นยาว

    ในภาพแค่ชนวนมีดบางส่วนนะเรียกว่าถ้ารู้ที่มาแทบช็อค "ไม่ด้อยกว่ามีดที่เคยสร้างมา"

    โดยผมได้มีโอกาสคุยโทรศัพท์กับอาจารย์ท่านด้วย พอดีท่านมีธุระไม่งั้นคงได้พบตัวจริง

    ตามพี่เขาเล่าตอนพบอาจารย์ครั้งแรกจากพรรคพวกบอกลองยิงตะกรุดรุ่นแรก โดยตัดแบ่งครึ่งยิงยังยิงไม่ออก พอพยายามสุดท้ายปืนแตก ปืนพัง

    20 กว่าปีจึงใช้แต่ตะกรุดท่านและไม่มีการไปให้พระอื่นเสกทับเลย ด้วยเหตุผลว่า "ของดีตามตำราอยู่แล้ว"

    และผมพึ่งแน่แก่ใจ ผงหลวงปู่โตที่มาสร้างพระ 3 รุ่นที่ผ่านมาและรอรุ่น 4 รุ่นพระเจ้าห้าพระองค์

    พี่เขาเสกมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี เรียกว่าถ้านับพระเกจิอาจารย์ไม่ถึงร้อยองค์แต่ก็เกือบ ๆ 555

    ยังนำภาพที่มีมาให้ผมชม บางท่านพี่เขาไปฝากเสกเป็นพรรษา

    ผมว่ามิน่าถึงแรงได้ใจ เรียกว่า สายเสกข้ามชาติยังต้องถอย เพราะเล่นเสกเป็น 10 ปี

    มีระดับพระมีบารมีระดับสมเด็จก็หลายท่าน เรียกว่าขอให้เสกตะกรุดจักรพรรดิ์ได้เลย คือพระมีบารมีสูง

     
  20. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +54,545
    แม้ขณะนั่งโม้มีเสริฟน้ำชา แต่ก็ดื่มแต่น้ำ สุดท้ายลากลับมาหิวปางตาย เกือบปวดท้องกระเพาะถามหา55 อดโซไปห้างกิน 2 ชามเลยครับ

    สาระความรู้มีมากมาย

    0052717bfccf442481d6bf914ba07a06-jpg.jpg

    ถ้ารู้ที่มามีกรี๊ดสนั่น เพราะเรียกว่า เหล็กบางชิ้นอย่าได้หาตามวัดวาทั่วไป ซึ่งเสาร์นี้พี่เขากับอาจารย์จะไปคุยกับช่างแล้ว

    โดยพระที่เราจะมอบมีดให้ท่านจะไปคุมเองถึงอุตรดิตถ์ แล้วมาว่ากันเรื่องเสกกันอีกที...

    แน่นอน เสกเดี่ยวโดยอาจารย์ฆราวาสก่อน ส่วนเจ้าของจะไปเพิ่มไรแล้วแต่ แต่คงไม่กล้าไปเพิ่ม...

    ผมยังยุให้เอามีดหลวงพ่อเดิมใส่ไปด้วยเลย55

    มาว่ากันเรื่องตะกรุดมหาบุรุษ 8 จำพวกค่อยว่ากันเมื่อได้พบอาจารย์เอง

    สำหรับพระปิดตามหาอุตม์ พิชัยสงครามได้ทาบทามท่านไว้แล้ว ไม่แน่ก่อนสิ้นปีอาจเปิดจองจัดส่งหลังปีใหม่

    ซึ่งสำหรับคุณวิเศษของอาจารย์ท่านที่ทำให้พี่เขาขนาดใช้แต่ตะกรุดอาจารย์เสกเดี่ยวไม่มีเสกทับโดยผู้อื่นก็มีมากมาย

    อย่าว่ากันเรื่องยิงไม่ออก เอาด้านเมตตา มหาลาภ ก็ทำได้ครบ..และเห็นผล

    ไม่นับคุณวิเศษอื่นๆ เช่นการพยากรณ์ ทายทักอื่นๆ อีกมาก...
     

แชร์หน้านี้

Loading...