บันทึกของพระคุณลุงคนเชียงใหม่ถึงหลานๆ เรื่องภัยพิบัติ

พี่เขาน่าจะเป็นการcopyมาจากอินเตอร์เนตครับ
ลาองค้นหาคำว่าชินบัญชรคาถา ก็จะพบเรื่องเนื้อเรื่องที่ว่านี้ึครับ
ไม่น่าจะเป็นการแต่งเองครับ

 

กำเนิดพระคาถาชินบัญชร

​

กำเนิดพระคาถาชินบัญชร​

เรียบเรียงโดยคุณปัญญา นี้ได้คัดลอกมาจากหนังสือ พระคาถาชินบัญชร
จากรายการชินบัญชรทางวิทยุ นานแล้ว ก็ขอจะเล่าประวัติดังนี้​

เมื่อครั้งนั้น สมเด็จ (โต) ได้มีโอกาสเดิทางไปยัง จังหวัดกำแพงเพชร ท่านได้เดินทางไปที่วัดเก่าแห่งหนึ่งซึ่งมีกรุโบราณ ที่นั่นท่านได้พบคัมภีร์โบราณผูกหนึ่งฝังอยู่ในเจดีย์หัก สมเด็จจึงนำคัมภีร์ผูกนั้นมาเก็บไว้ที่กุฏิ ขณะนั้นสมเด็จ (โต) ท่านมีจิตดำริที่จะสร้างพระเครื่องเพื่อมอบให้แก่เจ้าปิยะ (ร.5) หรือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นสมบัติในยุคสมัยครองราชย์​

ระหว่างครุ่นคิดสมเด็จ (โต) ท่านก็ได้จำวัดหลับไป ในคืนนั้นราวๆประมาณตี 3 สมเด็จ (โต) ได้นิมิตว่าท่านได้ตื่นขึ้น เห็นชายหนุ่มรูปงามรูปหนึ่งมายืนอยู่ที่หัวนอนในชุดนุ่งขาวห่มขาว มีรูปลักษณ์งดงามหาที่ติมิได้เลย สมเด็จ(โต) ท่านก็มองขึ้นตามกำหนดของจิต ทราบว่าหนุ่มรูปงามนี้คงจะไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน​

สมเด็จ (โต) จึงถามว่า "ท่านผู้เจริญ การที่อาตมาได้มีโอกาสชมท่านนับว่าเป็นขวัญตาเหลือเกิน ท่านมาในสถานที่แห่งนี้ มีสิ่งใดที่อาตมาปฏิบัติผิดพลาดในหลักพระพุทธศาสนาเล่า ? ขอให้ท่านจงประสาทประทานการสอนให้อาตมาแจ่มแจ้งในพระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธ เจ้าเถิด" ชายหนุ่มผู้นั้นจึงกล่าวขึ้นด้วยคำพูดที่เย็นกังวาน "ท่านโต วิธีการที่ท่านดำเนินงานอยู่นี้คล้ายกับองค์สมณะโคดมอยู่ แต่การที่ท่านคิดจะสร้างพระให้เป็นสิ่งที่ระลึกของมนุษย์นั้น สร้างแล้วสิ่งนั้นจะต้องดี ท่านโตเชื่อในเรื่องวิญญาณ เพราะฉะนั้นควรจะปฏิบัติตามกฏของโลกวิญญาณ คือวิธีการตั้งให้ถูกหลักการในการปลุกเสก"​

สมเด็จ(โต) ท่านจึงกล่าวว่า "ท่านผู้เจริญ ขรัวโตนี้รับฟังความคิดเห็นของทุกคนหากแม้นท่านโปรดข้านี้ ขอได้โปรดบอกมาเถิด จะด่าว่าตักเตือนเราก็ไม่ว่า" หนุ่มรูปงามผู้มีความสงบแลดูเป็นที่เลื่อมใส จึงได้แนะวิธีการต่างๆในเรื่องทิศทางว่าทิศใดเป็นทิศมงคล ในการวาง เทียน ธูป ดอกไม้ เทียนชัย ให้ตรงตามหลักของกฏระเบียบแห่งโลกวิญญาณ เรียกว่าเทวบัญญัติ หรือพรหมบัญญัติ ​

ระหว่างนั้นสมเด็จ (โต) ยังคุมสติสัมปชัญญะอยู่ทุกเมื่อ จึงได้ถามหนุ่มรูปงามนั้นว่า "ท่านผู้รูปงามท่านนี้มีนามว่ากระไรหรอ?"
"หม่อมฉันนี้คือลูกศิษย์องค์พระโมคคัลลานะ หม่อมฉันสำเร็จเป็นอรหันต์เมื่ออายุ 7 ขวบ แต่ด้วยทิ้งสังขารก่อนอายุขัยจึงมิได้สู่แดนอรหันต์ คงยังอยู่ในแดนพรหมโลก เพราะหม่อมฉันไม่อยากติดสตรีมิชอบสตรี เพราะสตรีทำลายพรหมจารีย์ของหม่อมฉัน หม่อมฉันจึงทิ้งสังขารก่อนอายุขัย ทางโลกวิญญาณถือว่าสิ้นก่อนอายุขัย จึงอยู่รูปพรหม ​

ถ้าท่านโตต้องการปรึกษาจากหม่อมฉัน ก็จงระลึกถึง"ชินนะบัญชะระ" มานพหนุ่มรูปงามกล่าวต่อสมเด็จ (โต) อย่างสำรวม
ต่อมาไม่ว่าสมเด็จ (โต) จะทำงานสิ่งใด จึงมักระลึกถึง ท่านท้าวมหาพรหมชินนะบัญจะระทีไร ท่านก็ปรากฎร่างทันที ช่วยเหลือสมเด็จ (โต) ประกอบพิธีต่างๆ จึงทำให้เครื่องรางของขลังของสมเด็จ (โต) มีความศักดิ์สิทธิ์มาก​

สมเด็จ (โต) ท่านปลุกเสกพระสมเด็จรุ่นสุดท้าย 84,000 องค์ เรียกว่าสมเด็จอิทธิเจ ท่านได้แปลคาถาจากคัมภีร์ ซึ่งท่านพบจากกรุวัดที่กำแพงเพชร ซึ่งคัมภร์นั้นเขียนด้วยภาษาสิงหลได้ความบ้าง มิได้ความบ้าง จับใจความได้ว่าเป็นชื่ออรหันต์แปดสิบองค์ จึงได้ตัดต่อแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อง่ายต่อการสวด จึงแปลใหม่ได้ความว่า "คาถาชินบัญชร" ซึ่งตรงกับชื่อท่านท้าวมหาพรหมชินนะบัญชะระ สมเด็จ (โต) ท่านจึงถือคาถาบทนี้เป็นการเทิดทูนท่านท้าวมหาพรหมชินนะบัญชะระ ที่ท่านได้ช่วยเหลือตลอดมา และพระคาถาบทนี้เป็นบทสวดในการนั่งปลุกเสกพระอิทธิเจรุ่นสุดท้าย ซึ่งสมเด็จ (โต) ท่านนั่งปลุกเสกอยู่เพียงผู้เดียว ​

อนุโมทนาที่มาข้อมูล และภาพประกอบ
http://www.luangputo.com/Menu02/Menu01.htm​

 

เมื่อ โลกมนุษย์จะเกิดกลียุคหลังพุทธศาสนาผ่านไปแล้ว ๒,๕๐๐ ปี ต่อมาดวงวิญญาณบริสุทธิ์ ๓ พระองค์
ได้รับการอาราธนาให้มาเป็นท่านบรมครูในการร่วมทำงานช่วยมนุษย์ คือ




​

หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด
ในอดีตทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราชคูรูปาจารย์แห่งกรุงอโยธยา ในรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ แต่ได้หลีกเร้นไปปฎิบัติธรรมที่น้ำตกทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และสถานที่แห่งอื่น เช่น เกาะแก้วพิสดาร จังหวัดภูเก็ต จนบรรลุอนาคตังสาญาณ (ความหยั่งรู้ผลที่จะเกิดสืบต่อไปได้) ครั้นทิ้งสังขารจากโลกมนษย์ได้ไปบำเพ็ญโพธิสัตวบารมีที่โลกวิญญาณ เพราะได้ตั้ง ปณิธานเป็นสัมมาสัมพระพุทธเจ้า สืบต่อจากพระบรมโพธิสัตว์ศรีอริยเมตไตรย ปัจจุบันดวงพระวิญญาณสถิตบนสวรรค์ชั้นดุสิต

​

​

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี
อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ได้รับการยกย่องเป็นพระอมตเถระแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อทิ้งสังขารจากโลกมนุษย์ได้สถิตอยู่พรหมโลกชั้น ๑ ปัจจุบันเป็นพรหมชั้น ๑๖ บำเพ็ญโพธิสัตว์บารมีเพื่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สืบต่อหลวงปู่ทวด เหยี่ยบน้ำทะเลจืด

ท้าวมหาพรหมชินะปัญชะระ
เป็นศิษย์ของพระโมคัลลานะ (อัครสาวกเบื้องซ้าย ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เอตทัคคะทางมีฤทธิ์มาก) ได้สำเร็จอรหันต์ผลเมื่ออายุ ๗ ขวบ แต่ได้ทิ้งสังขารไปอยู่พรหมโลกเมื่ออายุ ๒๓ ปี ๖ เดือน ปัจจุบันเป็นหัวหน้ารูปพรหม ๑๖ ชั้น เจ้าพิธีการแห่งโลกวิญญาณ ผู้พิชิตมาร
​

ขอขอบคุณ และขออนุโมทนา
สำหรับข้อมูลทั้งหลายที่ทุกท่านได้จัดทำขึ้น
ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
webmaster@luangputo.com

​

อนุโมทนาที่มาข้อมูล และภาพประกอบ
http://www.luangputo.com/Menu02/Menu01.htm​

 

เรื่องที่มาของคาถา ผมไม่ติดใจอะไรนะครับ
แต่พระอรหันต์ ละสังขารแล้ว
ไปเกิดเป็นพรหมนี่สิ

จะเป็นหนึ่งในหลายๆ สาเหตุ
ที่ทำความเสื่อมให้แก่พุทธศาสนา

 

ครับที่จริงแล้วด้วยเจตนาอันดีแล้วผมขอชื่นชมครับและขอรับความหวังดีทุกประการด้วยใจแต่เรื่องที่เป็นเนื้อหาและแนวทางที่เป็นของศาสนาแล้วให้ระวังในการนำเสนอด้วยครับเพราะในเวปแห่งนี้มีทั้งผู้ที่รู้จริงและผู้ที่ไม่รู้จริง(มีเยอะกว่า)..ไม่เช่นนั้นคนที่นำเสนอจะเป็นผู้มีส่วนร่วมในการทำลายคำสอนของพระพุทธเจ้าไป..บาปโทษที่เกิดขึ้นโดยรู้เท่าไม่ถึงการก็มีอยู่น่ะครับไม่ใช่ว่าไม่มี...ถ้าจิตถึงพระอรหัตแล้วก็หมดเชื่อแห่งกิเลสแล้วเมื่อละสังขารไปแล้วก็นิพพานจะไม่มีเหลือเชื้อให้ได้ไปเกิดอีกแล้วแม้ว่าในภพภูมิใดแต่ไม่สูญแต่นั้นจะอยู่ที่ใดพระอรหัตเท่านั้นที่รู้...

 

ใครสามารถที่จะเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านพุทธบุตรได้บ้างค่ะ อยู่อำเภอ-จังหวัดอะไรค่ะ
ถึงเวลานั้นจะพยายามไป(ถือเป็นจุดหมายปลายทาง)ให้ถึงค่ะ
ขอบคุณมากๆๆสำหรับข้อมูล

 

<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="Post 5280159" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>บุญญสิกขา</TD><TD class=alt1>

เมื่อ โลกมนุษย์จะเกิดกลียุคหลังพุทธศาสนาผ่านไปแล้ว ๒,๕๐๐ ปี ต่อมาดวงวิญญาณบริสุทธิ์ ๓ พระองค์ ​

ได้รับการอาราธนาให้มาเป็นท่านบรมครูในการร่วมทำงานช่วยมนุษย์ คือ​

​

หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด
ในอดีตทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราชคูรูปาจารย์แห่งกรุงอโยธยา ในรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ แต่ได้หลีกเร้นไปปฎิบัติธรรมที่น้ำตกทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และสถานที่แห่งอื่น เช่น เกาะแก้วพิสดาร จังหวัดภูเก็ต จนบรรลุอนาคตังสาญาณ (ความหยั่งรู้ผลที่จะเกิดสืบต่อไปได้) ครั้นทิ้งสังขารจากโลกมนษย์ได้ไปบำเพ็ญโพธิสัตวบารมีที่โลกวิญญาณ เพราะได้ตั้ง ปณิธานเป็นสัมมาสัมพระพุทธเจ้า สืบต่อจากพระบรมโพธิสัตว์ศรีอริยเมตไตรย ปัจจุบันดวงพระวิญญาณสถิตบนสวรรค์ชั้นดุสิต ​

​

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี
อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม ได้รับการยกย่องเป็นพระอมตเถระแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อทิ้งสังขารจากโลกมนุษย์ได้สถิตอยู่พรหมโลกชั้น ๑ ปัจจุบันเป็นพรหมชั้น ๑๖ บำเพ็ญโพธิสัตว์บารมีเพื่อเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สืบต่อหลวงปู่ทวด เหยี่ยบน้ำทะเลจืด ​

ท้าวมหาพรหมชินะปัญชะระ
เป็นศิษย์ของพระโมคัลลานะ (อัครสาวกเบื้องซ้าย ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เอตทัคคะทางมีฤทธิ์มาก) ได้สำเร็จอรหันต์ผลเมื่ออายุ ๗ ขวบ แต่ได้ทิ้งสังขารไปอยู่พรหมโลกเมื่ออายุ ๒๓ ปี ๖ เดือน ปัจจุบันเป็นหัวหน้ารูปพรหม ๑๖ ชั้น เจ้าพิธีการแห่งโลกวิญญาณ ผู้พิชิตมาร​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR title="Post 5280004" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125></TD><TD class=alt1>อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ mon_kasem
สวนอีกบท
บทชินบัญชร
----------------------------------------
ในอดีตกาลครั้งองค์สมณะโคดมเจ้า ทรงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ครานั้นอัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวาของพระพุทธองค์ คือ พระโมคคัลลานะ ผู้เลิศในอิทธิฤทธิ์ และพระสารีบุตรผู้เลิศในปัญญา ณ แคว้นพาราณสี ปรากฏเด็กน้อยนามว่า ชินนะ บุตรของมะติโตพราหมณ์ และนางยะถานาพราหมณ์ โคตรบัญจะระ เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาแห่งองค์พระศาสดาแต่ครั้งเยาว์วัย ได้บวชเป็นสามเณร และเป็นศิษย์ของพระโมคคัลลานะ สามเณรชินนะ ทรงภูมิปัญญาเป็นที่เฉลียดฉลาดเป็นยิ่ง ศรัทธาในการบิณฑบาตอย่างสงบขยันหมั่นเพียรเป็นนิจ ครั้นอายุได้เพียง 7 ขวบก็สำเร็จอรหันต์

สามเณร ชินนะ บัญชะระ นับว่ามีรูปงาม เสียงไพเราะ รู้พิธี เจ้าระเบียบ รอบคอบด้วยความสะอาด ตั้งอยู่ในศีลาจาวัตรอันงดงาม
ครั้นย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม รูปร่างของท่านชินนะ บัญจะระ ยิ่งสวยสดงดงาม ผิวขาวละเอียดประดุจหยก หน้าแดงระเรื่อสีชมพู คิ้วโก่งดังคันศร ไว้เกษาเกล้าจุก เยื้องย่างสง่างามประดุจราชสีห์ ด้วยรูปงามเป็นที่ต้องตาต้องใจของสตรีเพศ จึงมีสตรีเพศต่างหลงใหลในตัวของท่านชินนะเป็นอย่างยิ่ง ด้วยท่านชินนะนั้นยึดพรหมจรรย์เป็นสรณะจึงมีแต่ความสงบ

แล้ววันหนึ่ง ขณะที่ท่านชินนะได้ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ ได้มีหญิงผู้หนึ่งซึ่งแอบหลงรักท่านชินนะ มิอาจยับยั้งใจเอาไว้ได้จึงได้โผผวาเข้ากอดท่านชินนะอย่างลืมตัว ท่านชินนะ เห็นอาการของผู้หญิงคนนั้นกระทำแก่ท่านดังนี้ก็บังเกิดความสังเวชอย่างใหญ่ หลวง อันพรหมจรรย์ของท่านต้องมาแปดเปื้อนเสียดังนี้ ความยึดมั่นในพรหมจรรย์ของท่านต้องมาสะบั้นลง ท่านจึงดำริขึ้นว่า "ตัวท่านนี้มีรูปงามเช่นนี้ย่อมก่อให้เกิดอกุศลกรรมแก่อิตถีเพศ เป็นการสร้างบาปให้เกิดขึ้นด้วยมีกายรูปนี้เป็นเหตุ จะมีสักเท่าใดกันหนอที่ปรารถนาล่วงพรหมจรรย์ของท่านเช่นผู้หญิงคนนี้.."

ท่านชินนะ คิดดังนี้ เห็นกายเป็นเหตุ กายทำให้พรหมจรรย์จิตเสื่อมสลาย กายก่ออกุศลจิตให้เกิดเป็นบาปกับอิตถีเพศผู้ยังมัวเมาในรูป ท่านจึงถอดกายทิพย์ออกจากร่าง ทิ้งสังขารไว้เมื่อยังไม่ถึงกาล เมื่ออายุท่านเพียง 23 ปี 6 เดือน กายทิพย์ของท่านจึงไปได้แค่ชั้นพรหมโลก



</TD></TR></TBODY></TABLE>



</TD></TR></TBODY></TABLE>ผม ใด้อ่านประวัติ องค์ท่านท้าวมหาพรหมชินะปัญชะระ มาเช่นนี้ เหมือนกันครับ แต่ ความจริงจะเป็น อย่างใด ไม่อาจจะ ทราบใด เพราะ เท่าที่ เรา เรา ทราบกันนั้น เมื่อใดสำเร็จ ซึ่ง พระอรหันต์ แล้ว จะ เข้าสู่ ...

แต่ อย่าลืม ว่า..
ผม บวช ในปี 2548 ที่ อ.คุระบุรี พังงา จากนั้น ตาม ปฏิบัติ และ ภาวนา กับ หลวงปู่สุภา กันตสีโล จากวัด สิริสีลสุภาราม ไป ที่วัด คอนสวรรค์ สกลคร มาตุภูมิ หลวงปู่
(ขณะนี้ หลวงปู่สุภา จำเริญศิริวัฒนะที่ 116 ปี เมื่อ 17 กันยา 2554 )

ผม ขณะ บวช ใด้ กราบเรียนหลวงปู่สุภา เรื่อง ภาพของ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ...
หลวงปู่สุภา ท่าน เมตตา กล่าวว่า
ท่านปาน ท่านยังอยู่ นะ อยู่ที่ ภูควาย ดินแดน อรหันต์ เจ้า ควร ไปกราบท่านซึ่งอาจารย์ เจ้า
ขณะนั้น มี พระหลวงพี่ ประเสริฐ บวชมา ในปี 2548 ใด้ 13 พรรษา อยู่พร้อมด้วย พร้อมทั้ง ที่ผม กราบเรียน หลวงปู่สุภา ในการปักกลด ที่เมื่องเก่าใด้ไหม...

ฉนั้น..
ท่านพิจารณา ด้วย ปัญญาเถิด

และ มีประวัติ ที่ หลวงปู่ สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ท่าน มาเรียน วิชาถอดจิต ที่ภูเก็ตกับ หลวงปู่ รอด ผู้ก่อสร้าง วัด โฆษิตวิหาร ที่ภูเก็ต

หลวงปู่ คล้าย วาจาสิทธ์ วัดสวนขันธ์ นครศรีธรรมราช ท่าน เมตตานำคณะศิษยานุศิษย์ สร้าง มณฑป ครอบ รอยพระพุทธบาท นัมทานที รอยที่ ๕ ที่เกาะแก้วพิสดาร ภูเก็ต

แม้แต่ ว่า ...
หลวงปู่สุภา ท่าน เมตตา กล่าวว่า

เราจะไปดู พระอายุ 200 ปี ที่พระอายุ 200 ปี มาปรากฏ อยู่พัก อยู่ใต้ฐาน พระพุทธปางประทานพร องค์ใหญ่ ที่ สำนักสงฆ์เทพขจรกิจ ภูเก็ต

( ขณะนั้น หลวงปู่สุภา ท่านจำวัด ที่ ห้องพัก ของ ท่าน ที่ สำนักสงฆ์เทพขจรกิจ ภูเก็ต )

หลวงพ่อใหญ่ ประทานพร วัดเขารังสามัคคี (สำนักสงฆ์เทพขจรกิจ วัดที่ 2 ที่ หลวงปู่สุภา ท่าน จำ และสร้าง ในภูเก็ต )

มีสิ่งใด ที่ เรา เรา มนุษย์ ยัง ไม่ทราบ ความจริง อีกมาก มาย พระอรหันต์ ด้วยกัน เท่ากันที่ ท่านจะ ทราบ เพียงแต่ ท่าน จะ เมตตา ...
แม้ แต่ หลายปี ที่ผ่านมา ผม นั่งภาวนา วัด หลวงปู่สุภา ภูเก็ต จน กระทั่ง ใด้ยันต์ ๔ มา จนกระทั่ง เพื่อนทหาร ของน้องสาว นำพา ไปเจอ ญาติธรรม ด้วยกัน ๔ ท่าน ( เจอ เพียง ๓ ท่าน ) อีกท่าน บวช อยู่ ที่ นครศรีธรรมราช นัยยะ สถานที่ องค์พ่อตากสิน ..

http://palungjit.org/threads/มหานาค...ทีพระพุทธบาท-up-น-15-ว-สื่อสาร.124284/page-26

 

พระพุทธเจ้าไม่เคยทรงอธิบายว่า พระอรหันต์ผู้บรรลุนิพพานเมื่อดับขันธ์แล้วจะอยู่ในสภาพเช่นใด การอธิบายทำได้ในลักษณะเพียงว่า นิพพานคือการดับทุกข์ สิ้นตัณหา เหมือนไฟที่ดับจนสิ้นเชื้อไม่สามารถที่จะลุกลามขึ้นมาได้อีก สำหรับพระอรหันต์ที่ปรินิพพานแล้วนั้น พระพุทธองค์ไม่ทรงตรัสยืนยันถึงความมีอยู่หรือความดับสูญ พระองค์ตรัสแต่เพียงว่า เมื่อพระองค์ปรินิพพานแล้ว ทั้งเทวดาและมนุษย์จะไม่สามารถเห็นพระองค์อีกต่อไป

"ดูกร ภิกษุทั้งหลาย กายของตถาคต มีตัณหาอันนำไปสู่ภพขาดแล้ว ยังดำรงอยู่ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักเห็นตถาคตชั่วเวลาที่กายของตถาคตยังดำรงอยู่ เมื่อกายแตกสิ้นชีพแล้ว เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายจักไม่เห็นตถาคต" (ที.สี.14/90)

ในคำสอนพระพุทธศาสนา ไม่มีอัตตาใดเข้าสู่นิพพาน และไม่มีอัตตาดับสูญในภาวะแห่งนิพพาน แม้ในโลกแห่งปรากฏการณ์ เบื้องหลังเบญจขันธ์อันไม่เที่ยงนั้น ก็มิได้มีอัตตาซึ่งเป็นผู้รับรู้หรือเป็นพื้นฐานแห่งตัวตนที่เที่ยงแท้อยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกอยู่ในรูปของกระบวนการที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ทั้งรูปธรรมและนามธรรม

กระบวนการแห่งนามรูปที่สมมติว่าเป็น ตัวตน สัตว์ บุคคล เราเขา นี้ เมื่อวิวัฒนาการไปจนกระทั่งถึงที่สุด ความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปก็เป็นอันยุติลง สภาพความสิ้นสุดกระบวนการแห่งนามรูปที่ไม่เที่ยงแปรปรวนอยู่ทุกขณะนี้ เรียกว่านิพพาน เมื่อรูปและนามดับ นิพพานจึงไม่ใช่ทั้งจิตและสสารซึ่งต้องอาศัยเหตุปัจจัยในการดำรงอยู่ พระนิพพานตั้งอยู่โดยไม่ต้องอาศัยเหตุปัจจัย จึงเรียกว่า อสังขตธรรม

ในพระไตรปิฎกมักเปรียบนิพพานว่าเหมือนกับไฟที่ดับแล้ว ไม่สามารถบอกได้ว่าไฟที่ดับไปนั้นหายไปไหนหรืออยู่ในสภาพใด...

 

จะเป็นการรบกวนมั้ยคะ
อยากได้แปลนตู้คอนเทนเนอร์
ว่าจัดวางอย่างไร เสริมเหล็กอย่างไร
ขนาดเท่าไหร่ และจุได้กี่คนน่ะค่ะ

 

--------------------------------------------------------------
ใกล้บริษัทที่ผมทำงานอยู่มีโรงงานที่สร้างตู้คอนเทนเนอร์ออฟฟิช
ผมได้ติดตามทางเลือกที่พระคุณลุงได้วางไว้ให้หลานๆให้ใช้ตู้คอนเทนเนอร์
อันนี้น่าสนใจนะครับ เพราะราคาไนการซื้อไม่แพง
มีความแข็งแรงเพราะโครงสร้างหลักเป็นเหล็ก และการผลิตต้องผ่านมาตราฐาน
ไม่อย่างนั้นไม่สามารถผ่านมามาตราฐานการบรรจุสินค้าเพื่อส่งต่างประเทศได้
ผมแอบไปถามราคา ตามประสาคนเบี้ยน้อยหอยน้อย น่าสนใจมากนะครับ
******************************************
ขายตู้คอนเทนเนอร์มือสอง ขนาด 20 ฟุต 40 ฟุต 40 HC
ตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงเป็นออฟฟิตเคลื่อนที่ หรือ ทำเป็นบ้านพักคนงาน
และ รับสั่งทำตามความต้องการและงบประมาณของลูกค้า ราคากันเองครับ

รายละเอียดเกี่ยวกับราคา
20 ฟุต ราคา 57,000 - 70,000 บาท ตั้งแต่เกรดธรรมดาถึงเกรดเอ
40 ฟุต ราคา 90,000 - 110,000 บาท ตั้งแต่เกรดธรรมดาถึงเกรดเอ
40 HC ราคา 100,000 - 120,000 บาท ตั้งแต่เกรดธรรมดาถึงเกรดเอ

ตู้คอนเทนเนอร์ออฟฟิต 20 ฟุต ราคา 110,000 บาท
ตู้คอนเทนเนอร์ออฟฟิต 40 ฟุต ราคา 230,000 บาท

เพิ่มห้องน้ำ 30,000 บาท ( สุขภัณฑ์ American Standard มีโถชักโครก อ่างล้างมือ ที่อาบน้ำ +ก๊อกอีก1จุด)
***********************************************

 

ถ้ามองตามที่พระคุณลุงว่า จะมีแผ่นดินไหว ลูกเห็บยักษ์ถล่ม อากาศหนาว สัตว์ แมลง งูหนีตาย แล้วไม่แปลกใจที่เลือกตู้คอนเทนเนอร์ครับ เพราะเป็นห้องที่มิดชิดและสามารถดัดแปลงให้ป้องกัน สิ่งที่ว่าได้ แต่ในส่วนการป้องกันลูกเห็บขนาดตู้เย็นนี่ท่าจะไม่ไหว เพราะคำนวนการตกมาจากฟ้าแล้ว ไม่ผิดกับระเบิดลูกย่อมๆนะครับ (แต่หวังว่าส่วนใหญ่จะไม่ขนาดนี้มากนะครับ)

แต่ถ้าสามารถจะเสริมเหล็ก ให้มีมุมแหลมมุมแฉลบ ให้สามารถสร้างโอกาศการปะทะตรงๆ
เป็นโครงเหล็กคล้ายปิรามิด ก็น่าจะช่วยได้นะครับ

 

หรือจะเป็นระบบเช่าก็มีนะครับ
อันนี้ก็น่าสนใจครับ ผมลองหาในเนตดู
คือกะว่าเช่าแล้ว พอเกิดเหตุการณ์ ภัยพิบัติต่อไปก็คงไม่มีคนตามมาเก็บค่าเช่า
หรือว่าซื้อแล้วบริษัทก็มีระบบรับซื้อคืนด้วยนะครับ
เจ้าตัวที่ผมเอารูปลงพร้อมใช้งานนี่ เจ้านี่ราคา 90,000 บาท
การติดตั้งก็เอาไปต่อน้ำไฟเข้าเท่านั้นครับ ไม่ได้โฆษราให้บริษัทเขานะครับ
เพียงแต่บอกว่ามีมากมายหลายแบบ และหลายราคาให้เลือก
***********************************

ตู้คอนเทนเนอร์สำนักงาน Mobile Office Modular office


ตู้สำนักงานเคลื่อนที่แบบดัดแปลง กว้าง 2.40 ม.X ยาว 6.00 ม.X 2.60 ม
1.1 โครงสร้างเป็นตู้เหล็กพ่นกันสนิมพร้อมทั้งหูหิ้วสำหรับเวลายก
1.2 พื้นเป็นวีว่าบอร์ด ปูทับด้วยกระเบื้องยาง
1.3 ผนังและเพดานเป็นแผ่นฉนวนสำเร็จรูป หนา 50 มม. และ 75 มม.(ตรงกลางเป็นฉนวนโพลีสตายรีนโฟม ส่วนด้านในและด้านนอกเป็น แผ่นโฟร์เมก้าร์สีขาวเงา)
1.4 ประตูเป็นแผ่นฉนวนสำเร็จรูปบานสวิง
1.5 หน้าต่างกระจกบานเลื่อนคู่ ขนาด 1.20 ม. X .80 ม.(ด้านหน้า)
1.6 หน้าต่างกระจกบานเลื่อนคู่ ขนาด 1.20 ม. X .80 ม. (ด้านหลัง)
1.7 โคมไฟฟ้าแสงสว่าง 1 X 40 วัตต์
1.8 แผงควบคุมไฟฟ้าพร้อมเบรกเกอร์ หรือ โหลดเซ็นเตอร์
1.9 จุดต่อไฟภายนอกสำหรับจั้มไฟฟ้าด้านนอกเข้าภายในตู้
1.10 พัดลมดูดอากาศ ขนาด 6 นิ้ว

1.11 สวิทซ์และปลั๊กภายในพร้อมเดินรางไฟ
ราคานี้ยังไม่รวมเครื่องปรับอากาศ ขนาด 18,000 BTU และไม่รวมค่าขนส่งตู้สำนักงานเคลื่อนที่ไปยังหน่วยงาน

** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 085 1411 007


www.superMansuperMove.com/superStorage
Email : shoobai@gmail.com
Email : rent@superMansuperMove.com

ราคา 90,000-135,000 บาท


มีบริการรับซื้อ ตู้ใช้แล้ว รับซื้อคืนตู้เปล่า คอนเทนเนอร์ หรือ ตู้สำนักงานใช้แล้ว ราคาดี

 

หรือว่าจะซื้อมาดัดแปลงเอง เพื่อให้มีแบบตามความต้องการราคายิ่งถูกครับ
*****************************************
อันนี้เอามาจากโฆษณาในเวบครับ

ขายตู้คอนเทนเนอร์ ขนาด 20ฟุต 38 000 บาท และ40HQ ราคา 55 000 บาท
สนใจดูสภาพตู้ได้ที่ทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ฝั่งบางนา-ตราด กม.15 ครับ โทร 0813416076

 

ส่วนเจ้าตัวนี้เป็นสินค้ามือสองที่มีการเทิร์นเข้ามา
แล้วบริษัทก็ประกาศขายต่อ ราคาที่45,000 บาท
ผมว่าในราคานี้ บวกค่าขนย้าย แล้วก็ไม่น่าเกิน 60,000 บาท
หลังจากติดตามข้อมูลทั้งหมดแล้วผมตัดสินใจควักกระปุกออมสิน
ซื้อเจ้าตัวนี้ ส่งไปบ้านผมที่อำเภอพร้าวแล้วครับ
***********************************
ในราคาประมาณนี้สำหรับการเตรียมการเพื่อความไม่ประมาท
และคิดว่าคงได้มีการผ่านการศึกษาและคิดจนรอบคอบแล้ว
จึงมีการเสนอเป็นทางเลือกให้กับหลานๆของพระคุณลุง

ดังนั้นหลังจากที่ติดตามข่าวคราวมายาวนานผมจึงตัดสินใจเดินตามทางนี้ครับ
เพราะรู้สึกจะเป็นคำแนะนำเดียวที่เป็นรูปธรรมที่สุด ในขณะนี้ครับ
และถึงแม้ว่าจะัไม่เกิดเหตุการณ์(หวังว่านะครับ)
ผมก็จะมีบ้านเล็กๆห้องส่วนตัวที่เอาไว้รับแขก ตามประสาคนโสด
ในราคาเท่ากับโชฟาร์เฟอร์นิเจอร์หรูๆของคนรวยๆตัวหนึ่งเท่านั้นเองครับ

 

ขอบคุณคุณต้นที่สามมากนะคะ
แต่ที่อยากได้แปลนเพราะอยากทราบว่าที่พุทธบุตรทำอย่างไร
เสริมเหล็กอย่างไรจึงจะพอ และประตู หน้าต่างทำรูปแบบไหน
เพราะถ้าทำประตูหน้าต่างแบบธรรมดา คงไม่รอดแน่
และอยากทราบว่าเตรียมสำหรับป้องกันสารกัมมันภาพรังสีด้วยหรือไม่
อย่าลืมนะคะ ว่าอาจมีการบุกรุกของคนนอก เพราะตอนนั้น
จะอดอยาก ขาดแคลน จึงไม่อยากได้ประตู หน้าต่างที่ทุบทำลายได้ง่าย

กลุ่มดิฉันเตรียมการที่หลบภัยมา 3 ปีแล้วค่ะ เราเรียก ฐานผาแบ่น
อยู่ต.ผาแบ่น อ.เชียงคาน จ.เลย แต่ยังไม่พร้อมอีกหลายอย่างนะคะ
ดูได้ที่นี่ค่ะ ฐานผาแบ่น
ท่านใคสนใจต้องมาร่วมด้วยช่วยกันนะคะ เพราะที่นี่ไม่มีนายทุน
ปีใหม่นี้ เรามีแผนจะนัดพบเพื่อปรึกษาหารือและวางแผนกันในกลุ่ม
มีผู้นำกลุ่มคือคุณอา k_97 ใครสนใจให้ pm ไปคุยกับท่านนะคะ

 

อันนี้ผมเห็นของต่างประเทศมานะครับ เอาไว้เป็นไอเดีย .. แต่คิดว่าต้องสร้างในที่ๆสูงจากระดับน้ำทะเลหน่อยครับ เพราะว่า การฝั่งใต้ดิน กรณเกิดน้ำท่วมจะอันตรายมาก


[ame=http://www.youtube.com/watch?v=A3EAJex1RVo]Shipping Container As An Underground Shelter - YouTube[/ame]

 

ข้อดีของการเอาลงไว้ใต้ดิน ก็คือ ป้องกันลมพายุ และอุณหภูมิ ที่หนาวจัด และช่วยป้องกันรังสีใด้ในระดับหนึ่ง แต่ปัญหาคือระบบระบายอากาศ ซึ่งสำคัญมากๆ ครับ วางแผนดีๆนะครับ เอาใจช่วยกลุ่มฐานผาแบ่น ด้วยครับ ....

 

ตามที่ตามอ่านการเตรียมการของกลุ่มพุทธบุตรกับเวปพลังจิตเก่าๆเท่าที่ค้นได้
รู้สึกไม่แนะนำให้ฝังครับ เพราะต้องเผชิญกับแผ่นดินไหว
ที่จะต้องเชิญกับแรงอัดแรงบิดแรงเค้น มากสามารถทำให้ตูพังได้
แม้แต่ตูนังไม่แนะนำให้ยึดกับเสาเลยครับ เพราะจะเกิดการกระชาก
หรือบิดกรณีแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง
เท่าที่ได้ข้อสรุปก็คือ เอาตู้วางไว้บนพื้นดิน แล้วหาแหล่งจุดยึดไว้
จากนั้นก็ทำกระโจมเสาไม่ซุง ครอบไว้อีกที เพื่อป้องกันการกระแทกของที่ตกจากฟ้าครับ

 

ตู้ควรวางบนฐานคอนกรีต รอบตัวตู้ควรจะเทดินลูกรังเหมือนพนั้งกั้นน้ำท่วมหนาประมาณ 2 เมตร และต่อท่ออากาศทะลุกองดินออกมา ยกเว้นประตูให้วางแนวกระสอบทรายให้ตรงกับประตู แต่ให้กว้างและสูงกว่าประตูแต่ห่างพอเปิดประตูเข้าออก/ขนของเข้าได้ เพื่อป้องกันทะลุทะลวงของสะเก็ดระเบิด ส่วนด้านบนตู้คอนเทนเนอร์วางกระสอบทรายหนา 4 ชั้น ชั้นที่ 5 เป็นเหล็กท่อนกลม/ตัวซี/ไม้หน้า 3 วางแบบ ไขว้ไปมาสลับกันให้เต็มพื้นที่ ชั้นที่ 6 กระสอบทราย ชั้นที่ 7 เป็นก้อนหิน/เศษคอนกรีต เพื่อป้องกันการทะลุทะลวงจากระเบิดด้านบน

 

ในส่วนของการป้องกันอากาศหนาวนั้น
โดยคุณภาพของตู้นั้นถ้าเราเลือกตู้แบบห้องเย็นนั้น
ระหว่างช่องผนังจะมีฉนวนป้องกันอุณหภูมิอยู่
และช่องอากาศของตู้นั้นทำให้เราสามารถทำที่กรองอากาศแบบกรองรังสีได้ง่ายกว่าตัวบ้านเราที่ไม่รู้ว่าส่วนใหนจะพังบ้าง