ปกิณกะพระเครื่อง ธรรมะ และวัดวาอาราม

;aa44ขอบพระคุณข้อมูลเพิ่มเติมครับ "เจ้าสัวเหรียญสวย" แห่งเมืองศรีราชา

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/w...1385953_750939711590076_1575721100_n.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/CLP/1385953_750939711590076_1575721100_n.jpg" border="0" alt=" photo 1385953_750939711590076_1575721100_n.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/CLP/13-10.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/CLP/13-10.jpg" border="0" alt=" photo 13-10.jpg"/></a>

 

ปัจจุบันเหรียญทำน้ำมนต์หลวงพ่อฤาษี ปี32 ได้หมดไปจากวัดนานแล้ว และมีค่านิยมสูงมาก สำหรับผู้ที่มีปัจจัยน้อย หรือไม่อยากเสี่ยงกับพระสร้างเลียนแบบ หลวงพ่ออนันต์ท่านได้สร้างเหรียญทำน้ำมนต์รุ่นใหม่ขึ้นมาให้ลูกหลานหลวงพ่อได้บูชากัน ซึ่งหลวงพ่ออนันต์ท่านได้รับการครอบครูจากหลวงพ่อฤาษีอย่างเป็นทางการแล้ว นั่นคือทุกครั้งที่ประกอบพิธีพระและหลวงฤาษีท่านลงมาปลุกเสกให้ทุกครั้ง ขอเพียงบูชาด้วยความเคารพย่อมมีความศักดิ์สิทธิ์เหมือนพระที่ทันหลวงพ่อฤาษีทุกประการ










ปล.1 อย่างนิ่งนอนใจไปนะครับเหรียญสวยงามมาก หมดไปจะเสียดาย

2 วันก่อนได้อ่านในเฟสบุ๊คมีชาวบ้านถูกผู้ก่อการร้ายซุ่มยิง มีคนนึงกำเหรียญสิบบาทพร้อมนึกถึงบารมีในหลวง รอดตายปาฏิหาริย์เลยคร๊าบบ​

 

ขอบคุณคร๊าบบคุณบอย รออ่านเรื่องราวดีๆที่นำมาเสนอกันครับ

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/newest2013/DSC08921.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/newest2013/DSC08921.jpg" border="0" alt=" photo DSC08921.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/newest2013/DSC08924.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/newest2013/DSC08924.jpg" border="0" alt=" photo DSC08924.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/newest2013/DSC08928.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/newest2013/DSC08928.jpg" border="0" alt=" photo DSC08928.jpg"/></a>

นอกจากเป็นเหรียญแล้วยังมีเป็นแบบพระเนื้อว่านทำน้ำมนต์ให้เลือกบูชาด้วยครับ


<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/newest2013/DSC08912.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/newest2013/DSC08912.jpg" border="0" alt=" photo DSC08912.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/newest2013/DSC08915.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/newest2013/DSC08915.jpg" border="0" alt=" photo DSC08915.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/newest2013/DSC08919.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/newest2013/DSC08919.jpg" border="0" alt=" photo DSC08919.jpg"/></a>

 

สวัสดียามเช้าคุณปู คุณวรรณ อ.โญ และทุกๆท่าน

อากาศเย็นแล้ว ระมัดระวังสุขภาพกันด้วยนะครับ

 

๑๐๐ ปี สมเด็จพระสังฆราช จวน อุฏฐายีมหาเถระ วัดมกุฏกษัตริย์ ๑๔-๑๖ ม.ค. ๔๐
จัดสร้างโดยคณะกรรมการและศิษยานุศิษย์ พระผงนี้ประกอบด้วยบารมีของ ๓ สมเด็จ คือ สมเด็จพระสังฆราช จวน,สมเด็จพุฒาจารย์(โต),สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระญาณสังวรได้ประทาน พระผงพระศาสดา,เส้นเกศา, จีวรและยังได้ร่วมอธิษฐานจิตให้อีกด้วย
ท่านเจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส(วัดบางขุนพรม)ได้มอบผงสมเด็จที่แตกหักชำรุดมาผสมและโรยบนผิวหน้าพระ
ทำพิธี เมื่อวันที่ ๑๔-๑๖ ม.ค. ๒๕๔๐ โดยพระภาวนาจารย์อธิษฐานจิต ซึ่งมีทั้งวัดป่าและวัดเมือง ดังนี้
๑.สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศน์
๒. พระราชภาวนาวิกรม วัดไตรมิตร
๓. หลวงพ่อ อุตตมะ กาญจนบุรี
๔. หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต หนองคาย
๕. หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระบาทเขาลวก พิจิตร
๖. หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน เลย
๗. หลวงปู่คำพันธ์ โฆษปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนม
๘. หลวงปู่หลวง กตตปุญโญ วัดป่าสำราญนิวาส ลำปาง
๙. หลวงปู่บุญมี โชติปาโล วัดสระประสานสุข อุบล
๑๐. หลวงปู่กิ วัดสนามชัย อุบล
๑๑. หลวงปู่ ละมัย สวนสมุนไพร เพชรบูรณ์
๑๒. หลวงพ่อไพบูลย์ วัดอนาลโย พะเยาว์
๑๓. หลวงพ่อโชติ อาภัคโค วัดภูเขาแก้ว อุบล
๑๔. หลวงพ่อทูล ขิปปัญโญ วัดบ้านค้อ อุดร
๑๕. หลวงพ่อทอง (ลูกศิษย์ลป.ลี) วัดอโศการาม
๑๖. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
๑๗. หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า กาญจนบุรี
๑๘. หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ นครสวรรค์
๑๙. หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ระยอง
ฯลฯ

กล่าวกันว่า" ถ้าไม่สามารถมีพระสมเด็จของเจ้าประคุณลป.โตไว้บูชา ก็สามารถใช้พระผงรุ่นนี้แทนได้ เนื่องจากมีผงแตกหักของสมเด็จบางขุนพรมผสมอยู่ครับ"

 

ขอบคุณพี่ตี๋ กับข้อมูลพระดีๆด้วยครับ

ขอบคุณพี่อ้วนครับ

 

เทียบขนาด พระคำข้าว พระผงทำน้ำมนต์ เหรียญทำน้ำมนต์พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก​

 

วัตถุมงคล พระครูประจักษ์ธรรมวิจารณ์ ( หลวงปู่ครูบาข่าย ขัตติโย )
วัดหมูเปิ้ง เพื่อร่วมก่อสร้างกำแพงวัดและปรับพื้นที่หน้าวัดหมูเปิ้ง
พระรอดเกศา เนื้อครั่ง



พระครูประจักษ์ธรรมวิจารณ์ (หลวงปู่ครูบาข่าย ขัตติโย) วัดหมูเปิ้ง ต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน หลวงปู่เป็นพระที่มีจริยาวัตรเคร่งครัดมาก โดยเฉพาะในเรื่องการจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆนั้น มีลูกศิษย์ลูกหาเคยขออนุญาตอยู่หลายครั้งแต่ท่านก็ไม่เคยอนุญาต



หลวงปู่มีความต้องการจะสร้างกำแพงด้านหน้าวัดต่อออกไปให้ เต็มพื้นที่ของวัด เพื่อนำปัจจัยมาร่วมสร้างกำแพงตามเจตนา ของท่าน หลวงปู่ได้อนุญาตให้จัดสร้างอย่างเป็นทางการ "เป็นครั้งแรก" เมื่อสร้างเสร็จได้นำเข้าอธิษฐานจิตในวัดหมูเปิ้ง จากนั้นท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวอีกเป็นเวลา ๗ ราตรี(๗คืน) เป็นวาระที่สอง



และเมื่อวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๓ ที่ผ่านมาทางวัดได้จัดพิธีปลุกเสกขึ้นอีกครั้งหนึ่งในวิหารวัดหมูเปิ้งเป็น วาระที่สาม โดยมีพระสงฆ์สวดเจริญพุทธมนต์และหลวงปู่อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวตลอดพิธี
รายการวัตถุมงคลที่จัดสร้าง...
๑. พระลือโขง ( พระจามเทวีเศรษฐีเรือนแก้ว ) เนื้อผงเกศา สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖ แต่ไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด ปัจจุบัน หลังจากที่ได้สำรวจแล้วเหลืออยู่เพียง 50 องค์ ปูชาองค์ละ xxx บ.
๒. พระลือโขง ( พระจามเทวีเศรษฐีเรือนแก้ว ) จำนวน 36 องค์ ปูชาองค์ละ xxx บ.
๓. พระรอดเกศา เนื้อครั้ง จำนวน 56 องค์ ปูชาองค์ละ xxx บ.
๔. ขุนแผนรุ่นแรกสีทอง เหลืออยู่เพียง 30 องค์ ปูชาองค์ละ xxx บ.
๕. ขุนแผนรุ่นแรกเนื้อดิน เหลืออยู่เพียง 120 องค์ ปูชาองค์ xxx บ.
๖. ตะกรุดเกศา ครูบาข่าย ปูชาดอกละ xxx บ.
๗. ตะกรุดไชยะปราบล้อม( หนังกลองแตก ) สร้างวันพญาวัน ปี 2553 ปูชาดอกละ xxx บ.
ปัจจุบันเหลือเพียง 21 ดอก พุทธคุณด้านป้องกันคุณไสย แคล้วคลาด
๘. เบี้ยกัน พอกครั้ง ปูชาตัวละ xxx บ.
๙. รูปภาพเล็กครูบาข่าย ด้านหลังมีเกศาและผ้าสังฆาฏิของครูบาข่าย ปูชาองค์ละ xxx บ.
รวมทั้งชุดบูชา xxx บาท (ข้อมูลและราคาเมื่อปี ๒๕๕๓ นะครับ)

 

ยินดีกับบ้านหลังใหม่ครับพี่ปู...ผมตกข่าว..เพิ่งเห็นครับ..

 

ขอบคุณครับคุณวุฒิ มีข้อมูลพระก็นำมาให้พี่น้องๆได้ศึกษากันนะครับ

 

สองสมเด็จ


โดย รณธรรม ธาราพันธุ์

นานมาแล้วที่ “ศักดิ์สิทธิ์” ดำริทำวัตถุมงคลหลากรูปแบบหลายพระเถระสมนาคุณไปพร้อมกับหนังสือ ทั้งเหรียญ ผง ตะกรุด ผ้ายันต์ ฯลฯ ล้วนแต่เพียรออกแบบให้สวยงาม และเพียร เสกไปตามพระสุปฏิปันโนผู้เป็นที่ยอมรับเลื่อมใสในมหาชน

พูดอย่างไม่กลัวว่าจะเข้าข้างต้องว่ากันถึงขนาดที่วัดบางแห่งหรือเอกชนบางคณะไม่อาจสร้างและเสกได้เท่า ทำด้วยศรัทธา ทำด้วยความเชื่อจริง ๆ

คนของ “ศักดิ์สิทธิ์” เองก็แขวนพระที่สร้างเองมิใช่น้อย ไม่ใช่ประเภทกล้าสร้างแต่ไม่กล้าแขวนเพราะเห็นความไม่ชอบมาพากลในตอนสร้าง จะห้อยคอก็กลัวตายยามภัยมาถึงตัว

แต่ที่นี่ไม่ใช่
ประสบการณ์ที่คนในและคนนอกเคยเจอ ล้วนเป็นเครื่องยืนยันถึงพระพุทธคุณที่มีอยู่ในวัตถุมงคลอัน “หนังสือศักดิ์สิทธิ์” ได้สร้างสรรค์ขึ้น

พระสองสมเด็จ อาจกล่าวได้ว่าเป็นงานสร้างขลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของคนหนังสือจะเคยทำ มวลสารต่าง ๆ ใช้เวลารวบรวมไม่ต่ำกว่า 2 ปี โดยเฉพาะใบลานซึ่งนำไปถวายพระคณาจารย์ ทั่วประเทศลงจารอักขระสำคัญและอธิษฐานพรให้เป็นอย่างดี ก่อนนำมาตำ มาโขลกให้เป็นผงโดยฝีมือชาวศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งเจ้าของหนังสืออย่าง ผอ.กมล ยังลงมือเอง

ว่ากันจนฟุ้งไปทั้งออฟฟิศ

ไม่อาจจาระไนถึงผงพุทธคุณและผงว่านยา อันวิเศษ ซึ่งครูบาอาจารย์ทั้งหลายมอบให้อย่างเมตตา ด้วยสิ้นเปลืองหน้ากระดาษและคงใช้ศักดิ์สิทธิ์ไม่ต่ำกว่า 4 เล่มเป็นแน่

บอกได้เพียงมวลสารอันทรงฤทธิ์ได้ถูกเชิญมาจากทุกสารทิศทั่วไทย ทุกภาค ทุกพระอริยาจารย์ที่เราเชื่อว่าดีและขลังจริง โดยเฉพาะเมื่อจะทำเป็นพระรูปเหมือนของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ก็ต้องหามวลสารที่เกี่ยวเนื่องด้วยท่าน เมื่อทำพระรูปของหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ก็ต้องหามวลสารที่เกี่ยวกับท่านเช่นกัน

คุยตรงนี้เลยว่าได้มาครบ ผงเก่าแก่ของวัดระฆังถูกส่งมอบให้คณะผู้สร้าง รวมถึงดอกไม้แห้งที่ใช้บูชาองค์ท่าน นำมาคลุกเคล้าผสมกันอย่างดี ในส่วนของหลวงปู่ทวด น่าอัศจรรย์ในแรงอธิษฐานที่คิดทำโดยบริสุทธิ์ใจ ทำให้ได้มาซึ่งดินกากยายักษ์อันเป็นของรักของหวงในคนลำพญา

ตามสูตรการทำหลวงปู่ทวดจำต้องมีว่าน 32 ชนิด และดินกากยายักษ์ ทางศักดิ์สิทธิ์ก็ยังได้มาแม้บางครั้งจะฉิวเฉียดประมาณว่าจะได้มิได้แหล่ สุดท้ายก็ได้มาอย่างไม่น่าเชื่อ

ผมจึงคิดเอาว่าครูอาจารย์รับทราบ

จำได้ว่าการกดพิมพ์ครั้งแรกประกอบพิธีขึ้นที่วัดระฆังฯ อันเป็นบริเวณกุฏิเก่าของเจ้าประคุณสมเด็จฯ ครั้งนั้นเกิดเหตุมงคลขึ้นเป็นนิมิตดีหลายประการ ทำให้กำลังใจของผู้สร้างมั่นคงหนักแน่น และทำจนครบตามจำนวนที่ตั้งใจได้ หากจะพูดถึงการนำวัตถุมงคลไปเสก ด้วยโลกทัศน์ที่แคบและอาศัยความเป็นคนบ้านนอกเช่นผม จึงพบเจอบุคคลเพียงไม่กี่ท่านที่สามารถนำของไปเสกได้จนวิเศษน่าอัศจรรย์ใจ ขอพูดให้ชื่นใจหน่อยเถิด อาจารย์เบิ้มนี่หนึ่งละ เป็นคนที่สร้างพระแล้วดำเนินการเสกได้อย่างน่ากลัวชนิดที่ว่า พระจะลุกขึ้นพูดได้ เป็นเหตุให้เครื่องมงคลอันอาจารย์เบิ้มได้สร้างสรรค์ขึ้นเป็นที่ต้องการของใครต่อใคร คุณสุธันย์ สุนทรเสวี นี่อีกหนึ่ง สร้างพระได้น่าแขวนเสียจริง ทั้งรูปแบบ มวลสาร และการนำเสกที่น่าทึ่ง พระคุณสุธันย์สามารถเดินทางได้ทุกทิศทั่วไทยหากว่าที่ไหนจะพึงมีภิกษุดีและเก่ง และศักดิ์สิทธิ์เป็นอีกหนึ่ง

อย่าหาว่ายอกันเองหรือกระไรเลย นับแต่ยังไม่ได้เป็นนักเขียนในศักดิ์สิทธิ์ ผมยังตามเก็บของที่ศักดิ์สิทธิ์สร้างได้อย่างสนิทใจ หากสิ่งไหนที่ผมไม่เอานั่นเป็นเพราะรูปแบบหรือองค์ผู้เสกเอง แต่เรื่องการนำเสกนั้น

ชัดเจนเป็นที่สุด

ยิ่งระยะหลังดูเหมือนศักดิ์สิทธิ์จะ เป็นมวย มากขึ้น รูปแบบพระจึงสวยขึ้นเรื่อย ๆ การนำเสกยิ่งยาวนานและมากองค์เสกครอบคลุมศรัทธาคนอ่านได้ดีจริง ๆ ผมยังเคยคิดเล่น ๆ ว่า ถ้าผมสร้างพระเองสักรุ่น ผมจะสามารถนำพระไปเข้าพิธีพุทธาภิเษกและเสกเดี่ยวได้เช่นนี้หรือไม่ คำตอบที่มีให้ตัวเองคือ ไม่มีทาง

อย่างแรกคือครูบาอาจารย์ผู้เสก หากท่านพิจารณาเห็นว่าเราทำอย่างไม่มีจุดหมายชัดเจน ไม่มีหนังสือรับรองอย่างเป็นทางการ บางครั้งบางองค์ท่านก็ไม่เสกให้ ด้วยท่านเกรงจะเอาท่านไปหากิน อย่างที่สองคือทุน จะเอาพระจำนวนมากไปเสกต้องใช้รถ รถก็มีค่าน้ำมัน ค่าคน ค่ารถ ค่ากิน ค่าที่พัก

เสกเสร็จก็ต้องถวายปัจจัยท่านบ้าง ยิ่งมากองค์เสก ก็ยิ่งมากทุนทรัพย์ มากพิธีพุทธาภิเษก ก็มากเงินจ่าย ถ้าเราทำเองเราจะต้องใช้ทุนในการสร้างเท่าไร คิดแล้วผมก็นอนตีพุง รอบุคคลดังกล่าวข้างต้นเป็นผู้สร้างดีกว่า แต่อาจารย์เบิ้มและคุณสุธันย์ก็ใช่จะหาตัวง่าย จะเอาพระที่ท่านยิ่งไม่ง่ายใหญ่

เอาที่ศักดิ์สิทธิ์นี่แหละ…แน่นอน

พระของศักดิ์สิทธิ์ที่ผมอาราธนาบ่อย ๆ คือเหรียญสองสมเด็จ โดนใจผมตรงที่พ่อหลวงจ้อย วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ. สุราษฎร์ธานี เป็นองค์หนึ่งที่ร่วมอธิษฐานจิต เหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นลายเซ็นต์และรุ่นมหาเศรษฐีมีมากมาย และพระผงสองสมเด็จที่ผมถือเป็นชิ้นสุดยอดเท่าที่คนหนังสือจะเคยทำ

ไม่รู้ถือเหมือนผมหรือเปล่า

สองสมเด็จ เป็นพระผงที่โดนใจผมมากในเรื่องการเสก ด้วยการนำพระเข้าพุทธาภิเษกให้ได้ดีต้องใช้วิจารณญาณและทุนมาก แต่คณะผู้สร้างก็อุตสาหะทำได้ดียิ่ง เอาแค่หลวงปู่เกษม เขมโกซึ่งทุกวันนี้หาวัตถุมงคลท่านได้ยากเย็น ยากดังว่าไม่ใช่รูปแบบหากเป็นการนำเสกที่เรา ๆ ท่าน ๆ จะเชื่อถือได้เพียงใดว่าพระนี้ได้รับการเสกจากหลวงปู่จริง

สองสมเด็จน่ะใช่

ดูจากรูปก็พอ ศักดิ์สิทธิ์ทำพระทุกครั้งจะมีภาพถ่ายในพิธีกรรมให้ดู บางรุ่นว่ากันตั้งแต่ขั้นตอนการหลอม การตำผง เรื่อยไปจนการเสกในทุก ๆ พิธี และเสกเดี่ยวในทุก ๆ องค์ ในเมื่อเราไม่ได้ไปด้วย จะให้ดูอะไรถ้าไม่ดูรูปซ้ำการนำเสกบางครั้งผมยังบังเอิญไปเจออย่างไม่ตั้งใจ เช่น คราวหนึ่งท่าน ผอ.กมล นำทีมขนพระ อภินิหารขรัวโต ไปถวายหลวงพ่อพุธอธิษฐานจิต ขณะนั้นผมคุยอยู่กับหลวงพ่อจึงได้พบกันโดยมิได้นัดหมาย และช่วยขนพระลงมาเสกและขนกลับขึ้นรถ

ทุกกล่องหนักอึ้งแสดงถึงเอาพระมาเสกจริง ไม่เหมือนบางที่มีแต่กล่องกระดาษเปล่ากับรูปถ่ายข้างกล่องติดไว้หลอกคน

เจอแบบนั้นก็เซ็ง

แถม อภินิหารขรัวโต ในครั้งนั้นหลวงพ่อพุธบอกกับผมว่า ท่านกราบเรียนและอาราธนาเจ้าประคุณสมเด็จโตมาร่วมเสกด้วย ส่วนว่าสมเด็จจะมาจริงหรือไม่ผมไม่รู้ไม่เห็นเลยยืนยันไม่ได้ทั้งเบอร์มือถือจะโทรถามก็ไม่มี ขออภัยด้วยละกัน




ในการเสกพระสองสมเด็จนั้นมีพระเถรานุเถระนับสิบรูปที่ผมเคารพเป็นล้นพ้น ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่เกษม เขมโก หลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ หลวงพ่ออุตตมะ อุตตมรัมโภ หลวงปู่คร่ำ ยโสธโร หรือ พระอาจารย์นอง ธัมมภูโต แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีพระมหาเถระรูปหนึ่งซึ่งทรงคุณวิเศษเป็นยิ่งจะได้ร่วมเสกด้วย ท่านคือ

หลวงปู่ร่วง ธัมมทินโน

หลวงปู่ร่วงเป็นพระระดับสุดยอดของชาวสงขลาในยุคปัจจุบัน หากไม่นับท่านพ่อเฟื่อง วัดคงคาเลียบ และ หลวงพ่อปาน วัดโคกสมานคุณแล้วล่ะก็ หลวงปู่ร่วงย่อมเป็นหนึ่งไม่มีสอง ชาวสงขลาถวายนามหลวงปู่ร่วงโดยเคารพว่า พ่อท่านร่วง วาจาสิทธิ์

หลวงปู่ร่วง ถือกำเนิดที่ บ้านหาร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2447 อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2467 ที่วัดดอนแย้ อ.เมือง จ.สงขลา เมื่อศึกษาพระธรรมวินัยและอักขระขอมจนแตกฉานแล้ว ได้ขอพระอุปัชฌาย์กลับมาจำพรรษาที่วัดศาลาโพธิ์อันเป็นวัดบ้านเกิด

ณ ที่นี่เอง หลวงปู่มีวาสนาได้เรียนสรรพวิชาในทางขลังจากฆราวาสผู้เรืองเวทย์ชื่อ คุณพ่อ ทวด แก่ศรีพรหมขณะนั้นท่านมีอายุได้ 93 ปี หลวงปู่ร่วงเพียรศึกษาวิชาต่าง ๆ อย่างตั้งใจ ติดขัดสิ่งใดก็สอบถามจนท่านเรียนจำ ทำเป็นได้ในทุกวิชา เมื่อเห็นว่าศิษย์บรรลุศาสตร์เจนจบจึงมอบตำราต่าง ๆ ให้หมดพร้อมกำชับว่าพึงช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์ที่ทุกข์ยากด้วยใจเมตตา อย่าได้เรียกร้องอามิสใด ๆ จากเขาเลย ซึ่งหลวงปู่ร่วงก็ทำตามมรดกธรรมนี้มาตราบจนสิ้นอายุขัย

อันคุณพ่อทวด แก่ศรีพรหมนี้เป็นผู้เรืองวิชาไสยศาสตร์อย่างมาก ท่านมีลักษณะสูงใหญ่ น่าเกรงขาม ดวงตาแวววาวเป็นประกายคล้ายตาเสือ ส่งผลให้ใครที่สบตาย่อมเกิดประหม่ากลัวในตบะเดชะของท่าน ยิ่งมีคนเคยลองยิงนกที่บินมาเกาะบนหลังคาบ้านท่าน แต่ยิงไม่ออกซ้ำปืนเกิดแตกฉีกมือไม้จนเลือดท่วม ยิ่งทำให้ชื่อท่านเป็นที่เคารพในหมู่บ้านขึ้นไปอีก

เล่าลือกันว่าคุณพ่อทวดได้ทำการฝังอาถรรพณ์กันภัยไว้ตลอดบริเวณบ้าน และลงมหาอุดไว้ตามเรือนเพื่อปิดอันตรายทุกอย่าง นับเป็นคนเก่งที่หาได้ยากทีเดียว และวิชามหาอุดนี้คุณพ่อทวดก็เมตตาถ่ายทอดไว้ให้หลวงปู่ร่วงจนหมดสิ้น ซึ่งหลวงปู่ก็ทำได้ดีเสียด้วย

ตะกรุดสามดอก เป็นวัตถุมงคลที่สร้างชื่อหลวงปู่ร่วงให้โดดเด่นขึ้นมาแนวหน้าอย่างไม่ยาก ประสบการณ์ที่มีมากจนวัดบันทึกไม่ไหวเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดี โดยเฉพาะหยุดปืนห้ามมีดเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ในตะกรุดชุดนี้

ราวปี พ.ศ.2484 หลวงปู่ทำตะกรุดชุดสามดอกแจกแก่ลูกหลานชาวใต้ยิ่งเหล่าทหารในค่ายเสนาณรงค์นั้นได้ไปมากเป็นพิเศษ ครั้นออกต้านญี่ปุ่นที่บังอาจบุกเมืองสงขลา เลือดแดงก็นองแผ่นดิน ทว่าเป็นเลือดลูกพระอาทิตย์เสียทั้งสิ้น หามีเลือดลูกหลวงปู่ร่วงแต่อย่างใดไม่ ส่งผลให้กิตติคุณของท่านแพร่ไปอย่างรวดเร็ว

แม้สงครามเกาหลี หรือสงครามเวียตนาม ชื่อแห่งขลังในหลวงปู่ร่วงก็ไปปรากฏมาแล้วอย่างโชกโชน ลูกหลานชาวสงขลาแม้ว่าใจรักของมงคลหากขาดตะกรุดหลวงปู่แล้ว ย่อมไม่อาจถือได้ว่าเป็นคนรักขลังจริง

หลวงปู่ร่วงไม่ได้แค่ตะกรุดเป็นของดี ผ้ายันต์ สีผึ้ง และเหรียญรูปเหมือนทั้งสองรุ่นก็สร้างชื่อให้ประทับใจคนแขวนได้ไม่แพ้กัน ประสบการณ์เท่านั้นที่จะยืนยันเก่งได้แท้จริง

คุณสุนทร คมสัน เป็นอีกคนหนึ่งที่ศรัทธาในหลวงปู่ร่วงมาก ครั้งหนึ่งเคยแขวนเหรียญรุ่นแรกของท่านไปช่วยงานบ้านเพื่อน ขณะยืนขูดมะพร้าวกะทิอยู่นั้น ได้มีสุนัขบ้าตัวหนึ่งดอดมาจากไหนไม่รู้กัดเข้าที่น่องคุณสุนทรเต็มแรง เขาคิดว่าคราวนี้ขาคงไม่เหลือแล้ว ยิ่งเห็นมันมีอาการอย่างสุนัขบ้าก็ยิ่งเสียวใจ

เมื่อไล่หมาไปแล้วก็ก้มลงดูบาดแผล ปรากฏเพียงรอยจ้ำ ไม่มีเลือดหรือแผลแต่อย่างใด ทำให้คุณสุนทรเลื่อมใสหลวงปู่มากยิ่งขึ้น

คุณหมิ่น ช่างทอง ลูกหาดใหญ่ก็เคยไปรับเหรียญจากหลวงปู่ร่วงกับมือ ครั้นได้แล้วก็เกิดความสงสัยว่าหลวงปู่ร่วงนี่เก่งจริงหรือเปล่า อาจเป็นเรื่องลือกันไปเอง จึงยกเหรียญขึ้นจบอธิษฐานว่า ถ้าหลวงปู่ร่วงศักดิ์สิทธิ์จริงขอชมประสบการณ์สักหน่อยเถิด หากไม่เกิดผมก็ไม่เชื่อละ

ว่าแล้วก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้าน ไม่รู้คำอธิษฐานจะเป็นจริงหรือผลจากการพูดประมาทท่าน รถสองล้อจู่ ๆ เกิดเสียหลักแฉลบออกนอกถนนพุ่งเข้าชนต้นไม้ข้างทางจนยับเยิน ส่วนตัวคุณหมิ่นเองลอยละลิ่วไปฟาดเอากับรั้วลวดหนามของชาวบ้านแถวนั้นเต็มแรง คิดดูเถิดว่ารั้วลวดหนาม
ที่มีหนามแหลมเป็นข้อ ๆ น่ะ ใครเคยสัมผัสจะเข้าใจ

เสื้อผ้าไม่ต้องพูดถึงไฉนจะต้านคมลวดหนามได้ แต่หนังบาง ๆ นี่สิ กลับไม่มีรอยปริแยกให้เสียเลือดเนื้อแต่อย่างใด เมื่อประสบการณ์เกิดขึ้นกับตนดังนี้ เขาก็ลืมคำว่า ข่าวลือ เสียสิ้น และตัวคุณหมิ่นก็กลายเป็นกระบอกเสียงเล่าลือเสียแทน

เหล่านี้คือเรื่องลือที่ผมขอนำมาลือต่อ ที่ต้องทำเพราะเห็นภาพหลวงปู่ร่วงปรกปลุกเสกพระชุดสองสมเด็จนี่อย่างตั้งใจ ฐานที่ผมเป็นหนึ่งในคณะศรัทธาหลวงปู่ร่วง วาจาสิทธิ์ จึงขอประกาศกับพี่น้องชาวศักดิ์สิทธิ์ตรงนี้ว่า ไม่ง่ายเลยที่จะเห็นหลวงปู่ร่วงเข้าร่วมพุทธาภิเษกที่ใด และไม่ง่ายเลยที่จะได้วัตถุมงคลในท่านไว้คุ้มตัว

ไม่ว่าจะตะกรุดชุดสามดอก เหรียญรุ่นหนึ่งหรือรุ่นสองก็ตาม ถือว่าเป็นฝันค้างของคนชอบขลัง บัดนี้ เมื่อท่านปลุกเสกพระสองสมเด็จให้ ย่อมนับว่าเป็นวาสนาของชาวศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง สองสมเด็จที่ออกในวาระนี้ถือเป็นการสานฝันแท้จริง ผู้พลาดจากหลวงปู่ร่วงก็ดี หลวงปู่เกษมก็ดี หลวงปู่แพก็ดีและอีกนับร้อยองค์ซึ่งผมไม่อาจกล่าวนามท่านให้หมดได้

นี่คือการเติมช่องว่างให้เต็ม

ครูบาอาจารย์เหล่านั้นได้เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกให้แล้วเป็นอย่างดี อย่าคิดว่าเป็นของแถมหนังสือ อย่าคิดว่าเป็นเพราะไม่ใช่รูปของท่านผู้เรานับถือเลย ของใครสร้างก็เถอะถ้าเจตนาดีมวลสารดี และพิธีเสกดี ถึงไม่ใช่รูปท่านก็สุดยอดอยู่แล้ว

เชื่อหรือไม่ย่อมเป็นสิทธิ์ท่านผู้อ่าน แต่ยี่ห้อรณธรรมเคยทำให้ผิดหวังหรือครับ


ที่มา: บทความ-เรื่องราวน่ารู้ เว็ปนวรัตน์ ​

 

เหรียญสุปฏิปันโน ปี 2520

เป็นเหรียญทองแดงรมดำ สร้างเนื่องในงานฝังลูกนิมิต วัดท่าซุง ปี 2520 งานฝังลูกนิมิตจัดระหว่างวันที่ 16-24 เมษายน 2520 พิธีพุทธาภิเษกมีขึ้นในวันแรกของงานเป็นวันเสาร์(ไม่ใช่เสาร์ 5)ที่ 16 เมษายน 2520 ณ อุโบสถวัดท่าซุง เวลา 20.00 น. พิธีเลิกประมาณ 21.00 น. และแจกของที่ปลุกเสกแก่ผู้ที่เข้ามาทำบุญในงาน เป็นเหรียญที่เข้าพิธีเดียวกับเหรียญในชุดเหรียญผูกพัทธสีมาและเหรียญรูปในหลวง ร. 9

พระสุปฏิปันที่เข้าร่วมในพิธีมีรายชื่อดังต่อไปนี้คือ

1. หลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร
2. หลวงปู่คำแสน (เล็ก) คุณาลังกาโร วัดดอนมูล จ.เชียงใหม่
3. หลวงปู่ครูบาอินทรจักรรักษา วัดบ่อน้ำหลวง จ.เชียงใหม่
4. หลวงปู่ครูบาธรรมชัย ธัมมชโย วัดทุ่งหลวง จ.เชียงใหม่
5. หลวงปู่ครูบาชัยวงษาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน
6. หลวงปู่บุดดา ถาวโร สำนักสงฆ์สองพี่น้อง จ.ชัยนาท
7. หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี
8. หลวงปู่มหาอำพัน วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพฯ
9. หลวงปู่พระธรรมวราลังการ (กล่อม) วัดบุปผาราม กรุงเทพฯ
10. หลวงพ่อลักษณ์ วัดศรีรัตนาราม จ.ลพบุรี
11. พระอาจารย์วิชา วัดศรีมณีวรรณ จ.ชัยนาท

เหรียญนี้มี 2 แบบ มีรูปพระสุปฏิปันโนด้านละ 4 องค์ ด้านบนมียันต์อุณาโลม ด้านข้างเขียนคาถา " เม อะ มะ อุ " ด้านล่างมีคำว่า " สุปฏิปันโน "




แบบที่ 1 ด้านหน้ามีรูปและชื่อ

1. ครูบาศรีวิชัย
2. ครูบาธรรมชัย
3. ครูบาชุ่ม
4. ครูบาบุญทึม

ด้านหลังมีรูปและชื่อ

1. พระครูสุคันทศีล (หลวงปู่คำแสนใหญ่ วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่)
2. ครูบาอินทจักร (พระสุธรรมยานเถระ วัดน้ำบ่อหลวง จ.เชียงใหม่)
3. ครูบาพรหมจักร (พระสุพรหมยานเถรุ วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ. ลำพูน)
4. ครูบาวงษ์

เหรียญสุปฏิปันโนแบบที่ 1 จะเป็นเหรียญที่มีรูปพระสุปฏิปันโนที่เป็นศิษย์ครูบาศรีวิชัยเสียส่วนใหญ่ครับ





แบบที่่ 2 ด้านหน้ามีรูปและชื่ื่อ

1. หลวงพ่อปาน
2. หลวงพ่อบุดดา
3. หลวงปู่สี
4. พระมหาวีระ

ด้านหลังมีรูปและชื่อ

1. หลวงปู่แหวน
2. หลวงพ่อสิม
3. หลวงปู่คำแสน (หลวงปู่คำแสนเล็ก วัดศรีดอนมูล จ. เชียงใหม่)
4. พระมหาอำพัน

ปัจจุบันเหรียญสุปฏิปันโนแบบที่ 2 หมดไปแล้ว ที่วัดยังคงเหลือแบบที่ 1 ตามรูปด้านล่างนี้ยังมีให้เช่าบูชาอยู่ครับ

 

เจ้าคุณทอง วัดปลดสัตว์ อ่างทอง รูปหล่อเลขใต้ฐาน รุ่นแรก
รูปหล่อเลขใต้ฐาน รุ่นแรก พระราชญาณดิลก (เจ้าคุณทอง)
วัดปลดสัตว์ อ่างทอง

"รูปเหมือนเลขใต้ฐานรุ่นแรก" แบบหล่อ ตอกโค้ดเลขกำกับที่ใต้ฐาน เพื่อเป็นสิ่งบ่งบอกว่า มีชื่อหรือจำนวนตามหมายเลขทุกองค์ หลวงปู่ท่านเน้นว่า "ฉันทำมาให้เธอทั้งหลายใช้ ฉันตั้งใจสร้างและเสกรูปฉันทั้งหมด 6,592 องค์เท่านั้น รูปฉันเท่านี้จะไปช่วยคนอีกเป็นหมื่นๆ คน เพราะจะตกทอดไปสู่ลูกหลานเขา เขาไม่ละทิ้ง เพราะพ่อแม่ปู่ย่าตายายจะบอกเขาว่ารูปหลวงปู่เป็นสาวกขององค์พระบรมศาสดา พ่อแม่จะบอกลูกว่า รูปนี้ช่วยพ่อแม่มานับครั้งไม่ถ้วน"

หลวงปู่ท่านเจ้าคุณทอง บอกว่า "ใครมีรูปฉัน ถ้ากฏของกรรมยังไม่ให้ผล เทวดาเขาจะช่วย เขาคงเกรงใจฉันบ้างหรอกนะ" กะซิบว่า คนอ่างทองรอ หลวงปู่ท่านสร้างรูปเหมือนท่านมาเป็นสิบ ๆ ปี ครั้งนี้จึงเกิดปรากฏการณ์แปลกที่มีคนมารอบูชาที่หน้าวัดตั้งแต่ตอนเช้ามืด

เนื้อเงิน สร้าง 108 องค์

เนื้อนวะโลหะแก่เงิน สร้าง 1,288 องค์

เนื้อตะกั่ว สร้าง 2,108 องค์

เนื้อทองทิพย์ สร้าง 3,088 องค์

มีโค๊ดและหมายเลขกำกับทุกองค์ ขนาดความสูง 2.7 ซ.ม. กว้าง 1.5 ซ.ม.

 

เหรียญหลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง







ขอบคุณข้อมูลจากพี่เกษม(ดินระเบิด)ด้วยครับ​

 

<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Events2014/227282-5199a8d6017ed.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Events2014/227282-5199a8d6017ed.jpg" border="0" alt=" photo 227282-5199a8d6017ed.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Events2014/IMG_4901.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Events2014/IMG_4901.jpg" border="0" alt=" photo IMG_4901.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/w...68501219842440_975226697_n-1-650x432.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums...620_568501219842440_975226697_n-1-650x432.jpg" border="0" alt=" photo 581620_568501219842440_975226697_n-1-650x432.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Events2014/211-650x431.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Events2014/211-650x431.jpg" border="0" alt=" photo 211-650x431.jpg"/></a>
<a href="http://s1093.photobucket.com/user/wannachai007/media/Events2014/30-650x430.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1093.photobucket.com/albums/i434/wannachai007/Events2014/30-650x430.jpg" border="0" alt=" photo 30-650x430.jpg"/></a>

 

พระผงใบโพธิ์(ชื่่อตามเวบวัดท่าซุงเรียก) หรือ พระใบโพธิ์ (ตามป้ายชื่อที่่บ้านซอยสายลม)








เมื่อต้นปีมานี้เองได้ทราบจากพระผู้ใหญ่ท่านนึงว่าพระใบโพธิ์หรือพระผงใบโพธิ์รุ่นนี้คือ " พระปัจเจกโพธิ์ " คือสร้างเป็นองค์แทนพระปัจเจกพุทธเจ้านั่นเอง สร้างถวายโดยคณะศิษย์กลุ่มนึงประมาณปี 2532 ก่อนงานเททองหล่อพระปัจเจกพระพุทธเจ้าเดือนมีนาคม 2533 จำนวนสร้างไม่ทราบแน่ชัดทราบแต่เพียงว่าสร้างจำนวนไม่มาก ต่อมาอีกระยะนึงได้ยินจากเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องว่ารุ่นนี้จัดสร้างโดยท่านเจ้าของบ้านสายลมท่านเจ้ากรมเสริม

เป็นพระเครื่องรุ่นนึงที่ดูเหมือนไม่ได้รับความสนใจมากนักเพราะขาดประวัติการสร้างและที่มา ในหนังสือสมบัติพ่อให้เล่ม 1 และ 2 ก็ไม่ได้กล่าวถึง อีกทั้งไม่ได้ตั้งชื่อให้ตรงตามจุดประสงค์ด้วยว่าสร้างให้เป็นองค์แทนพระปัจเจกพุทธเจ้า แม้ว่าจำนวนสร้างไม่มากก็ทำให้ยังคงเหลืออยู่จนถึงทุกวันนี้ ราคาจำหน่ายที่ 16 ใบแดงก็บ่งบอกได้ว่าพระรุ่นนี้มีจำหน่ายในสมัยหลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ในราคา 1 ใบแดง หลังหลวงพ่อมรณภาพแล้วขึ้น 16 เท่าก็คือ 16 ใบแดงเท่ากับราคาจำหน่ายพระคำข้าวนั่นเอง

พระผงใบโพธิ์หรือพระใบโพธิ์นี้ถ้าจะเรียกว่า " พระปัจเจกโพธิ์มหาลาภ " ก็น่าจะได้เช่นกันครับ

พระใบโพธิ์มีอยู่ 2 พิมพ์คือพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก รูปพระใบโพธิ์ด้านบนนี้เป็นพิมพ์เล็ก ทั้ง 2 พิมพ์นี้หมดจากวัดไปแล้วแต่พิมพ์เล็กยังคงมีจำหน่ายบูชาอยู่ที่บ้านซอยสายลมเพียงแห่งเดียวและเหลือเฉพาะที่ไม่ปิดทอง

เป็นพระเครื่องสร้างแทนองค์พระปัจเจกพระพุทธเจ้าที่มีวางจำหน่ายที่วัดและที่บ้านสายลมอย่างเป็นทางการครับ









พระใบโพธิ์พิมพ์เล็กถ่ายเทียบขนาดกับพระคำข้าว

 

ปฐมเสียงธรรม


ราวปีพ.ศ.2547 เหล่าศิษยานุศิษย์ของหลวงตามหาบัวได้กราบเรียนขออนุญาต องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ก่อตั้งสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน เพื่อเผยแผ่พระธรรมคำสอนของ พระบรมศาสดาองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่แสดงธรรมโดยพ่อแม่ครูอาจารย์ที่องค์หลวงตามหาบัวเป็นผู้คัดเลือก ที่จะให้นำธรรมเทศนาออกเผยแผ่เป็นการออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับสถานีแม่ข่ายและสถานีลูกข่ายบางแห่ง ออกอากาศโดยไม่มีโฆษณาและไม่เป็นไปเพื่อการพาณิชย์แต่อย่างใด นั่นหมายความว่าแต่ละสถานีต้องมีเงินทุนของตัวเองที่สามารถออกอากาศ โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดได้มาจากเงินบริจาคทำบุญเท่านั้น

สู่พระกริ่งเกษรศีลคุณ
ปฐมเหตุจากการล้มของเสาสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ที่จ.สุรินทร์ ทำให้เกิดการซ่อม

และย้ายเสาสถานีรวมไปถึงเพิ่มความสูงเสาส่งสัญญาณ ซึ่งต้องใช้งบประมาณราวสี่แสนบาท โดยมีลูกศิษย์หลวงตาท่านหนึ่งออกทุนให้ดำเนินการก่อสร้างก่อน แล้วค่อยทอดผ้าป่าไป ปลดหนี้ สถานนีวิทยุ

โครงการสร้าง พระกริ่งเกษรศีลคุณ พระกริ่งในองค์หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์(ภูผาแดง) จึงได้ถือกำเนิดขึ้น เพื่อมอบพระกริ่งให้เป็นที่ระลึก สำหรับเจ้าภาพที่ร่วมทอดผ้าป่า ปลดหนี้ ให้กับสถานีวิทยุในครั้งนี้

ในการนี้ได้เข้ากราบเรียนขออนุญาตองค์หลวงปู่ลี โดยกราบเรียนหลวงปู่ให้ทราบถึงเจตนาในการสร้างพระกริ่งนี้ ซึ่งหลวงปู่ก็ถามรายละเอียดด้วยความเมตตา พร้อมทั้งอนุญาตให้จัดสร้างพระกริ่งเกษรศีลคุณ เนื้อนวะโลหะ ชนวนล้วน จำนวน 227 องค์

สำหรับการสร้างพระกริ่งเกษรศีลคุณนั้น เป็นการออกทุนกันเองในกลุ่ม ซึ่งไม่มีการหักต้นทุนในการสร้างใดๆทั้งสิ้น มีเพียงพระกริ่ง27องค์ที่แจกในกลุ่มผู้สร้าง ส่วนอีก 200 องค์ได้มอบให้กรรมการสถานีวิทยุเสียงธรรมของจ.สุรินทร์เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดส่งให้กับเจ้าภาพสร้างเสาสถานีต่อไป

เงินที่ได้จากการทอดผ้าป่าในส่วนที่เกินจากการปลดหนี้ จะตั้งเป็นกองทุนสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายสถานีเช่นค่าไฟ ค่าบำรุงรักษาเครื่อง ส่งตัวเสาส่งและ ตัวอาคารต่อไป

โดยพระกริ่งทั้ง 227 องค์เป็นเนื้อนวะโลหะ ชนวนล้วนหล่อ ด้วยกรรมวิธีฉีดเหวี่ยง ก้นเข้าไม้แบบโบราณด้วยเงินเหมือนกันทั้งหมด

ผลคุณหรือเม็ดกริ่ง

เดิมใช้เม็ดขี้หล็กไหลของหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ ที่ได้มาเมื่อคราวบูรณะกุฏิท่านเมื่อหลายปีก่อน โดยขี้เหล็กไหลนี้หลวงปู่อ่อนได้นำมาหลอมเป็นพระชินราชและยังมีส่วนที่เหลือ ซึ่งหลวงปู่ได้เก็บไว้ในกุฏิตั้งแต่ปีพ.ศ.สิบกว่าๆจนท่านสิ้น ไม่มีใครเข้าไปแตะต้องกุฏิท่านจนกิ่งไม้โดนลมพายุพัดหักลงมาทับกุฏิหลวงปู่ จึงมีการบูรณะซึ่งในหีบของหลวงปู่อ่อน ก็พบทั้งพระลีลากำแพงศอกเนื้อชิน พระสมเด็จลาภ ผลพูล ทวี พระชินราชขี้เหล็กไหล ผ้ายันต์นกคุ้ม และเม็ดขี้เหล็กไหล โดยเม็ดขี้เหล็กไหลจำนวนหนึ่งได้ถูกขอแบ่งมาอุดก้นพระกริ่งเกษรศีลคุณ แต่เมื่ออุดจริงเสียงพระกริ่งไม่ดังกังวาล จึงเพิ่มเอาเม็ด นวะโลหะเนื้อพระกริ่งอุดลงไปด้วยจึงเป็นพระกริ่งที่มีผลคุณถึง2เม็ด

การหลอมชนวนและเททองในการสถาปนาองค์พระกริ่ง
วันที่8ส.ค.2553 ได้นำชนวนโลหะหล่อ เป็นเนื้อเดี๋ยวกัน ณ โรงหล่อที่จ.นครปฐม โดยได้กราบนิมนต์ หลวงพ่อคูณ สุเมโธ วัดป่าภูทอง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี มาเป็นประธานเท พร้อมกันนั้นได้นิมนต์พระอาจารย์สนอง ชินวัง วัดป่าดอนบ้านเทือม อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี มาร่วมพิธีเททองด้วย ส่วนเรื่องฤกษ์ ได้ใช้ฤกษ์พระพุทธเจ้าหรือฤกษ์สะดวกหลวงพ่อมาถึงและพร้อมตอนไหน ก็เททองตอนนั้นซึ่ม่ได้มีใครดูเวลาเททองที่แน่นอน เมื่อพร้อมแล้ว ได้จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล และอาราธนาพระปริตร

หลังจากนั้นทางหลวงพ่อคูณได้เมตตาเจริญพุทธมนต์ พระปริตรบทต่างๆ เมื่อจบพิธีเจริญพุทธมนต์ หลวงพ่อคูณได้หย่อนทองคำลงสู่เบ้าหลอม และเมตตาเจิมเครื่องฉีดเหวี่ยงพระกริ่ง พร้อมประพรมน้ำพระพุทธมนต์ หลังจากนั้นจึง และเริ่มสวดชยันโตและเททอง ในการนี้หลวงพ่อเมตตานั่งอธิษฐานจิตระหว่างเททองพระกริ่งตั้งแต่องค์แรก จนถึงองค์สุดท้าย หลังจากนั้นท่านได้โปรยข้าวตอกดอกไม้และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ เป็นอันเสร็จพิธี

หมายเหตุ; ก่อนวันเททองทางคณะได้กราบเรียน ท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธิ์ เรื่องการเททองพระกริ่งเกษรศีลคุณ และขอเมตตาท่านพ่อเมือง เมตตาอธิษฐานจิตช่วยในการเททองครั้งนี้ ซึ่งท่านก็ยิ้มรับและถามถึงรายละเอียด เรื่ององค์ประธานในการเท และเวลาในการเท และเมื่อวันเททอง พอถึงถึงเวลาบ่ายสามกว่าๆ(เวลาที่กำหนดเททอง) ท่านพ่อก็หลบโยมขึ้นกุฏิ และลงมาอีกทีห้าโมงกว่าๆ ซึ่งตามปรกติ วันอาทิตย์ท่านพ่อจะอยู่ตลอดบ่ายสามถึงค่ำ

ลำดับการอธิษฐานจิตพระกริ่งเกษรศีลคุณ

วันที่8ก.ย.53ถึง14ต.ค.2553
ได้นำพระกริ่งเกษรศีลคุณเข้าขอเมตตาหลวงปู่ลี กุสลธโร วัดป่าเกษรศีลคุณ(ภูผาแดง) จ.อุดรธานี เมตตาอธิษฐานจิตในกุฏิ

วันที่21ต.ค.2553
ได้นำพระกริ่งเกษรศีลคุณเข้าพิธีพุทธาภิเษกของหลวงปู่สม กวิสสฺโร วัดพระสมาคม บ้านดอนกลอย อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี(วันที่1)

วันที่22ก.ย.2553
-พระกริ่งเกษรศีลคุณได้ติดตามขบวนผ้ายันต์ พระยอดธง เหรียญเม็ดแตงฯลฯ ของหลวงปู่เคน เขมาสโย ไปขึ้นถ้ำสหายฯ ของท่านพระอาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร โดยหลวงปูเคนเป็นผู้น้ำขึ้นไป
-ได้นำพระกริ่งเกษรศีลคุณเข้าพิธีพุทธาภิเษกของหลวงปู่สม กวิสสฺโร วัดพระสมาคม บ้านดอนกลอย อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี(วันที่2)

วันที่23ต.ค.53
ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกผ้ายันต์ พระยอดธง เหรียญเม็ดแตงฯลฯ ของหลวงปู่เคน เขมาสโย ณ วัดสามัคคีบำเพ็ญผล

วันที่24ต.ค.2553
ได้นำพระกริ่งเกษรศีลคุณถวาย พระอาจารย์ชาตรี ปภัสสโร วัดป่าโสภทธรรมมาราม จ .สกลนคร เมตตาอธิษฐานจิต โดยท่านพิจารณาดูอยู่ครู่หนึ่งแล้ว ท่านก็สงบนิ่งอธิษฐานจิตพระราว20นาที หลังจากนั้นท่านก็เมตตาชมหลายเรื่อง และใจความตอนหนึ่งท่านกล่าวว่า พระกริ่งชุดนี้เต็มแล้ว

วันที่29ต.ค.2553
ได้นำพระกริ่งเกษรศีลคุณเข้าขอเมตตา
-หลวงปู่อว้าน เขมโก วัดนาคนิมิต อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร เมตตาอธิษฐานจิต
-หลวงปู่สุธัมม์ ธัมมปาโล วัดเทพกัญญาราม จ.สกลนคร
โดยองค์หลวงปู่เมตตาชักบังสกุลพระกริ่ง อธิษฐานจิต และประพรมน้ำพระพุทธมนต์
-หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป วัดป่าปทีปปุญญาราม จ.สกลนคร เมตตาอธิษฐานจิต
-หลวงปู่เนย สมจิตโต วัดโนนแสนคำ จ.สกลนคร เมตตาอธิษฐานจิต
-หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน วัดป่าโสตถิผล อำเภอพรรณานิคม จ.สกลนคร เมตตาอธิษฐานจิต
โดยเป็นการอธิษฐานจิตพร้อมพระหลวงปู่บุญหนาที่จะแจกในงานกฐินของท่านในวันที่30ต.ค.2553
-หลวงปู่ผาง โกสโล วัดภูหินแตก อ.พรรณานิคม จ.สกลนครเมตตาอธิษฐานจิต

วันที่30ต.ค.2553
ได้นำพระกริ่งเกษรศีลคุณเข้าขอเมตตา
-หลวงพ่อคูณ สุเมโธ วัดป่าภูทอง จ.อุดรธานี เมตตาอธิษฐานจิต
-หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ วัดป่านาคูณ จ.อุดรธานีเมตตาอธิษฐานจิต
หลังจากหลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตแล้วท่านก็เมตตากล่าวว่า
หลวงปู่อนุโมทนาด้วย ถ้าหลวงปู่ลีท่านทำให้แล้ว ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว
-หลวงพ่ออุ่น ฐิตธัมโม วัดป่าแก้วฯ สกลนคร เมตตาอธิษฐานจิต
-หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม วัดป่าสีห์พนม จ.สกลนคร เมตตาอธิษฐานจิต

วันที่31ต.ค.2553
ได้นำพระกริ่งเกษรศีลคุณเข้าขอเมตตา
หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น เมตตาอธิษฐานจิต

วันที่4พ.ย.2553
ได้นำพระกริ่งเกษรศีลคุณเข้าพิธีเจริญพุทธมนต์
โดยพระอาจารย์ทนง ณ พระพุทธบาทเขาสนามแซง จ.ลพบุรี

วันที่5พ.ย.2553
ได้นำพระกริ่งเกษรศีลคุณเข้าขอเมตตา
-หลวงปู่จันทา ถาวโร วัดเขาน้อย จ.พิจิตร เมตตาอธิษฐานจิต
-ครูบาโอภาส โอภาโส วัดจองคำ จ.ลำปาง เมตตาอธิษฐานจิต

วันที่6พ.ย.2553
-ได้นำพระกริ่งเกษรศีลคุณลงปาฏิโมกข์ โดยคณะสงฆ์ วัดศรีมุงเมือง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่
และได้นำพระกริ่งเกษรศีลคุณเข้าขอเมตตา
-หลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก จ.เชียงใหม่
-หลวงพ่อจรัญ อภิชาโต วัดถ้ำพระโบราณ (ถ้ำเหง้า) จ.แม่ฮ่องสอน
-หลวงตาประสิทธิ์ ฉันตาคโม วัดอรัญวิเวก จ.เชียงใหม่
-หลวงปู่ชม ฐานคุตโต วัดป่าท่าสุด จ.เชียงใหม่
-หลวงปู่สังข์ สังข์กิจโจ วัดป่าอาจารย์ตื้อ จ.เชียงใหม่
และได้นำพระกริ่งเกษรศีลคุณเข้าขอเมตตา
-หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ จ.เชียงใหม่เป็นองค์อธิษฐานจิตปิดท้าย

พระคาถาบูชาพระกริ่ง(พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า)

“นโม ภควเต ไภษชฺยคุรุ ไสฑูรฺยปรฺภาราชาย ตถาคตยารฺทเต สมฺยกสมฺพุทฺธาย โอมฺ ไภเษชฺเย สมุรฺคเตสฺวาหฺ”

ปกิณกะส่งท้าย

สูตรทำพระกริ่งได้รับความช่วยเหลือจากคุณสุธันย์ สุนทรเสวี

ท่านพ่อเมือง พลวัฑโฒ วัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์เคยกล่าวไว้ว่า เมื่อจะอาราธนาพระกริ่งไม่ว่าทำอะไรต้องเขย่าพระกริ่งให้ดังเสียก่อน

เนื่องจากพระกริ่งเกษรศีลคุณอุดเม็ดกริ่งด้วยการเข้าไม้แบบโบราณ ไม่ได้มีการเชื่อมโลหะ ดังนั้นการแช่พระกริ่งไว้ในน้ำนานกว่า3ชั่วโมงอาจทำให้น้ำซึมเข้าไปข้างในได้

 

สุดยอดครับ อ.โญ ๑ใน๒๒๗ องค์